อาคม นัดถกเมียนมาร์ฟื้นแผนสร้าง'ทวาย'
ไทยโพสต์ * 7-9 ม.ค.58 ไทยเมียนมาร์ เปิดโต้หารือรายละ เอียดการลงทุนโครงการ "ทวาย" ประเดิมเบื้องต้นสร้างนิคมอุตสาห กรรมบนพื้นที่ 27 ตร.กม. พร้อมเสนอตัวสร้างมอเตอร์เวย์บางใหญ่กาญจนบุรี เชื่อมทวาย-แหลมฉบัง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคมและเลขาธิการสำ นักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคม อุตสาหกรรมทวาย ว่า ในวันที่ 7- 9 ม.ค.2558 จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูงระหว่างไทย- เมียนมาร์ เพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายฯ (เจเอชซี) ที่กรุงเทพฯ โดยฝ่ายไทยมี ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมน ตรี เป็นประธาน ร่วมกับรองประ ธานาธิบดีเมียนมาร์ โดยจะมีการ พิจารณาเงื่อนไขโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมระยะเริ่มต้น ซึ่งได้เปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาประ มูลโครงการ และมีภาคเอกชนจากไทยเสนอตัวเข้ามาเป็นผู้พัฒนา โครงการเพียงรายเดียว คือ บริษัท ร่วมทุนระหว่าง บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ หรือไอทีดี และ บมจ. สวนอุตสาหกรรมโรจนะ หากคณะกรรมการเจเอชซีให้ความเห็นชอบเงื่อนไขก็จะเริ่มเดินหน้าโครงการได้
"ไทยกำลังผลักดันโครงการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์เชื่อมระหว่างบางใหญ่-กาญจนบุรี มูลค่าโครงการ 6.5 หมื่นล้านบาท เพื่อเชื่อมท่าเรือแหลมฉบัง- กรุงเทพฯ-ทวาย ในอนาคตไทยจะได้นำเสนอความคืบหน้าและความสำคัญโครงการนี้ ในระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงครั้งที่ 5 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ รวมทั้งจะนำเสนอโครงการนี้ระหว่างการประชุมคณะกรรมการร่วมพัฒนาโครงการทวายที่จะจัดขึ้นในต้นปี 2558" นายอาคมกล่าว
นายอาคม กล่าวว่า การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย มีความสำคัญและเป็นโครงการยุทธศาสตร์ของอาเซียน เพราะเป็นโครงการที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจในแนวระเบียง เศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก และเชื่อมโยงระหว่างนิคมอุตสาห กรรมภาคตะวันออกและท่าเรือ แหลมฉบังของไทย กับโครงการทวายที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกในอนา คต และเชื่อมโยงฐานการผลิตที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรม
สำหรับ รายละเอียดโครง การที่บริษัทร่วมทุนระหว่างไอทีดีและบริษัท โรจนะ เสนอให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวพิจารณา ประกอบไปด้วย 4 โครงการย่อย การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมขนาดเล็กบนพื้นที่ 27 ตารางกิโลเมตร โครงการท่าเรือขนาดเล็ก การก่อสร้างถนนลาดยาง จากตัวโครงการไปถึงชายแดนบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก เพื่อจ่ายไฟฟ้าให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่จะตั้งขึ้นในพื้นที่โครงการระยะเริ่มต้น.