WORLD7

BKI ปี 66 กำไรทำสถิติสูงสุดรอบ 76 ปี ตั้งเป้าปี 67 เบี้ยรับโต 8% ปรับพอร์ตขายหุ้นโยกลงทุนพันธบัตร

1a 1BKI

BKI ปี 66 กำไรทำสถิติสูงสุดรอบ 76 ปี ตั้งเป้าปี 67 เบี้ยรับโต 8% ปรับพอร์ตขายหุ้นโยกลงทุนพันธบัตร

BKI กรุงเทพประกันภัย ปี 2566 โตตามแผน หลังงวด 9 เดือนท็อปฟอร์ม กำไรได้ 2.5 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดรอบ 76 ปี เปิดแผนปี 2567 เบี้ยรับรวมโต 8% แตะ 32,500 ล้านบาท ลุ้นกำไรทะลุ 3,000 ล้านบาท ปรับพอร์ตโยกเงินฝากลงทุนพันธบัตรดาวรุ่งผลตอบแทนดี ส่วนตลาดหุ้นหดตัวลงขายหุ้นใน SET ออกไปบางส่วนเพื่อทำกำไร

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) BKI เผยว่า แผนธุรกิจปี 2567 บริษัทตั้งเป้าเบี้ยรับรวม เติบโต 8% หรือ ประมาณ 2,400 ล้านบาท มาอยู่ที่ 32,500 ล้านบาท จากปี 2566 ที่คาดเบี้ยรับรวมจะทำได้ 30,000 ล้านบาท และมีกำไรมากกว่า 3,000 ล้านบาท ขณะที่ผลดำเนินงานปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังงวด 9 เดือน บริษัทมีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 21,982 ล้านบาท เติบโต 12.5% และมีกำไร 2,546 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่บริษัทเปิดดำเนินการมา 76 ปี

ทั้งนี้ การทำธุรกิจในปี 2567 ยังมีความไม่แน่นอน และหลายสำนักคาดการว่า GDP จะโต 3.7-3.8% จากปีนี้ 2.4-2.5% ซึ่งการที่บริษัทสามารถเติบโตได้ 8% ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี โดยปรัชญาในการบริหารจะต้องสร้างดุลยภาพระหว่างการเติบโตของเบี้ยรับรวมและการสร้างความมั่นคงเข้มแข็งของผลกำไรธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเรื่องเสถียรภาพ การเมืองในประเทศ ปัญหาหนี้สินในแรงงานภาคเอสเอ็มอี กว่า 1.3 ล้านคน ที่ความสามารถชำระหนี้น้อยลง จากปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้น จากดอกเบี้ยปัญหาหนี้ครัวเรือนที่พุ่งแตะ 90% ของ GDP ล้วนส่งผลกระทบทางอ้อมต่อธุรกิจประกันภัยในที่สุด

      สำหรับ ปี 2567 บริษัทยังคงเชื่อว่า จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยพอร์ตที่จะเป็นตัวผลักดันหลัก คือ ประกันภัยรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพราะเป็นเทรนด์อนาคต โดยปีนี้มียอดรถอีวีจดทะเบียน 100,000 คัน เติบโตขึ้น 10 เท่าจากปีที่แล้ว (ยอดจดทะเบียนแค่ 10,000 คัน) และเชื่อว่าปีหน้าคงจะมีการเติบโตต่อเนื่อง

       สำหรับ ตลาดรถอีวี มีสิ่งที่ต้องพิจารณา ได้แก่ หลายบริษัทประกันภัยมองเป็นโอกาสเข้ามาแข่งขันแย่งชิงเค้กก้อนนี้ ซึ่งการแย่งชิงเค้กในตลาดประกันภัยไทยใช้กลไกทางราคา โดยจากข้อมูลตลาดโลกพบว่าเบี้ยประกันรถอีวีในตลาดญี่ปุ่นมีอัตราสูงกว่าเบี้ยประกันรถสันดาป 10-20% และในตลาดสหรัฐอเมริกาสูงถึง 25% แต่ในประเทศไทยเบี้ยรถอีวีจะต่ำกว่าเบี้ยรถสันดาปแล้ว

      โดยปัจจุบันอัตราความเสียหายหรือเคลมสินไหม (Loss Ratio) ของรถอีวี ทุกบริษัทมองว่า อยู่ได้ เพราะปีแรกๆ แค่ระดับ 10-15% แต่ผ่านไป 2 ปี กระโดดขึ้นมาเป็น 40% และปีนี้ Loss Ratio เฉลี่ยของตลาดขึ้นไปเกือบ 60% แล้ว แต่ในความเป็นจริงมองว่า ถ้าเบี้ยที่แข่งกันในราคาที่ต่ำ Loss Ratio ไปถึงระดับ 75-80% จะอยู่รอดไม่ได้ เพราะไม่มีกำไร เพราะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นอีก 18% ดังนั้น BKI ยังต้องรอบคอบในประเด็นเหล่านี้

      ในส่วนของ พอร์ตลงทุน BKI จึงขยับพอร์ตลงทุนในสภาวะที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลง เงินทุนไหลออกต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมีการขายหุ้นใน SET ออกไปบางส่วน เพื่อทำกำไร และปรับพอร์ตด้วยการย้ายเงินฝากไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อสอดรับกับทิศทางดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งมีเทรนด์การลงทุนชัดเจนในตราสารหนี้ จะให้ผลตอบแทนที่ดี

      อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR)ปีนี้ คาดเฉลี่ยอยู่ที่ 2.5-3% ส่วนปี 2567 คาดจะใกล้เคียงจากปีนี้ เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้นยังมีความผันผวน และมีความไม่แน่นอนจากเศรษฐกิจโลก

     "การขายหุ้นที่มีกำไรออกไป และรอจังหวะที่ดีเพื่อเข้าไปซื้อหุ้นอีกรอบ โดยก่อนหน้านี้  BKI ได้โยกเงินฝากประมาณ 3,000 ล้านบาท ไปลงพันธบัตรรัฐบาล เพื่อรับดอกเบี้ยที่ดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้เงินฝากคงเหลือไว้ที่ 6,000 ล้านบาท"ดร.อภิสิทธิ์ กล่าว

 

Click Donate Support Web 

 

 Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

SME 720x100 66

kasat 720x100TOA 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100ais 720x100

TU 720x100 66

gen 720x100

สภาพัฒน์ฯ สศช.

สำนักนายกฯ

ส่งเสริมการลงทุน BOI

ทหาร-กลาโหม

Viriyha620x100

แบงก์ชาติ

บริษัทจดทะเบียน

หุ้นเด่นวันนี้!

180

วางแผงแล้วครับท่านผู้ชม...  

คลิกสมัครสมาชิกได้ที่นี่....

พาณิชย์

อสังหาริมทรัพย์

การตลาด

Insurance ประกัน

บทความการเงิน

Direct Sale ขายตรง

การศึกษา

ศาสนา

ไอที-เทคโนฯ

ข่าว กรุงเทพ

แรงงาน

ข่าวสังคม

กีฬา

ท่องเที่ยว

INVESMENTE

FUND

SEC

สภาอุตสาหกรรม

กรมศุลกากร

กรมสรรพสามิต

สำนักหนี้สาธารณะ