ปชป. หนุนเยาวชนเล่น E-Sports เตรียมส่งทีมยุว ปชป. ร่วมแข่ง E-Sports ก่อนจัดเองแบบออนไลน์ยิ่งใหญ่ในพื้นที่ กทม. มุ่งขยายฐานเยาวชน
นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า หลังจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการเปิดตัว QR Code “Democrat for All” เพื่อรับสมัครกลุ่มคนเลือดใหม่คนรุ่นใหม่แบบออนไลน์ มาร่วมขับเคลื่อนพรรคผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และได้รับการตอบรับจากคนรุ่นใหม่สนใจสมัครมาร่วมงานกับพรรคเป็นจำนวนมาก พรรคจึงมีแผนงานที่จะขับเคลื่อนงานทางด้านกิจการเยาวชนคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อขยายฐานคนรุ่นใหม่ โดยเน้นการสร้างสรรค์กิจกรรมที่ตอบโจทย์ และสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล ที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ นอกเหนือไปจากการจัดอบรมยุวประชาธิปัตย์ที่พรรคประชาธิปัตย์ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องแล้วคณะกรรมการกิจการเยาวชนของพรรคฯ ที่มี ดร.สรรเสริญ สมะลาภา เป็นประธานฯ ยังได้มีแผนงานเตรียมจัดการแข่งขัน E-Sports หรือกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Sport) เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประเภทบุคคลหรือทีมที่เกี่ยวกับการแข่งขันวีดีโอเกมส์ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เยาวชนทั่วโลกรวมทั้งในประเทศไทย มีการแข่งขันในระดับนานาชาติทั้งซีเกมส์ และเอเชียนเกมส์ ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมเกมมิ่งและอีสปอร์ตมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด
การจัดให้มีการแข่งขันกีฬา E-Sports จึงถือเป็นการสนับสนุนกีฬา E-Sports ให้แก่เยาวชนอย่างสร้างสรรค์ไปในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสม และใช้กีฬา E-Sports ให้เกิดประโยชน์ต่อการสร้างอาชีพและรายได้ ห่างไกลจากการพนันและอบายมุขต่างๆ รวมถึงสร้างทักษะในการนำเทคโนโลยีมาใช้แก้ปัญหา และเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นกลุ่มอีกด้วย โดยจะจัดการแข่งขันแบบ Online เนื่องจากยังอยู่ในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา(COVID-19) โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะมาจากพื้นที่การเลือกตั้งในกรุงเทพฯ จำนวน 30 เขต ซึ่งพื้นที่ 30 เขต จะเป็นผู้สนับสนุนและเข้าร่วมการแข่งขัน และจะแจ้งช่วงเวลาที่ชัดเจนอีกครั้งสำหรับผู้สนใจ
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ของพรรค เข้าร่วมการแข่งขัน E-Sports ที่จัดโดยองค์กรอื่นด้วย นายพนาสิน จึงสวนันทน์ คณะกรรมการกิจการเยาวชน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการแข่งขันกีฬา E-Sports ได้เชิญชวนให้กลุ่มยุวประชาธิปัตย์ร่วมแข่งขันเกมมือถือออนไลน์ชื่อ Arena of Valor (AoV หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า RoV) ในเวที 'SAT Valor City Tour 2021 ภาคเหนือ' ในนามพรรค ภายใต้ทีม ‘Young Democrat’ ที่จัดโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระหว่างวันที่ 19 เมษายน- 2 พฤษภาคม 2564 พร้อมเตรียมเงินอัดฉีดในกรณีที่เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจรวมถึงเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเยาวชนให้ใช้พลังอย่างสร้างสรรค์และไปในทิศทางที่ถูกต้อง
“พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้การนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้ให้ความสำคัญกับกิจการเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเปิดพื้นที่และให้โอกาสในการมาร่วมขับเคลื่อนพรรคมาโดยตลอด ทั้งในรูปแบบการช่วยงานพรรค อาทิ ร่วมเป็นคลังสมองของพรรค การร่วมทีมเป็นคณะทำงาน คณะที่ปรึกษา คณะอนุกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร การเป็นอาสาสมัครช่วยงานพรรคในพื้นที่ การร่วมกิจกรรมยุวประชาธิปัตย์ หรือการร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่พรรคจัดขึ้น รวมไปถึงการพิจารณาให้เป็นผู้สมัคร ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครท้องถิ่นในอนาคต เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกเพศ ทุกวัยที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยและเชื่อมั่นในพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีโอกาสร่วมกันขับเคลื่อนพรรคไปด้วยกันได้อย่างแท้จริง”นางดรุณวรรณ กล่าว
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
ปชป. ปิดรับสมัคร สก.ออนไลน์ ได้คนหน้าใหม่สนใจร่วมงานหลากหลายโปรไฟล์
เตรียมพิจารณาผู้เหมาะสมลงสมัคร ย้ำพร้อมเปิดรับพิจารณาคนนอก ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.
พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และเลขานุการคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ กทม. ได้เปิดเผยว่าตามที่พรรคได้เปิดรับสมัคร บุคลากรที่สนใจมาร่วมงานท้องถิ่นกับพรรคทั้งในส่วนของ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาเขต และอาสาสมัครทำงานพื้นที่ กทม. เพื่อเปิดกว้างสำหรับคนทุกกลุ่ม ผ่านแบบฟอร์มการรับสมัครแบบออนไลน์ขึ้นมาเป็นครั้งแรกเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์และพฤติกรรมของคนในยุคปัจจุบันที่หันมาใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น โดยได้เปิดรับสมัครไปตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 และได้ปิดรับสมัครไปในวันที่ 15 มกราคม 2564 แล้วนั้น
พรรคประชาธิปัตย์ เล็งเห็นความสำคัญในการทำงานระดับท้องถิ่น ซึ่งถือว่าเป็นการทำงานระดับฐานราก ที่สามารถเอื้ออำนวยประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนในการพัฒนาความเป็นอยู่ในระดับท้องถิ่นได้และถือเป็นการสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งเสริมการกระจายอำนาจ กระจายโอกาส กระจายงบประมาณ กระจายรายได้ให้ออกไปสู่พี่น้องประชาชน เป็นส่วนหนึ่งของการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน อันเป้าหมายสำคัญของการกระจายอำนาจ นอกจากนี้ยังและสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนที่จะสามารถเลือกคนของท้องถิ่นให้มาทำงานเพื่อพัฒนาท้องถิ่นของตัวเอง
เป็นที่น่ายินดีว่า หลังจากเปิดรับสมัคร ได้มีผู้สนใจสมัครที่แสดงเจตจำนงเข้ามาร่วมงานกับพรรคผ่านช่องทางออนไลน์ทั้งในส่วนของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาเขต และอาสาสมัครทำงานพื้นที่ กทม. ที่มีความหลากหลาย ทั้งเพศ วัย อาชีพ และระดับการศึกษา โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่เปิดกว้างและเปิดพื้นที่สำหรับคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง
นางดรุณวรรณ ยังได้กล่าวต่อด้วยว่า พรรคฯ ได้เตรียมความพร้อมของการเลือกตั้งท้องถิ่นในกรุงเทพมหานครมาตามลำดับ ทั้งความพร้อมที่สำคัญประกอบด้วย 2 ส่วนคือ การเตรียมความพร้อมเรื่องนโยบายกรุงเทพมหานคร ซึ่งที่ผ่านมา พรรคฯ ได้พยายามสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยให้ประชาชนทุกภาคส่วน รวมถึงอดีต ส.ส. อดีตผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เข้ามามีส่วนในการกำหนดนโยบาย ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ สัมมนาเชิงปฏิบัติการณ์ “Design Thinking” ซึ่งเป็นการระดมสมองเพื่อสร้างกรุงเทพฯ ที่ทันสมัยขึ้น ภายใต้โครงการ Modern Bangkok ทั้งนี้จะได้มีการจัดกิจกรรมเหล่านี้อย่างต่อเนื่องอีกครั้ง เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ภายใต้มาตรการที่ ศบค.กำหนด รวมถึงการเตรียมความพร้อมเรื่องบุคลากร ที่จะทำงานในระดับท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร ซึ่งบุคลากรดังกล่าวนั้นมีหลายระดับ ตั้งแต่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาเขตกรุงเทพมหานคร และยังมีคนทำงานที่สนใจเป็นอาสาสมัครทำงานในพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในระดับต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ ผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามกฎหมาย และได้สมัครผ่านระบบออนไลน์มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พรรคฯ จะมีกระบวนการพิจารณาในการคัดสรรผู้สมัครต่อไป สำหรับในเขตที่มีตัวผู้สมัครเดิมที่ทำงานใกล้ชิดกับพื้นที่อย่างเข้มแข็งมาตลอด พรรคจะให้โอกาสผู้สมัครเดิมเป็นลำดับแรก และจะมีผู้สมัครหน้าใหม่เพิ่มเติมที่พรรคฯ พิจารณาแล้วว่ามีคุณสมบัติเหมาะสม มีศักยภาพ และมีแนวคิดในการทำงานที่สอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรคในบางพื้นที่ที่ยังไม่ได้กำหนดตัวผู้สมัครอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ที่หลายคนต้องการทราบความชัดเจน พรรคยังยืนยันที่จะส่งผู้สมัครโดยไม่ปิดกั้นโอกาสทั้งคนในพรรคที่หลายคนมีศักยภาพมาก รวมถึงบุคคลภายนอกที่มีความรู้ ความสามารถ และมีอุดมการณ์ที่สอดคล้องกัน พรรคยินดีที่จะพูดคุย และจะมีความชัดเจนขึ้นต่อจากนี้ไปตามลำดับ
A1646
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
‘อภิชัย เตชะอุบล’ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ปชป. มองโควิด-19 ลุกลามรุนแรง
รัฐบาลควรเร่งจัดการพร้อมเสนอ 4 มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
‘อภิชัย เตชะอุบล’ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินผลโควิด-19 ลุกลามรุนแรงกว่าวิกฤตครั้งไหน เสนอ 4 มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ให้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา-ลดค่าโอนและภาษีอสังหาริมทรัพย์-ส่งเสริมท่องเที่ยว-เพิ่มเงินอุดหนุนให้ผู้ตกงานหวังกระตุ้นการจับจ่ายใจสอย
นายอภิชัย เตชะอุบล กล่าวในฐานะส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบลุกลามในวงกว้างครอบคลุมประชาชนในทุกกลุ่ม และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ นับว่ารุนแรงกว่าวิกฤตการณ์ครั้งไหนๆ แม้แต่วิกฤตต้มยำกุ้ง หรือแม้แต่วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในสหรัฐอเมริกา นับเป็นเรื่องถูกต้องกรณีรัฐบาลขยายระยะเวลาการล็อกดาวน์ประเทศออกไปอีก 1 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถจำกัดการแพร่เชื้อไวรัสได้
ดังนั้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐมีความสำคัญ และจำเป็นอย่างมาก เพื่อบรรเทา เยียวยาและช่วยเหลือประชาชนในทุกกลุ่มครอบคลุมทุกภาคส่วน และต้องเร่งคลอดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ขณะนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศภายหลังการปลดล็อกดาวน์ได้รับความบอบช้ำน้อยที่สุด และให้สามารถฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
ในความคิดเห็นส่วนตัว ได้เสนอ 4 แนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ ดังนี้
1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพิ่มสิทธิลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา สามารนำค่าใช้จ่ายจากการบริโภค ท่องเที่ยวในประเทศ ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย นำมาลดหย่อยภาษีสำหรับปีภาษี 2562-2564 เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ และเศรษฐกิจโดยภาพรวม ในเบื้องต้นอาจทำให้รัฐสูญเสียรายได้ในการจัดเก็บภาษี แต่ท้ายที่สุดเงินเหล่านี้จะกลับเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ
2. ภาคอสังหาริมทรัพย์ ขณะนี้พบว่ามีอุปทานส่วนเกินหรืออาคารชุดค้างในตลาดไม่น้อยกว่า 500,000 ยูนิต ราคาเฉลี่ยยูนิตละ 6 ล้านบาท ภาครัฐควรออกมาตรการสนับสนุนเพื่อระบายอสังหาริมทรัพย์คงค้างดังกล่าว เพราะจะก่อให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจราว 3 ล้านล้านบาท รวมถึงก่อให้เกิดการสร้างงานตามมา แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าขณะนี้คนในประเทศอาจขาดกำลังซื้อ หรือไม่มั่นใจในภาวะเศรษฐกิจ จำเป็นต้องหามาตรการจูงใจโดยอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถพำนักในประเทศไทยได้ 10-20 ปี โดยไม่ต้องขอวีซ่า (Non-Immigrant Visa) กรณีซื้ออาคารชุดตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป
ขณะเดียวกันควรออกมาตรการลดหย่อนภาษีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์บ้านจาก 2% เหลือ 0.01% ลดค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% และลดค่าภาษีธุรกิจเฉพาะจาก 3.3% เหลือ 0.11%
3. การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Medical tourism และ แพทย์ทางเลือกแผนไทย โดยให้วีซ่า 1 ปี กรณีการขอผ่านโรงพยาบาล โดยให้กระจายโควต้า ไปในจังหวัดที่ได้รับการส่งเสริม เพื่อเป็นการกระจายรายได้สู่ที่พักในต่างจังหวัดและเพิ่มมูลค่าในการท่องเที่ยว
ขณะเดียวกันเพิ่มจุดขายของ ประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านสาธารณสุขของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้ง เผยแพร่วัฒนธรรม วิถีชีวิตชาวพุทธที่จะช่วยเยียวยาให้กับผู้คนที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19
4. เงินกองทุนประกันสังคม จากการที่ภาครัฐให้เงินสนับสนุนแรงงานที่ตกงาน โดยจ่ายในอัตรา 62% ของเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท นั้น มองว่าเงินจำนวนดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ เสนอให้เพิ่มอัตราการจ่ายเป็น 80% ของเงินเดือน และขยายเพดานเงินเดือนของผู้ที่จะได้รับเงินอุดหนุน จากเดิมกำหนดให้ต้องมีเงินเดือนไม่เกิน 15,000 บาท เป็นไม่เกิน 50,000 บาท
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ และดำเนินการโดยเร็ว เพราะหากดำเนินการล่าช้า อาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งอาจต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟู” นายอภิชัยกล่าว
AO5634
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web
พรรคประชาธิปัตย์ ห่วงนักศึกษาตกงาน ช่วงวิกฤตโควิด-19 ชวนใช้แอพ ‘@DemTum’ ช่วยหางาน
แนะเร่งพัฒนาทักษะ เสริมสมรรถนะรับยุค Digital เตรียมพร้อมหางานหลังวิกฤต
นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่าจากวิกฤตโควิด-19 ที่ได้กลายเป็นวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลให้อัตราผู้ว่างงานมากขึ้น แนะนักศึกษาจบใหม่และผู้กำลังหางานใช้แอพพลิเคชั่น ‘@DemTum’ ที่พัฒนาโดยทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อค้นหางาน เนื่องจากหลายบริษัทยังมีความต้องการจ้างงานโดยเฉพาะสาขางานที่ตอบโจทย์และเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตในช่วงโควิด-19 อาทิ โปรแกรมเมอร์ เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ โลจิสติกส์ พนักงานขนส่งสินค้าและอาหาร และเร่งเสริมทักษะ (Upskill) พัฒนาสมรรถนะ เพื่อปรับตัวให้ทัน
นางดรุณวรรณ ยังกล่าวต่อด้วยว่า วิกฤตโควิด-19 ส่งผลให้อัตราผู้ว่างงานมากขึ้น ประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเดิมที่สำนักงานสถิติแห่งชาติเคยระบุไว้ว่ามีจำนวนผู้ว่างงานในไทยมากกว่า 4 แสนราย ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการในหลายๆ ภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบกันอย่างถ้วนหน้า วิกฤตคราวนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดแรงงานอย่างสิ้นเชิง ที่ต้องปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับ Digital Transformation & Disruption อย่างเต็มตัว ผู้ประกอบการต้องมองหาแนวทางในการทำให้ธุรกิจเติบโตและขยายตัวอย่างมีประสิทธิภาพ และเริ่มนำนวัตกรรมการเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ ในขณะที่แรงงานก็ต้องเร่งเสริมทักษะ (Upskill) เพื่อปรับตัวให้ทัน ลดปัญหาการว่างงาน ตกงาน ขาดรายได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ มีความห่วงใยกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ จึงมีแนวทางในการพัฒนาทักษะ เสริมสมรรถนะ ให้กับนักศึกษาและคนที่กำลังว่างงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการหางานแนวใหม่เมื่อสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 คลี่คลาย โดยเฉพาะในช่วงที่ผู้คนไม่สามารถออกจากบ้านไปทำงานกับคนหมู่มากได้ และผู้ประกอบการส่วนใหญ่โดยเฉพาะธุรกิจอาหารและบริการ ได้ปรับกลยุทธ์มาให้บริการบนแพลตฟอร์มออนไลน์แทน โดยขณะนี้ทีมฯ อยู่ระหว่างเตรียมเนื้อหาหลักสูตรออนไลน์ในสาขาที่จำเป็นและสอดรับกับยุค Digital Transformation อาทิ การตลาดออนไลน์ พฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิตัล เทคโนโลยีบล็อกเชน การค้าต่างประเทศ และ Digital Transformation เป็นต้น โดยจะใช้บุคลากรของทีมฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทั้งนี้จะร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในการพัฒนาเนื้อหาและจัดทำหลักสูตร ทั้งภาครัฐ อาทิ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการยุคใหม่ (New Economy Academy หรือ NEA) และเอกชนบางรายเช่น LAZADA และ Shopee เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาได้มีโอกาสร่วมโรดโชว์ไปพบผู้ประกอบการรุ่นใหม่บางส่วนมาด้วยกัน ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในทุกระดับ ทุกภาคส่วนของประเทศ เข้าถึงองค์ความรู้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ในรูปแบบการเรียนการสอนอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการส่งแรงงานที่มีคุณภาพเข้าสู่ตลาดแรงงานยุคใหม่
“โครงการเรียนจบ พบงาน เป็นโครงการที่จะทำให้ตลาดงานไทยเดินหน้าไปสู่เส้นทางที่ถูกต้องยิ่งขึ้น จากการศึกษารูปแบบเดิมที่ขีดกรอบให้เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้รับความรู้ที่ควรจะมีสำหรับงานยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เป็นภาคบังคับให้ทุกคนต้องปรับตัวเข้าสู่ยุค Digital Transformation ระหว่างที่คนส่วนใหญ่รวมถึงนักศึกษาต้องอยู่ที่บ้าน ทีมฯ จึงคิดหาแนวทางที่จะช่วยเหลือ โดยการนำเทคโนโลยีทันสมัยมาปรับใช้ ทดแทนการออกไปพบในสถาบันการศึกษาต่างๆ แบบที่เคยทำมาก่อนหน้านี้”
ทั้งนี้ โครงการเรียนจบ พบงาน ของทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ เกิดขึ้นมาจากการตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบทางด้านตลาดแรงงาน ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ต่อระบบเศรษฐกิจไทยในอนาคต โดยจะช่วยให้คนหางานได้ผ่านแอพพลิเคชั่น “@DEMTUM” ที่ทำงานผ่านระบบของ LINE เพียงแค่พิมพ์ “@DEMTUM” จะค้นเจอชื่อ “เรียนจบ พบงาน” จากนั้น Add เป็นเพื่อน แล้วกรอกรายละเอียดส่วนตัว ส่ง Resume ซึ่งการใช้งานก็เหมือนการแชทไลน์ทั่วไป ทุกๆ การแชท ทุกๆ คำถามจะมีระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) คอยวิเคราะห์และประมวลผลบทสนทนาของผู้ใช้และตอบสนองโซลูชั่นส์ต่างๆ ได้อย่างตรงความต้องการ โดยระบบจะทำการเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้ไปค้นหาคำตอบที่ต้องการได้ทันที
ความพิเศษของ @DEMTUM คือการได้รับความร่วมมือจากกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เข้าร่วมกับโครงการ ‘เรียนจบ พบงาน’ และแอพพลิเคชั่น @DEMTUM เพื่อสนับสนุนทั้งองค์ความรู้ทางด้านตลาดงานยุคใหม่ รวมถึงการค้นหาแรงงานที่หลากหลายอีกมากมาย เช่น กลุ่มเซ็นทรัล / กลุ่มสยามพิวรรธน์ / HUAWEI / WHA / กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทย / กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ / บีกริม / สยามพารากอน / ไอคอนสยาม / กลุ่ม ปตท. / แบล็คแคนยอน / กลุ่ม เอ็มเค เรสโตรองต์ / มิลเลนเนี่ยมออโต้กรุ๊ป เป็นต้น
“ถึงแม้หลายธุรกิจอาจประสบปัญหาเรื่องการจ้างงานในระหว่างนี้ แต่ยังมีตำแหน่งงานหลายประเภทที่ยังเป็นที่ต้องการ เช่น โปรแกรมเมอร์ เจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ โลจิสติกส์ สำหรับกลุ่มนักศึกษาที่เรียนจบและกำลังมองหางานทำ สามารถที่จะค้นหางานเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ผ่านแอพพลิเคชัน “เรียนจบพบงาน” ที่พัฒนาโดยทีมเศรษฐกิจทันสมัยเพื่อใช้ในการหางาน โดยสามารถแอดไลน์เข้ามาได้ที่ไลน์ไอดี @DEMTUM เพื่อค้นหางานที่ตรงกับความต้องการของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นางดรุณวรรณ กล่าว
AO4176
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web
ปชป. เปิดอบรมหลักสูตรผู้นำการเมืองรุ่น 2 สร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ ทันสมัย ทันโลก หลังรุ่นแรกประสบความสำเร็จ ได้คนรุ่นใหม่ร่วมขับเคลื่อนพรรค
นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเผยว่าคณะกรรมการกิจการเยาวชนพรรค ที่มี ดร.สรรเสริญ สมะลาภา เป็นประธาน จะจัดให้มีการอบรมหลักสูตรผู้นำการเมืองรุ่น 2 (The Politicians) ที่อยู่ภายใต้โครงการยุวประชาธิปัตย์ (Young Democrat) ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2563 เพื่อสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีความทันสมัย ทันโลก มาร่วมขับเคลื่อนพรรค หลังรุ่นแรกประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ประธานคณะกรรมการกิจการเยาวชนพรรค กล่าวว่านักการเมืองรุ่นใหม่ต้องมีคุณสมบัติ ทันสมัย และทันโลก ผู้ที่เข้าอบรมโครงการนี้อาจกลายเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่โดยไม่คาดฝัน ที่จะมีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างสังคมไทยให้มีความเข้มแข็ง เช่นเดียวกับนักการเมืองหลายคนของพรรคในอดีตที่เคยผ่านการอบรมยุวประชาธิปัตย์มาก่อนหน้านี้ และได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นแบบนักการเมืองที่ยึดถือในระบอบประชาธิปไตย อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาคนปัจจุบัน ที่เป็นอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี รวมถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน
“การอบรมยุวประชาธิปัตย์ (Young Democrat) รุ่นที่ 1/2562 ที่ใช้ชื่อหลักสูตรว่า The Politicians ได้มีผู้เข้าอบรมและสำเร็จได้รับประกาศนียบัตรจำนวนทั้งสิ้น 132 ราย หลายคนได้มีโอกาสทำงานขับเคลื่อนพรรคในหลากหลายบทบาทอย่างเป็นรูปธรรม มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น นำเสนอนโยบาย สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเปิดกว้างของพรรคในการให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่ในการแสดงออก ได้อย่างเต็มที่” ดร.สรรเสริญ กล่าว
นางดรุณวรรณ ยังกล่าวต่อด้วยว่า หลักสูตรผู้นำการเมืองจะมุ่งเน้นการปฏิบัติการที่นำไปใช้ได้จริง เนื้อหาของหลักสูตรได้มีการปรับให้สอดคล้องกับยุคสมัย ประกอบไปด้วย การเมืองไทย นักประชาธิปไตย การสื่อสารในยุคออนไลน์ เศรษฐกิจทันสมัยในยุคดิจิตัล โดยวิทยากรในพรรคที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในแต่ละด้าน บรรยากาศในการอบรมมีความเป็นกันเอง เปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมแสดงความคิดเห็นและพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้แบบนอกกรอบภายใต้แนวทางที่สร้างสรรค์ จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจมาเข้าร่วมอบรม (ไม่มีค่าใช้จ่าย) เพียงแค่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตย อายุระหว่าง 18-40 ปี และมีคุณสมบัติพร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พรรคก็ยินดีให้การต้อนรับ ทั้งนี้สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 โดยจะมีการอบรมในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม 2563 ระหว่างเวลา 0900-1600 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ที่สนใจสามารถโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-8281000 ต่อ 2203 หรือที่ Line ID: s.may04
AO2125
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
Click Donate Support Web
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด