กรมอนามัย แนะหน่วยเลือกตั้ง พร้อมปฏิบัติเข้ม 6 ข้อ ป้องกันโควิด-19
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะหน่วยเลือกตั้งคุมเข้ม 6 ข้อปฏิบัติ พร้อมย้ำประชาชน ผู้มาใช้สิทธิปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และประเมินความเสี่ยงตนเองผ่าน’ไทยเซฟไทย’เพื่อลดความเสี่ยงโรคโควิด-19
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 เป็นวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ตามที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งในช่วงนี้ยังคงต้องป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง จึงขอความร่วมมือแต่ละหน่วยเลือกตั้งให้เข้ม 6 ข้อปฏิบัติ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ ดังนี้
1) สถานที่เลือกตั้ง ควรมีการระบายอากาศที่ดี ไม่แออัด 2) ในหน่วยเลือกตั้งต้องกำหนดจุดให้มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ไว้ให้บริการประชาชนที่มาใช้สิทธิในทุกหน่วยเลือกตั้ง ทั้งก่อน และหลังเข้าคูหา 3) ควรมีเจ้าหน้าที่ตรวจอุณหภูมิผู้มาใช้สิทธิ หากพบว่ามีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ควรให้แยกใช้สิทธิลงคะแนนในคูหาพิเศษ ซึ่งอยู่บริเวณหน่วยเลือกตั้งเดียวกัน เพื่อไม่ให้ปะปนกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งคนอื่น และแจ้งหน่วยบริการสาธารณสุข เพื่อดำเนินการต่อไป
4) ควบคุม ดูแล ให้ผู้มีสิทธิ และผู้ที่อยู่ในหน่วยเลือกตั้งสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 5) จัดระยะห่างของผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนเข้าไปยังคูหา เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดระหว่างกัน และ 6) ควรมีการทำความสะอาดอุปกรณ์ หรือจุดที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อยๆ หรืออาจให้ประชาชนนำปากกาส่วนตัวมาเอง ซึ่งสามารถทำได้ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
“ทั้งนี้ ก่อนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข โดยประเมินความเสี่ยงตนเองผ่าน ‘ไทยเซฟไทย’ หรือแอปพลิเคชั่นอื่นๆ และเมื่อถึงหน่วยเลือกตั้งให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เลี่ยงการรวมกลุ่มพูดคุย ใช้เวลาให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการตะโกนเชียร์ขณะนับคะแนน รวมทั้งเมื่อกลับถึงบ้านให้รีบอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าทันที”อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
อนุทิน มอบกรมควบคุมโรคหารือ กกต.จัดเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ปลอดภัยจาก’โควิด’ ไม่ตัดสิทธิ์ผู้ติดเชื้อ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยกรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างหารือ กกต. บริหารจัดการเขตเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.และ ส.ก.ให้ปลอดภัยจากโควิด ยันไม่ตัดสิทธิ์ผู้ติดเชื้อ หากประสงค์ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง อาจจัดคูหาพิเศษ พร้อมให้ใส่หน้ากาก 2 ชั้น
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) สำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิด 19 ว่า กรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างการหารือเร่งด่วนกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อบริหารจัดการในเขตเลือกตั้งให้มีความปลอดภัย และไม่เป็นการลิดรอนสิทธิ์ของผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ประสงค์จะใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ง เพราะการที่ผู้คนเจ็บป่วยแล้วไม่ให้ออกมาใช้สิทธิ์ถือเป็นการก้าวล่วง
ดังนั้น ต้องหาวิธีบริหารจัดการการเลือกตั้งให้ผ่านไปได้ด้วยดี เบื้องต้นหากผลตรวจ ATK เป็น 2 ขีดหรือติดเชื้อ และมีความประสงค์จะใช้สิทธิ์เลือกตั้ง สามารถเดินทางมาแจ้งหน่วยเลือกตั้งได้โดยใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น ซึ่งอาจจะมีการจัดคูหาหรือช่องแยกโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิด
“ยืนยันว่า จะมีการบริหารจัดการการเลือกตั้งให้เกิดความปลอดภัยแก่ส่วนรวมเป็นหลัก และจะไม่ให้เป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียแน่นอน ส่วนเจ้าหน้าที่บุคลากรก็จะบริหารจัดการให้เพียงพอ ซึ่งการเลือกตั้งไม่ได้เป็นภารกิจที่เกิดทุกวัน และมีความสำคัญต่อการบริหารบ้านเมือง จึงต้องหาวิธีที่ปลอดภัยมีประสิทธิภาพมากที่สุดไม่ลิดรอนสิทธิ์ประชาชนอย่างเด็ดขาด” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนการขับเคลื่อนโรคโควิด 19 สู่โรคประจำถิ่น ไม่ได้ระบุวันเวลาที่ชัดเจน แต่สิ่งที่ปฏิบัติทุกวันนี้คือการเดินสู่การเป็นโรคประจำถิ่นอยู่แล้ว และจะทำไปพร้อมกันทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด อาจจะมีมาตรการในจังหวัดของตนเองได้ซึ่งเป็นอำนาจภายใต้กฎหมาย
ผู้บริหารซื้อ-ขายหุ้น 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565
ข้อมูลประจำวันที่ 24 ก.พ. 2565
เป็นข้อมูลที่สำนักงานบันทึกเข้าระบบเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 และแสดงเฉพาะรายการที่เกิดขึ้นย้อนหลังไม่เกิน 1 เดือน
ข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ 59) (จำนวนรายการที่พบ 12 รายการ)
ชื่อบริษัท | ชื่อผู้บริหาร | ความสัมพันธ์ * | ประเภทหลักทรัพย์ | วันที่ได้มา/จำหน่าย | จำนวน | ราคา | วิธีการได้มา/จำหน่าย | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) บมจ.(CPANEL) | นาย สิทธิศักดิ์ ศรีโยหะ | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 23/02/2565 | 10,000 | 6.44 | ซื้อ | |
ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บมจ.(THG) | นาย บุญ วนาสิน | นิติบุคคลซึ่งผู้จัดทำรายงาน คู่สมรสหรือผู้ที่อยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถือหุ้นรวมกันเกินร้อยละ 30 ของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมด และมีสัดส่วนการถือหุ้นมากที่สุด (บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด) | หุ้นสามัญ | 23/02/2565 | 176,700 | 49.22 | ซื้อ | |
ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บมจ.(THG) | นาย วีระชัย ศรีขจร | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 23/02/2565 | 40,000 | 49.25 | ขาย | |
ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บมจ.(THG) | นาย วีระชัย ศรีขจร | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 23/02/2565 | 20,000 | 49.75 | ขาย | |
นวนคร จำกัด (มหาชน) บมจ.(NNCL) | นาง พีรยลักษณ์ ตั้งสุณาวรรณ | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 22/02/2565 | 108,900 | 2.49 | ซื้อ | |
บิซิเนส ออนไลน์ จำกัด (มหาชน) บมจ.(BOL) | นางสาว อธิตา วรพันธ์ โตวัน | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 24/02/2565 | 34,000 | 13.40 | ซื้อ | |
โรงงานผ้าไทย จำกัด (มหาชน) บมจ.(TTI) | นาย กำจร ชื่นชูจิตต์ | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 23/02/2565 | 1,300 | 26.75 | ซื้อ | |
โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) บมจ.(RJH) | นาย ศรัณย์ สุภัคศรัณย์ | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 23/02/2565 | 10,000 | 32.50 | ซื้อ | |
โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) บมจ.(RPH) | นาย ศรัณย์ สุภัคศรัณย์ | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 22/02/2565 | 100,000 | 6.48 | ซื้อ | |
โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) บมจ.(RPH) | นาย ศรัณย์ สุภัคศรัณย์ | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 23/02/2565 | 50,100 | 6.40 | ซื้อ | |
เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) บมจ.(SVI) | นาย เวอร์น รัชเชลล์ มันเดลล์ | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 21/02/2565 | 150,000 | 11.26 | ขาย | |
เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) บมจ.(SVI) | นาย เวอร์น รัชเชลล์ มันเดลล์ | ผู้รายงาน | หุ้นสามัญ | 22/02/2565 | 50,000 | 10.10 | ขาย |
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพ
https://market.sec.or.th/public/idisc/th/r59
ก.ล.ต. รับฟังความเห็นหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการลงทะเบียนแสดงตัวตนของผู้ลงทุนตราสารหนี้ในประเทศไทย (Bond Investor Registration)
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความเห็นหลักเกณฑ์สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการซื้อขายตราสารหนี้ และให้บริการดูแลและเก็บรักษาตราสารหนี้ รองรับการให้บริการผู้ลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในตราสารหนี้ไทย ให้มีการลงทะเบียนแสดงตัวตนกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตามแผนความร่วมมือระหว่าง ก.ล.ต. และ ธปท. ในโครงการ Bond Investor Registration
ก.ล.ต. เตรียมออกหลักเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ที่ให้บริการซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือจัดจำหน่ายตราสารหนี้ (ผู้ประกอบธุรกิจ) ต้องตรวจสอบว่า ลูกค้าและผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (ultimate beneficiary owner: UBO) ซึ่งเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศ มีการลงทะเบียนแสดงตัวตนกับ ธปท. แล้ว เพื่อให้ ธปท. มีข้อมูลสำหรับติดตามพฤติกรรมของนักลงทุนในตลาดตราสารหนี้ (market surveillance) ในเชิงลึกที่ถูกต้อง ครบถ้วน รวดเร็ว ซึ่งเป็นไปตามแผนความร่วมมือในโครงการที่กล่าวมาข้างต้น สำหรับการให้บริการดูแลและเก็บรักษาตราสารหนี้ (custodian service) ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องดำเนินการให้ลูกค้าและ UBO เปิดบัญชีหลักทรัพย์แบบแยกรายบัญชี และเปิดบัญชีฝากหลักทรัพย์แบบแยกรายบัญชีที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ รวมทั้งมีการลงทะเบียนแสดงตัวตนกับ ธปท. และแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้ ธปท. ทราบ
นอกจากนี้ ในการรับมอบหรือส่งมอบตราสารหนี้แก่ลูกค้า ก.ล.ต. กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ดำเนินการผ่านบัญชีฝากหลักทรัพย์แยกรายลูกค้าที่ได้ดำเนินการลงทะเบียนแสดงตัวตนข้างต้น โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับพร้อมกับ ธปท. ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2565 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=734 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: [email protected] หรือ [email protected] จนถึงวันที่ 3 กันยายน 2564
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
ผู้ถือหุ้นกู้การบินไทยยื่นคำขอรับชำระหนี้หุ้นกู้ได้ถึงวันที่ 2 พ.ย. นี้ เท่านั้น
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดรับการยื่นคำขอรับชำระหนี้หุ้นกู้บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ในส่วนที่เป็นผู้ถือหุ้นกู้บุคคลธรรมดา กรณีศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งฟื้นฟูกิจการ THAI และตั้งผู้ทำแผนเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 โดยมีกำหนดให้ผู้ถือหุ้นกู้ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16.30 น. นั้น
ก.ล.ต. พบว่า ยังมีผู้ถือหุ้นกู้บุคคลธรรมดาจำนวนหนึ่งที่ยังไม่ได้ยื่นขอรับชำระหนี้หุ้นกู้ดังกล่าว ดังนั้น จึงขอแจ้งให้ผู้ถือหุ้นกู้บุคคลธรรมดายื่นขอรับชำระหนี้หุ้นกู้ ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เวลา 16.30 น. ซึ่งจะเป็นวันครบกำหนด
ผู้ถือหุ้นกู้บุคคลธรรมดาสามารถยื่นคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าวทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนดในเว็บไซต์กรมบังคับคดี http://www.led.go.th/tgreorg/index.asp หรือยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ที่จุดบริการ ณ สำนักงาน ก.ล.ต. ถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณชั้น G ที่เปิดเป็นศูนย์ประสานงานหุ้นกู้การบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จากกรมบังคับคดีช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอรับบริการในทุกขั้นตอน ตามวันและเวลาราชการ (8.30 – 16.30 น.) จนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563
ผู้ถือหุ้นกู้ THAI สามารถศึกษาข้อมูลเรื่องเอกสารประกอบและแนวทางการยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ที่เว็บไซต์ของกรมบังคับคดี www.led.go.th เว็บไซต์ของบริษัท การบินไทย www.thaiairways.com หรือโทรสอบถามได้ที่
กรมบังคับคดี 02-887-5026-29 หรือ สายด่วนผู้ถือหุ้นกู้การบินไทยของ ก.ล.ต. 1207 กด 9 หรือ call center ของบริษัท การบินไทย 02-356-1111 กด 8
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นกู้สามารถตรวจสอบข้อมูลยอดหนี้ของตนเองได้ที่เว็บไซต์ www.tgbondinfo.com รวมทั้งมีรายละเอียดต่างๆ ที่ผู้ถือหุ้นกู้ต้องนำไปใช้กรอกคำขอรับชำระหนี้ไว้โดยเฉพาะ
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด