บิ๊กตู่เฟ้นสปช.ใน 50 วัน 2 ตค.ทูลชื่อ หึ่งกก.สรรหาทหารพรึบ คิกออฟปฎิรูปทุกสีร่วม 'วีระ'เชียร์ประยุทธ์นายก ปูกลับไทยตามกำหนด ดึงณรงค์ชัยนั่งพลังงาน


คิกออฟ -พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวเปิดงานกิจกรรม "เส้นทางการปฏิรูปประเทศไทย" ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 



ร่วมด้วย - นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำ นปช. เข้าร่วมเปิดงานกิจกรรม "เส้นทางการปฏิรูปประเทศไทย" ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 

มติชนออนไลน์ :

      'บิ๊กตู่'ประธานคิกออฟปฏิรูป เล็ง 2 ต.ค.ทูลเกล้าฯ 250 สปช. ลั่นหลังได้ รบ.เลือกตั้ง คสช.ขอคุมมั่นคง

'บิ๊กตู่'ปธ.คิกออฟปฏิรูป

       เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 9 สิงหาคม ที่ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวเปิดงานกิจกรรม "เส้นทางการปฏิรูปประเทศไทย" ซึ่งเป็นการคิกออฟ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เพื่อมอบนโยบายให้หน่วยงานต่างๆ รวมถึงตัวแทนจากทุกภาคส่วนที่เข้าร่วม ตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วน วันนี้ถือเป็นวันประวัติศาสตร์ เพราะไม่เคยมีการปฏิรูปในลักษณะนี้มาก่อน แต่ก่อนอื่นต้องขอโทษทุกคนที่ต้องมายืนจุดนี้ เพราะจำเป็นต้องแก้ปัญหา ประเทศชาติจะก้าวไปข้างหน้า โดยเฉพาะปีหน้าจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยใช้สติปัญญาของคนไทยในการแก้ปัญหาเดินไปข้างหน้าให้ประเทศชาติเข้มแข็ง 

        "จะเห็นว่าทุกคนในประเทศต้องการให้เกิดการปฏิรูป ตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะมีการยึดอำนาจ มีการเสนอแนวทางออกในหลายรัฐบาล แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ รวมไปถึงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติให้ได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ลั่นปฏิรูปอย่าดึงสถาบันมาเกี่ยว

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สาเหตุที่เลือกวันนี้เป็นวันคิกออฟปฏิรูป เพราะเดือนนี้เป็นเดือนมหามงคล วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 82 พรรษา ด้วยการมองว่าจะทำอะไรให้ประชาชน หรือให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้สังคม ใครมีหน้าที่ตรงไหนก็ทำตรงนั้น ตนไม่ได้เป็นคนเก่งหรือวิเศษกว่าคนอื่น แต่มีจิตสำนึก ที่มุ่งตรงไปที่ผลประโยชน์ประเทศชาติ ต้องนำพาประเทศชาติ ให้เกิดความสงบสุขอย่างยั่งยืน ขอย้ำให้ทุกคนที่เข้ามาปฏิรูปอย่าเอาสถาบันเข้ามายุ่งเกี่ยว

       "จะผิด จะถูกผมรับผิดชอบผู้เดียว อย่าเอาไปยุ่งเกี่ยวกับพระองค์ท่าน เหตุการณ์วันที่ 22พฤษภาคม ก็ไม่เกี่ยว ผมกราบพระบรมฉายาลักษณ์ทุกวัน จนขอพระราชทานอภัยโทษมาตลอด พระองค์ไม่เคยสั่งใคร พระองค์รู้ดี พระองค์ทรงครองราชย์มากี่พรรษา ดังนั้น อย่าดึงเอาพระองค์ลงมาอีก หรือใครจะสู้ก็มา ไม่ได้ท้าทาย คิดหรือว่าคนทั้งประเทศจะยอม" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 

ไม่เลิกทะเลาะจะเหมือน'ลิเบีย'

     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัญหาที่ผ่านมาเกิดจากการใช้อำนาจ มันมีความต่อเนื่องเชื่อมโยงหลายอย่างทำให้เกิดการเผชิญหน้าอย่างรุนแรง ที่ประเทศต้องอพยพคนมาจากลิเบีย เสียงบประมาณมหาศาล ถามว่าต้องการอย่างนั้นหรือถ้าต้องการอย่างนั้น ทุกคนก็เผชิญหน้ากันต่อไปเลย แต่ถ้าไม่ต้องการอย่างนั้น ก็ต้องแก้ไข 

"ในสถานการณ์ที่ปกติทหารมีกฎระเบียบในเรื่องของการใช้กำลัง ผมเดินตามกติกามาตลอดระยะเวลารับราชการมา 37 ปี จนสุดท้ายมันไม่ได้ ท่านก็รู้ดีว่าไปไม่ได้ การพัฒนาประเทศไปไม่ได้ทุกด้าน รัฐบาลขับเคลื่อนประเทศไม่ได้ นี่คือปัญหาทั้งสิ้น ปัญหาการทุจริตต้องให้ต่างฝ่ายตรวจสอบ และตัดสิน ต่อสู้กันไป เชื่อว่าทุกคนที่ทำงานขณะนี้มีความตั้งใจแต่อาจจะติดปัญหาบางประการ เราจะลดแรงกดดัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 

ยัน2ตุลาฯได้250สปช.

       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจงโรดแมปการปฏิรูปการเมือง 3 ระยะ ว่าโรดแมประยะแรกคือการคืนความสุขให้กับประชาชนอย่างง่ายๆ และเตรียมความพร้อมโดยเริ่มตั้งแต่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ซึ่งประเทศสามารถขับเคลื่อนมาได้ ระยะที่ 2 เป็นการเตรียมตั้งสภาปฏิรูป รับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวบรวมผลงานการวิจัย และความคิดเห็นของประชาชน รวมทั้งจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ทั่วประเทศ ยืนยันไม่มีการแทรกแซงหรือเอื้อประโยชน์

      "ไม่มีการระบุตัวบุคคลที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในขั้นตอนนี้เป็นเพียงการเข้าไปสนับสนุนเตรียมความพร้อมให้ สปช. คาดว่าวันที่ 13 สิงหาคม จะคัดสรรคณะกรรมการคัดเลือกตั้ง สปช.ทั้ง 11 ด้าน วันที่ 14 สิงหาคม เปิดรับสมัครผู้เข้ารับการสรรหาเป็น สปช.เป็นวันแรก และวันที่ 2 ตุลาคม น่าจะได้ สปช.ครบทั้ง 250 คน และนำขึ้นทูลเกล้าฯได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า ระยะที่ 3 คือในช่วงปลายปี 2558 ที่จะมีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และหลังจากที่มีรัฐบาลแล้ว คสช.จะเข้ามาดูแลเฉพาะงานด้านความมั่นคงเท่านั้น

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ในปลายเดือนสิงหาคมจะได้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เข้ามาบริหารประเทศ แต่ตอนนี้ยังไม่ตั้งใคร มีแต่ที่สื่อไปคาดกันเองว่าจะแต่งตั้งคนนั้นคนนี้ไปนั่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ

      ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแบบติดตลก "ใครอยากเป็นนายกรัฐมนตรีให้มาสมัคร" 

ลั่นไม่อยากเป็นใหญ่เป็นโต

      "หัวหน้า คสช.ไม่มีอิสระ ลูกเมียต้องมาคอยให้กำลังใจ ผมไม่ได้อะไรเลย ไม่ได้อยากเป็นใหญ่เป็นโต ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม ทำงานไม่ได้หยุดกันเลย ไม่มีวันหยุด ได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 400 บาท เมียจะเลิกอยู่แล้ว ไม่คุ้มหรอก" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า ขอให้ทุกฝ่ายหยุดความขัดแย้งได้แล้ว วันนี้จึงต้องหยุดความขัดแย้งให้ได้ก่อน แม้จะมีข้อครหาว่าใช้ทหารมากเกินความจำเป็นหรือไม่ ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติทหารต้องออกมาเพราะบ้านเมืองไม่ปกติ 

     กระทั่งเวลา 11.26 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำว่า ทุกคนทำเพื่อบ้านเมืองมาตลอด เรื่องที่ผ่านมาก็ผ่านไป ใช้กฎหมายเข้าไปจัดการ วันนี้ถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ ถ้าใครไม่ได้มาถือว่าตกประวัติศาสตร์

     ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ใช้เวลามอบนโยบายแนวทางการปฏิรูปแห่งชาติประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกระบวนการสรรหาสปช.ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคมถึงวันที่ 2 ตุลาคม คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 50 วัน จะได้สมาชิก สปช.ครบ 250 คน 

แกน"ม็อบ-พรรค"เข้าร่วมคึกคัก

       ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการจัดงานเส้นทางการปฏิรูปประเทศไทยว่า เป็นไปอย่างคึกคัก มีนายทหาร นายตำรวจ ส่วนราชการต่างๆ ภาคประชาชน ตัวแทนจากพรรคการเมือง อาทิ นายสันต์ศักดิ์ จรูญงามพิเชษฐ์ ที่ปรึกษาพรรคพลังชล นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยตัวแทนกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง อาทิ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เข้าร่วม 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การร่วมงานไม่มีการลงทะเบียนของผู้เข้าร่วมงาน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดจุดให้แสดงตนด้วยการหย่อนบัตรตอบรับเข้าร่วมงานพร้อมการแสดงความเห็นสำหรับการปฏิรูป พร้อมแจกเอกสารประชาสัมพันธ์ขั้นตอนพร้อมเอกสารการเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดทำขึ้น

กกต.ยันไม่มีบล็อกโหวตสปช.

     นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมงานเส้นทางการปฏิรูปประเทศไทย ถึงการคัดเลือก สปช.ว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่ให้นิติบุคคล ที่ไม่แสวงหากำไรเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมจากส่วนกลาง 11 ด้าน และจากส่วนจังหวัด โดยมีกรรมการสรรหา ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม-2 กันยายนนั้นถือเป็นเวลาที่สำคัญ ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าจะไม่มีการบล็อกโหวต อีกทั้งกรรมการสรรหา สปช.จะต้องเลือกบุคคลที่มีความรู้ มีประสบการณ์ และประวัติการทำงานที่ดีเข้ามาทำหน้าที่ กรณีที่พรรคการเมืองจะส่งบุคลากรเข้ารับการสรรหาหรือไม่นั้น ถือเป็นดุลพินิจของหัวหน้าพรรคการเมือง 

     "ทั้งนี้ เชื่อว่าพรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่ปฏิเสธส่งบุคคลร่วมเข้ารับการคัดเลือกจะไม่เป็นปัญหา เพราะพรรคการเมืองที่จดทะเบียนกับ กกต.ทั้ง 73 พรรคถือมีความเท่าเทียมกัน นอกจากนั้น เวที สปช. ถือเป็นภาคส่วนที่หล่อหลอมความหลากหลาย แนวความคิด และนำปัญหาต่างๆ ไปสู่การแก้ไข เพื่อประโยชน์ของชาติ" นายภุชงค์กล่าว

วีระกานต์หนุน"บิ๊กตู่"นั่งนายกฯ

   นายวีระกานต์ ให้สัมภาษณ์หลังร่วมงานเส้นทางปฏิรูปประเทศไทยว่า ไม่มีความเห็นต่อแนวคิดของกระบวนการขั้นตอน สปช.ส่วนตัวต้องการที่จะเห็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ไม่ถูกเรียกว่า 2 มาตรฐาน ส่วนกรณีที่ถูก พล.อ.ประยุทธ์หยอกเรื่องคดีความนั้น รู้สึกประหลาดใจเพราะส่วนตัวไม่เคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเพราะตนขึ้นเวทีวิพากษ์ พล.อ.ประยุทธ์ในลักษณะกัลยาณมิตร ส่วนตัวพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง 

      ผู้สื่อข่าวถามถึงความเหมาะสมที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกรัฐมนตรี นายวีระกานต์กล่าวว่า "เมื่อท่านได้ยึดอำนาจและเป็นถึงหัวหน้า คสช.ควรที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยตนเอง ไม่ต้องกังวลถึงคำครหาว่าปฏิวัติเพื่อตัวเองเหมือนอย่างที่ว่าจับเขียดอย่ากลัวคาว" 

      เมื่อถามต่อว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง นายวีระกานต์กล่าวว่า ตอนนี้ทุกคนก็เงียบ ก็ตอบแทนไม่ได้ เพราะการจะเคลื่อนไหวต้องเป็นมติของ นปช. อย่างไรก็ตาม นปช.ไม่มีวันตายเพราะถือเป็นเมล็ดพันธุ์ที่แตกแขนง ส่วนเคลื่อนไหวหรือยุติบทบาทตามคำเรียกร้องของ พล.อ.ประยุทธ์ที่ต้องการให้กลุ่มต่อต้านเลิกราวีนั้นก็ตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมว่าขัดกับความรู้สึกของประชาชนหรือไม่

"วิษณุ"ปัดล็อกสเปกสปช.

     นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย คสช. กล่าวถึงกระแสข่าวการล็อกโหวต สปช.โดยระบุว่าไม่ควรมีความคิดเช่นนี้ เพราะหาก คสช.จะกำหนดบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ สปช. ทั้งหมดเองก็สามารถทำได้ แต่เหตุผลที่ต้องการให้มีการสรรหา เพราะต้องการให้เกิดความครอบคลุมทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ

      เมื่อถามกรณีที่พรรคการเมืองปฏิเสธไม่ส่งบุคคลเข้ารับการสรรหาสมาชิก สปช. มีความเห็นอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เคยส่งข้อความเย้ยหยันว่าพรรคไหนไม่อยากส่งคนเข้าร่วม สปช.ก็ไม่ต้องมา เนื่องจากไม่มีเหตุผล เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะเข้าร่วมการสรรหาหรือไม่ก็ได้ ส่วนการมีนายกรัฐมนตรีที่หัวหน้า คสช.ระบุว่าอาจจะเป็นช่วงปลายเดือนสิงหาคมนั้น ขอชี้แจงว่า คำว่ามีรัฐบาลกับมีนายกรัฐมนตรีแตกต่างกัน เพราะมีนายกรัฐมนตรีคือการมี ครม.แต่ยังไม่สามารถปฏิบัติงานได้ เพราะยังต้องรอเพื่อที่จะแถลงนโยบาย ดังนั้น การจะได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี น่าจะเป็นช่วงเวลาตามโรดแมปที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น

คาดอีก1สัปดาห์ได้นายกฯ 

     นายวิษณุ กล่าวว่า หลังจากมีพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการสรรหา สปช. กระบวนการต่อจากนี้คงใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์หรือมากกว่านั้นเล็กน้อยที่ สนช.จะเลือกผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 หลังจากนั้น 1 สัปดาห์บวกระยะเวลาเล็กน้อยนายกรัฐมนตรีจะจัดตั้ง ครม. และนำเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเพื่อเข้าทำงานที่อาจจะล้ำไปจนถึงเดือนกันยายน 

      "ช่วงต้นเดือนกันยายนจะแถลงนโยบายต่อ สนช. แม้ว่ารัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 ไม่ได้บังคับให้แถลงนโยบายแต่ถือเป็นประเพณีปฏิบัติในการปกครองที่ต้องดำเนินการ" นายวิษณุกล่าว

กปปส.พร้อมหนุนปฏิรูป

     นายพุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า แกนนำ กปปส.ทั้ง 9 คน รวมพระสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้คุยกันและเห็นพ้องต้องกันในการให้ความร่วมมือปฏิรูปประเทศ ซึ่ง กปปส.ไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกับแนวทางของ คสช. พร้อมให้การสนับสนุน และคิดว่าการปฏิรูปเป็นสิ่งจำเป็นของประเทศ หากมีสิ่งใดที่เป็นประโยชน์เราก็ให้ความร่วมมืออยู่แล้ว วันนี้ตนและนายเอกนัฏจึงเป็นตัวแทน กปปส.ไปรับฟังแนวทาง คสช. หลังจากที่รับฟังแล้วแกนนำก็จะคุยกันอีกครั้งว่าจะให้ความร่วมมืออย่างไรต่อไป 

เล็งส่ง"บิ๊กทหาร"นั่งกก.สรรหา

      รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคณะกรรมการสรรหา สปช.จำนวน 11 ด้าน ที่ คสช.จะแต่งตั้งขึ้นมาเพื่อปฏิบัติหน้าที่สรรหา สปช.คณะละ 7 คนนั้น มีแนวโน้มว่าจะมีนายทหารระดับสูงเข้ามานั่งหัวโต๊ะควบคุมการสรรหาในแต่ละด้านด้วย แต่อาจไม่ครบทั้ง 11 ด้าน เพราะอาจถูกข้อครหาและถูกจับตามองว่าทหารควบคุมกระบวนการสรรหา สปช.ได้ ส่วนคณะกรรมการสรรหาที่เหลือนั้นมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญและอดีตข้าราชการประจำกระทรวงต่างๆ ซึ่งสอดคล้องกับความเชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เช่น ด้านการเมืองต้องอาศัยอดีตนักการเมืองและผู้มีประสบการณ์ทางการเมืองเข้ามาทำหน้าที่ "สำหรับสัดส่วนของ สปช.จาก 11 ด้าน จำนวน 173 คนนั้น เบื้องต้นทาง คสช.จะพยายามจัดสรรให้มีจำนวนใกล้เคียงกันในแต่ละด้าน แต่อาจมี สปช.ในด้านเศรษฐกิจมากกว่าด้านอื่นๆ เนื่องจากต้องมีการขับเคลื่อนงานด้านเศรษฐกิจให้พัฒนามากยิ่งขึ้น" รายงานข่าวระบุ

"ลีน่า จัง"โวยอดร่วมคิกออฟ

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์เปิดงานเส้นทางปฏิรูปประเทศ และเดินทางออกจากสโมสรทหารบกแล้ว เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อนางลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่า จัง ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ HOTTV เดินออกมาต่อว่าสารวัตรทหาร 

     นางลีน่าจัง อ้างว่า เดินทางมาตั้งแต่เช้าเพื่อหวังจะมาร่วมงาน และต้องการรับฟังแนวทางการปฏิรูปประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่กลับมีทหารพาตนไปควบคุมอยู่ในห้อง ทำให้ไม่สามารถเข้าร่วมงานดังกล่าวได้ ทั้งที่มาร่วมงานในฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง ไม่ใช่คู่ขัดแย้งทางการเมือง มาตัวคนเดียวแต่กลับไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงาน อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 14 สิงหาคม จะเดินทางไปสมัครเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.กับ กกต.เพื่อเสนอความคิดเพื่อปฏิรูปประเทศให้ดีขึ้น และอยากได้เงินเดือน เพราะธุรกิจที่ตนทำอยู่ประสบภาวะขาดทุนจากการถูกปิดโดย คสช.

      ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นางลีน่าจังได้เตรียมเอกสาร กรณีถูกบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เรียกเก็บค่าสัญญาณโทรทัศน์ไม่เป็นธรรม มายื่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย แต่เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์เดินทางออกจากสโมสรทหารบกแล้ว นางลีน่าจังจึงยื่นหนังสือดังกล่าวผ่านเจ้าหน้าที่ทหารแทน ก่อนจะเดินทางกลับ และย้ำว่าจะสมัครเข้าเป็น สปช. ทั้งนี้ นางลีน่าจังมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคมหาประชาชน ได้ขอจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองกับ กกต.เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2557

อนุทินยัน"ภท."ร่วมสปช.

      นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการส่งตัวแทนพรรคเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ว่า พรรคคงจะเสนอชื่อบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. เพราะเห็นว่าเรื่องปฏิรูป เรื่องปรองดองเป็นเรื่องบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องการเมือง ขณะนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคัดค้านก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนพรรคอื่นจะไม่ส่งตัวแทนเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.นั้นคงต้องเคารพการตัดสินใจของทุกพรรค แต่ ภท.เห็นว่าถ้าจะเข้าไปร่วมก็เป็นประโยชน์ เพราะอย่างน้อยสามารถเสนอความคิดเห็นได้ ส่วนพรรคเสนอใครขณะนี้กำลังพิจารณา เพราะยังมีเวลาเหลืออีกหลายวัน

อดีตส.ว.เชียงใหม่ขอดูเกณฑ์

      สำหรับ ความเคลื่อนไหวการสมัครชิงตำแหน่ง สปช.ในต่างจังหวัดนั้น นายสุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเลขานุการ สปช. ระดับจังหวัด เปิดเผยว่า มีผู้สนใจเป็น สปช. มาสอบถามการสรรหา สปช.ระดับจังหวัด 4-5 รายแล้ว ส่วนมากเป็นประชาชนทั่วไป บางรายเป็นอดีตนักการเมือง แต่พระราชกฤษฎีกาการสรรหา สปช.ไม่ได้กำหนดวิธีสรรหา แต่ให้เป็นอำนาจคณะกรรมการสรรหา สปช.ระดับจังหวัด กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาเอง ซึ่งบางจังหวัดอาจใช้วิธีรับสมัคร ทาบทาม หรือให้กรอกประวัติเอกสารด้วยตนเอง เพื่อให้คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัดพิจารณาเหลือ 5 ราย ก่อนส่งเรื่องให้ คสช.พิจารณเหลือเพียงรายเดียว 

      นายอุดม สุวิทย์ศักดานนท์ อดีต ส.ว.เชียงใหม่ ผู้บริหารบริษัท นิ่มซีเส็ง จำกัด ประกอบกิจการขนส่งรายใหญ่ในภาคเหนือ กล่าวว่า ยังไม่ตัดสินใจสมัคร สปช.ระดับจังหวัด ขอรอดูหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ เงื่อนไข และวิธีการสรรหาก่อน ขณะนี้ยังไม่มีใครทาบทามเป็น สปช.จังหวัดอย่างใด

สารคามให้เสนอตัวเป็นสปช.

      ที่ จ.มหาสารคาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมการสรรหา สปช.จังหวัด นัดแรก ที่ห้องประชุม 301 สำนักงาน กกต. จังหวัดมหาสารคาม มีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานประชุม นายณัฐภกฤษ เผือกผ่อง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดมหาสารคาม นางคมคาย อุดรพิมพ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม นายเมธี สุพรรณฝ่าย ปลัดจังหวัด ในฐานะประธาน กกต.จังหวัด และนายบุญส่ง บุญเศษ ผู้แทนสภาองค์กร ชุมชนระดับจังหวัด เข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ประชุมมีมติการได้มาซึ่ง สปช.ว่าจะไม่เปิดรับสมัครหรือเสนอชื่อบุคคล แต่หากมีบุคคลใดมีความประสงค์ที่จะเสนอตัว เพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็น สปช.มหาสารคาม สามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดที่ สนง.กกต.จังหวัด ศาลากลางจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม- 2 กันยายน ทางคณะกรรมการจะพิจารณาคุณสมบัติบุคคลที่เสนอชื่อเข้ามา ในการประชุมวันที่ 4 กันยายน 

       ด้านนายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า จะร่วมประชุมกับคณะกรรมการสรรหา สปช.จังหวัด วันที่ 13-14 สิงหาคม ครั้งแรกที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดนนทบุรี เพื่อคัดสรรความเหมาะสมของผู้ที่จะมาเป็น สปช.นนทบุรีก่อน จากนั้นจะเริ่มพิจารณาถึงคุณสมบัติและความเหมาะสมในการสรรหา

ศาล-อัยการปัดร่วมวงสปช. 

     นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีการสรรหาบุคคลเป็น สปช.ว่า ทางอัยการยังไม่ได้หนังสือทาบทามใดๆ จากทาง คสช.หากได้รับแล้วก็จะพิจารณาอีกครั้ง 

      นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เบื้องต้นได้คุยกับอัยการสูงสุดคร่าวๆ ว่า ทางอัยการจะไม่ส่งตัวแทนไปร่วมกับ สปช. แต่จะไม่มีการห้ามอัยการคนไหนที่จะเสนอตัวเข้าไปร่วมกับ สปช.ในนามส่วนตัว เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ปกติการเข้าร่วม สปช. หากองค์กรไหนเห็นว่ามีบุคคลที่เหมาะสมก็จะเสนอรายชื่อไป แต่ทางสำนักงานศาลยุติธรรมยังไม่ได้คุยรายละเอียด ซึ่งบุคคลที่จะเข้าไปทำหน้าที่ใน สปช.นั้น ไม่ได้เป็นการทำเพื่อองค์กร แต่เข้าไปทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ

ปปช.เล็งเคาะสนช.แจงทรัพย์สิน

      นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่ายังไม่ได้ข้อยุติในข้อกฎหมายว่า สนช.จะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือไม่ เนื่องจากมีปัญหาในข้อกฎหมาย โดยเฉพาะ สนช.จะหมายถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ที่จะต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ตามมาตรา 32 ของกฎหมาย ป.ป.ช. ซึ่งในมาตรา 32 ระบุว่า ผู้ต้องมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน คือ นายกรัฐมนตรี ส.ส.และ ส.ว. แต่ไม่มี สนช. ในขณะที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 มาตรา 6 บัญญัติไว้ว่า สนช.ปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส.และ ส.ว. ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ สนช.จะต้องมีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน 

    "สนช.จะต้องยื่นหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช.จะตีความ หากเทียบกับ สนช.ในปี 2549 รัฐธรรมนูญในขณะนั้นมีบทบัญญัติให้ สนช.ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่ไม่ต้องเปิดเผย ดังนั้น ปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวจะนำเสนอให้ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาในสัปดาห์หน้าคงจะมีความชัดเจน" นายวรวิทย์กล่าว

เจตน์ห่วงสนช.ถือหุ้นเกิน5% 

      นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. กล่าวว่า สนช.หลายคนยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือไม่ เพราะหากต้องยื่น ต้องยื่นเมื่อไหร่ จะเป็นหลังโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง หรือยื่นนับตั้งแต่การปฏิญาณตน ซึ่ง ป.ป.ช.จะต้องให้ความชัดเจน เพราะอาจมีปัญหากับ สนช.บางคน โดยเฉพาะ สนช.ที่ถือครองหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ก่อนเข้ารับตำแหน่งแต่ยังไม่ได้โอนหุ้นนั้นให้กับผู้อื่น เนื่องจากตัวเองไม่รู้ว่าจะได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช.

      "นอกจากนี้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา 41 ยังระบุว่ากรณีที่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดกำหนดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง มิให้นำบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นมาใช้บังคับแก่ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในคณะ คสช. สนช.และ สปช. ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นข้อยกเว้นในกรณีนี้ได้หรือไม่" นพ.เจตน์กล่าว

ว่าที่รองปธ.พร้อมผลักดันกม.

     จ.อุตรดิตถ์ นายพีระศักดิ์ พอจิต ว่าที่รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 2 กล่าวว่า ขอขอบคุณ คสช.ที่มอบความไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ ในฐานะตัวแทนชาว จ.อุตรดิตถ์ สิ่งแรกที่จะต้องทำคือ การเร่งแก้กฎหมายในบางข้อเพื่อให้ประเทศสามารถขับเคลื่อนได้ เพราะที่ผ่านมากฎหมายบางข้อที่ใช้อยู่ทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคมไทย หลังจากนี้อยากให้คนไทยตระหนักว่า ที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นบ้าง อยากให้ทุกคนร่วมกันพัฒนาและผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าหลังจากที่ สนช.ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ 

      "สิ่งสำคัญเมื่อการร่างและแก้กฎหมายที่เกิดจาก สนช.เสร็จสมบูรณ์แล้ว คาดว่าความขัดแย้งจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะ สนช.ทุกคนนำบทเรียนในอดีตที่ผ่านมามาเป็นตัวกำหนด" นายพีระศักดิ์กล่าว

สมคิดยันมธ.ยังเหมือนเดิม

      นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวถึงการดำรงตำเเหน่งประธาน สนช. ของนายพรเพชร วิชิตชลชัย ว่าหากดูจากการศึกษาเเละประสบการณ์ด้านการทำงานที่ผ่านมา ทั้งการดำรงตำเเหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา รวมทั้งตำเเหน่งใน สนช. คิดว่านายพรเพชรน่าจะทำงานในตำเเหน่งประธาน สนช.ได้ดี เเต่เเน่นอน เเม้ว่าจะผ่านประสบการณ์มากมายเพียงไร ต้องจำเป็นเเละคำนึงถึงเรื่องการปรับตัว การเปลี่ยนแปลง เพื่อสอดประสานไปกับสมาชิกทั้งหลาย ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่าจะสามารถทำงานได้ดีมากน้อยเเค่ไหน

     ผู้สื่อข่าวถึงถามถึงข้อดีข้อเสียของการควบตำเเหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีของหัวหน้า คสช. นายสมคิดกล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด เมื่อถามถึงมาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเสมือนวางกรอบรัฐธรรมนูญฉบับต่อไปถือว่าเป็นการล็อกสเปกหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า "เป็นสเปกที่ดีนะ

      เหมือนเวลาซื้อของ ต้องการของดี คุณภาพดี ล็อกไหมคงไม่ใช่เพียงเเต่เขียนสเปกไว้เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดี ผมว่าดี เเต่ปัญหาคือ คนที่จะเอาไปทำนั้นทำยากมาก ตัวอย่างเช่น ไม่ให้มีประชานิยม ถามว่าจะไปเขียนกฎหมายกันประชานิยมได้อย่างไร"

    นายสมคิดกล่าวถึงกระเเสสังคมที่บอกว่า มธ.เปลี่ยนไปว่า มธ.ไม่ได้เปลี่ยนไป มธ.มีสองฝ่าย มีทั้งเห็นด้วยเเละไม่เห็นด้วย มีความคิดความเห็นที่แตกต่างกันออกไป ความจริงเชื่อว่าไม่มีใครหรอกที่อยู่ตรงข้ามกับประชาธิปไตย เพียงเเต่ว่าระยะนี้เป็นระยะที่ประเทศมีปัญหา ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าน่าจะมาตั้งต้นกันใหม่เเละทำใหม่ ส่วนอีกฝ่ายบอกว่าไม่ควรตั้งต้นหรอก เถียงกันไป มีเเค่นั้นเอง ไม่ใช่ว่าประเทศจะเป็นเผด็จการไปอีก 100 ปี ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือว่าจะทำอย่างไรให้เริ่มต้นใหม่ได้ดี

บิ๊กโชยปัด"ปู"เลื่อนกลับไทย 

       พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลื่อนเดินทางกลับไทยว่า ไม่ได้ประสานหรือส่งหนังสือขอขยายเวลาการเดินทางกลับไทย มายัง พล.อ.ประยุทธ์ ตามที่มีกระแสข่าว โดยกำหนดการเดิมที่ขออนุญาตเดินทางไปพักผ่อนในต่างประเทศไว้ถึงวันที่ 10 สิงหาคม ก็ยังคงยืนยันเหมือนเดิม น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้มีการติดต่อใดๆ มาทั้งสิ้น

"ปึ้ง"แย้ม"ปู"ถึงไทย11ส.ค.

      นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับเมืองไทยตามกำหนดแน่นอน ที่มีข่าวออกมานั้นมั่ว ไม่จริง เพราะตอนนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้อยู่ที่อเมริกา แต่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลประเทศไทย คาดว่าจะกลับมาถึงเมืองไทยเร็วๆ นี้แน่นอน อาจจะเป็นเช้าวันที่ 11 สิงหาคม

     แหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเลื่อนกลับประเทศไทย แต่เท่าที่คุยกันกับทีมงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ยังมีกำหนดกลับไทยเหมือนเดิมคือในวันที่ 10 สิงหาคม

ปูกลับไทย4ทุ่ม10ส.ค.

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมกับ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย จะเดินทางกลับประเทศไทย คาดว่าจะมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 10 สิงหาคม ตามที่ได้ขออนุญาต คสช.ไว้

ทนายปูชี้คดีข้าวยังไม่ตัดสิน

     นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยถึงกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เลื่อนเดินทางกลับไทยจากวันที่ 10 สิงหาคม เป็นวันที่ 31 สิงหาคมว่า ไม่ทราบเรื่อง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ให้มอบหมายให้ทีมทนายความดำเนินการเรื่องนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้พูดคุยกับนายพิชิต ชื่นบาน ทีมทนายแล้ว ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้ และคณะทำงานทุกคนยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้สั่งการให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวด้วย

      เมื่อถามว่า หากมีการตัดสินว่าพบว่าโครงการรับจำนำมีการทุจริตจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์มีแผนจะลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศเลยหรือไม่ นายนรวิชญ์กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ ยังไม่ถึงขั้นนั้น กระบวนการการตัดสินยังอีกนาน กระบวนการยังไม่ได้ขึ้นศาล และกว่าศาลจะตัดสินก็อีกนาน

อสส.ตั้งทีมดูคดีข้าวแล้ว

     นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่ ป.ป.ช.ส่งสำนวนเอกสารหลักฐานที่ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ละเลยไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวที่ทำให้รัฐเสียหาย ว่า ได้ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนที่ ป.ป.ช.ส่งมาแล้ว คณะทำงานประกอบด้วย นายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร รองอัยการสูงสุด เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน นายถาวร พานิชพันธ์ อดีตรองอัยการสูงสุด อัยการอาวุโสสำนักงานสอบสวน เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน และนางปราณี รัตนชัยวงศ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 ซึ่งคณะทำงานชุดที่กล่าวมานี้จะเป็นผู้พิจารณาสำนวนคดีดังกล่าว เพื่อเสนอตนพิจารณาภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน

    เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ร้องขอความเป็นธรรมและขอให้สอบพยานเพิ่มเติมกว่า 50 ปาก จะพิจารณาทันกรอบระยะเวลาหรือไม่ นายตระกูลกล่าวว่า แนวทางการพิจาณาของคณะทำงานจะพิจารณาจากสำนวนที่ ป.ป.ช.ยื่นเข้ามาเป็นหลัก ว่าพยานหลักฐานในสำนวนนั้นเพียงพอที่จะเอาผิดต่อตัวผู้ต้องหาได้หรือไม่ หากพบว่าพยานหลักฐานเพียงพอแล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสอบพยานเพิ่มอีกแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทางคณะทำงานก็จะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด

ออสซี่ให้ไทยทำตามโรดแมป

     นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางมาร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 47 ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า ให้สัมภาษณ์หลังหารือทวิภาคีกับนางจูลี บิชอป รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ว่าได้พูดถึงสถานการณ์การเมืองไทยซึ่งออสเตรเลียติดตามสถานการณ์ในไทยอย่างใกล้ชิดและมีความเข้าใจ ทั้งยังสอบถามว่าเขาจะสนับสนุนช่วยเหลือไทยในการเดินตามโรดแมปอย่างไรได้บ้าง อาทิ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการปฏิรูปการเมือง 

     "เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ผ่านมา แต่มองไปข้างหน้าและอยากให้ไทยเดินตามโรดแมปที่ประกาศไว้เพื่อนำพาประเทศกลับสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว ตรงไหนที่เขาจะสามารถช่วยได้หากเราเห็นว่าจะเป็นประโยชน์เขาก็ยินดี" นายสีหศักดิ์กล่าว และว่าในปลายเดือนสิงหาคมนายปีเตอร์ วาร์กีส ปลัดกระทรวงต่างประเทศออสเตรเลีย จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมกรอบการหารือทางการเมืองระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสระหว่างไทยกับออสเตรเลีย

      นายสีหศักดิ์ กล่าวด้วยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียยังได้แสดงความขอบคุณที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ส่งสารแสดงความเสียใจไปยังรัฐบาลออสเตรเลียต่อกรณีเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส เที่ยวบินเอ็มเอช 17