ป.ป.ช.สงขลา ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำ คลองวาด
- Details
- Category: ปปช.
- Published: Thursday, 14 September 2023 18:44
- Written by: akachai
- Hits: 2568
ป.ป.ช.สงขลา ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำ คลองวาด
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำ บริเวณริมคลองวาด (น้ำตกโตนงาช้าง) ประสานหน่วยงานรับผิดชอบ รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำและดำเนินคดีอาญา
นายราม วสุธนภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา ได้เดินทางพร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา และเทศบาลทุ่งตำเสา ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสการทุจริตจากศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (Corruption Deterrence Center) หรือ ศูนย์ CDC กรณีปรากฏข้อมูลข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์เฟสบุ๊ค “กลุ่มStrong ต้านทุจริตภาคใต้” กรณีตั้งข้อสังเกตสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำนำของร้านอาหารและรีสอร์ท บริเวณริมคลองวาด น้ำตกโตนงาช้าง
จากการตรวจสอบพื้นที่เบื้องต้น สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีการปลูกสร้างร้านอาหารในพื้นที่บริเวณริมคลองวาด (น้ำตกโตนงาช้าง) ซึ่งมีพื้นที่ล่วงล้ำเข้ามาในลำน้ำและอาจมีการบุกรุกพื้นที่ป่า โดยสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 (สงขลา) จะขยายผลเพื่อตรวจสอบว่า พื้นที่การดำเนินกิจการดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าประเภทใดและเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าหรือไม่ นอกจากนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดสงขลา จะออกคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำและดำเนินคดีอาญาต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำ การตั้งร้านอาหารในแหล่งธรรมชาติ อย่างธารน้ำตก เป็นปัญหาที่ขัดแย้งกันมานานระหว่างผู้ประกอบกิจการ ประชาชนในท้องที่กับนักท่องเที่ยว กลายเป็นข้อพิพาทกันมานาน อย่างกรณีการแย่งชิงที่นั่งตามโขดหินและจุดชมวิวริมน้ำ ทำให้เกิดความขัดแย้งจากการบุกทำลายสภาพแวดล้อม ซึ่งประชาชนท้องที่ได้ร้องเรียนไปยัง สำนักงาน ป.ป.ช. แทบทุกจังหวัดว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐทุจริต มีส่วนร่วมรู้เห็น ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบ รวมไปถึงการบุกรุกและใช้ประโยชน์บนที่ดินรัฐอย่างผิดกฎหมาย
ในการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างริมน้ำ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ประชาชนและผู้ประกอบการมักจะมีคำกล่าวอ้างว่า สับสนหรือไม่เข้าใจในหลักปฏิบัติโดยเฉพาะในเรื่องของการติดต่อราชการ เช่น ต้องไปขออนุญาตที่ใคร หนวยงานไหนรับผิดชอบ แต่ละที่มีขั้นตอนเงื่อนไขแตกต่างกันอย่างไร ใช้เวลามากแค่ไหน นอกจากนี้ยังเคยมีการตีความว่า การสร้างโป๊ะ ท่าเทียบเรือหรือเรือนริมน้ำ ว่าแม้จะขออนุญาตจากกรมเจ้าท่าแล้ว แต่สิ่งปลูกสร้างนั้นอาจกีดขวางลำน้ำและการจราจรทางน้ำ จะต้องมีการขออนุญาตจากผู้มีอำนาจตาม พ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทยด้วยหรือไม่
ปัจจุบันปัญหารุกล้ำลำน้ำยังไม่ได้รับการแก้ไขให้เป็นระบบ ในอนาคตปัญหาคงจะมากขึ้นตามการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งจะนำมาสู่ความขัดแย้งของสังคมและเกิดช่องทางคอร์รัปชันให้กับเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองท้องถิ่น การอยู่อาศัยริมน้ำเป็นสิทธิของประชาชนที่รัฐยอมรับ การทำให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้จำเป็นต้องมีกฎกติกาที่ชัดเจนและยอมรับร่วมกัน เริ่มจากการทำให้ประชาชนรู้และเข้าใจในสิทธิของตน เพื่อจูงใจให้มีส่วนร่วมบริหารและจัดการผลประโยชน์ ช่วยเหลือสอดส่องดูแลชุมชนกันอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันภาครัฐจำเป็นต้องมีความชัดเจนในเรื่องหลักการปฏิบัติและจัดให้มีการรวมศูนย์การบริหารจัดการด้วยเช่นกัน
A9475
