วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8656 ข่าวสดรายวัน

คืนนี้ 4 ทุ่มถึงไทย ปูไม่เบี้ยว แดงหนุนบิ๊กตู่นายก วีระชี้ 'จับเขียดอย่ากลัวคาว' ประยุทธ์คิกออฟปฏิรูปปท. พ้องานหนัก-เมียจะขอเลิก


ปิดงาน - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ส่งภาษามือทักทาย ระหว่าง เป็นประธานเปิดงาน "แม่ผู้ให้" ณ สวนอัมพร เมื่อวันที่ 9 ส.ค. เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 ส.ค.

     'ตู่'พ้อเหนื่อย 2 เดือนยังไม่ได้หยุดงาน เดินหน้าคิกออฟปฏิรูปอยากเห็นประชาธิปไตยแบบไทยๆ ระบุปลายเดือนส.ค.ถึงต้นก.ย.ได้นายกฯ-ครม.ใหม่ ตั้งเป้าเลือกตั้งปี 58 ตามรธน.ฉบับใหม่ แต่ไม่แน่ใจว่าจะได้เข้าคูหาหรือไม่ หวั่น ถูกค้านปมรธน.เขียนขึ้นจากอีกฝ่าย วิษณุ เผยหลังโปรดเกล้าฯ ประธานสนช. 1 สัปดาห์ได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ย้ำหลัง ครม.ถวายสัตย์ แถลงนโยบายต่อสภา เริ่มงานทันทีเดือนก.ย. วีระหนุนบิ๊กตู่นั่งนายกฯ ยกภาษิต "จับเขียดอย่ากลัวคาว" เปรย นปช.ไม่มีวันตาย กกต.เชื่อไม่มีล็อกสเป๊กกรรมการสรรหาสปช. ทนายโต้ยิ่งลักษณ์ ส่งหนังสือเลื่อนกลับไทย คนใกล้ชิดยันอดีตนายกฯปูกลับไทยแน่ 4 ทุ่มคืนนี้

บิ๊กตู่คิกออฟปฏิรูปปท.ไทย
     วันที่ 9 ส.ค. ที่สโมสรกองทัพบก วิภาวดี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดงาน "เส้นทางการปฏิรูปประเทศไทย" โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษ และมีนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช. และนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยมีตัวแทนภาคส่วนต่างๆ หน่วยงานของรัฐและผู้บริหารองค์กรเอกชนและนิติบุคคลที่สนใจส่งตัวแทนเข้ารับการสรรหาเดินทางมาร่วมงานอย่างคึกคัก
      เวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เพราะเราไม่เคยมีการปฏิรูปขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อนนับตั้งแต่เรามีประชาธิปไตยเมื่อ พ.ศ. 2475 ประเทศชาติจะก้าวไปข้างหน้าได้ต้องประกอบไปด้วย 3 เสาหลัก คือ 1.ความมั่นคง 2.เศรษฐกิจ 3.สังคมและวัฒนธรรม ประเทศไทยจะต้องเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและทัศนคติ ตลอดจนรูปแบบบริหารราชการ "มันยากที่จะอธิบายให้คนในประเทศและคนในโลกเข้าใจได้ว่าที่เราทำครั้งนี้ถูกหรือผิด แต่เราก็จำเป็นต้องทำให้ประชาธิปไตยแบบไทยๆ ของเราเดินหน้าไปได้ และบางครั้งการใช้ประชาธิปไตยแบบตะวันตกจึงไม่เหมาะสมสำหรับประเทศไทยหรือประเทศใดๆ ในอาเซียน หากเราทำไม่ได้อาเซียนก็จะไม่ต้อนรับเรา และประชาคมอาเซียนก็ไม่อาจไปต่อรองกับประชาคมโลกอื่นๆได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

วอนหยุดรุนแรงร่วมกันปฏิรูป
      หัวหน้าคณะคสช. กล่าวว่าสาเหตุที่เลือกเดือนส.ค.เป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปเพราะเราเดินทางไปตามแผนงาน และเดือนนี้เป็นเดือนมหามงคล ครบรอบวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระบรมราชินีนาถ อยากให้ประชาชนทุกคนตั้งจิตปรารถนาดีว่าจะร่วมกันปฏิรูปประเทศเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระราชินี 
      "ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคมไทยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้อำนาจตามระบอบประชาธิปไตย ที่ท้ายสุดนำไปสู่การเผชิญหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างใช้ความรุนแรงเอาอาวุธมาทำลายกัน ในที่สุดมันก็ไปไม่ได้ ทุกเหตุการณ์ต่างมีคนได้มีคนเสีย คนได้ก็ได้ประโยชน์ คนเสียก็แค้นเคือง ขอถามว่าท่านอยากให้เกิดความรุนแรงแบบนี้ต่อไปหรือไม่ ถ้าอยากให้เกิดก็ตามใจ ผมจะขอดูแลปกป้องชายแดนอย่างเดียว หากไม่อยากให้เกิดทุกคนก็ต้องหยุดทุกอย่างให้ได้ก่อน มาเริ่มปฏิรูปและแก้ปัญหาภายในประเทศ สร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในประเทศทั้งการบริหารราชการแผ่นดิน ระบบกฎหมายนิติบัญญัติ และตุลาการ" หัวหน้าคณะคสช.กล่าว 

ย้ำก้าวสู่ระยะ 2 สร้างปรองดอง

       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 3 เดือนที่ผ่านมาเราได้เดินไปตามระยะแรก ที่กระทรวงกลาโหม กอ.รมน. ทั้ง 4 ภาค กระทรวงมหาดไทย ได้จัดตั้งศปป.ทั่วประเทศ จัดกิจกรรมเดินสายให้ประชาชนคู่ขัดแย้งได้พูดคุยกันทั่วประเทศรวมแล้วเกือบ 1 แสนครั้ง เรื่องความเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมอย่าเพิ่งมาพูดกัน นับเดือนนี้ก็จะเข้าสู่ระยะที่ 2 เพื่อสร้างความปรองดอง แต่จะได้หรือไม่ขึ้นอยู่กันคนไทยทั้งประเทศที่ต้องร่วมมือ ระยะนี้ตนจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เพียงแต่อำนวยความสะดวก ไม่เข้าไปชี้นำ โดยจะนำข้อมูลของ ศปป. ไปให้ สปช. พิจารณาเพื่อหา ข้อสรุป กำหนดยุทธศาสตร์ประเทศ ทั้ง 11 ด้าน โดยจะต้องลำดับความสำคัญเร่งด่วนในการปฏิรูปให้เหมาะสมกับเวลาที่มีอยู่ สำหรับประเด็นปัญหาที่ยังไม่สามารถดำเนินการแก้ไขได้ตามกรอบเวลาที่มีนั้นอาจจำเป็นต้องจัดให้มีองค์กรหรือหน่วยงานที่กำหนดขึ้นโดยกฎหมายทำหน้าที่ดำเนินการปฏิรูปประเทศต่อไป โดยพิจารณาให้มีพันธะทางกฎหมายที่จะต้องสนับสนุนให้ มีการปฏิรูปประเทศโดยอิสระ ปราศจากการครอบงำทางการเมือง โดยจัดกำลังพลและงบประมาณ เพียงต่อการดำเนินการได้อย่างมีคุณภาพ รวมทั้งต้องจัดให้มีความเชื่อมโยงกับภาคประชาชนเพื่อให้เกิดประโยชน์ทุกด้าน

ยันต้นก.ย.มีครม.-เลือกตั้งปี 58
       หัวหน้าคณะคสช.กล่าวทิ้งท้ายว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการคัดสรรจะเริ่มวันที่ 13 ส.ค. วันที่ 14 ส.ค. เปิดรับผู้สนใจเข้าสมัคร จากนั้นวัน คสช. จะคัดสรรให้เหลือสมาชิก สปช.แบบ 11 ด้าน 173 คน และแบบจังหวัดอีก 77 คน กระบวนการทั้งหมดจะแล้วเสร็จในวันที่ 2 ต.ค. จากนั้นเข้าสู่การคัดเลือกคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ 36 คน พอล่วงสู่ปลายเดือน ส.ค. ต้นเดือน ก.ย. ก็จะมีนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เมื่อเข้าสู่ระยะ ที่ 3 ก็เดินหน้าต่อไป 1 ปี หวังว่าจะใช้เวลาน้อยที่สุด ปลายปี 2558 เราจะมีการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่จะเลือกตั้งกันได้หรือไม่ตนไม่รู้เหมือนกัน เพราะบางฝ่ายอาจจะบอกว่ารัฐธรรมนูญมีแต่อีกฝ่ายเขียนขึ้นมา ส่วนแนวทางปฏิรูปหากยังไม่เสร็จก็ไปแก้กันต่อในรัฐบาลต่อไป ปัญหาต้องแก้ให้จบ ไม่ใช่มีรัฐบาลใหม่แล้วก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม 

ครวญลูกน้องเหนื่อย-เมียจะขอเลิก
     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ความจริงแล้วในวันนี้อยากมาขอบคุณทุกคนในระยะเวลาสองเดือนที่ผ่านมา ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน อาจลำบากกันอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นตลาดโบ๊เบ๊ ลอตเตอรี่ ก็เหนื่อยกันทุกฝ่าย "อยากเรียนว่าพวกเราไม่ได้หยุดเลย ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 57 ไม่มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์กันเลย ทำงานทุกวัน ลูกน้องก็เหนื่อย ได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 400 ไม่ค่อยคุ้ม เมียก็จะเลิกอยู่แล้ว บ้านก็ไม่ได้กลับ ทำงานกันทุกวัน ไม่ว่าจะฝ่ายไหน ฝ่ายเลขาฯ ทบ. ก็มาทำงานที่นี่ และมีตัวแทนของทุกหน่วยเดินทางมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นจากกระทรวงหรือหน่วยงานทหาร ส่งไปตามงานต่างๆ ที่สั่งไปแล้วว่าเป็นอย่างไร เก็บข้อมูลมาให้ผม ผมจะได้พูดกับประชาชนได้บ้าง" หัวหน้า คสช.กล่าว

วิษณุ ยันต้นก.ย.ได้นายกฯคนที่ 29
      ต่อมาเวลา 11.00 น. นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช. กล่าวชี้แจงกระบวนการสรรหาและความจำเป็นในการมีสปช. ว่า หลังจากมีพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการสรรหา สปช.แล้วประมาณ 1 สัปดาห์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คงจะเลือกผู้ที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย ถัดไปอีก 1 สัปดาห์ นายกฯจะจัดตั้งคณะรัฐมนตรีและนำเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ เข้าทำงาน และจะแถลงนโยบายต่อสนช. ในช่วงต้นเดือน ก.ย. แม้ว่ารัฐธรรนูญชั่วคราว 2557 ไม่ได้บังคับให้แถลงแต่ถือเป็นประเพณีปฏิบัติในการปกครองที่ต้องทำ 

เผยหลังสปช.อาจมีสภาอื่นเพิ่มอีก

      ที่ปรึกษาคสช.กล่าวต่อว่า ส่วนที่ดำเนินการคู่ขนานกับการทำงานของรัฐบาลคือการแต่งตั้งสปช. ที่จะทำหน้าที่เสนอแนะแนวทางปฏิรูปประเทศ โดยฝ่ายที่ลงมือปฏิรูปคือรัฐบาล องค์กรต่างๆ ของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ ภาคเอกชน ว่าจะดำเนินการตามแนวทางนี้อย่างไร สภาปฏิรูปแห่งชาติเป็นเพียงเวทีทางการของสมาชิกสปช.จำนวน 250 คนเท่านั้น ต่อจากนี้อาจจะมีสภาปฏิรูปอื่นๆ อีกก็เป็นได้ เวทีเหล่านี้สามารถแสดงข้อคิดเห็นมายัง คสช. รัฐบาล สนช. และสปช.ได้ ทั้งนี้รัฐบาลต้องส่งเสริมให้มีการปฏิรูป ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้ 3 หน้าที่ คือ 1.บริหารราชการแผ่นดิน 2.หน้าที่ปฏิรูปประเทศ ทั้งคิดเองทำเองหรือรับที่คนอื่นเสนอมาทำ และ 3.หน้าที่สร้างความปรองดองสมานฉันท์ 

ชี้คสช.-ปชช.ต้องร่วมกันตบมือ
     นายวิษณุ กล่าวอีก สปช.ถือว่ามีข้อจำกัดอยู่บ้างคือเป็นของใหม่ เรื่องอย่างนี้ต้องช่วยกัน คสช.เป็นเพียงมือข้างหนึ่ง ประชาชนเป็นมืออีกข้างหนึ่งที่ต้องมาตบแล้วทำให้เสียงมันดังขึ้น อีกทั้งยังมีเวลาทำงานเพียง 1 ปี การเสนอแนะแก้ปัญหาในเวลาอันสั้นเป็นไปไม่ได้แน่นอน จึงต้องสกัดแต่สิ่งที่ปัจจุบันทันด่วนออกมาปฐมพยาบาลกันก่อน การทำงานของสปช.จึงต้องทำภายใต้ข้อจำกัด การทำหน้าที่ของ สปช. จึงต้องเริ่มจากการตั้งคำถาม 5 ข้อที่ต้องการคำตอบ คือ1.การปฏิรูปหมายถึงอะไร 2.ทำไมต้องปฏิรูป 3.จะปฏิรูปกันอย่างไร 4.ต้องการให้ทำอะไร และ 5.คาดหวังในผลสำเร็จในสปช.เพียงใด


เร่งยกเครื่องสิ่งที่ชำรุดก่อน
      นายวิษณุ กล่าวว่า การปฏิรูปคืออะไร รัฐธรรมนูญชั่วคราวระบุว่าหมายถึงการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น คือมาในแบบใหม่ คนที่ทำการปฏิรูปคนแรกเมื่อ 130 ปีที่แล้วคือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 รับสั่งว่าประเทศสยามนั้นเหมือนเรือหาปลาเช้าก็ออกไปค่ำก็กลับมา ทำแบบนี้เรือก็ทรุดโทรม ได้แต่ปะผุไปวันๆ เพราะต้องรีบซ่อมให้เสร็จเรือจะได้ไปหาปลา หากทำแบบนี้เรือจะอับปางลงเป็นแน่แท้ จำเป็นต้องจอดเรือ ตั้งกง ขึ้นกระดาน เปลี่ยนไม้ ตอกตะปู ขึงใบใหม่ จำเป็นต้องจอดเรือเป็นแรมเดือน คนหาปลาต้องหาเรือเล็กหรือไปทำอย่างอื่น จนกว่าจะยกเครื่องเรือใหม่เสร็จ 
      ที่ปรึกษาคสช. กล่าวอีกว่า ต่อข้อถามว่าแล้วอะไรที่ต้องปฏิรูป ต้องดูว่าอะไรที่ใช้นานก็ต้องเสียชำรุดและจำเป็นต้องซ่อมยกเครื่อง เรื่องนี้เป็นปรากฏการณ์ธรรมดา ประเทศอยู่ในรูปแบบอย่างที่เคยอยู่มานานแล้ว ต้องซ่อมพักทำนุบำรุงกันเสียที และด้วยสภาวการณ์บ้านเมือง โลกเปลี่ยน เหตุการณ์เปลี่ยน คนเปลี่ยน ระบบเปลี่ยน จึงมีคำว่าต้องคิดใหม่ทำใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบการเมือง ระบบราชการ ระบบพลังงาน การศึกษาไม่เหมือน 30 ปีที่แล้ว 

สปช.มีอำนาจชี้ขาดร่างรธน.
       ส่วนคำถามว่า จะปฏิรูปกันอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า แม้จะจัดตั้งสปช.ขึ้นมาแล้วแต่สถาบันการศึกษา องค์กรเอกชน หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และหน่วยงานอื่นๆ สามารถตั้งเวทีและเสนอแนวทางการปฏิรูปประเทศมายังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือสปช.ได้ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาในการปฏิรูปประเทศ และเห็นว่าควรมีมาตรการอะไรบางอย่างหากรัฐบาลไม่ดำเนินการด้วย และที่ถามว่าต้องการให้สปช.ทำอะไร ขออธิบายว่า สปช. มีลักษณะคล้าย สนช. แต่จำกัดหน้าที่ให้ทำ 2 เรื่อง คือเสนอแนวทางปฏิรูปและให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการยยกร่างรัฐธรรมนูญร่างเสร็จแล้ว โดยในจำนวนกรรมาธิการยกร่าง 36 คน ให้สปช.เลือกคนไปนั่งได้เป็นเสียงข้างมากถึง 20 คน เมื่อร่างเสร็จก็มาให้ สปช.ดู โดยสามารถเสนอขอแปรญัตติได้ ส่วนขั้นตอนสุดท้ายก็เป็น สปช. ที่มีอำนาจหน้าที่ลงมติว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร หากรับก็ผ่านทั้งฉบับ ถ้าไม่รับก็ตกทั้งฉบบับ การชี้ขาดตรงนี้อยู่ที่สปช. 250 คน 

ใช้วิธี'แมวมอง'เฟ้นตัวแทน 77 จว.
       นายวิษณุ กล่าวว่า ระหว่างที่กรรมาธิการยกร่างฯอยู่นั้น สปช.มีหน้าที่ต้องเสนอแนะแนวทางปฏิรูป 11 ด้าน ในใบสมัคร สปช. จะระบุให้กาว่าท่านต้องการเป็นสปช.ด้านใด เมื่อได้รับเลือกเข้ามาแล้วสามารถเปลี่ยนใจได้ หรือถูกจับไปด้านใดด้านหนึ่ง ที่จะแบ่งเป็นกรรมาธิการ 11 คณะ อาจไม่ใช่ด้านที่สมัครไว้ สำหรับที่มามี 2 ประเภท ประเภทแรก คือตัวแทนจังหวัด 77 คน ที่มาจากคณะกรรมการสรรหาจังหวัดละ 1 ชุด มีผู้ว่าราชการจังหวัด นายกอบจ. หัวหน้าศาล ประธานกกต.จังหวัด และเอ็นจีโอรวม 5 คน ผู้ที่ได้รับเลือกไม่มีการรับสมัคร แต่จะเป็นลักษณะแมวมอง ที่คณะกรรมการสรรหาต้องนั่งประชุมว่าน่าจะคัดใครเป็นสปช.จังหวัดของเรา หรืออาจใช้ดุลพินิจเปิดโอกาสให้ผู้มีความสามารถเข้ามาสมัครก็ได้ จากนั้นคัดเลือกจังหวัดละ 5 คนแล้วส่งให้คสช.เลือกเอา 1 คนเท่านั้น 

ห้ามผลัดเกาหลัง-เลี่ยงคู่สมรส
        "กรรมการสรรหาจะประกาศว่าใครสนใจให้ส่งใบสมัครมา แบบนี้ก็ได้ หรือท่านผู้ว่าฯ บางจังหวัดนึกไม่ออกให้แนะนำตัวมาทีละคน แล้วแสดงวิสัยทัศน์แล้วหาคนที่เจ๋งสุดส่งให้คสช.พิจารณา 5 คน แต่ผมล็อกอย่างเดียว คือห้ามผลัดกันเกาหลัง ว่าในคณะกรรมการสรรหาคุณเลือกผม ผมเลือกคุณ อย่างนี้ไม่ได้ เพราะเราเขียนว่ากรรมการสรรหาจะถูกเลือกเป็นสปช.ไม่ได้ และหวังใจด้วยว่าจะห้ามคู่สมรสด้วยซ้ำไป แต่ก็ไม่ได้ห้าม" นายวิษณุกล่าวและว่า ส่วนสปช.อีกประเภทเป็นส่วนของอาชีพ และผู้ที่สนใจ 173 คน เปิดกว้างทั้งประเทศ ไม่เกี่ยวกับภูมิลำเนา ที่มีคุณสมบัติระบุไว้ เป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ ไม่ต้องจบปริญญา ยังทำงานได้ เป็นข้าราชการก็ได้ จึงจำเป็นต้องสมัคร โดยให้องค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร เป็นผู้เสนอชื่อ ไม่เฉพาะสมาชิกของตัวเองเท่านั้น แต่เสนอคนดีที่ไหนก็ได้ 

แถลงนโยบายหลังครม.ถวายสัตย์
     ภายหลังการประชุม นายวิษณุให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่าหลังจากที่มีประธานสนช.แล้ว 1 สัปดาห์จะได้ตัวนายกรัฐมนตรี ว่าประมาณนั้นหรือบวกลบ เพราะเมื่อมีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานสนช.แล้ว ประธานสนช.จะนัดประชุมสมาชิกสนช.ก็คงได้ตัว แต่ในห้วงนี้เป็นช่วงวันหยุดยาว 4 วันจึงยังไม่มีการประชุม ดังนั้นเมื่อมีประธานสนช.แล้วประมาณ 7 วันหลังจากโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแล้วตามขั้นตอนก็ต้องมีนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นจึงมีคณะรัฐมนตรีตามมา และเมื่อเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้วก็ต้องแถลงนโยบายจึงเป็นรัฐบาลที่สมบูรณ์แบบ คาดว่ารัฐบาลน่าจะเข้าทำงานได้ในช่วงเดือนก.ย.

ย้ำอำนาจหัวหน้าคสช.แก้ปัญหา
      ที่ปรึกษาคสช.กล่าวว่า สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าในกฎหมาย สรรหาสปช. ระบุให้อำนาจ หัวหน้า คสช. ในการตัดสินปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากการสรรหาตัวบุคคล ขอชี้แจงว่าเป็นการยืดหยุ่นและเพื่อให้การทำงานมีความสะดวก หากเกิดปัญหาเกี่ยวกับจำนวนคนหรือระยะเวลาในการ ทำงานของสปช. หัวหน้าคสช.สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาได้โดยไม่ต้องออกเป็นกฎหมาย และหากมีปัญหาแต่ถ้ามีผู้ที่เห็นต่างก็สามารถยื่นศาลปกครองให้ตัดสินได้ เชื่อว่าจะไม่กระทบการทำงานของ สปช. เพราะเมื่อ ศาลรับเรื่องไปพิจารณาก็ให้บุคคลหรือเรื่องที่มีปัญหาชะลอหรือหยุดชะงักไปก่อน แต่เรื่องอื่นยังเดินหน้าได้ตามปกติ ทั้งนี้ยืนยันว่า การแต่งตั้งสมาชิกและประธาน สปช. จะไม่มีการล็อบบี้อย่างแน่นอน และมองว่าคนที่มาทำหน้าที่ประธาน สปช.ได้ต้องมีความอดทนสูง เพราะต้องเข้ามาควบคุมสมาชิกที่มาจากหลายภาคส่วน ซึ่งต้องมีความเห็นที่แตกต่างกัน

กกต.เชื่อไม่มีล็อกสเป๊กกก.สรรหา
       นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงขั้นตอนการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า จะเปิดให้นิติบุคคลเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมเป็นคณะกรรมการสรรหา 11 คณะ ระหว่างวันที่ 14 ส.ค. -2 ก.ย. 
     ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองใหญ่ประกาศไม่ร่วมเสนอชื่อ นายภุชงค์กล่าวว่ามีพรรคการเมืองทั้งหมด 73 พรรค จึงอาจมีพรรคอื่นส่งและจะไม่เลือกปฏิบัติในการ คัดเลือก เพราะกรรมการสรรหา 11 ด้าน จะเลือกคนมีความรู้มีประสบการณ์เข้ามาทำงาน และเชื่อว่าจะไม่มีการบล็อกโหวตหรือล็อกสเป๊กกรรมการสรรหาทั้ง 11 ด้าน และสปช.

อธิบดีปกครองเผยกก.จว.พร้อม
     นายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวถึงความพร้อมของจังหวัดในการสนับสนุนสปช.ว่า กระบวนการสรรหาในระดับจังหวัดเป็นหน้าที่ของกรรมการที่ประกอบด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด และตัวแทนองค์กรภาคเอกชน จะดำเนินการคัดเลือกในส่วนที่กรมการปกครองรับผิดชอบโดยจัดประชุมตัวแทนภาคส่วนต่างๆ 5 กลุ่มเพื่อพูดคุยถึงแนวทางปฏิรูป 11 ประเด็น เพื่อกระตุ้นและระดมความเห็นของประชาชนให้เข้ามามีส่วนร่วมแสดงความจำนงเป็นสมาชิกสปช. โดยกรมการปกครองรวบรวมความเห็นจากการประชุมเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่ปลายเดือนก.ค.ที่ผ่านมา จะนำเสนอความเห็นแนวทางปฏิรูปที่รวบรวมไว้ผ่านตัวแทนสปช.จังหวัดเข้าสู่ที่ประชุมสปช. ประชาชนภาคส่วนต่างๆ ตื่นตัวค่อนข้างมาก เห็นได้จากผู้มาร่วมประชุมในแต่ละจังหวัดมีจำนวนมาก 

วีระหนุนบิ๊กตู่นั่งนายกฯ
       ด้านนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำนปช.ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมงานเส้นทางปฏิรูปประเทศไทยว่า ไม่มีความเห็นต่อแนวคิดกระบวนการขั้นตอนสภาปฏิรูปฯ ส่วนตัวต้องการเห็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมที่ถูกเรียกว่าสองมาตรฐาน ส่วนกรณีที่ตนถูกพล.อ.ประยุทธ์พูดถึงเรื่องคดีความนั้น รู้สึกประหลาดใจเพราะส่วนตัวไม่เคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพล.อ.ประยุทธ์ แต่พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเพราะตนขึ้นเวทีวิพากษ์พล.อ.ประยุทธ์ในลักษณะกัลยาณมิตร ส่วนตัวพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง 
       ผู้สื่อข่าวถามถึงความเหมาะสมที่พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯ นายวีระกานต์กล่าวว่าเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ยึดอำนาจและเป็นถึงหัวหน้าคสช.ก็ควรเป็นนายกฯด้วยตนเอง โดยไม่ต้องกังวลถึงคำครหาว่าปฏิวัติเพื่อตัวเองเหมือนอย่างที่ว่าจับเขียดอย่ากลัวคาว ต่อข้อถามถึงทิศทางการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง นายวีระกานต์กล่าวว่า ตอนนี้ทุกคนก็เงียบ ตนตอบแทนไม่ได้ เพราะการจะเคลื่อนไหวต้องเป็นมติของนปช. อย่างไรก็ตามนปช.ไม่มีวันตายเพราะถือเป็นเมล็ดพันธุ์ที่แตกแขนง ส่วนจะเคลื่อนไหวหรือยุติบทบาทตามคำเรียกร้องของพล.อ.ประยุทธ์ที่ต้องการให้กลุ่มต่อต้านเลิกราวีนั้นตนก็ตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมว่าขัดกับความรู้สึกของประชาชนหรือไม่ 

ลีน่าจังขอแจมสภาปฏิรูป
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางลีนา จังจรรจา หรือ ลีน่าจัง เจ้าของสถานีวิทยุโทรทัศน์ฮอตทีวี ซึ่งถูกคำสั่ง คสช.ปิด สถานีโทรทัศน์ ของตน เดินทางมาที่งานในช่วงเช้าเพื่อขอเข้าร่วมงานและเสนอชื่อสปช. โดยกล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนพรรคการเมืองต้องการเข้าเป็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ แต่ถูกสารวัตรทหารควบคุมตัวไว้ และขอให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดให้ และไม่อนุญาตให้เข้าร่วมงาน 
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวจบและเดินทางกลับ ทหารจึงอนุญาตให้นางลีน่าจังเข้าไปในงานได้ โดยได้ยื่นหนังสือกรณีบริษัทเอกชนรายหนึ่งเรียกเก็บค่าสัญญาณโทรทัศน์ไม่เป็นธรรม มีตัวแทนเจ้าหน้าที่ทหารรับมอบ นอกจากนี้นางลีน่าจังยังเปิดเผยว่า ตนอยากเป็น สปช. และจะเดินทางไปสมัครกับ กกต.ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ เพราะอยากได้เงินเดือน สปช.เนื่อง จากธุรกิจที่ตนทำอยู่ประสบภาวะขาดทุน จากการถูกปิดโดย คสช.

40 ส.ว.ขอเว้นสนช.แจงทรัพย์สิน
       นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. กล่าวว่าขณะนี้ สนช.หลายคนยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือไม่ เพราะหากต้องยื่นต้องยื่นเมื่อไหร่ จะเป็นหลังโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง หรือยื่นนับตั้งแต่การปฏิญาณตน ป.ป.ช. ต้องให้ความชัดเจนเรื่องนี้ เพราะอาจมีปัญหากับ สนช. บางคน โดยเฉพาะสนช.ที่ถือครองหุ้นเกินร้อยละ 5 ก่อนเข้ารับตำแหน่ง แต่ยังไม่ได้โอนหุ้นนั้นให้กับผู้อื่น เนื่องจากตัวเองไม่รู้ว่าจะได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช. นอก จากนี้ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มาตรา 41 ยังระบุว่ากรณีที่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดกำหนดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง มิให้นำบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นมาใช้บังคับแก่ ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งในคณะ คสช. สนช. และ สปช. สามารถนำมาใช้เป็นข้อยกเว้นในกรณีนี้ได้หรือไม่

ทนายโต้ยิ่งลักษณ์เลื่อนกลับไทย
      จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ทีมงานส่วนตัวยื่นหนังสือผ่านสำนักเลขา ธิการ คสช. ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อขอขยายเวลาเดินทางกลับประเทศไทยจากวันที่ 10 ส.ค. เป็นวันที่ 31 ส.ค.นั้น นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความน.ส. ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้มอบหมายให้ทีมทนาย ความดำเนินการเรื่องนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้พูดคุยกับนายพิชิต ชื่นบาน ทีมทนาย ความถึงเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้ และคณะทำงานทุกคนยืนยันว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ไม่ได้สั่งการให้ดำเนินการเรื่อง ดังกล่าวด้วย
     ผู้สื่อข่าวถามว่า หากตัดสินพบว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตจริง น.ส. ยิ่งลักษณ์มีแผนจะลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศหรือไม่ นายนรวิชญ์กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ ขณะนี้กระบวนการยังไม่ได้ขึ้นศาลและกว่าศาลจะตัดสินก็อีกนาน

ยันปูกลับไทยแน่ 4 ทุ่ม 10 ส.ค.
      รายงานข่าวจากคนใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์แจ้งว่า ยังไม่เห็นหนังสือขอเลื่อนการเดินทางกลับประเทศไทยจากวันที่ 10 ส.ค. เป็นวันที่ 31 ส.ค.ตามที่ปรากฏเป็นข่าว และยัง ไม่ได้รับการประสานงานใดๆ ในเรื่องนี้ เชื่อมั่นว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับประเทศไทยตามกำหนดเวลาที่แจ้งไว้ ส่วน ที่ระบุเป็นข่าวว่าจะขอขยายเวลาอยู่ต่างประเทศเพื่อรอผลการพิจารณาของอัยการสูงสุดว่าจะสั่งฟ้องเรื่องคดีจำนำข้าวหรือไม่นั้นเป็นการคาดการณ์กันไปเอง เพราะอดีตนายกฯ ยืนยันว่าจะกลับมาสู้คดีแน่นอน
     ความคืบหน้าล่าสุดเวลา 19.30 น. วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคนใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์เปิดเผยว่า อดีตนายกฯ จะ เดินทางกลับถึงไทยตามกำหนดเดิมแน่นอน โดยคาดว่าจะมาถึงประเทศไทยเวลาประมาณสี่ทุ่มของวันที่ 10 ส.ค.

บิ๊กโชยปัดข่าวปูขอเลื่อนกลับ
      ที่สโมสรทหารบก พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมาน ฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) กล่าวปฏิเสธว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ประสานหรือส่งหนังสือขอขยายเวลาเดินทางกลับไทยมายังพล.อ.ประยุทธ์ตามที่มีข่าว กำหนดการเดิมที่ขออนุญาตเดินทางไปพักผ่อนในต่างประเทศ ไว้ถึงวันที่ 10 ส.ค.นี้ยังคงยืนยันเหมือนเดิม น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ติดต่อใดๆ มาทั้งสิ้น
      ด้านพ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษก คสช. เปิดเผยว่า ทาง คสช.ยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าวหรือหนังสือใดๆ เป็นเพียงกระแสข่าว

อสส.เปิดชื่อคณะทำงานคดีจำนำข้าว 
       นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด กล่าวถึงความคืบหน้าคดีที่คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งสำนวนเอกสารหลักฐานที่ชี้มูลความผิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ละเลยไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวที่ทำให้รัฐเสียหายว่า ขณะนี้ตนตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนที่ ป.ป.ช. ส่งมาแล้ว คณะทำงานประกอบด้วยนาย วุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์ บริภาร รองอัยการสูงสุด เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน นายถาวร พานิชพันธ์ อดีตรองอัยการสูงสุด อัยการอาวุโสสำนักงานสอบสวน เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน และนางปราณี รัตนชัยวงศ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 ซึ่งคณะทำงานชุด ที่กล่าวมานี้จะเป็นผู้พิจารณาสำนวนคดี ดังกล่าวเพื่อเสนอตนพิจารณาภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน
       ต่อข้อถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ร้องขอความเป็นธรรมและขอให้สอบพยานเพิ่มเติมถึงกว่า 50 ปาก จะพิจารณาทันกรอบระยะเวลาหรือไม่ นายตระกูลกล่าวว่าแนวทางการพิจารณาของคณะทำงานจะพิจารณาจากสำนวนที่ ป.ป.ช.ยื่นเข้ามาเป็นหลักว่าพยานหลักฐานในสำนวนนั้นเพียงพอที่จะเอาผิด ผู้ต้องหาได้หรือไม่ หากพบว่าพยานหลักฐานเพียงพอแล้วก็ไม่จำเป็นต้องสอบพยานเพิ่มอีก ทั้งนี้คณะทำงานจะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด

บิ๊กเจี๊ยบแจงต่างชาติเชื่อมั่นไทย
       ที่โรงแรมเดอะสุโกศล พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ในฐานะรองหัวหน้าคสช. ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานเปิดการประชุม Thailand Pacific Island Countries Forum ครั้งที่ 1 โดยมีนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีจากหลายประเทศเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่าเป็นการประชุมของประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกซึ่งมีความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ สังคม การบรรเทาสาธารณภัย และการเชื่อมโยงทางการค้าที่ดี หลายประเทศเชื่อมั่นประเทศไทย โดยมีรัฐมนตรีจากออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์มาร่วมประชุมด้วย วันนี้ยืนยันได้ว่าต่างประเทศมั่นใจประเทศไทย โดยเฉพาะการรักษาพยาบาลและภาพรวมของประเทศไทยที่จะเติบโตในอนาคต
       พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย อาทิ ยูเอสเอบีซี ยุโรป อียู ซึ่งทางประธานกรรมาธิการกลุ่มประเทศอียูเข้าพบตนเมื่อเร็วๆ นี้ ทุกประเทศเริ่มเข้ามา พร้อมยืนยันที่จะลงทุน เพราะเห็นว่าการประสานงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญมีความมั่นคงซึ่งหลายๆ ประเทศที่เข้ามาได้เห็นและรู้ถึงการแก้ปัญหาของประเทศ 

เล่าเรื่องจริงไม่ได้โม้หรือสร้างภาพ
        รองหัวหน้าคสช.กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการชี้แจงกับประเทศต่างๆ ถึงการแก้ไขปัญหาของประเทศไทย รวมถึงกระทรวงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเล่าเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ไม่ได้ไปโม้หรือสร้างภาพอะไรที่เกินเลย ประเทศไทยเป็นประเทศที่พิเศษ สามารถทำความเข้าใจกัน กลับมารักสามัคคีกันใหม่ เดินไปข้างหน้าด้วยความเรียบร้อย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พูดว่าอยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไรก็ต้องเข้ามาร่วมกันทำ มาพูดกัน การันตีได้ว่าในอนาคตเราจะเดินไปตามที่เราทุกคนต้องการ ที่สำคัญต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำ

เหมือนคนใกล้ตายแต่กลับฟื้น
      ต่อข้อถามว่า ต่างประเทศเริ่มมั่นใจประเทศไทยมากขึ้นหรือยัง พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจเช่นนั้นเพราะตนรับผิดชอบเรื่องต่างประเทศ โดยเพิ่งเดินทางไปรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์จากกษัตริย์บรูไน ถือว่าเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด ผบ.ทหารสูงสุดสิงคโปร์ยังกล่าวชื่นชมประเทศไทยที่เริ่มเป็นปึกแผ่นขึ้นเรื่อยๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียนทั้งหมด ฉะนั้นใครที่เป็นเพื่อนบ้านเราแล้วไม่เข้าใจก็ต้องเข้าใจ เพราะโอกาสที่เขาจะเข้ามาทำการค้าการลงทุนจะได้เป็นประเทศแรกและเร็วขึ้น
       "การยึดอำนาจบริหารประเทศของไทยแตกต่างไม่เหมือนชาวบ้าน เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าไม่มีรถถัง ไม่มีทหารเดินเป็นแถว แต่เหตุการณ์สงบเรียบร้อย เรากลับเข้าสู่ระบบเดิม เหมือนกับคนที่กำลังจะตายไม่หายใจแต่กลับฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง ขณะนี้เราเริ่มวิ่งได้แล้ว ทุกประเทศ เริ่มเชื่อมั่น ทุกคนที่พูดเขาพูดในสิ่งที่เขาเห็น ไม่ว่าใครก็ตามไม่ต้องไปโม้ แต่ขอให้พูดตรงๆ ว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร จากวันที่ 22 พ.ค.จนถึงวันนี้เป็นอย่างไร เอาความจริงมาพูดกัน" ผบ.สส.กล่าว

ศูนย์ทนายออกแถลงการณ์หาชินจัง
      วันเดียวกัน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์ระบุว่า จากการติดตามกรณีนายยงยุทธ บุญดี หรือชินจัง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายเเก่ทรัพย์ของผู้อื่น มีเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถูกนำตัวมาแถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยในระหว่างการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่แจ้งว่านายยงยุทธ บุญดี เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงโดยยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่เวทีชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และอื่นๆ รวม 11 ครั้ง
       ภายหลังจากการแถลงข่าวญาติไม่ได้ดำเนินการประกันตัวแต่อย่างใด และไม่ทราบข่าวคราวของนายยงยุทธอีกเลย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้พยายามติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ เจ้าพนัก งานตำรวจระดับสูงที่มีส่วนในการแถลงข่าว เจ้าพนักงานตำรวจท้องที่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้รับข้อมูลเบื้องต้นว่าไม่มีรายชื่อนาย ยงยุทธ บุญดี ปรากฏว่าอยูในการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ซึ่งยังคงปฏิเสธความรับรู้ว่านายยงยุทธถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใด แต่ได้แจ้งว่ามีการประกันตัวออกไปโดยไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดในการประกันตัวและได้ติดต่อให้เจ้าหน้าที่ทหารมาพบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้แสดงเอกสารว่านายยงยุทธสมัครใจอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่เอง

เรียกร้องเผยสถานที่ควบคุมตัว
      แถลงการณ์ระบุต่อว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมีความห่วงกังวลถึงพฤติการณ์ในการมาประกันตัวของบุคคลซึ่งไม่ใช่ญาติ และการควบคุมตัวนายยงยุทธไม่สามารถติดต่อญาติได้ พฤติการณ์ดังกล่าวอาจกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายและสิทธิเสรีภาพของนายยงยุทธ ทั้งนี้ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ 19 ระบุว่า บุคคลใดจะถูกจับกุมหรือคุมขังโดยพลการมิได้ บุคคลใดที่ถูกจับกุมหรือควบคุมตัวในข้อหาทางอาญา ย่อมต้องถูกนำตัวไปศาลโดยพลัน เพื่อที่จะได้รับการพิจารณาคดีภายในเวลาอันสมควร แต่การควบคุมตัวนายยงยุทธ บุญดี ในลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายการควบคุมตัวโดยไม่ชอบและถูกบังคับให้หายสาบสูญซึ่งขัดกับหลักการด้านสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
       "ดังนั้น ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการจับกุม การควบคุมตัว และการแถลงข่าวการดำเนินคดีกับนายยงยุทธเปิดเผยสถานที่ควบคุมตัวโดยทันทีและคุ้มครอง นายยงยุทธได้เข้าถึงสิทธิในการพบญาติ สิทธิในการพบหารือทนายความ สิทธิในกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนาย ยงยุทธ เนื่องจากปัจจุบันนายยงยุทธมีสถานะเป็นเพียงผู้ต้องหา ยังไม่มีการฟ้องร้อง ดำเนินคดีหรือมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็น ผู้กระทำความผิดแต่อย่างใด" แถลงการณ์ระบุตอนท้าย

บิ๊กตู่เปิดงานเทิดสมเด็จราชินี
      เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่อาคารสวนอัมพร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานเปิดงาน "หัตถศิลป์แม่นิรมิตเมือง แม่ผู้ให้" เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ พร้อมนางอรัญญา แสงสิงแก้ว ภริยา และม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมนางอัมพร ดิศกุล ภริยา ต้อนรับ
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถวายพระพรและนำถวายคำนับพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ แล้วเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ก่อนกล่าวเปิดงาน และนำกล่าวถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา 12 สิงหาคม 2557 พร้อมร่วมร้องเพลงสรรเสริญ พระบารมี เพลงสดุดีมหาราชา ก่อนเดินชมการแสดงและกิจกรรมภายในงาน อาทิ โขน และนิทรรศการศาลาทรงงานและหมู่บ้านชาวเขาจำลอง จากนั้นลงนามถวายพระพรในดอกมะลิสีทอง ร่วมร้อยดอกมะลิสีทอง และชมการแสดงแสง สี เสียง ก่อนเดินทางกลับเวลา 20.00 น.

ย้ำกำนัน-ผญบ.ขานรับปฏิรูป
      วันที่ 9 ส.ค. ที่วังวรดิศ ถนนหลานหลวง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับคณะกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม ประจำปี 2557 จำนวน 306 คน จาก 76 จังหวัด ในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ณ วังวรดิศ ถนนหลานหลวง เนื่องในวันสถาปนากำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 10 ส.ค. ว่า สถาบันกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านเป็นสถาบันคู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นความภาคภูมิใจของประชาชนคนไทย กำนัน-ผู้ใหญ่บ้านต้องช่วยกันเสริมสร้างความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวให้กลับคืนสู่ประเทศไทยดั่งเช่นในอดีต ให้สมกับที่ครั้งหนึ่งนานาอารยประเทศยกย่องประชาชนชาวไทยเป็นแบบอย่างของชนชาติที่สมัครสมานสามัคคี มีอัธยาศัยไมตรีจิตที่เป็นเลิศ ต้องไม่ให้แนวคิดทางการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์มาแบ่งแยกความรักของคนไทย อีกประการสำคัญคือต้องช่วยผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด นายอำเภอทั้ง 878 อำเภอ และทุกส่วนราชการดำรงรักษาระบบราชการส่วนภูมิภาคให้ เข้มแข็ง และเป็นคำตอบในการบำบัดทุกข์-บำรุงสุขประชาชน พร้อมกับปรับปรุงบทบาทข้าราชการ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหาร อปท. ให้สอดคล้องกับเส้นทางการปฏิรูปประเทศไทย