วันที่ 08 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8654 ข่าวสดรายวัน

พระดำรัส ให้ฟื้นฟูเสถียรภาพปท. 
โหวตพรเพชรปธ.สนช. 'สุรชัย-พีระศักดิ์'รองฯ สมคิดท้าชน'ชาญวิทย์'


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯแทนพระองค์ ในรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 

      ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯแทนพระองค์ในรัฐพิธีเปิดประชุมสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทรงมีพระราชดำรัสให้สนช.ร่วมกันจัดทำรัฐธรรมนูญและบัญญัติกฎหมาย เพื่อให้การปกครองดำเนินไปตามวิถีแห่งระบอบประชาธิปไตย และเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพของประเทศทุกๆ ด้านให้บังเกิดความมั่นคงและความวัฒนาผาสุกขึ้นแก่ประเทศชาติและประชาชน เลือกวันนี้'พรเพชร'นอนมานั่งประธาน โหวต'สุรชัย-พีระศักดิ์'เป็นรองปธ.คนที่ 1-2 อธิการบดีธรรมศาสตร์'สมคิด'ท้าลั่น'ชาญวิทย์-ยุกติ'มาคุยตัวต่อตัว อย่าเอาแต่วิจารณ์ผ่านออนไลน์

สนช.คึกคักรัฐพิธี-"เสธ.ยอด"ลา
        วันที่ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่รัฐสภาว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทยอยเดินทางมาอาคารวุฒิสภา เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อาทิ นายพรเพชร วิชิตชลชัย พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย นายนรนิติ เศรษฐบุตร นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ นายตวง อันทะไชย นายพีระศักดิ์ พอจิต พล.ท.ธีรชัย นาควานิช เป็นต้น ขณะที่ นายสม จาตุศรีพิทักษ์ เดินทางมารายงานตัวเป็นคนสุดท้าย หลังเดินทางกลับจากต่างประเทศ
      นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สนช. เปิดเผยว่า พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย หรือเสธ.ยอด ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิก สนช.แล้ว หลังมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เนื่องจากเคยถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากการยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย ทำให้ขัดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ม.8(4) ที่ว่าด้วยเรื่องของคุณสมบัติต้องห้ามของ สนช. 
      ขณะที่ พล.ต.อินทรัตน์ ยอมรับว่า ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิก สนช.ตั้งแต่ วันที่ 4 ส.ค. เนื่องจากมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ โดยส่วนตัวไม่มีปัญหาแม้จะมีรายชื่อหรือไม่ก็พร้อมทำงานเพื่อประเทศชาติ มีเพื่อน สนช. หลายคนทาบทาบให้ไปเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ตนก็พร้อมทำงาน และขณะนี้มีการแข่งขันกีฬายูธโอลิมปิก ต้องพานักกีฬาไปแข่งที่เมืองนานจิง สาธารณรัฐประชาชนจีน
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าปัจจุบันมีสมาชิก สนช.เพียง 197 คน

ปีติ"สมเด็จพระบรมฯ"เสด็จฯเปิด
      เวลา 15.00 น. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุม สนช. ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะคสช. ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ตลอดจนคณะทูตานุทูตประเทศต่างๆ เข้าร่วม
      เวลา 15.30 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ โดยรถยนต์พระที่นั่งไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต ต่อมาเสด็จออก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงยืนหน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร มหาดเล็ก รัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี 

บรมราโชวาท-ทรงย้ำวิถีปชต.
       เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ใน พระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติใจความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรง พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพ เจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันนี้ การเรียกประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติครั้งนี้ควรจะนับเป็นนิมิตหมายของการเริ่มต้นที่ดี เพราะตั้งแต่วาระนี้เป็นต้นไป ท่านทั้งหลายจะได้มีโอกาสประชุมปรึกษาหารือกัน ทั้งในการจัดทำรัฐธรรมนูญและการบัญญัติกฎหมาย เพื่อให้การปกครองดำเนินไปตามวิถีแห่งระบอบประชาธิปไตย และเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพของประเทศทุกๆ ด้านให้บังเกิดความมั่นคงตลอดไป และความวัฒนาผาสุกขึ้นแก่ประเทศชาติและประชาชน 
       บรรดาสมาชิกแห่งสภานี้จึงควรจะได้ตระหนักถึงความสำคัญในภาระหน้าที่ของตน และรีบเร่งพิจารณาดำเนินการให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและรวดเร็ว จึงขอให้ทุกท่านร่วมแรงร่วมใจ ร่วมความคิดอ่านกัน ปฏิบัติภาระหน้าที่เต็มสติปัญญาความสามารถ ด้วยความสุจริต บริสุทธิ์ใจ ให้งานทุกด้านดำเนินไปอย่างเที่ยงตรง ถูกต้อง ทั้งตามหลักนิติธรรมและเหตุผลความชอบธรรม ทั้งสำเร็จผล เป็นประโยชน์อันพึงประสงค์ คือความผาสุกมั่นคงของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง 
      บัดนี้ ได้เวลาอันเป็นมงคลแล้วในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้ทำหน้าที่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    จากนั้นชาวม่านไขพระวิสูตร ชาวพนัก งานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี สมเด็จพระบรม โอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินลงจากพระที่ นั่งอนันตสมาคม ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ 

อธิการฯนิด้าหนุน'บิ๊กตู่'นายกฯ
      นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ สมาชิก สนช. กล่าวถึงการหารือกันของสนช.ในการเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งประธาน และรองประธานสนช.ว่า คงมีการหารือกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่ใช่การหารือกันทั้งหมด ส่วนตัวเห็นว่านายพรเพชร วิชิตชลชัย และนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย มีความเหมาะสมทั้งสองคน เพราะมีความรู้ และมีประสบการณ์ 
      เมื่อถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายประดิษฐ์กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าเหมาะสม เราต้องเข้าใจว่า คสช.เข้ามาจัดระเบียบในสังคมให้มีความเรียบร้อย ซึ่งการจัดการตรงนี้ต้องเป็นผู้ที่มีอำนาจ


อาวุโสสุด - นายสมพร เทพสิทธา อายุ 89 ปี สมาชิก สนช.อาวุโสสูงสุด ขณะออกจากอาคารรัฐสภา เพื่อเดินทางไปร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 7 ส.ค.

'กล้านรงค์'ดันกฎหมายปปช.
       เวลา 16.00 น. ที่รัฐสภา นายกล้านรงค์ จันทิก สมาชิก สนช.กล่าวว่า การประชุม สนช.วันที่ 8 ส.ค.นี้ มีวาระการเลือกประธานสนช.และรองประธานสนช.อีก 2 คน รวมถึงการกำหนดการประชุมว่าในหนึ่งสัปดาห์จะประชุมกันกี่วัน ส่วนที่มีการกล่าวว่า สนช.ที่เป็นข้าราชการประจำควรมาประชุมให้ครบกำหนดการประชุมนั้น เมื่อมีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ลงมาแล้วก็ต้องมาทำหน้าที่ ต้องแบ่งหน้าที่ว่ามีหน้าที่ในสนช.อย่างไรบ้าง 
     นายกล้านรงค์ กล่าวว่า หน้าที่ของสมาชิกสนช.คือพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ที่ขณะนี้เท่าที่ทราบประมาณ 40 กว่าฉบับ ประธานจะพิจารณาว่าจะเอาเรื่องอะไรเข้าพิจารณา และสมาชิกสามารถเสนอร่าง พ.ร.บ.ได้ ในฐานะที่ตนเคยเป็นอดีตคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็ต้องดูว่ามีกฎหมายที่จำเป็นจะต้องออกตามอนุสัญญาที่ทำกับสหประชาชาติ เรื่องการต่อต้านการทุจริตที่ต้องออกเป็นกฎหมายหลายฉบับ ตรงนี้เป็นความเร่งด่วน เพราะเราจะถูกต่างชาติประเมิน ซึ่งป.ป.ช.เคยเสนอมาแล้วในสมัยที่แล้ว แต่ยังไม่ผ่านการพิจารณา ทั้งที่ต้องดำเนินการให้เสร็จตั้งแต่ปี 2556 ดังนั้นคงต้องดำเนินการต่อ

'ไพบูลย์'ชี้'บิ๊กตู่'ต้องนั่งนายกฯ
       ที่วัดพิชยญาติการามวรวิหาร พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในโครงการ "ศาสนธรรมสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดพื้นที่กรุงเทพมหานคร" มี สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และเจ้าอาวาสวัดพิชยญาติ การามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
      พล.อ.ไพบูลย์กล่าวภายหลังงานถึงกระบวนการภายหลังการเปิดประชุม สนช.ว่า วันที่ 8 ส.ค. จะมีการเลือกประธาน สนช. จากนั้นประธาน สนช.จะเป็นผู้พิจารณาเลือก นายกฯ การได้นายกฯ ต้องได้ประธานสภาที่ได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมก่อน ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง โดยวันที่ 8 ส.ค. ถ้าได้ชื่อประธานสภาแล้วก็จะนำชื่อให้หัวหน้า คสช. และมีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแล้วถึงจะการเลือกนายกฯ เมื่อ ได้ชื่อนายกฯ แล้วก็จะนำชื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อม ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน 
      "ถ้าถามว่าใครจะเป็นนายกฯ ส่วนตัวเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความเหมาะสม ที่กล่าวอย่างนี้ต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่มีการควบคุมอำนาจการบริหารประเทศ และได้สัญญาประชาคมกับพี่น้องประชาชนว่าจะนำพาประเทศชาติสู่ความปลอดภัย และจะมีความสุข" พล.อ.ไพบูลย์กล่าว 

ทำหน้าที่ 2 เดือนประชาชนพอใจ
      พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา การบริหารประเทศอยู่ภายใต้การดูแลของ คสช. และจากการสำรวจความเห็นพี่น้องประชาชนพบมีความพึงพอใจ ซึ่งเกิดจากประชาชนพอใจการแก้ไขปัญหา ไม่เฉพาะการปรองดอง แต่มีเรื่องของเศรษฐกิจด้วย หัวหน้า คสช. ได้นั่งอยู่ในฐานะเหมือน นายกฯ สามารถบริหารราชการโดยไม่มีข้อบกพร่อง และพยายามศึกษางานของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ จากความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นช่วงระยะเวลาหนึ่ง สิ่งที่สะท้อนกลับจากประชาชนก็มีความพอใจ จึงเห็นว่าหัวหน้า คสช.เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ
      "หัวหน้า คสช.ไม่ได้เติบโตด้านบริหาร แต่มีการศึกษาและใช้คนเป็นในการบริหารบ้านเมือง เห็นได้จากการแถลงผลงานในรายการคืนความสุขให้ประชาชน ท่านเข้าใจการบริหารงานของประเทศชาติ หากแถลงออกมาแล้วประชาชนร้องยี้ก็จะเกิดผลกระทบย้อนมาสู่ท่านเอง ทุกครั้งที่ท่านแถลงผมเข้าใจว่าท่านเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและสามารถแก้ไขได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการประคับประคองบริหารประเทศเป็นไปตามโรดแม็ปของ คสช. ที่ผ่านๆ มาท่านก็ทำได้ดีในการเข้ามาบริหารประเทศ" พล.อ.ไพบูลย์กล่าวและว่า อยากให้ประชาชนพิสูจน์การบริหารงานประเทศของหัวหน้า คสช. ไม่ใช่ตนเป็น คสช.แล้วจะมาพูด แต่อยากให้เปรียบเทียบทุกอย่างที่เกิดขึ้น ขอให้มองด้วยความเป็นธรรม คสช.จะพยายามสร้างสิ่งที่ดีงาน ถูกต้อง ด้วยความสุจริตและยุติธรรมตามที่ได้เคยพูดไว้

แค่ยิ้ม-ปัดตอบนั่งรมว.ยุติธรรม
       พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงการคณะกรรมการ 11 คณะที่จะคัดสรรสปช. ว่า ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว คสช.จะเป็นผู้คัดเลือกบุคคลมาเป็น 11 คณะ ให้ทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการคัดสรร โดยคัดเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับบุคคลที่ถูกคัดเลือกในด้านต่างๆ ทั้งด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม คนที่ได้รับการคัดเลือกต้องมีความรู้ในสาขานั้นๆ แต่เรื่องนี้คงต้องคอย หลังจากนี้จะตั้งหัวหน้าคณะขึ้นมาก่อนแล้วต่อไปคงมีกระบวนการคัดสรร อย่างไรก็ตามคิดว่าขณะนี้คงเริ่มดำเนินการแล้วส่วนจะประกาศเมื่อใดต้องเฝ้าดู ไม่มั่นใจว่าสมบูรณ์หรือยังสำหรับบุคคลที่จะได้แต่งตั้งในแต่ละคณะ
      เมื่อถามว่า ส่วนตัวอยากได้คณะรัฐมนตรีมาบริหารงานแบบใด พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า อยากได้ ครม.ที่เข้ามาบริหารประเทศ แต่ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องเป็นเรื่องของนายกฯ ที่จะเลือก ครม. เข้าใจว่าหัวหน้า คสช.มีรายชื่อคนที่อยู่ในใจอยู่แล้ว และเชื่อว่าสามารถคัดเลือกคนที่จะมาดูแลประเทศชาติได้ อยากให้มีการประกาศนายกฯ อย่างเป็นทางการก่อน
       เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวจะได้รับพิจารณาเป็น รมว.ยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ ยิ้มโดยไม่ตอบคำถาม
      ที่สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกองทัพบก ทีมโฆษก คสช. กล่าวกรณี น.ส.กริชสุดา คุณะเสน สหายสุดซอย เดินทางออกไปต่างประเทศเกินกำหนดระยะเวลาที่แจ้งไว้กับทาง คสช.ว่า ต้องดูว่าเหตุผลใด น.ส.กริชสุดา ถึงทำผิดและไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและหนังสือที่ขออนุญาตกับ คสช.ไว้ ถือว่าเป็นการไม่ให้ความร่วมมือ คสช.อาจต้องเรียกมาว่ากล่าวตักเตือน และให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ต้องรอฟังเหตุผล น.ส.กริชสุดา ก่อนว่าทำไมถึงไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้

'พรเพชร'นอนมา-'สุรชัย'รองปธ.
       สำหรับ การเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ในวันที่ 8 ส.ค. ที่มีวาระการเลือกประธานและรองประธานสนช. นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่สมาชิกสนช.จะเดินทางไปร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติ บัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 ที่พระที่นั่งอนันตสมาคมนั้นสมาชิกสนช.ได้จับกลุ่มพูดคุยที่ห้องรับรองชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2 ถึงการเลือกประธานและรองประธานสนช. ซึ่งขณะนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่าจะให้ความไว้วางใจนายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานสนช. โดยจะเสนอชื่อนายพรเพชรต่อที่ประชุมสนช.เพียงคนเดียวเท่านั้น เช่นเดียวกับตำแหน่งรองประธานสนช.คนที่ 1 ที่จะเสนอชื่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นมาประกบเช่นกัน
     ส่วนตำแหน่งรองประธานสนช.คนที่สอง ที่มีชื่อนายพีระศักดิ์ พอจิต อดีตส.ว.อุตรดิตถ์ จะมาดำรงตำแหน่งดังกล่าวก่อนหน้านี้ ปรากฏ ล่าสุดฝ่ายทหารต้องการผลักดันให้สมาชิกสนช.สายทหาร มาดำรงตำแหน่งรองประธานสนช.คนที่ 2 เพื่อให้มีโควตาจากสายทหารมาดำรงรองประธานสนช. มีกระแสข่าวว่า จะส่ง พล.อ.นพดล อินทปัญญา ที่ปรึกษาคสช. ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นตท.6 ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะที่ปรึกษาคสช. มาชิง 
      ขณะที่สนช.สายอดีตส.ว. สรรหา และเลือกตั้ง ข้าราชการบางส่วน สนับสนุนให้นายพีระศักดิ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ว่า จะให้ใครมาดำรงตำแหน่งรองประธานสนช.คนที่ 2 ต้องรอการตัดสินใจของผู้ใหญ่ฝั่งคสช.และสนช. มาหารือกันอีกครั้ง ก่อนเข้าร่วมประชุมสนช.ในวันที่ 8 ส.ค. แต่หากมีการตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า ให้เสนอชื่อบุคคลใดก็จะไม่มีการเสนอบุคคลอื่นมาแข่งเช่นกัน

'สุรชัย'รับเอง'พรเพชร'ไร้คู่แข่ง
      ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สนช. ให้สัมภาษณ์หลังร่วมรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติว่าจากพระราชดำรัสที่เราได้ฟังนั้น เป็นเรื่องสำคัญมากที่สมาชิกทุกคนจะได้น้อมรับไปเป็นแนวทางการทำหน้าที่สนช. ซึ่งหลังจากนี้สนช.จะต้องทำหน้าที่ให้รวดเร็วที่สุด เพราะจากวิกฤตการเมืองที่ผ่านมา มีกฎหมายค้างคาอยู่จำนวนมาก โดยลำดับแรกคิดว่าจะเป็นการพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2558 ก่อน จากพระราชดำรัส มีประเด็นสำคัญอยู่ 2 เรื่องคือ สนช.จะต้องทำหน้าที่อย่างตั้งใจทำงานเพื่อความสุขของประชาชน และต้องทำหน้าที่เพื่อฟื้นฟูบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตย เชื่อว่าสนช.ทุกคนจะน้อมนำพระราชดำรัสไปปฏิบัติหน้าที่
      นายสุรชัย กล่าวว่า สำหรับการประชุมสนช.ในวันที่ 8 ส.ค.ก็มีวาระเรื่องการเลือกประธานสนช. และรองประธานอีก 2 คน เมื่อหมดวาระนี้ก็ต้องรอเพื่อให้มีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมตำแหน่งประธานสนช.ลงมาก่อน จากนั้นจึงจะมีการประชุมสนช. ซึ่งเบื้องต้นก็จะยึดตามการทำหน้าที่ของสนช.ปี 2549 คือจะมีการประชุมกันสัปดาห์ละ 2 วัน คือวันพุธกับวันพฤหัสบดี ส่วนตำแหน่งประธานสนช. ขณะนี้ไม่มีแคนดิเดตแล้ว เชื่อว่าสมาชิกทุกคนน่าจะเห็นชอบตรงกันหมดแล้ว
      เมื่อถามว่า ที่บอกว่าตำแหน่งประธานไม่มีแคนดิเดตนั้นคือนายพรเพชรคนเดียวใช่หรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า อย่างที่สื่อนำเสนอไปนั้น ก็คงจะเป็นอย่างนั้น

'พีระศักดิ์'เบียดนั่งรองปธ.คนที่ 2
      ด้านนายตวง อันทะไชย สนช.เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า ตำแหน่งประธานสนช.คือ นายพรเพชร เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญทางกฎหมาย ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาให้หัวหน้าคสช.ขณะที่ตำแหน่งรองประธานสนช.คนที่ 1 คือ นายสุรชัย และตำแหน่งรองประธานสนช.คนที่ 2 คือ นาย พีระศักดิ์ ซึ่งทั้ง 2 คน ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภาชุดปี 57 ให้ดำรงตำแหน่ง ประธานและรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 แต่ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เนื่องจากมีประกาศ คสช. ฉบับที่ 30/2557 ให้วุฒิสภาสิ้นสุดอำนาจลง ดังนั้นการเลือกตำแหน่งรองประธานสนช.ทั้ง 2 ตำแหน่ง จึงอยากให้บุคคลทั้ง 2 ได้กลับมาแสดงความสามารถ

ป.ป.ช.ยังไม่ฟันธงสนช.ยื่นบัญชี
      ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนาม บินน้ำ นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. กล่าวภายหลังประชุมป.ป.ช. ชุดใหญ่ กรณีสมาชิก สนช.ต้องยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินหรือไม่ว่า ที่ประชุมเห็นว่าเรื่องดังกล่าวสำคัญ แต่เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ป.ป.ช.บางคนติดภารกิจ จึงเลื่อนการพิจารณาวาระดังกล่าวออกไป ประชุมอีกครั้งวันที่ 14 ส.ค. อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2549 สมาชิกสนช.ขณะนั้นยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. แต่ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2557 ไม่ได้ระบุกรณีนี้ จึงต้องพิจารณาจากพ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) พ.ศ.2554 หรือพ.ร.บ.ป.ป.ช.ที่ระบุผู้ที่จะต้องยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินมีแค่ นายกฯ รัฐมนตรี ส.ส. ส.ว. ไม่ได้ระบุถึงสนช. ดังนั้นป.ป.ช.ชุดใหญ่จะประชุมพิจารณาประเด็นนี้อย่างรอบคอบ

พท.สบช่องยื่นอัยการสอบ
      วันเดียวกัน นายพิชิต ชื่นบาน คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณี ป.ป.ช. ส่งสำนวนชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต่ออัยการสูงสุด (อสส.) เมื่อวันที่ 5 ส.ค.กรณีไม่ยับยั้งการทุจริตและความเสียหายในโครงการจำนำข้าว ทำให้รัฐเสียหาย 5 แสนล้านบาทว่า คงต้องรอดูอสส.ว่ามีท่าทีอย่างไร ยังมีเวลาอีก 30 วันในการพิจารณาสำนวนของ ป.ป.ช. ว่าจะสั่งฟ้องเลยหรือไต่สวนสอบพยานใหม่ 
       นายพิชิต กล่าวว่าหากมีโอกาสสอบสวนเพิ่มเติมจะขอความเป็นธรรม ชี้ข้อไม่สมบูรณ์ในแต่ละประเด็น เช่น การกล่าวหาว่ามีการทุจริตทุกขั้นตอนมันเป็นไปได้อย่างไร จุดนี้ไม่มีข้อเท็จจริงบอกเลยว่าทุจริตที่ไหน จังหวัดอะไร อย่างไร เรื่องอะไร ป.ป.ช.เพียงแต่นำรายงานการวิจัยของทีดีอาร์ไอมาเป็นตัวตั้ง นอกจากนี้ ถ้ามีการทุจริตทุกขั้นตอน โครงการนี้มันเลวร้ายมากขนาดนั้น ทำไม คสช.ถึงตรวจแล้วพบมีข้าวคุณภาพดีถูกต้องถึงร้อยละ 80 และประเด็นที่บอกว่าโครงการรับจำนำข้าวบิดเบือนกลไกตลาด ต้องถามกลับว่าแล้วแบบเดิมชาวนาได้รับความเป็นธรรมแล้วอย่างนั้นหรือ 
      ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจโกดังข้าวทั่วประเทศ ว่า ตรวจสอบข้าวจากโกดังข้าวทั่วประเทศไปแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นนำข้าวส่งไปสุ่มตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ(ห้องแล็บ) เพื่อดูคุณภาพของข้าว ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญจะได้ทราบว่าข้าวมีคุณภาพหรือไม่ พบปัญหาเรื่องของตัวมอดตัวไรข้าวเน่าข้าวเสียหรือไม่ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จไม่เกินครึ่งเดือนแรกของเดือนก.ย.นี้ ผลลัพธ์ที่จะออกมานั้นถือว่ามีความสำคัญกว่าเรื่องของปริมาณข้าวที่ยังเหลืออยู่ เมื่อทราบผลลัพธ์จากห้องปฏิบัติการจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.)รับทราบต่อไป ขณะที่ข้าวที่ตรวจสอบคุณภาพชัดเจนแล้วกระทรวงพาณิชย์จะนำระบายข้าวออกสู่ตลาดต่อไป กระบวนการทั้งหมดถือว่าเป็นไปตามกรอบเวลาที่คสช.กำหนดไว้ 

'สมคิด'ดัน 5 สนช.ร่วมร่างรธน.
       ด้านนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสนช. ให้สัมภาษณ์ว่าโดยส่วนตัวอยากผลักดันกฎหมาย อาทิ การแยกสถาบันอุดมศึกษาออกจากกระทรวงศึกษาธิการ การผลักดันกฎหมายบริหารบุคคลท้องถิ่น แต่ต้องดูความพร้อมของรัฐบาล เนื่องจากฎหมายต่างๆ จะต้องเสนอมาจากรัฐบาลเป็นส่วนใหญ่ ส่วนการตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ต้องคัดเลือกสมาชิก สนช. 5 คน เข้าไปทำหน้าที่ โดยส่วนตัวเห็นว่าน่าจะได้รับการเสนอชื่อหลายราย อาทิ นายกล้านรงค์ จันทิก นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ นายดิสทัต โหตระกิตย์ และนายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ
      ผู้สื่อข่าวถามว่า สนช.จะมีปัญหาเกี่ยวกับองค์ประชุมหรือไม่ เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่เป็นข้าราชการประจำ นายสมคิดกล่าวยอมรับว่าเป็นไปได้ สมาชิกได้พูดคุยและแสดงความเป็นห่วง เชื่อว่าน่าจะแบ่งเวลาจัดสรรความสำคัญให้กับการประชุมสนช.ก่อน ตนไม่หนักใจในการทำหน้าที่เนื่องจากอยู่ในช่วงเวลาเฉพาะกาลไม่ใช่ถาวร
     เมื่อถามว่า ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ ออกนอกระบบ จะถูกผลักดันหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวค้างอยู่ตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว เช่นเดียวกับร่างกฎหมายที่คล้ายกันคือมหาวิทยาลัยราชภัฏออกนอกระบบ ต้องรอดูว่ารัฐบาลชุดใหม่จะผลักดันหรือไม่

ท้า'ชาญวิทย์-ยุกติ'แน่จริงคุยกัน
     เมื่อถามต่อว่า หากการพิจารณากฎหมายมีใบสั่งมาจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า "ต้องดูว่าร่างกฎหมายฉบับนั้นเป็นไปตามหลักการและเหมาะสมหรือไม่ หากมีใบสั่งมาให้ผ่านร่างกฎหมายกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ที่จะสามารถแก้ปัญหาให้ข้าราชการได้ ผมก็พร้อมผลักดัน หรือหากมีใบสั่งมาให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.ธรรมศาสตร์ ออกนอกระบบ ผมจะรีบทำตามใบสั่งเลย"
      ส่วนกระแสวิจารณ์การเข้ารับตำแหน่งสนช.ว่าไม่เหมาะสมจากทั้งนักศึกษาและอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสมคิดกล่าวว่า คสช. พิจารณาคัดเลือกจากมหา วิทยาลัยเป็นหลัก ไม่ใช่ตัวบุคคล เพื่อให้เข้ามาร่วมช่วยกันทำงานด้านกฎหมาย อย่างตนถูกคัดเลือกมาในนามอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่ใช่ในนามนายสมคิด หากนายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็จะได้รับเลือกเป็น สนช. เช่นเดียวกัน ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงมาวิจารณ์แค่ตนและนายนรนิติ แต่นิด้าที่มีบุคลากรเข้ามาเป็นสนช.ถึง 3 คนกลับไม่ถูกวิจารณ์
      "อาจารย์ที่วิพากษ์วิจารณ์ผมและนาย นรนิติ อยากให้มาพูดคุยกันตรงๆ มากกว่า ไม่ใช่ออกมานินทาหรือตอดเล็กตอดน้อยทางสื่อออนไลน์ อย่างนายยุกติ มุกดาวิจิตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยา หรือนายชาญวิทย์ ที่ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายนรนิติ หากแน่จริงก็ควรจะมาคุยกันต่อหน้านายนรนิติมากกว่า" อธิการบดีมธ.และสนช. กล่าว 

กกต.โต้ลั่นเร่งคดีปูนกขมิ้น
       ที่สำนักงาน กกต. นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการกกต.ด้านสืบสวนสอบสวนกล่าวถึงกระแสข่าวกกต.เร่งสืบสวนสอบสวนคดีทัวร์นกขมิ้นของน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยยืนยันว่ากกต.ปฏิบัติงานตามกฎหมาย ระเบียบ ไม่เลือกปฏิบัติ ทุกสำนวนที่เข้ามาจะมีความแตกต่างกัน บางสำนวนเป็นการไต่สวน บางสำนวนเป็นการสืบสวน บางกรณีมีหลักฐานชัดเจน แต่บางกรณีก็หาหลักฐานยาก ทำให้เวลาในการพิจารณาไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตาม การพิจารณาต้องอยู่ในกรอบเวลา 1 ปีที่กฎหมายกำหนดและไม่มีใครแทรกแซงการทำงานในจุดนี้
     วันเดียวกัน นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันที่ 6 ส.ค. เดินทางพร้อมอดีตส.ส. ประชาธิปัตย์ 5-6 คน ร่วมทำบุญที่สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี โดยเข้านมัสการพระสุเทพ ปภากโร (เทือกสุบรรณ) และร่วมสวดมนต์ฉันเช้า พบว่าหลวงลุงสุเทพนํ้าหนักลด 15 กิโลกรัม แต่ดูแจ่มใสมาก ทั้งยังเชิญพวกตนเว้นวรรคการเมืองเพื่อเข้าถึงธรรมะด้วย ส่วนเรื่องสึกนั้น พระสุเทพยังไม่มีกำหนด 

ชงชื่อเดียวประธานสนช. พรเพชรลิ่ว'สุรชัย-พีระศักดิ์'นั่งรอง พระบรมฯเสด็จ รัฐพิธีเปิดสภาฯ เสธยอดไขก๊อก บิ๊กต๊อกชี้บิ๊กตู่ มีชื่อครม.ในใจ

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ แทนพระองค์ทรงเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต เวลา 15.35 น. วันที่ 7 สิงหาคม


ตัวเต็ง - นายพรเพชร วิชิตชลชัย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย และนายพีระศักดิ์ พอจิต ซึ่งได้รับการสนับสนุนให้เป็นประธานและรองประธาน สนช. เดินทางมาร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมสภา สนช. ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม

มติชนออนไลน์ :

 

     พระบรมฯเสด็จฯไปทรงเปิดประชุม สนช. 'สุรชัย'ไม่ลงแข่ง 'พรเพชร'แบเบอร์ 'สม'มารายงานตัว 'เสธ.ยอด'ไขก๊อกขาดคุณสมบัติ เลขาวุฒิฯเผยตั้ง กมธ.ยกร่างข้อบังคับ 'บิ๊กต๊อก'เชียร์'บิ๊กตู่'นั่งนายกฯ

 

@ พระบรมฯเสด็จรัฐพิธีเปิดสภา

 

     เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ คสช. ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ตลอดจนคณะทูตานุทูตประเทศต่างๆ เข้าร่วมรัฐพิธี 

 

    จากนั้น เวลา 15.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯแทนพระองค์ไปยังพระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิตเพื่อเปิดการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อเสด็จถึงพระที่นั่งอนันตสมาคม ทรงยืนหน้าพระแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร มหาดเล็กรัวกรับ ชาวม่านไขพระวิสูตร ชาวพนักงานประโคมกระทั่งแตร มโหระทึก ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี 

 

@ ทรงรับสั่งตระหนักหน้าที่ตนเอง

 

       เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ใจความว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันนี้ การเรียกประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติครั้งนี้ควรจะนับเป็นนิมิตหมายของการเริ่มต้นที่ดี เพราะตั้งแต่วาระนี้เป็นต้นไป ท่านทั้งหลายจะได้มีโอกาสประชุมปรึกษาหารือกัน ทั้งในการจัดทำรัฐธรรมนูญ และการบัญญัติกฎหมาย เพื่อให้การปกครองดำเนินไปตามวิถีแห่งระบอบประชาธิปไตย และเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพของประเทศทุกๆ ด้านให้บังเกิดความมั่นคงตลอดไป และความวัฒนาผาสุกขึ้นแก่ประเทศชาติและประชาชน บรรดาสมาชิกแห่งสภานี้จึงควรจะได้ตระหนักถึงความสำคัญในภาระหน้าที่ของตน และรีบเร่งพิจารณาดำเนินการให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและรวดเร็ว จึงขอให้ทุกท่านร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมความคิดอ่านกัน ปฏิบัติภาระหน้าที่ทั้งนั้น โดยเต็มสติปัญญาความสามารถ ด้วยความสุจริต บริสุทธิ์ใจ ให้งานทุกด้านดำเนินไปอย่างเที่ยงตรง ถูกต้อง ทั้งตามหลักนิติธรรม และเหตุผลความชอบธรรม ทั้งสำเร็จผล เป็นประโยชน์อันพึงประสงค์ คือความผาสุกมั่นคงของประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง 

 

      บัดนี้ได้เวลาอันเป็นมงคลแล้วในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าขอเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้ทำหน้าที่ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

 

      เมื่อได้เวลาอันสมควรแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จลงจากพระที่นั่งอนันตสมาคม ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯกลับในเวลาต่อมา

 

@ 'สุรชัย'น้อมรับพระราชดำรัส

 

       นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิก สนช. กล่าวว่า จากพระราชดำรัสที่ได้ฟังนั้น เป็นเรื่องสำคัญมากที่สมาชิกทุกคนจะได้น้อมรับไปเป็นแนวทางการหน้าที่ สนช. ซึ่งหลังจากนี้ สนช.จะต้องทำหน้าที่ให้รวดเร็วที่สุด เพราะจากวิกฤตการเมืองที่ผ่านมา มีกฎหมายค้างคาอยู่จำนวนมาก โดยลำดับแรกคิดว่าจะเป็นการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯปี 2558 ก่อน อย่างไรก็ดี จากพระราชดำรัส มีประเด็นสำคัญอยู่ 2 เรื่องคือ สนช.จะต้องทำหน้าที่อย่างตั้งใจ ทำงานเพื่อความสุขของประชาชน และต้องทำหน้าที่เพื่อฟื้นฟูบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตย เชื่อว่า สนช.ทุกคนจะน้อมนำพระราชดำรัสไปปฏิบัติหน้าที่

 

@ เผย'พรเพชร'แบเบอร์ปธ.สนช.

 

     นายสุรชัย กล่าวว่า การประชุม สนช.ในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ จะมีวาระเรื่องการเลือกประธาน สนช. และรองประธานอีก 2 คน เมื่อหมดว่าวาระนี้ก็ต้องรอเพื่อให้มีการโปรดเกล้าฯตำแหน่งประธานลงมาก่อน จากนั้นจึงจะมีการประชุม สนช. เบื้องต้นจะยึดตามการทำหน้าที่ของ สนช.ปี 2549 คือ จะมีการประชุมกันสัปดาห์ละ 2 วันคือ วันพุธกับวันพฤหัสบดี ส่วนตำแหน่งประธาน สนช. ขณะนี้ไม่มีแคนดิเดตแล้ว เชื่อว่าสมาชิกทุกคนน่าจะเห็นชอบตรงกันหมดแล้ว เมื่อถามว่า ที่บอกว่าตำแหน่งประธานไม่มีแคนดิเดตคือนายพรเพชร วิชิตชลชัย คนเดียวใช่หรือไม่ นายสุรชัยกล่าวว่า "อย่างที่สื่อนำเสนอไปนั้น ก็คงจะเป็นอย่างนั้น"

 

@ 'สม'รายงานตัวคนสุดท้าย

 

      ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่รัฐสภาในช่วงเช้าที่ผ่านมา สมาชิก สนช.ทยอยเดินทางมาอาคารวุฒิสภา เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อาทิ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา นายพรเพชร วิชิตชลชัย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย นายนรนิติ เศรษฐบุตร นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ นายตวง อันทะไชย นายพีระศักดิ์ พอจิต พล.ท.ธีระชัย นาควานิช เป็นต้น ทั้งนี้ นายสม จาตุศรีพิทักษ์ ได้มารายงานตัวเป็นคนสุดท้าย ตามที่ได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้

 

@ 'เสธ.ยอด'ออกขาดคุณสมบัติ

 

      นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาฯวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สนช. เปิดเผยว่า พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย หรือ เสธ.ยอด สมาชิก สนช.ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิก สนช.แล้ว หลังมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เนื่องจากเคยถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากการยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย ทำให้ขัดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 ม.8 (4) ที่ว่าด้วยเรื่องของคุณสมบัติต้องห้ามของ สนช. ที่ห้ามบุคคลที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองรับตำแหน่ง 

 

พล.ต.อินทรัตน์กล่าวว่าได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิก สนช.ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ โดยส่วนตัวไม่มีปัญหา มีเพื่อน สนช.หลายคนทาบทามให้ไปเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ตนพร้อมทำงาน 

 

@ หนุน'พรเพชร'นั่งปธ.สนช. 

 

นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ สมาชิก สนช. กล่าวว่า การหารือเพื่อเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งประธาน สนช. และรองประธาน สนช. คงมีการหารือกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ไม่ใช่การหารือกันทั้งหมด ส่วนตัวเห็นว่านายพรเพชร วิชิตชลชัย และนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย มีความเหมาะสมทั้งสองคน เพราะมีความรู้และมีประสบการณ์ 

 

นายพีระศักดิ์ พอจิต สมาชิก สนช. กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่านายพรเพชร วิชิตชลชัย เหมาะสมนั่งประธาน สนช. ส่วนนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เหมาะสมกับตำแหน่งรองประธาน สนช.คนที่ 1 เพราะได้คุยกับนายสุรชัยแล้วว่าจะไม่ลงชิงตำแหน่งประธาน ขณะที่รองประธาน สนช.คนที่ 2 ที่มีการพูดถึงรายชื่อตนเองนั้น ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง หากสมาชิก สนช.ส่วนใหญ่สนับสนุนก็พร้อมทำหน้าที่ 

 

"นายพรเพชร มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ส่วนนายสุรชัยเชี่ยวชาญด้านสภา ส่วนผมทำหน้าที่เชื่อมสมาชิกทุกท่านได้ จะทำให้การทำหน้าที่ของทุกท่านไปในทิศทางเดียวกัน" นายพีระศักดิ์กล่าว

 

@ ประชุมเลือกปธ.-รองปธ.

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะสำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เผยแพร่วาระการประชุม สนช.เป็นครั้งแรก ในวันที่ 8 สิงหาคม เริ่มจากเวลา 09.30 น. โดยมี 3 วาระ ซึ่งมีขั้นตอนการรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ประกาศพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุม สนช. พ.ศ.2557 จากนั้นจะเป็นการรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ประกาศแต่งตั้งสมาชิก สนช. หลังจากนั้นจะเป็นการปฏิญาณตนในที่ ประชุมก่อนปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิก สนช. แล้วจึงเข้าสู่การเลือกประธานและรองประธาน สนช. โดยให้นายสมพร เทพสิทธา สมาชิก สนช.อาวุโสสูงสุด เป็นผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมชั่วคราว

 

@ 'พรเพชร-สุรชัย-พีระศักดิ์'ตามโผ

 

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับวาระการเลือกประธานและรองประธาน สนช.นั้น ล่าสุดสมาชิก สนช.ได้จับกลุ่มพูดคุยหารือที่ห้องรับรองชั้น 3 อาคารรัฐสภา 2 และไว้วางใจนายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธาน สนช. โดยจะมีการเสนอชื่อนายพรเพชรต่อที่ประชุม สนช.เพียงคนเดียว ไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นมาร่วมแข่ง เช่นเดียวกับตำแหน่งรองประธาน สนช.คนที่หนึ่งที่สมาชิกจะเสนอชื่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นมาประกบเช่นกัน

 

ขณะที่ตำแหน่งรองประธาน สนช.คนที่สอง ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าเป็นนายพีระศักดิ์ พอจิต อดีต ส.ว.อุตรดิตถ์

 

@ 'ตวง'ยันเสียงแน่น-ไม่พลิก

 

นายตวง อันทะไชย สมาชิก สนช. กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า ตำแหน่งประธาน สนช.คือ นายพรเพชร ตามที่มีการคาดหมาย เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญทางกฎหมาย ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาให้ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่ตำแหน่งรองประธาน สนช.คนที่ 1 คือ นายสุรชัย และตำแหน่งรองประธาน สนช.คนที่ 2 คือ นายพีระศักดิ์ โดยทั้ง 2 คนได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภาชุดปีཱུ ให้ดำรงตำแหน่งประธานและรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 แต่ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเนื่องจากมีประกาศ คสช.ฉบับที่ 30/2557 ให้วุฒิสภาสิ้นสุดอำนาจลง จึงอยากให้บุคคลทั้ง 2 ได้กลับมาแสดงความสามารถ

 

@ 'บิ๊กต๊อก'แจงขั้นตอนสภา 

 

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. กล่าวว่า ในวันที่ 8 สิงหาคม จะมีการเลือกประธาน สนช. จากนั้นประธานสภาจะเป็นผู้พิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี การได้นายกฯนั้นต้องได้ประธานสภาที่ได้รับการโปรดเกล้าฯก่อน ขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง และในวันที่ 8 สิงหาคม ถ้าได้ชื่อประธานสภาแล้วจะมีการนำชื่อให้หัวหน้า คสช. และมีการโปรดเกล้าฯแล้ว ถึงจะการเลือกนายกฯ เมื่อได้ชื่อนายกฯแล้วจะมีการนำชื่อทูลเกล้าฯซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน 

 

@ เชียร์'บิ๊กตู่'นั่งเก้าอี้นายกฯ

 

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า แต่ถ้าถามว่าใครจะเป็นนายกฯ ส่วนตัวเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มีความเหมาะสม เพราะที่กล่าวอย่างนี้ต้องย้อนไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ได้มีการควบคุมอำนาจการบริหารประเทศ และได้สัญญาประชาคมกับประชาชนว่าจะนำพาประเทศชาติสู่ความปลอดภัย และจะมีความสุข โดยตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา การบริหารประเทศอยู่ภายใต้การดูแลของ คสช. และจากการสำรวจความเห็นประชาชน พบว่ามีความพึงพอใจ เพราะว่าเกิดจากประชาชนพอใจการแก้ไขปัญหา ไม่เฉพาะการปรองดอง แต่มีเรื่องของเศรษฐกิจด้วย 

 

"ผมอยากบอกว่า หัวหน้า คสช.ได้นั่งอยู่ในฐานะเหมือนนายกฯ และสามารถบริหารราชการ โดยไม่มีข้อบกพร่อง อีกทั้ง หัวหน้า คสช.ได้พยายามศึกษางานของ กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ อย่างละเอียดรอบคอบ และจากความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง สิ่งที่สะท้อนกลับจากประชาชนก็มีความพอใจ ฉะนั้นผมเห็นว่าหัวหน้า คสช.มีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ" พล.อ.ไพบูลย์กล่าว 

 

@ อ้างเข้าใจปัญหา-ใช้คนเป็น 

 

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า "หัวหน้า คสช.ไม่ได้เติบโตด้านบริหาร แต่มีการศึกษาและใช้คนเป็น จะเห็นได้จากการที่หัวหน้า คสช.แถลงผลงานในรายการคืนความสุขให้ประชาชน มีความเข้าใจการบริหารงานของประเทศชาติ ถ้าหากแถลงออกมาแล้วประชาชนร้องยี้ ก็จะเกิดผลกระทบย้อนมาสู่ท่านเอง ทุกครั้งที่ท่านแถลงทุกวันศุกร์ ผมมีความเข้าใจว่า ท่านหัวหน้า คสช.เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม การประคับประคองบริหารประเทศเป็นไปตามโรดแมปของ คสช.และที่ผ่านๆ มาท่านก็สามารถทำได้ดีในการเข้ามาบริหารประเทศ" 

 

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า อยากให้ประชาชนได้พิสูจน์การบริหารงานประเทศของหัวหน้า คสช. ไม่ใช่ตนเป็น คสช.แล้วจะมาพูด แต่อยากให้เปรียบเทียบทุกอย่างที่เกิดขึ้น รวมถึงขอให้มองด้วยความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม คสช.จะพยายามสร้างสิ่งที่ดีงาม ถูกต้องด้วยความสุจริตและยุติธรรมตามที่ได้เคยพูดไว้ 

 

@ รายชื่อครม.อยู่ในใจ'บิ๊กตู่'

 

เมื่อถามว่า อยากได้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มาบริหารงานแบบใด พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ เป็นเรื่องของนายกฯที่จะเลือก ครม. เข้าใจว่าหัวหน้า คสช. มีรายชื่อคนที่อยู่ในใจอยู่แล้ว และเชื่อว่าสามารถคัดเลือกคนที่จะมาดูแลประเทศชาติได้ อยากให้มีการประกาศนายกฯอย่างเป็นทางการก่อน เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวจะได้รับพิจารณาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ไม่ตอบคำถามเพียงแต่ยิ้มและเดินทางกลับทันที

 

@ ตั้งกมธ.ยกร่างข้อบังคับ

 

นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงการจัดทำร่างระเบียบข้อบังคับการประชุมว่า มีความคืบหน้าไปพอสมควร โดยหลังจากที่ประชุม สนช.เลือกประธาน สนช.แล้ว จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณายกร่างข้อบังคับการประชุมดังกล่าว เบื้องต้นได้มีข้อกำหนดเพิ่มเติม เรื่องการพ้นสมาชิกภาพ กรณีที่สมาชิก สนช.ไม่มาแสดงตน เพื่อเป็นการควบคุมองค์ประชุมไม่ให้เกิดปัญหาสภาล่ม

 

@ ถกสนช.ยื่นบัญชีสัปดาห์หน้า 

 

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวภายหลังการประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ว่า ในวันที่ 8 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จะเดินทางไปให้ความรู้เกี่ยวกับการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินแก่ สนช. ที่อาคารรัฐสภา ถือเป็นการให้ความรู้ทั่วไปตามปกติ ส่วน สนช.จะต้องยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.หรือไม่ คงต้องรอฟังมติที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ในสัปดาห์หน้า 

 

@ กกต.ตั้งคณะทำงานสรรหา 

 

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. ในฐานะประธานประชุมคณะทำงานสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยมีรองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทุกด้านกิจการเข้าร่วม โดยนายภุชงค์กล่าวว่า ขณะนี้ระเบียบ กกต.ว่าด้วยการสรรหา สปช. มีผลบังคับใช้แล้ว โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางสำนักงานได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการ คณะทำงานฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการรสรรหา สปช. 11 คณะ และฝ่ายปฏิบัติที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว โดยมีหน้าที่ในการอำนวยการ ควบคุม กำกับดูแลการเสนอชื่อบุคคลที่จะเข้ารับการคัดเลือกเป็น สปช. และแก้ไขปัญหา รวมถึงประสานงานกับหน่วยราชการต่างๆ กรณีปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหา 11 ด้านมีปัญหา ส่วนฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหาด้านต่างๆ 11 คณะ ได้มีการแต่งตั้งบุคคลซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน กกต. อาทิ ผู้ตรวจการ กกต. ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ผู้อำนวยการสำนักต่างๆ เป็นหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการสรรหาครบทั้ง 11 คณะแล้ว โดยคณะกรรมการอำนวยการฯจะมีการปฏิบัติหน้าที่ได้ทันทีหลังจากที่ คสช.มีประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา สปช.ทั้ง 11 คณะ คาดว่า คสช.จะมีประกาศในวันที่ 13 สิงหาคม เพื่อให้กระบวนการเปิดรับการเสนอชื่อจากองค์กรนิติบุคคลในวันที่ 14 สิงหาคม 

 

@ เตรียมสถานที่รับเสนอชื่อ

 

นายภุชงค์กล่าวว่า ทางสำนักงาน กกต.จะใช้ห้องโถงบริเวณชั้น 2 ของสำนักงาน กกต.เป็นสถานที่ในการเปิดรับการเสนอชื่อโดยในวันที่ 13 สิงหาคม จะมีการจัดเตรียมสถานที่และซักซ้อมการเปิดรับการเสนอชื่อ ขณะที่ในส่วนของการสรรหาในแต่ละจังหวัดนั้น ขณะนี้ทางสำนักงาน กกต.ได้สั่งการให้ทางผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.กต.จว.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการ ไปประสานทางผู้ว่าราชการจังหวัดว่าจะใช้สถานที่ใดเป็นสถานที่ดำเนินการประชุมสรรหา โดยหากได้ความคืบหน้าอย่างไรให้แจ้งกลับมายังสำนักงาน กกต. ภายในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ 

 

@ ผู้ว่าฯนั่งปธ.สรรหาสปช. 

 

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประสานมาเพียงว่าคณะกรรมการคัดสรรสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จะเลือกผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานเท่านั้น ส่วนเรื่องการสร้างความปรองดองนั้น 

 

ทางกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ หากมีคนที่ย่อหย่อนในการทำงาน เรื่องคงจะต้องมีการปรับเปลี่ยน โดยขณะนี้กำลังมีการประเมินอยู่ 

 

@ พท.ชี้แดงเข้าร่วมเสียคนแน่ 

 

นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำ นปช. ภาคอีสาน กล่าวว่า คนเสื้อแดงถ้าไปร่วม สปช.จริง คงไม่มีประโยชน์ และไม่ควรเข้าไปร่วม สปช. เพราะสภานี้ไม่ได้รับการคัดสรรมาจากประชาชน คิดว่า พท.คงไม่ส่งตัวแทนเข้าไปร่วมเช่นกัน เพราะเป็นคนละแนวทาง ถ้าคนเสื้อแดงเข้าร่วมคงเสียผู้เสียคนแน่นอน

 

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าว คสช.เตรียมทาบทามแกนนำเสื้อแดง อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เข้าร่วม นพ.เชิดชัยกล่าวว่า "ถ้าสองคนเข้าไปก็เสียผู้เสียคน ทุกวันนี้ยอมรับว่าอึดอัดกับสถานการณ์ คนเสื้อแดงเป็นคนรักสงบ สันติ รอดูรัฐบาล คสช.จะเข้ามาแก้ปัญหาอย่างไร รอว่าจะมีการคืนอำนาจเมื่อใด ขอฝากทหารบางคนอย่าใช้อำนาจเผด็จการเหมือนตอนนี้ เช่น โทรศัพท์ให้แกนนำในพื้นที่บางคนไปรายงานตัว เหมือนเป็นการกรรโชก ถ้าเป็นอย่างนี้ชาวบ้านยิ่งจะอึดอัด" 

 

@ พท.ไม่ส่งตัวแทนคิกออฟ 

 

รายงานข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า พท.คงจะไม่ส่งตัวแทนพรรคไปเข้าร่วมกิจกรรมเส้นทางปฏิรูปประเทศ เริ่มคิกออฟ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ของทาง คสช. ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ เนื่องจากคำสั่งของ คสช.ที่ห้ามดำเนินกิจกรรมหรือเคลื่อนไหวทางการเมือง ทำให้แกนนำ พท.ไม่สามารถเข้าพรรคเพื่อประชุมร่วมกัน หรือหารือเรื่องต่างๆ ได้เลย ไม่ทราบว่ามีหนังสือเชิญในเรื่องดังกล่าวส่งมาที่พรรคหรือไม่ 

 

ถือว่าไม่รับทราบเรื่องนี้ ทั้งนี้ แกนนำ พท.เห็นว่า ควรปล่อยให้เป็นอำนาจของ คสช.ที่จะดำเนินการตั้ง สปช.ไปเลย ไม่ควรมีพรรคการเมืองซึ่งมีส่วนได้ส่วนเสียเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ก่อนหน้านี้แกนนำพรรค พท.ได้ให้คำปรึกษาด้านการปฏิรูปประเทศ ตามที่กระทรวงกลาโหมเชิญในช่วงมิถุนายนที่ผ่านมา ถือว่าได้เสนอแนะการแก้ปัญหา การเดินหน้าปฏิรูปประเทศไปหมดแล้ว จึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องไปเข้าร่วมคิกออฟ สปช.อีก 

 

@ อุตรดิตถ์คึกคักแข่ง5คน

 

ที่ จ.อุตรดิตถ์ ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ระดับจังหวัด มีผู้สนใจหลายราย อาทิ นายอมร ชูเอียด อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ พล.ท.จำลอง โพธิ์ทอง อดีตเสนาธิการกองทัพภาคที่ 3 และอดีตประธานที่ปรึกษา 

 

นายพีระศักดิ์ พอจิต อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นายสุเทพ ไตรต่อผล อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนอุตรดิตถ์ดรุณี และนายโปรย สมบัติ อดีต ส.ว.อุตรดิตถ์ ทั้งนี้มีการคาดหมายว่า พล.ท.จำลองมีโอกาสมากที่สุด เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับกองทัพและรู้จักเป็นการส่วนตัวกับ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาค 3 ด้วย

 

@ สารคามพร้อมสรรหา 

 

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าฯมหาสารคาม กล่าวถึงการสรรหา สปช.จ.มหาสารคามว่า คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด ประกอบด้วย ผู้ว่าฯ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้แทนสภาองค์กรชุมชน ตำบลระดับจังหวัด และประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด โดยตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม เมื่อได้รายชื่อมาแล้ว ต้องตรวจสอบส่งรายชื่อให้ คสช. ภายในวันที่ 22 กันยายนนี้

 

นายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าฯระยอง กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพิจารณาว่าจะสรรหาบุคคล โดยได้นัด กกต.จ.ระยอง ในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ เพื่อมาปรึกษาเกี่ยวกับกฎระเบียบ ขั้นตอน รวมทั้งข้อมูลเพื่อจะได้พิจารณาว่าบุคคลใดที่มีความเหมาะสม เน้นมาจากหลากหลายอาชีพ 

 

@ ตั้งคณะทำงานปม'กริชสุดา'

 

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่โฆษกสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ และฮิวแมนไรต์สวอตช์ เรียกร้องให้ทางการไทยสอบสวนข้อเท็จจริงที่ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน กล่าวหาว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้ายระหว่างถูกควบคุมตัวว่า ประเด็นดังกล่าวถือเป็นประเด็นสำคัญ ที่สืบเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการเมืองไทย ทำให้หลายฝ่ายอาจมีความห่วงกังวล หรือไม่ได้รับข้อมูลทั้งหมด ทำให้ไม่เข้าใจ จึงหารือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้น โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ คสช. หน่วยงานด้านความมั่นคงซึ่งเป็นเจ้าของเรื่อง และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อดูภาพรวมทั้งหมด เน้นการทำงานเชิงรุก และดำเนินการอย่างทันท่วงที ไม่ใช่ชี้แจงเป็นรายประเด็นเพราะกระทรวงการต่างประเทศต้องชี้แจงให้ประเทศต่างๆ ทราบว่า ประเทศไทยเคารพต่อพันธกรณีที่มีอยู่ รวมถึงมีการแก้ปัญหาต่างๆ อย่างไร ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศจะชี้แจงไม่ได้ หากไม่มีข้อมูลหรือข้อเท็จจริง แม้ที่ผ่านมาจะมีการชี้แจงมากพอสมควร แต่เห็นว่าทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการทำงานให้มากขึ้น เพราะเรื่องเหล่านี้ถือเป็นประเด็นที่อยู่ในความกังวล และคาดว่าจะมีประเด็นอื่นๆ ตามมาอีก ดังนั้นต้องมีแนวทางชี้แจงที่ทุกหน่วยงานใช้ได้ร่วมกัน 

 

@ คสช.เตือนทำผิดเงื่อนไข 

 

พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า กรณี น.ส.กริชสุดาเดินทางออกนอกประเทศเกินกำหนดระยะเวลาที่ได้แจ้งไว้กับ คสช. ต้องดูว่าเหตุผลอย่างไร หากทำผิดและไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขถือว่าเป็นการไม่ให้ความร่วมมือ ทาง คสช.อาจต้องเรียกมาว่ากล่าวตักเตือน และให้ทางฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาดูว่าจะดำเนินการอย่างไร