BOI เคาะยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน 5 ปี พลิกโฉมไทยสู่เศรษฐกิจใหม่ เพิ่มความสามารถการแข่งขันของประเทศ
บอร์ดบีโอไอ ไฟเขียวยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (2566 – 2570) พลิกโฉมประเทศไทยสู่เศรษฐกิจใหม่ ปักธง 7 หมุดหมายแห่งอนาคต เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศในระยะยาว ขณะที่ยอดคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน 9 เดือน มูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 ได้เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) โดยให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนรับความเห็นของคณะกรรมการไปพิจารณา และให้นำยุทธศาสตร์ฉบับใหม่นี้ไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาต่อไป
สำหรับ สาระสำคัญของยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) มีเป้าหมายเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่ ‘เศรษฐกิจใหม่’ ที่เพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศในระยะยาว โดยบีโอไอวางเป้าหมายให้บรรลุผล 3 ด้านด้วยกัน ได้แก่
(1) Innovative เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์
(2) Competitive เป็นเศรษฐกิจที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถปรับตัวเร็ว และสร้างการเติบโตสูง
(3) Inclusive เป็นเศรษฐกิจที่คำนึงถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมทั้งการสร้างโอกาส และลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า จากกระแสการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นกระแสความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ การเข้าสู่ยุคดิจิทัล และการแบ่งขั้วทางการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่งนำไปสู่การปรับห่วงโซ่อุปทานและการย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่ ได้ก่อให้เกิดโอกาสด้านการลงทุนในการพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค (Regional Hub) อย่างน้อยใน 5 ด้าน ได้แก่
- Tech Hub เป็นศูนย์กลางการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นด้านดิจิทัล ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่างๆ และอุตสาหกรรมอนาคต เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เป็นต้น
- BCG Hub เป็นศูนย์กลางการลงทุนตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน เช่น อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมชีวภาพ พลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นต้น
- Talent Hub เป็นศูนย์รวมผู้มีศักยภาพจากทั่วโลก เช่น ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรทักษะสูง ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย กลุ่มสตาร์ตอัป ไปจนถึงนักลงทุนและผู้ที่มีฐานะทางเศรษฐกิจสูง เป็นต้น
- Logistics & Business Hub เป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ตลอดจนเป็นศูนย์กลางด้านธุรกิจระหว่างประเทศ โดยเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาค (Regional Headquarter) ธุรกิจบริการ ธุรกิจด้านการเงินและการค้าระหว่างประเทศ
- Creative Hub เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ แฟชั่นและ
ไลฟ์สไตล์ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ดิจิทัลคอนเทนต์ เกมและอีสปอร์ต โดยใช้ศักยภาพด้านวัฒนธรรมของไทย ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่เวทีโลก
สำหรับ 7 หมุดหมายสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนเพื่อมุ่งสู่เศรษฐกิจใหม่ และยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค ประกอบด้วย 1) การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม โดยยกระดับอุตสาหกรรมเดิมที่ไทยมีความโดดเด่น ควบคู่กับการสร้างฐานอุตสาหกรรมใหม่ที่ไทยมีศักยภาพ และสร้างความเข้มแข็งของ Supply Chain 2) เร่งเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ Smart & Sustainability 3) ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศและประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาค 4) ส่งเสริม SMEs และ Startup ให้เข้มแข็งและเชื่อมต่อกับโลก 5) ส่งเสริมการลงทุนตามศักยภาพพื้นที่ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างทั่วถึง 6) ส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม และ 7) ส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีศักยภาพให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ โดยบีไอไอจะใช้เครื่องมือสำคัญ 3 ด้าน เพื่อขับเคลื่อน 7 หมุดหมายให้บรรลุผลสำเร็จ คือ สิทธิประโยชน์ทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี การบริการแบบครบวงจรทั้งก่อนและหลังการลงทุน การสร้างระบบนิเวศและปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการลงทุน
นอกจากนี้ บีโอไอจะปรับเปลี่ยนบทบาทจากเดิมเป็นผู้ส่งเสริมและให้สิทธิประโยชน์ (Promoter) มาสู่การให้น้ำหนักกับการเป็นผู้บูรณาการเครื่องมือสนับสนุนการลงทุน (Integrator) ผู้ให้บริการและอำนวยความสะดวก (Facilitator) และผู้เชื่อมโยงอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ (Connector) มากขึ้น
“ในโลกยุคใหม่ที่มีความท้าทาย ความผันผวน และมีการแข่งขันสูง บีโอไอจะเป็นองค์กรที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และมุ่งมั่นส่งเสริมให้เกิดการลงทุนที่จะช่วยยกระดับการพัฒนาประเทศ โดยพร้อมจะร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ในการผลักดัน 7 หมุดหมายแห่งอนาคตให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อนำประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งเติบโตอย่างยั่งยืน และแข่งขันได้บนเวทีโลก”นายนฤตม์ กล่าว
สำหรับ สถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือน (ม.ค. – ก.ย.) ปี 2565 มีโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1,247 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 8 และมูลค่ารวม 439,090 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 14 เนื่องจากปีที่แล้ว มีโครงการขนาดใหญ่ในกิจการผลิตพลังงานไฟฟ้ายื่นขอรับการส่งเสริมหลายโครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.5 แสนล้านบาท
หากพิจารณาจากสถิติการออกบัตรส่งเสริม ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใกล้เคียงกับการลงทุนจริงมากที่สุดจะพบว่าในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการออกบัตรส่งเสริม 1,101 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 17 และมูลค่ารวม 357,552 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 57 เป็นสัญญาณว่าในช่วง 1 - 2 ปีข้างหน้า จะมีการลงทุนเกิดขึ้นจริงมากขึ้น
ในช่วง 9 เดือน คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย มีมูลค่ารวม 286,699 ล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีมูลค่ารวม 275,624 ล้านบาท โดยการลงทุนจากจีน มีเงินลงทุนมากที่สุด 45,024 ล้านบาท ตามด้วยไต้หวัน 39,256 ล้านบาท และญี่ปุ่น 37,591 ล้านบาท โดยมูลค่าการลงทุนจากจีนและไต้หวัน ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดว่าการลงทุนใน 2 สาขานี้ จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ พื้นที่เป้าหมาย EEC มีการขอรับส่งเสริมจำนวน 376 โครงการ เงินลงทุนรวม 246,655 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56 ของการลงทุนทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในจังหวัดระยองและชลบุรี
นอกจากนี้ มีคำขอรับส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ จำนวน 234 โครงการ เพิ่มขึ้นร้อยละ 86 และมีเงินลงทุน 15,281 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 โดยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรที่ทันสมัยและนำระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต สอดรับกับสังคมผู้สูงวัย รองลงมาคือ การลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทนหรือการประหยัดพลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการลดคาร์บอนของโลก
บีโอไอ ปลื้มนักธุรกิจเกาหลีใต้เดินหน้าลงทุนไทย มุ่งเป้าสมาร์ทซิตี้ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า
บีโอไอ เผยผลการจัดงาน Thailand – Korea Economic Cooperation Forum 2022 ร่วมกับ KOTRA ระหว่างวันที่ 6 – 7 ตุลาคม 2565 ชื่นมื่น กลุ่มทุนเกาหลีมั่นใจศักยภาพเมืองไทย เซ็นสัญญาความร่วมมือ 5 ฉบับ ระหว่างไทยและเกาหลี ในอุตสาหกรรมสมาร์ทซิตี้ พร้อมลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เน้นอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานอัจฉริยะ เกิดการจับคู่ทางธุรกิจ 120 คู่ นักธุรกิจแห่เข้าร่วมงาน 600 ราย ผลักดันให้การค้าการลงทุนขยายตัว
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยถึงความสำเร็จของการจัดงาน Thailand – Korea Economic Cooperation Forum 2022 ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนของรัฐบาลเกาหลีใต้ (KOTRA) ระหว่างวันที่ 6 – 7 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีนักธุรกิจเกาหลีและไทยให้ความสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มอุตสาหกรรมสมาร์ทซิตี้ อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า และพลังงานอัจฉริยะ เป็นต้น
นอกจากนี้ ในงานดังกล่าวได้มีการจัดทำบันทึกความร่วมมือ (MOU) 5 ฉบับ ระหว่างไทยและเกาหลีในกลุ่มอุตสาหกรรมสมาร์ทซิตี้ เช่น MOU ระหว่าง Smart City Association และ Thai IOT Association MOU ระหว่างบริษัทด้านไอทีของเกาหลี และเทศบาลท้องถิ่นรวมถึงบริษัทเอกชนของไทย และเกิดการจับคู่ทางธุรกิจในอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 120 คู่ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยมีนักลงทุนทั้งเกาหลีและไทยเข้าร่วมงานกว่า 600 ราย
“การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ช่วยสร้างความร่วมมือและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างภาคธุรกิจไทยและเกาหลี รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุน เนื่องจากเป็นกิจกรรมแรกที่นักลงทุนเกาหลีเดินทางออกนอกประเทศภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และเลือกมายังประเทศไทยเป็นประเทศแรก ที่สำคัญเป็นโอกาสในการเผยแพร่มาตรการสนับสนุนของรัฐ และเร่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อีกทั้งจากการที่นักลงทุนเกาหลีได้เยี่ยมชมพื้นที่อีอีซี ทำให้มองเห็นศักยภาพและเพิ่มความเชื่อมั่นในการตัดสินใจลงทุนมากยิ่งขึ้น”นายนฤตม์กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ระหว่างปี 2555 - 2565 (มกราคม – กันยายน) เกาหลีใต้เข้ามาลงทุนในไทยต่อเนื่อง โดยมีโครงการจากเกาหลีใต้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 365 โครงการ มูลค่ารวม 65,123 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2) เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ และ 3) เคมีภัณฑ์และกระดาษ และจากการประกาศใช้นโยบาย New Southern Policy ของรัฐบาลเกาหลีตั้งแต่ปี 2562 เป็นนโยบายที่เปิดโอกาสให้เกาหลีใต้ เดินหน้าลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมทั้งไทยมากขึ้นอีกด้วย
บีโอไอ ผนึก KOTRA จัดสัมมนาใหญ่กระตุ้นการลงทุน ชูเกาหลีใต้ต้นแบบขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
บีโอไอ จับมือ KOTRA (Korea Trade Investment Promotion Agency) จัดงานสัมมนา ‘Thailand – Korea Economic Cooperation Forum’ ต้อนรับคณะนักลงทุนเกาหลีกว่า 40 รายนับเป็นคณะนักลงทุนต่างชาติกลุ่มใหญ่คณะแรกที่เดินทางเยือนไทยหลังเปิดประเทศ ตอกย้ำเกาหลีเป็นประเทศพันธมิตรด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยว่าไทยเตรียมต้อนรับคณะนักลงทุนจากสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ระหว่างวันที่ 6 – 7 ตุลาคม 2565 นำโดยนายคิม เท โฮ รองประธานบริหารฝ่ายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า KOTRA (สำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนของรัฐบาลเกาหลีใต้) ซึ่งเป็นคณะนักลงทุนต่างชาติกลุ่มใหญ่กว่า 40 ราย คณะแรกที่เดินทางเยือนไทยหลังเปิดประเทศ
สำหรับ ในวันที่ 6 ตุลาคม 2565 คณะจะเข้าร่วมงานสัมมนา “Thailand – Korea Economic Cooperation Forum” ณ โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ โดยบีโอไอร่วมมือกับ KOTRA และหน่วยงานต่าง ๆ จัดงานดังกล่าว เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านเศรษฐกิจและการลงทุน โดยจะมีบีโอไอ สำนักงานอีอีซี สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมบรรยายให้ข้อมูลด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีนักลงทุนไทยและเกาหลี
รวมทั้งบริษัทเกาหลีใต้ในไทยเข้าร่วมงานกว่า 250 ราย ส่วนวันที่ 7 ตุลาคม 2565 จะเป็นการพานักลงทุนเกาหลีเยี่ยมชมพื้นที่ EEC และเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของพื้นที่ EEC ในการรองรับการลงทุนจากเกาหลี และยังเป็นพื้นที่ที่บีโอไอให้การสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์เป็นพิเศษด้วย
“KOTRA จัดคณะนักลงทุนเกาหลีเดินทางเยือนต่างประเทศหลังวิกฤตโควิดคลี่คลาย โดยเลือกมาไทยเป็นประเทศแรก แสดงถึงการให้ความสำคัญและมองเห็นศักยภาพของประเทศไทย ในการเป็นแหล่งรองรับการลงทุนสำหรับเกาหลีในอนาคต เกาหลีเป็นหนึ่งในนักลงทุนต่างชาติรายสำคัญ เพราะมีความโดดเด่นในด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ๆ ที่ไทยต้องการส่งเสริม เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ ดิจิทัล และเทคโนโลยีชีวภาพ ขณะที่ประเทศไทยก็มีศักยภาพที่จะตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนเกาหลีได้
โดยเฉพาะปัจจัยพื้นฐานที่ดี ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของสาธารณูปโภคและโลจิสติกส์ บุคลากรที่มีคุณภาพ ศักยภาพของตลาดในประเทศ อุตสาหกรรมสนับสนุนครบวงจร โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีคุณภาพ และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากภาครัฐเวทีสัมมนานี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่นักธุรกิจชั้นนำของเกาหลีและไทย จะได้มาพบปะกัน และแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านธุรกิจเพื่อนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต” นายนฤตม์กล่าว
นายคิม เท โฮ รองประธานบริหารฝ่ายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า KOTRA กล่าวว่า สาธารณรัฐเกาหลีและไทยได้พัฒนาความสัมพันธ์ความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองประเทศรักษาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์มาตั้งแต่ปี 2555 และปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 10 ปี ของความสัมพันธ์ดังกล่าวด้านการลงทุนเกาหลีเป็นประเทศลำดับที่ 8 ที่มีการลงทุนสูงสุดในประเทศไทย โดยมีบริษัทเกาหลีที่ลงทุนในประเทศไทยกว่า 400 บริษัท ในสาขาต่าง ๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก และชิ้นส่วนยานยนต์สมัยใหม่ และได้สร้างเวทีสำหรับความร่วมมือในกลุ่มอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเชื่อมโยงนโยบายของทั้งสองประเทศ รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือแบบ win-win ให้กับสองประเทศ
“สำหรับ งานสัมมนา 'Thailand – Korea Economic Cooperation Forum' ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 6 – 7 ตุลาคมนี้ KOTRA ได้ใช้โอกาสนี้เป็นเวทีเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปี ของการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เกาหลี - ไทย และยกระดับการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระดับทวิภาคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ถือเป็นประตูสู่ความร่วมมือกับผู้ประกอบการจากประเทศไทย ผมหวังว่าทั้งสองประเทศจะขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจผ่านเวทีนี้ต่อไปในอนาคต” นายคิม เท โฮ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ระหว่างปี 2555 - 2565 (ม.ค. - มิ.ย.) มีโครงการจากเกาหลียื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 356 โครงการ มูลค่ารวม 62,651 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะ และอุตสาหกรรมเบา ตามลำดับ
BOI ขอเชิญผู้ประกอบการ/ผู้ผลิตชิ้นส่วน เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ จ.นครราชสีมา
บีโอไอ โดบกองพัฒนาผู้ประกอบการไทย ร่วมกับ ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 2 (จังหวัดนครราชสีมา) ขอเชิญผู้ประกอบการ/ผู้ผลิตชิ้นส่วน เข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม ณ จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 19 – 21 กันยายน 2565
กิจกรรมประกอบด้วย
- เยี่ยมชม ศึกษาดูงานฟาร์มกัญชา และสถาบันวิจัยแสงซินโครตอน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
- กิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขายร่วมกับ บริษัท เจวีซีเคนวูด ออพติคัล อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)
- กิจกรรมตลาดกลางซื้อขายชิ้นส่วน / กิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ
- กิจกรรมสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับผู้ประกอบการ/บริษัทผู้ซื้อในพื้นที่
*สแกน QR CODE เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม
ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
คุณภัทรกฤตย์ วิจิตรภัทร
โทร 02 5538388
อีเมล [email protected]
คุณระพีพรรณ ศรศึก
โทร 02 5538111 ต่อ 6163
อีเมล [email protected]
บีโอไอ เดินหน้าแนวคิด BCG ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
บีโอไอ ผลักดันแนวคิดเศรษฐกิจ BCG มุ่งใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจจากทั่วโลก เผยสถิติคำขอรับการส่งเสริมฯ กิจการกลุ่ม BCG รอบ 7 ปี 6 เดือน นับจากปี 2558 – มิถุนายน2565 มีจำนวน 3,320 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 752,691 ล้านบาท ล่าสุด นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมกิจการบริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมดสตาร์ตอัปไบโอเทคไทยผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด PHA รายแรกของไทย
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า บีโอไอ ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการกลุ่ม Bio-Circular-Green Economy (BCG Economy) ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ กิจการในกลุ่ม BCG มีความสำคัญมากต่อเศรษฐกิจไทยและมีการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง พิจารณาได้จากสถิติขอรับการส่งเสริมการลงทุน ตั้งแต่ปี 2558 – มิถุนายน 2565 คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม BCG มีจำนวนรวม 3,320 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 752,691 ล้านบาท
“รัฐบาลได้กำหนดนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตแบบก้าวกระโดดบนรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไปสู่แนวคิดเศรษฐกิจ BCG มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า คำนึงถึงการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด และมุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”นางสาวดวงใจกล่าว
ที่ผ่านมาบีโอไอ มีมาตรการสนับสนุนธุรกิจในกลุ่ม BCG และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง ครอบคลุมหลากหลายประเภทกิจการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็ก และตระหนักถึงความสำคัญของผู้ประกอบการสตาร์ตอัปที่มีเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยให้การสนับสนุนในด้านเงินลงทุนแก่สตาร์ตอัปตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 และ พ.ร.บ. การเพิ่มขีดความสามารถในกำรแข่งขันของประเทศ สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย พ.ศ. 2560 ซึ่งบีโอไอเชื่อว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่เศรษฐกิจและสังคม และช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งและยกระดับเศรษฐกิจไทยไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต
นายรักชัย เร่งสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟรุตต้า ไบโอเมด จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพทางด้านความหลากหลายของวัตถุดิบ ซึ่งจำเป็นต้องเร่งสร้างเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมชีวภาพขั้นสูง สำหรับฟรุตต้าเริ่มต้นธุรกิจจากการผลิตเครื่องดื่มประเภทน้ำผัก ผลไม้ และมีกากและเศษที่เหลือจากผลไม้ที่ผ่านกระบวนการผลิตในโรงงาน เช่น เปลือกมะละกอ เปลือกกล้วย
รวมถึงน้ำมะพร้าวที่ค้างท่อจากการผลิตในปริมาณมาก บริษัทจึงได้คิดค้นการใช้ประโยชน์จากสิ่งเหลือทิ้งข้างต้นและพบว่า สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการนำมาใช้เลี้ยงแบคทีเรียที่เป็นต้นกำเนิดของพลาสติกชีวภาพได้ ด้วยการใช้กระบวนการทางด้านปฏิกิริยาชีวภาพเข้ามาเปลี่ยนโครงสร้างโมเลกุลของแบคทีเรีย เพื่อให้ได้แบคทีเรียชนิดที่ดีที่สุด เพื่อนำมาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเป็นเม็ดพลาสติกชีวภาพชนิด PHA(POLYHYDROXYALKANOATES) และ PHA BIOPLASTIC COMPOUND
และนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์จากพลาสติกชีวภาพชนิด PHA เช่น ถุง ขวดหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่น เป็นต้น และจะขยายการลงทุนไปสู่กำลังการผลิตที่ 1,100 ล้านชิ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์ด้านการแพทย์ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ และเกิดประโยชน์แก่วงการแพทย์ต่อไป
Government-SE Matching Day สวส. จัดกิจกรรมรัฐรวมพลังจับคู่ธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน ดึงวิสาหกิจเพื่อสังคมร่วมออกบูธกว่า 15 องค์กร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) จัดกิจกรรม Government...
สภาพัฒ ฯ เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 2.2 เร่งขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ 1.8 เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 2565 และแนวโน้มปี 2565 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ...
สศช.GDP ไตรมาส 4 ปี 64 ขยายตัว 1.9% รวมทั้งปี 64 ขยายตัว 1.6% คาดปี 65 ขยายตัว 3.5-4.5% สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( GDP) ไตรมาสที่สี่ ทั้งปี 2564 และแนวโน้มปี 2565...
ฟิทช์ เรทติ้งส์: เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวได้ดีท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ฟิทช์ เรทติ้งส์ - กรุงเทพฯ - 18 ตุลาคม 2565: ในงานสัมมนาประจำปีของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ที่จัดขึ้นในวันนี้...
' มองเศรษฐกิจโลก สะท้อนเศรษฐกิจไทย ' ในการจัดเสวนา 'Better Thailand Open Dialogue ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม ’ ผมมีโอกาสร่วมเสวนาหัวข้อ ' มองเศรษฐกิจโลก สะท้อนเศรษฐกิจไทย '...
นายกรัฐมนตรี ปลื้ม FANC มอบใบเซอทิฟิเขท หลังเห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาล แก้ยาเสพติดแนวใหม่ รับปาก หนุนแก้อำนาจ ป.ป.ส.เป็นพนักงานสอบสวน-เพิ่มเครื่องมือ หวังยึดทรัพย์ตัดวงจรยา ชม ก.ยุติธรรม...
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดการติดตามผลการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด หวังยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด พร้อมรับใบเซอทิฟิเขท จากกลุ่มเจ้าหน้าที่ประสานงานยาเสพติดและอาชญากรรมต่างประเทศ หรือ FANC...
นายกฯ ติดตามงาน 'ขจัดความยากจน-พัฒนาคนทุกช่วงวัย' กำชับเร่งแก้ไขปัญหาความยากจนแบบ 'พุ่งเป้า' ตรงจุด ทันเวลา และเป็นรูปธรรม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามการดำเนินงาน...
บุกค้น 2 ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากออนไลน์รายใหญ่ มีสลากขายเกินราคา 6.7 ล้านฉบับ เร่งขยายผล ตัดสิทธิ ยกเลิกโควตาตัวแทนจำหน่าย-ผู้มีสิทธิซื้อจอง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ...
DGA เร่งยกระดับนวัตกรรมภาครัฐโกอินเตอร์ อวดโฉมงานวิจัยสู่เวทีสากลผ่านงาน DGTi-Con 2022 สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภาครัฐ DGTI-Con 2022...
ตัวแปลงสกุลเงินนี้ควบคุมดูแลระบบทำงานโดย Investing.com ประเทศไทย |
0 MTC มาตามนัด Q2/66 พอร์ตสินเชื่อแตะ 132,851 ลบ.เดินหน้าพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนเคียงคู่สังคมไทย เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อัตราดอกเบี้ย 4.25-4.80% คาดเสนอขายวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ บมจ.เมืองไทย...
ALT โชว์ไตรมาส 2/66 กวาดรายได้ 396 ลบ . งานโซลาร์รูฟท็อป - บริการโครงข่ายรุ่งแนวโน้มโตต่อเนื่อง เอแอลที เทเลคอม โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 กวาดรายได้ 396 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 56.6%...
PSP พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ บิ๊กน้ำมันหล่อลื่น จ่อเข้าเทรด SET จับตา 'พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ (PSP)'เจ้าตลาดเบอร์หนึ่งธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นครบวงจรของไทยและอาเซียน เตรียมขายไอพีโอเข้าเทรด SET...
GSB ต้อนรับประธานกรรมการธนาคารออมสินคนใหม่ นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ในนามคณะกรรมการธนาคารออมสิน และนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร...
สนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร พร้อมด้วยนายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (...
‘ ณัฐพล ’ ปลัดอุตฯ บูมเศรษฐกิจภาคใต้ฝั่งอันดามัน ผุดกระบี่โมเดล ยกระดับ 3 มิติอุตสาหกรรม สู่การกระจายรายได้เศรษฐกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืน ดร . ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม...
บอร์ด บสย. แต่งตั้ง ' เอด วิบูลย์เจริญ ' ประธาน บสย. คนใหม่ คณะกรรมการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มีมติแต่งตั้ง ‘เอด วิบูลย์เจริญ’ดำรงตำแหน่ง ประธาน บสย. มีผลตั้งแต่วันที่ 14...
ทีซีซีเทค ปลื้ม Enjoy to the Max 2 บรรลุตามเป้า ! ต่อยอดการยกระดับดิจิทัลขั้นสูงในองค์กร สิ้นสุดพิธีมอบรางวัลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข สำหรับ “TCCtech X M365 Star Icon Stage” ภายใต้โครงการ Enjoy to...
รมว.เฮ้ง ส่ง ' โฆษก ' เยี่ยมกลุ่มบายศรีบึงกาฬ สร้างอาชีพเสริม รับนักท่องเที่ยวสายมู นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน...
ธพว . ร่วมพิธีทอดผ้าป่า กระทรวงการคลัง ณ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ( ธพว .) หรือ SME D Bank โดย นายศักดิ์สิทธิ์ ราชรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส...
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด