WORLD7

EXIM BANK แถลงผลดำเนินงานปี 66 ยอดสินเชื่อพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เดินหน้าบทบาท Green Development Bank ขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

2280 EXIM

EXIM BANK แถลงผลดำเนินงานปี 66 ยอดสินเชื่อพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เดินหน้าบทบาท Green Development Bank ขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

          ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงผลการดำเนินงานปี 2566 ของ EXIM BANK ว่า ณ สิ้นปี 2566 EXIM BANK มีวงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 70,628 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินของผู้ประกอบการ SMEs จำนวน 10,792 ล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้าง 175,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,273 ล้านบาท หรือ 4.32% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงที่สุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานในปี 2537 ทั้งนี้ กว่า 2 ใน 3 เป็นยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการลงทุนจำนวนรวม 120,970 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.6% จากปีก่อน ตอกย้ำบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนา ซึ่งยกระดับเป็น “Green Development Bank” เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง ควบคู่กับการยกระดับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้เติบโตสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance: ESG)

          จากความมุ่งมั่นสนับสนุนการพัฒนาประเทศบนหลักการ ESG ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2566 EXIM BANK มียอดคงค้างสินเชื่อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นเป็น 62,278 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 35.46% ของสินเชื่อคงค้างทั้งหมด และเพิ่มขึ้นถึง 33.65% จากปีก่อน ในจำนวนนี้เป็น SMEs 12,644 ล้านบาท โดย EXIM BANK พัฒนาเครื่องมือทางการเงินสีเขียว (Green Finance) ด้านการระดมทุนด้วย SME Green Bond มูลค่า 3,500 ล้านบาท และด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมทางการเงิน เช่น สินเชื่อ Solar D-Carbon Financing สินเชื่อ EXIM Green Start เพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจสีเขียว ผลักดันให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) 

          นอกจากนี้ EXIM BANK ได้สานพลังกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ นำพาธุรกิจไทยขยายการค้าการลงทุนไปตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566 EXIM BANK มียอดคงค้างสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศทั้งสิ้น 49,299 ล้านบาท เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญในปี 2566 มีสินเชื่อคงค้างในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และ ตลาดใหม่ (New Frontiers) 40,675 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 23.16% ของสินเชื่อคงค้างทั้งหมด 

          ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงและสถานการณ์ความไม่สงบในหลายประเทศ EXIM BANK ยังเร่งเสริมสร้างความมั่นใจและภูมิคุ้มกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยผ่านบริการประกันการส่งออกและการลงทุน โดย ณ สิ้นปี 2566 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและการลงทุนเท่ากับ 179,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.03% จากปีก่อน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

          การมุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งด้านสินเชื่อและประกันของ EXIM BANK ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566 มีจำนวนลูกค้า 5,826 ราย เป็นลูกค้า SMEs 82.49% คิดเป็น 22% ของผู้ส่งออก SMEs ไทย นอกจากนี้ EXIM BANK ยังสนับสนุนผู้ประกอบการอย่างครบวงจร ผ่านการบ่มเพาะ ให้ความรู้ จับคู่ทางธุรกิจ และให้คำปรึกษาทางการเงิน โดย ณ สิ้นปี 2566 EXIM BANK ได้ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการสะสมกว่า 19,100 ราย สะท้อนการอยู่เคียงข้าง SMEs ไม่ทิ้งคนตัวเล็ก ดูแลช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ในเวทีโลกภายใต้มาตรฐานการค้าโลกและกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น 

          ขณะเดียวกัน EXIM BANK ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทางการเงินเพื่อความยั่งยืน โดยมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จำนวน 8,157 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2566 เท่ากับ 4.65% และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 15,556 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) 190.70% ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2566 EXIM BANK มีกำไรจากการดำเนินงาน 3,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.27% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 456 ล้านบาท 

          สำหรับในปี 2567 EXIM BANK ยังคงเดินหน้าตอกย้ำบทบาทการเป็น Green Development Bank โดยมีแผนพัฒนาเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ หลายด้าน เช่น Blue Bond สนับสนุนธุรกิจที่อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ผลิตภัณฑ์สนับสนุนการลดคาร์บอน Scope ที่ 1-2-3 (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง ทางอ้อมที่เกิดจากการใช้พลังงาน และทางอ้อมอื่นๆ จากการดำเนินงานขององค์กร) และเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 รวมทั้งขยายขอบเขตการให้บริการ อาทิ วาณิชธนกิจ (Investment Banking) ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่นนอกเหนือจากสินเชื่อเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเร่งยกระดับประสิทธิภาพองค์กร ด้วยการพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัล การปรับปรุงระบบงาน และการปรับโครงสร้างองค์กรโดยจัดแบ่งฝ่ายงานการตลาดตามความเชี่ยวชาญมากยิ่งขึ้น อันสะท้อนให้เห็นว่า EXIM BANK เป็นมากกว่าธนาคาร (Beyond Banking) ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืนไปกับสังคมและสิ่งแวดล้อม

          “ท่ามกลางปัจจัยท้าทายจากโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว EXIM BANK ยังเดินหน้าบทบาทที่เป็นมากกว่าธนาคาร ช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้ปรับตัวและแข่งขันได้ในเวทีโลก ควบคู่กับการกระตุ้นการส่งออกและการลงทุนของผู้ประกอบการไทยที่จะช่วยสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ขยายพอร์ตสินเชื่อให้เป็นสีเขียวเพิ่มมากขึ้น ผลักดันการพัฒนานวัตกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัล ต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคต ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกอย่างยั่งยืน” ดร.รักษ์ กล่าว

 

 

2280

Click Donate Support Web 

SME 720x100 66

CKPower 720x100

TOA 720x100

Banner GPF720x100 PX

EXIM One 720x90 C J

QIC 720x100

kbank 720x100 66

วิริยะ 720x100

MTL 720x100

 

 

 

AXA 720 x100

gen 720x100

hino2021

สภาพัฒน์ฯ สศช.

สำนักนายกฯ

ส่งเสริมการลงทุน BOI

ทหาร-กลาโหม

Viriyha620x100

แบงก์ชาติ

บริษัทจดทะเบียน

หุ้นเด่นวันนี้!

180

วางแผงแล้วครับท่านผู้ชม...  

คลิกสมัครสมาชิกได้ที่นี่....

พาณิชย์

อสังหาริมทรัพย์

การตลาด

Insurance ประกัน

บทความการเงิน

Direct Sale ขายตรง

การศึกษา

ศาสนา

ไอที-เทคโนฯ

ข่าว กรุงเทพ

แรงงาน

ข่าวสังคม

กีฬา

ท่องเที่ยว

INVESMENTE

FUND

SEC

สภาอุตสาหกรรม

กรมศุลกากร

กรมสรรพสามิต

สำนักหนี้สาธารณะ