กดไลน์-แชร์ให้เพื่อนๆด้วยครับ
ผลการศึกษาเผยการโฆษณาผ่านแอพมื อถือ ในช่วงเวลาที่เหมาะสมทำให้ ผู้บริโภคอยากซื้อสินค้ามากขึ้น
เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส และซานฟรานซิสโก--(บิสิเนส ไวร์)--16 มิ.ย. 2557
ผลการศึกษาที่อ้างอิ งจากการแสดงออกทางใบหน้า ไบโอเมตริก และการสำรวจโดย Kiip และ IPG Media Lab พบว่า ในการโฆษณาผ่านทางแอพพลิเคชั่ นมือถือนั้น การโฆษณาแบบเสนอรางวัลกระตุ้ นให้ผู้บริโภคอยากมีส่วนร่ วมมากกว่าแบนเนอร์โฆษณา
Kiip ร่วมกับ IPG Media Lab ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ IPG Mediabrands เปิดเผยผลการศึกษาประสิทธิ ภาพของการโฆษณาแบบอิงช่วงเวลาที ่มีความครอบคลุมเป็นครั้ งแรกของอุตสาหกรรม โดยนายแชด สโตลเลอร์ หุ้นส่วนผู้จัดการของ IPG Media Lab และนายไบรอัน หว่อง ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Kiip ได้เปิดเผยผลการค้นพบครั้งสำคั ญจากการศึกษาดังกล่าวเป็นครั้ งแรก ณ เทศกาล Cannes Lions International Festival of Creativity โดยแสดงให้เห็นว่า การเสนอรางวัลในช่วงเวลาที่ เหมาะสมระหว่างที่ผู้บริโภคกำลั งใช้แอพมือถือนั้น จะช่วยขับเคลื่อนความตั้งใจซื้ อและความพึงพอใจในแบรนด์ได้ มากกว่าแบนเนอร์โฆษณาแบบดั้งเดิ ม
นายสโตลเลอร์ กล่าวว่า “ข้อมูลของเราบ่งชี้ว่า การเสนอรางวัลเปิดโอกาสให้ แบรนด์ต่างๆ สามารถแสดงความยินดีกับผู้บริ โภคในช่วงเวลาที่ผู้บริโภครู้สึ กมีความสุข ความสนใจ และอยากมีส่วนร่วมมากที่สุด ทั้งนี้ การใช้ข้อมูลเชิงลึกของเราจั ดการกับความท้าทายทางการตลาดว่ าด้วยการใช้สื่อทางมือถืออย่ างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้แบรนด์ต่ างๆสามารถกระตุ้นความสนใจของลู กค้าได้ด้วยวิธีการที่แปลกใหม่ และมีประสิทธิภาพ”
นายหว่อง กล่าวว่า “ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่ างชัดเจนว่า การเสนอรางวัลเป็นกลยุทธ์ การตลาดทางมือถือที่เหนือกว่ าแบนเนอร์โฆษณา สิ่งนี้พิสูจน์ว่า Kiip สามารถทำให้ผู้บริโภคเกิดความพึ งพอใจในแบรนด์ได้ด้ วยการเสนอรางวัลตามพฤติ กรรมของผู้บริโภค และเข้าถึงผู้บริโภคในช่ วงเวลาที่พวกเขารู้สึกว่าอยากมี ส่วนร่วมสูงสุดและเปิดใจมากที่ สุด นี่เป็นบทพิสูจน์ครั้งยิ่งใหญ่ ที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรั บโมเดลการตลาดแบบอิงช่ วงเวลาของเรา และน่าจะทำให้บรรดานักการตลาดที ่อาศัยแต่แบนเนอร์โฆษณาหันมาพิ จารณากลยุทธ์การโฆษณาทางมือถื อเสียใหม่”
การศึกษานี้เป็นการสำรวจผู้บริ โภคจำนวน 1,344 ราย โดยใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริ กและการถอดรหั สการแสดงออกทางใบหน้าล่าสุด และมีการประเมินปฏิกิริ ยาตอบสนองต่อโฆษณาทางมือถื อแบบต่างๆในช่วงเวลาสัมฤทธิผล ซึ่งเป็นช่วงเวลาพิเศษเมื่อผู้ บริโภคบรรลุเป้าหมายต่างๆระหว่ างการใช้แอพ การวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อวั ดผลด้านต่างๆ ได้แก่
- อารมณ์และระดับความเข้มข้ นของอารมณ์ ณ ช่วงเวลาสัมฤทธิผล - ระดับการตอบสนองของผู้บริโภคต่ อรางวัลเมื่อเทียบกับโฆษณา - การจดจำแบรนด์ - ระดับความพึงพอใจและการรับรู้ แบรนด์ - ความตั้งใจซื้อ
ตัวอย่างของช่วงเวลาสัมฤทธิ ผลประกอบด้วย การเคลียร์รายการสิ่งที่ต้ องทำใน to-do list การลงบันทึกการออกกำลังกาย การจัดรายชื่อเพลงเข้าเพลย์ลิ สต์ การทำบุ๊กมาร์กสูตรอาหารใหม่ๆ และการเลเวลอัพในเกม เป็นต้น ทั้งนี้ บรรดาแบรนด์ต่างๆจากอุ ตสาหกรรมความบันเทิง CPG และยานยนต์ ได้ร่วมจัดหารางวัลในการวิจั ยครั้งนี้
รางวัลมีส่วนช่วยเพิ่มความตั้ งใจซื้อ
ผลการวิจัยพบว่า ผู้บริโภคทางมือถือมีแนวโน้มที่ จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ นำเสนอรางวัลในช่วงเวลาอั นเหมาะสมมากกว่า เมื่อเทียบกับการนำเสนอเพี ยงแบนเนอร์โฆษณา
1. ความตั้งใจซื้อ – การนำเสนอรางวัลทำให้ความตั้ งใจซื้อของลูกค้าพุ่งขึ้นถึง 82% เมื่อเทียบกับแบนเนอร์โฆษณาที่ ขยับขึ้นเพียง 6% และการนำเสนอรางวัลในช่วงเวลาที ่เหมาะสมมีประสิทธิ ภาพในการกระตุ้นความตั้งใจซื้ อของลูกค้ามากกว่าถึง 14 เท่า 2. ความดึงดูดใจในวงกว้าง – การนำเสนอรางวัลสามารถกระตุ้ นความตั้งใจซื้อได้มากกว่ าแบนเนอร์โฆษณา ไม่ว่าจะเป็นแอพประเภทใด (เช่น แอพแนว Productivity และเกม) หรืออุตสาหกรรมใดก็ตาม (เช่น CPG, ยานยนต์ และบันเทิง)
รางวัลสร้างผลเชิงบวกต่อความพึ งพอใจในแบรนด์
ผลการวิจัยพบว่า การนำเสนอรางวัลมีประสิทธิ ภาพมากกว่าแบนเนอร์ โฆษณาในหลายๆด้าน ได้แก่
1. การรับรู้แบรนด์ – การนำเสนอรางวัลมีประสิทธิ ภาพมากกว่าแบนเนอร์โฆษณาในแง่ ของการเสริมสร้างภาพลักษณ์ ของแบรนด์ (เช่น คุณภาพแบรนด์ และความเคารพต่อแบรนด์) ในทุกสภาพแวดล้อมที่ใช้ ประกอบการทดสอบ ยกตัวอย่างเช่น รางวัลทำให้ความเคารพต่อแบรนด์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14% ขณะที่แบนเนอร์โฆษณาทำให้ ความเคารพต่อแบรนด์ลดลง 7% 2. ความสามารถในการจดจำและความพึ งพอใจต่อแบรนด์ – แม้ว่าแบนเนอร์โฆษณาจะทำให้ผู้ บริโภคจดจำแบรนด์ได้มากกว่ ารางวัล แต่ผลการวิจัยค้นพบว่ าการโฆษณาประเภทนี้ส่งผลเสียต่ อแบรนด์ โดยทำให้ความพึงพอใจแบรนด์ลดลง 6% ขณะที่การนำเสนอรางวัลจากแบรนด์ เดียวกันส่งผลให้ความพึ งพอใจแบรนด์เพิ่มขึ้น 10%
สามารถรับชมรายงานฉบับเต็มได้ที ่: http://labt.ag/1mSnwHt
เกี่ยวกับ Kiip
Kiip (อ่านว่า “คีพ”) เป็นผู้กำหนดนิยามใหม่ในการเชื่ อมโยงแบรนด์กับผู้บริโภค ผ่านการนำเสนอรางวัลแบบอิงช่ วงเวลา โดยเฉพาะใน “ช่วงเวลาสัมฤทธิผล” ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้บริ โภคบรรลุเป้าหมายในการใช้แอพต่ างๆในชีวิตประจำวัน กลยุทธ์การตลาดบนมือถือแบบใหม่ นี้กระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่ วมอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้รับแรงขับเคลื่ อนจากความรู้สึกเชิงบวกระหว่ างผู้ใช้งาน ผู้พัฒนาแอพ และนักโฆษณา ทั้งนี้ บริษัทได้รับการสนับสนุนจาก Hummer Winblad, Relay Ventures, True Ventures, Verizon Ventures, Digital Garage, IPG และอื่นๆอีกมากมาย จนสามารถระดมทุนได้ถึง 15.4 ล้านดอลลาร์ ณ ปัจจุบัน
เกี่ยวกับ IPG Media Lab
IPG Media Lab เป็นองค์กรวิจัย ทดสอบ และสร้างความเปลี่ยนแปลง เราช่วยให้บรรดาสื่อมวลชนและบริ ษัทโฆษณาสามารถคว้ าโอกาสทางการสื่อสารที่เกิดขึ้ นมาใหม่ได้ ด้วยการนำเสนอความชำนาญ ทรัพยากร และบริการให้คำปรึกษา เพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ การเรียนรู้ และกลยุทธ์ที่สามารถวัดผลได้อย่ างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ IPG Media Lab เป็นส่วนหนึ่งของ IPG Mediabrands บริษัทด้านนวัตกรรมสื่ อและการลงทุนในเครือ IPG สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่ www.ipglab.com หรือติดตาม @ipglab
สามารถรับชมรูปภาพและสื่อมัลติ มิเดียได้ที่ http://www.businesswire.com/ multimedia/home/ 20140616006205/en/
ติดต่อ: ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Kiip Katy Kenealy โทร. 801-828-6056 อีเมล: [email protected] หรือ IPG Mediabrands/IPG Media Lab Rachael Wolfson โทร. 212-883-4749 อีเมล: [email protected] Daniel Friedman โทร. 212-883-4780 อีเมล: [email protected]
หมายเหตุ:
ไทย บิสิเนส นิวส์ คือผู้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ซึ่งส่งจากบริษัทและองค์ กรหลายพันแห่งทั่วโลกไปยัง สื่อมวลชน ตลาดการเงิน นักลงทุน เว็บไซต์สำหรับให้บริการข้อมูล ฐานข้อมูล ฯลฯ
ไทย บิสิเนส นิวส์ เป็นธุรกิจในเครือบริษัท สตูดิโอ มาเจนตา ลิมิเต็ด (Studio Magenta Limited) จัดตั้ง ขึ้นในปีพ.ศ. 2547 เพื่อแปลและเผยแพร่ข่าวประชาสั มพันธ์ โดยท่านสามารถนำข่าวประชาสัมพั นธ์ดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อในบริ การและสื่อของท่านได้
หากท่านสนใจลงทะเบียนรับข่ าวของไทย บิสิเนส ไวร์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือต้องการดูข่าวประชาสัมพันธ์ ล่าสุด กรุณาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์ http://www.thaibusinessnews. com/