หอการค้าไทย ร่วมมือรณรงค์ประหยัดไฟฟ้า รับมือวิกฤตไฟใต้ช่วงปิดซ่อมท่อก๊าซ ‘เจดีเอ’กลางเดือนหน้า

นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพลังงาน ได้ขอความร่วมมือมายังภาคเอกชน เรื่องสถานการณ์วิกฤตไฟฟ้าใน 14 จังหวัดภาคใต้ เนื่องจากแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วม ไทย-มาเลีย JDA แหล่ง A 18 ภาคใต้ จะมีการปิดซ่อมบำรุงแท่นขุดเจาะประจำปี และหยุดส่งก๊าซในวันที่ 13 มิถุนายน-14 กรกฎาคม 2557 จึงทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองของภาคใต้ลดลงประมาณ 250 MW จะส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับในบางพื้นที่ หรืออาจเกิดปัญหาไฟฟ้าตกได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความเดือดร้อนและเสียหายกับผู้ใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะภาคธุรกิจ

นายสมเกียรติ กล่าวว่า หอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดในภาคใต้ ในฐานะองค์กรหลักภาคเอกชน ซึ่งมีสมาชิกดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมโรงงาน โรงแรม โรงพยาบาล เป็นจำนวนมาก จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อลดใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาวิกฤตการณ์นี้ จึงได้ส่งหนังสือขอความร่วมมือไปยังสมาชิกผู้ประกอบการใน 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ดังนี้

1. ก่อนจะถึงช่วงวิกฤตพลังงาน  (วันที่ 13 มิถุนายน 2557 -วันที่14 กรกฎาคม 2557) ผู้ประกอบการควรวางแผนโยกย้ายแผนการผลิตที่ต้องใช้ไฟฟ้ามาก ไปดำเนินการก่อนหรือหลังช่วงเวลาดังกล่าว

2. ในช่วงวิกฤตพลังงาน ควรพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าระหว่างเวลา 13.00-15.00 น.  โดยเฉพาะช่วงเวลา 18.30-22.30 น. ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าพร้อมกันมาก ทำให้เกิดความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด ( Peak Demand ) ที่สูงมาก  จึงมีโอกาสที่ปริมาณไฟฟ้าสำรองจะไม่เพียงพอต่อความต้องการในช่วงเวลาดังกล่าว

3.  อย่าเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้โดยไม่เกิดประโยชน์

            3.1   อย่าเปิดเครื่องปรับอากาศหรือไฟทิ้งไว้โดยไม่มีคนในห้อง เช่น ห้องอาหารหรือห้องประชุมของโรงแรม

            3.2   อย่าปล่อยให้เครื่องจักรเดินเครื่องตัวเปล่า (Idle) เป็นเวลานานในช่วง start up หรือ ก่อนเลิกงาน

            3.3  อย่าเปิดอุปกรณ์ต่างๆในสำนักงานด้วยความเคยชิน โดยมิได้มีความจำเป็นต้อง เปิดใช้งาน

4.  ลดชั่วโมงการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าในที่ทำงาน

            4.1  เปิดเครื่องปรับอากาศหลังเริ่มเวลาทำงาน 15 นาที  และปิดเครื่องปรับอากาศ ก่อนถึงเวลาเลิกงาน 15 นาที

            4.2  ปิดเครื่องปรับอากาศและไฟฟ้าแสงสว่างช่วงพักเที่ยงและปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเลิกใช้30 นาที

            4.3  ปิดจอภาพคอมพิวเตอร์ในระหว่างพักเที่ยง หรือไม่ใช้งานเกินกว่า 15 นาที ให้ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และถอดปลั๊กออกหลังใช้งาน

            4.4  อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายประเภท อาจกินไฟหลังปิดเครื่องไปแล้ว จึงควรถอดปลั๊กออกเมื่อไม่ใช้งาน

5.  ตั้งอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้สูงกว่า 26 องศาเซลเซียสแต่ไม่ควร เกิน 28 องศา

6.  ปรับเปลี่ยนการแต่งกายให้เข้ากับสถานการณ์โดยไม่ใส่เสื้อสูทหรือผูกเนคไทในที่ทำงาน

7.  ควรวางแผนซ่อมบำรุง ดูแลรักษาอุปกรณ์ เครื่องจักร ตลอดจนเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในสถาพที่สมบูรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองไฟฟ้าลง

“จากข้อเสนอแนะมาตรการลดการใช้ไฟฟ้าดังกล่าวสมาชิกสามารถดำเนินการได้ทันที หากทุกฝ่ายให้ความร่วมมือโดยพร้อมเพรียงกันอย่างจริงจัง ก็น่าจะสามารถช่วยผ่อนคลายปัญหาจากภาวะวิกฤตพลังงานไฟฟ้าครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน ประหยัดไฟฟ้า เพื่อชีวิต เปลี่ยนความคิด ปิดทุกครั้ง”นายสมเกียรติ กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย