ดร.ไกรเสริม โตทับเที่ยง นักการเมืองรุ่นใหม่ หนุนใช้ดิจิทัล-นวัตกรรมยกระดับสังคมไทย
'ดร.ไกรเสริม โตทับเที่ยง'หนึ่งในคนหนุ่มที่มีประสบการณ์หลากสาขา คนหนุ่มที่เติบโตในเมืองไทยเเละไปเล่าเรียนหลากสาขาวิชาในต่างประเทศได้นำความรู้ เเละประสบการณ์มาดำเนินธุรกิจเเละยังถ่ายทอดความคิดความรู้ ให้กับภาคส่วนต่างๆด้วย
'ดร.ไกรเสริม'นั้น เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง/ผู้สร้างสรรค์ธุรกิจนวัตกรรมไทย ดิลิเชียส คัมพานี ลิมิเท็ด เเละผู้ก่อตั้ง /กรรมการผู้จัดการ ไทย ฟู้ด ควอลลิตี้ คัมพานี ลิมิเท็ด รวมทั้งยังเคยทำหน้าที่พี่เลี้ยง ให้ผู้ร่วมอบรม' อะกริฟู้ดเทค โปรแกรม' โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติเเละยังเป็นผู้ก่อตั้ง โครงการนวัตกรรมแห่งชาติ-ไทย ดิลิเชียส โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
“ผมเป็นนักธุรกิจที่ใช้ดิจิทัล นวัตกรรม เทคโนโลยีในการทำงานในบริษัทเเละหน่วยงานที่ผมมีส่วนร่วม วันนี้คนทุกชนชั้นในประเทศนั้นใช้ดิจิทัลในการดำเนินชีวิตกันเป็นส่วนมากเเล้ว สิ่งที่ผมได้อบรมเเละเเนะนำสตาร์ทอัพคือใช้นวัตกรรมเพื่อเเก้ปัญหา
ผมมองว่า หากจะขับเคลื่อนสิ่งที่ผมคิดไว้ให้ดำเนินการได้สำเร็จนั้น การเมือง คือ สิ่งที่ใกล้ตัวคนทุกคนมากที่สุด การจะขับเคลื่อนสิ่งที่ผมมองไว้จะสำเร็จต้องผ่านการเมือง เเละเมื่อพรรคพลังประชารัฐได้จัดตั้งขึ้นเเละมีคนรุ่นใหม่มากมายหลายสาขามาร่วมเเชร์ไอเดียเเละอาสาทำงาน ผมเป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่ไปร่วมกิจกรรมของพรรค พบว่ามันเป็นสิ่งที่ดี เพราะหลายสิ่งที่คิดกันนั้น หากทำสำเร็จเป็นรูปธรรม บ้านเมืองจะดึขึ้น
พรรคนี้เป็นพรรคใหม่ ที่มีคนรุ่นใหม่ เเละมีพื้นที่ใหม่ๆให้เสนอไอเดียเพื่อผลักดันเป็นนโยบายพรรคในการพัฒนาประเทศ วิธีคิดใหม่ๆจะช่วยเเก้ปัญหาเเละพัฒนาประเทศได้ เช่น การใช้นวัตกรรมเเละดิจิทัลเพื่อพัฒนาเเละเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ ทรัพยากรสาขาต่างๆของประเทศ หากยกระดับตรงนี้ได้ ฐานะเเละความเชื่อมั่นของนานาชาติที่มีต่อคนไทยเเละประเทศก็จะเพิ่มขึ้น
การใช้นวัตกรรมนั้น ช่วงที่ผ่านมามีการพูดเสมอ เเต่ไม่มีการขับเคลื่อนจริงจัง ผมมีโมเดลใหม่ๆด้วยการใช้ดิจิทัลเเละเทคโนโลยีที่จะนำเสนอเพื่อช่วยพัฒนาหลากสาขาอุตสาหกรรมเเละบริการในประเทศเพื่อเพิ่มรายได้เพราะวันนี้ปฏิเสธเทคโนโลยีไม่ได้เเล้ว
ที่ผ่านมาผมไม่เคยเกี่ยวข้องกับการเมืองเลย เเต่เมื่อมาเวิร์กช็อปกับคนรุ่นใหม่ของพลังประชารัฐก็มั่นใจว่า พวกเราน่าจะช่วยพัฒนาประเทศร่วมกันได้เเละก้าวข้ามสิ่งขัดเเย้งหลายเรื่องไปได้ ประสบการณ์คนรุ่นใหม่ของพรรคที่มาจากหลากสาขาอาชีพคือความคิดใหม่ที่จะมาร่วมกันสังเคราะห์เสนอเป็นนโยบายพรรคในการนำเสนอสังคมเพื่อขอโอกาสทำงาน
ส่วนจะลงสมัครส.ส.หรือไม่นั้น ขอให้ผู้ใหญ่ในพรรคพิจารณา....
Click Donate Support Web
สัมภาษณ์พิเศษ: เศรษฐกิจพอเพียง ผ่านมุมมอง...วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย
แนวหน้า : โดย...นายยศวัศ เกียรตินันท์
นอกจากประชาชนคนไทยแล้ว ก็ยังมีคนอีกหลายชาติหลายภาษา หรือแม้แต่องค์การสหประชาชาติ...ที่รับรู้และรับทราบปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงได้พระราชทานไว้หลายสิบปี...แต่ว่าการที่ใครจะเข้าใจได้ลึกซึ้งและนำไปปฏิบัติได้แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบุคคล
"หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงได้ พระราชทานให้คนไทย ซึ่งเป็นหลักคิดที่วิเศษมาก เป็นหลักคิดที่เราสามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลายมิติ ตั้งแต่การดำรงชีวิต การใช้ชีวิตของเราแต่ละคน การทำธุรกิจขององค์กรต่างๆ รวมถึงองค์กรภาครัฐ ชุมชน สังคมก็สามารถ เอาหลักคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ได้"
นี่คือ คำอธิบายของ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย คนปัจจุบัน.ผู้ที่อยู่เบื้องหลังมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ และเป็นผู้ยึดหลักคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นหัวใจหลักในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย
นายวิรไท ได้กล่าวถึงหลักแนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 ว่า หลักคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหลักที่ธนาคารกลางจะต้องตระหนักอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าธนาคารกลางมีหน้าที่หลัก คือ'การรักษาเสถียรภาพ'ฉะนั้นการรักษาเสถียรภาพจะต้องมองในทั้ง 3 มิติ ที่สำคัญ และเป็นหัวใจของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
เมื่อเราดูถึงหัวใจของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จะแบ่งออกเป็น 3 เสาหลัก คือ เสาหลักที่ 1 คือ ความสมเหตุ สมผล เสาหลักที่ 2 คือ ความพอประมาณ และเสาหลัก ที่ 3 คือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้เหมาะสม ซึ่งถือเป็นหัวใจหลัก ที่ธนาคารกลางจะต้องใช้ในการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และทั้ง 3 เสาหลักนี้ จะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความ "รู้ลึก รู้จริง และรู้รอบ" และการมี 'คุณธรรม' ที่เหมาะสมด้วย
ดั่งตัวอย่างเช่น เรื่องแรก เรื่องของความสมเหตุสมผล ของการทำหน้าที่ของธนาคารกลาง ซึ่งจะมีผู้คนมาเกี่ยวข้องจำนวนมากในการตัดสินใจ โดยมีผู้ที่ได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์ ในแทบจะทุกๆ เรื่องที่เราตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ก็มีผู้เกี่ยวข้อง คือ ผู้ฝากเงิน ผู้กู้เงิน และเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน ถ้ากรณีสกุลเงินบาทแข็งค่า ผู้นำเข้าก็จะได้ประโยชน์ ในขณะที่ผู้ส่งออก ก็จะรู้สึกไม่ค่อยพอใจ หรืออาจจะเสียประโยชน์บ้าง
ฉะนั้น การทำหน้าที่ของธนาคารกลาง ของธนาคารแห่งประเทศไทย การตัดสินใจในหลายๆ เรื่องจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก และมีผลประโยชน์แตกต่างกันไป ดังนั้นจึงต้องหาจุดสมดุลที่เหมาะสม การคำนึงถึงผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน และคำนึงถึงความสมเหตุสมผล ซึ่งเป็นหน้าที่ เป็นหัวใจอันดับหนึ่งของการทำหน้าที่ของธนาคารกลาง
มาถึงเรื่องที่สอง คือ เรื่องความพอประมาณ การ ทำหน้าที่ของการพอประมาณ เป็นหัวใจสำคัญของการรักษาเสถียรภาพ ทุกเรื่องไม่มีของฟรีทางด้านของเศรษฐศาสตร์ เพราะฉะนั้นเราจะต้องตัดสินใจโดยคำนึงถึงผลข้างเคียงต่างๆที่เกิดขึ้น ป้องกันไม่ให้ระบบเศรษฐกิจมีการพัฒนาแบบสุดโต่ง เรามีบทเรียนจากวิกฤติในรอบที่ผ่านมา เวลาที่เศรษฐกิจ ขยายตัวเร็ว ราคาสินทรัพย์ปรับขึ้นเร็ว ในระยะสั้นคนอาจจะชอบ เพราะทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดี
แต่เรื่องเหล่านี้อาจจะสร้างผลข้างเคียงในระยะยาว ฉะนั้นหลักคิดเรื่องความพอประมาณ เป็นหลักคิดสำคัญ ที่ต้องนำมาใช้ เพื่อรักษาเสถียรภาพ ซึ่งต้องชั่งน้ำหนักระหว่างผลประโยชน์ในปัจจุบัน กับผลประโยชน์ในอนาคต ทำให้หลักคิดเรื่องความพอประมาณเป็นหลักสำคัญมาก
ส่วนหลักที่สาม คือ เรื่องการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยในภาวะที่ตลาดเงินตลาดทุนโลกมีความเชื่อมโยงกันสูง มีความผันผวนสูง ทำให้การสร้างภูมิคุ้มกันให้กับระบบเศรษฐกิจไทย เป็นหัวใจสำคัญของการทำหน้าที่ของธนาคารกลาง และการสร้างภูมิคุ้มกันสามารถทำได้ในหลายมิติ เช่น ต้องดูให้แน่ใจว่ามีทุนสำรองระหว่างประเทศเพียงพอ สามารถรองรับความผันผวนที่เกิดขึ้นจากตลาดเงินตลาดทุน หรือการเคลื่อนย้ายของเงินทุนภายนอกประเทศได้ เวลาที่เกิดความเคลื่อนไหวของเงินทุน ก็จะได้ไม่เกิดผลกระทบกับคนในประเทศ หรือธุรกิจในประเทศอย่างรุนแรง
ด้านของระบบสถาบันการเงิน ก็จะต้องแน่ใจว่า มีกันชนที่ดี มีทุนสำรองอย่างเพียงพอ มีกฎเกณฑ์การกำกับดูแลที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างของการสร้างภูมิคุ้มกัน โดย 3 เสาหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในเรื่องความสมเหตุสมผล ความพอประมาณ และการสร้างภูมิคุ้มกัน อาจจะเรียกว่าเป็นหัวใจของการทำหน้าที่ของ ธนาคารกลาง ซึ่งทั้งหมดต้องตั้งอยู่บนฐานของความรู้ ที่ต้องรู้ลึก รู้จริง รู้รอบ รู้ทัน เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง และตั้งอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม
"หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นหลักคิดที่วิเศษมาก และสามารถประยุกต์ใช้ได้กับวิถีชีวิตของทุกคน การทำงานของแต่ละองค์กร รวมถึงการบริหารจัดการในด้านภาพใหญ่ของประเทศด้วย ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมกับหลักการทรงงาน ตัวอย่างโครงการพระราชดำริที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ได้ทรงดำเนินการตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่าน เป็นตัวอย่างที่จับต้องได้ เป็นตัวอย่าง ที่หลายประเทศได้มาศึกษา เป็นตัวอย่างที่จะสามารถช่วยกันขับเคลื่อนเพื่อไปถึงเป้าหมายของการพัฒนา อย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง"นายวิรไท กล่าวสรุป
'หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงได้พระราชทานให้คนไทย ซึ่งเป็นหลักคิดที่วิเศษมาก เป็นหลักคิดที่เราสามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลายมิติ ตั้งแต่การดำรงชีวิต การใช้ชีวิตของเราแต่ละคน การทำธุรกิจขององค์กรต่างๆ รวมถึงองค์กรภาครัฐ ชุมชน สังคมก็สามารถเอาหลักคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ได้'
คุยนอกกรอบ: 'สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ' งานวิจัยยุค 4.0 เข้าถึงง่าย เข้าใจง่าย ใช้ประโยชน์ได้จริง
ไทยโพสต์ : นับแต่ปี 2536 ก็ก้าวมาเป็นปีที่ 25 แล้วสำหรับ 'สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)' ซึ่งเป็นองค์กร ภาครัฐที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อดำเนินการภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี มุ่งเน้นสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ มีผลงานที่เป็นประโยชน์ และเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมี’สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ’เป็นผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
ย้อนไปราว 5 ปีก่อน เป็นจุดเริ่มต้นที่ 'สุทธิพันธ์' ได้เข้ามารับไม้ต่อมาจาก 'สวัสดิ์ ตันตระรัตน์'ทำหน้าที่สำคัญเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ "โจทย์ใหญ่ที่สำคัญ เมื่อผมมานั่งเก้าอี้ตรงนี้ คือ จะต้องให้ความสำคัญในการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ เพราะผลงานวิจัยของ สกว.มีเยอะมาก ซึ่งจะต้องดึงความรู้จากงานวิจัยที่สั่งสมมา ตลอดจนทรัพย์สินทางปัญญา นวัตกรรม องค์ความรู้ต่างๆ มาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยเราจะต้องให้ความสำคัญกับงานวิจัยในทุกด้าน อีกเป้าหมายหนึ่งที่สำคัญสำหรับผมในการดูแล สกว.คือ การบูรณาการองค์ความรู้จากสาขาวิชาต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงกับการใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศทุกระดับ ไปจนถึงระดับชุมชนและท้องถิ่น พร้อมจับมือภาคีต่างๆ เพื่อการวิจัยที่รอบด้าน"
เวลาผ่านเข้าปีที่ 5 ในการนำทัพ สกว. ก็มีผลงานวิจัยเข้าตาและเป็นที่กล่าวถึงอย่างกว้างขวาง นั่นอาจเป็นเพราะนี่คือการวางคนได้ถูกที่ ถูกเวลา รวมถึงรักงานวิจัยและคลุกคลีกับงานวิจัยมานับตั้ง แต่เรียนจบแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น 2524 จากนั้นบิน ไปศึกษาต่อเมืองผู้ดีได้ดีกรี Diploma in Clinical Neuro logy จาก Institute of Neuro logy and National Hospital For Nervous Diseases, University of London ประ เทศอังกฤษ 2531 และรับ อนุมัติบัตรแสดงความรู้ ความชำนาญในการประ กอบอาชีพเวชกรรม สาขาประสาทวิทยา จากแพทยสภา ในปี 2539
นอกจากนี้ สกว.ได้ให้ การสนับสนุนทุนวิจัยมาต่อเนื่อง 25 ปี จากนี้ไปจะดำ เนินการเพื่อพัฒนาคนและนักวิจัย สามารถสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรมให้มากพอ โดยเน้นในเรื่องความคิดสร้างสรรค์และการเพิ่มมูลค่า ถือเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทยไปสู่ยุค 4.0 ล่าสุดเพิ่งเปิดตัว 3 แอปพลิเคชัน ได้แก่ "สกว." "แปลงร่าง" และ "สาระ" หวังเป็นช่องทางสื่อสารและเผยแพร่องค์ความรู้จากงานวิจัยของ สกว.ให้เกิดการใช้ประโยชน์แก่สาธารณะและบุคคลทั่วไป
สุทธิพันธ์กล่าวปิดท้ายว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่คาดหวังว่า จะอำนวยความสะดวกพร้อมหนุนเสริมพันธกิจหลักของเราในด้านต่างๆ ได้แก่ สนับสนุนทุนวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างองค์ความรู้ นวัตกรรม นโยบาย ทรัพย์สินทางปัญญา สนับสนุนการสร้าง การพัฒนานักวิจัยและองค์กรวิจัย สนับสนุนการพัฒนาระบบวิจัยของประเทศ สนับสนุนการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและเข้าถึงการวิจัยในยุค 4.0 นี้อย่างแท้จริง.
อาทิตย์เอกเขนก: 'ยศสรัล แต้มคงคา' ภารกิจเจนฯ 3 ไวไว ในสมรภูมิตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
ไทยโพสต์ : การสานต่อธุรกิจครอบครัวในยามที่การแข่งขันทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปี บวกกับปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ คงสร้างความท้าทายให้กับผู้บริหารยุคใหม่ไม่ใช่น้อย
ในสัปดาห์นี้ จะฉายภาพการทำงานของ 'ยศสรัล แต้มคงคา'ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ทายาทรุ่น 3 ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ 'ไวไว'
หากนับรวมการเข้ามาดูแลกิจการครอบครัว ก็คงเป็นระยะเวลา 7 ปี แต่ก่อนหน้า'ยศสรัล' ระบุว่า ทางครอบครัวอยากให้ทำงานเพื่อหาประสบการณ์นอกบ้านก่อน จึงตัดสินใจไปเรียนรู้เรื่องของกลยุทธ์การตลาดและวิธีการใช้สื่อรูปแบบต่างๆ
แต่หลังจากเข้ามาเป็นหนึ่งในทรัพยากรบุคคลของแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในชื่อ'ไวไว'ก็ไม่ได้หรูหราอย่างที่ใครหลายคนคิด เพียงเพราะมีดีเอ็นเอความเป็นเจ้าของสืบทอดมา ต้องเริ่มด้วยการฝึกงานทั่วไปหลายหน้าที่ เพื่อให้เรียนรู้กระกวนการทำงานเชิงลึกตั้งแต่ต้น
"ในความจริงแล้ว กิจการของไวไวเป็นธุรกิจหลายครอบครัว แบ่งหน้าที่กันตามความถนัดของแต่ละบ้าน การทำงานจึงต้องเน้นปรับตัวเข้าหาคนอื่นให้ได้ เพราะไม่ใช่แค่ธุรกิจเพียงครอบครัวเดียว หากถามว่าแผนระยะยาวมีอะไรเป็นพิเศษไหม ผมคงเน้นเรื่องการคงแบรนด์ไวไวให้เป็นสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในใจคนไทย แม้ว่าเราจะอยู่ลำดับ 2 ของตลาด แต่ก็ต้องเป็นเบอร์ 2 อย่างแข็งแกร่ง รวมถึงการสร้างความพึงพอใจและผลกำไรทางธุรกิจ ส่วนการขยายไปสู่ธุรกิจอื่น ต้องมองหาโอกาสอีกครั้ง อาจมีผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงขึ้นในอนาคต"
สำหรับ ความท้าทายของผู้บริหารหนุ่ม เขาเล่าว่า หลังจากที่เข้ามาทำงาน คงเป็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีช่องทางการรับรู้ใหม่ มากขึ้น ทำให้ลูกค้าจะรู้ข้อมูลมาก เลือกมากกว่าในอดีต ซึ่งหากจะมานั่งมองแบบเดิมคิดแค่ว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ใครก็ทำได้ ใครก็อยากซื้อ คงไม่ใช่อีกแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ประกอบการคนไทยที่เข้ามาเล่นทำให้สินค้าหลากหลาย และเกิดทางเลือกมากขึ้นเท่านั้น แต่แบรนด์ต่างประเทศก็มากขึ้น ต้องหากลยุทธ์มาแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ
หากถามว่า ผู้บริโภคในยุคนี้มองหาอะไรในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สามารถ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ผู้บริโภคระดับบนมีกำลังซื้อ ต้องการความแปลกใหม่ของสินค้า 2.ผู้บริโภคระดับแมสยังคงมองถึงเรื่องความคุ้มค่า ซึ่งตอนนี้ในหนึ่งผลิตภัณฑ์ของไวไวยังตอบโจทย์ทั้งสองกลุ่มควบคู่กันไป ไม่ได้มีตัวสินค้าไฮเอนต์และราคาแพงมาก มาแยกเซ็กเมนต์อย่างชัดเจน
"หัวใจของการที่ทำให้แบรนด์ยังติดตลาดและผู้บริโภคยังเลือกซื้อ ด้วยความที่เป็นสินค้าบริโภค จึงตองเน้นคุณภาพของสินค้า การวิจัย พัฒนาสินค้า การทำตลาด รวมถึงสื่อโฆษณา ควบคู่กับการทำโปรโมชั่น ภาพรวมตลาด สักประมาณ 5 ปีมานี้ สินค้าพรีเมียมของต่างประเทศที่มีกระแสจากออนไลน์เข้ามามากขึ้น ในอดีตจากแค่มีรสชาติต้มยำกุ้ง รสหมูสับ ก็ขายกันไป หรือในแต่ละปีก็ออกรสชาติใหม่ แต่ที่เปลี่ยนชัดเจนคงเป็นการใช้พรีเซนเตอร์กันมากขึ้น
ต้องยอมรับว่า ตลาดไม่ได้โตเหมือนก่อน ที่ทุกแบรนด์เติบโตไปด้วยกัน ตอนนี้ต้องมีแบรนด์ไหนตกไปบ้าง แต่เราก็ต้องรักษามาร์เก็ตแชร์ให้ได้ นั่นเป็นความท้าทายของเรา"
ส่วนไอเดียการทำงาน หนุ่มโอม บอกว่าตนเองไม่ชอบนั่งคิดอยู่ในออฟฟิศ แต่เลือกจะออกไปพบปะผู้คนมากกว่า พอได้พูดคุยด้วยแล้ว ก็จะดูแนวความคิดว่าเป็นอย่างไร ดูว่าคนอื่นคิดอย่างไร หรือบางทีก็หาเวลาออกมาดูตลาดและร้านค้าด้วยตนเอง ซึ่งตอนทำงานได้ 3-4 ปีแรกจะลงพื้นที่บ่อย เพื่อให้ตกผลึกทางความคิด ส่วนมากไอเดียหรือความคิดการทำตลาดก็มาจากร้านค้าและลูกค้า
"ตอนนี้มีพนักงานในสำนักงาน 100 คน แต่หากรวมพีทีที่กระจายตัวอยู่ในจังหวัดต่างๆ ก็คงกว่า 300-400 คน คุณพ่อมักจะสอนผมเรื่องของการดูแลบุคลากรด้วยวิธีเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ใช่เป็นเจ้าของแล้วทำไรก็ได้ ควรอ่อนน้อมถ่อมตน และรับฟังผู้อื่นอยู่เสมอ ไม่ควรคิดว่าใครเก่งที่สุดคนเดียว ยังไงหลายคนก็ดีกว่าคนเดียวอยู่แล้ว แต่คติประจำใจของผมคงเป็นอะไรที่เรียบง่ายอย่างทำวันนี้ให้ดีกว่าเมื่อวาน" ยศสรัลกล่าวปิดท้าย.
อาทิตย์เอกเขนก: คติประจำใจ.. สมศักดิ์ ห่มม่วง ไม่ชอบให้ใครทำอะไรเรา ก็อย่าไปทำเขา
ไทยโพสต์ : 'อาทิตย์เอกเขนก' สัปดาห์นี้ จะพาไปรู้จักกับ'สมศักดิ์ ห่มม่วง' รองปลัดกระทรวงคมนาคมที่ดูแลงานด้านขนส่ง ที่ก่อนหน้านี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และเพิ่งจะหมดวาระไปเมื่อไม่นานมานี้
วันนี้ ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มานั่งพูดคุยถึงที่มาที่ไปตั้งแต่เริ่มก้าวเข้ามาทำงานในกระทรวงคมนาคม จะผ่านร้อนผ่านหนาวอะไรมาบ้าง
"ผมเข้ามารับราชการครั้งแรกที่กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่ 17 กุมภาพันธ์ 2525 จนถึง 1 กุมภาพันธ์ 2544 ตำแหน่งสุดท้ายที่อยู่กระทรวงคือ หัวหน้ากลุ่มแผนงานโครงการระดับ 8 ในสมัยนั้น แล้วก็ย้ายไปสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมพาณิชยนาวี อยู่ได้ 1 ปีก็ถูกควบรวมกับกรมเจ้าท่า พอมีการปฏิรูประบบราชการ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2545 ก็ได้ไปอยู่กรมเจ้าท่าโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นก็อยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักระดับ 9 ก็ถือว่าอยู่นาน
จากนั้นก็ไปเป็นผู้อำนวยการสำนักภูมิภาคที่ 7 ที่ดูแลในภาคอีสานทั้ง 20 จังหวัด จากนั้นก็มาดูแลสำนักเจ้าท่าที่ 2 ดูแลภาคกลาง พอหลังจากนั้นมาปี 2556-2557 มาเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจด้านการขนส่งทางน้ำผู้ทรงคุณวุฒิด้านระดับ 10 ของกระทรวง จากนั้นก็มาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคมประมาณปีกว่าๆ 14 พฤศจิการยน 2559 ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงคมนาคมที่ดูแลด้านการขนส่งจนถึงปัจจุบัน"
สำหรับ หน่วยงานที่กำกับดูแลมี กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมเจ้าท่า (จท.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นอกจากดูในส่วนของกลุ่มภารกิจด้านการขนส่งทั้งหมดแล้ว โครงการที่ติดตามอย่างใกล้ชิดคือ โครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการท่าเรือขั้นที่ 3 โครงการจัดหารถเมล์ NGV 489 คัน ทำยังไงจะให้ได้รถใหม่โดยเร็ว
อีกเรื่องคือ การปฏิรูปรถโดยสารในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งต้องยอมรับว่าโครงการนี้ดำเนินการมาหลายอธิบดีแล้ว แต่ละท่านก็ทราบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่มีผลกระทบค่อนข้างกว้าง ซึ่งนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบกคนปัจจุบัน ก็เข้ามาดำเนินการอย่างจริงจัง ส่วนตนในฐานะรองปลัดที่กำกับดูแล กับในฐานะประธานขนส่งทางบกกลาง ก็ลงไปช่วยผลักดันให้เห็นผลเป็นรูปธรรม เพราะมันจะมีผลกระทบการให้บริการขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ และต่อตัวประชาชนที่ใช้บริการด้วย
รองปลัดฯ ชี้แจงต่อกรณีที่มีเสียงบ่นเรื่องการเปลี่ยนเส้นทางของรถเมล์ ที่มีการเพิ่มตัวอักษรภาษาอังกฤษพร้อมกับตัวเลขนั้น มีวัตถุประสงค์คือ ปฏิรูปองค์กรในการกำกับดูแล จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบยกเลิกมติ ครม.เดิมเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2526 ที่ระบุให้ ขสมก.เป็นผู้ประกอบการเดินรถเพียงรายเดียว และรถร่วมบริการเอกชนจะต้องทำสัญญาเข้าร่วมเดินรถกับ ขสมก.
หลังจากที่มติ ครม.เดิมดังกล่าวยกเลิกไปแล้ว รถร่วม ขสมก.จะต้องมาขอใบอนุญาตกับกรมการขนส่งทางบก นั่นหมายความว่า ขสมก.จะเปรียบเหมือนกับผู้ประกอบการรถร่วมรายอื่นๆ ที่จะต้องมาขอใบอนุญาตเส้นทางเดินรถกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งจะทำให้เกิดความชัดเจนในบทบาทและแนวทางกำกับดูแลการเดินรถโดยสารในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โดยกำหนดให้กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้กำกับดูแล (Regulator) แต่เพียงผู้เดียว และให้ ขสมก.เป็นเพียงผู้ประกอบการเดินรถ (Operator) รายหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันด้านการให้บริการเดินรถประจำทางในกรุงเทพมหานครอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่เหมือนที่ผ่านมาที่ ขสมก.ให้อนุญาตเส้นทางเดินรถกับรถร่วม จึงทำให้เกิดปัญหาทับซ้อนเส้นทางเหมือนทุกวันนี้ จึงเป็นที่มาที่ไปของการปฏิรูป
ถามว่า ทำไมต้องทำแบบนี้ ท่านรองปลัดฯ เล่าว่า "เราก็รู้ว่าเส้นทางมันกำหนดมานั้นอยู่คนละทิศละทาง ประเด็นปัญหาคือ บางเส้นทางที่ขาดทุน คุณก็มาขอยื่นขอต่อสัญญา ทำให้เส้นทางเกิดการทับกันไปทับกันมา และปัจจุบันพบว่าเส้นทางค่อนข้างวิ่งระยะไกล เรื่องนี้ศึกษากันมานานมาก ตั้งแต่สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในขณะที่กรมการขนส่งทางบกก็ทำการศึกษาเช่นกัน จากเดิมมี 202 เส้นทาง ศึกษาใหม่จะเป็น 269 เส้นทาง"
รองปลัดฯ เล่าอีกว่า หลังจากนี้จะเห็นการให้บริการรถขนส่งสาธารณะเข้าถึงพื้นที่ได้มากขึ้น ครอบคลุม และไม่มีการทับซ้อนกันเหมือนที่ผ่านมา นี่ก็คือการปฏิรูปเส้นทาง ส่วนการปฏิรูปรถร่วม ปัจจุบันไม่ก่อให้เกิดการแข่งขัน เพราะอยู่ภายใต้การดูแลของ ขสมก.และต้องจ่ายค่ารถร่วมให้เขาอีก มันไม่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพ จึงต้องมีการปฏิรูป ต่อไปนี้ทุกคนต้องมาขอ เส้นทางกับกรมการขนส่งทางบก ทุกรายเท่าเทียมกันหมด จะได้มีการแข่งขัน
"ต่อไปนี้สิ่งที่จะเห็นคือ 1 เส้นทาง 1 ผู้ประกอบการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคือ ยกตัวอย่างเช่น สาย 8 แฮปปี้แลนด์-สะพานพุทธ มี 4 สัญญา ไม่ใช่เจ้าของเดียว บอกได้เลยว่าตราบใดที่คุณยังมีหลายเจ้าของ เราก็จะให้สัญญาชั่วคราวคือ 2 ปี ใครทำดีที่สุดก็ได้ไป"
สำหรับ การดูแลผู้ใต้บังคับบัญชานั้น รองปลัดฯ บอกว่า ต้องมองว่าเขาต้องอยู่ได้ ถ้าเราไม่อยู่ ดังนั้นเมื่อเราอยู่ เราจะสอนให้เขาคิดเองได้ เมื่อก่อนเป็นระดับหัวหน้า งานจะเคร่งเครียดมากกว่านี้ ตอนนี้ก็ผ่อนคลายแล้ว เรามองว่าเป็นผู้ใหญ่ เขาเป็นลูกน้อง จะไปทำอะไรก็ไม่ได้ ต้องคิดถึงเวลาใครมาทำอะไรเรา เราก็ไม่อยากให้เขามาทำ โดยส่วนใหญ่คนจะมองว่าผมเป็นคนใจดี แต่เวลาเรื่องงาน ผมจะจริงจัง ข้อนี้คนใกล้ชิดจะรู้ดี ก็แยกเป็นเรื่องๆ ไป จึงเป็นที่มาของคติประจำใจคือ "อะไรที่คุณไม่อยากให้ใครทำกับคุณ คุณก็อย่าไปทำกับเขา"
หลังจากที่คุยเรื่องเครียดๆ กันมาพอสมควร เลยให้รองปลัดฯ เล่าถึงชีวิตประจำวันที่นอกเหนือจากการทำงานว่าทำอะไรบ้าง
"ทุกวันนี้ทำแต่งาน เข้ากระทรวง 08.30 น. ไม่เกิน 9 โมง ออกจากกระทรวง 20.00 น. เหตุผลคือ หลัง 18.00 น. แล้วไม่มีใครมายุ่ง ทำให้มีสมาธิ สามารถเคลียร์งานได้ ตอนที่เป็นผู้ตรวจฯ จะลงพื้นที่เยอะทุกสัปดาห์ พอมาเป็นรองปลัดฯ ต้องดูงานด้านเอกสาร ต้องเซ็นเอกสาร มีแต่เรื่องประชุมทั้งในกระทรวงและนอกกระทรวง ในแต่ละวันเราจะเคลียร์งานให้เสร็จภายในวันนั้น จะไม่เหลือค้าง งานจะไม่ให้ติดอยู่บนโต๊ะ"
เมื่อถามว่าชอบเล่นกีฬาอะไร ท่านรองปลัดฯ รีบตอบว่า "นี่คือข้อเสียของผม ที่ผ่านมาไม่ได้ออกกำลังกายเลย ถือเป็นความเสียนิสัยด้วย ก่อนหน้านี้แม้จะอยู่ต่างจังหวัดแถวอีสาน จะอยู่ที่ทำงานจนถึง 4 ทุ่ม กว่าจะเดินถึงที่พัก ได้นอนก็เที่ยงคืน ตื่นมาก็เดินไปทำงาน เพราะอยู่ติดแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย อากาศจะเย็นสบาย
ผมไม่มีลูก ตอนนี้ ก็อาศัยมาพักอยู่ใกล้ๆ กระทรวงคนเดียว ไม่ได้อยู่กับภรรยา เรียกได้ว่าทำงานทุกวัน หากมีเวลาว่างก็จะกลับไปเยี่ยมแม่ที่จังหวัดสิงห์บุรี ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ถ้าไม่มีงานก็จะตื่นสายหน่อย ในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่อ่านหนังสือก็ดูทีวี แต่ทุกวันนี้ มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มา แอปพลิเคชันเยอะแยะเต็มไปหมด วันๆ ก็ต้องคอยติดตามว่ารัฐมนตรีจะสั่งงานอะไร คือเราต้องออนไลน์ตลอด"
ถึงแม้ท่านจะบอกว่า เป็นคนจริงจัง ซีเรียส (เรื่องงาน) แต่จากการนั่งสนทนา ทำให้รู้ว่าเป็นผู้บริหารอีกคนที่อารมณ์ดี….
Government-SE Matching Day สวส. จัดกิจกรรมรัฐรวมพลังจับคู่ธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน ดึงวิสาหกิจเพื่อสังคมร่วมออกบูธกว่า 15 องค์กร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) จัดกิจกรรม Government...
สภาพัฒ ฯ เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 2.2 เร่งขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ 1.8 เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 2565 และแนวโน้มปี 2565 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ...
สศช.GDP ไตรมาส 4 ปี 64 ขยายตัว 1.9% รวมทั้งปี 64 ขยายตัว 1.6% คาดปี 65 ขยายตัว 3.5-4.5% สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( GDP) ไตรมาสที่สี่ ทั้งปี 2564 และแนวโน้มปี 2565...
ฟิทช์ เรทติ้งส์: เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวได้ดีท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ฟิทช์ เรทติ้งส์ - กรุงเทพฯ - 18 ตุลาคม 2565: ในงานสัมมนาประจำปีของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ที่จัดขึ้นในวันนี้...
' มองเศรษฐกิจโลก สะท้อนเศรษฐกิจไทย ' ในการจัดเสวนา 'Better Thailand Open Dialogue ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม ’ ผมมีโอกาสร่วมเสวนาหัวข้อ ' มองเศรษฐกิจโลก สะท้อนเศรษฐกิจไทย '...
นายกรัฐมนตรี ปลื้ม FANC มอบใบเซอทิฟิเขท หลังเห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาล แก้ยาเสพติดแนวใหม่ รับปาก หนุนแก้อำนาจ ป.ป.ส.เป็นพนักงานสอบสวน-เพิ่มเครื่องมือ หวังยึดทรัพย์ตัดวงจรยา ชม ก.ยุติธรรม...
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดการติดตามผลการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด หวังยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด พร้อมรับใบเซอทิฟิเขท จากกลุ่มเจ้าหน้าที่ประสานงานยาเสพติดและอาชญากรรมต่างประเทศ หรือ FANC...
นายกฯ ติดตามงาน 'ขจัดความยากจน-พัฒนาคนทุกช่วงวัย' กำชับเร่งแก้ไขปัญหาความยากจนแบบ 'พุ่งเป้า' ตรงจุด ทันเวลา และเป็นรูปธรรม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามการดำเนินงาน...
บุกค้น 2 ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากออนไลน์รายใหญ่ มีสลากขายเกินราคา 6.7 ล้านฉบับ เร่งขยายผล ตัดสิทธิ ยกเลิกโควตาตัวแทนจำหน่าย-ผู้มีสิทธิซื้อจอง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ...
DGA เร่งยกระดับนวัตกรรมภาครัฐโกอินเตอร์ อวดโฉมงานวิจัยสู่เวทีสากลผ่านงาน DGTi-Con 2022 สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภาครัฐ DGTI-Con 2022...
ตัวแปลงสกุลเงินนี้ควบคุมดูแลระบบทำงานโดย Investing.com ประเทศไทย |
0 MTC มาตามนัด Q2/66 พอร์ตสินเชื่อแตะ 132,851 ลบ.เดินหน้าพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนเคียงคู่สังคมไทย เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อัตราดอกเบี้ย 4.25-4.80% คาดเสนอขายวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ บมจ.เมืองไทย...
ALT โชว์ไตรมาส 2/66 กวาดรายได้ 396 ลบ . งานโซลาร์รูฟท็อป - บริการโครงข่ายรุ่งแนวโน้มโตต่อเนื่อง เอแอลที เทเลคอม โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 กวาดรายได้ 396 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 56.6%...
PSP พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ บิ๊กน้ำมันหล่อลื่น จ่อเข้าเทรด SET จับตา 'พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ (PSP)'เจ้าตลาดเบอร์หนึ่งธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นครบวงจรของไทยและอาเซียน เตรียมขายไอพีโอเข้าเทรด SET...
GSB ต้อนรับประธานกรรมการธนาคารออมสินคนใหม่ นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ในนามคณะกรรมการธนาคารออมสิน และนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร...
สนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร พร้อมด้วยนายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (...
‘ ณัฐพล ’ ปลัดอุตฯ บูมเศรษฐกิจภาคใต้ฝั่งอันดามัน ผุดกระบี่โมเดล ยกระดับ 3 มิติอุตสาหกรรม สู่การกระจายรายได้เศรษฐกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืน ดร . ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม...
บอร์ด บสย. แต่งตั้ง ' เอด วิบูลย์เจริญ ' ประธาน บสย. คนใหม่ คณะกรรมการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มีมติแต่งตั้ง ‘เอด วิบูลย์เจริญ’ดำรงตำแหน่ง ประธาน บสย. มีผลตั้งแต่วันที่ 14...
ทีซีซีเทค ปลื้ม Enjoy to the Max 2 บรรลุตามเป้า ! ต่อยอดการยกระดับดิจิทัลขั้นสูงในองค์กร สิ้นสุดพิธีมอบรางวัลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข สำหรับ “TCCtech X M365 Star Icon Stage” ภายใต้โครงการ Enjoy to...
รมว.เฮ้ง ส่ง ' โฆษก ' เยี่ยมกลุ่มบายศรีบึงกาฬ สร้างอาชีพเสริม รับนักท่องเที่ยวสายมู นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน...
ธพว . ร่วมพิธีทอดผ้าป่า กระทรวงการคลัง ณ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ( ธพว .) หรือ SME D Bank โดย นายศักดิ์สิทธิ์ ราชรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส...
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด