เปิดใจ’ผู้พันทิพย์’หญิงแกร่งแห่งวงการทีวี นาม 'ชลรัศมี งาทวีสุข'
ปี 2544 เธอมีโอกาสได้ฝึกงานด้านโทรทัศน์ กับช่องไอทีวี ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นเส้นทางชีวิตสายข่าวที่แท้จริง และด้วยการฉายแววที่โดดเด่น ผู้อำนวยการไอทีวีในเวลานั้น ทาบทามให้เธอสอบเข้าทำงาน ผลสอบผ่านฉลุยเป็นเวลาเดียวกับที่ทาง ททบ. 5 ประกาศผลสอบเข้าเช่นกัน
ทางเลือกเกิดขึ้นทันทีเมื่อมีโอกาสทางการงานรออยู่ถึง 2 สถานี ในเวลานั้น...
เป็นใครก็คงโน้มเอียงไปทางช่องไอทีวี เพราะมาแรงมากเรตติ้งสูง รายการข่าวได้รับความนิยมอย่างมาก แต่’ชลรัศมี งาทวีสุข’ หรือคนในวงการเรียกชื่อเล่นๆว่า’ทิพย์’ อาจจะแปลก และแตกต่างกับคนอื่น
'ทิพย์'ชอบเรียนหนังสือ จึงนำคำถามไปวัดใจผู้บริหารทั้งสองแห่ง 'ทำงานแล้วสามารถลาไปเรียนได้หรือไม่'
เมื่อที่หนึ่งยืนยันว่าไม่ได้ ต้องลาออกเท่านั้น เพราะไม่มีนโยบายอนุญาตลาไปเรียน กับอีกที่ยินดีสนับสนุน เมื่อทำงานครบวาระ 3 ปี ตามกฎระเบียบสถานี
เดากันถูกแน่นอนเลยว่าผู้ประกาศยิ้มสวยคนนี้ เลือกอะไร เธอเลือก ททบ. 5 และตั้งปณิธานที่จะขอเป็นหนึ่งในกำลังขับเคลื่อนให้ ททบ. 5 บ้านหลังนี้ พัฒนาไปในทุกๆ วัน ตราบเท่าที่ตัวเองยังมีกำลัง
'ชลรัศมี'เริ่มต้นจากการเป็นนักข่าวลงพื้นที่ สลับกับการเป็นผู้ประกาศข่าวเที่ยงคืน และเวลาตี 5 ถึง 2 ปีเต็ม ผู้ใหญ่ของทางช่องก็เห็นแวว จึงให้เปลี่ยนจากผู้สื่อข่าวสายราชสำนัก ให้ลองมาทำข่าวสายเศรษฐกิจ ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ ที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป และก้าวเข้าสู่ความเป็นนักข่าวสายอาชีพมากยิ่งขึ้น เพราะข่าวเศรษฐกิจใครๆ ก็รู้ว่าต้องเกี่ยวข้องกับพวกตัวเลข และคิดวิเคราะห์ เธอได้รับหน้าที่ดำเนินรายการ'เข็มทิศเศรษฐกิจ' กับ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล อยู่ช่วงนึง
หลังจากนั้น ความสามารถในการวิเคราะห์ประเด็น และปฏิภาณในการสัมภาษณ์ทำให้ผู้ใหญ่ เลือกเธอให้อ่านข่าวภาคค่ำ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาข่าวที่ดีที่สุดในตอนนั่น แต่โลดแล่นอยู่หน้าจอในบทบาทนี้ในระยะเวลา 1 เดือนเท่านั้น ชลรัศมีก็ตัดสินใจเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ มหาวิทยาลัยลีดส์ สาขา International Journalism ตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่วันแรกในการทำงาน จนสำเร็จการศึกษา คว้าเกียรตินิยมกลับมา พร้อมด้วยเส้นทางชีวิตในบทบาทใหม่ ที่ไม่เคยนึกฝัน กำลังรออยู่
หลังจากกลับมาจากเรียนต่อปริญญาโท ชลรัศมี ก็กลับเข้ามาทำงานในตำแหน่งของผู้ประกาศข่าวดังเดิม แต่ว่า...สิ่งที่แตกต่างไปจากก่อนหน้าคือ ประสบการณ์และความสามารถที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆในตัว จนกองทัพเสนอให้เข้ารับราชการเป็นทหาร
เพื่อหวังดึงความสามารถพิเศษด้านการสื่อสารและการเป็นผู้ประกาศ เพื่อสร้างความเข้าใจงานด้านการข่าวของกองทัพกับผู้ชม
การเข้ามาเป็นทหารของ ชลรัศมี งาทวีสุข ก็เริ่มต้นด้วยการเข้าฝึกที่เต็มไปด้วยสีสันและความอดทน ทั้งการไปเขาชนไก่ จ.กาญจนบุรี ฝึกอาวุธ ฝึกระเบียบวินัย พร้อมๆกับทำหน้าที่ผู้ประกาศไม่ให้บกพร่อง
‘ชลรัศมี’เข้าแถวรับการฝึกทุกวัน 7 โมงเช้า ฝึกถึง 5 โมงเย็น ที่ศูนย์การกำลังสำรอง วิภาวดีรังสิต และกลับไปอ่านข่าวรอบ 4 ทุ่ม ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เป็นแบบนี้จันทร์ – ศุกร์ ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือนเต็ม จนเผลอหลับกลางสนามก็มี
ส่วนบทบาทในกองทัพของชลรัศมีนั้น ‘ทิพย์’นำความรู้และประสบการณ์งานข่าว ไปแลกเปลี่ยนแบ่งปันกับทุกเหล่าทัพ โดยเฉพาะในเรื่องของการให้ความรู้ด้านงานข่าว งานพิธีกร ผู้ประกาศ ทั้งในด้านการเป็นผู้ดำเนินการเสวนา พิธีกรในงานกองทัพหลายต่อหลายงาน
เป็นวิทยากรรับเชิญพิเศษ ให้กับนักเรียนนายร้อย จปร. หลายรุ่น รวมไปถึงอาจารย์สอนปฏิบัติการรักษาสันติภาพ ให้กับกองปฏิบัติการพิเศษ ไทย – ดาร์ฟู ที่ต้องออกปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประเทศที่ 3 ตรงนี้...ใครที่เป็นแฟนของบิ๊กบอสและหมอคังใน The descendent of sun คิดออกแน่นอน ผู้พันเขาสอนทหารเหล่านั้นในการเขียนข่าว และรายงานข่าวของการปฏิบัติหน้าที่กลับมายังประเทศไทยนั่นล่ะ
ชลรัศมี รับใช้กองทัพจากวันแรกจนถึงปัจจุบันกว่า 10 ปี เติบโตก้าวเข้าสู่ยศ”พันตรีหญิงชลรัศมี”ในปัจจุบัน
ชลรัศมี ทำหน้าทีี่ผู้ประกาศและพิธีกรอยู่หน้าจอในหลากหลายรายการที่สถานีได้มอบหมายความไว้วางใจให้ จนเคยมีนิตยสารหัวดังเล่มหนึ่งติดต่อขอเข้ามาสัมภาษณ์ ด้วยข้อสงสัยที่ว่า “ทำไมคุณชลรัศมีเหมือนจะอยู่หน้าจอตลอด 24 ชั่วโมง” เอาเวลาพักตอนไหน
และจากการที่เธอได้มีโอกาสสัมภาษณ์บุคคลมากมายในระดับประเทศ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรีไปจนถึงชาวบ้านเดินดินกินเข้าแกง จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างรายการของตัวเอง ‘ชลรัศมี กับวีไอพี’รายการแรกในชีวิต ที่มาจากความรักและความง่ายๆ ในมุมมองาว่า อยากเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวของคนดี คนเก่ง ให้สามารถใช้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ชม และผลักดันให้ผู้ชมที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตของตัวเอง มีข้อคิดดีๆ
รายการนี้ใครๆ ก็รู้จัก มาพร้อมกับวันนักขัตฤกษ์ของทาง ททบ. 5 มายาวนานกว่า 8 ปี
หลังจากนั้น ผู้พันทิพย์ได้สร้างสรรค์รายการใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติม โดยในช่วงแรกๆ จะเป็นในรูปแบบของสารคดีสั้น ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยแนวคิดที่ออกมาจากเบื้องลึกของหัวใจ
“ทิพย์รักในหลวง และอยากให้คนไทยรักพระองค์มากๆ เช่นเดียวกัน”
รายการ จากภาพของพ่อ และ กว่าจะเป็นไทย นั้น เป็นรายการที่ชลรัศมีตั้งใจ บอกเล่าถึงพระราชกรณียกิจ พระจริยาวัตร และพระมหากรุณาที่คุณ ที่ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 9 และพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงทุ่มเท และทำเพื่อแผ่นดินไทยมาช้านาน
นอกจากนี้ ก็ยังมีรายการ ด้วยสองมือที่สร้างให้ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบรมราชินีนาถ ตามมาด้วย แรกมีที่สยาม และ รู้ไว้ใช่ว่า...ประชาคมอาเซียน ตามลำดับ ทุกงานที่เธอทำล้วนสะท้อนภาพความคิดของเธอชัดเจนในความรักและความเทิดทูนที่เธอมีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ชลรัศมี ได้จุดประกายไอเดียรายการใหม่ขึ้นมา ว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คน ก็มีครอบครัวเป็นแรงผลักดันอยู่เบื้องหลัง และคงจะดีไม่น้อยเลย หากบุคคลเหล่านั้นได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ เรื่องราวการใช้ชีวิต และข้อคิดดีๆ ให้กับผู้ชม จึงทำให้เกิดเป็นรายการ คุยยกบ้าน ขึ้นมา
ตามมาด้วยรายการ คนเปลี่ยนโลก ที่มุ่งหวังถ่ายทอดเรื่องราวของจากบุคคลต่างๆ ที่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปฏิบัติจนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
เมื่อวันหนึ่งที่ถึงยุคทีวีดิจิตอล ด้วยจำนวนช่องที่เพิ่มมากขึ้นนี้เองที่ทำให้เกิดหลั่งไหลของบรรดาช่องหลัก ไปสู่ช่องทางเลือกอีกมากมาย ที่ส่งผลให้เนื้อหาทางช่องรายการหลักมีจำนวนลดลง ช่วงเวลานั้นเองที่ทาง ททบ. 5 ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ด้วยความเป็นคนของของ ททบ5 ที่เกิดและเติบโตจากที่นี่ มีพัฒนาการและความตั้งใจในการทำงานให้เกิดประโยชน์กับ ททบ 5 ชลรัศมีจึงได้ถูกทาบทามให้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์รายการข่าวตอนเช้าที่เธอมีประสบการณ์ในการเป็นผู้ดำเนินรายการข่าวเช้ามาเกือบ 10 ปี
นี่จึงเป็นจุดกำเนิดของรายการ ‘เช้านี้ประเทศไทย’ ในสไตล์การเล่าข่าวที่ทันสมัย สบายๆ ชมได้ทุกเพศทุกวัย ที่การันตีว่าผู้ชมจะไม่ตกข่าว ด้วยความตั้งใจ ที่อยากให้ ททบ. 5 ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองกลับมาคึกคักไปด้วยคนดู และเต็มเป็นด้วยรายการที่มีสาระดีๆ ดังเช่นเมื่อก่อน
ล้อมกรอบพิเศษ
รางวัลการันตีความสามารถ’พันตรีหญิงชลรัศมี งาทวีสุข’
• 2543 ได้รับตำแหน่ง ‘กุลบุตร-กุลธิดา สภากาชาดไทยประจำปี 2543’เข้ารับพระราชทานโล่รางวัล จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี
• รางวัล “สยามจารึก” แห่งปี 2559 ณ หอประชุมกองทัพอากาศ วันพุธ ที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2559
• โล่เชิดชูเกียรติ ‘สื่อส่งเสริมสถาบันครอบครัว ประจำปี 2559’ ในงานวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2559 วันที่ 7-8 เมษายน พุทธศักราช 2559
• โล่เชิดชูเกียรติเพื่อแสดงว่า รายการ ‘คุยยกบ้าน’ช่อง 5 ได้รับการคัดเลือกเป็น ‘สื่อส่งเสริมสถาบันครอบครัว’ เนื่องในโอกาสวันแห่งครอบครัว ประจำปี 2559 จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
• MAYA AWARDS มายามหาชน พิธีกรหญิงดีเด่น ขวัญใจมหาชน วันพุธที่ 9 กันยายน พุทธศักราช 2558
• รางวัลเกียรติยศเชิดชูเกียรติ ดาวเมขลา ประจำปี 2557 ผู้ประกาศข่าวหญิงสร้างสรรค์สังคมดีเด่นแห่งปี รายการข่าว5 หน้า1 ททบ. ช่อง5
• รางวัลเทพทองครั้งที่ 14 ประจำปี 2555 ด้านวิทยุโทรทัศน์ วันที่ 23 เมษายน พุทธศักราช 2556
• รางวัลเมขลาดีเด่นยอดนิยม รางวัลพิธีกรข่าวเพื่อสังคมดีเด่นยอดนิยม ประจำปี 2555 ครั้งที่ 25
• 2554 ได้รับพระราชทาน ‘เหรียญที่ระลึก’ ในงานชุมนุมกาชาดครั้งที่ 10 จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (25 ก.ค 54)
• 2553 ได้รับพระราชทาน ‘เหรียญกาชาดสมนาคุณชั้น 2’ จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (15ต.ค 53)