วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8667 ข่าวสดรายวัน


สนช.พรึบ 10 โมงโหวตนายก'ตู่' เชื่อทั้งสภาเทให้ 194 เสียง สายทหารยันไม่มีล็อบบี้ คสช.ชี้ถึงคิวเร่งโผครม.
      จับตา สนช.นัดประชุม 10 โมงเช้าวันนี้ โหวต 'บิ๊กตู่'ขึ้นนั่งนายกฯ สนช.สายทหารยันไม่มีล็อบบี้ คาดสมาชิกเทเสียงหนุนท่วมท้น ทำเนียบเตรียมสถานที่จัดพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ 'อดุลย์'เผยสัปดาห์หน้าเป็นคิวจัดโผครม. มติวิปสนช.ประชุมทุกพฤหัสฯ-ศุกร์ สมัครสปช. 7 วัน 999 คน กองทัพไทยเสนอ '2 พลเอก'เข้าชิง กกต.เคาะชื่อ'สมชัย-ธีรวัฒน์' หลัง 'ประวิช'ถอนตัว กมธ.งบประมาณเฉือนเงินสำรอง-ชดเชยข้าราชการ 1.2 พันล้าน เพื่อไทยโต้'แม้ว' สั่งถอนคดีความ

แจงขั้นตอนโหวตนายกฯ 
    เวลา 13.00 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่รัฐสภา นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือวิปสนช. แถลงหลังการประชุมวิป สนช.ว่า ที่ประชุมมีมติให้ประชุม สนช.สัปดาห์ละ 2 วัน ในวันพฤหัสฯและวันศุกร์ เวลา 10.00 น. โดยจะประชุมวิป สนช.ทุกวันอังคาร เวลา 13.30 น. เพื่อให้สอดคล้องต่อการทำงานเมื่อมีครม.แล้ว 
    นพ.เจตน์กล่าวว่า ส่วนวาระการประชุม สนช.ในวันที่ 21 ส.ค. เวลา 10.00 น. มีเพียงวาระเดียวคือ การให้ความเห็นชอบบุคคลดำรงตำแหน่งนายกฯ ขั้นตอนการเลือกนายกฯ จะเริ่มจากการเสนอร่างข้อบังคับการประชุม เฉพาะหลักเกณฑ์เรื่องการเลือกตัวนายกฯให้ที่ประชุมเห็นชอบ จากนั้นจะให้สมาชิก สนช.เสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ซึ่งผู้เสนอชื่อต้องมี สมาชิกสนช. 1 ใน 5 ให้การรับรองหรือประมาณ 40 คน ใช้วิธีเสียบบัตรลงคะแนนในการรับรองแทนการยกมือรับรองเหมือนที่ผ่านมา เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรับรองชื่อซ้ำซ้อนกัน หากมีการเสนอชื่อนายกฯมากกว่า 1 คน
     นพ.เจตน์ กล่าวว่า หลังจากเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯและมีผู้รับรองครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนการคัดเลือกจะให้เลขาธิการวุฒิสภาขานรายชื่อสมาชิกสนช. เพื่อให้ลงมติโดยเปิดเผยว่าเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง โดยผู้ที่จะได้เป็นนายกฯต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของ สนช.ที่มีอยู่ หรือ 99 คะแนนขึ้นไป ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องประชุม ไม่จำเป็นต้องแสดงวิสัยทัศน์ เพียงแต่ผู้เสนอชื่อต้องรับผิดชอบเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติว่าบุคคลดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามดำรงตำแหน่งนายกฯ และต้องทาบทามบุคคล ดังกล่าวไว้ก่อนแล้ว

สัปดาห์หน้าถกกม. 6 ฉบับ
     นพ.เจตน์ กล่าวว่า ส่วนการพิจารณากฎหมายเร่งด่วน ขณะนี้ คสช.เสนอกฎหมายให้ สนช.พิจารณา 10 ฉบับ เบื้องต้น สนช.จะพิจารณาก่อน 6 ฉบับ ได้แก่ 1.ร่างพ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย 2.ร่างพ.ร.บ.การทวงถามหนี้ 3.ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 4.ร่างพ.ร.บ.ศุลกากร 5.ร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 6.ร่างพ.ร.บ.การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตามพ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 ซึ่งในการประชุมวิป สนช. วันที่ 26 ส.ค.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียดของกฎหมายเหล่านี้เพื่อสรุปนำเข้าสู่การประชุม สนช. ในวันที่ 28 ส.ค.ต่อไป

 

'บิ๊กตู่'ร่วมงานสถาปนาร. 21 รอ.
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 21 ส.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคสช. จะเดินทางไปเป็นประธานในวันคล้ายวันสถาปนากรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21รอ.) หรือทหารเสือ นวมินทราชินี ครบรอบปีที่ 64 ซึ่งพล.อ. ประยุทธ์ เคยดำรงตำแหน่งตั้งแต่ ผบ.ร. 21 พัน 2 รอ. ผบ.ร.21 รอ. จนกระทั้งเป็นผบ.พล.ร.2 รอ.โดยจะมีพิธีสงฆ์ในเวลา 10.00 น. และเป็นประธานมอบรางวัลการแข่งขันยิงปืน และมอบทุนการศึกษาจำนวน 80 ทุน ก่อนกินมื้อเที่ยงแล้วเดินทางกลับในเวลา 13.00 น.

'บิ๊กติ๊ก'ปัดล็อบบี้โหวตนายกฯ 
     พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะสมาชิกสนช. ให้สัมภาษณ์ถึงการลงมติเลือกนายกฯ ของ สนช.ในวันที่ 21 ส.ค.ว่า ยังไม่ที่แน่ชัดว่าที่ประชุมจะเสนอบุคคลใดบ้าง เชื่อว่าการลงมติของสมาชิกสนช.จะอิสระ ไม่มีการล็อบบี้ เมื่อถามว่าหากมีผู้เสนอชื่อพล.อ.ประยุทธ์ พล.ท.ปรีชากล่าวว่า "ก็จะลงคะแนนให้เพราะท่านเป็นคนดี มีประสบ การณ์ทำงานมามากและมีความรับผิดชอบ ทั้งยังเหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ จะทำให้การทำงานตามโรดแม็ปทั้ง 3 ระยะของคสช. มีประสิทธิภาพมากขึ้น" 
     ด้านพล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ สมาชิกสนช. กล่าวปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่าจะเลือกใครเป็นนายกฯในการประชุมสนช.วันดังกล่าว เนื่องจากเป็นมารยาท การเปิดเผยชื่อล่วงหน้าคนที่จะโหวตให้นั้น ไม่เหมาะสม แต่ยืนยันว่าสมาชิกสนช.ไม่มีการพูดคุยกันล่วงหน้าว่าจะเลือกใครหรือจะเสนอชื่อใครขึ้นมาเป็นนายกฯ

ชี้สถานการณ์ต้องการผู้นำ
      พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม รองปลัดกระทรวงกลาโหม สมาชิก สนช. กล่าวว่า วิปสนช.แค่แจ้งมายังสมาชิกทุกคนว่ากระบวนการเลือกนายกฯในวันที่ 21 ส.ค.จะเป็นอย่างไร ส่วนผู้เสนอและผู้ถูกเสนอจะเป็นใครนั้นยังไม่ทราบ ซึ่งมองว่าคุณสมบัติของนายกฯจะต้องเป็นคนดีและมีความสามารถ
     พล.ต.ไพโรจน์ ทองมาเอง สมาชิก สนช. กล่าวว่า การประชุมสนช.โหวตเลือกนายกฯ วันที่ 21 ส.ค. ที่มีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ โดดเด่นขึ้นมานั้น ตนมองว่ามีหลายคนเป็นนายกฯได้ แต่ในสภาวะบ้านเมืองขณะนี้ต้องการคนที่เป็นผู้นำ เพื่อเข้ามาทำให้การเมืองนิ่ง มีเอกภาพ ขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ รวมถึงต้องผลักดันการปฏิรูป จึงต้องการผู้นำที่ไว้ใจ เชื่อใจได้ ไม่ได้มองว่าจะต้องเป็นคนที่มาจากสายทหารหรือกลุ่มไหน เพราะถึงอย่างไร คสช.จะต้องทำงานควบคู่กันไปอยู่แล้ว สนช.สายทหารไม่ได้มีใครชี้นำในการโหวตเลือก นายกฯ พวกเรามีอิสระในการทำหน้าที่
     พล.ต.ไพโรจน์ กล่าวว่า ส่วนที่มีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวเต็งที่จะเป็นนายกฯ ก็มีความเป็นไปได้ เพราะตอนนี้บ้านเมืองต้องการความเปลี่ยนแปลง จะเห็นได้ว่ารัฐบาลหรือนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง เกิดปัญหาตามมามากมาย เพราะการตรวจสอบการใช้กฎหมายทำได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นรัฐบาลใหม่ที่จะได้มานั้นต้องมีความแตกต่างจากรัฐบาลที่ผ่านมา ชื่อพล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

'บิ๊กกี่'รับมีชื่อ'บิ๊กตู่'ในใจ
      พล.อ.นพดล อินทปัญญา อดีตเลขานุการรมว.กลาโหม สมาชิกสนช. กล่าวว่า ตนมีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในใจแล้วเพราะมีความเหมาะสม ประเทศในสถานการณ์เฉพาะกาลแบบนี้ต้องมีผู้นำเด็ดขาด เห็นได้จากการชี้แจงประมาณประจำปี สั้น กระชับ เข้าใจได้ ส่วนใครจะเป็นผู้เสนอตนไม่ทราบ แต่ถ้ามีสมาชิกเสนอก็จะลงมติให้พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้ามีผู้เสนอมากกว่า 1 คน อยู่ที่ดุลพินิจของสมาชิกแต่ละคนเพราะเป็นการลงมติตามระบอบประชาธิปไตย 

คาดเสียงโหวต 194 ต่อ 0 
      รายงานข่าวแจ้งว่า การลงมติเลือกนายกฯในวันที่ 21 ส.ค. คาดว่าสมาชิก สนช.จะเข้าร่วมประชุมกันครบถ้วน เนื่องจากช่วงเช้าก่อนการประชุม มีกำหนดนัดถ่ายภาพหมู่สมาชิก สนช.ทั้ง 197 คน ซึ่งล่าสุดสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภายืนยันว่า ยังไม่มีสมาชิกรายใดแจ้งมาว่าติดภารกิจ ส่วนกระบวนการเสนอชื่อนายกฯนั้น มีกระแสจากสนช.สายพลเรือนว่า สนช.สายทหารระดับสูงจะเป็นผู้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ที่ประชุมลงมติเพียงคนเดียว เนื่องจากที่ผ่านมา สนช.ทุกคนต่างแสดงความเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดีและมีความเหมาะสมในการบริหารประเทศมากที่สุด ดังนั้นจึงคาดหมายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะได้รับมติเห็นชอบเป็นนายกฯคนที่ 29 จากสนช.ทั้งสิ้น 194 ต่อ 0 และงดออกเสียง 3 เสียงจากประธานและรองประธานสนช.ทั้ง 2 คน ตามธรรมเนียมการลงมติ 

สัปดาห์หน้าจัดโผครม.
     เวลา 10.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช.ฝ่ายกิจการพิเศษ เป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
      พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า การปรับปรุงตั้งเป้าให้เสร็จภายในวันที่ 15 ก.ย.นี้ โดยคาดว่าจะมีการเลือกนายกฯในสัปดาห์นี้ ส่วน ครม.ก็เป็นสัปดาห์ต่อไป ซึ่งทั้งหมดต้องเสร็จในสิ้นเดือนส.ค.นี้ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และห้องประชุม ครม.ชั้น 5 ตึกบัญชา การ 1 เพื่อรองรับการประชุม ครม. 
      ต่อมาเวลา 11.45 น. พล.ต.อ.อดุลย์ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า การทำงานทุกอย่างส่วนใหญ่เป็นไปตามแผนที่เราตั้งเป้าไว้ให้เสร็จทันและส่งมอบงานภายในวันที่ 1 ก.ย.นี้ ซึ่งตึกไทยคู่ฟ้าเหลือเพียงติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ตึกบัญชาการ 1 ใกล้เสร็จแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทำเนียบได้เตรียมพื้นที่จัดพิธีรับสนองพระบรมราช โองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายกฯไว้แล้ว 

โต้รอซินแสดูฮวงจุ้ยห้องนายกฯ
     ด้านม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า จากรายงานครั้งสุดท้าย งานทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลา เมื่อมีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมนายกฯคนใหม่ก็ต้องเป็นไปตามที่สำนักเลขาธิการนายกฯ(สลน.) กำหนดไว้ ขณะนี้สถานที่ห้องทำงานนายกฯและความพร้อมทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลา โดย สลน.เป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อถามย้ำว่านายกฯคนที่ 29 เมื่อเข้ามารับตำแหน่งต้องเข้านั่งบริหารงานที่ตึกไทยคู่ฟ้าใช่หรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ต้องเป็นเช่นนั้น
     พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า คสช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ห้องทำงานนายกฯและตึกไทยคู่ฟ้านั้นเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว มีการซักพรม ผ้าม่าน ทำความสะอาดและซ่อมแซมโต๊ะเก้าอี้ เพื่อรองรับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯคนใหม่ ส่วนที่มีข่าวว่ายังไม่มีการจัดวางโต๊ะเก้าอี้ของนายกฯเพราะรอให้ซินแสมาดูฮวงจุ้ยก่อนนั้น ไม่เป็นความจริง การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เป็นไปตามความเหมาะสมและสะดวกต่อการปฏิบัติงาน ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายกฯคนใหม่

เตรียมสถานที่รับพระราชโองการ
    เมื่อถามว่า เมื่อได้นายกฯคนใหม่แล้วทำเนียบจะรับรองการทำงานของนายกฯได้ทันทีเลยหรือไม่ พล.อ.สกลกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกฯว่าจะเข้าทำงานที่ใด แต่เห็นว่าแม้ตึกไทยคู่ฟ้าจะมีความพร้อม แต่ตึกและอาคาร อื่นๆ รวมทั้งภูมิทัศน์ภายในทำเนียบบางส่วนยังเสร็จไม่สมบูรณ์ นายกฯคงพิจารณาถึงความเหมาะสมและความพร้อมก่อนว่าจะทำงานในจุดอื่นก่อนหรือไม่
     รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เผยว่า การเตรียมพร้อมสถานที่เพื่อรับสนองพระบรมราชโองการนายกฯคนที่ 29 นั้น กองการสถานที่ทำเนียบพยายามเร่งปรับปรุงและเตรียมความพร้อม หากใช้สถานที่ของทำเนียบเป็นที่รับสนองพระบรมราชโองการจริง คาดว่าจะใช้ห้องสีงาช้างภายในตึกไทยคู่ฟ้า หรือห้องสีเหลือง ที่ตึกสันติไมตรี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากคณะทำงานของนายกฯคนใหม่

กำชับ 77 จว.ห้ามล็อกสเป๊กสปช. 
     เวลา 08.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. ได้ตรวจดูความเรียบร้อยการเปิดรับเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พร้อมระบุว่า คสช.มอบให้ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหา สปช.ประสานขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทย จัดประชุมระบบทางไกลผ่านดาวเทียม (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) ร่วมกับคณะกรรมการสรรหาจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ในวันที่ 21 ส.ค. เวลา 10.00 น. เพื่อทำความเข้าใจกระบวนการสรรหา สปช.และดำเนินการอย่างเสมอภาค ถูกต้องตามกฎหมาย ยุติธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด หลังเกิดกระแสข่าวว่าการสรรหาในบางจังหวัดมีการบล็อกโหวตบุคคลเป็นสปช. ตนเชื่อว่าคณะกรรมการสรรหาจังหวัดทุกคนจะปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ แต่หากผู้ใดพบมีการสรรหาไม่เป็นธรรมก็ยื่นเรื่องร้องเรียนมาที่สำนักงานกกต.ได้ 

เสนอชื่อ'ชัยอนันต์-พล.อ.สุภกิจ'
      ส่วนบรรยากาศการเสนอชื่อ ช่วงเช้ามีองค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรทยอยเข้าเสนอรายชื่อกันอย่างต่อเนื่อง มีบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ มูลนิธิส่งเสริมนโยบายการศึกษา เสนอชื่อนายชัยอนันต์ สมุทวณิช อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และอดีตที่ปรึกษา นายกฯสมัยพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เข้ารับการสรรหาด้านการเมือง กรมที่ดินเสนอชื่อนายพิพัฒน์ วงศาโรจน์ อดีตผู้ว่าฯพิษณุโลก และอดีตประธานกกต.จ.พิษณุโลก ในด้านการปกครองท้องถิ่น 
     สมาคมส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค เสนอชื่อนายพานิชย์ เจริญเผ่า อดีตสนช.ปี 2534 และอดีตส.ว.ปี 2535 ในด้านเศรษฐกิจ สมาคมนักเรียนเก่าเนเธอร์แลนด์ เสนอชื่อนายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล อดีตผู้ว่าฯสตูล ด้านเศรษฐกิจ สมาคมพัฒนาเศรษฐกิจไทย-จีน- ตงเหม็ง เสนอชื่อนายชัยพร ธนถาวรลาภ ด้านเศรษฐกิจ วัดเกาะสุวรรณาราม เสนอชื่อนายรักเกียรติ จาริก ด้านเศรษฐกิจ สมาคมอุตสาห กรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เสนอชื่อนายอังสุรัศมิ์ อารีกุล นายกสมาคมฯ ในด้านเศรษฐกิจ
     กองบัญชาการกองทัพไทย(บก.ทท.) โดยพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. เสนอชื่อพล.อ.วุฒินันท์ ลีลายุทธ ผบ.สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ บก.ทท. ในด้านการศึกษา และพล.อ.สุภกิจ นุตสถิตย์ ที่ปรึกษาพิเศษบก.ทท. ในด้านสื่อสารมวลชน สมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน เสนอชื่อนายจุมพล รอดคำดี อดีตคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในด้านสื่อสารมวลชน สมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์วิทยุและโทรทัศน์จ.สกลนคร เสนอชื่อนายบัญญัติ ทอนฮามแก้ว ด้านสื่อมวลชน สมาคมวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย เสนอชื่อนายประเสริฐ ตปนียางกูร ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 

7 วันสมัครสปช.รวม 999 คน 
      มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ เสนอชื่อนายวิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า โดยพล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ เสนอชื่อนายสันติภาพ เตชะวณิช อดีตผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย เสนอในด้านอื่น อบต.โนนโหนน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เสนอชื่อนายวิชัย ครองยุติ อดีตส.ว.ในด้านการปกครองท้องถิ่น
      เวลา 17.30 น. นายภุชงค์แถลงสรุปยอดการเสนอชื่อวันที่ เจ็ด ว่า ตลอดทั้งวันมีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ในส่วนของสำนักงานกกต.กลาง จำนวน 10 ด้าน รวม 69 คน เป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 57 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์ 12 คน จังหวัดมี 185 คน รวมวันนี้ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 254 คน สรุป 7 วันตั้งแต่วันที่ 14-20 ส.ค. มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อ 259 คน สมัครทางจังหวัด 740 คน รวมทั้งสิ้น 999 คน

กกต.ส่ง'สมชัย-ธีรวัฒน์'
    เวลา 15.00 น. นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. เผยหลังการประชุมกกต.ว่า ที่ประชุมมีมติเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. คือนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ในด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ในด้านการเมือง 
    นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย แถลงผลการประชุมว่า นายศุภชัย สมเจริญ นายบุญส่ง น้อยโสภณ และนายประวิช รัตนเพียร ขอสละสิทธิ์ เนื่องจากนายบุญส่ง มีภารกิจปรับปรุงและพัฒนางานของสำนักงาน กกต.ด้านการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ส่วนนายประวิช แม้จะมีประสบการณ์มากในด้านการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ยินดีเสียสละไม่ขอรับการเสนอชื่อครั้งนี้ เพราะกำลังทำงานใหญ่ โดยร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการในด้านการมีส่วนร่วมและปลูกฝังค่านิยมประชาธิปไตยให้แก่เยาวชน อาทิ การปรับหลักสูตรหน้าที่ศีลธรรม การขยายศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยตำบล 7,200 แห่ง 
    นายบุณยเกียรติ รักชาติเจริญ รองเลขาธิการ กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า จากนี้นายภุชงค์ จะลงนามรับรองการเสนอชื่อในฐานะองค์กรนิติบุคคลของสำนักงานกกต.เพื่อเสนอชื่อกกต.ทั้ง 2 คนเข้าสู่กระบวนการสรรหา โดยกกต.ทั้ง 2 คนต้องเซ็นยินยอมและรับรองความถูกต้อง พร้อมกันนี้สำนักงาน กกต.จะต้องแนบความเห็นของที่ประชุมกกต.เพื่อเป็นหลักฐานการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ด้วย 

เบื้องหลัง"ประวิช"ถอนตัว
     รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมกกต.เพื่อเสนอชื่อเป็นสปช.นั้น เป็นการประชุมลับ เมื่อเริ่มประชุมกกต.ทั้ง 3 คน คือนายประวิช นายธีรวัฒน์ และนายสมชัย ต่างแสดงเจตจำนงเข้ารับการเสนอชื่อ ที่ประชุมจึงตกลงจะใช้วิธีโหวตลงคะแนน แต่พอที่ประชุมทราบว่าหากนายสมชัยไม่ได้รับการเห็นชอบจากที่ประชุม กกต. นายสมชัยก็พร้อมให้องค์กรนิติบุคคลอื่นเสนอชื่อตนเอง ทำให้นายประวิชตัดสินใจถอนตัวจากแคนดิเดต เพราะเกรงว่าหากองค์กรนิติบุคคลอื่นเสนอชื่อนายสมชัย จะทำให้ภาพลักษณ์ถูกมองไม่ดีเหมือนเกิดความแตกแยกในองค์กร และยังให้เหตุผลว่า กกต.ทั้ง 5 คนได้ร่วมทำงานกันมานานถึง 6 เดือนแบบสามัคคีปรองดองและสมานฉันท์มาตลอด หากต้องโหวตเลือกคนใดคนหนึ่งออก อาจส่งผลเสียต่อสายตาของบุคคลภายนอกเกี่ยวกับความเป็นเอกภาพของ กกต.ทั้ง 5 คนได้ 
      รายงานข่าวแจ้งว่า นายศุภชัยจึงกล่าวว่า เมื่อที่ประชุมมีมติเสนอชื่อนายสมชัยและนายธีรวัฒน์เข้าสรรหาเป็น สปช.แล้ว คาดว่าบุคคลทั้งสองจะเข้าไปทำหน้าที่ใน สปช.ได้อย่างเหมาะสมหากได้รับการคัดเลือก ซึ่งนายสมชัยเป็น กกต.มีหน้าที่บริหารงานเลือกตั้งและมีประสบการณ์ด้านการเลือกตั้งมาตลอด น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปด้านการเมือง ส่วนนายธีรวัฒน์มีประสบการณ์ด้านตุลาการและดูแลด้านกิจการพรรคการเมือง จะเป็นประโยชน์ในการปฏิรูปด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการเสนอชื่อดังกล่าวเป็นเพียงกระบวนการขั้นต้นยังต้องมีขั้นตอนผ่านคณะกรรมการสรรหาในแต่ละด้านและผ่านการคัดเลือกจาก คสช.ในขั้นสุดท้ายต่อไป 

โคราชบิ๊กๆ ลงเพียบ 
      ที่จ.นครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าฯนครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมสรรหาสปช.นครราชสีมา กล่าวว่า สปช.นครราชสีมา ต้องหลากหลายครอบคลุม 11 ด้าน รายชื่อบุคคลที่ได้รับการทาบทามให้เป็น สปช.นครราชสีมา คือพล.ท.ชวลิต ชุนประสาน แม่ทัพน้อยที่ 2 พล.ต.ไชยพร รัตแพทย์ รองแม่ทัพน้อยที่ 2 ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป กอ.รมน.ภาค 2 นายพิพัฒน์ อุบลแก้ว อดีต กกต.นครราชสีมา ปัจจุบันเป็นอัยการจังหวัดนครราชสีมา นายสุเมธ ศรีพงษ์ อดีตส.ว.นครราชสีมา นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ อดีตส.ว.นครราชสีมา พล.ต.ต.เสริมสุข วีรวงศ์ อดีตผบก.ภ.จ.ศรีสะเกษ 
     นายสมโภชน์ ประสาทไทย อดีตผู้ประสานงานกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช กล่าวว่า ได้พูดคุยกับอดีตแกนนำทั้ง นปช.นครราชสีมา และกลุ่มคนเสื้อแดง รวมทั้งอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตย ซึ่งสังคมทราบดีในเวทีสรรหาระดับประเทศและจังหวัด กรรมการเตรียมหยิบตุ๊กตาที่เลือกไว้แล้วมาเล่น หากเข้าไปเกี่ยวข้องก็เป็นการสร้างความชอบธรรม ปล่อยให้ คสช.ดำเนินการกันเอง พวกเราจะใช้ช่วงเวลาที่เลิกเกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อมไปทำมาหากินจะดีกว่า

กมธ.งบยอมถ่ายสดประชุม
      เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ สมาชิกสนช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ. 2558 เป็นตัวแทนกมธ. หารือกับสื่อมวลชนถึงแนวทางการทำงานของกมธ. โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดการประชุม ภายหลังมีกระแสข่าวว่ากมธ.ไม่อนุญาตให้สื่อเผยแพร่การประชุม พล.ต.กลชัยหารือว่าจะเปิดให้ช่างภาพให้เข้าบันทึกภาพก่อนการประชุมในเวลา 10.00 น. ส่วนทีมโฆษกกมธ.จะแถลงผลการประชุมทุกวันในเวลา 14.00 น. และจะถ่ายทอดสดการประชุมผ่านโทรทัศน์วงจรปิดภายในตลอดเวลาที่มีการประชุม เช่นเดียวกับการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ผ่านๆ มา 


หั่นงบสำรอง-ชดเชยขรก.
      เวลา 12.00 น. พล.ต.กลชัย แถลงผลการประชุมกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า กมธ.พิจารณาปรับลดงบประมาณของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ดังนี้ กรมธนารักษ์ ตั้งไว้ 3,650,787,900 บาท ปรับลด 53,870,000 บาท กรมสรรพากร ตั้งไว้ 9,297,876,500 บาท ปรับลด 150,000,000 บาท สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(องค์การมหาชน) ตั้งไว้ 856,072,300 บาท ปรับลด 100,000,000 บาท และเงินสำรอง เงินสมทบ และเงินชดเชยของข้าราชการ ตั้งไว้ 46,611,415,900 บาท ปรับลด 1,200,000,000 บาท
    โฆษกกมธ. กล่าวว่า กมธ.ยังตั้งคณะอนุกมธ.พิจารณารายละเอียดงบประมาณเพื่อให้การพิจารณามีประสิทธิภาพ อาทิ พิจารณากรอบงบประมาณ รายการที่ควรประหยัด เช่น การเดินทางไปต่างประเทศ การจัดงานประชาสัมพันธ์ งานออร์แกไนเซอร์ รวมถึงพิจารณาในรายละเอียดตามที่ กมธ.ให้ข้อสังเกต เช่น งานก่อสร้าง การจ้างที่ปรึกษา งานในโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนต่างๆ 
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณวันนี้ กมธ.เชิญ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เข้าชี้แจงแผนการใช้งบประมาณ

ปปช.เล็งชงคดี"ปู"ให้สนช.
      ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงการแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ว่า ป.ป.ช.ยังไม่มีการพิจารณา เพราะยังไม่มีสปช. แต่สนช.นั้น ป.ป.ช. ประสานกับสภาแล้วว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ไปให้คำแนะนำสมาชิกสนช. 3 ช่วงเวลาคือ วันที่ 21-22 ส.ค., 28-29 ส.ค., 4-5 ก.ย. นี้ หากสนช. คนใดจัดทำบัญชีทรัพย์สินเสร็จเรียบร้อยแล้วสามารถยื่นต่อเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ที่ไปชี้แจงได้เช่นกัน เพราะจะครบกำหนดวันยื่นคือวันที่ 7 ก.ย.นี้ จากนั้นป.ป.ช.จะตรวจสอบเบื้องต้นและเปิดเผยบัญชีต่อสาธารณะภายใน 30 วัน ก่อนตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สินที่ยื่นมาทั้งหมด ถ้าพบว่าผิดปกติ ยื่นเท็จ ปกปิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกับส.ส.หรือส.ว. ส่วน คสช.ไม่ต้องยื่น แต่ถ้าเข้ามาเป็นครม.ก็ต้องยื่น
    นายสรรเสริญ กล่าวถึงสนช.เตรียมบรรจุวาระหารือเรื่องการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า สนช.ยังไม่ได้ประสานมาที่ป.ป.ช. ซึ่งป.ป.ช.ดูอยู่ว่าสนช.จะพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร ถ้าสนช.ระบุว่าสามารถพิจารณาเรื่องถอดถอนต่อไปได้ ป.ป.ช.จะส่งคดีถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต นายกฯ กรณีจำนำข้าวไปให้พิจารณา ขณะเดียวกัน จะพิจารณาคดีถอดถอนที่ค้างอยู่แต่ชะลอการไต่สวน ให้เดินหน้าต่อไปได้ เช่น กรณี 308 ส.ส.และส.ว. ประเด็นการเสียบบัตรแทนกันซึ่งเป็นคดีอาญา ก็ยังไต่สวนต่อไป อยู่ในขั้นสอบพยานยังไม่เสร็จ 

เชื่อคสช.ดันกม.นิรโทษกรรม 
     นายสรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนเรื่องถอดถอนที่ป.ป.ช.ส่งไปแล้วคือกรณีถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ 36 ส.ว. กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาส.ว. ต้องรอฟังว่าสนช.จะพิจารณาอย่างไร ป.ป.ช.จะก้าวล่วงไม่ได้ อยู่ที่ดุลพินิจของสนช. เราหมดหน้าที่ตั้งแต่ส่ง 2 เรื่องนี้ให้วุฒิสภาแล้ว
     นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย และคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวกับอดีตส.ส.ที่ไปพบที่ฮ่องกง ให้ถอนคดีความต่างๆ ว่า เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้สั่งการเช่นนั้น แต่เห็นด้วยกับแนวทางปรองดองและให้อภัยกับทุกสีเสื้อ ซึ่งตรงกับแนวทางของ คสช.ที่ต้องการให้เกิดความปรองดองขึ้น พร้อมฝากให้อดีตส.ส.อดทน ประพฤติตัวอยู่ในความสงบรอดูการบริหารราชการของ คสช.ในช่วงเวลาที่ระบุ ส่วนข่าวออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้นเชื่อว่า คสช.มีแนวคิดเรื่องนี้ โดยเห็นว่าได้เตรียมแยกเรื่องคดีต่างๆ เพื่อส่งให้ สนช.พิจารณาเป็นกฎหมายต่อไป เพื่อให้คู่ขัดแย้งและคดีทางการเมืองได้รับการนิรโทษกรรม ไม่ใช่เฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ

194 สนช.หนุนบิ๊กตู่นายก เททั้งสภา โหวตเปิดเผย-เริ่ม 10 โมง 10 ร่างกม.จ่อคิวต่อไป มท.คอนเฟอเรนซ์ผู้ว่า ติวสรรหาสปช.จังหวัด กทม.ผ่านงบ 6.5 หมื่นล.

 

      'บิ๊กอู๋'ยันทำเนียบเสร็จทันรับ ครม.ใหม่ บิ๊กแขก'ปัดดูฮวงจุ้ยห้องทำงานนายกฯ วิป สนช.เผยใช้ 99 เสียงเห็นชอบ กองทัพไทยส่งที่ปรึกษาฯลงสมัคร กกต.เคาะส่ง'ธีรวัฒน์-สมชัย'ลงชิง ข้าราชการ อดีตผู้ว่าฯพิษณุโลกแห่ลงสมัคร สื่อส่ง'สมหมาย-ประดิษฐ์'ลุย

@ บิ๊กอู๋ยันทำเนียบเสร็จทันครม.

      เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลเพื่อรองรับรัฐบาลชุดใหม่โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

     นัดหมายโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี วันที่ 21 สิงหาคมนี้ โดยมี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า คาดว่าจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีในสัปดาห์นี้ ส่วนเรื่องของ ครม.ก็เป็นสัปดาห์ต่อไป ทั้งตึกไทยคู่ฟ้าและทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคม สำหรับห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 นั้นก็จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคมเช่นเดียวกันเพื่อสามารถรองรับการประชุม ครม.

     พล.ต.อ.อดุลย์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ทุกอย่างเป็นไปตามแผนงาน ตั้งเป้าว่าทุกอย่างจะเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ 1 กันยายน โดยเฉพาะตึกบัญชาการ 1 หากมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้าสถานที่ต่างๆ ก็สามารถรับรองได้ทันแน่นอน ในส่วนตึกไทยคู่ฟ้าขณะนี้ก็ได้ดำเนินการไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว รอเพียงตกแต่งเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น

     เมื่อถามย้ำว่าหากมีการประชุม ครม.นัดแรก ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ก็สามารถเปิดใช้ได้เลยหรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวสั้นๆ ว่า ใช่ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน คือส่งมอบงานภายในวันที่ 1 กันยายนนี้ 

     เมื่อถามว่ามีการเตรียมสถานที่ในการเตรียมรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีไว้ที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า ทางส่วนงานที่เกี่ยวข้องก็เตรียมไว้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสะดวกของตัวนายกรัฐมนตรีว่าจะสะดวกรับสนองฯที่ใด 

@ ปนัดดาย้ำนายกฯนั่งไทยคู่ฟ้า

    ม.ล.ปนัดดากล่าวถึงความพร้อมในส่วนของทำเนียบรัฐบาลเพื่อรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากรายงานครั้งสุดท้ายงานทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลา การประชุมวันนี้ก็จะเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ต้องเป็นไปตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) กำหนดไว้ ขณะนี้สถานที่ ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี และความพร้อมทุกอย่างเป็นไปตามกรอบเวลาทาง สลน.เป็นผู้รับผิดชอบ

    เมื่อถามย้ำว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ คนที่ 29 นี้ เมื่อเข้ามารับตำแหน่งจะต้องเข้านั่งบริหารงานที่ตึกไทยคู่ฟ้าใช่หรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ?ต้องเป็นเช่นนั้นครับ?

@ บิ๊กแขกปัดดูฮวงจุ้ยห้องนายกฯ 

     พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า คสช. เปิดเผยว่า ในส่วนความพร้อมของห้องทำงานนายกรัฐมนตรีและตึกไทยคู่ฟ้านั้น ขณะนี้มีความพร้อมแล้ว มีการซักพรม ผ้าม่าน การทำความสะอาดและซ่อมแซมโต๊ะเก้าอี้ เพื่อรองรับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีคนใหม่แล้ว ส่วนที่มีข่าวว่ายังไม่มีการจัดวางโต๊ะเก้าอี้ของนายกรัฐมนตรีเพราะต้องรอให้ซินแสมาดูฮวงจุ้ยก่อนนั้น ไม่เป็นความจริง การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็เป็นไปตามความเหมาะสม และสะดวกต่อการปฏิบัติงานเท่านั้น ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่

    เมื่อถามว่าหลังจากที่ สนช.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีและมีการโปรดเกล้าฯลงมา ทำเนียบรัฐบาลจะสามารถรับรองการทำงานของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ได้ทันทีเลยหรือไม่ พล.อ.สกลกล่าวว่า คงต้องขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่าจะเข้าทำงานที่ใด แม้ตึกไทยคู่ฟ้าจะมีความพร้อม แต่ตึกและอาคารอื่นๆ รวมทั้งภูมิทัศน์ภายในทำเนียบรัฐบาลบางส่วนยังแล้วเสร็จไม่สมบูรณ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็คงพิจารณาถึงความเหมาะสมและความพร้อมก่อนว่าจะทำงานในจุดอื่นก่อนหรือไม่

    รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในส่วนการเตรียมพร้อมสถานที่เพื่อรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 คาดว่าจะใช้ห้องสีงาช้างภายในตึกไทยคู่ฟ้า หรือห้องสีเหลืองที่ตึกสันติไมตรี ขึ้นอยู่กับคณะทำงานของนายกรัฐมนตรีคนใหม่

@ วิปสนช.แจงวิธีเลือกนายกฯ 

     ที่รัฐสภา นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช.ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) แถลงภายหลังการประชุมวิป สนช.ว่า ที่ประชุมวิป สนช.มีมติให้มีการประชุม สนช.สัปดาห์ละ 2 วัน ในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ เวลา 10.00 น. โดยจะประชุมวิป สนช.ทุกวันอังคาร ส่วนวาระการประชุม สนช.ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้มีเพียงวาระเดียวคือ การให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ขั้นตอนการเลือกนายกรัฐมนตรี จะเริ่มจากการเสนอร่างข้อบังคับการประชุม เฉพาะหลักเกณฑ์เรื่องการเลือกตัวนายกรัฐมนตรีให้ที่ประชุม สนช.เห็นชอบ และเมี่อที่ประชุมให้ความเห็นชอบก็จะเลือกนายกรัฐมนตรี โดยให้สมาชิก สนช.เสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต้องมีสมาชิก สนช. 1 ใน 5 ให้การรับรอง หรือประมาณ 40 คน โดยใช้วิธีเสียบบัตรลงคะแนนในการรับรอง แทนการยกมือรับรองเหมือนที่ผ่านมา เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรับรองชื่อซ้ำซ้อนกัน หากมีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีมากกว่า 1 คน

    หลังจากที่มีการเสนอชื่อบุคคลที่มาเป็นนายกรัฐมนตรี และมีผู้รับรองครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนการคัดเลือกจะให้เลขาธิการวุฒิสภาขานรายชื่อสมาชิก สนช. เพื่อให้ลงมติโดยเปิดเผยว่า เห็นชอบ ไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง โดยผู้ที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของ สนช.ที่มีอยู่ หรือ 99 คะแนนขึ้นไป ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องประชุม ไม่จำเป็นต้องแสดงวิสัยทัศน์ เพียงแต่ผู้เสนอชื่อต้องรับผิดชอบเรื่องการตรวจสอบคุณสมบัติว่า บุคคลดังกล่าวต้องไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และต้องมีการทาบทามบุคคลดังกล่าวมาล่วงหน้าแล้ว? นพ.เจตน์กล่าว

@ เตรียมถกกม.เร่งด่วน10ฉบับ

     นพ.เจตน์ กล่าวว่า สำหรับการพิจารณากฎหมายเร่งด่วน ขณะนี้ คสช.เสนอกฎหมายให้ สนช.พิจารณา 10 ฉบับ สนช.จะพิจารณาในเบื้องต้นก่อน 6 ฉบับได้แก่ 1.ร่าง พ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย 2.ร่างพ.ร.บ.การทวงถามหนี้ 3.ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 4.ร่าง พ.ร.บ.ศุลกากร 5.ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 6.ร่าง พ.ร.บ.การกลับไปใช้สิทธิในบำเหน็จบำนาญตาม พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 โดยในการประชุมวิป สนช.วันที่ 26 สิงหาคมนี้ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงรายละเอียดของกฎหมายเหล่านี้ให้ สนช.ทราบ เพื่อสรุปนำเข้าสู่การประชุม สนช.ต่อไป

@ นพ.เจตน์ยันโหวตให้บิ๊กตู่

    นพ.เจตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุม สนช. ตามวาระการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีในวันที่ 21 สิงหาคมที่จะถึง จะโหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่ผลการโหวตจะเป็นเอกฉันท์หรือไม่ คงตอบแทนสมาชิก สนช.คนอื่นไม่ได้ ส่วนคนที่จะเป็นคนเสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ทราบ และคงไม่ใช่ตนแน่นอน แต่คิดว่าจะมีการเตรียมคนเสนอชื่ออยู่แล้ว จะมีคนรับรองไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของสมาชิกทั้งหมด และการลงคะแนนในการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีนั้น จะเป็นแบบการใช้การเรียกขานชื่อ สำหรับการประชุมเพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ คิดว่าจะเสร็จสิ้นโดยเร็ว

      พล.ร.ท.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ สมาชิก สนช. ปฏิเสธที่จะตอบว่าจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีในการประชุม สนช.ในวันดังกล่าว เนื่องจากเป็นมารยาท การจะเปิดเผยชื่อล่วงหน้าคนที่จะโหวตให้นั้น ไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก ขอยืนยันว่าทางสมาชิก สนช.ไม่ได้มีการพูดคุยกันล่วงหน้าว่าจะเลือกใครหรือจะเสนอชื่อใครขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในการประชุม สนช.อย่างแน่นอน

@ สนช.สายทหารหนุนบิ๊กตู่นายกฯ

     พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะ สนช.ให้สัมภาษณ์ถึงการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีของ สนช.ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ว่า ยังไม่แน่ชัดว่าที่ประชุมจะเสนอบุคคลใดบ้าง เชื่อว่าการลงมติของสมาชิก สนช.จะเป็นไปอย่างอิสระ ไม่มีการล็อบบี้อย่างแน่นอน เมื่อถามว่า หากมีผู้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. พล.ท.ปรีชากล่าวว่า ก็จะลงคะแนนให้ เพราะท่านเป็นคนดี มีประสบการณ์ทำงานมามากมายและมีความรับผิดชอบ เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะจะทำให้การทำงานตามโรดแมปทั้ง 3 ระยะของ คสช.มีประสิทธิภาพมากขึ้น 

     พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะ สนช. กล่าวว่า วิป สนช.เพียงแค่แจ้งมายังสมาชิก สนช.ทุกคนว่า กระบวนการการเลือกนายกรัฐมนตรีจะเป็นอย่างไร ส่วนผู้เสนอและผู้ถูกเสนอจะเป็นใครนั้นยังไม่ทราบ 

      พล.อ.นพดล อินทปัญญา อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะ สนช. กล่าวว่า มีรายชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.อยู่ในใจแล้ว เพราะมีความเหมาะสม ประเทศในสถานการณ์เฉพาะกาลแบบนี้ต้องมีผู้นำเด็ดขาด เห็นได้จากการชี้แจงประมาณประจำปี สั้น กระชับ เข้าใจได้ ส่วนใครจะเป็นผู้เสนอ ตนไม่ทราบ แต่ถ้ามีสมาชิกเสนอก็จะลงมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้ามีผู้เสนอมากกว่า 1 คนก็อยู่ที่ดุลพินิจของสมาชิกแต่ละคน เพราะเป็นการลงมติตามระบอบประชาธิปไตย

@ แย้มสนช.สายทหารดัน?บิ๊กตู่? 

      รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ คาดว่า สมาชิก สนช.จะเข้าร่วมประชุมกันครบถ้วน เนื่องจากในช่วงเช้าก่อนการประชุมมีกำหนดนัดหมายถ่ายภาพหมู่สมาชิก สนช.ทั้ง 197 คน ล่าสุดทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ยืนว่ายังไม่มีสมาชิกรายใดแจ้งว่าติดภารกิจ ส่วนกระบวนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีนั้น มีกระแสจาก สนช.สายพลเรือนว่า สนช.สายทหารระดับสูงจะเป็นผู้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ให้ที่ประชุมได้ลงมติเพียงคนเดียว เนื่องจากที่ผ่านมา สนช.ทุกคนต่างแสดงความคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนดีและมีความเหมาะสมในการบริหารประเทศมากที่สุด ดังนั้นจึงคาดหมายกันว่า พล.อ.ประยุทธ์จะได้รับมติเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 จาก สนช.ทั้งสิ้น 194 ต่อ 0 และงดออกเสียง 3 เสียงจากประธานและรองประธาน สนช.ทั้ง 2 คน ตามธรรมเนียม

@ สื่อนอกตีข่าวประยุทธ์นายกฯ

      สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มีแนวโน้มจะเป็นบุคคลเพียงคนเดียวที่จะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากการโหวตของ สนช. เป็นเรื่องยากที่จะหาคนมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียกเว้น พล.อ.ประยุทธ์ หากไม่ใช่แล้วใครจะเหมาะสม เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนยึดอำนาจ ก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเอง หากได้รับเลือกจะทำให้ พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจเต็มที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ คสช.อีกรายเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้รับการคาดหมายว่าจะถูกเลือกเนื่องจากเป็นคนที่เหมาะสมกับงาน ขณะที่ผลสำรวจระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง และประชาชนต่างก็ยกย่องการทำงานของ คสช.

@ ป.ป.ช.รอส่งคดีถอดปูให้สนช. 

     ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สนช.เตรียมบรรจุวาระเพื่อนำไปสู่การหารือเรื่องการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า เรื่องดังกล่าว สนช.ยังไม่มีการประสานงานมาที่ ป.ป.ช.แต่อย่างใด ป.ป.ช.กำลังดูอยู่ว่าใน สนช.จะพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร เพราะถ้า สนช.ระบุว่าสามารถพิจารณาเรื่องถอดถอนต่อไปได้ ทาง ป.ป.ช.ก็จะได้ส่งเรื่องคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีจำนำข้าวไปให้พิจารณา และขณะเดียวกันก็จะได้ดำเนินการเรื่องคดีถอดถอนที่ค้างการพิจารณาอยู่ใน ป.ป.ช. แต่ตอนนี้ต้องชะลอการไต่สวนอยู่ อย่างไรก็ตาม เรื่องถอดถอนที่ ป.ป.ช.ส่งไปแล้วคือ กรณีถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ และ 36 ส.ว. กรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. ต้องรอฟังว่า สนช.จะพิจารณาอย่างไร ทำได้หรือไม่ เป็นข้อกฎหมายที่ สนช.ต้องพิจารณา ป.ป.ช.จะก้าวล่วงตรงนี้ไม่ได้ ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของ สนช. ป.ป.ช. หมดหน้าที่ตั้งแต่ส่งสองเรื่องนี้ไปสู่วุฒิสภาแล้ว

@ ไต่สวนคดีเสียบบัตรแทนต่อ

     นายสรรเสริญกล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ ป.ป.ช.ค้างส่งคือกรณีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ได้ไต่สวนและมีมติไปแล้ว แต่เรื่องยังไม่ถูกส่งไปเนื่องจากมีการยึดอำนาจ ดังนั้น เรื่องนี้ ป.ป.ช.ก็จะต้องรอฟัง สนช.ว่าจะสามารถดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปได้หรือไม่ หากมีความชัดเจนว่าสามารถดำเนินการต่อไปได้เรื่องนี้ก็จะถูกส่งไปตามขั้นตอน ส่วนเรื่องที่ค้างการไต่สวนอยู่ใน ป.ป.ช.เวลานี้ที่ชะลอ ก็ยังคงชะลอไต่สวนอยู่ แต่ไม่เกี่ยวกับคดีอาญาที่ดำเนินการไต่สวนอยู่ตลอดเวลา ไม่เกี่ยวกัน เช่น กรณีที่เกี่ยวเนื่องเรื่อง 308 ส.ส. ส.ว. คือประเด็นการเสียบบัตรแทนกัน เป็นคดีอาญา ยังดำเนินการไต่สวนต่อไป อยู่ในขั้นสอบพยาน ยังไม่แล้วเสร็จ 

    อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีถอดถอนที่ค้างการไต่สวนของ ป.ป.ช.จะดำเนินการได้ต่อก็ต่อเมื่อมีความชัดเจนจาก สนช.ว่ามีความเห็นต่อเรื่องการถอดถอนนี้อย่างไร แล้วทางสำนักเลขาฯป.ป.ช.จะได้นำเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้พิจารณาอีกครั้งว่าจะสามารถพิจารณาต่อไปได้หรือไม่อย่างไร

@ ส่งจนท.ติวสนช.แจงทรัพย์สิน 

     นายสรรเสริญกล่าวถึงกรณีการแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า สำหรับของ สปช.นั้นยังไม่ได้พิจารณาว่า ป.ป.ช.จะมีความเห็นอย่างไร เพราะยังไม่มี สปช. แต่สำหรับการแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ สนช.นั้น ป.ป.ช.ได้รับการประสานจากสภาแล้วว่า ป.ป.ช.จะไปให้ความรู้ คำแนะนำเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สิน จะส่งเจ้าหน้าที่ไปที่สภา 3 ช่วงเวลาด้วยกันคือ วันที่ 21-22 สิงหาคม วันที่ 28-29 สิงหาคม และวันที่ 4-5 กันยายน เพื่อให้คำแนะนำและหาก สนช.คนใดจัดทำบัญชีทรัพย์สินเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถยื่นต่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ที่เดินทางไปได้เช่นกัน เพราะจะครบกำหนดวันยื่นคือวันที่ 7 กันยายน 

     นายสรรเสริญกล่าวว่า หลังจากนั้น ป.ป.ช.จะตรวจสอบเบื้องต้นและต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อสาธารณะภายใน 30 วัน ที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำ จากนั้นเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจสอบทรัพย์สินฯของ ป.ป.ช.จะตรวจสอบความมีอยู่จริงของทรัพย์สินฯที่ยื่นมาทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้มอบนโยบายพิเศษใด เพราะเป็นหน้าที่วิธีปฏิบัติตามปกติอยู่แล้ว มีกฎหมาย ป.ป.ช.รองรับ และหากตรวจสอบพบความผิดปกติ ก็จะเหมือนทุกครั้งคือถ้าพบว่าผิดปกติ ยื่นเท็จ ปกปิด ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกับ ส.ส.หรือ ส.ว.ที่ผ่านๆ มา เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบของ ป.ป.ช. เช่นเดียวกับนายกฯและ ครม.ด้วยเช่นกัน 

    เมื่อถามย้ำว่า สำหรับ คสช.จะต้องยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า คสช.ไม่ต้องยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่ถ้าเข้ามาเป็น ครม.ก็ต้องยื่น

@ ทนายเผยปูไม่กังวลสู้คดีข้าว 

    นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวอย่างต่อเนื่อง ว่า ไม่อยากไปตอบโต้อะไรมากและมองว่าเรื่องที่ นพ.วรงค์พูด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเมืองมากกว่า อาจทำเพื่อลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ และเป็นการชี้นำสังคมให้หลงเชื่อตามคำพูด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมจะไม่เชื่อในคำพูดของ นพ.วรงค์ แต่จะเชื่อจากพยานหลักฐานมากกว่า วันนี้ก็เห็นอยู่แล้วว่าหลายอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่ นพ.วรงค์พูดไว้ อาทิ การตรวจสอบข้าวของ คสช.ก็พบว่า ข้าวไม่ได้หายหรือเน่าเป็นจำนวนมากอย่างที่ นพ.วรงค์พูด และเมื่อ คสช.เข้ามาบริหารประเทศก็สามารถจ่ายเงินที่เหลือให้แก่ชาวนาได้ ทำให้จีดีพีโตขึ้น เงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้กังวลอะไร และขอให้ว่าไปตามข้อเท็จจริง เพราะมีความสุจริตใจอยู่แล้ว อีกทั้งนโยบายรับจำนำข้าวไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อทำทุจริต แต่เป็นนโยบายที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวนา และมองว่าขณะนี้สิ่งไหนทำได้ก็ทำ สิ่งไหนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ใช้สิทธิต่อสู้เต็มที่ ส่วนเรื่องความยุติธรรมไม่ขอพูดอะไรมาก แต่เชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการต่อสู้

@ กกต.คอนเฟอเรนซ์คัดสปช.

     ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดรับเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จำนวน 11 ด้าน วันนี้เปิดให้องค์กรนิติบุคคลได้เสนอชื่อเป็นวันที่ 7 ช่วงเช้ายังคงมีองค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไรทยอยเข้าเสนอรายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมเข้าสรรหาเป็น สปช.กันอย่างต่อเนื่อง

    ทั้งนี้ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยของการเปิดรับเสนอชื่อ พร้อมระบุว่า ทาง คสช.ได้มอบหมายให้ทางฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการสรรหา สปช.ประสานงานขอความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย จัดประชุมระบบทางไกลผ่านดาวเทียม (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) ร่วมกับคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัด จำนวน 77 จังหวัด ในวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม เวลา 10.00 น. เพื่อหารือทำความเข้าใจในกระบวนการสรรหา สปช.และดำเนินการไปด้วยความเสมอภาคถูกต้องตามกฎหมายให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด หลังเกิดกระแสข่าวว่าการสรรหาในบางจังหวัดมีการบล็อกโหวตบุคคลเพื่อเข้าเป็นสปช. เชื่อว่าคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัดทุกคนจะปฏิบัติหน้าที่ไปตามระเบียบของกฎหมาย แต่หากผู้ใดพบว่ามีการสรรหาไม่เป็นธรรมก็สามารถยื่นเรื่องร้องเรียนมาที่สำนักงานกกต.ได้ 

    นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับ กกต. จัดการประชุมชี้แจงเรื่องการสรรหา สปช. วันที่ 21 สิงหาคม ที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อชี้แจงแนวทางกระบวนการสรรหาสมาชิก สปช.ระดับจังหวัด ตามนโยบายของ คสช.

@ ชัยอนันต์-อดีตผู้ว่าฯลงสมัคร

   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับยอดผู้เข้ารับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ตั้งแต่วันที่ 7 แบ่งเป็นยื่นที่สำนักงาน กกต.โดยตรง 57 คน ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ 12 คน ส่วนการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหาต่อคณะกรรมการสรรหาประจำจังหวัด 185 คน รวมทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัด 254 คน เมื่อรวมทั่วประเทศตลอด 7 วันมีเสนอชื่อเข้ามา 259 คน ส่วนจังหวัด 740 คน รวมทั้งส่วนกลางและส่วนจังหวัด 999 คน 

    มีบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ มูลนิธิส่งเสริมนโยบายการศึกษา เสนอชื่อนายชัยอนันต์ สมุทวณิช อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีสมัยพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เข้ารับการสรรหาด้านการเมือง กรมที่ดินเสนอชื่อนายพิพัฒน์ วงศาโรจน์ อดีตผู้ว่าฯพิษณุโลก และอดีตประธานกรรมการการเลือกตั้ง จ.พิษณุโลก เข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ด้านการปกครองท้องถิ่น 

     ส่วนสมาคมส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค เสนอชื่อนายพานิชย์ เจริญเผ่า อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปี 2534 และอดีต ส.ว.ปี 2535 เข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ด้านเศรษฐกิจ 

     สมาคมนักเรียนเก่าเนเธอร์แลนด์ เสนอชื่อนายสุเมธ ชัยเลิศวณิชกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ด้านเศรษฐกิจ สมาคมพัฒนาเศรษฐกิจไทย-จีน-ตงเหม็ง เสนอชื่อนายชัยพร ธนถาวรลาภ เข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ด้านเศรษฐกิจ วัดเกาะสุวรรณาราม เสนอชื่อนายรักเกียรติ จาริก เข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ด้านเศรษฐกิจ ขณะที่กองบัญชาการกองทัพไทย โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เสนอชื่อ พล.อ.สุภกิจ นุตสถิตย์ ที่ปรึกษาพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย เข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ด้านสื่อมวลชน และสมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์วิทยุและโทรทัศน์ จ.สกลนคร เสนอชื่อนายบัญญัติ ทอนฮามแก้ว เข้ารับการสรรหาด้านสื่อมวลชนเช่นกัน สมาคมวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย เสนอชื่อ นายประเสริฐ ตปนียางกูร เข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม

@ วิริยะ-สันติภาพร่วมชิงสปช.

     ผู้สื่อข่าวสำหรับรายชื่อองค์กรที่เสนอบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. อาทิ สมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน เสนอชื่อ นายจุมพล รอดคำดี อดีตคณบดีคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ารับการสรรหาด้านสื่อสารมวลชน มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ เสนอชื่อนายวิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าสรรหาด้านสังคม มูลนิธิเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย พล.อ.จรัล กุลละวณิชย์ เสนอชื่อนายสันติภาพ เตชะวณิช อดีตผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้าสรรหาในด้านอื่น องค์การบริหารส่วนตำบลโนนโหนน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เสนอชื่อนายวิชัย ครองยุติ อดีต ส.ว. พี่เขยของนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ารับการสรรหาด้านการปกครองท้องถิ่น 

@ ผู้ทรงคุณวุฒิทบ.ลงด้านอื่นๆ 

     พล.ท.สมโภชน์ เงินเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ได้เดินทางมายังสำนักงานกกต. ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นเอกสารเข้ารับการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) หลังจากคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสมุทรปราการ เสนอชื่อให้เข้าสรรหาเป็น สปช.ด้านอื่นๆ พร้อมระบุว่า การเข้าร่วมรับสรรหา สปช.ในด้านอื่นๆ เพราะต้องการเข้าไปแก้ไขมิติด้านอิสลามศึกษา ปัจจุบันยังไม่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษา ส่งผลให้เกิดช่องว่างของเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัด ถ้าจะแก้ปัญหาจะต้องปฏิรูประบบศึกษาในพื้นที่ ไม่อย่างนั้นประเทศไทยจะต้องเผชิญปัญหานี้ไปอีก 10-30 ปี กลยุทธ์ที่ใช้แก้ปัญหาในปัจจุบันเป็นเพียงปลายเหตุ แต่ต้นเหตุตั้งแต่การวางรากฐานการศึกษาไทยยังไม่ได้ทำ กระบวนการปฏิรูปต้องเริ่มจากรัฐบาลไปสู่ท้องถิ่น เพราะหากรอให้ท้องถิ่นสะท้อนปัญหาขึ้นมา ต้องผ่านกลไกของระบบราชการซับซ้อน ส่งผลให้กระบวนการล่าช้า ติดขัด และขาดประสิทธิภาพ ยืนยันว่าการเข้ารับสรรหา สปช.ไม่มีการทาบทามจากบุคคลในกองทัพแต่อย่างใด เป็นความประสงค์ส่วนตัวต้องการแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ 3 จังหวัด เนื่องจากมีประสบการณ์และทำงานในพื้นที่นานกว่า 30 ปี จึงคิดว่าน่าจะมีส่วนช่วยในการปฏิรูปประเทศได้มาก

@ กกต.เคาะส่ง2คนนั่งสมัครสปช. 

     นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเห็นชอบเสนอนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ เข้าสู่กระบวนการสรรหาเป็นสมาชิก สปช.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และเสนอชื่อนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เข้าสู่กระบวนการสรรหา สปช.ด้านการเมือง ส่วนนายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม และนายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ได้ขอสละสิทธิเนื่องจากมีภารกิจที่ต้องดำเนินการที่สำนักงาน กกต.จึงเกรงว่าหากได้รับการคัดเลือกเป็น สปช.จะไม่มีเวลาไปเข้าร่วมประชุมได้ 

@ ประวิชสละสิทธิ์เลี่ยงโหวต 

    รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการประชุม กกต.เพื่อพิจารณาเสนอชื่อบุคคลเหมาะสมเข้าสู่กระบวนการสรรหาเป็น สปช.นั้นเป็นการประชุมลับมีเพียง กกต.แค่ 5 คนเท่านั้นที่เข้าร่วมประชุม เมื่อเริ่มประชุมปรากฏว่าในจำนวน กกต. 5 คนนั้นมี กกต.อยู่ 3 คน ที่แสดงความจำนงที่จะเข้าสู่กระบวนการสรรหาเป็น สปช.แต่ตาม พ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหา สปช.กำหนดให้องค์กรนิติบุคคลสามารถเสนอชื่อได้ไม่เกิน 2 คนเท่านั้น จึงทำให้การประชุมของ กกต.ครั้งนี้ต้องโหวตเลือกผู้เหมาะสมจาก 3 คนให้เหลือเพียง 2 คน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นายประวิชกล่าวในที่ประชุม กกต.ว่า ?กกต.ทั้ง 5 คนได้อยู่ร่วมทำงานกันมานานถึง 6 เดือน แบบสามัคคีปรองดองและสมานฉันท์มาโดยตลอด หากต้องโหวตเลือกคนใดคนหนึ่งออก อาจส่งผลเสียต่อสายตาของบุคคลภายนอกเกี่ยวกับความเป็นเอกภาพของ กกต.ทั้ง 5 คนได้ 

     ดังนั้น ก็ไม่ต้องมีการโหวตเลือกใครทั้งนั้น ผมขอเป็นคนเสียสละด้วยการสละสิทธิการเข้าสู่กระบวนการสรรหา สปช.ในครั้งนี้เอง ประกอบกับผมต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่งานด้านกิจการการมีส่วนร่วมที่กำลังเริ่มดำเนินการขึ้นต่อจากนี้ โดยเฉพาะศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยและหน้าที่พลเมือง ดังนั้น จึงขออยู่ปรับปรุงงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นและเชื่อว่าการรุกงานด้านกิจการการมีส่วนร่วมก็ถือเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถทำควบคู่ไปกับการปฏิรูปประเทศของ คสช.ได้ 

@ ป.ป.ท.ส่งเลขาฯ-อดีตเลขาร่วม

     รายงานข่าวจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.กพ.) ป.ป.ท.ได้เสนอให้ส่งชื่อ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ป.ป.ท. และนายภิญโญ ทองชัย อดีตเลขาธิการ ป.ป.ท. สมัครเป็นสมาชิก สปช. เพื่อร่วมทำงานในด้านการตรวจสอบและป้องปรามการทุจริต

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภิญโญ เป็นอดีตเลขาธิการ ป.ป.ท.และเคยร่วมร่างยุทธศาสตร์ของ ป.ป.ท.ในช่วงก่อตั้งสำนักงาน ป.ป.ท. และในช่วงที่ กปปส.ชุมนุมทางการเมือง ได้เข้าไปร่วมการชุมนุม และนำเสนอในการปฏิรูปของ กปปส.มาโดยตลอด

@ หอการค้าส่ง2ผู้แทนร่วมชิง 

     นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานคณะกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจะส่งผู้เชี่ยวชาญของหอการค้า 4 รายเข้ารับการคัดเลือก แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อเพราะอาจมองเป็นการชี้นำ ตัวแทนจากหอค้า เป็นผู้มีความรู้ครอบคลุมด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน กฎหมาย การเกษตร และพลังงาน

     แหล่งข่าวจากหอการค้าไทย กล่าวว่า ผู้ที่หอการค้าไทยจะส่งเป็นตัวแทน ได้แก่ นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานหอการค้าไทย และนายชิงชัย หาญเจนลักษณ์ กรรมการหอการค้าไทย ส่วนอีก 2 คนยังอยู่ระหว่างพิจารณา

@ องค์กรสื่อส่ง4ชื่อลุ้นเก้าอี้

    นายมานพ ทิพย์โอสถ โฆษกและอุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหาร สมาคมนักข่าวว่า ที่ประชุมมีมติเสนอชื่อ นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมนักข่าวฯ และนายสุรศักดิ์ จิรวัสตร์มงคล อุปนายกฝ่ายวิชาการ เข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิก สปช. สายสื่อมวลชน

    วันเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย มีมติเสนอชื่อ นายสมหมาย ปาริจฉัตต์ อดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย และนายจักรกฤษณ์ เพิ่มพูล ประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ด้านสื่อมวลชน ในส่วนของสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้มีมติให้เสนอชื่อ นายวิสุทธิ์ คมวัชรพงศ์ นายกสมาคม เข้าไปรับการสรรหาเป็น สปช.ด้านสื่อมวลชนเช่นกัน

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ในส่วนของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จะมีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อสนับสนุนและติดตามการทำงานของสื่อมวลชน ที่ได้รับการสรรหาเป็น สปช.ต่อไป และจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนทุกแขนง และประชาชนทุกภาคส่วนทั่วไป ร่วมแสดงความเห็นเรื่องการปฏิรูปสื่อ ไม่ว่าผู้แทนจากสมาคมนักข่าวฯ จะได้รับการสรรหาหรือไม่ก็ตาม และสมาคมนักข่าวฯ พร้อมรับฟังความคิดเห็นและรับทราบถึงข้อห่วงใยและความกังวล ของเพื่อนผู้ร่วมประกอบวิชาชีพต่อสถานการณ์ดังกล่าว

@ ขรก.แห่สมัครสปช.สงขลา

    นายอานนท์ มนัสวานิช ประธาน กกต.ในฐานะกรรมการสรรหาสมาชิก สปช.จ.สงขลา กล่าวว่า มีผู้มายื่นความประสงค์เสนอตัวเข้ารับการสรรหา สปช.จ.สงขลา ในวันที่ 19 สิงหาคมแล้ว 24 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพข้าราชการและอดีตข้าราชการมากกว่าเอกชน มีทั้งสังกัดกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการสูง คาดว่าวันที่ 20 สิงหาคมนี้วันสุดท้ายจะมีผู้ยื่นความประสงค์ด้วยตนเองและจากที่กรรมการทาบทามไว้ไม่น้อยกว่า 40 คน

   นางพะเยีย เจริญเนตรกุล รองผู้อำนวยการ กกต.จ.สงขลา กล่าวว่า บุคคลที่เข้ารับการคัดเลือก สปช.จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 14-20 สิงหาคม มี 28 คน