ซี.พี.เวียดนาม มุ่งขยายธุรกิจอาหารปลอดภัยคุณภาพสูง รองรับการเติบโตการบริโภคที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง

    ซี.พี.เวียดนามยังเดินหน้าสร้างการเติบโตธุรกิจอาหารในเวียดนามจากฐานการผลิตที่แข็งแกร่งที่วางรากฐานไว้กว่า 20 ปี รองรับแนวโน้มการเติบโตของการบริโภคในเวียดนามที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    นายมนตรี สุวรรณโพธิ์ศรีกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มการบริโภคอาหารของเวียดนามในครึ่งหลังของปี 2558 น่าจะขยายตัวดีกว่าครึ่งปีแรกตามการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ ที่มีการคาดการณ์กันว่าจีดีพีของเวียดนามในปีนี้จะขยายตัวที่ร้อยละ 6.2 ประกอบกับคนเวียดนามให้การยอมรับแบรนด์อาหารจากไทยเป็นต้นแบบของการผลิตอาหารปลอดภัยและมีคุณภาพ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทจะขยายการลงทุนธุรกิจอาหารในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจอาหารสำเร็จรูป

     “ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปของเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตขึ้น เนื่องจากคนเวียดนามมีพฤติกรรมบริโภคอาหารนอกบ้านและอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น เป็นผลจากการขยายตัวของสังคมเมือง ประชากรมีความรู้และรายได้เพิ่มขึ้น ตามแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในเกณฑ์ดี มีการลงทุนจากต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทิศทางการลงทุนของซี.พี.เวียดนามในปีนี้จะเน้นธุรกิจอาหารสำเร็จรูปมากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า และพัฒนาต่อยอดให้สินค้าอาหารมีมาตรฐานในระดับสากล สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดทั้งห่วงโซ่การผลิต เพื่อเป็นฐานการผลิตอาหารปลอดภัยและมีคุณภาพสูงรองรับผู้บริโภคทั้งในเวียดนามและทั่วโลก ตามวิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” นายมนตรีกล่าว

     ในปี 2558 นี้ ซี.พี.เวียดนามมีกำลังผลิตสุกร 4 ล้านตัว ไก่เนื้อ 40 ล้านตัว กุ้ง 8 พันล้านตัน และ ปลาแพนกาเซียส ดอรี่ 4 หมื่นล้านตัน  มีโรงงานแปรรูปเนื้อหมูและไก่ 2 แห่ง ในโฮจิมินซิตี้ และฮานอย และโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ 3 แห่ง แบ่งเป็นโรงงานแปรรูปกุ้ง 2 แห่ง และอีก 1 แห่งเป็นโรงงานแปรรูปปลา โรงงานทุกแห่งเป็นโรงงานที่ใช้เครื่องจักรทันสมัย มีกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยและคุณภาพสูงได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อผลิตอาหารคุณภาพสูง ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากลป้อนตลาดทั่วโลก  

    ซี.พี.เวียดนามมีแผนที่จะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งธุรกิจห้าดาว ร้านซีพีเฟรชมาร์ท  C.P.Shop หรือตู้เย็นชุมชน เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอาหารสำเร็จรูปบริษัท ได้แก่ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในกระจายสินค้าอาหารสำเร็จรูปของบริษัท นอกเหนือจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปไปที่โมเดิร์นเทรด และธุรกิจร้านอาหารแล้ว  โดยตั้งเป้าในสิ้นปี 2558 ซีพีเวียดนามจะมีซุ้ม

    ห้าดาวเพิ่มเป็น 1,200 สาขาทั่วประเทศเวียดนาม จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 600 สาขา  ส่วนร้านซีพี เฟรชมาร์ทจะมี 20 สาขาซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเมืองใหญ่ ได้แก่ โฮจิมินซิตี้ ฮานอย และดานัง ส่วนซีพีช็อป หรือตู้เย็นชุมชนในปีนี้จะขยายเพิ่มเป็น 300 ร้านภายในสิ้นปีนี้

    “ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีของการดำเนินธุรกิจ ซี.พี.เวียดนาม ร่วมพัฒนามาตรฐานการผลิตอาหารแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยนำโมเดลความสำเร็จและความเป็นเลิศของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ รวมทั้งมาตรฐานระดับโลกต่างๆ นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจที่เวียดนามอย่างต่อเนื่อง พัฒนาให้ฟาร์มเลี้ยงสัตว์และโรงงานทุกแห่งของเวียดนามมีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ไม่เพียงช่วยให้ผู้บริโภคเวียดนามได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัย มีคุณภาพสูงแล้ว และยังถือเป็นการมีส่วนร่วมพัฒนาอย่างยั่งยืนแก่อุตสาหกรรมการผลิตอาหารแบบครบวงจรให้กับประเทศเวียดนาม รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารของประเทศในอนาคต”นายมนตรีกล่าว

     นายมนตรี กล่าวต่อว่า ในการดำเนินธุรกิจของซี.พี.เวียดนาม ได้ยึดมั่นในปรัชญา 3 ประโยชน์สู่ความยั่งยืน ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนที่เข้าไปลงทุนเป็นอันดับแรก และสุดท้ายจึงเป็นประโยชน์ต่อบริษัท ดังนั้น บริษัทจึงให้ความสำคัญต่อการสร้างความยั่งยืนในด้านต่างๆ ตั้งแต่ การเติบโตของธุรกิจ และการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมทั้งภายในและภายนอกองค์กรอย่างต่อเนื่อง

   ปัจจุบัน ซี.พี.เวียดนามมีบุคลากรรวมกว่า 16,000 คนส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่น ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญการพัฒนาบุคลากรทุกระดับมาโดยตลอด เพื่อปูทางให้คนเวียดนามสามารถบริหารองค์กรในอนาคต  และบริษัทยังดำเนินโครงการ Employee Social Responsibility  เพื่อหล่อหลอมให้พนักงานที่มีความหลากหลายสามารถทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันยังจัดตั้ง “กองทุนซี.พี.เวียดนามเพื่อการกุศล” เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริหารและพนักงานทุกระดับได้เข้ามามีส่วนร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมและชุมชนรอบข้าง โดยเน้นการลงมือปฏิบัติจริง และร่วมมือกับเครือข่ายภายนอก เพื่อตอบสนองปัญหาหรือความต้องการของสังคมได้อย่างแท้จริง

    “ด้วยความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส และมีความจริงใจที่จะร่วมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของเวียดนามมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลานับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ ซี.พี.เวียดนาม เป็นบริษัทไทยบริษัทเดียวในเวียดนามที่ได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 100 ของ Employee of Choices ของคนเวียดนามอีกด้วย” นายมนตรีกล่าว