ดัชนี เชื่อมั่นผู้บริโภคสูงสุด 1 ปี ทุกรายการดีด 3 เดือนติด ฟันธง!กำลังซื้อฟื้นชัดก.ย.

      ไทยโพสต์ : ราชบพิธ * ผู้บริโภคเชื่อมั่นมากขึ้น ดัชนีทุกรายการดีดติดต่อเดือนที่ 3 แตะระดับสูงสุดใน 1 ปี ประชาชนมีความสุขเพิ่ม ฟันธงกำลังซื้อผงกหัวชัดตั้งแต่ ก.ย.เป็นต้นไป ผลโพลเผยหยุดยาว พ่วงสารทจีน เงินสะพัด 2.3 หมื่นล้านบาท ดันจีดีพีอีก 0.4-0.5%

      นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้า ไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน ก.ค.2557 ว่า ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมาก ขึ้นหลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประ เทศ ส่งผลให้ดัชนีทุกรายการปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และอยู่ระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน และบางรายการสูงสุดในรอบ 12 เดือน

      โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ 78.2 จากเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 75.1 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม เท่ากับ 68.5 เพิ่มจาก 65.3 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ เท่ากับ 71.7 เพิ่มจาก 68.1 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกัยรายได้ในอนาคต เท่ากับ 94.6 เพิ่มจาก 92.0 ในเดือน มิ.ย.

     ปัจจัยบวก ได้แก่ คสช.เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 8 ปี ช่วงปี 2558-2565 วงเงิน 2.4 ล้านล้านบาท สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2558 จะโตได้ 5% การส่งออกในเดือน มิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 3.9% และมีแนวโน้มถึงการฟื้นตัวมากขึ้น เป็นต้น

     "จากสถานการณ์การเมืองที่ คลี่คลาย ส่งผลให้ดัชนีวัดความสุขในการดำรงชีวิตของประชาชนมาอยู่ในระดับสูงสุดรอบ 13 เดือน ขณะที่ คาดหวังในความสุขจากการดำรงชีวิตใน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 100.5 ซึ่งสูงสุดในรอบ 16 เดือน แสดงให้เห็นว่า คสช.ได้คืนความสุขให้กับประ ชาชนจริงๆ" นางเสาวณีย์กล่าว

     นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้ อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้า ไทย กล่าวว่า ดัชนีเชื่อมั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แสดงว่าคนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และมองว่าเศรษฐกิจปีหน้าจะโตถึง 5% ขณะที่ คสช.ได้อนุมัติแผนลงทุน 2.4 ล้านล้านบาท หรือจะมีเงินลงทุนปีละ 3 แสนล้านบาท

     ทั้งนี้ มองว่าตั้งแต่เดือน ก.ย. เป็นต้นไป กำลังซื้อจะกลับมาดีชึ้นชัด เจน ซึ่งจะผลักดันให้เศรษฐกิจไตร มาส 3 โตได้ 3-4% และไตรมาส 4 โตได้ 5-6% ทำให้ทั้งปีน่าจะเกิน 2%

      ส่วนการสำรวจทัศนคติและ พฤติกรรมของประชาชนเกี่ยวกับวันแม่ รวมวันหยุดยาวช่วงวันแม่ และเทศกาลสารทจีน พบว่าจะมี เงินสะพัดประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีผลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีก 0.4-0.5% เป็นเงินที่สะ พัดเฉพาะวันแม่ ประมาณ 1.2 หมื่น ล้านบาท รวมวันหยุดยาว 4 วัน 1.94 ล้านบาท และสารทจีนประ มาณ 3 พันล้านบาท.

ดัชนี ความสุขสูงในรอบ 13 ด.ช่วงเทศกาลสะพัด 2.3 พันล้าน

     บ้านเมือง : นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกรกฎาคม ดัชนีทุกด้านดีขึ้นทั้งหมด เช่น ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ก.ค.ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง สูงสุดในรอบ 11 เดือน แตะ 68.5 สูงต่อเนื่อง 3 เดือน ดัชนีความสุขสูงสุดในรอบ 13 เดือน ดัชนีความเห็นทางการเมืองสูงสุดในรอบ 34 เดือน ดัชนีความเหมาะสมการซื้อรถยนต์ใหม่สูงกว่าระดับ 100 เป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ดัชนีความเหมาะสม ซื้อบ้านหลังใหม่สูงสุดในรอบ 13 เดือน เห็นได้ชัดจากดัชนีมั่นใจจากการเมืองมีความชัดเจนจึงเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

     ขณะที่ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจในอนาคตดีขึ้นเช่นกัน เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐาน 2.4 ล้านล้านบาท หรือเฉลี่ย 300,000 ล้านบาท/ปี ส่งผลให้คาดว่าจีดีพีปีหน้าจะโตร้อยละ 5 และเมื่อกำลังซื้อเพิ่มรวมกับ คสช.จะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม เช่น ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ จะส่งผลให้จีดีพีปีนี้โตกว่าร้อยละ 2 อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังกังวลความเสี่ยงจากความผันผวนและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ชัดเจน

     "ความเชื่อมั่นดีขึ้นคาดว่าเดือนกันยายนนี้จะเห็นความชัดเจนในการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ทำให้คาดว่าไตรมาส 3 จีดีพีจะโตร้อยละ 3.4 เมื่อมีการอัดฉีดจากภาครัฐเพิ่มเข้ามา จีดีพีไตรมาส 4 จะโตร้อยละ 5-6 และส่งผลให้ทั้งปีนี้จีดีพีโตกว่าร้อยละ 2"

     ส่วนผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงเทศกาลวันแม่เฉพาะวันที่ 12 สิงหาคม คาดจะมีการใช้จ่าย 12,051.64 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.2 แต่หากคิดจากวันหยุดยาว 4 วันนี้ (9-12 ส.ค.) คาดจะมีเงินสะพัด 19,411.44 ล้านบาท โตขึ้นร้อยละ 6.8 เนื่องจากมีการท่องเที่ยว โดยการใช้จ่ายอันดับแรก พาแม่ไปทานข้าว, พาครอบครัวไปทานข้าว, ทำกิจกรรมร่วมกัน, พาแม่ไปทำบุญ โดยสิ่งที่แม่ต้องการได้จากลูกสูงสุดคือ อยากให้ลูกเป็นคนดี, อยากให้ลูกรักมากๆ, อยากให้ลูกกอด และอยากให้ลูกเลี้ยงดู

     ส่วนวันที่ 10 สิงหาคม เป็นวันสารทจีนที่คนไทยเชื้อสายจีนร้อยละ 45 ของประชากรไทยยังคงจับจ่ายไหว้บรรพบุรุษ คาดจะมีเงินสะพัด 2,998.8 ล้านบาท โตขึ้นร้อยละ 7.6 ดังนั้น หากรวมทั้ง 2 เทศกาลแล้วคาดว่า 4 วันหยุดนี้จะมีเงินใช้จ่ายรวม 23,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยกับแนวคิดของกระทรวงการคลังโดยการนำเงินงบประมาณ 50,000 ล้านบาท มาช่วยผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ 10,000-70,000 บาท/ปี ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจร้อยละ 0.3 กระทบเงินเฟ้อร้อยละ 0.1 นอกจากนี้การขึ้นเงินเดือนข้าราชการจะทำให้จีดีพีปีนี้โตกว่าร้อยละ 2