- Details
- Category: กรมสรรพากร
- Published: Thursday, 30 October 2014 21:57
- Hits: 2237
อุดช่องโหว่พวกขี้โกงภาษีคลังสั่งเดินหน้าปรับรูปแบบการทำงานสรรพากร
บ้านเมือง : คลังเตรียมหารือกฤษฎีกาเดินหน้าผลักดันภาษีมรดก พร้อมกำชับกรมสรรพากรปรับแผนรองรับภาษีเพิ่มหลายประเภท คาดรายได้เพิ่มเป็นร้อยละ 80 พร้อมมอบนโยบายสรรพากรเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บ-อุดช่องโหว่พวกขี้โกงเลี่ยงภาษี
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวมอบนโยบายให้ผู้บริหารสรรพากรทุกพื้นที่ เพื่อปรับภารกิจรองรับภาษีประเภทใหม่เพิ่มเติม เพราะขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.การรับมรดกเกือบได้ข้อยุติทั้งหมดแล้ว โดยเหลือเพียง 4-5 ประเด็น ต้องหารือเพิ่มกับคณะกรรมการกฤษฎีกาวันนี้ (30 ต.ค.) คาดว่าจะได้ข้อสรุปร่วมกันต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ จากนั้นจะเสนอ ครม.พิจารณา และเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาในขั้นต่อไป คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 เดือนในการพิจารณา เมื่อประกาศบังคับใช้จะให้เวลา 3 เดือนในการปรับตัวในการเสียภาษี
สำหรับ แนวทางจัดเก็บภาษีมรดก เบื้องต้นจัดเก็บภาษีจากมรดกที่จดทะเบียนทรัพย์สิน เช่น บ้านที่อยู่อาศัย ที่ดิน หุ้น มูลค่าตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป จัดเก็บอัตราร้อยละ 10 สำหรับประเภททรัพย์สินจะออกประกาศกระทรวงเพิ่มเติมอีกครั้ง
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรยังต้องเตรียมตัวรองรับการจัดเก็บภาษีอีกหลายประเภท เช่น แนวทางการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะครบกำหนดเดือนกันยายนปี 2558 โดยต้องรอดูนโยบายรัฐบาลต้องการปรับเพิ่มหรือไม่ โดยต้องประเมินผลกระทบต่อประชาชน อีกด้านหนึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องจัดเก็บภาษี เพื่อนำเงินมาพัฒนาด้านต่างๆ รวมถึงการจัดเก็บภาษีคณะบุคคล หลังจากที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้ห้างหุ้นส่วนสามัญ และคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมมากขึ้น โดยห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่ต้องจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ จึงกำหนดให้ห้างหุ้นส่วนสามัญคำนวณเงินได้สุทธิด้วยวิธีการนำรายได้เฉลี่ยรายได้ของหุ้นส่วนในสัดส่วนที่เท่ากัน เพื่อนำไปคำนวณภาษีเงินได้แต่ละบุคคลแทนการเท่ากัน เพื่อนำไปคำนวณภาษีเงินได้แต่ละบุคคลแทนการเสียภาษีรูปแบบห้างหุ้นส่วนสามัญ คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2558
สำหรับ การจัดเก็บภาษีเพิ่มหลายประเภทนั้น คาดว่าจะทำให้รายได้กรมสรรพากรเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77 เป็นร้อยละ 80 ของรายได้ทั้งหมดของรัฐบาลในอนาคต เมื่อรัฐบาลจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีกหลายประเภทผ่านกรมสรรพากร จึงต้องปรับรูปแบบการทำงานของกรมสรรพากร โดยเฉพาะการอุดช่องโหว่ต่างๆ ที่มีอยู่ในอดีต ขณะที่การจัดเก็บภาษีปี 2558 แม้เศรษฐกิจไม่ดีกำหนดเป้าหมายให้รายได้ภาษีจากปี 2557 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 โดยกรมสรรพากรมีเป้าหมายจัดเก็บภาษีปี 2558 วงเงิน 1.965 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลการจัดเก็บภาษีประเภทต่างๆ เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น เช่น ภ.ง.ด.2, ภ.ง.ด.3, ภ.ง.ด.51, ภ.ง.ด.53, ภ.พ.30 และอากรแสตมป์ เป็นต้น นอกจากนี้ กรมสรรพากรยังมุ่งให้ความรู้และความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการที่อยู่นอกระบบให้เข้าสู่ระบบเสียภาษีอย่างถูกต้องให้มากขึ้น เช่น ธุรกิจ e-Commerce ที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 1.45 แสนราย
ส่วนแนวโน้มเรื่องการปรับอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ว่า การจะปรับขึ้นภาษี VAT หรือไม่คงต้องขึ้นกับปัจจัยที่สำคัญ 2 ประการ คือ 1.นโยบายของรัฐบาล และ 2.ภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้น ซึ่งก่อนที่จะครบกำหนดในเดือน ก.ย.58 ก็คงจะต้องพิจารณาสภาพเศรษฐกิจในขณะนั้นหลายด้านควบคู่กันไป ทั้ง ภาวะเงินเฟ้อ, GDP รวมทั้งศึกษาแนวทางการปรับขึ้นภาษี VAT จากประเทศอื่นๆ ว่าเมื่อปรับขึ้นแล้วมีผลตามมาอย่างไร เช่น ญี่ปุ่น
"มีแนวคิดเรื่องการปรับขึ้น(ภาษี VAT) แต่สุดท้ายแล้วจะขึ้นหรือไม่ขึ้นนั้น ก็ต้องอยู่กับสภาพแวดล้อมในขณะนั้นด้วย ตอนนี้คงยังระบุชัดเจนไม่ได้ แต่มองว่าเป็นการเก็บภาษีทางอ้อมที่มีความเป็นธรรมมากที่สุด เพราะบริโภคมากก็จ่ายมาก บริโภคน้อยก็จ่ายน้อย"นายประสงค์ ระบุ