ประวิตร ยันครม.อนุมัติซื้อเรือดำน้ำจากจีนโปร่งใส แจงเหตุไม่เปิดเผยเพราะเป็นความลับทางยุทธศาสตร์

      พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีนจำนวน 3 ลำ ตามแผนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ โดยเป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ไม่ใช่การสัญญาแลกเปลี่ยนสินค้า (Barter Trade) มูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท เป็นเวลา 11 ปี โดยเรือดำน้ำลำแรกมีมูลค่า 1.35 หมื่นล้านบาท จะสามารถส่งมอบได้ในเวลา 5-6 ปี

       "เรื่องนี้โปร่งใส ทั้ง ครม.รู้หมด มันเป็นความลับทางยุทธศาสตร์ แต่ถึงเวลาก็รู้เอง กองทัพเรือใช้เวลาเตรียมการสร้างการรับรู้มา 9 ปีกว่าจะอนุมัติ"พล.อ.ประวิตร กล่าว

      พร้อมระบุว่า ที่ผ่านมากองทัพเรือมีการจัดเตรียมกำลังพลไว้รองรับหมดแล้วแต่ไม่มีเรือ ครม.ก็สนับสนุน เพราะเห็นว่ามีความจำเป็นในการปฏิบัติภารกิจปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล 200 ไมล์ทะเล ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนที่มีอาณาเขตติดทะเลต่างมีกันหมดแล้ว ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม

      "ไม่มีอะไรเสียหาย ไม่ได้แพงกว่าเรือฟริเกต รัฐบาลทำไปตามแผน โปร่งใส" พล.อ.ประวิตร กล่าว

      รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลดำเนินการไปตามแผนยุทธศาสตร์ของกองทัพเรือ ส่วนรัฐบาลหน้าจะมีความเห็นอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ ส่วนที่เลือกซื้อเรือดำน้ำจากจีนเพราะราคาถูกสุดเมื่อเทียบกับ 9 ประเทศที่เสนอมา เพราะให้ยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นมาครบถ้วน

      พล.อ.ประวิตร ยังปฏิเสธกระแสข่าวการปรับ ครม.ว่าไม่เป็นความจริง แต่คนเขียนข่าวคิดไปเอง โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหากเป็นเรื่องไม่จริง

       "คนเขียนนั่งอยู่ข้างใน เขียนอะไรก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ถ้าไม่จริงแล้วให้ทำยังไง...ผมไม่น้อยใจ อายุ 72 แล้วพร้อมออก คนอายุขนาดนี้ ไม่มีใครเสียสละมาทำงานแบบนี้หรอก" พล.อ.ประวิตร กล่าว

     ด้านพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การที่ไม่ได้มีการแถลงข่าวในเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำนั้น เนื่องจากในการประชุมครม.แต่ละสัปดาห์มีเรื่องในการพิจารณาจำนวนมาก และจะแถลงเฉพาะเรื่องสำคัญ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีข้อซักถามถึงเรื่องของเรือดำน้ำ ประกอบกับหน่วยงานที่เป็นต้นเรื่องในการเสนอเข้ามาคือกองทัพเรือและกระทรวงกลาโหม ได้กำหนดเป็นชั้นความลับ หรือที่เรียกว่าเอกสารมุมแดง ซึ่งหมายความว่า เมื่อแจกให้กับคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วก็ขอเก็บเอกสารคืนเลยจึงไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวมาแถลง

     "ไม่มีอะไรปกปิด ปิดบัง ซ่อนเร้น มุบมิบแต่ประการใดเพราะเรื่องลักษณะนี้ไม่ใช่มีแต่เรื่องเรือดำน้ำ มีหลายเรื่องที่เป็นเรื่องลับและไม่ได้ลับตลอดไป จะลับในช่วงเวลาหนึ่งและเมื่อผ่านไปก็จะไม่ลับ เพราะเรื่องก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการและขั้นตอน"พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

      พล.ท.สรรเสริญ ยืนยันด้วยว่า ในการจัดซื้อจัดจ้างก็ดำเนินการอย่างโปร่งใส แบบรัฐต่อรัฐ และเป็นการใช้งบประมาณแบบผูกพันของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นการจัดซื้อเรือดำน้ำตามแผนยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศของกองทัพเรือ โดยพิจารณาจากปัจจัยเรื่องภายคุกคามในอนาคต และภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่มาหลากหลายรูปแบบ

     "ประเทศที่เป็นมิตรกัน วันข้างหน้าเมื่อทรัพยากรลดน้อยลง ความสัมพันธ์อาจเปลี่ยนแปลงไป มีเรื่องการแย่งชิงผลประโยชน์ โดยเฉพาะผลประโยชน์ทางทะเล ที่มันก้ำกึ่งมองออกไม่ออกว่าเป็นของใคร อย่างนี้เป็นต้น เราต้องสามารถดูแลผลประโยชน์ของชาติได้ แม้ทรัพยากรหรือศักยภาพทางทะเลน้อยกว่าคนอื่น แต่เราสามารถใช้ศักยภาพที่มีอยู่ป้องกันการแย่งชิงผลประโยชน์จากเราได้ ใช้ในเชิงป้องกันและป้องปรามเสียสวนใหญ่"พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

วิษณุ ชี้ยกเลิกชั้นความลับเอกสารมุมแดงได้ กรณีเรือดำน้ำไม่ถือเป็นเรื่องลับ

       นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการเสนอให้ยกเลิกเรื่องเอกสารมุมแดงว่า เอกสารมุมแดงจะมีการเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกๆ วันอังคาร ซึ่งมีการเสนอลักษณะแบบนี้มีมาเป็น 10 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ตนเองทำหน้าที่เป็นเลขาธิการ ครม.

     อย่างไรก็ตาม เอกสารมุมแดงสามารถยกเลิกได้ ซึ่งถือว่าเป็นการยกเลิกชั้นความลับและสามารถเปิดเผยได้ แต่บางเรื่องก็ยังติดเป็นเอกสารมุมแดงตลอด ซึ่งอาจเปิดเผยเฉพาะหัวข้อในเรื่องนั้นๆ แต่ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้

      ส่วนกรณีที่ ครม.อนุมัติจัดซื้อเรือดำน้ำนั้น นายวิษณุ ระบุว่า ไม่ถือเป็นเรื่องลับ เพราะเมื่อถึงขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณหรือทำสัญญาต้องมีการนำกลับมาพิจารณาในที่ประชุม ครม.อยู่แล้ว และการพิจารณาเรื่องนี้มีการหารือร่วมกันทั้งคณะรัฐมนตรีและข้าราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด แต่หากเป็นการประชุมลับจะมีเพียงคณะรัฐมนตรีหารือกันเท่านั้น โดยข้าราชการไม่สามารถร่วมรับฟังได้

     นายวิษณุได้ยกตัวอย่างกรณี ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) เมื่อวานนี้ ซึ่งเกี่ยวกับการให้อำนาจการเข้าถึงพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยถอดเรื่องนี้ออกจากชั้นความลับที่สุด เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้แล้ว กฎหมายทุกฉบับต้องผ่านการรับฟังความเห็นจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ถือว่าเป็นการยกเลิกเอกสารมุมแดง ซึ่งตนเองเป็นคนเสนอเองว่า หากยังติดเอกสารมุมแดง เมื่อมีการรับฟังความเห็นประชาชน ผู้รับฟังอาจมีความผิดได้ โดยหลังจากนี้จะส่งให้ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป ซึ่งเนื้อหาในการเข้าถึงข้อมูลประชาชนนั้น ประชาชนไม่ต้องกังวลมาตรการเป็นไปตามหลักนิติธรรมเหมือนที่ประเทศต่างๆ ใช้กัน

ศรีสุวรรณ จ่อยื่นหนังสือสตง.ให้ตรวจสอบ TOR การจัดซื้อเรือดำน้ำ มองไม่มีเหตุจำเป็น

     นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 เม.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการวินัยทางงบประมาณและการคลัง ขอให้ตรวจสอบการดำเนินการจัดซื้อเรือดำน้ำ S-26T จากจีนจำนวน 1 ลำมูลค่า 13,000 ล้านบาท จากเป้าหมาย 3 ลำ มูลค่า 36,000 ล้านบาท เนื่องจากการซื้อเรือดำน้ำจากจีนดังกล่าว มีข้อสงสัยจากสาธารณชนเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำ TOR ความสามารถอาจจะไม่เหมาะกับการใช้งานจริง อันเนื่องมาจากยุทธบริเวณที่ขัดต่อการปฏิบัติงาน เพราะอ่าวไทยมีระดับน้ำลึกเพียง 25-60 เมตรเท่านั้น ความโปร่งใสในการจัดซื้อ อุปกรณ์พิเศษที่ติดตั้งมา ความคุ้มค่ากับการใช้งานและสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศรอบข้างก็ไม่มี จึงไม่มีเหตุจำเป็นใด ๆ ในการสะสมยุทโธปกรณ์ดังกล่าว อีกทั้งไม่เปิดเผยความจริงที่ประเทศจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกวงเงินดังกล่าวอีกมาก เช่น การจัดสร้างอู่เรือขึ้นมารองรับ การจัดตั้งกำลังพลมารองรับ การซื้อยุทโธปกรณ์มาเสริมและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงประจำปี ซึ่งอาจมีมูลค่ามากกว่าราคาซื้อข้างข้างต้นอีกหลายเท่า ฯลฯ ซึ่งจะเป็นภาระของชาติ ภาระงบประมาณต่อไปในอนาคต

      ขณะที่ไม่คำนึงถึงสภาพการณ์ของฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศที่ตกต่ำ ซึ่งประชาชนและเกษตรกรกำลังเดือดร้อนกันไปทุกหย่อมหญ้าท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศทุกด้าน ทั้งภัยแล้ง ความยากจน กำลังซื้อในประเทศหด ส่งออกติดลบ รัฐบาล ไม่มีเงินช่วยเหลือชาวนาที่ไม่มีน้ำปลูกข้าว ราคาผลผลิตทางการเกษตร ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดตกต่ำ มิหนำซ้ำ ทั้งน้ำมัน กระแสไฟฟ้า พาเหรดกันขึ้นราคาจนสร้างความไม่พอใจไปทุกภาคส่วน

      นอกจากนี้ ขั้นตอนและกระบวนการจัดซื้อ การจัดทำ TOR เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับประเทศจีนเป็นการเฉพาะหรือไม่และสอดคล้องต่อเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 หรือตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติม หรือไม่ อย่างไร มีความโปร่งใสการจัดซื้อกระทำโดยเปิดเผย เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้เสนอทุกรายโดยเท่าเทียมกัน มีระยะเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการยื่นข้อเสนอ มีหลักฐานการดำเนินงานที่ชัดเจน หรือไม่ อย่างไร

      อีกทั้ง มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดซื้อว่ามีการรับการเพิ่มเติมข้อเสนอภายหลังการยื่นเอกสารอย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งขัดต่อกระบวนการคัดเลือกและไม่เป็นธรรมต่อผู้เสนอรายอื่นหรือไม่ อย่างไร และการดำเนินการของคณะกรรมการจัดทำ TOR มีความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2556 หรือไม่ อย่างไร

    ที่สำคัญคือ การใช้อำนาจของกองทัพเรือ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และคณะรัฐมนตรี เป็นไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมายว่าด้วยระบบวินัยการเงินการคลังของรัฐต่าง ๆ ของรัฐหรือไม่

 อินโฟเควสท์