สปช.ได้ 20 อรหันต์ยกร่าง ‘มานิจ’เข้าที่ 1 ก๊วนอดีต 40 สว.มาตามนัด

            แนวหน้า : สปช.ได้ 20 อรหันต์ยกร่าง ‘มานิจ’เข้าที่ 1 ก๊วนอดีต 40 สว.มาตามนัด ‘ไพบูลย์-คำนูณ’ฉลุย ตัวแทน4ภาคไม่พลิก ‘บวรศักดิ์’เต็งนั่งปธ.

                เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารรัฐสภา บรรยากาศการกรอกใบสมัครของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่สนใจเสนอตนเองหรือบุคคลอื่นเข้ารับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในสัดส่วน 20 คนตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวตั้งแต่เวลา 09.00-12.00น.เป็นไปอย่างคึกคักมีสมาชิกสปช.ด้านต่างๆทยอยเดินทางมากรอกใบสมัครอย่างต่อเนื่อง

                นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการคณะกรรมาธิการกิจการสภาปฏิรูป (วิปสปช.) ชั่วคราว กล่าวภายหลังการปิดรับสมัครว่า มีสมาชิกสปช.ยื่นใบสมัครเข้ามาทั้งสิ้น 34 คนครบทั้ง 11 สาขาปฏิรูป และรายจังหวัด ทั้ง 4 ภาค ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นแล้วพบว่ามีผู้ที่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดเพียง 32 คนเท่านั้น เนื่องจากอีก 2 คน พบว่าเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยืนยันว่าไม่มีการบล็อคโหวตแน่นอน

เปิดโผรายชื่อลุ้นชิงเก้าอี้กมธ.

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อผู้สมัครเข้าเป็นกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ด้านการเมืองมี 6 คน 1.นายชัยอนันต์ สมุทวณิช 2.นายชูชัย ศุภวงศ์ 3.นางตรึงใจ บูรณสมภพ 4.นายไพบูลย์ นิติตะวัน 5.นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ 6.นายอมร วานิชวิวัฒน์ ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน มี 1 คน คือ นางถวิลวดี บุรีกุล ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มี 5 คน 1.นายคำนูณ สิทธิสมาน 2.พล.อ.จิระโกมุทพงศ์3.นายนันทวัฒน์ บรมานันท์4.นายอุดม เฟื่องฟุ้งและ5.นายวรรณชัย บุญบำรุง

                ด้านการปกครองท้องถิ่น 4 คน 1.นายจรัส สุวรรณมาลา 2.นายไพโรจน์ พรหมสาสน์ 3.นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ และนายวุฒิสาร ตันไชย ด้านการศึกษา 2 คน นางทิชา ณ นคร และ นายมีชัย วีระไวทยะ ด้านเศรษฐกิจ มี 1 คน นางนรีวรรณ จิตนกานนท์ ด้านพลังงาน มี 1 คน พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวินิช

4 ภาคแบ่งลงตัว-มานิจติดโผ

                ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม มี 3 คน ได้แก่ 1.นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ 2.น.ส.สุภัทรา นาคะผิว และ 3.พล.อ.ชูศิลป์ คุณาไทย ด้านสื่อสารมวลชน มี 1 คนได้แก่ นายมานิจ สุขสมจิตร ด้านสังคม มี 2 คน น.ส.สมสุข บุญญะบัญชา และ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ด้านอื่นๆ จำนวน 2 คน ได้แก่ นายนิรันดร์ พันทรกิจ และ พล.ท.นาวิน ดำริกาญจน์

                ขณะที่รายจังหวัด ที่แบ่งเป็น 4 ภาค มีตัวแทนที่เข้าสมัครภาคละ 1 คน ได้แก่ ภาคเหนือ นายจุมพล สุขมั่น ภาคใต้ นายเชิดชัย วงศ์เสรี ภาคกลาง-ตะวันออก นายประชา เตรัตน์ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พล.ท.นคร สุขประเสริฐ อย่างไรก็ดีนายเจิมศักดิ์ ได้ลาออกจากการสมัครร่วมเป็นกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญทำให้ผู้สมัครเหลือ 31 คน

เปิดฟรีโหวตลงคะแนนลับ

                เวลา 14.00น.การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)เริ่มขึ้น โดยมีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ว่าที่ประธาน สปช.ทำหน้าที่ประธานการประชุมเฉพาะคราว ซึ่งมีวาระเร่งด่วนคือพิจารณาให้ความเห็นชอบรายชื่อผู้มีความเหมาะสมเป็นกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญจำนวน 20 คน โดยให้สมาชิกเลือกผู้ที่ต้องการจะลงคะแนนได้ 20 คนใช้วิธีลงคะแนนลับ หากผู้ได้รับเลือกมีคะแนนเท่ากันให้ใช้วิธีจับสลาก

เปิดให้ 31 ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์

                จากนั้นที่ประชุมเปิดโอกาสให้ผู้สมัครทั้ง 31 คน แนะนำตัวถึงประวัติโดยย่อว่ามีความเชี่ยวชาญด้านใด คนละ 2 นาที ส่วนใหญ่แนะนำตัวเองจากประวัติการศึกษา และการทำงาน

                ใช้เวลานานเกือบ 2 ชั่วโมงก่อนเข้าสู่ขั้นตอนของการลงคะแนนลับโดยให้สมาชิกเข้าคูหาตามลำดับตัวอักษรแล้วใช้ดินสอฝนหมายเลขสมาชิกที่ต้องการเลือกเป็นกมธ.ยกร่างฯจำนวน 20 คน หย่อนลงกล่องเพื่อนับคะแนน

คลอด 20 อรหันต์-มานิจเข้าที่1

                เวลา18.15น.นายเทียนฉาย ได้แจ้งผลการตรวจนับคะแนนสมาชิก สปช.ที่ได้รับเลือกเป็นกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 20 คน ประกอบด้วย 1.นายมานิจ สุขสมจิตร ด้านสื่อมวลชน ได้สูงสุด 222 คะแนน 2.นายประชา เตรัตน์ สปช.ชลบุรี 209คะแนน 3.นางถวิลวดี บุรีกุล ด้านบริหารราชการแผ่นดิน 206 คะแนน 4.น.ส.สมสุข บุญญะบัญชา ด้านสังคม 202 คะแนน 5.นายเชิดชัย วงษ์เสรี สปช.ภูเก็ต 198 คะแนน

เสธ.อู้-คำนูณ-ทิชา-เอนก-วุฒิสาร

                6.พล.ท.นคร สุขประเสริฐ สปช.ร้อยเอ็ด 197 คะแนน 7.พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ด้านพลังงาน 195 คะแนน 8.นายจุมพล สุขมั่น สปช.เชียงราย 192 คะแนน 9.นายวุฒิสาร ตันไชย ด้าน

                การปกครองท้องถิ่น 188 คะแนน 10.นายคำนูณ สิทธิสมาน ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 182 คะแนน 11.นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ด้านการเมือง177 คะแนน 12.นางทิชา ณ นคร ด้าน

                การศึกษา 171 คะแนน 13.นางนรีวรรณ จินตกานนท์ ด้านเศรษฐกิจ 163 คะแนน

ไพบูลย์-สุภทัรา-ชูชัย-มีชัยมาด้วย

                14.นายจรัส สุวรรณมาลา ด้านการปกครองท้องถิ่น 142 คะแนน 15.นายไพบูลย์ นิติตะวัน ด้านการเมือง 125 คะแนน 16.น.ส.สุภัทรา นาคะผิว ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 125 คะแนน17.นายบัญฑูร เศรษฐศิโรตม์ ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 122 คะแนน 18.นายชูชัย ศุภวงศ์ ด้านการเมือง 118 คะแนน 19.พล.ท.นาวิน ดำริกาญจน์ ด้านอื่น ๆ 118 คะแนน และ20.นายมีชัย วีระไวทยะ ด้านการศึกษา 117 คะแนน จากจำนวนบัตรที่ลงคะแนน 239 คน ไม่มีบัตรเสีย และไม่มีการงดออกเสียง

                จากนั้นนายเทียนฉาย แจ้งต่อที่ประชุมว่าขอนัดประชุมวิป สปช.ชั่วคราวในวันที่ 30 ตุลาคมเวลา 09.30น.จากนั้นได้สั่งปิดประชุมในเวลา 18.20 น.

เป็นไปตามโผ-“บวรศักดิ์”จ่อปธ.

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลโหวตรายชื่อกมธ.ยกร่างฯดังกล่าว เป็นไปตามโควต้าที่มีการตกลงกันไว้ล่วงหน้าโดยมีสมาชิก สปช. อยู่ 4 ด้าน ที่ได้รับความไว้วางใจให้เป็นคณะ กมธ.ยกร่างฯ คือ ด้านการปกครองท้องถิ่น มีนายจรัส สุวรรณมาลา และนายวุฒิสาร ตันไชย ด้านการเมือง มีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ และ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ด้านการศึกษา มีนางทิชา ณ นคร และ นายมีชัย วีระไวทยะ และด้านสาธารสุขและสิ่งแวดล้อม มีนายบัณฑูร เศรษศิโรตม์ และ น.ส.สุภัทรา นาคะผิว

                นอกจากนี้คณะ กมธ.ยกร่างในสัดส่วนของ สปช. มีเพศชายทั้งหมด 15 คน และเพศหญิง 5 คน ส่วนว่าที่ประธานกมธ.ยกร่างฯ คาดว่าจะเป็นนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองประธานสนช. ซึ่งเป็นโควต้าของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

สนช.คัดกมธ.ยกร่างฯ30 ตุลา

                ด้านนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหากมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญในสัดส่วนสนช. 5 คนว่า ที่ประชุมได้ตรวจสอบคุณสมบัติสมาชิกที่ประสงค์จะทำหน้าที่กมธ.ยกร่างฯทั้ง 11 คนแล้ว พบว่าทุกคนมีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งนี้ทางวิปสนช.จะส่งรายชื่อทั้งหมดเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ สนช.ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้เพื่อให้สมาชิกพิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 5 คน ตามลำดับคะแนน ซึ่งสมาชิกแต่ละคนสามารถเลือกได้ 5 รายชื่อ

‘เต้น’เชื่อคสช.มีพิมพ์เขียวไว้แล้ว

                นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ส่วนตัวไม่ติดใจว่าจะมีคนในหรือคนนอกกี่คนในคณะนี้ เพราะเชื่อว่ากลุ่มที่จะมีบทบาทจริง ๆในการวางพิมพ์เขียวรัฐธรรมนูญให้ได้ตามโจทย์ของ คสช.คือคนในกลุ่มเนติบริกรอยู่แล้ว

                และว่าหากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกมาสวยสดงดงาม คนอาจเรียกว่าฉบับ “อาจารย์ปื๊ด” หรือท่านปื๊ด หรืออาจจะพี่ปื๊ด ซึ่งเป็นชื่อเล่นของดร.บวรศักดิ์ อุวรรโณ แต่ถ้าออกมาเพื่อทำลายใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือขัดหลักการประชาธิปไตยจนคนทำใจรับไม่ไหว ตนกลัวใครเขาจะตั้งฉายาว่าฉบับ “ไอ้ปื๊ด” สาธุขออย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย

'บิ๊กตู่'ปัดส่งบิ๊กป้อมบินเคลียร์แม้ว

                ทางด้านความเคลื่อนไหวอื่นๆที่น่าสนใจนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เดินทางไปจีน ว่า รัฐบาลส่งให้ไปเป็นตัวแทนด้านความมั่นคง ไม่ได้ไปส่วนตัวโดยประเด็นหลักจะไปพูดคุยเรื่องข้าว และยาง

                เมื่อถามว่าเกี่ยวข้องกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กำลังพักผ่อนอยู่ที่จีนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธว่า “พล.อ.ประวิตรไม่ได้ไปเจอ จะเจอได้อย่างไร และเรื่องแบบนี้ ผมไม่จำเป็นต้องไปห้าม แต่ละคนมีวิจารณญาณของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าเป็นผมก็คงไม่ไปเจอ เรื่องข้อกฎหมายจะไปไกล่เกลี่ยได้อย่างไร”

แนะ'ทักษิณ'กลับมาสู้คดีในไทย

                เมื่อถามว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการต่อสายเพื่อเคลียร์เรื่องคดีได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่ต้องมาสายตรง บินกลับมาเลย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์หันมาหยอกล้อผู้สื่อข่าวว่า “อย่าถามปลุกปั่นซิ” ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล