ประเทศในเอเชียลองใช้กลยุทธ์ใหม่เพื่อให้ผู้คนเข้าร่วมด้วยวัคซีน : รางวัลฟรี
Charmaine Jacob ไวรัสโคโรน่า
ประเด็นสำคัญ
ภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่กำลังดิ้นรนกับอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำ เนื่องจากความลังเลของวัคซีนยังคงมีอยู่ หลายประเทศไม่สามารถรับวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชนของตน
ภาคธุรกิจและรัฐบาลท้องถิ่นกำลังออกมาตรการจูงใจให้ผู้ที่ยังลังเลใจว่าจะรับการฉีดวัคซีนโควิด-19
ธุรกิจในฮ่องกงเสนออพาร์ตเมนต์และไมล์ของสายการบิน ในขณะที่ประเทศอย่างฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียกำลังแจกปศุสัตว์
An elderly man is administered with the AstraZeneca Covid-19 vaccine at the Central Vaccination Center in Bang Sue Grand Station on July 13, 2021 in Bangkok, Thailand.
Sirachai Arunrugstichai | Getty Images News | Getty Images
Businesses and local governments in Asia are coming up with creative ways to encourage vaccines among people still hesitant to get one - doling out everything from gold to farm animals.
The Asia-Pacific region is battling a Covid resurgence as major cities in China, Malaysia, Indonesia and Australia report rising daily cases, especially from the highly contagious delta variant of the disease.
แต่เอเชียส่วนใหญ่กำลังดิ้นรนกับอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำ เนื่องจากความลังเลของวัคซีนยังคงมีอยู่และการบิดเบือนข้อมูลของวัคซีนก็แพร่กระจายไป
ยิ่งไปกว่านั้น หลายประเทศไม่สามารถรับยาเพียงพอสำหรับประชาชนของตน
ความก้าวหน้าของวัคซีนในภูมิภาคนี้ล่าช้ากว่ายุโรปและอเมริกาเหนือ ตามรายงานจากโลกของเราในข้อมูล ณ วันที่ 8 ส.ค. ชาวยุโรป 41.6% และชาวอเมริกาเหนือ 38.8% ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน เทียบกับเพียง 11.6% ของคนในเอเชีย
ธุรกิจในฮ่องกงกำลังแจกรางวัลเพื่อเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนท่ามกลางความไม่ไว้วางใจของสาธารณชนต่อรัฐบาล
สปอนเซอร์หลายรายรวมถึงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Sino Group จัดการจับรางวัลสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว รางวัลสูงสุดคือ อพาร์ทเมนต์ใหม่แบบหนึ่งห้องนอน มูลค่าประมาณ 10.8 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (1.39 ล้านดอลลาร์)
เพื่อสนับสนุนการรณรงค์ฉีดวัคซีนของรัฐบาล สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคมีไมล์สะสมในเอเชียถึง 20 ล้านไมล์ ผู้ชนะ 1 คนจะได้จัดปาร์ตี้ส่วนตัวบนเครื่องบิน Airbus A321neo ลำใหม่ของสายการบิน
องค์กรของบริษัทซื้อขายทองคำ - การแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน - กำลังแจกทองคำมูลค่า 1.1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงแก่ผู้ที่ได้รับการยิง Covid สองครั้ง
จำนวนสิ่งจูงใจที่ได้รับจากธุรกิจมีมูลค่ารวมกว่า 73 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (9.4 ล้านดอลลาร์) หนังสือพิมพ์ เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานเมื่อเดือนมิถุนายน ประมาณ 35% ของประชากรฮ่องกงได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว ณ วันที่ 8 ส.ค. ตามข้อมูลโลกของเรา
ทั้งรัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทในภาคเอกชนต่างก็ทำหน้าที่สนับสนุนให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นฉีดวัคซีน
เทศบาลเมืองซานหลุยส์ Pampanga เปิดตัวแคมเปญให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโอกาสที่จะชนะวัว
สภาคองเกรส Camille Villar เสนอสิ่งจูงใจให้กับผู้คนในเมืองของเธอหากพวกเขาได้รับการฉีดวัคซีน ประชาชนจาก Las Pinas ซิตี้น่าจะมีโอกาสที่จะชนะบ้าน, รถจักรยานยนต์และแม้กระทั่งร้านขายของชำถ้าพวกเขาได้รับอย่างน้อยหนึ่งวัคซีน Covid ที่ มะนิลาไทม์สรายงาน
ในเขตชานเมืองของกรุงมะนิลาใน Sucat 20 คนจะมีโอกาสที่จะกลับบ้านกระสอบ 25 กิโลกรัม (55 ปอนด์) ของข้าวทุกสัปดาห์ถ้าพวกเขาได้รับภาพของพวกเขาตามที่ สำนักข่าวรอยเตอร์ความคิดริเริ่มนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อดึงดูดผู้อยู่อาศัยที่ยากจนซึ่งต้องการการผลักดันเพิ่มเติมเพื่อรับการฉีดวัคซีน สำนักข่าวกล่าว
ในขณะที่บางคนให้รางวัล บางคนก็คุกคามผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน หลังจากมีผู้ออกมาประท้วงในสถานที่ฉีดวัคซีนหลายแห่งในกรุงมะนิลา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตของฟิลิปปินส์ได้เตือนประชาชนว่า “หากคุณไม่ต้องการรับวัคซีน ฉันจะจับคุณให้ได้”
ขณะที่เมืองเตรียมที่จะเข้าสู่การล็อกดาวน์สองสัปดาห์ในวันศุกร์ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ว่าผู้คนหลายพันคนมารวมตัวกันที่ศูนย์ฉีดวัคซีนทั่วกรุงมะนิลา
มีเพียง 9.8% ของประชากรในประเทศที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนในวันที่ 5 ส.ค. จากข้อมูลของ Our World in Data
อินโดนีเซียมีจำนวนผู้ป่วยสูงสุดเป็นอันดับสองในเอเชีย จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ทางการกำลังแจกไก่มีชีวิต 500 ตัวแก่ผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนในเมืองซิปานัส ในจังหวัดชวาตะวันตก ตามรายงานของสื่อหลายสำนัก
ประมาณ 85% ของประชากรอินโดนีเซียเป็นมุสลิม แม้จะได้รับการอนุมัติทางศาสนาจากองค์กรอิสลามชั้นนำของประเทศแต่หลายคนก็ยังกังวลว่าวัคซีนจะฮาลาลหรือได้รับอนุญาตจากศาสนาอิสลามหรือไม่
'ผมกลัวว่า ถ้าผมฉีดวัคซีนผมจะตายทันที ... จากนั้นก็มีข่าวกังวลมากขึ้นว่าวัคซีนนี้มีหมู' Asep Saepudin, ถิ่นที่อยู่ 67 ปีของซิปานัส, รอยเตอร์บอกว่า
8.7% ของประชากรทั้งหมดของอินโดนีเซียได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ตามข้อมูลโลกของเรา
ในประเทศอินเดีย, ห่วงโซ่อาหารอย่างรวดเร็ว โดนัลด์ จะนำเสนอลูกค้าของวัคซีนส่วนลด 20%
มีรายงานว่าช่างทองในเมืองราชคต รัฐคุชราต ได้รวมตัวกันเพื่อสนับสนุนผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปีให้ฉีดวัคซีน ผู้หญิงได้รับหมุดจมูกสีทองสำหรับฉีดวัคซีน ขณะที่ผู้ชายได้รับเครื่องปั่นแบบใช้มือ หนังสือพิมพ์ ฮินดูสถานไทมส์ กล่าว
อินเดียรายงานเมื่อวันศุกร์ว่าประเทศนี้ให้วัคซีนมากกว่า 500 ล้านโดส
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ มีเพียง 8.2% ของประชากรทั้งหมดที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วน จากข้อมูลของ Our World in Data
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่าประเทศอาจกำลังเผชิญกับการติดเชื้อระลอกที่สามในอีกไม่กี่เดือนข้าง หน้า
ประเทศจีนเริ่มโครงการฉีดวัคซีนได้ช้า เนื่องจากรัฐบาลค่อนข้างประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของไวรัสในช่วงแรกของการระบาดใหญ่ทั่วโลก เป็นผลให้ประชาชนจำนวนมากไม่เห็นความเร่งด่วนในการฉีดวัคซีนจนกว่าจะมีการฟื้นตัวในประเทศ
ในเดือนมีนาคมปีนี้ศูนย์สุขภาพปักกิ่งถูกให้ออกไป 5.5 ปอนด์ (2.5 กิโลกรัม) ของไข่ที่อาศัยอยู่ที่ 60 ปีขึ้นไปเมื่อพวกเขาได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันการยิงครั้งแรกของพวกเขา, Associated Press รายงาน
อย่างไรก็ตาม บางภูมิภาคใช้แนวทางที่รุนแรงกว่า
เจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยมชมรายงานว่าหมู่บ้านที่จะโน้มน้าวให้พวกเขาที่จะได้รับการฉีดวัคซีนและก็บอกว่ามันเป็นหน้าที่ของชาติของพวกเขา, วอชิงตันโพสต์กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงานของสำนักข่าวซินหวาของสื่อทางการโดยอ้างถึงคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ
— Joanna Tan แห่ง CNBC สนับสนุนการรายงานนี้
More Articles
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
เอดีบี หั่นเป้า จีดีพี ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียเหลือ 6.1% ปีนี้ 6.2% ปีหน้า - ลดเป้าจีดีพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปีนี้เหลือ 5.1%
นายซาง-จิน เหว่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) รายงานว่า ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียลงสู่ระดับ 6.1% ปีนี้ และ 6.2% ในปีหน้า จากเดิมที่ 6.3% ที่ประเมินไว้เมื่อเดือนมี.ค.
ทั้งนี้รายงานแนวโน้มการพัฒนาเอเชียประจำปี 2558 ของ ADB ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงเกินคาดในสหรัฐและจีนได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ซึ่งมี 45 ประเทศที่เป็นสมาชิกของ ADB โดยไม่รวมประเทศสมาชิกอย่าง ญี่ปุ่น
นอกจากนี้รายงานของ ADB ประเมินว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะอยู่ที่ 7.0% ในปี 2558 และ 6.8% ในปี 2559
ส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ADB ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 4.6% จากเดิม 4.9% โดยมีปัจจัยถ่วงจากเศรษฐกิจครึ่งปีแรกที่ชะลอตัวกว่าคาดในอินโดนีเซีย สิงคโปร์และไทย ขณะเดียวกัน ADB ได้ปรับลดแนวโน้มการเติบโตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2559 สู่ระดับ 5.1% ซึ่งลดลง 0.2% จากการประเมินในเดือนมี.ค.
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
โครงการ MEET TAIWAN นำการแข่งขัน'เอเชีย ซุเปอร์ ทีม' กลับมาเป็นปีที่สอง
กลุ่มธุรกิจชั้นนำเข้าแข่งขันชิงแพคเกจท่องเที่ยวแบบอินเซ็นทีฟสู่ประเทศไต้หวัน ด้วยมูลค่าถึง 50,000 เหรียญสหรัฐฯ พร้อมบริจาคเงินการกุศลให้แก่องค์กรท้องถิ่นของประเทศผู้ชนะ
MEET TAIWAN เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นโดย สภาส่งเสริมการส่งออกแห่งไต้หวัน (Taiwan External Trade Development Council หรือ TAITRA) ได้ทำการเปิดตัว'Asia Super Team: Team Up for Good'การแข่งขันทางธุรกิจประจำปีเพื่อส่งเสริมประเทศไต้หวันให้เป็นจุดหมายปลายทางแรกในเอเชีย สำหรับการเดินทางแบบอินเซ็นทีฟ (Incentive travel) พร้อมกับการได้ทำการกุศล
'Asia Super Team: Team Up for Good' เป็นการแข่งขันทางธุรกิจระดับนานาชาติของ MEET TAIWAN ที่มีขึ้นเป็นปีที่สอง ที่มีทั่วทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย และออสเตรเลีย โดยโครงการนี้จะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 รอบ ประกอบด้วยรอบการนำเสนอแผนงานทางออนไลน์และประเภทออฟไลน์คือไปทัวร์เพื่อได้สัมผัสกับความงามของทรัพยากรกับอันน่าจูงใจที่ประเทศไต้หวัน
การลงทะเบียนและการส่งผลงานเข้าร่วมในโครงการ 'Asia Super Team: Team Up for Good' เปิดรับลงทะเบียนที่ http://asiasuperteam.meettaiwan.com/ ในวันที่ 30 สิงหาคม 2558 เวลา 22.59 น. (ตามเวลาประเทศไทย) เปิดให้คนทั่วไปลงคะแนนได้ในวันที่ 3 สิงหาคม 2558 เวลา 11.00น. ไปจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2558 เวลา 22.59 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ผู้ชนะเลิศจะได้รับรางวัลแพ็คเกจเดินทางไปยังประเทศไต้หวัน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 50,000 เหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ทาง MEET TAIWAN จะบริจาค 5,000 เหรียญสหรัฐฯ ให้กับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรของประเทศผู้ชนะที่ผู้ชนะได้เลือกไว้เพื่อเป็นรางวัลใหญ่สุด
3 หัวข้อใหม่สำหรับการแข่งของรายการ 'Asia Super Team' ในปี 2558
1. การเข้าถึงตลาดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง (Wider reach of target markets)
'Asia Super Team'ขยายวงกว้างไปยังกลุ่มผู้ประกอบการที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียซึ่งเป็นตลาดที่มีจำนวนผู้เดินทางเยี่ยมชมประเทศไต้หวันสูงที่สุด ในปี 2558 “Asia Super Team” เสนอคำเชิญการแข่งขันให้กับกลุ่มธุรกิจชั้นดีในสองตลาดใหม่ อันได้แก่ ประเทศไทยและออสเตรเลีย ตลอดจนญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และมาเลเซีย
2. ความสำคัญอันลึกซึ้งของผู้เข้าร่วมธุรกิจ (Deeper significance for business participants)
ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร (Corporate social responsibilities หรือ CSR) เป็นปัจจัยสำหรับการแข่งขันทั้ง 2 รอบ เบื้องต้นคือรอบออนไลน์และตามมาด้วยรอบสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นที่ประเทศไต้หวัน ผู้เข้าแข่งขันสามารถนำเสนอการวางแผนการเดินทางแบบอินเซ็นทีฟ (Incentive travel) ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งสามารถเพิ่มขวัญกำลังใจของพนักงาน กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ และมุ่งมั่นถึงการดูแลสังคม และแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมและความคิดริเริ่มทางธุรกิจที่เห็นแก่ผู้อื่น
3. แรงจูงใจที่เพิ่มขึ้นสำหรับธุรกิจและประเทศที่ชนะการแข่งขัน (Enhanced incentives for winning business and its country)
ทีมผู้ชนะเลิศจะไม่เพียงแค่ได้ได้รับรางวัลแพ็คเกจเดินทางไปยังประเทศไต้หวัน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 50,000 เหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังจะได้ร่วมบริจาคเงินให้กับองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกไว้กับ MEET TAIWAN อีกด้วย สำหรับผู้เข้าร่วมที่ทำการเข้าโซเชียลมีเดียของตัวเองเพื่อทำการลงคะแนนเสียงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมชิงรางวัลตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปยังประเทศไต้หวัน โดยรางวัลตั๋วเครื่องบินนี้ได้รับการสนับสนุนจากสายการบินไชน่า แอร์ไลน์
วิธีการมีส่วนร่วมใน Asia Super Team
Asia Super Team: Team Up for Good ประกอบไปด้วยรอบการแข่งขันทั้งหมด 2 รอบ คือรอบการแข่งขันทางออนไลน์และการแข่งขันรอบสุดท้ายเป็นการท่องเที่ยวในประเทศไต้หวันระยะเวลา 5 วัน 4 คืน ตั้งแต่วันที่ 12-16 ตุลาคม 2558 โดย MEET TAIWAN เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
【รอบที่ 1: รอบการแข่งขันทางออนไลน์】โดยเบื้องต้น เชิญชวนให้ผู้เข้าแข่งขันทุกท่านส่งนำเสนอแผนการเดินทางซึ่งสามารถนำเสนอความชื่นชอบและความเข้าใจของเขาที่มีต่อสภาพแวดล้อมของการเดินทางแบบอินเซ็นทีฟ (Incentive travel) ของไต้หวัน ธุรกิจผู้เข้าประกวดจะต้องมีส่วนร่วมในการนำเสนอแผนงานบนโซเชียลมีเดียเพื่อขอคะแนนเสียงจากคนทั่วไปให้เป็นอันดับสูงสุดเพื่อที่จะเข้าไปสู่รอบสุดท้ายในประเทศไต้หวัน
【รอบที่ 2: การแข่งขันรอบสุดท้ายในประเทศไต้หวัน】การแข่งขันรอบสุดท้ายในประเทศไต้หวันเปิดให้ธุรกิจชั้นนำจาก 6 ประเทศดังกล่าวข้างต้น ได้สัมผัสกับทุกแง่มุมของการจัดประชุมและจัดนิทรรศการที่ประเทศไต้หวันในขณะที่ทำการค้าขายแทนบริษัทภายใต้ความคิดริเริ่ม 3 หัวข้อคือ ฟื้นฟูวัฒนธรรมท้องถิ่น การรักษาสิ่งแวดล้อม และการบริการให้กับผู้ด้อยโอกาส
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทะเบียนสมัครได้ที่ https://goo.gl/Y684uu
เกี่ยวกับ 'Asia Super Team'
ในปี 2557 MEET TAIWAN ได้ทำการเปิดตัวการแข่งขัน Asia Super Team ซึ่งเป็นการแข่งขันระดับองค์กรต่างๆ ในเอเชียที่ได้ทำการตลาดประสบการณ์ (Experience Marketing) เพื่อส่งเสริมประเทศไต้หวันในฐานะจุดหมายปลายทางในอุดมคติสำหรับการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ และการจัดนิทรรศการ หรือ อุตสาหกรรมไมซ์ (Meetings, Incentives, Conventions, and Exhibitions: MICE)
ในการแข่งขันรอบสุดท้ายของ Asia Super Team ประจำปี 2557 ในประเทศไต้หวัน (https://goo.gl/7cmNhq) ผู้เข้าแข่งขัน 4 คนของแต่ละบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกได้เข้าร่วมการแข่งขันเป็นระยะเวลา 5 วัน 4 คืน ซึ่งเปิดโอกาสในการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และการสร้างขวัญกำลังใจในทีม ผ่านชุดกิจกรรมท้าทายที่ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ได้แก่ กิจกรรมการฝึกอบรมของนักล่าพื้นเมืองของชนเผ่าดั้งเดิมที่มีชื่อว่า เลอ ซุ่ย (Leshui) กิจกรรมการแสดงตีกลองร่วมกับกลุ่มศิลปินที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อย่างกลุ่ม เท็น ดรัม อาร์ท เพอร์คัสชัน กรุ๊ป (Ten Drum Art Percussion Group) ณ เท็น ดรัม เชียวโถว ครีเอทีฟ พาร์ค (Ten Drum Ciaotou Creative Park) ใน เกาสง (Kaohsiung) และกิจกรรมการร้องเพลงไต้หวันยอดนิยมในขบวนพาเหรดเรือของไต้หวัน เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันตัวแทนองค์กรที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบสุดท้ายได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ความหลากหลายและความมีชีวิตชีวาของการเดินทางแบบอินเซ็นทีฟ (Incentive travel) ในประเทศไต้หวันที่น่าตื่นเต้นและสนุกสนานด้วย
การแข่งขัน Asia Super Team ประจำปี 2558 จะประกอบด้วยกิจกรรมที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างคนในทีมในหัวข้อความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรและการกุศล เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลที่มีความสำคัญยิ่งขึ้น และขยายขอบเขตจินตนาการของผู้คนที่มีต่อการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลในประเทศไต้หวัน รวมทั้งยังเพิ่มโอกาสการพิจารณาขององค์กรในการเลือกประเทศไต้หวันเป็นจุดหมายปลายทางในการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบไมซ์
เกี่ยวกับ MEET TAIWAN
ในปี 2552 สำนักงานการค้าระหว่างประเทศ (Bureau of Foreign Trade) แห่ง กระทรวงเศรษฐกิจ (Ministry of Economic Affairs) ได้วางแผนอย่างกระตือรือร้นในการส่งเสริมการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล การประชุมนานาชาติ และการจัดนิทรรศการ หรือ อุตสาหกรรมไมซ์ (Meetings, Incentives, Conventions, and Exhibitions: MICE) ของไต้หวัน ซึ่งได้บรรลุผลสำเร็จ รวมถึงสถานที่ทั้งหมดยังได้รับการพัฒนาอีกด้วย และเพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมไมซ์อย่างต่อเนื่อง หน่วยงานดังกล่าวจึงได้วางแผนที่จะดำเนินการแผนงานที่มีชื่อว่า “MEET TAIWAN” ซึ่งเป็นแผนที่มีระยะเวลาระหว่างปี 2556-2559 และถูกคาดหวังว่าอุตสาหกรรมไมซ์จะถูกพัฒนาในระดับระหว่างประเทศภายใต้การสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาลไต้หวัน ทั้งนี้ จากความคาดหวังในการ “สร้างอุตสาหกรรมไมซ์ไต้หวันให้กลายเป็นผู้บุกเบิกที่โดดเด่นในการบริการของอุตสาหกรรมไมซ์” ทำให้ “MEET TAIWAN” มีจุดมุ่งหมายระยะยาวในการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของบริการอุตสาหกรรมไมซ์ ซึ่งเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับภาพลักษณ์ระหว่างประเทศและความสามารถในการแข่งขันของแบรนด์ในอุตสาหกรรมไมซ์ของไต้หวัน และเป็นการพัฒนาไต้หวันให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของอุตสาหกรรมไมซ์ทั่วโลก นอกจากการสร้างจุดเด่นให้กับไต้หวันในอุตสาหกรรมไมซ์อย่างต่อเนื่องแล้ว โครงการดังกล่าวยังรวมถึงการนำ MEET TAIWAN ซึ่งเป็นแบรนด์อุตสาหกรรมไมซ์ของไต้หวัน วางสู่ตลาด และเสริมความแข็งแกร่งของระดับความรู้ของคนทั้งในและนอกประเทศที่มีต่ออุตสาหกรรมไมซ์ของไต้หวัน เพื่อสร้างผลประโยชน์ระหว่างประเทศให้กับอุตสาหกรรมไมซ์ของไต้หวัน และดึงดูดการจัดงานของอุตสาหกรรมไมซ์ระหว่างประเทศมาจัดที่ประเทศไต้หวัน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.meettaiwan.com
เกี่ยวกับสภาส่งเสริมการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA)
ในปี 2513 กระทรวงเศรษฐกิจ (Ministry of Economic Affairs) ได้ร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐบาล สมาคมของภาคอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมเอกชน และกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในการก่อตั้งสภาส่งเสริมการส่งออกแห่งไต้หวัน (Taiwan External Trade Development Council หรือ TITRA) ซึ่งเป็นองค์กรสนับสนุนการค้าที่ไม่แสวงผลกำไรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไต้หวัน ที่มีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ในการขยายการค้าไปยังตลาดต่างประเทศโดยไททรา (TITRA) ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทางด้านการค้ามืออาชีพจำนวนกว่า 700 คน และนอกจากสำนักงานใหญ่ที่ตั้งอยู่ในไทเปแล้ว ไททรายังได้ก่อตั้งบริษัทสาขาย่อยในต่างประเทศกว่า 50 แห่งทั่วโลก นอกจากนี้ไททรายังได้ก่อตั้งศูนย์ส่งเสริมการค้ารัฐบาลไต้หวัน (Taiwan Trade Center หรือ TCC) ซึ่งเป็นองค์กรในเครือที่ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างเครือข่ายการบริการด้านการค้าที่สมบูรณ์ ทั้งนี้ นอกจากการให้ความสำคัญในการสนับสนุนความสามารถทางการตลาดระหว่างประเทศแล้ว ไททรายังให้บริการที่มีประสิทธิภาพที่สุดและรวดเร็วที่สุดในการพัฒนาเศรษฐกิจของไต้หวันร่วมกับบริษัทต่างๆอย่างมั่นคงและสม่ำเสมอ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ www.taitra.org.tw
ปีติพระเทพ-ส่งของช่วยเนปาล 5 ตัน ปาฏิหาริย์ คุณปู่ 101 ปี ติดใต้ซาก นาน 7 วัน แต่ไม่ตาย
ปีติสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานสิ่งของช่วยเนปาลรวม 5 ตัน ประกอบด้วยเต็นท์นอน ถุงนอน เครื่องกันหนาว ยารักษาโรค รองราชเลขานุการในพระองค์ฯ นำสิ่งของพระราชทานขึ้นเครื่องบินทอ. ออกจากดอนเมืองถึงเนปาลเช้าวันที่ 4 พ.ค. ตะลึงพบคุณปู่กระดูกเหล็กอายุ 101 ปีติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของบ้านนาน 7 วัน หน่วยกู้ภัยเร่งนำตัวส่งร.พ. เผยพบศพอีก 51 รายบนพื้นที่เดินเขายอดนิยมใกล้กรุงกาฐมาณฑุ ยอดชาวเนปาลเสียชีวิตเกิน 7 พันรายแล้ว เจ็บ 1.4 หมื่นราย ยูนิเซฟเผยเด็ก 1.7 ล้านคนได้รับผลกระทบ พร้อมเร่งทางการช่วยเหลือเหตุใกล้ฤดูมรสุม ยูเอ็นหวั่นการทำงานล่าช้าของสำนักงานศุลกากรเนปาลที่รับผิดชอบตรวจสอบสิ่งของช่วยเหลือจากนานาชาติจะส่งผลกระทบต่อผู้ประสบภัยที่กำลังเดือดร้อนหนัก ทีมแพทย์ทหารไทยเดินเท้าเร่งช่วยผู้บาดเจ็บในพื้นที่ห่างไกล ทหารไทยผลิตน้ำประปาแจกผู้ประสบภัยแล้ว 3.4 หมื่นลิตร อีกคณะแพทย์ไทยบุกเยี่ยมช่างปั้นเมืองเพชรชื่อดังพบปลอดภัยดี ยืนยันอยู่บูรณะวัดที่เนปาลต่อไป
พระเทพฯมอบสิ่งของช่วยเนปาล
วันที่ 04 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8923 ข่าวสดรายวัน
พระราชทาน - กองทัพอากาศลำเลียงสิ่งของพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวม 5 ตัน ส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ที่สนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 3 พ.ค. |
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. เวลา 16.00 น. ที่ ท่าอากาศยานทหาร บน.6 ดอนเมือง นายสำเริง เอี่ยมสะอาด รองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นำสิ่งของพระราชทาน จำนวน 5 ตัน ประกอบด้วย เต็นท์นอน ถุงนอน เครื่องกันหนาว เตาแก๊ส ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ เพื่อนำไปบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยพิบัติเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล โดยมีพล.อ. สมหมาย เกาฏีระ เสนาธิการทหาร เป็น ผู้แทนกองทัพไทยในการรับมอบ สำหรับสิ่งของพระราชทานดังกล่าวจะขนส่งไปยังประเทศเนปาลในวันที่ 4 พ.ค. เวลา 04.30 น. จากท่าอากาศยานดอนเมือง โดยเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 ของกองทัพอากาศ
ทอ.เร่งส่งมอบสิ่งของพระราชทาน
พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ ให้สัมภาษณ์ว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราช ทานสิ่งของที่จำเป็นช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศเนปาลจำนวน 5 ตัน ในการนี้รัฐบาลโดยกระทรวงกลาโหมสั่งการผ่านกองบัญชาการกองทัพไทยให้กองทัพอากาศจัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H) จำนวน 2 เครื่อง นำสิ่งของพระราชทานดังกล่าวพร้อมสิ่งของจำเป็นเร่งด่วนของรัฐบาลส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ประเทศเนปาลในวันที่ 4 พ.ค. สำหรับสิ่งของพระราชทานจำนวน 5 ตัน ประกอบด้วย เต็นท์นอน ผ้าห่ม ที่นอน เตาแก๊ส ยารักษาโรค ปลา กระป๋อง และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ในการดำรงชีพ นอกจากนั้นยังมีสิ่งของจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลได้รับบริจาคที่จะส่งไปในครั้งนี้ด้วย ได้แก่ ผ้าห่ม แผ่นปูรองนอน ผ้ายาง ยาและเวชภัณฑ์ อาหารกระป๋อง น้ำดื่ม และอุปกรณ์ช่วยเหลือทางทหาร จำนวน 12 ตัน โดยเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 เครื่องแรกกำหนดเดินทางออกจากกองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลา 04.30 น. คาดว่าจะไป ถึงสนามบินกาฐมาณฑุในเวลาประมาณ 09.00 น. สำหรับเครื่องที่สองกำหนดเดินทางเวลา 05.00 น. คาดว่าจะไปถึงในเวลาประมาณ 09.30 น. (ตามเวลาในประเทศไทย)
พบคุณปู่ 101 ปีติดใต้ซากนาน 7 วัน
วันเดียวกัน เอเอฟพีระบุจากคำสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่อรุณ กุมาร ซิงห์ ตำรวจเขตนูวาคต ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 80 กิโลเมตร ว่าเมื่อวันที่ 2 พ.ค. หน่วยกู้ภัยสามารถช่วยเหลือนายฟุนชู ตามัง ชายสูงวัย อายุ 101 ปี ที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของบ้านเป็นเวลานาน 7 วันออกมาได้อย่างปลอดภัย มีเพียงบาดแผลขีดข่วนจากเหตุแผ่นดินไหวเท่านั้น นับเป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งหลังจากก่อนหน้านี้พบเด็กทารกวัยเพียง 4 เดือนรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิดหลังติดอยู่ใต้ซากอาคารนาน 22 ชั่วโมง ตามมาด้วยการช่วยเหลือนายเพมบา ทามัง ลามา อายุ 15 ปี ซึ่งประทังชีวิตใต้ซากอาคารฮิลตัน เกสต์เฮาส์ ในย่านกอนกาบู ของกรุงกาฐมาณฑุ ด้วยน้ำมันเนยหลังเกิดแผ่นดินไหวนานถึง 5 วัน เมื่อ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา
ไทยในเนปาล - ชุดปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเนปาล เยี่ยมนายสำรวย เอมโอษฐ์ ช่างปูนปั้นชื่อดังเมืองเพชรบุรี พร้อมด้วยทีมงานช่างปั้นคนไทยอีก 5 คน ที่ไปปั้นลวดลายประดับอุโบสถวัดสิริกิตติวิหาร วัดไทยที่เนปาล เมื่อวันที่ 3 พ.ค. |
ในวันเดียวกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถช่วยเหลือหญิง 3 คนในจังหวัดสินธุปาลโจก ในจำนวนนี้หญิง 1 คนถูกดินสไลด์ทับร่างจนเกือบมิด ขณะที่อีก 2 คนติดอยู่ใต้ซากอาคาร ซึ่งเจ้าหน้าที่นำตัวผู้รอดชีวิตทั้งหมดส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในเบื้องต้นแล้ว
ยอดเสียชีวิตเกิน 7 พัน-เจ็บ 1.4 หมื่น
เอเอฟพีรายงานสถานการณ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาลว่า นางวาเลรี อามอส หัวหน้าฝ่ายมนุษยธรรมของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงความวิตกว่า การทำงานล่าช้าของสำนักงานศุลกากรเนปาลที่รับผิดชอบตรวจสอบสิ่งของช่วยเหลือจากนานาชาติ จะส่งผลกระทบต่อผู้ประสบภัยที่ยังเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ทั้งความเป็นอยู่ อาหาร น้ำดื่ม และยารักษาโรค โดยยอดผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมในเนปาลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 7,250 รายแล้ว และอีกกว่า 14,000 คนบาดเจ็บ ขณะที่อินเดีย จีน ทิเบต และบังกลาเทศ พบผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งนี้มากกว่า 100 ราย
นางอามอสให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่ในกรุงกาฐมาณฑุว่า กังวลอย่างมากที่ได้รับรายงานว่าสำนักงานศุลกากรเนปาลใช้เวลามากในการตรวจสอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตนได้เรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีซูชิล คอยราลา ผู้นำเนปาล เพื่อให้เร่งกระบวนการตรวจสอบและช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ตนเข้าใจดีว่านายคอยราลาอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักจากทั้งภายในประเทศและประชาคมโลก แต่หวังว่าจะเห็นความคืบหน้าของการปรับปรุงการบริหารจัดการของรัฐบาลเนปาลในเร็ววัน นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่าไม่เพียงแค่สิ่งของช่วยเหลือจำนวนมากจะติดค้างอยู่ที่สนามบินนานาชาติตรีภูวันในกรุงกาฐมาณฑุ แต่ทางการเนปาลยังปิดกั้นรถบรรทุกซึ่งลำเลียงของช่วยเหลือที่ข้ามชายแดนมาจากอินเดียด้วย
จำกัดน้ำหนักบรรทุกเครื่องบิน
นายพิเรนทรา เชษฐา ผู้จัดการสนามบินนานาชาติตรีภูวัน เปิดเผยว่าเหตุที่การลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือและการคมนาคมในสนามบินติดขัดนั้นเนื่องจากสนามบินมีขนาดเล็ก และด้วยปัญหาจากแผ่นดินไหวจึงจำเป็นต้องประกาศห้ามเครื่องบินที่บรรทุกสิ่งของหนักกว่า 196 ตันลงจอด แม้ตอนนี้จะไม่มีรอยแตกบนพื้นรันเวย์ แต่หากอาฟเตอร์ช็อกยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง การรับน้ำหนักของเครื่องบินขนาดใหญ่อาจมีผลเสียร้ายแรงต่อสนามบินและการช่วยเหลือในระยะยาว
ด้านนายลักษมี ธากัล โฆษกกระทรวงมหาดไทยเนปาล ระบุว่าแม้ตอนนี้กองกำลังนานาชาติจากกว่า 20 ประเทศจะเดินทางมาสมทบ เพื่อค้นหาผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือน แต่รัฐบาลต้องการมุ่งเน้นการบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนหลายแสนคนที่กลายเป็นคนไร้บ้านมากกว่า
เผยเด็ก 1.7 ล้านคนรับผลกระทบ
ขณะที่สภากาชาดสากลแถลงเป็นห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ประสบภัยรอบนอกกรุงกาฐมาณฑุ รวมถึงจังหวัดสินธุปาลโจก ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงกาฐมาณฑุ และเมืองโกรคา ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ เนื่องจากการเข้าถึงทำได้ยาก เพราะพื้นที่ยังมีความเสี่ยงจากแรงสั่นสะเทือนของอาฟเตอร์ช็อก และซากปรักหักพังยังไม่ได้เก็บกู้
ด้านยูเอ็นประเมินความเสียหายเบื้องต้นว่า มีบ้านเรือนกว่า 160,000 หลังคาเรือนที่พังราบ และอีก 143,000 หลังคาเรือนเสียหาย ซึ่งกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) กล่าวว่า มีเด็กและเยาวชนมากกว่า 1.7 ล้านคน อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบ พร้อมเรียกร้องให้ทางการเร่งช่วยเหลือเนื่องจากใกล้ถึงฤดูมรสุมในอีกไม่กี่สัปดาห์ หากการช่วยเหลือยังล่าช้าจะทำให้ชีวิตเด็กกว่าล้านคนตกอยู่ในอันตราย ทั้งจากความเสี่ยงของโรคภัยไข้เจ็บและการได้รับอุบัติ เหตุจากซากบ้านเรือนที่ยังไม่มีการรื้อถอน
ปาฏิหาริย์ - นายฟุนชู ตามัง ชายสูงวัยอายุ 101 ปี ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของบ้านเป็นเวลานาน 7 วัน ก่อนหน่วยกู้ภัยจะสามารถช่วยออกมาได้อย่างปลอดภัย มีเพียงบาดแผลขีดข่วนจากเหตุแผ่นดินไหว นับเป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ที่ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 3 พ.ค. |
พบศพ 51 รายบนพื้นที่เดินเขา
นายอุดดาฟ ปราสาท ภัตตาไร เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเขตราสุวา ซึ่งครอบคลุม "ลังตังเทร็ก" พื้นที่เดินเขายอดนิยมของนักท่องเที่ยว ใกล้กรุงกาฐมาณฑุ เปิดเผยว่าพบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อ 25 เม.ย. อย่างน้อย 51 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 6 ราย และคาดว่ามีนักท่องเที่ยวอีกกว่า 100 คน สูญหายในบริเวณดังกล่าว ทางการกำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนให้ได้มากที่สุด หลังจากสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้กว่า 350 คน
พ.อ.อิทธิพล ปิ่นพรหม ผู้ช่วยผู้อำนวยการคณะช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเนปาล ระบุความคืบหน้าในปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทีมค้นหาและกู้ภัยของกองบัญชาการกองทัพไทยว่า ระหว่างนำกำลังปฏิบัติภารกิจร่วมค้นหาเด็กที่ยังหายสาบสูญกับทีมค้นหาของทหารเนปาลในพื้นที่เมืองซานคูเป็นวันที่สอง ปรากฏว่าพบร่างเด็กที่เสียชีวิตแล้ว โดยศพติดอยู่ในซากอาคารแห่งหนึ่ง ทางทีมทหารไทยจึงยุติการค้นหาเนื่องจากเป็นร่างสุดท้ายในพื้นที่ดังกล่าว
แพทย์ไทยเยี่ยมช่างปั้นเมืองเพชร
วันเดียวกัน พล.ต.ปริญญา ขุนนาศรี หัวหน้าชุดปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล เป็นตัวแทนรัฐบาลไทย นำทีมแพทย์ทหารจากโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ในนามกรมแพทย์ทหารบก เดินทางไปเยี่ยมนายสำรวย เอมโอษฐ์ ช่างปูนปั้นชื่อดังเมืองเพชรบุรี ที่ไปปั้นลวดลายประดับอุโบสถวัดสิริกิตติวิหาร วัดไทยในประเทศเนปาล พร้อมทีมงานช่างปั้นคนไทยอีก 5 คน โดยนำเครื่องอุปโภคบริโภคและจตุปัจจัยมามอบให้เจ้าอาวาส และคณะคนไทย ซึ่งหลังจากการตรวจสุขภาพและสอบถามพบว่านายสำรวยและทีมงานรวมถึงพระในวัดยังปลอดภัยดี สุขภาพแข็งแรง และมีกำลังใจดีมาก โดยนายสำรวยยืนยันที่จะบูรณะวัดแห่งนี้ต่อไปจนเสร็จภารกิจอีก 10 เดือน พร้อมฝากขอบคุณรัฐบาลและกองทัพไทยที่เดินทางมาเยี่ยม และยังฝากไปถึงครอบครัวว่าพวกตนยังสุขสบายดี ปลอดภัยจากแผ่นดินไหว และเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ ไว้แล้ว
ทั้งนี้ วัดดังกล่าวเป็นวัดที่มีสัมพันธ์อัน ดีกับประเทศไทยมานาน โดยสมเด็จ พระสังฆราช และสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จฯ มายังวัดแห่งนี้
แพทย์เดินเท้าสำรวจความเสียหาย
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยว่า ได้รับรายงานจากทีมแพทย์รัฐบาลไทยที่ไปปฏิบัติงานที่ประเทศเนปาลว่า ขณะนี้ได้ตั้งเต็นท์หน่วยแพทย์ขนาดใหญ่ 2 หลังอยู่บริเวณเชิงสะพานแม่น้ำอินทรปตี ซึ่งมีบ้านเรือนกระจายเป็นหย่อมๆ และเสียหายถึงร้อยละ 90 โดยมีแพทย์และล่ามอาสาสมัครจากประเทศเนปาลและศรีลังกามาร่วมปฏิบัติงาน ผลการบริการเมื่อวันที่ 1 พ.ค. มีผู้ป่วยมารับการรักษา 170 ราย ส่วนใหญ่บาดเจ็บจากเหตุแผ่นดินไหว ฟกช้ำ แขนขาหัก เอ็นฉีกขาด แผลติดเชื้อ กว่า 80 ราย รองลงมาเป็นโรคระบบทางเดินอาหาร เช่นปวดท้อง ท้องเสีย และโรคระบบทางเดินหายใจ
นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าทีมแพทย์ส่วนหน้ารัฐบาลไทย ซึ่งเดินทางกลับจากประเทศเนปาลเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาลของทีมแพทย์รัฐบาลไทย ว่า ข้อมูลสถานการณ์ล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุขและประชากร ประเทศ เนปาล รายงานว่าขณะนี้โรงพยาบาลในเมืองกาฐมาณฑุเปิดบริการเกือบสมบูรณ์แล้ว ผู้บาดเจ็บและผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับการดูแลรักษา โดยมีหน่วยแพทย์จากนานาชาติรวม 83 หน่วย ซึ่งบางหน่วยรอการกำหนดจุดปฏิบัติงาน สำหรับการทำงานของทีมแพทย์รัฐบาลไทยแบ่งออกเป็น 2 ทีม คือ 1.ทีมแพทย์รักษาที่หน่วยแพทย์บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำอินทรปตี ซึ่งเริ่มเปิดบริการเต็มที่เมื่อวานนี้ คาดว่าวันที่ 3 - 5 พ.ค.นี้ จะมีผู้มารับบริการมากขึ้น 2.หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ค้นหาและรักษาผู้บาดเจ็บและเจ็บป่วย และสำรวจชุมชนรัศมี 3 กิโลเมตรจากฐานที่ตั้งโรงพยาบาลสนามโดยการเดินเท้า
รอสรุปสถานการณ์ช่วยเหลือ4ด้าน
นพ.สุริยะกล่าวต่อว่า ได้ให้ทีมแพทย์รัฐบาลไทยสรุปสถานการณ์และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ 4 ด้าน ได้แก่ 1.ข้อมูลผู้ป่วยที่มารับบริการ 2.ข้อมูลด้านสาธารณสุขในชุมชนที่สำรวจ ด้านสุขาภิบาลน้ำและส้วม อนามัยแม่และเด็ก และปัญหาสาธารณสุขอื่นๆ เช่นโรคเรื้อรัง โรคติดต่อ 3.ประสานงานกับองค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุขเนปาล เพื่อขยายจุดบริการ การส่งทีมแพทย์ชุดที่ 2 และ 4.ความต้องการสิ่งสนับสนุนการปฏิบัติและการดำรงชีวิตของทีมแพทย์ เพื่อนำไปกำหนดแผนการบริการ และการจัดทีมชุดที่ 2 เพื่อไปผลัดเปลี่ยนทีมชุดแรกที่จะเดินทางกลับในสัปดาห์หน้า ซึ่งขึ้นอยู่กับการสรุปสถานการณ์และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ โดยจะเสนอวอร์รูมพิจารณาในวันที่ 6 พ.ค.นี้
แพทย์ทบ.จัดชุดเผชิญเหตุลงพื้นที่
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงทีมแพทย์ทหาร กองทัพบกที่เดินทางไปช่วยเหลือชาวเนปาลว่า เข้าสู่วันที่ 5 ทีมช่วยเหลือในนามรัฐบาลไทยยังคงปฏิบัติภารกิจทั้งด้านการกู้ภัย การแพทย์ และการผลิตน้ำสะอาด ช่วยเหลือชาวเนปาลที่เดือดร้อนจากแผ่นดินไหวต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบกส่วนหน้า (เนปาล) ได้รับมอบภารกิจจาก MNMCC (Multi National Military Coordination Center) ให้จัด ชุดแพทย์เผชิญเหตุ เดินทางไปรักษาพยาบาลที่เมืองสินธุคต ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง 30 นาที และเดินเท้าอีก 45 นาที พื้นที่ดังกล่าวเป็นถิ่นทุรกันดารและยังไม่มีหน่วยแพทย์เข้าไปถึง เนื่องจากเส้นทางบางจุดถูกตัดขาด ประกอบกับต้องข้ามภูเขา 3 ลูก จึงใช้เวลานานและลำบากมากกว่าปกติในการเดินทาง
ผลิตประปาแจกแล้ว3.4หมื่นลิตร
รองโฆษกกองทัพบกกล่าวต่อว่าชุดแพทย์เผชิญเหตุเปิดคลินิกเคลื่อนที่รักษาพยาบาล โดยมีผู้ประสบภัยและชาวบ้านจำนวน 200 ราย มารับบริการ ส่วนใหญ่มีบาดแผลตามร่างกายจากผลกระทบแผ่นดินไหว และมีผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลทันที ชุดแพทย์จึงประสานทางการเนปาลเพื่อส่งตัวให้ไปรักษาต่อ ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับชุดแพทย์ประเมินว่าชุมชนดังกล่าวน่าจะยังไม่มีหน่วยแพทย์อื่นเข้ามาในเร็ววันนี้ จึงมอบยาทั้งหมดที่มีให้ผู้นำชุมชนพร้อมชี้แจงการใช้อย่างละเอียด สร้างความประทับใจให้กับผู้ประสบภัยอย่างมาก ส่วนการผลิตน้ำสะอาดโดยชุดทหารช่างประปาสนาม ยังคงผลิตน้ำดื่มและน้ำใช้อย่างต่อเนื่อง โดยตลอด 3 วันที่ผ่านมาผลิตน้ำสนับสนุนโรงพยาบาลค่ายทหารและประชาชนในเมืองกาฐมาณฑุไปแล้วจำนวน 34,000 ลิตร
"ผู้ประสงค์จะบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเนปาล ผ่านกองทัพบก ยังคงบริจาคได้ที่ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. โทร 0-2272-6247 และกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เขตบางเขน กทม. โทร 0-2551-1267 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก จะรวบรวมสิ่งของบรรเทาทุกข์ที่ได้รับบริจาค ประสานงานร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งไปให้ผู้ประสบภัยที่เนปาลต่อไป" รองโฆษกกองทัพบกกล่าว
เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต เชื่อตลาดเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยของไทยปีนี้เติบโตกว่า 3.5 พันล้านบาท มั่นใจโตตามตลาดโลก
เมสเซ่ แฟรงค์เฟิร์ต ชี้ตลาดเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยโลกในอีก 3 ปีข้างหน้าจะมีมูลค่าทะลุ 100 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ผลจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นทั่วโลก ประกอบกับความต้องการด้านความปลอดภัยที่สูงขึ้น คาดตลาดไทยโตตามตลาดโลก โดยมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 3.5 พันล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการนำเทคโนโลยีความปลอดภัยไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ อาทิ การพัฒนาเมืองอัจฉริยะควบคู่ความปลอดภัย เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐ พร้อมเตรียมจัดแสดงเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยสุดล้ำในงาน Secutech Thailand 2017 นำโดย เอช ไอ พี โกลบอล และ ฮันวา เทควิน
มิส เวโรนิก้า เฉิน ผู้จัดการกลุ่ม บริษัท เมสเซ่ แฟรงก์เฟิร์ต นิว เอร่า บิสิเนส มีเดีย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีระบบการรักษาความปลอดภัยเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนทั่วโลก เพื่อทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในประเทศ ที่พักอาศัย ยานพาหนะ สถานที่ทำงานของภาครัฐและเอกชน ครอบคลุมถึงชีวิตและทรัพย์สิน และยังพัฒนาเป็นระบบป้องกันภัยทางธรรมชาติ ด้วยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ตลาดอุปกรณ์และโซลูชั่นด้านระบบรักษาความปลอดภัยมีทิศทางและแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงในภูมิภาคเอเชียและประเทศไทย จากข้อมูลไอดีซี (IDC) มีการคาดการณ์รายได้ทั่วโลกของเทคโนโลยีความปลอดภัยจะเกิน 100 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2563 โดยตลาดการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 69.63 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2560 เป็น 112.43 พันล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 2564 โดยมีอัตราการเติบโตของ CAGR อยู่ที่ 10.1% ในช่วงปี 2559 ถึง 2564
ขณะที่ตลาดโซลูชั่นและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยของไทยปีนี้ คาดว่ามีมูลค่าประมาณ 3.5 พันล้านบาท และคาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น 10-12% ในปี 2561 สำหรับปัจจัยในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาด เนื่องจากมีเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นผู้คนจึงต้องการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การติดตั้งกล้อง CCTV เพียงอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอในการดำเนินชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีเฝ้าระวังและตรวจจับด้วยวิดีโอ ที่สามารถเรียกดูข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจว่าเกิดความปลอดภัยสูงสุด การติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการสาธารณูปโภคและโครงการขนส่งสาธารณะขนาดใหญ่ รวมไปถึงการนำโซลูชั่นด้านระบบรักษาความปลอดภัยไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจแขนงต่างๆ อาทิ ระบบค้าปลีกอัจฉริยะ ระบบอาคารอัจฉริยะ ระบบคมนาคมอัจฉริยะ และการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของ IoT (Internet of Thing) ขณะที่การพัฒนาเมืองอัจฉริยะควบคู่ความปลอดภัย เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐ ก็เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันการเติบโตของตลาดนี้ ซึ่งมองว่า ความเป็นเมืองอัจฉริยะ(smart city) จะต้องประกอบไปด้วย ระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ระบบการจัดการจราจรที่ดี และการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในกระบวนการก่อสร้าง เพื่อรองรับประชากรในเมืองที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายโทนี่ หยาง ประธานกรรมการ บริษัท เอช ไอ พี โกลบอล จำกัด กล่าวว่า เทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัยนั้น มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งบริษัทมีความเชี่ยวชาญในตลาดการรักษาความปลอดภัยมาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี เนื่องจากมองว่าสังคมในปัจจุบันมีความต้องการด้านความปลอดภัยสูง โดยเป็นผู้บุกเบิกตลาดการสแกนลายนิ้วมือภายใต้แบรนด์ HIP ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบรักษาความปลอดภัยมากกว่า 1,500 รายการ มีลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมากกว่า 2,000 ราย และมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 60 % ในตลาดเกี่ยวกับระบบความปลอดภัย โดยให้บริการแบบ One Stop service และมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยครบครัน อาทิ Fingerprint, face scan, Car park, Folding gate, Suspension gate, Turnstile, Flip gate, RFID, Access control Hotel lock, Guard Tour รองรับโครงการทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังให้บริการการทำธุรกิจแบบ OEM , ODM หรือการทำธุรกิจในรูปแบบอื่น เพื่อสร้างความเติบโตในธุรกิจระบบรักษาความปลอดภัยแบบครบจงจร สำหรับในตลาดต่างประเทศมีฐานลูกค้า ทั้ง สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง อินเดีย ตุรกี อาเจนติน่า สเปน พม่า ลาว เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และซาอุดิอาระเบีย พร้อมวางเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าไปยังแถบทวีปอเมริกาและทวีปยุโรป ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี
นายสุเมธ ศิริสันติสัมฤทธิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮันวา เทควิน จำกัด (Hanwha Techwin) กล่าวว่า เทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัยรูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้น บริษัทฯ ในฐานะผู้พัฒนาโซลูชั่นเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย มีผลิตภัณฑ์ระบบกล้องวงจรปิดทั้งระบบอนาล็อคและไอพี เน็ตเวิร์ก(IP network) ได้แก่ WISENT HD กล้องวงจรปิดระบบ อนาล็อคความละเอียดสูง 2 ล้านพิกเซล และ WISNET Q, X, P Series กล้องวงจรปิดระบบไอพี เน็ตเวิร์ค ความละเอียดสูง 2 ล้านพิกเซลไปจนถึงคุณภาพระดับ 4K ทางบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ทุกระดับความต้องการและโซลูชั่นที่พร้อมรองรับได้ทุกกลุ่มตลาด
สำหรับ ในปีนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายทางการตลาดเพิ่มขึ้น ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และคิดเป็นมูลค่าประมาณ 210 ล้านบาท โดยจะเน้นเรื่องโซลูชั่นที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับฐานลูกค้าหลัก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจค้าปลีก(Retail) โดยจะเน้นเรื่อง Smart Retail Solution และ Business Video Analytics เช่น Heatmap, Counting people และ Queue Management ที่จะช่วยลูกค้าเรื่องการบันทึกข้อมูลเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการตลาดและส่งเสริมการขาย พร้อมทั่งระบบบันทึกภาพเพื่อเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยได้ในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังมีแผนพัฒนาสินค้าและโซลูชั่นใหม่ๆเพื่อขยายตลาดไปยังกลุ่มธุรกิจหลักขนาดใหญ่ให้กว้างขึ้น ได้แก่ ธุรกิจขนส่ง (Transportation) และกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม (Industrial) ทั้งนี้บริษัทฯ มุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจและความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์แบรนด์ WISENET ที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับและมีมาตรฐานสากล
มิส เวโรนิก้า เฉิน ผู้จัดการกลุ่ม บริษัท เมสเซ่ แฟรงก์เฟิร์ต นิว เอร่า บิสิเนส มีเดีย จำกัด กล่าวเสริมปิดท้ายว่า บริษัท เมสเซ่ แฟรงก์เฟิร์ต นิว เอร่า บิสิเนส มีเดีย จำกัด และ บริษัท เวิลด์เด็กซ์ จี.อี.ซี. จำกัดได้ร่วมกับพันธมิตรเตรียมจัดงาน Secutech Thailand 2017 (ซีเคียวเทค ไทยแลนด์) งานเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัย ป้องกันอัคคีภัย และสมาร์ทโฮมแห่งอาเซียน โดยปีนี้จะโชว์เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยใหม่ๆ รวมถึงการนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชั่นส์ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ อาทิ สมาร์ทซิตี้ สมาร์ทรีเทล สมาร์ททรานสปอร์ตเตชั่น สำหรับงาน Secutech Thailand 2017 จะจัดขึ้นพร้อมกับงาน Thailand Lighting Fair 2017 และ Thailand Building Fair 2017 ภายใต้แนวคิด Smart City Safe City ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2560 ณ ไบเทค บางนา
บุคคลในภาพ จากซ้าย
· นายสุเมธ ศิริสันติสัมฤทธิ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ฮันวา เทควิน จำกัด
· มิส เวโรนิก้า เฉิน ผู้จัดการกลุ่ม บริษัท เมสเซ่ แฟรงก์เฟิร์ต นิว เอร่า บิสิเนส มีเดีย จำกัด
· นายโทนี่ หยาง ประธานกรรมการ บริษัท เอช ไอ พี โกลบอล จำกัด
Government-SE Matching Day สวส. จัดกิจกรรมรัฐรวมพลังจับคู่ธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน ดึงวิสาหกิจเพื่อสังคมร่วมออกบูธกว่า 15 องค์กร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) จัดกิจกรรม Government...
สภาพัฒ ฯ เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 2.2 เร่งขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ 1.8 เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 2565 และแนวโน้มปี 2565 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ...
สศช.GDP ไตรมาส 4 ปี 64 ขยายตัว 1.9% รวมทั้งปี 64 ขยายตัว 1.6% คาดปี 65 ขยายตัว 3.5-4.5% สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( GDP) ไตรมาสที่สี่ ทั้งปี 2564 และแนวโน้มปี 2565...
ฟิทช์ เรทติ้งส์: เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวได้ดีท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ฟิทช์ เรทติ้งส์ - กรุงเทพฯ - 18 ตุลาคม 2565: ในงานสัมมนาประจำปีของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ที่จัดขึ้นในวันนี้...
' มองเศรษฐกิจโลก สะท้อนเศรษฐกิจไทย ' ในการจัดเสวนา 'Better Thailand Open Dialogue ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม ’ ผมมีโอกาสร่วมเสวนาหัวข้อ ' มองเศรษฐกิจโลก สะท้อนเศรษฐกิจไทย '...
นายกรัฐมนตรี ปลื้ม FANC มอบใบเซอทิฟิเขท หลังเห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาล แก้ยาเสพติดแนวใหม่ รับปาก หนุนแก้อำนาจ ป.ป.ส.เป็นพนักงานสอบสวน-เพิ่มเครื่องมือ หวังยึดทรัพย์ตัดวงจรยา ชม ก.ยุติธรรม...
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดการติดตามผลการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด หวังยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด พร้อมรับใบเซอทิฟิเขท จากกลุ่มเจ้าหน้าที่ประสานงานยาเสพติดและอาชญากรรมต่างประเทศ หรือ FANC...
นายกฯ ติดตามงาน 'ขจัดความยากจน-พัฒนาคนทุกช่วงวัย' กำชับเร่งแก้ไขปัญหาความยากจนแบบ 'พุ่งเป้า' ตรงจุด ทันเวลา และเป็นรูปธรรม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามการดำเนินงาน...
บุกค้น 2 ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากออนไลน์รายใหญ่ มีสลากขายเกินราคา 6.7 ล้านฉบับ เร่งขยายผล ตัดสิทธิ ยกเลิกโควตาตัวแทนจำหน่าย-ผู้มีสิทธิซื้อจอง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ...
DGA เร่งยกระดับนวัตกรรมภาครัฐโกอินเตอร์ อวดโฉมงานวิจัยสู่เวทีสากลผ่านงาน DGTi-Con 2022 สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภาครัฐ DGTI-Con 2022...
ตัวแปลงสกุลเงินนี้ควบคุมดูแลระบบทำงานโดย Investing.com ประเทศไทย |
0 MTC มาตามนัด Q2/66 พอร์ตสินเชื่อแตะ 132,851 ลบ.เดินหน้าพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนเคียงคู่สังคมไทย เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อัตราดอกเบี้ย 4.25-4.80% คาดเสนอขายวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ บมจ.เมืองไทย...
ALT โชว์ไตรมาส 2/66 กวาดรายได้ 396 ลบ . งานโซลาร์รูฟท็อป - บริการโครงข่ายรุ่งแนวโน้มโตต่อเนื่อง เอแอลที เทเลคอม โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 กวาดรายได้ 396 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 56.6%...
PSP พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ บิ๊กน้ำมันหล่อลื่น จ่อเข้าเทรด SET จับตา 'พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ (PSP)'เจ้าตลาดเบอร์หนึ่งธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นครบวงจรของไทยและอาเซียน เตรียมขายไอพีโอเข้าเทรด SET...
GSB ต้อนรับประธานกรรมการธนาคารออมสินคนใหม่ นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ในนามคณะกรรมการธนาคารออมสิน และนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร...
สนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร พร้อมด้วยนายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (...
‘ ณัฐพล ’ ปลัดอุตฯ บูมเศรษฐกิจภาคใต้ฝั่งอันดามัน ผุดกระบี่โมเดล ยกระดับ 3 มิติอุตสาหกรรม สู่การกระจายรายได้เศรษฐกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืน ดร . ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม...
บอร์ด บสย. แต่งตั้ง ' เอด วิบูลย์เจริญ ' ประธาน บสย. คนใหม่ คณะกรรมการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มีมติแต่งตั้ง ‘เอด วิบูลย์เจริญ’ดำรงตำแหน่ง ประธาน บสย. มีผลตั้งแต่วันที่ 14...
ทีซีซีเทค ปลื้ม Enjoy to the Max 2 บรรลุตามเป้า ! ต่อยอดการยกระดับดิจิทัลขั้นสูงในองค์กร สิ้นสุดพิธีมอบรางวัลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข สำหรับ “TCCtech X M365 Star Icon Stage” ภายใต้โครงการ Enjoy to...
รมว.เฮ้ง ส่ง ' โฆษก ' เยี่ยมกลุ่มบายศรีบึงกาฬ สร้างอาชีพเสริม รับนักท่องเที่ยวสายมู นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน...
ธพว . ร่วมพิธีทอดผ้าป่า กระทรวงการคลัง ณ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ( ธพว .) หรือ SME D Bank โดย นายศักดิ์สิทธิ์ ราชรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส...
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด