สมคิด จี้ทุกภาคส่วนเร่งเบิกใช้งบฉีดศก.สั่งคลังฟื้นกำลังซื้อ

    ไทยโพสต์ : พระราม 6 *'สมคิด' จี้หน่วยราชการเร่งเบิกจ่ายงบปี 60 ดันเงินเข้าระบบเศรษฐกิจโดยเร็วที่สุด ยอมรับกำลังซื้อปลายปีแผ่ว สั่งคลังจับตาใกล้ชิด พร้อมหามาตรการรองรับในจังหวะเหมาะสม

    นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภาย หลังมอบนโยบายให้สำนักงบประมาณ และหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง ว่า ทุกหน่วยงานต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2560 เพื่อให้มีวงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ โดยเร็วที่สุด เพราะจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยสามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีโครงการที่ต้องดำเนินการอยู่แล้ว

     รวมถึงนโยบายของนายก รัฐมนตรีที่ต้องการให้เกิดการ พัฒนาเส้นทางคมนาคมต่างๆ เพื่อลดปัญหาการจราจรตาม จังหวัดที่เจริญแล้ว เช่น จ.เชียง ใหม่, จ.ภูเก็ต ผ่านระบบขนส่งมวลชนระบบรอง (โมโนเรล) หรือถนนต่างๆ ซึ่งจะช่วยรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น

     ทั้งนี้ ในปี 2560-61 รัฐ บาลต้องเร่งรัดพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานหลายด้าน ทั้งรถไฟ ถนน ท่าเรือ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก เพื่อต้องการเชื่อมโยงกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน และส่งเสริมเอสเอ็มอี ผ่าน 177 โครงการ ผ่านงบประมาณ 16,864 ล้านบาท

     ขณะเดียวกัน ยังมอบนโย บายแก่สำนักงบประมาณเรื่องการทำงบประมาณปี 2561 โดยให้ส่วนราชการทำแผนบูรณาการใช้งบประมาณประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ลดความซ้ำซ้อนของการใช้งบประมาณและโครงการของแต่ละกระทรวงต้องมีความสอดคล้องกัน ห้ามนอกลู่นอกทางเด็ดขาด โดยเฉพาะต้องยึดถึงการเกิดผลกับประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศให้มากที่สุด

     "แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าจะไม่ได้โตขึ้นรวดเร็ว เนื่องจากเป็นช่วงการปรับฐานเศรษฐกิจของประเทศ แต่ขอให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในปี 2560 จะขยายตัวได้ดีเมื่อเทียบกับปีนี้อย่างแน่นอน เพราะปีหน้าจะเป็นปีแห่งการผลักดันโครงการลงทุนออกมาให้ได้ตามแผนที่รัฐบาลกำหนดไว้" นายสมคิดกล่าว

     อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้การบริโภคภายในประเทศปรับลดลง เนื่องจากประชาชนไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะใช้จ่าย ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังดูแลอย่างใกล้ชิด และจะมีมาตรการออกมาในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง

สมคิด เผยโมเมนตั้มเศรษฐกิจไทยยังดี แม้ไม่โตทันที คาดใช้เวลาปรับฐาน เชื่อปี 61 ดีขึ้น

    นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับสำนักงบประมาณ และหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เร่งเบิกจ่ายงบประมาณในปี 2560 เพื่อให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโดยเร็ว นอกจากนี้ยังหารือเรื่องการทำงบประมาณปี 2561 ให้ส่วนราชการทำแผนบูรณาการใช้งบประมาณให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ลดการซ้ำซ้อน และให้เกิดผลกับประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศให้มากที่สุด

     นายสมคิด กล่าวต่อว่า ตอนนี้แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอยู่ในระดับที่ดี แม้ว่าจะไม่ได้โตขึ้นรวดเร็ว เนื่องจากเป็นช่วงการปรับฐาน แต่ยอมรับว่าการบริโภคภาคเอกชนลดลงเพราะคนไทยไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะใช้จ่าย ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังดูแลเรื่องนี้ใกล้ชิด และจะมีมาตรการออกมาดูแลในจังหวะที่เหมาะสม

    "เศรษฐกิจไทยตอนนี้เป็นเรื่องของการปรับฐาน ปีหน้าจะเป็นปีแห่งการผลักดันโครงการลงทุนออกมาให้ได้ตามแผน ซึ่งปี 2561 จะทำให้เศรษฐกิจไทยกลับมาแข็งแรงเต็มศักยภาพ หากไม่ปรับฐานเศรษฐกิจก็จะไม่มีฐานที่ให้ GDP ของประเทศขยายตัวต่อไปได้" นายสมคิด กล่าว

     พร้อม ระบุว่า ไม่กังวลกับภาววะเงินทุนไหลออกจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นกว่าเดิม จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐต้องตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อป้องกันเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เงินทุนที่สหรัฐฯ ที่ไหลออกไปลงทุนทั่วโลกไหลกลับเข้ามาสหรัฐ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลังดูแลอยู่

    ขณะที่ค่าเงินบาทที่ระดับ 35 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ผู้ส่งออกพอใจเนื่องจากมีรายได้จากการส่งออกมากขึ้น

  อินโฟเควสท์