'บิ๊กตู่'พบนักธุรกิจยุโรป แย้ม'ครม.'5 รองนายก-ทำงาน 1 ปี 'ณรงค์ชัย'ยื่นพ้นสนช. 'พรชัย'ลาออกเอ๊กโก้'สลค.'ชะลอตั้ง'ขรก.'ปนัดดาแฉอีกงบอปท.

    ยืนยัน - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทยให้กับนักธุรกิจไทย-ยุโรป ยืนยันว่า จะมีรองนายกรัฐมนตรี 5 คน และจัดตั้ง ครม.เรียบร้อยภายในเดือนกันยายนนี้ ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม

   'บิ๊กตู่'แจงนักธุรกิจยุโรป ครม.ใหม่มี 5 รองนายกฯ 'ปนัดดา'เผยร้องเรียนใช้งบ อปท.เพียบ ให้บริษัทญาติรับงานรับเหมา ด้านสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านตบเท้าให้กำลังใจปลัดสำนักนายกฯ

@ บิ๊กตู่เผยมีรองนายกฯ 5 คน 

     เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทยให้กับผู้แทนสมาคมการค้าไทย-ยุโรป และนักธุรกิจไทย-ยุโรปที่เข้าพบว่า ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในช่วงก่อน คสช.เข้ามาบริหารประเทศที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยหยุดชะงัก ไม่สามารถเดินหน้าได้ คสช.จึงเขัามาปลดล็อกปัญหาดังกล่าว เพื่อผลประโยชน์ของชาติและประโยชน์ของมิตรประเทศ เป็นเวลา 3 เดือน ภายใต้การบริหารของ คสช. มีทหารบูรณาการขับเคลื่อนให้ข้าราชการทุกหน่วยงานเป็นเพื่อนข้าราชการด้วยกันได้ปฏิบัติงานเป็นปกติตามกระบวนการทำงานของหน่วยได้อย่างเต็มขีดความสามารถ ลดการกดดันจากฝ่ายการเมือง ขอยืนยันกับนักธุรกิจต่างประเทศว่าเดือนกันยายนนี้จะมีรองนายกรัฐมนตรี 5 คน และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อย บริหารประเทศภายใน 1 ปี และขับเคลื่อนปฏิรูป 11 เรื่อง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นหลังจากการมีการเลือกตั้งแล้ว

@ ณรงค์ชัยไขก๊อกสนช.คาดนั่งครม.

      รายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า นายณรงค์ชัย อัครเศรณี สนช. ได้ยื่นหนังสือลาออกจาก สนช.กับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแล้ว ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า นายณรงค์ชัยติดโผร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงคาดว่านายณรงค์ชัยจะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่ากระทรวงพลังงาน ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 กำหนดให้ผู้ที่เป็นรัฐมนตรีต้องไม่เป็น สนช. ผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ไปยังนายณรงค์ชัยเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่านายณรงค์ชัยได้ยื่นหนังสือลาออกจาก สนช. ซึ่งก็ต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน

      นายณรงค์ชัย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ยอมรับว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิก สนช.จริง เนื่องจากไม่มีเวลาว่าง และมีงานต้องทำจำนวนมาก ส่วนกระแสข่าวว่าจะได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น เมื่อถามว่าพร้อมทำงานหรือไม่หากได้เป็นรัฐมนตรี นายณรงค์ชัยกล่าวว่า หากใช้คำว่าถ้าคงตอบไม่ได้เพราะยังไม่เกิดขึ้น

@ "พรชัย"ลาออกกรรมการเอ็กโก้

      รายงานข่าวแจ้งว่า นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด(มหาชน) หรือ เอ็กโก้ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า นายพรชัย รุจิประภา ได้ขอลาออกจากการเป็นกรรมการ ประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการลงทุนของเอ็กโก้ มีผลตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม เป็นต้นไป ทั้งนี้ นายพรชัยมีชื่อติดโผคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ คาดว่าจะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) ดังนั้นจะต้องไม่เป็นคณะกรรมการในบริษัทเอกชน จึงต้องลาออกเพื่อเตรียมความพร้อม

@ บิ๊กจินย้ำครม.เสร็จภายในก.ย.

      ที่สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. กล่าวถึงการจัดทำบัญชีแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ว่า เรื่องโผ ครม. ขณะนี้ยังไม่ค่อยได้ติดตาม แต่หากได้ฟังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันชัดเจนว่า จะตั้ง ครม.ให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน 

      ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.อ.ประจินมีชื่อติดอยู่ในโผ ครม.ชุดใหม่นี้ด้วยหรือไม่ พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่าคงตอบได้เพียงว่าคงต้องช่วยนายกรัฐมนตรีทำงานต่อไป

@ บิ๊กเจี๊ยบพร้อมนั่งทุกตำแหน่ง

      พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองหัวหน้า คสช. ฝ่ายความมั่นคงและต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีชื่อติดอยู่ในโผ ครม.ว่า ขณะนี้ทำหน้าที่ดูแลอยู่ 4 กระทรวงหลักคือ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงไอซีที แต่สื่อตั้งให้ตนเป็นรัฐมนตรีทุกกระทรวง

      เมื่อถามว่า โผ ครม.สื่อตั้งมานั้นตรงบ้างหรือไม่ อย่างเช่นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า เป็นทหาร นายกฯตั้งให้เป็นอะไรก็ต้องทำ และก็ต้องทำให้ดีที่สุด นโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ก็เพื่อประเทศชาติและส่วนรวม และทุกคนใน คสช.ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ การทำงานของคณะ คสช.ในช่วงที่ผ่านมาเหมือนคสช.เข้าไปช่วยให้กระทรวงต่างๆ ได้ทำงานอย่างมีเกียรติและศักดิ์ศรี จะแสดงความคิดอ่าน คณะ คสช.เป็นผู้เข้าไปประสาน อำนวยความสะดวกและเชื่อมและต่อให้ในสิ่งที่ขาดหายไป หากไม่คิดเข้าข้างตัวเองจะเห็นว่าการทำงานของทุกกระทรวงเร็วขึ้น พร้อมทั้งมีเกียรติและศักดิ์ศรีในการทำงาน

      เมื่อถามว่าถ้าต้องไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีเกินกว่าหนึ่งตำแหน่งจะหนักเกินไปหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า คงจะเยอะไป แต่ขณะนี้ปลัดกระทรวงต่างๆ ก็ทำหน้าที่เหมือนรัฐมนตรีอยู่แล้ว ในส่วน คสช.ก็อำนวยความสะดวก ที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี

@ คสช.รอรบ.แก้ปมสมาชิกท้องถิ่น 

      พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า กรณีการสรรหาสมาชิกสภาท้องถิ่นเพื่อทำหน้าที่ทดแทนการหมดวาระของสมาชิกในบางท้องถิ่น ทาง คสช.ทราบดีว่าอาจมีปัญหาความไม่เข้าใจ และอาจเป็นที่ไม่พอใจผู้ที่เกี่ยวข้องอยู่บ้าง ในอนาคตเมื่อมีรัฐบาลครบสมบูรณ์ คงจะดำเนินการใหม่ ให้ประชาชนมีความพึงพอใจในการหาบุคคลที่เป็นตัวแทนอย่างแท้จริง เป็นผู้ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ คัดสรรจากบุคคลที่ประชาชนให้การยอมรับ ซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส เพื่อมาปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนกว่าจะมีการเลือกตั้งตามระบบปกติในอนาคต

@ ปนัดดาชี้"เฮทสปีช"ทำแตกแยก

     ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปบรรยายพิเศษในหัวข้อ การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ความสามัคคี และความปรองดองของคนในชาติ ให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน ตามโครงการคุณธรรมนำทางสร้างสรรค์ความสำเร็จ โดยมีนายนคร ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ม.ล.ปุณฑริก สมิติ รองปลัดกระทรวงแรงงาน ให้การต้อนรับและมอบดอกไม้ให้กำลังใจ ที่ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน

     ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ในเรื่องของความปรองดองนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เน้นเรื่องเฮทสปีชหรือคำพูดที่สร้างความแตกแยกอย่างมาก เนื่องจากทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมและเสียบรรยากาศ ไม่เฉพาะในระดับประเทศ แต่รวมทั้งระดับครอบครัวก็ไม่ควรใช้ ข้าราชการควรคำนึงถึงหลักเรื่องการเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ข้าราชการที่ดีควรมีแนวคิดที่ดีในการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า ส่วนเรื่องของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อยากให้ตั้งขึ้นมาร่วมกันพัฒนาประเทศ ร่วมกันวางแผนประเทศว่าทำอย่างไรให้เป็นประชาธิปไตย อาจจะไม่ถูกใจคนทั้งหมด แต่ก็ขอให้ถูกใจหมู่มาก ไม่ควรมีช่องโหว่ของกฎหมายจนเกิดความขัดแย้ง 

@ แฉร้องเรียนการใช้งบอปท.อื้อ

        "มีคำกล่าวที่ว่าหัวไม่ส่ายหางไม่กระดิก หมายความว่าถ้าหัวแถวนึกถึงคุณธรรมจริยธรรม สง่างาม มีหรือที่หางจะกล้าออกนอกแถวไป แต่ด้วยความที่แต่ละคนมีความต่างกันจึงอาจเกิดบ้างบางครั้ง แต่ก็เป็นส่วนน้อย ในเรื่องการดูงานของข้าราชการ ขอยกตัวอย่างการดูงานของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่นั้นอาจต้องการพบเห็น เรียนรู้หลายๆ สิ่งจากต่างประเทศ ดังนั้น เราต้องจัดการเรื่องการเดินทางไปดูงานในต่างประเทศให้ดี" ม.ล.ปนัดดากล่าว และว่า มีการร้องเรียนเรื่องงบประมาณทั้งทางสายด่วน 1111 และมีส่งมาถึงที่บ้านพักส่วนตัวด้วย ป็นการร้องเรียนเรื่องความไม่เท่าเทียมกันในการจัดสรรงบประมาณขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั้งระดับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเทศบาล อยากให้มีความโปร่งใสในการทำงานสามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวมีมานานแล้ว ที่ผ่านมามีการตามใจตัวเองไปบ้าง ตอนนี้ก็ต้องมาจัดระเบียบให้ดีขึ้น และข้าราชการหลายท้องที่ก็เห็นด้วยกับการจัดระเบียบ โดยอยากให้คำนึงถึงงบประมาณในด้านที่จำเป็น อย่างการศึกษา วัฒนธรรม เรื่องที่ไม่จำเป็นขอให้ตัดทิ้ง ส่วนเรื่องการไปดูงานต่างประเทศนั้นก็ขอให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วน

@ ให้บริษัทญาติรับงานก่อสร้าง

      ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า งบประมาณที่มีปัญหาและมีการร้องเรียนเข้ามานั้นมีหลายด้าน อย่างกรณีศึกษามีมาว่า อปท.บางแห่งมีการนำบริษัทที่เป็นของญาติพี่น้องมาเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างในโครงการต่างๆ ทั้งนี้ได้มีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) ด้วย อย่างไรก็ตาม คสช.ได้มีคำสั่ง คสช. 104/2557 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอเป็นคณะกรรมการเข้าไปให้คำแนะในการใช้งบประมาณของ อปท.ให้เกิดประโยชน์ต่อท้องถิ่นมากที่สุดและอยากให้ประชาชนในฐานะเจ้าของจังหวัดช่วยกันตรวจสอบการใช้งบของ อปท.อีกทางหนึ่งด้วย ยอมรับว่าที่ผ่านมา อาจจะมีการต่อต้านจาก อปท.ในเรื่องนี้ ถูกระบายสีจากโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่เมื่อมีการพูดคุยกันโดยตรงเชื่อว่าทุกฝ่ายจะเข้าใจเหมือนกับที่ได้พูดคุยนายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ. สกลนคร ในฐานะนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย จนเข้าใจกันแล้ว 

       ด้านนายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังนำคณะเข้ามอบช่อดอกไม้ให้ ม.ล.ปนัดดาว่า ตัวแทนจากสมาชิกสมาคมทั้ง 4 ภาค เข้าใจนโยบายของ ม.ล.ปนัดดาที่ว่า อปท.มีการดำเนินการที่ดีแต่บางส่วนก็มีบ้างที่ไม่ดี แต่ก็เป็นส่วนน้อย ยืนยันว่าจะยืนเคียงข้าง เพราะเข้าใจถึงเจตนารมณ์ แต่อยากให้ชี้ชัดลงไปเลยว่าพื้นที่ใดมีปัญหาตามที่ระบุบ้าง

@ สมาคมอบจ.เล็งให้กำลังใจ

      นายวิจารณ์ กุลชนะรัตน์ นายกสมาคมข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในวันที่ 28 สิงหาคม นี้ ตัวแทนข้าราชการและพนักงานท้องถิ่นจากเทศบาล อบต. และ อบจ.ทั่วประเทศ จะเดินทางไปประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาการบริหารงานบุคคลท้องถิ่น ครั้งที่ 2 ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อสรุปเสนอสภาปฏิรูปการเมือง ทำให้ข้าราชการท้องถิ่นมีศักดิ์ศรีเทียบเท่าข้าราชการพลเรือน ไม่ถูกกระทำจากระบบการบริหารงานที่ขาดคุณธรรม ทำให้ขาดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ มีสวัสดิการที่ดีและเหมาะสมในการดำรงชีพ ก่อนการประชุมจะร่วมกันให้กำลังใจ มล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้เดินหน้าต่อสู้กับปัญหาการทุจริต และส่งเสริมให้มีระบบคุณธรรมในระบบราชการไทยอย่างเป็นรูปธรรม เพราะมีความเชื่อมั่นการทำหน้าที่เป็นข้าราชการที่ดีและควรเป็นแบบอย่างให้ข้าราชการทั่วประเทศ

@ คสช.ปัดห้ามอปท.ดูงานตปท.

      พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ในฐานะทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงกรณีปัญหาระหว่าง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ว่า ขณะนี้ทาง คสช.ยังไม่ได้มีคำสั่งตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเป็นวาระพิเศษ แต่ที่ผ่านมาทาง พล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับอยู่เสมอเรื่องการใช้งบประมาณของแต่ละหน่วยงานต้องมีความโปร่งใส อย่างไรก็ตาม เรื่องการใช้งบประมาณของ อปท.นั้นมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและขั้นตอนการตรวจสอบเป็นระบบเหมือนกับหน่วยงานอื่นอยู่แล้ว ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า คสช.มีคำสั่งห้าม อปท.ดูงานต่างประเทศนั้น ขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีคำสั่งดังกล่าวแต่อย่างใด

@ สลค.ส่งหนังสือชะลอตั้งขรก.

      รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า เมื่อวันที่ 27 สิงหาคมสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 0506 / ว 78 เรื่อง การชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ ลงนามโดยนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม. โดยมีเนื้อหาว่า เพื่อให้การบริหารบุคลากรภาครัฐเป็นไปอย่างโปร่งใส สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาล หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับออกไปจนกว่า ครม.ชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่และกำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนี้ เมื่อมีการสอบถามไปยังนายอำพน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงได้รับการเปิดเผยว่า "ไม่รู้ ไม่ทราบ ผมไม่อยากเป็นคนโกหก"

@ ปนัดดารับมีบางกระทรวงเซ็นแล้ว

      ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สลค. มีหนังสือคำสั่งให้ชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐออกไปจนกว่า ครม.ชุดใหม่ว่า ขณะนี้มีหนังสือชะลอการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐของทุกกระทรวงออกมาแล้ว การอนุมัติโยกย้ายทั้งหมดจะนำเข้าพิจารณาอีกครั้งภายหลังจากมี ครม.ชุดใหม่ ไม่ทราบว่าจะมีผลย้อนหลังถึงวันที่เท่าไร เนื่องจากมีการเซ็นอนุมัติโยกย้ายบางกระทรวงออกไปบ้างแล้ว 

      นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ได้เห็นหนังสือคำสั่ง สลค.แล้ว จะระงับการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกระทรวงแรงงานทุกระดับทั้งหมด ส่วนกรณีเสนอรายชื่อผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงแรงงานไปยัง คสช.ก่อนหน้านี้ เป็นเพียงการให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นว่ามีตำแหน่งใดบ้างจะเกษียณ และข้าราชการคนใดยังเหลืออายุราชการอยู่ในข่ายจะได้รับพิจารณาแต่งตั้ง ไม่ใช่การเสนอรายชื่อไปเพื่อพิจารณาแต่งตั้งแต่อย่างใด 

@ ปชป.ขวางย้ายขรก.ทุกกระทรวง 

    นายนริศ ขำนุรักษ์ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ช่วงนี้มีหลายส่วนราชการได้ออกคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในสังกัดกันมาก พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันหนักแน่นว่าให้มีรัฐมนตรีภายในเดือนกันยายนนี้ โดยมารยาทและเพื่อให้เกียรติกับรัฐมนตรีที่จะมาดำรงตำแหน่ง ปกติจะไม่มีการพิจารณาโยกย้ายแต่งตั้งจากส่วนราชการในช่วงเวลาเช่นนี้ จะรอเจ้ากระทรวงได้ให้นโยบายให้เสร็จสิ้นแล้วส่วนราชการค่อยโยกย้ายแต่งตั้งจัดคนให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล เพราะหากโยกย้ายตัดหน้า ก่อนให้นโยบายกระทำแบบลักไก่เช่นนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้มีการโยกย้ายใหม่อีกหลังประกาศนโยบาย จะสร้างความวุ่นวายซ้ำเติมอีก จากพฤติกรรมของส่วนราชการดังกล่าว จึงขอให้ คสช.ปฏิรูประบบการโยกย้ายแต่งตั้งของข้าราชการให้แล้วเสร็จด้วย เพราะสิ่งนี้คือหัวใจของการพัฒนาประเทศชาติ

@ กระทรวงอุตฯแจงโซลาร์เซลล์

     นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่า คสช.ถูกแอบอ้างใช้ชื่อขายโควต้าการประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวแน่นอน เพราะขั้นตอนการออกใบอนุญาตประกอบกิจการ (ร.ง.4) นั้น ปัจจุบันเข้มงวดและกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกนักลงทุน นอกจากนี้ตามปกติขั้นตอนการขออนุญาตประกอบกิจการ

     โซลาร์เซลล์จะต้องขอในส่วนของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เป็นขั้นตอนสุดท้าย ล่าสุดกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ได้ทำความตกลงเบื้องต้น (เอ็มโอยู) ให้เรกูเลเตอร์เป็นหน่วยอนุญาตโรงไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จ หรือวันสต๊อปเซอร์วิส เพื่อให้เรกูเลเตอร์มีอำนาจในการบริการจัดการใบอนุญาตทั้งหมด

@ สรรหาสปช.14วัน3,174คน

     ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิก สปช. วันที่ 14 ว่า มีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในส่วนของสำนักงาน กกต.กลาง จำนวน 11 ด้าน รวม 204 คน เป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 132 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์ 72 คน ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 95 คน รวมวันนี้ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 299 คน สรุป 14 วันของการเปิดรับการเสนอชื่อระหว่างวันที่ 14 สิงหาคม - 27 สิงหาคม มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามาจำนวน 1,284 คน เสนอชื่อทางจังหวัด 1,890 คน รวม 3,174 คน สำหรับด้านการปฏิรูปที่มีผู้ถูกเสนอชื่อมากที่สุดคือ ด้านการศึกษา 224 คน รองลงมาคือ ด้านอื่นๆ 194 คน และด้านสังคม 185 คน น้อยที่สุดคือด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 53 คน 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้สมัครเป็น สปช.ส่วนใหญ่เป็นอดีตข้าราชการระดับสูง อาทิ สมาคมข้าราชการบำนาญกระทรวงมหาดไทย เสนอชื่อนายไพโรจน์ พรหมสาส์น อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้าสรรหาด้านการปกครองท้องถิ่น และนายเชนทร์ วิพัฒน์บวรวงศ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เข้าสรรหาด้านบริหารราชการแผ่นดิน มูลนิธิข้าราชการบำนาญมหาดไทย เสนอชื่อนายประยูร พรหมพันธุ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เข้าสรรหาด้านการปกครองท้องถิ่น พรรคสังคมประชาธิปไตยไทย เสนอชื่อนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรค อดีตพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และนายสุคม ศรีนวล เข้าสรรหาด้านการเมือง มูลนิธิพัฒนาศักยภาพคนเสนอชื่อนายสำราญ รอดเพชร อดีตโฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เข้าสรรหาด้านอื่นๆ 

@ "พล.อ.เอกชัย-เอนก"ร่วมสมัคร

      พรรคสังคมประชาธิปไตยเสนอชื่อนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรค และนายสุคม ศรีนวล เข้าสรรหาด้านการเมือง มูลนิธิสัญญา ธรรมศักดิ์เพื่อประชาธิปไตย เสนอชื่อนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ คณบดีวิทยาลัยบริหารรัฐกิจและรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เข้าสรรหาด้านการเมือง และเสนอชื่อนายคำนูณ สิทธิสมาน อดีต ส.ว.สรรหา เข้าสรรหาในด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สมาคมรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อนายจเด็จ อินสว่าง อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา เข้าสรรหาด้านการเมือง และเสนอชื่อนายวิทย์ รายนานนท์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปี 2550 เข้าสรรหาด้านบริหารราชการแผ่นดิน มูลนิธิพัฒนาศักยภาพคนเสนอชื่อนายสำราญ รอดเพชร อดีตโฆษก กปปส. เข้าสรรหาด้านอื่นๆ สมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เสนอชื่อ พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า และนายไตรรัตน์ ฉัตรแก้ว อดีตผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (ซิป้า) เข้าสรรหาด้านอื่นๆ

@ "พล.ต.ต.อำนวย"ลงด้านกม.

      ขณะที่มูลนิธิศึกษาธิการ เสนอชื่อนายอาทร จันทวิมล รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก สภากาชาดไทย เข้าสรรหาด้านการศึกษา กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เสนอชื่อ นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ อัยการสูงสุด สมาคมนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เสนอชื่อนายสมัคร เชาวภานันท์ นายกสมาคม เข้าสรรหาด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สมาคมต่อต้านยาเสพติดในสถานประกอบการ เสนอชื่อ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา (รอง ผบช.ศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติราชการรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าสรรหาในด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

     จากนั้นนายบุญเลิศ คชายุทธเดช หรือบุญเลิศ ช้างใหญ่ อดีตสื่อมวลชน ได้เดินทางมายื่นเอกสารเพื่อขอรับการสรรหาเป็น สปช.ด้านสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า ทางสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนโยธินบูรณะได้มีมติเอกฉันท์เสนอชื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหา สปช.ด้านสื่อมวลชน ถ้าได้รับโอกาสเป็น สปช.จะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมมาเกือบ 40 ปี ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะไม่ใช่แค่การปฏิรูปสื่อเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย สิ่งสำคัญคือ สปช.ด้านสื่อมวลชนจะต้องเป็นหัวขบวนทำประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้กับ สปช.สร้างการยอมรับ

@ ก.ตร.ส่ง"ชาญชิต-อาจิณต์"ร่วม

      พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย รองผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล กล่าวว่า คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เห็นชอบเสนอตัวแทน ตร.เข้าเป็น สปช. 2 ราย ได้แก่ พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ อดีต ก.ตร. เป็น สปช.ด้านบริหารราชการแผ่นดิน และ พล.ต.ท.อาจิณต์ โชติวงศ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น สปช.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สมาคมตำรวจหรือสภาโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามารถเสนอ สปช.ในนามองค์กรนั้นได้อีก 

      รายงานข่าวแจ้งว่า มีการสอบถามไปยัง พล.ต.อ.ชาญชิต ถึงการได้รับการเสนอชื่อเป็น สปช. แต่ พล.ต.อ.ชาญชิตระบุว่ายังไม่ได้รับการทาบทาม อีกทั้งมีปัญหาด้านสุขภาพคงไม่สะดวกรับตำแหน่ง แต่หลังการประชุม พล.ต.อ.วัชรพลได้ติดต่อ พล.ต.อ.ชาญชิตทางโทรศัพท์เพื่อขอให้ยอมรับการเสนอชื่อครั้งนี้ เนื่องจากเป็นอดีตผู้บังคับบัญชาที่มีความรู้ความสามารถ ช่วยพัฒนาองค์กรตำรวจได้ ขณะที่ พล.ต.ท.อาจิณต์เป็นนายตำรวจใกล้ชิดกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. มีบทบาทใน สนช.และ คสช. 

@ อุตรดิตถ์คาดสมัครถึง 30 คน

      นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ประธานคณะกรรมการสรรหา สปช.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ล่าสุดมีผู้สมัคร สปช.อุตรดิตถ์ 22 ราย ในจำนวนนี้ถือว่ามากเกินกว่าคาดไว้ และก่อนปิดรับสมัครวันที่ 2 กันยายนนี้ คาดว่าน่าจะมีถึง 30 คน หรือมากกว่านี้ ในจำนวนนี้มีผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมครบถ้วนแทบทุกคน เนื่องจากมาจากหลากหลายสาขาอาชีพทั้งการเมือง การศึกษา ภาคประชาชน ข้าราชการ และสายกระบวนการยุติธรรม จะสรรหาให้เหลือ 5 คนสุดท้ายก่อนจะส่งไป กกต.และ คสช. คัดเลือกเหลือ 1 คนเป็น สปช.อุตรดิตถ์ โดยกรรมการสรรหาทั้ง 5 คน ก็จะมาอภิปรายและตรวจสอบคุณสมบัติความเหมาะสมอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ได้บุคคลที่เหมาะสมที่สุดเข้าไปเป็น สปช.ประจำ จ.อุตรดิตถ์ ถือว่าเป็นหน้าตาของชาวอุตรดิตถ์ด้วย

      ด้าน พ.ต.ต.อุทัย บุญรอด ผอ.กกต.จว.ชัยนาท กล่าวว่า มีผู้ที่ถูกคณะกรรมการสรรหาทาบทามได้เดินทางมายื่นเอกสารต่อ กกต.ชัยนาทเพิ่มอีก 1 คนคือ พ.ท.ระพีพงษ์ กระจ่างพันธ์ สัสดีอำเภอเมืองชัยนาท เมื่อรวมกับผู้ที่มายื่นเอกสารในช่วง 13 วันที่ผ่านมา รวมเป็น 12 คน โดยกระบวนการสรรหาของจังหวัดชัยนาทจะมีในวันที่ 28 สิงหาคม เป็นวันสุดท้าย

@ พท.ห่วงอาการป่วยอภิวันท์ 

       นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) และหนึ่งในแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร หนึ่งในแกนนำ นปช.ที่หนีหมายจับของศาลตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า หลังจากทราบข่าว พ.อ.อภิวันท์ป่วยมากรู้สึกไม่สบายใจ ในฐานะเคยทำงานด้วยกัน เคยร่วมเคลื่อนไหวต่อสู้กันมา พยายามติดต่อสอบถามอาการผ่านคุณแดงภรรยา พ.อ.อภิวันท์ แต่ก็ยังติดต่อไม่ได้ เข้าใจว่าน่าจะเดินทางไปเยี่ยมสามีในต่างประเทศ สาเหตุที่ พ.อ.อภิวันท์ต้องเดินทางออกนอกประเทศเพราะโดนคดี 112 ทำให้อยู่ไม่ได้ ทั้งที่เคยเป็นนายทหารได้รับพระราชทานยศ เชื่อมั่นว่าท่านไม่มีจิตใจจาบจ้วงสถาบันอย่างแน่นอน 

@ เรียกร้อง"บิ๊กตู่"ดันนิรโทษ

       "อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์มองที่เหตุด้วยว่าเรื่องนี้เกิดจากอะไร ถ้าต้องไปเสียชีวิตในต่างประเทศจริงๆ คนในครอบครัวคงโกรธแค้น ตราบใดคนไทยยังปรองดอง สามัคคีกันไม่ได้ ต่อให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ คนมีเงินมีทองก็ยังจะฆ่ากันอยู่ดี ถึงได้บอกถ้าจะปรองดองกันจริงๆ ต้องนิรโทษกรรมพวกที่โดนคดีความทางการเมืองให้หมด รวมไปถึงคดีมาตรา 112 ด้วย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก็มาจากการเมืองทั้งนั้น ถ้าไม่นิรโทษ ยังตามจับ ก็คงยังปรองดองไม่ได้" นายชินวัฒน์กล่าว

        รายงานข่าวจากแกนนำคนเสื้อแดงเปิดเผยว่า สำหรับอาการป่วยของ พ.อ.อภิวันท์ ล่าสุดค่อนข้างน่าเป็นห่วง เมื่อวันอังคารที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เข้ารับการผ่าตัดปอด หลังการผ่าตัด พ.อ.อภิวันท์ตอบสนองได้บ้าง แต่อาการยังไม่สู้ดีนัก ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ นอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นแกนหลักในการดูแล แต่ในส่วนของคนเสื้อแดงและอดีต ส.ส.พท. ก็กำลังหาทางระดมทุนช่วยเหลือครอบครัว พ.อ.อภิวันท์ อีกช่องทาง

@ คสช.ปัดขอฟิลิปปินส์ส่งตัว

      พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงการประสานกับประเทศฟิลิปปินส์เพื่อขอตัว พ.อ.อภิวันท์ ว่า ขณะนี้ทาง คสช.ยังไม่มีการประสานขอส่งตัวกลับมาดำเนินคดีแต่อย่างใด เรื่องคดีเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้ คสช.เพียงขอความร่วมมือให้กลับมาต่อสู้คดีในประเทศเท่านั้น ส่วนการจะดำเนินคดีต่างๆ นั้น ขอให้ไปสอบถามจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดูแลคดีดังกล่าวว่าจะดำเนินการอย่างไรกับบุคคลที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศและคดีไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว คสช.ไม่มีนโยบายไล่ล่าบุคคลที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพียงแค่ขอความร่วมมือให้กลับประเทศมาสู้คดี พนักงานสอบสวนจะดำเนินการอย่างไรก็ขอให้เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย และ พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่เคยพูดว่าจะต้องให้ดำเนินคดีแบบนั้นแบบนี้

       เมื่อถามว่า นายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่มคนเสื้อแดง ออกมาเรียกร้องหัวหน้า คสช. ให้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กลับมาสู้คดีโดยมีสิทธิขั้นพื้นฐานเหมือนคนทั่วไป พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ไม่เคยห้ามไม่ให้กลับ ไม่เฉพาะ พ.อ.อภิวันท์ หลายคนอยู่ต่างประเทศก็ขอให้กลับมาสู้คดี เข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย คนสู้คดีในประเทศไม่หลบหนี ศาลยังให้ประกันตัว หัวหน้า คสช.เคยพูดเชิญชวนเปิดโอกาสให้ทุกคนกลับมาสู้คดี คสช.จะดำเนินการอย่างละมุนละม่อม อย่าวิตกกังวล พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกอย่าง

@ หลังบ้าน"ชัจจ์"แจงจนลง 482 ล.

      นางวิมลรัตน์ กุลดิลก ภรรยา พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวกรณีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.ต.ท.ชัจจ์ เมื่อพ้นตำแหน่งครบ 1 ปี เทียบกับช่วงยื่นพ้นตำแหน่งเมื่อ 30 มิถุนายน 2556 มีทรัพย์สินลดลงกว่าเดิม 482 ล้านบาทว่า ช่วงยื่นพ้นจากตำแหน่งเมื่อ 30 มิถุนายน 2556 คดีฟ้องแพ่ง พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยศขณะนั้น จำนวน 22 คดี ศาลตัดสินให้ชนะ 8 คดี โดยมีคณะหลัก คือคดีที่ 830 ศาลตัดสินให้ พล.ต.ท.สมยศคืนหุ้นให้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 407 ล้านบาท จึงได้แจ้งรายการส่วนนี้ในการยื่นแสดงบัญชีต่อ ป.ป.ช. ต่อมามีการอุทธรณ์ และศาลให้หุ้นส่วนนี้ตกเป็นของนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน ในบัญชีที่แจ้งต่อ ป.ป.ช.เงินส่วนนี้จึงไม่ปรากฏในบัญชี ไม่ใช่การแพ้คดีแต่อย่างใด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสู้คดี เนื่องจากนางวิมลรัตน์มีหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า นายสุริยามอบหุ้นส่วนนี้ให้นางวิมลรัตน์