วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8657 ข่าวสดรายวัน


โผสะพัด-บิ๊กโด่ง ซิวผบ.ทบ. ต๊อกรองผบ.-รมต. 
แต่ยังมีสิทธิ์พลิกไปมา ปูร่วมโต๊ะแม้ว-สมชาย ก่อนควงไปป์กลับไทย สนช.เคาะวัน 21-22 สค. ฤกษ์ดีตั้งนายกคนใหม่


3 นายกฯ - อดีต 3 นายกฯของไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับประทานอาหารร่วมกันที่ต่างประเทศ ก่อนน.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 ส.ค.

      โผสะพัด "บิ๊กโด่ง"อุดมเดช สีตบุตร ได้เป็นผบ.ทบ.ต่อจาก"บิ๊กตู่" ขณะที่คู่แคนดิเดต"บิ๊กต๊อก"ไพบูลย์ คุ้มฉายา ขยับขึ้นรองผบ.ทบ. พร้อมเก้าอี้รมต.รัฐบาลประยุทธ์ 1 "ปู"มาตามนัด บินกลับไทย หลังร่วมวงกินข้าวพร้อมหน้าอดีต 3 นายกฯ "ทักษิณ-สมชาย-ยิ่งลักษณ์" อุ๊งอิ๊งโพสต์ภาพบรรยากาศวันครอบครัวชื่นมื่น สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่รองประธานสนช. เผยวันโหวตเลือกนายกฯ 21-22 ส.ค. ดันร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี"58 เข้าพิจารณาก่อน 15 ส.ค. เผยสนช.อาจไม่ตั้งกรรมาธิการสามัญ เหตุมีอายุแค่ปีเดียวและมีหน้าที่พิจารณากฎหมายเป็นหลัก หวั่นสิ้นเปลืองบุคลากร-งบประมาณ เล็งตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเฉพาะเรื่อง ปลัดมหาดไทย-ผู้ตรวจการแผ่นดินเดินหน้าเฟ้นบุคคลนั่งสภาปฏิรูปแห่งชาติ

ปูปาร์ตี้ 3 อดีตนายกฯก่อนกลับไทย

      เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ช่วงบ่ายวันเดียวกัน น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็กของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพอดีต 3 นายกรัฐมนตรี ประกอบด้วยน.ส.ยิ่งลักษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยเขียนระบุเพียงสั้นๆ ว่า "วันอาทิตย์..วันครอบครัว" 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภาพที่ปรากฏเป็นภาพที่ 3 อดีตนายกรัฐมนตรีพี่น้องใช้เวลาช่วงที่น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางไปพักผ่อนยังต่างประเทศพบปะและรับประทานอาหารร่วมกัน ก่อนที่วันที่ 10 ส.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย เดินทางกลับประเทศไทยตามที่ทำ เรื่องแจ้งไว้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

บินเครื่องส่วนตัวถึงไทยคืน10ส.ค.

       รายงานข่าวเปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมบุตรชายเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวกลับประเทศไทยถึงสนามบินดอนเมืองในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 10 ส.ค. โดยปิดเป็นความลับ คนใกล้ชิดระบุว่าอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการให้มีการไปรับจนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กลายเป็นประเด็นทางการเมือง หลังเดินทางกลับประเทศไทยแล้วจะใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ และยังไม่มีกำหนดเดินทางไปต่างประเทศอีก โดยในวันที่ 12 ส.ค. ซึ่งเป็นวันแม่แห่งชาติจะเดินทางไปลงนามถวายพระพรสมเด็จพระบรมราชินีนาถ 

ปลัดมท.สั่งผู้ว่าฯเดินหน้าคัดสปช.

      ที่หอประชุมกองทัพเรือ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการคัดสรรสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในส่วนของ 76 จังหวัดทั่วประเทศว่า ขณะนี้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดแล้วให้ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างรอบคอบ โดยให้ประสานร่วมกับคณะกรรมการสรรหาทั้ง 5 คนในจังหวัด ประกอบด้วย ผู้ว่าฯ นายก อบจ. หัวหน้าศาล ประธาน กกต.จังหวัด และเอ็นจีโอ เพื่อสรรหารายชื่อสมาชิก สปช. ส่งให้ คสช.ทันตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ ยืนยันว่าบุคคลที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการสรรหานั้นจะไม่มีการล็อบบี้กันอย่างแน่นอน เพราะคณะกรรมการทุกคนล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เป็น ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง มีความรู้ความสามารถ เชื่อมั่นว่าจะไม่มีปัญหาดังกล่าว เกิดขึ้น

นัดสรรหา 2 บุคคลตามโควตา

       ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวต่อว่า สำหรับสมาชิก สปช. ในสัดส่วนของกระทรวง มหาดไทย กรม และรัฐวิสาหกิจในสังกัด มีแนวโน้มว่าจะส่งบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ตามโควตา รวม 2 คน เนื่องจากกระทรวงมหาดไทยมีภารกิจที่เชื่อมโยงทั้งเรื่องการสร้างสมานฉันท์และความปรองดอง การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน การดำเนินการของศูนย์ดำรงธรรม การปฏิรูปประเทศ รวมทั้งจะต้องร่วมออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย คาดว่าจะนัดหารือเพื่อสรรหาตัวบุคคลได้ในสัปดาห์หน้าเพื่อให้ทันตามกรอบเวลา สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทยจะเปิดกว้างให้สรรหาได้อย่างอิสระ อาจเป็นได้ทั้งอดีตข้าราชการ ข้าราชการปัจจุบัน หรือบุคคลภายนอก

ผู้ตรวจการแผ่นดินร่วมเสนอชื่อ

      นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินซึ่งถือเป็นองค์กรนิติบุคคลหนึ่งที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเข้าสู่กระบวนการสรรหา สปช. ได้ ว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐทุกระดับ รวมถึงรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมล้าสมัย เราได้เห็นกฎหมายต่างๆ ที่ร้องเรียนเข้ามาว่ามีปัญหาตรงไหน จึงถือว่ามีส่วนในการเสนอแก้ไขกฎหมายและวิธีการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐอยู่แล้ว เมื่อมีการทำเรื่องปฏิรูปที่เป็นรูปแบบ ผู้ตรวจการแผ่นดินน่าจะเป็นองค์กรที่เหมาะสมที่จะสะท้อนข้อเท็จจริงต่อการปฏิรูปได้ เชื่อว่าน่าจะเป็นประโยชน์ เพราะเรามีข้อมูลและประสบการณ์จากการพิจารณาเรื่องที่ได้รับร้องเรียนมา อีกทั้งเราได้ศึกษาเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายมาโดยตลอด ดังนั้นสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินคงจะเสนอรายชื่อบุคคลเป็นผู้แทนเข้าสู่การสรรหาเป็นสปช. ส่วนจะเป็นใครนั้นคงต้องให้ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาก่อน

เผยสนช.อาจไม่ตั้งกมธ.สามัญ

        รายงานข่าวแจ้งว่า มีกระแสข่าวว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะไม่ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เนื่องจากระยะเวลาดำรงตำแหน่ง 1 ปี สนช.เห็นว่าคงไม่สามารถทำอะไรได้มาก อีกทั้ง สนช.ส่วนใหญ่เป็นทหารและข้าราชการระดับสูง มีภารกิจประจำอาจไม่มีเวลามาประชุมกรรมาธิการ และหน้าที่หลักของ สนช.ชุดนี้คือพิจารณากฎหมาย มีกฎหมายที่จ่อเข้าสภากว่า 40 ฉบับ จึงเห็นว่าไม่ควรตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ แต่อาจใช้เป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญเฉพาะเพื่อพิจารณากฎหมายเป็นหลัก หรืออาจเป็นไปในลักษณะที่ใช้ตั้งคณะกรรมาธิการประสานงานหรือวิปขึ้นมา 1 คณะ เพื่อใช้เป็นคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมาย และเรื่องภายในสนช. ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ยกร่างข้อบังคับการประชุม สนช.ใหม่ไว้แล้ว โดยในข้อบังคับฉบับใหม่นี้ยังคงมีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ สนช.อยู่ อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดขึ้นอยู่กับที่ประชุม สนช.ว่าจะมีมติอย่างไร

ครูหยุยชี้ช่วยประหยัดงบและคน

      นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สนช. กล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า เป็นไปได้ ต้องดูว่าสมาชิกคิดเห็นกันอย่างไร หากทุกคนเห็นด้วยก็ยกเว้นการใช้ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการสรรหากรรมาธิการ ที่ผ่านมาการตั้งกรรมาธิ การประจำคณะต่างๆ จะไปศึกษางานที่เกี่ยวข้อง หรือมีร่างกฎหมายใดเข้ามาที่ประชุมใหญ่ก็จะมอบหมายให้คณะกรรมาธิ การชุดนั้นๆ ไปศึกษาแล้วนำมาเข้าพิจารณาในที่ประชุมโดยไม่ต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณา เป็นการประหยัดเวลาและบุคลากรไปในตัว แต่มีข้อเสียบ้างคือบางคณะมีการตั้งผู้ชำนาญการ ผู้เชี่ยวชาญ ตั้ง อนุกรรมาธิการ 6-7 ชุด ต้องใช้งบประมาณตามไปด้วย ทั้งเบี้ยประชุม เบี้ยดูงาน ค่าใช้ จ่ายอื่นๆ ขณะที่บางครั้งเรื่องที่อนุกรรมาธิการทำก็ไม่ได้นำเสนอ 

เบรกงบดูงานต่างประเทศ

      นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่ติดใจว่าจะตั้งหรือไม่ตั้งคณะกรรมาธิการ ในกรณีที่ไม่มีก็สามารถตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเฉพาะเพื่อพิจารณากฎหมายแต่ละฉบับได้ก่อนเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาเห็นชอบ ประหยัดงบประมาณด้วย แต่ถ้าตั้งคณะกรรมาธิการ ตนขอเสนอให้ สนช. เป็นกรรมาธิการได้คนละ 1 คณะ และตั้ง อนุกรรมาธิการได้ไม่เกิน 3 อนุกรรมาธิการ เพื่อให้ สนช.ทำงานเต็มที่ และต้องไม่ตั้งงบประมาณดูงานต่างประเทศ รวมถึงตัวประธานสภาและรองประธานสภาด้วย ยกเว้นในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะ สนช.มีระยะเวลาอยู่ประมาณปีกว่าก็จะพ้นตำแหน่งเพราะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

สมชายรอดูข้อบังคับการประชุมใหม่

      ด้านนายสมชาย แสวงการ สนช. กล่าวว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะไม่ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เพราะกรรมาธิการสามัญมีหน้าที่ตรวจสอบ รับเรื่องราวและปัญหาจากประชาชน ประกอบกับขณะนี้เราไม่มีวุฒิสภาและสภา ผู้แทนราษฎร ที่ผ่านมา สนช.ชุดก่อนตั้งคณะกรรมาธิการสามัญถึง 21 คณะ ระยะเวลาดำรงตำแหน่งก็พอๆ กัน หากไม่มีคณะกรรมาธิการสามัญ สนช.จะทำงานกันแบบไหน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะต้องเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสนช. เนื่องจากขณะนี้ยังใช้ข้อบังคับการประชุม สนช.ปี "49 ซึ่งมีหลายข้อที่ไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 2557 คงต้องยกร่างข้อบังคับใหม่ คาดว่าเมื่อโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและรองประธานสภาแล้ว ที่ประชุม สนช.คงต้องตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อยกร่างข้อบังคับใหม่ เมื่อถึงตรงนั้นต้องดูว่าเนื้อหาในร่างข้อบังคับใหม่จะเป็นแบบไหน ทั้งนี้ เรื่องเร่งด่วนที่จ่อเข้ามาให้ สนช.พิจารณาคือ ร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 คาดว่าน่าจะเข้าสู่การพิจารณาของ สนช.ประมาณกลางเดือนส.ค.

สุรชัยเผยโหวตนายกฯ 21-22 ส.ค.

     นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่รองประธาน สนช.คนที่หนึ่ง กล่าวว่า หากมีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประธานและรองประธาน สนช.ลงมาแล้ว วาระต่อไปที่ทาง สนช.จะพิจารณาคือ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ในวาระแรก คาดว่าจะพิจารณาได้ในวันที่ 15 ส.ค. เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องพิจารณาก่อน เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนกว่าก็จะเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่แล้ว หลังจาก สนช.เห็นชอบผ่านวาระ 1 ไปแล้ว ต้องตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณา และเชิญหน่วยงานต่างๆ มาชี้แจงอีก ต้องใช้เวลาอีกสักระยะ จึงต้องนำเรื่องงบประมาณปี "58 มาพิจารณาก่อน ส่วนการโหวตเลือกตัวนายกรัฐมนตรีนั้นคาดว่าคงเป็นช่วงประมาณวันที่ 21-22 ส.ค. ส่วนตัวสนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มีความเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะตั้งใจทำงานเพื่อบ้านเมือง แต่ขึ้นอยู่กับที่ประชุม สนช.จะเห็นเป็นอย่างไร 

40 ส.ว.เชื่อไร้เสียงแตกขวาง"บิ๊กตู่"

     ด้าน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. กล่าวว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้นส่วนตัวเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์เหมาะสมที่สุด เพราะมีความตั้งใจเด็ดขาดในการทำงาน เห็นได้จากผลงานที่ผ่านมาที่เข้าตาประชาชน และผลโพลก็สนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่า สนช.ส่วนใหญ่เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าพล.อ.ประยุทธ์เหมาะสมที่จะบริหารบ้านเมืองที่สุดในขณะนี้ คงไม่ต้องโหวตแข่งกัน ขึ้นอยู่กับตัวพล.อ.ประยุทธ์เองจะรับตำแหน่งหรือไม่เท่านั้น

เรืองไกรย้ำสนช.ต้องยื่นทรัพย์สิน

     นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า บุคคลที่เข้ามาเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน เพราะมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวระบุไว้ว่า สนช.ปฏิบัติหน้าที่เป็นส.ส. และ ส.ว. ซึ่งถ้าเป็นตามนี้ก็จำเป็นจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และต้องเปิดเผยให้สาธารณชนทราบด้วยตามกฎหมาย ป.ป.ช. ปี "54 ทั้งนี้ อยากให้สปช. และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 36 คน ที่จะเข้ามาต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน และเปิดเผยด้วย เว้นแต่ ป.ป.ช.จะเลี่ยงเป็นอย่างอื่น

      "กฎหมาย ป.ป.ช.ระบุให้ ส.ส. ส.ว. ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ อยู่แล้ว คน 200 กว่าคนที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ก็ต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน เช่นเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้า คสช. และครม.ที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช.ไม่เห็นจะต้องพิจารณานาน เพราะกฎหมายป.ป.ช.ก็ยังใช้ต่อไป จะกลัวอะไรที่จะไม่ให้ประชาชนได้ดูบัญชีทรัพย์สิน ไม่มีเหตุผลต้องกลัว คนดีทั้งนั้น ทำแบบนี้ให้เป็นต้นแบบ ให้คนรุ่นต่อไปต้องเปิดเผย ประชาชนจะได้รู้ว่าแต่ละคนมีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่ ทำมาหากินถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่" นายเรืองไกรกล่าว

"อยาก-ไม่อยาก"บิ๊กตู่ก็ต้องนั่งนายกฯ

     คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในวันคิกออฟ สปช.เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าไม่อยากเข้ามาเป็นนายกฯ ว่า ถึงอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องมาเป็นนายกฯ ไม่ว่าจะอยากหรือไม่อยากเป็นนายกฯ ทั้งนี้มองว่าพล.อ.ประยุทธ์ควรเป็นนายกฯ เพราะการบริหารราชการต้องอาศัยการสั่งการเร่งด่วนในสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติ

คุมตัวชินจังทำแผนยิงตึกชินวัตร

       เวลา 14.30 น. วันเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง พร้อมด้วยพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบ.ช.น. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ควบคุมตัวนายยงยุทธ หรือ ชินจัง บุญดี อายุ 26 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถ.วิภาวดีรังสิตขาเข้า แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มี.ค.2557 โดยในวันเกิดเหตุนายยงยุทธพร้อมพวกขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้ายาริส สีขาว มาจากถนนหอวังมุ่งหน้าถนนวิภาวดี รังสิต มาจอดรถชิดตรงเกาะกลางถนนหอวังก่อนออกถนนวิภาวดีรังสิต จากนั้นนายยงยุทธซึ่งนั่งมาที่บริเวณเบาะหลังด้านขวาใช้เครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ยิงใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ก่อนหลบหนีไป


ทำแผน - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. คุมตัวนายยงยุทธ บุญดี หรือชินจัง ทำแผนฯยิงเอ็ม 79 ใส่ตึกชินวัตร ริมถ.วิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค.

ตระเวนทำแผนต่ออีก 4 จุด

        พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายยงยุทธถูกจับตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ 299/2557 ลงวันที่ 18 ก.ค.2557 ในคดีร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่อาคารสำนักงานป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ และถูกทหารควบคุมตัวได้ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา จากการสอบสวนขยายผลนายยงยุทธให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ลงมือคดียิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ซึ่งเป็นเพียงจุดเดียวที่ได้ลงมือเอง ส่วนจุดอื่นนายยงยุทธแค่มีส่วนรู้เห็นเท่านั้น ไปร่วมตั้งวงดื่มสุราก่อนลงมือก่อเหตุ ซึ่งในวันเดียวกันนี้ตำรวจจะนำตัวนายยงยุทธไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในจุดอื่นๆ อีก 4 จุด ได้แก่ ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งเป็นจุดที่นายยงยุทธสารภาพว่าร่วมกับพวกยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่เวทีกปปส. แจ้งวัฒนะ ยิงระเบิดชนิดเอ็ม 79 ใส่บริเวณใกล้ห้างโลตัส สาขาเเจ้งวัฒนะ และสำนักงานป.ป.ช. ถ.สนามบินน้ำ อีก 2 จุด

ตามจับกริชสุดาเชื่อหนีออกนอกปท.

       พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงการติดตามตัวน.ส.กริชสุดา หรือ เปิ้ล คุณะแสน อายุ 27 ปี ว่า ขณะนี้ตนได้ดูคลิปของ น.ส.กริชสุดา เชื่อว่าหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้ว แต่จะเป็นประเทศใดนั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้เมื่อศาลอนุมัติหมายจับแล้วตำรวจจะให้กองการต่างประเทศแปลหมายจับเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินการยื่นเรื่องส่งตัวน.ส.กริชสุดามาดำเนินคดีในประเทศไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนกรณีที่น.ส.กริชสุดาหลบไปยังประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะกระทรวงการต่างประเทศสามารถใช้ช่องทางความสัมพันธ์ทางการทูตในการขอให้ส่งตัวน.ส.กริชสุดามาดำเนินคดีได้

ยันผู้ต้องหาทำเป็นขบวนการ

       รองผบ.ตร. กล่าวยืนยันว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามตำรวจดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุมที่สุด ทุกอย่างเป็นไปตาม พยานหลักฐานที่ปรากฏ หากพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใคร ใครมีส่วนเกี่ยวข้อง ตำรวจต้องดำเนินคดีทั้งหมด สำหรับคดีอาวุธสงครามในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการออกหมายจับผู้ต้องหา 29 คน ส่วนใหญ่จับกุมได้แล้ว เหลือเพียง 7-8 คน ที่ยังจับกุมไม่ได้หนึ่ง ในนั้นมีน.ส.กริชสุดารวมอยู่ด้วย สำหรับ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงเป็นขบวนการเดียวกัน เพียงแต่ใครจะทำหน้าที่อะไรเท่านั้น อย่างกรณีของนายยงยุทธให้การว่ารู้จักกับน.ส.กริชสุดา พบในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ยืนยันว่าไม่ได้รับอาวุธมาจากน.ส.กริชสุดาแต่อย่างใด

ปชป.ตามจิกยื่นถอดยศแม้ว

        วันเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีผลวินิจฉัยคำร้องขอให้ตรวจสอบการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่คืบหน้าว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ไปยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ และได้รับรายงานว่าคสช.ส่งเรื่องกลับไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะต้นสังกัดได้พิจารณา เท่ากับว่าเรื่องจะไม่มีความคืบหน้า จึงอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะองค์รัฏฐาธิปัตย์ซึ่งมีอำนาจเด็ดขาดใช้อำนาจพิจารณาเรื่องนี้ด้วยตนเองเพื่อความเป็นธรรม 

มอบรางวัลกำนัน-ผญบ.ยอดเยี่ยม

      เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่หอประชุมกองทัพเรือ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลกำนัน ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม ประจำปี 2557 เนื่องในวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน 10 สิงหาคม โดยมีผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการร่วมในพิธี ในปีนี้มีผู้ได้รับคัดเลือกเป็นกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยมจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 306 คน ประกอบด้วย กำนันยอดเยี่ยม 155 คน เป็นชาย 140 คน หญิง 15 คน และผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม จำนวน 151 คน เป็นชาย 123 คน หญิง 28 คน โดยในปีนี้นายมนเทียร แตปูซู กำนัน ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ได้รับคัดเลือกเป็นกำนันยอดเยี่ยมเป็นครั้งที่ 7 

     ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการปกครองจัดพิธีมอบรางวัลกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยมจากทั่วประเทศในวันที่ 10 ส.ค.ของทุกปี เพื่อเชิดชูเกียรติกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านที่เสียสละ ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ตลอดเวลา กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านถือเป็นตัวเชื่อมระหว่างส่วนราชการกับประชาชน เป็นสถาบันการปกครองที่ใกล้ชิดกับประชาชน สร้างความสามัคคีในแต่ละพื้นที่ให้เกิดขึ้นมากที่สุด

      ด้านม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกับคณะกำนัน ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม ประจำปี 2557 ว่า ตนได้พบปะพี่น้องกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านดีเด่นผู้เข้ารับรางวัลเกียรติยศ "แหนบทองคำ" ประจำปี 2557 เนื่องในวันพระราชทานกำเนิดสถาบันกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน (10 ส.ค.) ที่พิพิธภัณฑ์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ณ วังวรดิศ ถนนหลานหลวง ปีติยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบจากพี่น้องกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านหลายคนที่พูดคุยอย่างเปิดใจว่า ที่ผ่านๆ มาระบบการเมืองเข้าไปแทรกแซงการทำงานของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านอย่างมาก ทั้งที่ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องด้วยเลย กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านทั้งหลายหนักใจกับนักการเมืองเช่นว่านี้ และอยากเห็นการปฏิรูปประเทศไทยโดยจัดระเบียบบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในฐานะผู้เป็นกำลังอันสำคัญให้กับข้าราชการฝ่ายปกครองและส่วนราชการอื่นๆ อีกทั้งถือเป็นข้าต่างพระเนตรพระกรรณของในหลวงในการบำบัดทุกข์-บำรุงสุขประชาชน ไม่ใช่เป็นเครื่องมือหาเสียงหรือหัวคะแนนพรรคการเมืองใดๆ อีกต่อไป

แย้มโผทหาร"อุดมเดช"นั่งผบ.ทบ.

      เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการพิจารณาบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2557 ว่า ขณะนี้พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. กำลังพิจารณารายชื่อจากเหล่าทัพต่างๆ ที่เสนอชื่อเข้ามา ทั้งในส่วนกองบัญชาการกองทัพไทย และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยคาดว่าพล.อ.ธนะศักดิ์เสนอชื่อพล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผบ.สส. เพื่อนตท.12 ขึ้นเป็นผบ.สส. ขยับพล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสธ.ทหาร (ตท.13) ข้ามไปเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ก่อนเกษียณอายุด้วยกันทั้งคู่ในปีหน้า นอกจากนี้พล.อ.สมหมาย เกาฎีระ ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ตท.15) เป็นรองผบ.สส. (อัตราจอมพล) พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ รองเสธ.ทหาร (ตท.15) เป็นเสธ.ทหาร (อัตราจอมพล) พล.อ.วิเชียร ศิริสุนทร ผอ.ศูนย์ประสานงานโครงการพระราชดำริฯ (ตท.15) เป็นผบ.นทพ.

       อย่างไรก็ตามรายชื่ออาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจนกว่าจะถึงเส้นตาย เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ต้องการผลักดันพล.อ.ศิริชัยขึ้นเป็นผบ.สส. ตามที่เคยมีสัญญาใจกันไว้เมื่อครั้งให้ออกจากกองทัพบกมาเป็นเสธ.ทหาร แล้วให้พล.อ.วรพงษ์ เพื่อนร่วมรุ่น ไปเป็นปลัดกลาโหม

      ส่วนตำแหน่ง 5 เสือทบ. พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งจะเกษียณจากผบ.ทบ.เดือนก.ย.นี้ คาดว่าจะเสนอชื่อพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. (ตท.14) ขึ้นเป็นผบ.ทบ.คนใหม่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผบ.ทบ. (ตท.15) ขยับขึ้นรองผบ.ทบ.ในอัตราจอมพล ก่อนเกษียณอายุพร้อมกับพล.อ.อุดมเดชปีหน้า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วยผบ.ทบ. ตท.12 คนสุดท้ายที่ยังอยู่ในราชการ เป็นประธานคณะที่ปรึกษาพิเศษ ทบ.(อัตราจอมพล) ก่อนเกษียณ พล.อ.อักษรา เกิดผล เสธ.ทบ. (ตท.14) ข้ามไปเป็น รองผบ.ส.ส. ในอัตราจอมพล เพื่อรอเกษียณ เช่นเดียวกับพล.ท.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รองเสธ.ทบ. จะออกไปเป็นผอ.สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม (อัตราพลเอก)

       สำหรับนายทหารที่ขยับขึ้นมาเป็น 5 เสือทบ. คาดว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเสนอชื่อพล.ท. ธีรชัย นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.14) พร้อมกับพล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 (ตท.15) น้องชาย ขึ้นผู้ช่วยผบ.ทบ. เพื่อจ่อชิงเก้าอี้ผบ.ทบ.หลังจากพล.อ.อุดมเดชเกษียณปีหน้า โดยทั้งคู่จะเกษียณปี 2559 พล.ท.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รองเสธ.ทบ. (ตท.14) ขึ้นนั่งเสธ.ทบ.

      แม่ทัพภาคที่ 1 คาดว่าพล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสธ.ทบ.ฝ่ายยุทธการ (ตท.16) ที่จะเกษียณปี 2559 เบียดแซงพล.ต.เทพพงษ์ ทิพยจันทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 1(ตท.18) มานั่งเก้าอี้สมใจ ทำให้พล.ต.พงษ์เทพต้องเป็นแม่ทัพน้อยที่ 1 ไปก่อน พล.ต.ปราการ ชลยุทธ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 กลับมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 

      ทั้งนี้ เนื่องจากมีการปรับโครงสร้างกระทรวงกลาโหมใหม่ การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ต้องขยายอัตรารองเสธ.ทบ. เพิ่มเป็น 4 อัตรา ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งคาดว่าคือ พล.ท.สุชาติ หนองบัว ผู้ช่วยเสธ.ทบ.ฝ่ายกำลังพล (ตท.15) พล.ท.กิตติ อินทรสร ผู้ช่วยเสธ.ทบ.ฝ่ายข่าว (ตท.14) พล.ท.ศุภกร สงวนชาติศรไกร ผู้ช่วยเสธ.ทบ.ฝ่ายส่งกำลังบำรุง (ตท.15) และพล.ท.ภาณุวัชร นาควงษม์ ผู้ช่วยเสธ.ทบ.ฝ่ายกิจการพลเรือน(ตท.17) 

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตำแหน่งผบ.ทบ.นั้น แม้พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร จะเป็นรองผบ.ทบ.มีความชอบธรรมสูงสุดที่จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ทบ. แต่ภายหลังคสช.ยึดอำนาจการปกครอง พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผบ.ทบ. ได้รับความไว้วางใจให้ทำงานสำคัญๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้แวดวงทหารจับตาพล.อ.ไพบูลย์ว่ามีโอกาสสูงที่จะขึ้นเป็นผบ.ทบ.คนใหม่ อย่างไรก็ตามถ้าเป็นไปตามสูตรพล.อ.อุดมเดชเป็นผบ.ทบ. ค่อนข้างแน่นอนว่าครม.ใหม่จะมีชื่อพล.อ.ไพบูลย์เป็นรมต.กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง เพื่อช่วยงานพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะนายกฯบริหารราชการแผ่นดิน

       กองทัพเรือ คาดว่าพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.(ตท.13) จะเสนอชื่อเพื่อนร่วมรุ่นคนสุดท้าย พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้ช่วยผบ.ทร.(ตท.13) ขึ้นเป็นผบ.ทร.คนใหม่ ขยับพล.ร.อ.พิจารณ์ ธีรเนตร ผบ.กองเรือยุทธการ(ตท.14) กินอัตราจอมพลในตำแหน่งรองผบ.ทร. พร้อมๆ กับดันเพื่อนตท.13 อีกคน คือ พล.ร.อ.ธนรัตน์ อุบล ประธานที่ปรึกษาพิเศษ ทร. ข้ามไปเป็นรองปลัดกลาโหม ก่อนเกษียณปีหน้า ทั้งนี้พล.ร.อ.ทวีวุฒิ พงษ์พิพัฒน์ เสธ.ทร.(ตท.14) จะถูกโยกไปเป็นรองผบ.สส. อัตราจอมพล แล้วส่งพล.ร.อ.อภิชัย อมาตยกุล ที่ปรึกษาพิเศษ ทร. มาเป็นเสธ.ทร.แทน 

       กองทัพอากาศ คาดว่าพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. จะเสนอชื่อพล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง เสธ.ทอ.(ตท.14) ขึ้นเป็นผบ.ทอ.คนใหม่ เพราะอาวุโสสูงสุด พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธ์ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ.ประจำผบ.ทอ. (ตท.15) เป็นรองผบ.ทอ.(อัตราจอมพล) ก่อนเกษียณ พล.อ.อ.วรฉัตร ธารีฉัตร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษทอ.(ตท.15) เป็นประธานคณะที่ปรึกษาทอ.(อัตราจอมพล) พล.อ.อ.พลเทพ โหมดสุวรรณ ผบ.หน่วยบัญชาการควบคุมปฏิบัติการทางอากาศ (ตท.15) ออกไปเป็นรองผบ.สส. (อัตราจอมพล) ขยับพล.อ.ท.สุทธิพันธ์ กฤษณคุปต์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ.(ตท.16) เป็นเสธ.ทอ. พล.อ.ท.จอม รุ่งสว่าง รองเสธ.ทอ. (ตท.16) และพล.อ.ท.ศิวเกียรติ์ ชเยมะ ผู้ทรงคุณพิเศษทอ. เป็นผู้ช่วยผบ.ทอ.

โพลวันแม่ชี้ยุคคสช.ปท.สงบสุข 

       วันที่ 10 ส.ค. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตเผยผลสำรวจความคิดเห็นของแม่ทั่วประเทศจำนวน 1,242 คน ระหว่างวันที่ 5-9 ส.ค. เนื่องในโอกาสวันแม่ที่จะมาถึง เมื่อถามว่าแม่คิดอย่างไรกับการเมืองไทย ณ วันนี้ที่มี คสช.เข้ามาดูแล อันดับ 1 ร้อยละ 81.24 ระบุเป็นเรื่องดีที่ คสช.เข้ามาดูแล บ้านเมืองสงบสุขมากขึ้น อันดับ 2 ร้อยละ 78.42 มีการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจนมากขึ้น ดูแลเอาใจใส่แก้ปัญหาบ้านเมืองจริงจัง อันดับ 3 ร้อยละ 72.46 อยากให้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองยุติโดยเร็ว อันดับ 4 ร้อยละ 56.76 ควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้เกิดการยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ

       ต่อข้อถามว่าแม่คิดอย่างไรกับสังคมไทย ณ วันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 83.57 ยังคงเสื่อมโทรม คนเห็นแก่ตัว ขาดน้ำใจ เอารัดเอาเปรียบกัน อันดับ 2 ร้อยละ 80.35 มีภัยสังคมหลากหลายรูปแบบมากขึ้น เป็นห่วงลูกหลานเมื่อออกจากบ้าน อันดับ 3 ร้อยละ 70.69 ในภาพรวมดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา มีการจัดระเบียบ ปราบปรามและจับกุมผู้กระทำผิด อันดับ 4 ร้อยละ 62.32 วัฒนธรรมต่างชาติเข้ามามาก ทำให้ความเป็นไทยเลือนหาย เน้นวัตถุนิยมฟุ้งเฟ้อ

       เมื่อถามว่า แม่คิดอย่างไรกับเศรษฐกิจไทย ณ วันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 84.62 ผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่มีมานานทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจหยุดชะงัก อันดับ 2 ร้อยละ 83.09 ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ลำบาก ค่าครองชีพสูง ข้าวของแพงขึ้น อันดับ 3 ร้อยละ 60.31 บ้านเมืองกำลังเข้าสู่สภาวะปกติ เศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ อันดับ 4 ร้อยละ 57.97 ประชาชนมีรายได้ที่แตกต่างกัน เกิดความเหลื่อมล้ำชัดเจน

       ทั้งนี้ สิ่งที่อยากจะบอกลูกในฐานะ "หัวอกของคนเป็นแม่" อันดับ 1 ร้อยละ 80.11 รักลูกมาก เป็นห่วงลูกเสมอ เป็นกำลังใจให้ลูกตลอดไป อันดับ 2 ร้อยละ 77.86 ขอให้เป็นคนดีของสังคมและพ่อแม่ อันดับ 3 ร้อยละ 61.51 ตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน รับผิดชอบหน้าที่ให้ดีที่สุด อันดับ 4 ร้อยละ 55.23 ดูแลตัวเองให้ดี รักษาสุขภาพ