ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้เหวี่ยงลงเช่นเดียวกับตปท.,เกาะติดคำวินิจฉัยศาลรธน.
นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเหวี่ยงตัวลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันถ้วนหน้าตามดาวโจนส์ร่วงแรง อันเนื่องมาจากแรงเทขายหุ้นในกลุ่มอินเตอร์เน็ต
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเรายังต้องเผชิญกับปัจจัยการเมืองในประเทศ วันนี้ก็ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรีกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เที่ยงวันนี้ และในวันพรุ่งนี้(8 พ.ค.)คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)จะพิจารณาผลสรุปการสอบสวนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตามข้อกล่าวหาละเลยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
พร้อมให้แนวรับ 1,390-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(6 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,401.02 จุด ลดลง 129.53 จุด (-0.78%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,867.72 จุด ลดลง 16.94 จุด(-0.90%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,080.76 จุด ลดลง 57.30 จุด(-1.38%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 161.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 71.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.67 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.75 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.26 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.94 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(6 พ.ค.) ที่ 1,404.01 จุด ลดลง 17.47 จุด(-1.23%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 388.52 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 พ.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(6 พ.ค.)ที่ 99.5 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(6 พ.ค.)ที่ 5.87 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.35/36 ตลาดจับตาศาลรธน.วินิจฉัยสถานภาพนายกฯคดีย้าย"ถวิล"
- ศาลรธน.นัดชี้ชะตา"ยิ่งลักษณ์"คดีโยกย้าย"ถวิล"เที่ยงวันนี้ นายกฯ เบิกความสู้ยันไม่เคยแทรกแซง ทำเพื่อเครือญาติ เผยหากสิ้นสภาพทั้งคณะ นายกฯและรมต.หลุดเก้าอี้แค่ 10 ตำแหน่ง ป.ป.ช.จ่อชี้มูลคดีจำนำข้าว พรุ่งนี้
- กกร.หวังการเมืองยุติภายใน 6 เดือนฟื้นความเชื่อมั่น หนุนเศรษฐกิจปีนี้โต 2.5-3.0% ระบุการลงทุนชะลอจากงบประมาณภาครัฐล่าช้า เอสเอ็มอีกระทบหนัก ขณะบีโอไอเผยยอดขอต่ำเป้า เหลือ 7 แสนล้าน นักลงทุนรอประเมินสถานการณ์การเมือง
- ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ว่าที่ประชุม กกร.มีมติที่จะเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาต่ออายุภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปัจจุบันอยู่ที่ 7% และจะหมดอายุในวันที่ 30 ก.ย.นี้ ออกไปอีก 2 ปี เพราะหากไม่มีการต่ออายุภาษีมูลค่าเพิ่มจะปรับขึ้นเป็น 10% ทันที
- "แบงก์ชาติ"เร่งจบแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้าย"เฟสแรก"ในไตรมาส 3 นี้ เปิดช่องบริษัทจดทะเบียนออกไปลงทุน ต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง ยอมรับการเมืองในประเทศป่วนหนัก ทำภาคธุรกิจไปลงทุนต่างประเทศวูบ
*หุ้นเด่นวันนี้
- AMATA(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 17.50 บาท ประเมินกำไรสุทธิใน 1Q57 ไว้ที่ 560 ล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น 647% QoQ และ 327% YoY ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงทางการเมืองอาจกระทบไม่มาก เนื่องการเพิ่มขนาดการลงทุนต่อเนื่องในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมkของผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นทำให้ถอนการลงทุนและย้ายฐานการผลิตไปจากไทยค่อนข้างลำบาก นี้ปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะต่อไปมองที่การตั้งกองทุน REIT และการนำ บริษัท อมตะวีเอ็น (เวียดนาม)เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯใน 2H57
- GFPT (เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 17.60 บาท มองราคาหุ้นยังไม่สะท้อนพื้นฐานที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งหลังประสบปัญหา Oversupply ในปี 55 ประเมินกำไรสุทธิในปี 57 และ 58 ขยายตัวราว 18% และ 12% YoY ตามลำดับ ต่อเนื่องจากที่โต 550% YoY ในปี 56 อัตรากำไรขั้นต้นขยับขึ้นมาที่ 15% และ 15.25% ตามลำดับ มองการทำ Joint Venture กับลูกค้าหลัก เช่น McKey หรือ Nichirei จะทำให้การขยายตัวในอนาคตมีความมั่นคงมากขึ้น
- PTT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 347 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q14 เพิ่ม 71% Q-Q ตามผลกำไรของ PTTEP ที่เพิ่มขึ้นเพราะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ลดลง 27% Y-Y เพราะธุรกิจโรงกลั่นมีกำไรจากสต็อกน้ำมันน้อยกว่าปีก่อน ส่วนธุรกิจโรงแยกก๊าซคาดว่ากำไรเพิ่มขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y จากทั้งราคาขายเพิ่มและต้นทุนลด ยังคงคาดการณ์กำไรสุทธิปี 57-58 โตเฉลี่ยเพียง 2.4% ต่อปี แต่ PE ปัจจุบันที่ 9.5 เท่า PBV 1.2 เท่า ต่ำกว่าภูมิภาคที่มี PE 10 เท่าและ PBV 1.5 เท่า
- CENTEL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 35 บาท คาดกำไรปกติที่ 503 ล้านบาท +73% Q-Q, -24% Y-Y ถือว่าไม่โดดเด่นแต่ไม่ถึงกับเลวร้ายนัก เพราะโรงแรมในมัลดีฟช่วยชดเชยผลกระทบธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารในประเทศได้บ้าง ผลประกอบการจะค่อยๆฟื้นตั้งแต่ 2Q14 หลังยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน
- IRPC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ในฐานะที่เป็น Turnaround stock เป้าหมาย 4.50 บาท กำไรใกล้เคียงตลาดคาดหากตัดรายการพิเศษ กำไรปกติใน 1Q14 ลดลง 72% Q-Q แต่เพิ่ม 146% Y-Y คิดเป็นเพียง 13% ของกำไรทั้งปีที่คาดโต 221% Y-Y แต่แนวโน้มกำไรจะดีขึ้นจากการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่นให้เป็นโรงงานที่ครบวงจรมากขึ้นภายใต้โครงการ Phoenix ราคาหุ้นซื้อขายเพียง PBV 1 เท่า
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกเยน-สกุลเงินตลาดเกิดใหม่แข็งค่า
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินอื่นๆของตลาดเกิดใหม่ก็แข็งค่าขึ้นเช่นกัน
ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.8% เมื่อเวลา 10.01 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,296.25 จุด ลดลง 161.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,023.15 จุด ลดลง 4.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,904.52 จุด ลดลง 71.81 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,903.72 จุด ลดลง 8.67 จุด
ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,964.19 จุด เพิ่มขึ้น 4.75 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,240.30 จุด ลดลง 5.26 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,861.37 จุด เพิ่มขึ้น 0.94 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนเดือนเม.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในเช้าวันนี้ตามเวลาไทย
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 23.86 จุด เหตุวิตกยูเครน,ผลประกอบการ
ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) โดยมีแรงกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงในยูเครน และผลประกอบการที่น่าผิดหวัง
ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 23.86 จุด หรือ 0.35% ที่ 6,798.56 จุด
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผลประกอบการในยุโรปโดยทั่วไปออกมาย่ำแย่กว่าในสหรัฐ ขณะที่สถานการณ์ในยูเครนก็สร้างความวิตกแก่นักลงทุน
หุ้นบาร์เคลย์สร่วง 5.2% หลังผลกำไรในช่วงไตรมาสแรกลดลง ขณะที่รายได้จากการซื้อขายพันธบัตร สกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างปรับตัวลง
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : วิตกสถานการณ์ยูเครน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อผลประกอบการที่อ่อนแอของภาคเอกชน และสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 336.04 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,428.07 จุด ลดลง 34.62 จุด หรือ -0.78% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,467.53 จุด ลดลง 61.97 จุด หรือ -0.65% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,798.56 จุด ลดลง 23.86 จุด หรือ -0.35%
นักลงทุนวิตกกังวลว่าสถานการณ์รุนแรงในยูเครนจะบานปลาย หลังจากสหรัฐและเยอรมนีได้กดดันรัสเซียเพิ่มเติมด้วยการกำหนดให้วันที่ 25 พ.ค.เป็นวันที่จะต้องมีการโหวตว่า จะมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอีกหรือไม่ หากรัสเซียไม่ยอมยุติการให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน
นักวิเคราะห์กังวลว่าหากสหรัฐและยุโรปคว่ำบาตรรัสเซีย ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันจากรัสเซีย เพราะกว่า 70% ของน้ำมันดิบและก๊าซที่ผลิตได้ในรัสเซียนั้น ได้ถูกส่งออกไปยังยุโรปโดยผ่านเส้นทางยูเครน
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 5.2% หลังจากธนาครารเปิดเผยว่าผลกำไรก่อนหักภาษีปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.69 พันล้านปอนด์ในไตรมาสแรกปีนี้ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 1.79 พันล้านปอนด์
หุ้นโบลิเดน ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงและแร่สังกะสีของสวีเดน ร่วงลง 4.8%
อย่างไรก็ตาม หุ้นสายการบินลุฟฮันซา พุ่งขึ้น 3% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงานลดลงสู่ระดับ 245 ล้านยูโรในไตรมาสแรกปีนี้ จากไตรมาสแรกปีที่แล้วที่ระดับ 359 ล้านยูโร
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : แรงขายทำกำไร ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 129.53 จุด
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดาวโจนส์ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้ โดยนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มอินเตอร์เน็ตและกลุ่มการเงินมากที่สุด
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,401.02 จุด ร่วงลง 129.53 จุด หรือ -0.78% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,080.76 จุด ลดลง 57.30 จุด หรือ -1.38% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,867.72 จุด ลดลง 16.94 จุด หรือ -0.90%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากบริษัทบางแห่งของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด และรายงานที่ระบุว่า สหรัฐมียอดขาดดุลการค้าลดลง 3.6% สู่ระดับ 4.04 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. จาก 4.23 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. โดยยอดส่งออกขยายตัว 2.1% แตะที่ 1.939 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.1% แตะที่ 2.343 แสนล้านดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยส่วนหนึ่งมาจากการปรับตัวขึ้นของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
แต่หลังจากนั้นไม่นานตลาดก็อ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอินเตอร์เน็ต โดยในหุ้นกลุ่มการเงินนั้น หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ดิ่งลง 4.14% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดในไตรมาสแรกของปีนี้
ส่วนหุ้นในกลุ่มอินเตอร์เน็ตนั้น หุ้นทวิตเตอร์ร่วงลงอย่างหนักถึง 17.81% ขณะที่หุ้นเน็ทฟลิกซ์ หุ้นเฟซบุ๊ก และหุ้นอีเทรด ไฟแนนเชียล ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 3.9%
อย่างไรก็ตาม หุ้นยาฮูดีดตัวขึ้นสวนทางกับหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มอินเตอร์เน็ต หลังจากมีการคาดการณ์ว่าราคาหุ้นไอพีโอของบริษัทอาลีบาบาซึ่งยาฮูถือหุ้นอยู่นั้น จะมีมูลค่าราว 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นบริษัทอินเตอร์เน็ตที่มีมูลค่าสูงรองจากกูเกิล อิงค์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าราคาหุ้นไอพีโอที่สูงของอาลีบาบานั้น จะเป็นปัจจัยบวกต่อยาฮูที่กำลังวางแผนจะขายหุ้นราว 22.6% ที่ถืออยู่ในบริษัทอาลีบาบา
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนที่ยังคงรุนแรง ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเพิ่มขึ้นจากการปะทะกันระหว่างกองกำลังที่ให้การสนับสนุนรัสเซียและทางการในเมืองต่างๆซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน
ทั้งนี้ สหรัฐและเยอรมนีได้กดดันรัสเซียเพิ่มเติมด้วยการกำหนดให้วันที่ 25 พ.ค.เป็นวันที่จะต้องมีการโหวตว่า จะมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอีกหรือไม่ หากรัสเซียไม่ยอมยุติการให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน
อินโฟเควสท์
รายงานหุ้นถูกชอร์ตเซล ประจำวันที่ 06 พ.ค. 2557
สรุปข้อมูลการขายชอร์ตของหุ้นไทย ณ วันที่ 06 พฤษภาคม 2557 มีรายละเอียดดังนี้
หลักทรัพย์ ปริมาณหุ้นที่ มูลค่าการ %ปริมาณการขายชอร์ต
ขายซอร์ต ขายชอร์ต เทียบกับปริมาณการซื้อขาย
(หุ้น) (บาท) แบบ Auto Matching
KKP 918,500 38,937,975.00 65.90%
M 489,800 27,367,925.00 41.47%
ERW 539,700 2,084,220.00 18.06%
BJC 52,000 2,441,450.00 15.49%
ADVANC 631,300 152,774,400.00 14.61%
MCOT 70,000 1,972,750.00 13.46%
TUF 83,900 5,892,625.00 12.19%
KBANK 388,500 75,084,450.00 11.44%
PTT 131,400 40,602,600.00 8.18%
VGI 2,039,100 23,883,470.00 8.05%
GLOW 15,000 1,177,500.00 6.82%
IVL 1,605,800 39,000,620.00 6.24%
BGH 4,156,000 65,013,000.00 6.17%
BBL 172,800 33,121,700.00 5.99%
BIGC 8,600 1,586,700.00 5.25%
TRUE 8,210,400 56,240,740.00 4.92%
SCC 47,400 20,118,400.00 4.88%
PS 134,000 3,055,850.00 4.27%
PTTEP 41,200 6,581,700.00 4.26%
KTB 1,194,600 21,741,720.00 3.85%
TMB 1,451,200 3,313,248.00 3.39%
RATCH 15,000 798,750.00 3.08%
INTUCH 205,900 16,057,325.00 2.89%
ROBINS 11,400 575,700.00 2.69%
BANPU 664,500 20,004,350.00 2.66%
CENTEL 14,000 430,500.00 2.61%
BLA 12,600 904,050.00 2.59%
SCCC 2,400 919,200.00 2.54%
AOT 17,800 3,479,200.00 2.26%
EGCO 5,400 714,150.00 1.99%
TTW 41,200 409,940.00 1.98%
CPN 51,400 2,300,150.00 1.81%
BEC 25,600 1,369,600.00 1.79%
HMPRO 176,400 1,574,505.00 1.79%
DTAC 28,400 3,424,200.00 1.72%
JAS 3,360,800 27,251,290.00 1.35%
SCB 48,000 8,078,750.00 1.30%
CPALL 174,800 7,599,100.00 1.12%
STEC 100,000 1,820,000.00 1.00%
GLOBAL 48,600 652,940.00 0.99%
MAJOR 26,700 516,980.00 0.96%
LH 103,800 1,038,000.00 0.94%
TCAP 13,200 448,800.00 0.92%
BH 7,600 763,800.00 0.78%
LPN 64,000 1,151,400.00 0.78%
MINT 41,400 1,008,230.00 0.72%
PTTGC 46,600 3,262,000.00 0.57%
BCP 14,200 443,750.00 0.54%
IRPC 211,400 761,040.00 0.54%
DELTA 12,800 721,600.00 0.45%
THAI 22,600 300,580.00 0.45%
BTS 123,200 1,022,560.00 0.41%
THCOM 13,400 532,900.00 0.36%
ITD 62,000 229,400.00 0.30%
AMATA 9,500 149,550.00 0.29%
SAMART 21,000 425,450.00 0.14%
KCE 6,300 225,300.00 0.13%
TTA 22,500 466,950.00 0.10%
CK 17,000 308,550.00 0.08%
SIRI 10,000 19,200.00 0.03%
อินโฟเควสท์
รายงานการซื้อขายหุ้นผ่าน NVDR ประจำวันที่ 06 พ.ค. 2557
สรุปภาพรวมการซื้อขายหุ้นผ่าน NVDR ประจำวันที่ 06 พฤษภาคม 2557 พบว่ามีมูลค่าการซื้อสุทธิรวมทั้งหมด (SET+MAI)จำนวน 134.76 ล้านบาท โดยหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 100 อันดับแรก ได้แก่
ชื่อหุ้น มูลค่าซื้อ (บาท) มูลค่าขาย (บาท) มูลค่าการซื้อขายรวม มูลค่าการซื้อขายสุทธิ สัดส่วนซื้อขาย NVDR
ต่อการซื้อขายหุ้นอ้างอิง
KBANK 331,707,950.00 249,788,025.00 581,495,975.00 81,919,925.00 44.39
ADVANC 176,618,700.00 124,945,150.00 301,563,850.00 51,673,550.00 14.42
TRUE 107,112,705.00 181,038,825.00 288,151,530.00 -73,926,120.00 12.51
BBL 90,279,000.00 151,608,320.00 241,887,320.00 -61,329,320.00 21.84
DTAC 88,400,664.98 137,040,854.00 225,441,518.98 -48,640,189.02 40.29
IVL 196,855,110.00 12,025,280.00 208,880,390.00 184,829,830.00 16.89
KTB 74,177,580.50 122,957,250.00 197,134,830.50 -48,779,669.50 17.49
SCB 80,422,450.00 113,536,478.50 193,958,928.50 -33,114,028.50 15.66
INTUCH 98,648,300.00 80,306,200.00 178,954,500.00 18,342,100.00 16.10
JAS 86,492,660.00 68,614,610.00 155,107,270.00 17,878,050.00 3.81
SCC 48,399,600.00 76,606,590.00 125,006,190.00 -28,206,990.00 15.12
DELTA 73,374,525.00 29,888,400.00 103,262,925.00 43,486,125.00 32.06
SPALI 11,710.00 67,831,650.00 67,843,360.00 -67,819,940.00 19.58
PTT 25,715,000.00 38,571,920.00 64,286,920.00 -12,856,920.00 6.47
BGH 22,953,227.00 34,139,900.00 57,093,127.00 -11,186,673.00 2.74
CHUO 23,780,414.70 28,373,640.00 52,154,054.70 -4,593,225.30 13.33
CPN 7,216,550.00 42,797,075.00 50,013,625.00 -35,580,525.00 19.67
CPF 12,803,503.25 34,872,700.00 47,676,203.25 -22,069,196.75 3.49
MEGA 45,178,730.00 1,031,130.00 46,209,860.00 44,147,600.00 20.33
PTTEP 11,475,800.00 31,219,500.00 42,695,300.00 -19,743,700.00 13.77
STEC 29,770,410.00 12,551,360.00 42,321,770.00 17,219,050.00 11.60
LPN 36,676,800.00 2,421,540.00 39,098,340.00 34,255,260.00 13.31
BEC 15,090,400.00 23,164,200.00 38,254,600.00 -8,073,800.00 25.03
LH 31,411,715.00 2,531,400.00 33,943,115.00 28,880,315.00 15.24
TTA 30,707,555.00 2,335,790.00 33,043,345.00 28,371,765.00 3.33
PTTGC 27,993,050.00 4,903,484.25 32,896,534.25 23,089,565.75 2.88
TCAP 21,838,350.00 10,635,700.00 32,474,050.00 11,202,650.00 33.15
KCE 31,006,225.00 372,100.00 31,378,325.00 30,634,125.00 9.01
TOP 84,075.00 29,093,175.00 29,177,250.00 -29,009,100.00 10.75
SPCG 1,212,000.00 22,208,375.00 23,420,375.00 -20,996,375.00 6.39
TISCO 5,065,900.00 16,499,975.00 21,565,875.00 -11,434,075.00 15.63
TICON 17,964,920.00 1,823,220.00 19,788,140.00 16,141,700.00 20.05
MALEE - 19,455,900.00 19,455,900.00 -19,455,900.00 14.00
CPALL 4,229,692.50 14,628,075.00 18,857,767.50 -10,398,382.50 1.39
RATCH 17,693,700.00 249,100.00 17,942,800.00 17,444,600.00 34.52
AJP 16,835,375.00 568,005.00 17,403,380.00 16,267,370.00 6.48
IRPC 2,406,080.00 14,765,698.00 17,171,778.00 -12,359,618.00 6.13
PS 14,792,340.00 91,600.00 14,883,940.00 14,700,740.00 10.39
AP 7,051,405.00 7,458,960.00 14,510,365.00 -407,555.00 5.70
KKP 4,035,800.00 9,096,100.00 13,131,900.00 -5,060,300.00 11.12
BANPU 9,020,396.75 3,142,150.00 12,162,546.75 5,878,246.75 0.82
LHBANK 6,699,307.00 5,349,324.00 12,048,631.00 1,349,983.00 0.94
MINT 4,528,020.00 7,096,720.00 11,624,740.00 -2,568,700.00 4.14
AJD 10,119,900.00 1,308,100.00 11,428,000.00 8,811,800.00 4.77
NOK 9,050.00 10,578,700.00 10,587,750.00 -10,569,650.00 13.21
M 9,421,800.00 852,475.00 10,274,275.00 8,569,325.00 7.78
BIGC 2,362,500.00 7,307,400.00 9,669,900.00 -4,944,900.00 16.03
AEONTS 5,815,825.00 3,824,925.00 9,640,750.00 1,990,900.00 44.87
AOT 5,409,600.00 3,643,650.00 9,053,250.00 1,765,950.00 2.94
BTS 6,670,710.00 1,518,705.00 8,189,415.00 5,152,005.00 1.65
BAY 2,515,800.00 5,522,150.00 8,037,950.00 -3,006,350.00 25.80
HEMRAJ 1,886,804.00 5,910,052.00 7,796,856.00 -4,023,248.00 4.44
TPIPL 2,627,480.00 4,880,000.00 7,507,480.00 -2,252,520.00 6.82
QH 7,080,120.00 146,632.00 7,226,752.00 6,933,488.00 3.90
TTW 4,263,405.00 2,813,110.00 7,076,515.00 1,450,295.00 17.10
THAI 3,468,230.00 3,361,380.00 6,829,610.00 106,850.00 5.08
GFPT 3,952,660.00 2,845,740.00 6,798,400.00 1,106,920.00 10.00
EA 6,770,340.00 - 6,770,340.00 6,770,340.00 3.59
SITHAI 2,576,550.00 4,062,750.00 6,639,300.00 -1,486,200.00 4.15
CK 5,679,000.00 918,450.00 6,597,450.00 4,760,550.00 0.87
ICHI 3,657,810.00 2,310,100.00 5,967,910.00 1,347,710.00 0.30
AMATA 1,433,760.00 4,281,880.00 5,715,640.00 -2,848,120.00 5.51
ROBINS 654,675.00 4,932,225.00 5,586,900.00 -4,277,550.00 13.02
TWZ 2,029,660.00 3,132,676.00 5,162,336.00 -1,103,016.00 17.78
BECL 5,019,950.00 - 5,019,950.00 5,019,950.00 7.71
TMB 3,186,996.00 1,671,020.00 4,858,016.00 1,515,976.00 2.48
HMPRO 2,563,831.00 2,286,445.00 4,850,276.00 277,386.00 2.76
ANAN 235,700.00 4,606,600.00 4,842,300.00 -4,370,900.00 2.79
ITD 1,809,852.00 2,785,178.00 4,595,030.00 -975,326.00 2.98
PLE 2,558,124.00 1,758,450.00 4,316,574.00 799,674.00 1.89
SAMART 2,778,370.00 1,496,360.00 4,274,730.00 1,282,010.00 0.72
BLA 4,162,100.00 - 4,162,100.00 4,162,100.00 5.93
PRANDA 36,500.00 3,892,405.00 3,928,905.00 -3,855,905.00 19.54
TUF 3,502,575.00 386,375.00 3,888,950.00 3,116,200.00 4.02
VGI 136,520.00 3,646,760.00 3,783,280.00 -3,510,240.00 0.63
DEMCO 1,108,110.00 2,553,480.00 3,661,590.00 -1,445,370.00 6.44
BJC 301,300.00 3,282,550.00 3,583,850.00 -2,981,250.00 11.36
TTCL 1,676,500.00 1,654,750.00 3,331,250.00 21,750.00 8.39
SPVI 1,595,895.00 1,458,605.00 3,054,500.00 137,290.00 0.88
GLOW 1,732,425.00 1,192,100.00 2,924,525.00 540,325.00 8.46
CHG 2,922,220.00 - 2,922,220.00 2,922,220.00 7.14
STA 132,600.00 2,755,820.00 2,888,420.00 -2,623,220.00 4.96
GOLD 1,263,125.00 1,507,000.00 2,770,125.00 -243,875.00 3.17
BLAND 1,787,208.00 802,950.00 2,590,158.00 984,258.00 0.61
MFEC 387,500.00 2,016,080.00 2,403,580.00 -1,628,580.00 6.60
MACO 1,165,020.00 1,200,480.00 2,365,500.00 -35,460.00 2.13
SYNTEC 314,600.00 2,021,970.00 2,336,570.00 -1,707,370.00 2.37
EGCO 996,650.00 1,335,000.00 2,331,650.00 -338,350.00 3.23
NOBLE - 2,320,000.00 2,320,000.00 -2,320,000.00 38.15
SGP 2,057,500.00 210,100.00 2,267,600.00 1,847,400.00 1.85
MAJOR 1,482,500.00 764,000.00 2,246,500.00 718,500.00 2.07
LOXLEY 1,123,200.00 1,106,680.00 2,229,880.00 16,520.00 6.27
PACE 1,638,034.00 553,720.00 2,191,754.00 1,084,314.00 4.23
MLINK 284,080.00 1,766,010.00 2,050,090.00 -1,481,930.00 4.32
PM 2,031,620.00 - 2,031,620.00 2,031,620.00 16.25
EIC 1,093,782.00 937,296.00 2,031,078.00 156,486.00 2.47
BH 701,075.00 1,319,050.50 2,020,125.50 -617,975.50 1.01
TGPRO 1,424,379.00 533,700.00 1,958,079.00 890,679.00 5.29
APCO 80,900.00 1,805,640.00 1,886,540.00 -1,724,740.00 15.26
BCP 1,866,725.00 - 1,866,725.00 1,866,725.00 1.13
อินโฟเควสท์
โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยลงต่อ หวั่นการเมืองเดือดหลังคำตัดสินของของศาลรธน.แรงขายหลังรับรู้งบบจ.ผสมโรง แนะถือเงินสด
โบรกฯ คาด พรุ่งนี้ หุ้นไทยลงต่อ หวั่นการเมืองเดือดหลังคำตัดสินของของศาลรัฐธรรมนูญ คดี"ถวิล เปลี่ยนสี" แถมมีแรงขายหลังรับรู้งบ บจ.ผสมโรง แนะขายหุ้นถือเงินสด ประเมินแนวรับ 1,404 จุด แนวต้าน 1,414 จุด
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดลูกค้าส่วนบุคคล บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรงในช่วงบ่าย เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงจากการปะทะกันระหว่างฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลกับฝ่ายต่อต้าน หลังจากศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำสั่งวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) เวลา 12.00 น. ในคดีประธานวุฒิสภาส่งความเห็นของสมาชิกวุฒิสภาเพื่อขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ จากที่มีคำสั่งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยมิชอบ ซึ่งหากคำตัดสินนั้น หากทำให้รักษาการนากยกรัฐมนตรีต้องพ้นสภาพ อาจจะจุดชนวนให้เกิดความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ประเด็น Sell in May and Go away ยังเป็นอีกปัจจัยที่คอยกดดันอีกด้วย
สำหรับ พรุ่งนี้ คาดว่า หุ้นไทยปรับตัวลงต่อ จากปัจจัยการเมืองที่ส่งสัญญาณเกิดความรุนแรงอีกครั้ง นอกจากนี้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เริ่มทยอยประกาศออกมา ส่วนใหญ่ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร แม้บางบริษัทจะดีกว่าที่คาด แต่กลับมีแรงขายเมื่อรับรู้ผลประกอบการ (Sell on Fact ) เห็นได้จากหุ้น JAS KCE
ด้านกลยุทธ์ แนะหาจังหวะขายหุ้นเพื่อถือเงินสด และรอดูสถานการณ์ทางการเมือง หากไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงดังที่คาดการณ์ ก็สามารถที่จะหาจังหวะเข้าซื้อได้ในอนาคต โดยประเมินแนวรับ 1,404 จุด แนวต้าน 1,414 จุด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
จับตาหุ้นเด่นวันนี้
*MDX
-นสพ.รายงาน สุดปลื้มนักลงทุนญี่ปุ่นเมินการเมืองเรียงคิวซื้อที่ดิน 700 ไร่ มูลค่า 2.1 พันล้านบาท คาดปิดดีล Q3/57 นี้ เร่งเสริมทัพตั้งฐานการผลิตรับมือ AEC ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าไปได้สวยจับมือกลุ่ม ปตท. สร้างโรงไฟฟ้าพม่าหวังโกยรายได้เข้ากระเป๋า 50% งบไตรมาส 1/57 หรูหรา
*JMART
-นสพ.รายงาน ส่งซิกงบ Q1/57 หรูหลังยอดขายมือถือพุ่ง "อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา" จัดทัพบริษัทย่อย ปั๊มรายได้โตกระโดดเดิมเกมธุรกิจขยายสาขาทั้งในและนอก ปูกลยุทธ์หั่นรายจ่ายหวังเขมือบกำไรและรายได้ทั้งปี 2557 โต 25%
*PLE
-นสพ.รายงาน ถึงเวลาเฮงจับตา Q1/57 โชว์กำไรสูง 180 ล้านบาท โตเกิน 600% หลังบุ๊กกำไรรีไฟแนนซ์ "SOHO" เข้ากระเป๋า ซุ่มเจรจา "JJ mall" เทกโอเวอร์ SOHO อวดฐานทุนหนางานรอดีลกว่า 1 หมื่นล้านบาท แถมบริษัท AEC รุมจีบรับงานหรูข้ามชาติ ส่วนปี 2557 ฟันรายได้โต 25%
*SINGER
-นสพ.รายงาน มั่นใจผลงานปี 2557 ยังเติบโตได้ตามเป้า แม้ปัจจัยลบในประเทศยังเพียบ คาดรายได้รวมปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10-15% แน่นอน พร้อมเดินหน้าลุยตลาด Get Rich อย่างต่อเนื่อง หลังตลาดต่างจังหวัดยังมีความต้องการสูง พร้อมขยายช่องทางขายใน Makro อีก 10 แห่ง ฟากโบรกส่องพื้นฐานปี 2557 แข็งแกร่ง ส่องกำไรไตรมาส 1/57 พุ่งแรง 110.2%
*UAC
-นสพ.รายงาน เดินเกมรุกขยายธุรกิจเพิ่ม หวังดันมาร์เก็ตแคปภายใน 1-2 ปีนี้ขยายกว่าเท่าตัว จากปัจจุบันอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท หลังรับรู้รายได้-กำไร จากธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มสูบ ผู้บริหาร "ชัชพล ประสพโชค" ส่งซิกภายในปี 2558 บริษัทจะมีรายได้จากพลังงานทางเลือกมากกว่า 50% มั่นใจรายได้ปี 2557 แตะระดับ 1.2 พันล้านบาท เร่งสานต่อแผนการลงทุนเพิ่ม
*CGS
-นสพ.รายงาน ผู้ถือหุ้นไฟเขียวแผนปรับโครงสร้างกิจการเป็น Holding Company ตั้ง "บริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้ง ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนและถือหุ้นหลักทรัพย์ คาดทำเทนเดอร์ฯ ในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมนี้ คาดทุกอย่างจบภายในเดือนสิงหาคม 2557 พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2556 ในอัตรา 0.11 บาทต่อหุ้น รับตังค์เข้ากระเป๋า 15 พฤษภาคมนี้
*RS
-นสพ.รายงาน การันตีรายได้ปี 2557 แตะ 5 พันล้านบาท โตเกิน 40% เผยเรตติ้งแจ่ม โกยค่าโฆษณาเต็มพอร์ต ฐานทุนหนาสั่งลุยดิจิตอลแย้มต้นทุนต่ำเบียดคู่แข่ง ฟากโบรกพร้อมใจเชียร์ รับอานิสงส์บอลโลก ดันกำไรไตรมาส 2/2557 สนั่นวงการ หนุนทั้งปี 2557 พุ่ง 42%
*TTA
-นสพ.รายงาน สัญญาณฟื้นเด่น นักวิเคราะห์ประสานเสียง "ซื้อ" และเป็นหุ้นเป็น Top Picks หลังธุรกิจสู่วัฏจักรขาขึ้น-ปริมาณขนส่งเพิ่มตามดีมานด์ หนุนรายได้ทะยานเพิ่มขึ้น 29% จากปีก่อน พร้อมเตรียมนำบริษัทลูก 2 แห่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
*FPI
-นสพ.รายงาน เตรียมบินดูงานในประเทศจีนเดือนมิถุนายนนี้ ศึกษางานผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากับบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ผู้วิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเอกชนเบอร์ 1 ของจีน มีลุ้นร่วมเป็นพันธมิตรภายใน 6 เดือน งานนี้ WIN-WIN ทั้ง 2 ฝ่าย ลดต้นทุนการผลิต เชื่อหนุนรายได้กระฉูด เพิ่มขีดแข่งขัน ต่อยอดผลิตรถไฟฟ้าครบวงจร
*RATCH
-นสพ.รายงาน ปลื้มออกหุ้นกู้ชุดแรก 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำเร็จ จากวงเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมให้ RHIS ขยายการลงทุนในต่างประเทศ นำทีม ลาว ออสเตรเลีย พม่า กัมพูชา เวียดนาม พร้อมวางกลยุทธ์ขยายกำลังการผลิต 9,700 เมกะวัตต์ ภายในปี 2556
*SIRI
-นสพ.รายงาน ลั่นไตรมาส 1/57 กำไรติดจรวด 700 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 86.47 ล้านบาท หลังขายสินทรัพย์เข้ากอง SIRIP ผุดโครงการบ้านเดี่ยว "คณาสิริ ศาลายา" มูลค่า 1.56 พันล้านบาท มัดใจคนรุ่นใหม่ ชิงตลาดชานเมือง
*TPOLY
-นสพ.รายงาน โชยกลิ่นหอมปี 2557 กำไรกระโดด หลังธุรกิจทุกภาคส่วนโตโดดเด่น "ไชยณรงค์ จันทร์พลังศรี" ลั่นปีทองธุรกิจพลังงาน แถมได้ฤกษ์ดัน TPCH เข้าตลาด mai ครึ่งปีหลัง โกยกำไรเข้ากระเป๋าอื้อ จับตาปี 2557 รายได้สนั่น 3.4 พันล้านบาท จากปีก่อน 2.59 พันล้านบาท
*PYLON
-นสพ.รายงานแรงเข้าตาโบรกเกอร์ มองผลงานไตรมาสแรกปี 2557 ไม่สะดุดแม้ปัจจัยการเมืองกดดัน พร้อมเปิดกรุรับทรัพย์วงานรถไฟฟ้าสายสีแดง 340 ล้านบาท
*BGH
-นสพ.รายงาน แตกพาร์หุ้นเทรดสนั่น ภายในช่วง 3 วันมาร์เก็ตแคปเพิ่มอีก 2.5 หมื่นล้านบาท จาก 2.15 แสนล้านบาท เป็น 2.4 แสนล้านบาท "กูรู" คาดไตรมาส 1/57 โชว์กำไรสุทธิพุ่ง 1,985 ล้านบาท ลูกค้าใช้บริการแน่น
*KCE
-นสพ.รายงาน เผยสัปดาห์นี้แจ้งงบไตรมาส 1/57 แย้มน่าจะเติบโตดี เล็งดันบริษัทลูก "ไทยลามิเนต แมนูแฟคเจอเรอร์" เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น ด้านโบรกฯ ฟันธงงบ Q1 โชว์กำไรสุทธิ 431 ล้านบาท โตกระฉูด 59% รับยอดขายไหลเข้าทะลัก
*TRUE
-นสพ.รายงาน ราคาพุ่งปรี๊ด 3.70% หลังนักลงทุนหมดกังวลประเด็นเพิ่มทุนให้นักลงทุนทั่วไป บวกแรงซื้อเก็งกำไรรับข่าวลือคาดไตรมาส 1/57 จะมีกำไรสุทธิ ฟากโบรกฯ คาดไตรมาส 1/57 ขาดทุนลดเหลือ 2.4 พันล้าน แนะซื้อ เป้า 12.70 บาท
*BKD
-นสพ.รายงาน เผยไตรมาส 1/57 เติบโต 10% ส่งซิกปีนี้กำไรสุทธิโตเท่าตัว และรายได้พุ่ง 60% แตะ 1,000 ล้านบาท จากงานในมือที่มีกว่า 2,000 ล้านบาท จ่อเซ็นสัญญางานใหม่ 2 งาน มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท ลุยประมูลงานเพิ่ม 5,000 ล้านบาท
*EARTH
-นสพ.รายงาน ลุ้นงบไตรมาส 1 เติบโต ลั่นลูกค้าออเดอร์ถ่านหินเพียบ ตั้งบริษัทลูกรองรับแผนเทรดดิ้งถ่านหินในต่างประเทศ ฟากวงการเงินคาด PTT อาจเข้าซื้อกิจการซาลามานเดอร์ เอ็นเนอร์จี
*FPI
-นสพ.รายงาน ศึกษาแผนธุรกิจผลิตรถยนต์ไฟฟ้าร่วมกับพันธมิตร เจาะตลาดประเทศจีน ลั่นมีความชัดเจนภายใน 6 เดือนนี้ ลุ้นผลิตชิ้นส่วนขายภายในปี 58
*ADVANC
-นสพ.รายงาน แจ้งงบไตรมาส 1/57 วันนี้ ลุ้นกำไร 9.18 พันล้านบาท ลูกค้า 3G คลื่น 2.1GHz พุ่ง 20 ล้านราย ครึ่งปีหลังเติบโตดี หลังเห็นผลบวกต้นทุนสัมปทานลดลงชัดเจน ดันกำไรทั้งปีนี้ 3.94 หมื่นล้านบาท
*ICHI
-นสพ.รายงาน เตรียมส่งเอกสารเพิ่มเติม หลังกรณี BOI ตีกลับขอส่งเสริมการลงทุนโครงการขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มชาเขียว "อิชิตัน" มูลค่า 2,600 ล้านบาท ที่นิคมฯโรจนะ อยุธยา ยันไม่กระทบต่อการขยายกำลังผลิต ย้ำรายได้ปี 57 โต 20%
*PS
-นสพ.รายงาน ปรับวิธีขายคอนโด งัดกลยุทธ์ "พรี บุ๊กกิง" ล่วงหน้าให้ได้ยอด 3 เท่า ลดเสี่ยงขายไม่ได้
*BH
-นสพ.รายงาน จ้องลงทุนกว่าหมื่นล้านผุดตึกใหม่เพิ่มผู้ป่วยนอกกว่าเท่าตัว ซื้อโรงหมอตปท.ผลตอบแทน 20% ปัจจุบันบริษัทยังไม่มีนโยบายเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) ซึ่งปัจจุบันพาร์อยู่ที่ 1 บาท
*TTCL
-นสพ.รายงาน ชิมลางเป็นหนี้ครั้งแรกหลังขายหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาทเกลี้ยงจ่ายดอกเบี้ย 4.65% ตุนเงินลงทุน
*TPIPL
-นสพ.รายงาน เผยปี 59 รายได้และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและภาษี(EBITDA) โตก้าวกระโดด หลังรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงปูนฯ 4 และโรงไฟฟ้า 90 เมกะวัตต์ที่คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ในปีหน้า มองตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศโตแค่ 5% เชื่อปีหน้าโตสู่ภาวะปกติหลังมีรัฐบาลใหม่
*ADVANC,DTAC,TRUE
-นสพ.รายงาน กสทช.ได้สรุปราคาเริ่มต้นการประมูลคลื่น 900 MHz เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมที่จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) พิจารณาอนุมัติภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่การประมูลในเดือน พ.ค.2557 นี้ สำหรับราคาเริ่มต้นประมูลที่ 538 ล้านบาทต่อ 1 เมกะเฮิรตซ์ คิดเป็น 70% ของราคาคลื่น 768.5 ล้านบาทต่อเมกะเฮิรตซ์ ซึ่ง กทค.ได้กำหนดที่จะเปิดประมูล 900 เมกะเฮิรตช์ ที่มีอยู่ 17.5 เมกะเฮิรตซ์ แบ่งออกเป็น 2 ใบอนุญาต โดยใบแรกจำนวน 10 เมกะเฮิรตซ์ ราคาเริ่มต้นประมูล 10,740 ล้านบาท และใบอนุญาตที่ 2 จำนวน 7.5 เมกะเฮิรตซ์ในราคาเริ่มต้น 8,070 ล้านบาท มีระยะเวลาการอนุญาต 15 ปี
อินโฟเควสท์
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด