เมย์แบงก์ ประเทศไทย อวดความสำเร็จหนังโฆษณา ‘ไทย ไทย อินเวสเมนท์’ ตอกย้ำสังคมไทย ให้ลงทุนด้วยความรู้ ก่อนตัดสินใจลงทุน
บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST ตอกย้ำกลยุทธ์มุ่งสร้างโอกาสการลงทุนที่เท่าเทียม เดินหน้าสร้างความตระหนักรู้ด้านการลงทุนให้คนไทย ส่งหนังโฆษณา “ไทย ไทย อินเวสเมนต์” แนะนำการลงทุนอย่างถูกวิธี ตอกย้ำภาพเมย์แบงก์ บริษัทหลักทรัพย์ที่พร้อมเป็นที่ปรึกษาการลงทุนให้คนไทย เพราะเราเชื่อว่าทุกคนสามารถเป็นนักลงทุนได้
นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST กล่าวว่า ปัจจุบันการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลของคนรุ่นใหม่ ทำให้เกิดการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ มากมาย หากผู้ลงทุนไม่มีความรู้เท่าทัน จะมีความเสี่ยงสูง และมีโอกาสในการสูญเสียเงินจำนวนมากได้ ตามที่เราเห็นเป็นข่าวกันอยู่อย่างต่อเนื่อง หลักทรัพย์เมย์แบงก์ในฐานะบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่พร้อมเป็นที่ปรึกษาการลงทุนให้คนไทย ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและต้องการเปลี่ยนความเสี่ยงจากเทคโนโลยีให้เป็นโอกาสในการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อส่งต่อข้อมูลและเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับทุกคนได้อย่างเท่าเทียม จึงสร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงข้อมูลการลงทุนที่ถูกต้อง เชื่อถือได้ ทุกที่ทุกเวลา และล่าสุดได้เปิดตัวหนังโฆษณา “ไทย ไทย อินเวสเมนต์” สะท้อนพฤติกรรมการลงทุนของคนไทย ที่มีจำนวนมาก ยังลงทุนด้วยความไม่รู้ เชื่อตามคำบอกให้ผู้อื่น ไม่ได้ลงมือหาความรู้ หาข้อมูลจริง ด้วยตัวเอง ทำให้หลายคนขาดทุน และเข็ดกับการลงทุน ทำให้เสียโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งที่มั่นคงให้กับตนเอง
หนังโฆษณา “ไทย ไทย อินเวสเมนต์” เน้นย้ำและสะท้อนให้เห็นว่า ‘การลงทุน’ ไม่ใช่เรื่องของดวง! การลงทุนต้องเริ่มจากการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ถี่ถ้วน และรู้จักองค์กรนั้นๆ ให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ เพราะการลงทุน หรือซื้อหุ้นก็เหมือนกับเราเข้าไปมีส่วนร่วมไปกับบริษัทนั้นๆ ด้วย ดังนั้นต้องศึกษาให้ดีก่อน พร้อมกระตุกให้คิดว่าคุณกำลังลงทุนแบบไหนกันอยู่ พึ่งโชค พึ่งดวง พึ่งคนอื่น หวังรวยข้ามคืน? แต่การลงทุนจริงๆ คือ การลงมือทำด้วยตัวเอง ซึ่งทุกคนสามารถทำได้อย่างเท่าเทียมผ่านการเข้าถึงข้อมูลความรู้ต่างๆ ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มของเมย์แบงก์ หนังโฆษณาเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเป็นการทำงานร่วมกับบริษัท ชูใจ กะ กัลยาณมิตร จำกัด ในการออกแบบคอนเซปต์หนังโฆษณาครั้งนี้
“หลังจากเปิดตัวหนังโฆษณาเรื่องนี้ออกไป ได้รับการตอบรับดีมาก มียอดวิววิดีโอนี้จนถึงปัจจุบันมากถึง 1.5 ล้าน วิว มียอดดาวน์โหลดแอปไปแล้ว กว่า 10,000 ดาวน์โหลด เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังโฆษณาชุดนี้ จะช่วยให้คนไทยตระหนักถึงการให้ความสำคัญในการหาความรู้เพื่อการลงทุนมากขึ้น และมอบโอกาสให้ หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ เป็นหนึ่งในทางเลือกอันดับต้นๆ เพื่อให้คำปรึกษาและดูแลพอร์ตการทุนให้กับลูกค้า” นายอารภัฏ กล่าวสรุป
สามารถ รับชมโฆษณาเรื่องนี้ได้ที่ Facebook Maybank Securities Thailand หรือ คลิก https://bit.ly/3FdJ2cN
A11623
CGS-CIMB ผนึก SET ต้อนรับ ‘กองทุนรายใหญ่แดนมังกร’ ปูพรมร่วมขับเคลื่อนลงทุนแถบภูมิภาคอาเซียน
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGS-CIMB ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ให้การต้อนรับผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับแนวหน้าจากจีนมูลค่าพอร์ตรวมกว่า 42 ล้านล้านบาท ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมกิจการและร่วมหารือด้านการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน
นายพัชระนนท์ ชีวเกรียงไกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGS-CIMB ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ ดร.รินใจ ชาครพิพัฒน์ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานการตลาด ให้การต้อนรับผู้จัดการกองทุนรายใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า 42 ล้านล้านบาท (RMB8.1 trillion) เนื่องในโอกาสเข้าเยี่ยมชมกิจการและร่วมหารือเกี่ยวกับการลงทุน และการหาพันธมิตรระหว่างประเทศแถบภูมิภาคอาเซียนและประเทศจีน
สำหรับกองทุนจากประเทศจีน ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ได้แก่ Fullgoal Asset Management (HK) Limited, Bosera Asset Management (International) Co., Limited, China Universal Asset Management (Hong Kong) Company Limited, CSOP Asset Management Limited.
วัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์เพื่อต่อยอดการลงทุน และการหาพันธมิตรระหว่างประเทศแถบภูมิภาคอาเซียนและประเทศจีน เพื่อสร้างโอกาสให้นักลงทุนได้มีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น เช่น หุ้น ETF ตราสารหนี้ กองทุนรวม เป็นต้น นับเป็นความร่วมมือจากสถาบันการเงินชั้นนำจากจีน โดยมี CGS-CIMB เป็นตัวแทนในการเชื่อมโยงนักลงทุนสถาบันระหว่าง 2 ภูมิภาคใหญ่เข้าด้วยกัน
นอกจากนี้ยังมีวาระพิเศษอื่นๆ ว่าด้วยความร่วมมือเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์แถบภูมิภาคอาเซียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และร่วมหารือกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรายใหญ่ในประเทศ กว่า 8 ราย ที่ให้ความสนใจในการหาพันธมิตร เพื่อพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินร่วมกันในอนาคต และทำความเข้าใจรูปแบบการลงทุนของประเทศจีนในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการเชื่อมโยงระหว่าง 2 ภูมิภาคเข้าด้วยกัน
“CGS-CIMB รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมพิเศษในครั้งนี้ และได้ต้อนรับผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับแนวหน้าของจีน โดยได้รับความร่วมมือจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีการแลกเปลี่ยนมุมมองและวิสัยทัศน์ด้านการลงทุนในแถบภูมิภาคอาเซียน ซึ่งการเริ่มต้นในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงถึงศักยภาพความแข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำทางการเงินครบวงจร ในภูมิภาคเอเชีย” คุณพัชระนนท์กล่าวในที่สุด
A11405
‘ทรีนีตี้’ ชี้หุ้นไทยเดือนพ.ย.ดีช่วงแรก แต่ระวังหลังจากผ่านสัปดาห์แรกเป็นต้นไป
“ทรีนีตี้” มองหุ้นเดือน พ.ย. แกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1560-1660 จุด ช่วงต้นเดือนได้แรงหนุนจาก Fund flow ไหลเข้าหลังตัวเลขดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดพลิกปรับตัวดีขึ้น แนะลงทุนหุ้นเชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศ KBANK, AEONTS, TIDLOR, TLI, ADVANC, DTAC, ONEE, PLANB, RATCH, COM7
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนเดือนพฤศจิกายน 2565 ว่า คาดตลาดหุ้นไทยแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1560-1660 จุด โดยในช่วงแรกของเดือนคาดว่าบรรยากาศการลงทุนน่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดี จากการที่ไม่มีข่าวร้ายใหม่เข้ามากระทบ พร้อมทั้ง Fund flow มีสัญญาณบวกต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งจากการพลิกกลับมามีสัญญาณที่ดีของดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือนล่าสุด อย่างไรก็ดี พอผ่านพ้นช่วงต้นเดือนไป อาจต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะหากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาร้อนแรงต่อเนื่อง จะทำให้นักลงทุน Price in การขึ้นดอกเบี้ย Fed ครั้งสุดท้ายของปีนี้ในระดับที่รุนแรงมากขึ้นได้ ไม่นับรวมกับความเสี่ยงที่กนง.อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมปลายเดือนนี้อีกด้วย
ในเชิงกลยุทธ์ แนะนำถือครองหุ้นในส่วนเดิมซึ่งมีต้นทุนดัชนีอยู่ราว 1590 จุด โดยยังคงเน้นโฟกัสไปที่กลุ่ม Domestic cyclical ที่ยังคงได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจในประเทศที่ทยอยฟื้นตัว และอาจมีแรงหนุนเล็กน้อยจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศช่วงถัดไป ทั้ง กลุ่มธนาคารฯ เงินทุนหลักทรัพย์ ประกันภัย สื่อสาร และสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยมี Top pick 10 หุ้นเดิมได้แก่ KBANK, AEONTS, TIDLOR, TLI, ADVANC, DTAC, ONEE, PLANB, RATCH, COM7
นายณัฐชาต มองการประชุม FOMC ในช่วงต้นเดือนวันที่ 1-2 พ.ย. มีความสำคัญน้อยลง จากการที่ตอนนี้นักลงทุน Price in การขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ต้องติดตามถ้อยแถลงของนาย Jerome Powell ประธาน Fed ว่าจะออกมามีทิศทาง Dovish/Hawkish อย่างไร ส่วนในระหว่างเดือน คงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯกันต่อ เนื่องจากจะส่งผลต่อไปยังการคาดการณ์ Fed Funds futures ในตลาดได้ ซึ่งต้องบอกว่าในปัจจุบัน นักลงทุนยังคงมีมุมมอง 50:50 ระหว่างการขึ้นดอกเบี้ย 0.50% กับ 0.75% ในการประชุม Fed ครั้งสุดท้ายของปี วันที่ 13-14 ธ.ค.
ส่วนการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย.นั้น หากผลการเลือกตั้งออกมาเป็นไปตามที่โพลทุกสำนักมองไว้ว่าพรรครีพับลิกันจะสามารถกลับมายึดครองเสียงข้างมากในสภาล่างได้ มองจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดหุ้นสหรัฐฯในทางบวกได้ โดยหากอ้างอิงจากสถิติในอดีตนับตั้งแต่ปี 1990 จะพบว่าแทบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงเสียงข้างมากในสภาล่าง ตลาดหุ้นสหรัฐฯมักมีการตอบรับเชิงบวกได้ราว 4-5% โดยเสมอ ซึ่งอธิบายได้ด้วยเหตุผลของความคาดหวังในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่อาจจะตามมานั่นเอง
สำหรับปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ความคืบหน้าของการออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐที่อาจจะออกมาเพิ่มขึ้น อาทิ มาตรการคนละครึ่งเฟส 6 มาตรการเราเที่ยวด้วยกัน หากเกิดขึ้นจริง มองจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศที่ส่วนหนึ่งถูกกระทบจากปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในช่วงหลัง และน่าจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อกลุ่ม Domestic cyclical ที่ยังคงแนะนำถือครองเป็น Core portfolio ต่อไป
นอกจากนั้น ยังต้องติดตามการประชุมกนง.ในวันที่ 30 พ.ย. ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ ล่าสุด เสียงของนักลงทุนในตลาดยังคงแบ่งครึ่งระหว่างการคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 1.00% กับการขึ้นดอกเบี้ยไปอยู่ที่ 1.25% ทั้งนี้ จากการศึกษาของทรีนีตี้พบว่า หากมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% จะเป็นผลลบต่อดัชนี SET ราว 40-50 จุด ผ่านปรากฏการณ์ PE Contraction โดยจะทำให้ระดับ SET ที่เหมาะสมในกรณี Bull / Base / Bear ของทรีนีตี้ปรับลดทอนลงจาก 1750 / 1630 / 1510 จุด เป็น 1700 / 1580 / 1470 จุดตามลำดับ
A11094
บล.เอเซีย พลัส l บทวิเคราะห์กลยุทธ์ลงทุนเดือนพฤศจิกายน
บล.เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์กลยุทธ์ลงทุน ระบุว่า วัฎจักรความกลัวค่อยๆ อ่อนแรง และตลาดการเงินโลกดูดซับไว้ในราคาหุ้นมากระดับหนึ่งแล้ว เริ่มจาก 1) เงินเฟ้อขาลงชัดเจน ทั้งในสหรัฐฯ และไทย ซึ่งเงินสหรัฐเดือน ก.ย. 8.2% ชะลอลงติดต่อกัน 3 เดือน และฝ่ายวิจัยคาดมีแนวโน้มลดลงจนอยู่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ตลาดคาด 5.0% ในกลางปีหน้า เช่นเดียวกับเงินเฟ้อไทยที่ธปท. คาดจะเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% ในปีหน้า 2) ดอกเบี้ยเริ่มเข้าใกล้จุดที่เหมาะสม แม้ตลาดคาด Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% มาอยู่ที่ 4% ใน เดือนพ.ย. แต่ในปีหน้ากรอบบนการขึ้นดอกเบี้ยถูกจำกัดอยู่ที่ระดับ 5% เห็นได้ว่าระดับการขยับขึ้นค่อนข้างจำกัด 3) แม้มีความกังวล Recession ในสหรัฐฯ แต่ไทยยังห่างไกลสะท้อนได้จากการเกิด Inverted Yield Curve ของ Bond 10 ปี และ 2 ปีของสหรัฐที่ยาวนาน แตกต่างกันกับ Bond Yield ไทยที่ยังเป็นลักษณะ Upward Slope คือ Bond Yield 10 ปี ยังสูงกว่า 2 ปี ถึง 1.3%
เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นเด่นกว่าหลายประเทศ ดังนี้ 1) สภาพัฒน์ฯ คาดเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ขยายตัวราว 3% แสดงว่าในช่วง 2H65 น่าจะเห็นการเติบโตของ GDP ในอัตรา 3.6%YoY (สูงกว่า 1Q65 และ 2Q65 ที่ 2.3% และ 2.5% ตามลำดับ) และปี 2566 โตต่อเนื่องอีก 3.7% สวนทางกับเศรษฐกิจโลกที่ IMF คาดโตเพียง 2.7% 2) คาดดุลบัญชีเดินสะพัดมีสัญญาณการขาดดุลลดลง ทั้งจากดุลการค้าดีขึ้นจากการนำเข้าต้นทุนพลังงานที่ราคาเริ่มลดลงในช่วง 2-3 เดือนนี้ และดุลบริการปรับตัวดีขึ้นจากภาคการท่องเที่ยว หลังหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการเดินทางข้ามพื้นที่ 3) ช่วงที่เหลือของปี คาดหวังแพ็คเกจใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐ อาทิ คนละครึ่งเฟส 6, ช้อปช่วยชาติ เป็นต้น 4) เป็นปีที่ไทยเป็นเจ้าภาพงานประชุม APEC 2022 หวังเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ในมุม Valuation ตลาดหุ้นไทยยังดูน่าสนใจ และอยู่ใน Zone สะสมหุ้น ทั้งในมุม P/E 17 เท่ากว่าๆ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 19.5 เท่า และ PBV ต่ำเพียง 1.5 เท่า ลงมาในบริเวณใกล้กับ -1SD ที่ 1.66 เท่า ซึ่งในอดีตเคยเป็นแนวรับสำคัญพลิกเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้นในช่วงต้นปี 2559 พร้อมกับแรงกดดันต่างๆ ที่ตลาดหุ้นซึมซับไปในระดับหนึ่งแล้ว น่าจะเป็นจังหวะในการเข้าสะสมหุ้นอีกครั้งได้โดยฝ่ายวิจัยฯ คงเป้าหมายปลายปีที่ 1730 จุด ขณะที่ Fund Flow ต่างชาติเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่สามารถกำหนดทิศทางของตลาดหุ้นไทย สะท้อนได้จากข้อมูลปีนี้ ในวันที่ต่างชาติซื้อสุทธิ SET ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยต่อวัน 0.3% (มีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวก 80%) ส่วนช่วงเวลาที่เหลือของปี ฝ่ายวิจัยฯ ยังเชื่อว่า Fund Flow ยังมีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นไทยต่อ ทั้งจากสัดส่วนการถือครองทางตรงระดับต่ำไม่ถึง 22% พร้อมกับปัจจัยลบเริ่มคลาย เศรษฐกิจไทยเดินหน้าเร็วกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ล้วนเป็น แรงจูงใจในการเข้าลงทุนที่ดี ส่วนหุ้นเด่นเดือนพ.ย. แนะนำหุ้นธีม Domestic Consumption หลีกเลี่ยงความผันผวนจากปัจจัยภายนอก บวกกับผลประกอบการทยอยฟื้นตัวในงวด 4Q65 ต่อเนื่องปี 2566 อย่าง CBG, CRC, CK, BBL, PLANB, GULF, SCGP
[อ่านฉบับเต็ม Invest+_Nov]
A11065
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร ‘บล.พาย’ ที่ ‘BBB-‘ แนวโน้ม ‘Stable’
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ‘BBB-‘ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต’Stable’ หรือ ‘คงที่’โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะของบริษัทที่เป็นบริษัทลูกหลัก (Core Subsidiary) ของ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) อันดับเครดิตของ บล.พายอยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ได้รับอันดับเครดิต ‘BBB-/Stable’จากทริสเรทติ้ง) ซึ่งเป็นไปตาม ‘เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ’ ของทริสเรทติ้ง
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
เป็นบริษัทลูกหลักของบริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์
ทริสเรทติ้ง มองว่า บล. พายมีสถานะเป็นบริษัทย่อยหลักของบริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เนื่องจากบริษัทเป็นบริษัทลูกที่เป็นผู้ดำเนินธุรกิจเพียงรายเดียวของบริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โดยบริษัทมีส่วนแบ่งรายได้ต่อกลุ่มอยู่ที่ระดับ 98.2% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 และที่ระดับ 68.6% ในปี 2564
อีกทั้ง บริษัทแม่ยังเป็นผู้กำหนดและควบคุมดูแลการดำเนินงาน ตลอดจนนโยบายในการดำเนินธุรกิจ และนโยบายการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงของบริษัทอย่างใกล้ชิดโดยผ่านตัวแทนกรรมการบริษัทด้วย นอกจากนี้ บริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ยังดูแลการระดมทุนและกลยุทธ์การลงทุนของกลุ่มอีกด้วย
ทริสเรทติ้ง เชื่อว่า บริษัทจะยังคงดำรงสถานะในการเป็นบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มต่อไปในอนาคตอันใกล้จากการขยายธุรกิจของบริษัทอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างส่วนแบ่งรายได้ที่มีนัยสำคัญสำหรับกลุ่ม โดยแผนของผู้บริหารที่จะขยายธุรกิจของบริษัทไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ เช่น Pi Financial และ Pi Digital นั้นหากประสบความสำเร็จก็จะสามารถเสริมความสำคัญของบริษัทที่มีต่อกลุ่มได้
ผลการดำเนินงานที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแบ่งทางการตลาดของ บล. พายในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีส่วนแบ่งตลาดรายได้ที่สูงขึ้นในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งเติบโตขึ้นเป็น 2.7% ในปี 2564 และใน 6 เดือนแรกของปี 2565 จาก 0.9% ในปี 2560
นอกจากนี้ บล.พาย ยังมีส่วนแบ่งรายได้นายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามากเป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรม โดยมีส่วนแบ่ง 14.5% ในปี 2564 และ 15.0% ใน 6 เดือนแรกของปี 2565 จาก 0.4% ในปี 2560 รายได้ค่านายหน้าลดลง 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 ตามมูลค่าการซื้อขายของตลาดที่หดตัว 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน
โดยรวมแล้ว บล. พายมีส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่งให้แก่บริษัทในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นไปตามความคาดหวังและเป้าหมายทางกลยุทธ์ของกลุ่มที่มีต่อบริษัท
ได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่อง
สถานะของบริษัทที่มีต่อกลุ่มนั้นมีปัจจัยส่งเสริมจากการได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากกลุ่ม โดยบริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ให้การสนับสนุนทางด้านเงินทุนแก่บริษัทในรูปของการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิจำนวนทั้งสิ้น 300 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565
อีกทั้ง บริษัทยังมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อใช้ในการดำเนินงานอีกด้วย โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อจากสถาบันการเงินทั้งสิ้นจำนวน 1.6 พันล้านบาท โดยประมาณ 75% ของวงเงินดังกล่าวยังไม่มีการเบิกใช้
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้ง ตั้งอยู่บนความคาดหมายว่า บริษัทจะยังคงดำรงสถานะในการเป็นบริษัทลูกหลักของบริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ต่อไป
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต’Stable’ หรือ ‘คงที่’ สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้ง ว่า บริษัทจะยังคงรักษาสถานะในการเป็นบริษัทลูกหลักของบริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และจะยังคงมีสัดส่วนรายได้และกำไรสุทธิที่มีนัยสำคัญต่อกลุ่มต่อไป
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับขึ้นหรือลดลงหากสถานะทางเครดิตของบริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์เปลี่ยนแปลง หรือหากทริสเรทติ้งเห็นว่าสถานะในการเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่มีต่อบริษัทคันทรี่ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์นั้นเปลี่ยนแปลงไป
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 7 กันยายน 2565 |
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) (Pi)
อันดับเครดิตองค์กร: |
BBB- |
แนวโน้มอันดับเครดิต: |
Stable |
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ [email protected] โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
© บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้
ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html
Government-SE Matching Day สวส. จัดกิจกรรมรัฐรวมพลังจับคู่ธุรกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน ดึงวิสาหกิจเพื่อสังคมร่วมออกบูธกว่า 15 องค์กร สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) จัดกิจกรรม Government...
สภาพัฒ ฯ เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ปี 2565 ขยายตัวร้อยละ 2.2 เร่งขึ้นจากการขยายตัวร้อยละ 1.8 เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปี 2565 และแนวโน้มปี 2565 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ...
สศช.GDP ไตรมาส 4 ปี 64 ขยายตัว 1.9% รวมทั้งปี 64 ขยายตัว 1.6% คาดปี 65 ขยายตัว 3.5-4.5% สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( GDP) ไตรมาสที่สี่ ทั้งปี 2564 และแนวโน้มปี 2565...
ฟิทช์ เรทติ้งส์: เศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวได้ดีท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ฟิทช์ เรทติ้งส์ - กรุงเทพฯ - 18 ตุลาคม 2565: ในงานสัมมนาประจำปีของฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ที่จัดขึ้นในวันนี้...
' มองเศรษฐกิจโลก สะท้อนเศรษฐกิจไทย ' ในการจัดเสวนา 'Better Thailand Open Dialogue ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม ’ ผมมีโอกาสร่วมเสวนาหัวข้อ ' มองเศรษฐกิจโลก สะท้อนเศรษฐกิจไทย '...
นายกรัฐมนตรี ปลื้ม FANC มอบใบเซอทิฟิเขท หลังเห็นความมุ่งมั่นของรัฐบาล แก้ยาเสพติดแนวใหม่ รับปาก หนุนแก้อำนาจ ป.ป.ส.เป็นพนักงานสอบสวน-เพิ่มเครื่องมือ หวังยึดทรัพย์ตัดวงจรยา ชม ก.ยุติธรรม...
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดการติดตามผลการบังคับใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด หวังยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด พร้อมรับใบเซอทิฟิเขท จากกลุ่มเจ้าหน้าที่ประสานงานยาเสพติดและอาชญากรรมต่างประเทศ หรือ FANC...
นายกฯ ติดตามงาน 'ขจัดความยากจน-พัฒนาคนทุกช่วงวัย' กำชับเร่งแก้ไขปัญหาความยากจนแบบ 'พุ่งเป้า' ตรงจุด ทันเวลา และเป็นรูปธรรม พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามการดำเนินงาน...
บุกค้น 2 ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากออนไลน์รายใหญ่ มีสลากขายเกินราคา 6.7 ล้านฉบับ เร่งขยายผล ตัดสิทธิ ยกเลิกโควตาตัวแทนจำหน่าย-ผู้มีสิทธิซื้อจอง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ...
DGA เร่งยกระดับนวัตกรรมภาครัฐโกอินเตอร์ อวดโฉมงานวิจัยสู่เวทีสากลผ่านงาน DGTi-Con 2022 สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล จัดงานประชุมวิชาการนานาชาติ ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมภาครัฐ DGTI-Con 2022...
ตัวแปลงสกุลเงินนี้ควบคุมดูแลระบบทำงานโดย Investing.com ประเทศไทย |
0 MTC มาตามนัด Q2/66 พอร์ตสินเชื่อแตะ 132,851 ลบ.เดินหน้าพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนเคียงคู่สังคมไทย เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ อัตราดอกเบี้ย 4.25-4.80% คาดเสนอขายวันที่ 21-23 ส.ค.นี้ บมจ.เมืองไทย...
ALT โชว์ไตรมาส 2/66 กวาดรายได้ 396 ลบ . งานโซลาร์รูฟท็อป - บริการโครงข่ายรุ่งแนวโน้มโตต่อเนื่อง เอแอลที เทเลคอม โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 กวาดรายได้ 396 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 56.6%...
PSP พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ บิ๊กน้ำมันหล่อลื่น จ่อเข้าเทรด SET จับตา 'พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ (PSP)'เจ้าตลาดเบอร์หนึ่งธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นครบวงจรของไทยและอาเซียน เตรียมขายไอพีโอเข้าเทรด SET...
GSB ต้อนรับประธานกรรมการธนาคารออมสินคนใหม่ นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ในนามคณะกรรมการธนาคารออมสิน และนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร...
สนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร พร้อมด้วยนายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (...
‘ ณัฐพล ’ ปลัดอุตฯ บูมเศรษฐกิจภาคใต้ฝั่งอันดามัน ผุดกระบี่โมเดล ยกระดับ 3 มิติอุตสาหกรรม สู่การกระจายรายได้เศรษฐกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืน ดร . ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม...
บอร์ด บสย. แต่งตั้ง ' เอด วิบูลย์เจริญ ' ประธาน บสย. คนใหม่ คณะกรรมการบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มีมติแต่งตั้ง ‘เอด วิบูลย์เจริญ’ดำรงตำแหน่ง ประธาน บสย. มีผลตั้งแต่วันที่ 14...
ทีซีซีเทค ปลื้ม Enjoy to the Max 2 บรรลุตามเป้า ! ต่อยอดการยกระดับดิจิทัลขั้นสูงในองค์กร สิ้นสุดพิธีมอบรางวัลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข สำหรับ “TCCtech X M365 Star Icon Stage” ภายใต้โครงการ Enjoy to...
รมว.เฮ้ง ส่ง ' โฆษก ' เยี่ยมกลุ่มบายศรีบึงกาฬ สร้างอาชีพเสริม รับนักท่องเที่ยวสายมู นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน...
ธพว . ร่วมพิธีทอดผ้าป่า กระทรวงการคลัง ณ วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ( ธพว .) หรือ SME D Bank โดย นายศักดิ์สิทธิ์ ราชรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส...
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด