วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8666 ข่าวสดรายวัน


โต้นิรโทษฯทักษิณ บิ๊กต๊อก โวยดิสเครดิตคสช.
โหวตแน่ 21 สค. ประยุทธ์นายกฯ มีชื่อ 'จักรมณฑ์' คุมกระทรวงอุต บิ๊กป้อมจี้เคลียร์ ล็อกสเป๊ก'สปช.'


ดอกไม้บิ๊กตู่ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. มอบหมายตัวแทนนำดอกไม้ มาร่วมอวยพรนายบรรหาร ศิลปอาชา เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 82 ปี ที่บ้านพักจรัญสนิทวงศ์ 

     นัด 21 ส.ค. โหวตนายกฯ ใช้วิธีขานชื่อสนช.รายคน 'บิ๊กตู่'จ่อนายกฯ เต็มตัว โผรมต.'จักรมณฑ์'นั่งรมว.อุตฯ 'ไพบูลย์'โต้ลั่น ไม่เคยพูดนิรโทษแม้ว จวกดิสเครดิตคสช. 'บิ๊กป้อม"เร่งเคลียร์ปมล็อกสเป๊กสปช. กกต.เผยสมัคร 6 วัน รวม 736 คน ประยุทธ์ส่งดอกไม้อวยพรเติ้ง ด้านบรรหารชื่นชมคสช.ทำงานใช้ได้ 'แซม'เฮ ศาลยกคดีป.ป.ช.ชี้ซุกหุ้น ให้ประกันปธ.สภากทม.แล้ว

นัด 21 ส.ค.-โหวตเลือกนายกฯ

     เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้บรรจุวาระการเลือกนายกรัฐมนตรี ในการประชุมสนช. วันที่ 21 ส.ค.นี้ โดยกระบวนการโหวตเลือกนายกฯ จะดำเนินการตามหลักเกณฑ์และกฎหมายตามที่ที่ประชุมจะให้ความเห็นชอบ ส่วนที่ภาคสังคมทักท้วงคุณสมบัติความเหมาะสมที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ควบคู่หัวหน้า คสช.นั้น เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับตน เพราะเป็นเพียงผู้กำหนดวาระการประชุม จึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นและไม่กังวลกับเรื่องนี้ 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสนช.ระบุว่าออกหนังสือด่วนมากที่ สว (สนช) 0007/(น 6) ถึงสมาชิกสนช. เรื่องการประชุมสนช. เนื่องด้วยประธาน สนช. มีคำสั่งให้นัดประชุม สนช.ครั้งที่ 3/2557 ในวันที่ 21 ส.ค. เวลา 10.00 น. ที่ตึกรัฐสภา มีระเบียบวาระการประชุม เรื่องด่วนคือ พิจารณาผู้สมควรได้รับความเห็นชอบจากสนช.ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามมาตรา 19 วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557

คาดใช้ขานชื่อสนช.ทีละคน

       นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. คนที่สอง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิ การ(กมธ.) วิสามัญยกร่างข้อบังคับการประชุม สนช. กล่าวถึงการพิจารณาร่างข้อบังคับว่า ภาพรวมเสร็จไปกว่าร้อยละ 90 เชื่อว่าจะเสร็จก่อน 15 วันตามที่กำหนดไว้ ส่วนการเลือกนายกฯ ตามวาระการประชุมใน วันที่ 21 ส.ค. ประธานในที่ประชุมจะเป็น ผู้ใช้อำนาจ กำหนดวิธีการเลือกนายกฯ โดยจะยึดตามจารีตประเพณีการเลือกนายกฯ เหมือนของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะให้สมาชิกเสนอชื่อและมีผู้รับรอง ส่วนการลงคะแนนจะทำโดยเปิดเผย และต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ แม้สมาชิกจะเสนอชื่อเพียงคนเดียวก็ตาม เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 19 ระบุว่า นายกฯ ต้องได้มาจากมติของที่ประชุม สนช. 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ตามประเพณีการโหวตเลือกนายกฯ ของสภาผู้แทนราษฎร ที่ผ่านมาจะใช้วิธีการขานชื่อทีละคน นอกจากนี้กมธ.วิสามัญยกร่างข้อบังคับยังหารือถึงการจัดตั้งวิปสนช.ถาวร โดยพิจารณาว่าจะเปิดให้มีตัวแทนของรัฐบาลเข้ามาร่วมเป็นวิป สนช.กี่คน เพื่อประสานการทำงานระหว่างกัน และยังหารือถึงการถอดถอนทั้งบุคคลภายในที่เป็นสมาชิก สนช. ที่อาจทำผิดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว รวมถึงบุคคลภายนอก ที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและส่งมาวุฒิสภาพิจารณาถอดถอน ซึ่งในส่วนนี้ที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุป โดยจะหารือกันก่อนว่าจำเป็นจะต้องมีข้อบังคับการประชุมว่าด้วยการถอดถอนหรือไม่ ส่วนการนัดประชุมของคณะกมธ.ร่างฯ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

วางมาตรการรปภ.เข้ม

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.กองบัญชาการศึกษา ปฏิบัติราชการรองผบช.น. เป็นประธานประชุมเกี่ยวกับความมั่นคง โดยมีตัวแทนตำรวจ ทหาร สำนักรักษาความปลอดภัยของรัฐสภา และกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อเตรียมแผนมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมและความพร้อมของหน่วยปฏิบัติ

พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ตามที่จะประชุมสนช. วันที่ 21 ส.ค. เพื่อให้ความเห็นชอบเลือกนายกฯ รวมถึงการรักษาความปลอดภัยระหว่างการประชุมสนช.และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งมีสัดส่วนสมาชิกมาจาก ภาคการเมืองด้วย จึงกังวลว่าอาจเกิดการชุมนุมขึ้น จึงต้องเร่งวางมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่สมาชิกและสถานที่ ไม่ให้มีการสร้างความวุ่นวาย มีผู้โปรยใบปลิวหน้าศาลปกครองและศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะที่ผ่านมา เบื้องต้นภายนอกรัฐสภา จะจัดกำลังตำรวจและทหารดูแลสถานการณ์ตามลำดับขั้น หากสถานการณ์รุนแรงจะใช้กำลังสำรองเข้าช่วยทันที ซึ่งเตรียมพร้อมอยู่ที่สวนสัตว์ดุสิต โดยเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติคู่ขนานกับการประชุมจนสิ้นสุด พร้อมตั้งด่านตรวจหน้ารัฐสภา ตั้งแต่เวลา 02.00-05.00 น. เพื่อเฝ้าระวัง ขณะที่ภายในรัฐสภา เป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาดูแล ให้กทม.เพิ่มกล้องวงจรปิดโดยรอบรัฐสภา พร้อมเตรียมแผนอพยพหากเกิดความวุ่นวายไปในจุดที่ปลอดภัย

ทำเนียบเร่งซ่อมห้องนายกฯ

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า ความคืบหน้าการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลและบ้านพิษณุโลก เพื่อรองรับการทำงานรัฐบาลชุดใหม่นั้น คืบหน้าไปมาก เจ้าหน้าที่กรมยุทธโยธาทหารบก กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมศิลปากร กทม.ได้ระดมเจ้าหน้าที่ คนงานเร่งปรับปรุงภูมิทัศน์และบูรณะตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมีความคืบหน้ามากสุด ภายในตึกเสร็จกว่าร้อยละ 90 เหลือแค่การทาสีภายในนอกตึกเท่านั้น

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า โดยตึกไทยคู่ฟ้าซึ่งใช้เป็นห้องทำงานนายกฯนั้น มีกำหนดให้เสร็จในวันที่ 20 ส.ค. อย่างช้าที่สุดไม่เกินวันที่ 25 ส.ค. ส่วนห้องทำงานนายกฯที่อยู่ชั้น 2 นั้น ปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการเปลี่ยนเก้าอี้นายกฯใหม่ แต่ยังไม่ได้นำเข้ามา ส่วนโต๊ะทำงานยังใช้โต๊ะเดิมที่ใช้มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และมีการเปลี่ยนสุขภัณฑ์ใหม่หมด โดยใช้สุขภัณฑ์สีขาวและติดตั้งโถสุขภัณฑ์ชายเพิ่ม จากเดิมถอดออกไปในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะที่พรม ผ้าม่าน แชนเดอเลียร์ได้ใช้ของเดิมทั้งหมด โดยใช้วิธีซัก ล้างและซ่อมท่อน้ำที่ตรวจเช็กมีจุดรั่วหลายจุดเรียบร้อยหมดแล้ว

คสช.รอซินแสวางฮวงจุ้ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมงานคสช.ได้เข้ามาตรวจดูความพร้อมห้องต่างๆ ภายในตึกไทยคู่ฟ้าแล้ว ทั้งห้องทำงานนายกฯ ห้องรับรอง ห้องอาหาร และห้องทีมงานรักษาความปลอดภัย มีการตรวจเช็กระบบตัดสัญญาณป้องกันการดักฟัง ขณะที่ห้องทำงานนายกฯนั้น ทีมงานคสช.สั่งให้เจ้าหน้าที่ปิดล็อกห้องไม่ให้คนภายนอกเข้า แจ้งว่ารอซินแสจากทางคสช.เข้ามาดูฮวงจุ้ยวางทิศทางโต๊ะทำงาน ซึ่งทางกองพิธีการและกองสถานที่และยานพาหนะ สำนักเลขาธิการนายกฯแจ้งว่ารอการประสานจากคสช.ในวันที่ซินแสจะเข้ามาดู ก่อนที่นายกฯจะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาล ส่วนห้องทำงานของรองนายกฯ รมต.ประจำสำนัก นายกฯ ในชั้นอื่นๆ ในตึกบัญชาการ 1 ไม่มีการปรับปรุง จะปรับปรุงเฉพาะทางเดินระหว่างห้องเปลี่ยนเป็นพื้นไม้แผ่นเดียว จากเดิมเป็นพื้นไม้หลายแผ่น ส่วนห้องโถงชั้น 1 เปลี่ยนจากกระเบื้องเป็นหินแกรนิต

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับตึกนารีสโมสร ที่ปรับปรุงจากศูนย์แถลงข่าวเป็นเรือนรับรองแขกนายกฯ รองนายกฯ มีความคืบหน้าไปมากเช่นกัน กำหนดเสร็จภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ ส่วนตึกบัญชาการ 1 คนงานได้เร่งปรับปรุงโดยเฉพาะชั้น 5 ที่จะใช้เป็นห้องประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) จากเดิมใช้ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) เป็นที่ประชุม เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดระบบเครื่องเสียง เปลี่ยนเก้าอี้ พรม แอร์ ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และตรวจเช็กเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อป้องกันการดักฟัง นอกจากนั้นตึกบัญชาการ 2 ที่ปรับปรุงเป็นห้องทำงานของทีมงานโฆษกประจำสำนักนายกฯ และใช้เป็นศูนย์แถลงข่าวนั้น หัวหน้าคุมงานระบุอาจจะเสร็จล่าช้า เนื่องจากมีสภาพทรุดโทรมมาก ส่วนบ้านพิษณุโลก เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้ปรับปรุงอาคารหลังต่างๆ แล้ว ส่วนสวนหย่อม คนงานบริษัทสวนนงนุชได้เข้าปรับ ปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการปรับปรุงทั้งหมด ได้รับการยืนยันว่าแล้วเสร็จตามกำหนดอย่างแน่นอนภายในวันที่ 15 ก.ย.

หึ่ง"จักรมณฑ์"นั่งรมว.อุตฯ

สำหรับความคืบหน้าการจัดโผครม. ล่าสุด มีชื่อ นายจักรมณฑ์ ผาสุกวณิช อดีตเลขาธิการบีโอไอ นั่งเป็นรมว.อุตสาหกรรม 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกระแสข่าวว่า คสช.เตรียมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายข้าราช การระดับสูงกระทรวงมหาดไทย โดยจะย้ายนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปประจำที่สำนักนายกฯ และย้ายนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) มารับตำแหน่งแทน และโยกนายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง ไปทำหน้าที่เลขาธิการศอ.บต.แทนนั้น ปรากฏว่านายวิบูลย์ ซึ่งมีภารกิจประชุมหารือข้อราชการร่วมกับผู้บริหารระดับสูงที่กระทรวงมหาด ไทยในช่วงเช้า ได้มาร่วมประชุมในช่วงสั้นๆ ก่อนออกไปประชุมกับคสช. ที่กองบัญชา การกองทัพบก (บก.ทบ.) เพื่อชี้แจงนโยบายด้านการกำจัดขยะ โดยมอบให้นายประภาศ บุญยินดี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่ประธานการประชุมมอบนโยบายตรวจและติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแทน 

บิ๊กมท.ปัด-ไม่มีสัญญาณโยกย้าย

นายวิบูลย์กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง ไม่รู้ว่าข่าวนี้มาอย่างไร เมื่อเช้าได้ประชุมร่วมกับคสช.หารือเรื่องนโยบาย การกำจัดขยะ ก็ไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ มาจาก คสช. ตนขอทำหน้าที่ตามนโยบาย คสช.ไปตามปกติ

ด้านนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศอ.บต. กล่าวว่า ไม่ทราบ โดยเฉพาะการเปลี่ยนตัวปลัดกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในจ.ยะลาตามปกติ 

นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า ขณะนี้คสช.ยังไม่ได้ส่งสัญญาณมา ซึ่งการทำงานที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ทางภาคใต้มาเป็น 8 ปีแล้ว และเพิ่งได้ย้ายมาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง ส่วนตัวไม่ได้คาดหวังอะไร และไม่ได้ร้องขอหรือพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับหัวหน้า คสช. อยู่แล้ว

บิ๊กตู่ขอบคุณพรบ.งบฯผ่านฉลุย

ที่บก.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมคสช.ชุดใหญ่ครั้งที่ 11 มีพล.อ. สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายความมั่นคง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายสังคมและจิตวิทยา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 

ก่อนประชุม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณทุกส่วนงานที่ทำให้การพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ผ่านวาระแรกด้วยความเรียบร้อย พร้อมย้ำสำนักงบประมาณและทุกส่วนงานในคสช. มีแผนตรวจสอบการใช้งบและติดตามรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อความโปร่งใสและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

บิ๊กต๊อกโต้ลั่นไม่เคยพูดนิรโทษ

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกระบวนการสรรหาสปช.ว่า ขอให้คัดสรรบุคคลที่มีคุณสมบัติตรงกับแต่ละส่วนงานที่จะปฏิรูป เร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีความรู้ความสามารถมาสมัคร ให้ได้ผู้มีคุณสมบัติตรงกับส่วนงานที่ต้องการปฏิรูปประเทศมากที่สุด ขอให้ส่วนงานฝ่ายสังคมเตรียมพร้อมเสนอเรื่องต่างๆ เช่น กฎหมายและโครงสร้างเพื่อเสนอต่อสภาปฏิรูปฯทันทีที่มีการคัดเลือก สปช.เสร็จสิ้นในเดือนก.ย. 

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. กล่าวยืนยันในที่ประชุมถึงกระแสข่าวคสช.เตรียมพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรมให้พ.ต.ท.ทักษิณว่า คสช.ไม่มีแนวคิดนี้แน่นอน และตนไม่เคยให้ข่าวด้วย ผู้ปล่อยข่าวน่าจะประสงค์ให้เกิดความเสียหายต่อ คสช.

ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ น.ส.ปถมา ภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษกคสช. แถลงถึงการรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นสปช.ว่า ข่าวการล็อกสเป๊กตัวบุคคลในการสรรหาระดับจังหวัดนั้น หัวหน้าคสช.ให้ความสำคัญเรื่องกระบวนการสรรหา ต้องโปร่งใสให้มากที่สุดและต้องไม่มีเรื่องสเป๊ก ส่วนเรื่องการล็อกสเป๊กที่สังคมกังวลนั้น เรามีกระบวนการตรวจสอบในขั้นตอนของจังหวัดอยู่แล้ว หากจังหวัดใดมีการล็อกสเป๊ก ประชาชนสามารถร้องเรียนตามขั้นตอนได้

สั่งเร่งเคลียร์ปมล็อกสเป๊ก

ที่กองพันทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาคสช. เป็นประธานประชุมคณะที่ปรึกษาคสช. ซึ่งมีตำแหน่งในกรรมการสรรหา สปช. ในด้านต่างๆ และผู้เกี่ยวข้อง โดยมีนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งเป็นการพูดคุยภายใน ไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปสังเกตการณ์ คาดว่าจะหยิบยกเรื่องหลักเกณฑ์การสรรหาสมาชิกสปช. รวมถึงตัวบุคคลที่สมัครเข้ารับการสรรหา แจ้งให้คณะที่ปรึกษาคสช. ทราบความคืบหน้า

ที่สำนักงานกกต. นายภุชงค์ แถลงหลังนำเจ้าหน้าที่กกต. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาสปช. เข้ารายงานผลการรับการเสนอชื่อสปช.ตั้งเปิดรับเสนอชื่อเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ต่อคณะที่ปรึกษาคสช. ที่มีพล.อ.ประวิตร เป็นประธานว่า ได้รายงานความคืบหน้าทั้งในส่วนกลางและระดับจังหวัดว่า 5 วันมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อ 484 คน ซึ่งคณะที่ปรึกษาพอใจและแสดงความห่วงใยกรณีมีข่าวคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดล็อกตัวผู้ที่จะเป็นสปช.ไว้แล้ว โดยขอให้กกต.มีหนังสือแจ้งผอ.กต.จว. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหาเพื่อแจ้งต่อประธานคณะกรรมการให้ดำเนินการอย่างถูกต้อง เป็นธรรม ให้ได้บุคคลที่มีความหลากหลาย ทุกเพศ ทุกวัยตามพระราชกฤษฎีกา โดยให้จังหวัดเปิดให้บุคคลเข้าเสนอชื่อตนเองเป็นสปช. ซึ่งเป็นการแก้ปัญหา ไม่ใช่การลดแรงเสียดทานจากสังคม

มีผู้สมัครสปช.แล้ว 736 คน

จากนั้นเวลา 17.00 น. นายภุชงค์แถลงสรุปยอดการเปิดรับเสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. วันที่หกว่า ตลอดทั้งวันมีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ในส่วนของสำนักงาน กกต.กลาง 11 ด้านรวม 63 คน โดยเป็นองค์กรนิติบุคคลยื่นเอง 42 คน และส่งเอกสารทางไปรษณีย์ 21 คน ส่วนที่เข้าเสนอชื่อต่อคณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดมี 188 คน รวมวันนี้ทั่วประเทศมีผู้เสนอชื่อ 251 คน สรุป 6 วัน มีองค์กรนิติบุคคลที่เสนอชื่อ 189 คน สมัครทางจังหวัด 547 คน รวม 736 คน ถือเป็นยอดที่สูงที่สุดนับแต่เปิดรับการเสนอชื่อ และคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ยอดรับการเสนอน่าจะเกิน 1 พันคนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ในการประชุมกกต. วันที่ 20 ส.ค. เวลา 13.00 น. ที่ประชุมจะคัดเลือกบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. 2 คนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้ารับการเสนอชื่อเป็น สปช.ขององค์กรนิติบุคคลในวันนี้ มีบุคคลที่เป็นที่สนใจได้รับการเสนอชื่อ อาทิ สมาคมชาวอังซัวในประเทศไทย เสนอชื่อ นายพิภพ อะสีติรัตน์ อดีตรมว.ยุติธรรมสมัยรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เข้ารับการสรรหาในด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สมาคมนายจ้างเชียงใหม่ธุรกิจ เสนอชื่อนายไทกร พลสุวรรณ และนายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา อดีตแกนนำกลุ่ม พันธมิตรฯ ในด้านอื่นๆ ส่วนน.ส.สุธีรา วิจิตรานนท์ ประธานกรรมการที่ปรึกษาสถาบัน วิจัยบทบาทหญิงชายและการพัฒนา ได้รับการเสนอชื่อจากสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในด้านการปกครองท้องถิ่น

กก.สรรหานัดประชุม 4 ก.ย.

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะที่ปรึกษาคสช. ที่มีพล.อ.ประวิตร เป็นประธาน นอกจากจะรับทราบผลการดำเนินการเปิดรับการเสนอชื่อบุคคลเป็นสปช. จากผู้แทนสำนักงานกกต.ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาแล้ว ที่ประชุมยังกำหนดประชุมคณะกรรมการสรรหา สปช.ครั้งแรกทั้ง 11 คณะ ในวันที่ 4 ก.ย. โดยในช่วงเช้าพล.อ.ประยุทธ์จะประชุมมอบนโยบายในการสรรหาสปช. จากนั้นช่วงบ่ายจะประชุมคณะกรรมการสรรหาแต่ละคณะ เพื่อคัดเลือกกรรมการ 1 คนให้ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการสรรหา

ที่ประชุมคณะปรึกษาฯยังกำหนดแผนงานการสรรหาบุคคลผู้เหมาะสมเป็น สปช.ว่า แม้การพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาแต่ละคณะจะเป็นอิสระต่อกัน แต่เพื่อให้การสรรหาเสร็จตามกำหนด จึงเห็นว่าควรประชุมคณะกรรมการสรรหาแต่ละคณะพร้อมกันทั้ง 11 คณะในวันเวลาและสถานที่เดียวกัน ซึ่งจะกำหนดวันเวลาการประชุมทั้ง 4 ครั้งไว้ชัดเจน และการประชุมทุกครั้งจะใช้มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เป็นที่สถานที่ประชุมเนื่องจากเชื่อว่าจะรักษาความลับในการคัดเลือกบุคคลของทั้ง 11 คณะไว้ได้ 

โคราชยันใช้ทาบทามตามเดิม

ที่จ.อุตรดิตถ์ พ.ต.ท.วัชรินทร์ พิมพ์กะภีร์ ผอ.กต.อุตรดิตถ์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการสรรหา สปช.จังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวถึงข่าวล็อกตัวบุคคลเป็น สปช.อุตรดิตถ์ ว่า ไม่สามารถทำได้เพราะคณะกรรมการสรรหาฯทั้ง 5 คน มีวุฒิภาวะและเป็น ผู้บริหารระดับสูง อาทิ ผู้ว่าฯ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ อีกทั้งวิธีการลงมติก็ใช้วิธีลงคะแนนลับจึงไม่สามารถล็อกตัวบุคคลได้เพราะไม่มีใครรู้ล่วงหน้า ส่วนที่ครั้งแรกใช้วิธีทาบทามเพราะระยะเวลากระชั้นชิดและต้องการสรรหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง แต่ช่วงหลังพบว่าวิธีดังกล่าวไม่หลากหลาย จึงเปลี่ยนให้บุคคลมาเสนอตัวได้ แต่ยังเน้นคนมีความรู้ความสามารถเป็นหลัก 

ที่จ.นครราชสีมา พล.ท.อัศวิน รัชฎานนท์ ประธาน กกต.นครราชสีมา ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหา สปช.จังหวัดนครราช สีมา กล่าวถึงกรณีทาบทามบุคคล ว่าเป็นไปตามพ.ร.ฎ.ว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสปช. ให้อำนาจคณะกรรมการสรรหาทั้ง 5 คนเป็น ผู้ทาบทาม โดยไม่ระบุว่าให้รับสมัครแต่อย่างใด ส่วนบางจังหวัดที่มีการเปิดรับสมัครนั้น อาจไม่เข้าใจในข้อกฎหมายนี้ ส่วนที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่เป็นธรรมและมีการล็อกสเป๊กนั้น ไม่มีแน่นอน การสรรหาครั้งนี้ไม่ระบุความรู้ด้านการศึกษาของผู้สมัครที่ชัดเจน หากเปิดรับสมัครจะมีบุคคลมาสมัครมาก ยุ่งยากต่อการสรรหาได้ อีกทั้ง สปช.ระดับจังหวัดไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ จึงขอยืนยันกติกาเดิม คือให้คณะกรรมการฯทั้ง 5 คนทาบทามมาโควตาละ 3 คน เป็น 15 คน เพื่อโหวตคะแนนลับให้เหลือ 5 คน ก่อนเสนอชื่อให้ คสช.คัดเลือกเหลือ 1 คน ต่อไป

สุรชัยห่วงสรรหาไม่โปร่งใส

ที่รัฐสภา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. คนที่หนึ่ง กล่าวถึงกระแสข่าวการสรรหา สปช. แบบจังหวัดมีการคัดเลือกไม่โปร่งใสว่า ตนไม่สบายใจ แม้จะทำหน้าที่เป็นกรรมการสรรหาจากส่วนกลางด้านการเมือง แต่การทำหน้าที่สรรหาแบบจังหวัดกับส่วนกลางแยกออกจากกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ ไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับกลุ่มอื่นได้ ตนทราบแต่ด้านการเมือง เมื่อนัดหารือร่วมกันกับกกต. ตนจะนำข้อห่วงใยเสนอต่อที่ประชุม และขอให้กกต.ช่วยดูแลด้วย

นายสุรชัยยังกล่าวถึงสนช.ใช้กระบวน การถอดถอน ว่า ต้องดูรายละเอียดของกฎหมายก่อน และขึ้นอยู่กับการยกร่างข้อบังคับของคณะกรรมการยกร่างฯว่าจะกำหนดไว้หรือไม่ ส่วนช่องทางนำไปสู่การพิจารณาของสนช.มี 2 ช่องทางคือประชาชนส่งมาแล้วค้างอยู่ที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาว่าจะนำเรื่องเสนอต่อประธานสนช.หรือไม่ และเรื่องที่ประชาชนจะทำเสนอต่อสนช.โดยตรง ซึ่งจะพิจารณาได้ทันที อย่างไรก็ตามแม้รัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ได้ระบุชัดว่าสนช.มีอำนาจถอดถอน แต่หากสนช.มีการหารือและมีความเห็นต่าง ก็ใช้ลงมติชี้ขาดว่าจะพิจารณาหรือไม่ ต้องไปตามกรอบกฎหมาย ซึ่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวระบุว่าสนช.ทำหน้าที่เป็นส.ส. และส.ว.

"ฉัตรชัย"สั่งกมธ.ลดงบฯซ้ำซ้อน

วันเดียวกัน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ประธานกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ.2558 เป็นประธานการประชุม กมธ. ซึ่งก่อนเข้าสู่วาระได้แจ้งให้ทราบว่านายณรงค์ชัย อัครเศรณี สมาชิกสนช. ขอลาออกจากกมธ. ทำให้เหลือกมธ. 49 คนโดยไม่มีการตั้งเพิ่ม จากนั้นให้ 4 หน่วยงานหลักคือ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณชี้แจง

ทั้งนี้พล.อ.ฉัตรชัยฝากข้อสังเกตต่อที่ประชุมว่า ร่างงบประมาณได้พิจารณาและจัดทำรายละเอียดมาแล้ว แต่ขอให้กมธ.ร่วมกันพิจารณาปรับลดในรายละเอียด อาทิ โครงการฝึกอบรม การจัดสัมมนา การโฆษณาประชาสัมพันธ์และค่าใช้จ่ายเดินทางไปต่างประเทศ ให้เป็นไปตามที่สำนักงบประมาณกำหนด พิจารณาตามความเหมาะสมและจำเป็น หากซ้ำซ้อนก็ขอให้ปรับลดงบประมาณโดยเฉพาะการไปต่างประเทศของหน่วยงานราชการต้องเป็นพันธะผูกพันเท่านั้น เพื่อป้องกันงบสูญเปล่า ส่วนงบลงทุน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้างขอให้มีราคามาตรฐานและเหมาะกับสถานการณ์ โดยเปรียบเทียบการใช้งบกับโครงการของหน่วยงานอื่นๆ ประกอบด้วย และหากมีงบคงเหลือจากปี 2557 ให้นำส่วนนี้มาตั้งเป็นงบประมาณรายจ่ายในปี 2558

แห่อวยพรวันเกิด"บรรหาร"

ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านจรัญสนิทวงศ์ 55 ตั้งแต่เวลา 09.00 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดให้บุคคลสำคัญ นักธุรกิจ นักการเมือง คนใกล้ชิด อาทิ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ สมาชิกสนช. น.ส.จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อดีตส.ส.พรรคชาติไทย เข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 82 ปี 

โดยนายบรรหารกล่าวว่า ช่วงนี้สุขภาพไม่ค่อยดี มีอาการปอดอักเสบต้องเข้าออกโรงพยาบาลเดือนละ 3-4 ครั้ง ทำให้น้ำหนักจาก 64 เหลือ 57 กิโลกรัม ซึ่งกำลังทำน้ำหนักให้เพิ่มขึ้น ตอนนี้ไม่ได้ติดตามข่าวสารการเมืองแล้วเพราะเป็นช่วงรักษาสุขภาพ การเมืองตอนนี้ไม่ใช่เวลาของเรา ต้องปล่อยให้คนที่มีหน้าที่เขาทำงานไป

เติ้งแนะอย่าคิดล้างแค้น-จองเวร

จากนั้นเวลา 10.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคและสมาชิกพรรค อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายอุดมเดช รัตนเสถียร เข้าอวยพรขอให้นายบรรหาร มีสุขภาพแข็งแรง และขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่เป็นหลักให้กับบ้านเมือง

นายบรรหารกล่าวอีกว่า เหตุการณ์บ้านเมืองที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือและทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยมาหลายครั้ง รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง และสามารถแก้ปัญหาประเทศชาติได้ในระดับหนึ่ง แต่ยอมรับว่าบางเรื่องอาจทำไม่ได้เพราะติดปัญหา ที่ผ่านมาตนเคยพูดกับทุกคนว่าทำงานแล้วมันย่อมมีผิดบ้างถูกบ้าง แต่ขอให้ไปสู่ความถูกต้องด้วยกัน อย่าทำในลักษณะคิดล้างแค้น จองเวร มันจะไม่มีที่สิ้นสุด อีกร้อยปีก็เป็นอย่างนี้ ใครทำอะไรไว้ขอให้ทำบุญต่อกัน ขอให้ลืมกันไป ที่ผ่านมาตนไม่โกรธแค้นใคร ตนจึงไม่มีศัตรู สุขกายสบายใจ 

บิ๊กตู่ส่งดอกไม้เบิร์ธเดย์ด้วย

ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.พลภัทร วรรณภักตร์ เลขานุการกองทัพบก เป็นผู้แทนนำแจกันดอกไม้ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. เข้าอวยพรนายบรรหารว่า พล.อ.ประยุทธ์ ฝากมาอวยพร ขอให้มีสุขภาพและพลานามัยแข็งแรง

นายบรรหารกล่าวด้วยว่า ขอบคุณผบ.ทบ.และคสช.ทุกคน ฝากถึงพล.อ. ประยุทธ์ ว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาถือว่าใช้ได้อย่างดีด้วย การแก้ปัญหาให้กัประชาชนมีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ขอให้กำลังใจการทำงาน ทุกอย่างมีได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ถือว่าทำประโยชน์ให้ประชาชนและประเทศชาติ ถือเป็นจุดสูงสุดแล้วโดยเฉพาะการเทิดพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่วนตนถือเป็นประชาชนธรรมดา ขอให้กำลังใจอยู่ข้างหลัง

เชื่อประยุทธ์เป็นนายกฯได้

จากนั้นนายบรรหารให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของคสช.ว่า เรื่องทำงานย่อมมีทั้งถูกบ้างไม่ถูกบ้าง แต่ส่วนใหญ่ต้องยึดถือผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก งานทุกอย่างจะสำเร็จเรียบร้อยได้ต้องใช้ความอดทน ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาถือว่าใช้ได้แล้ว แก้ปัญหาได้มากที่สุดแล้ว ตนให้กำลังใจ ก็อวยพรให้ประสบความสำเร็จ แต่คงไม่ต้องฝากอะไร เพราะพล.อ.ประยุทธ์ก็รู้ดีหมดแล้ว ศึกษามาหลายเดือนแล้ว

เมื่อถามว่ามองอย่างไรถ้าพล.อ.ประยุทธ์ นั่งนายกฯ นายบรรหารกล่าวว่า ถ้านั่งนายกฯก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง จะมีสภา และเมื่อนานๆ เข้าจะเริ่มมีเสียงว่าอันนี้ดีบ้าง อันนี้ไม่ดีบ้าง ดังนั้นต้องดูให้ดี ใช้ดุลพินิจของตัวเองเป็นหลัก ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการเป็นหัวหน้าคสช.แตกต่างกันเพราะใช้อำนาจได้เด็ดขาด แต่เมื่อเป็นนายกฯต้องมีกฎหมายกำหนดไว้และต้องใช้คนที่มีความรอบรู้มาช่วยเหลือ "แต่เท่าที่ดู 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าทำงานใช้ได้ ดูดีๆ ท่านหน้าเหี่ยวที่ไหน หน้าเต่งตึงอย่างกับสาวๆ"

ส่วนคุณสมบัติของพล.อ.ประยุทธ์ เหมาะเป็นนายกฯเองหรือไม่นั้น นายบรรหาร กล่าวว่า ใช้ได้ เป็นได้ พล.อ.ประยุทธ์เด็ดขาดด้วย เมื่อถามว่าลีลาการพูดในสภาของพล.อ.ประยุทธ์นั้น นายบรรหาร หัวเราะและกล่าวว่า ใช้ได้ แต่ตนไม่มีความเห็น

เวลา 14.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำสมาชิกพรรคเข้าอวยพรนายบรรหาร ด้วยเช่นกัน