http://www.newsdataonline.com/news/templates/allrounder-3/images/background.png); background-attachment: initial; background-origin: initial; background-clip: initial; background-color: rgb(255, 255, 255); line-height: 1.3em; overflow-x: hidden; min-width: 90%; outline-width: 0px; outline-style: initial; outline-color: initial; ">

วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8564 ข่าวสดรายวัน

 

บุกยึดทีวี-ทำเนียบ เทือกบีบ 3 วันตั้งนายกกลาง พุทธอิสระนำลุย ฝ่าแนวรั้วศอ.รส. โดนแก๊สน้ำตา เสื้อแดงฮือวันนี้ พรึบถนนอักษะ 


คุมสื่อ - แกนนำ กปปส. นำมวลชนปิดล้อมสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ คลองตัน กทม. รวมทั้งสถานีฟรีทีวีทุกช่อง เพื่อกดดันให้นำเสนอเฉพาะข่าว กปปส. ไม่ให้เสนอข่าวรัฐบาล เมื่อ 9 พ.ค.

      'เทือก'บุกฟรีทีวีทุกช่อง ยึดทำเนียบ ขีดเส้น 3 วันต้องจบ ตั้งรัฐบาลนายกฯคนกลางให้ได้ จี้ประธานวุฒิฯ ประธานองค์กรอิสระทั้งหลาย ไปปรึกษาจัดการกันให้ได้ ลั่นถ้าทำไม่ได้จะลงมือเอง "พุทธอิสระ" ก็นำม็อบบุกตัดรั้วศอ.รส. จนท.ต้องยิงแก๊ส น้ำตาสกัด โดนไปเต็มๆ บาดเจ็บ ก่อนล่าถอยกลับแจ้งวัฒนะ ศอ.รส.แถลงประณามม็อบรุนแรง สั่งห้ามทีวีทุกช่องอย่าถ่ายทอดสัญญาณ อาจเข้าข่ายสนับสนุนกบฏ ด้านเสื้อแดงชุมนุมใหญ่วันนี้ ถนนอักษะ แสดงพลังปกป้องประชาธิปไตย "ตู่" แฉความหวังเทือกคือรัฐประหาร ขณะที่ "ณัฐวุฒิ" ชี้ถ้าเสื้อแดงมากันเยอะ อยู่ยาวถึง 19 พ.ค. อาจเป็นวาระสุดท้ายของสุเทพ

 

เทือกนำบุกทำเนียบ-ทีวีทุกช่อง 

     เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ที่นัดชุมนุมใหญ่ครั้งสุดท้าย ในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนจำนวนมากทยอยเข้าร่วมชุมนุม ต่างจับจองพื้นที่ด้านหน้าเวทีสวนลุมพินี เพื่อรอการประกาศแผนปฏิบัติการเผด็จศึกในเวลา 09.09 น. 

     นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. ประกาศบนเวทีว่าจะแบ่งเป็น 6 ขบวน ขบวนที่ 1 นำโดยนายสุเทพเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาล ขบวนที่ 2 นำโดยนายอิสสระ สมชัย และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เคลื่อนขบวนโดยรถยนต์ ไปช่อง 7 ขบวนที่ 3 นำโดยนายถาวร เสนเนียม เคลื่อนขบวนโดยไปช่อง 11 ขบวนที่ 4 นำโดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เคลื่อนขบวนเดินไปช่อง 3 ขบวนที่ 5 นำโดยนายชุมพล จุลใส เคลื่อนขบวนเดินไปช่อง 9 และขบวนที่ 6 นำโดยนายวิทยา แก้วภราดัย เคลื่อนขบวนเดินไปช่อง 11 นอกจากนี้ยังมีขบวนของกองทัพธรรม นำโดย ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ นำขบวนไปช่อง 5 

 

ลั่นตั้งรัฐบาลใหม่ภายใน 3 วัน 

     ส่วนนายสุเทพ กล่าวว่า เราตั้งสัตยาธิษฐานแล้วว่าจะบำเพ็ญเพียรเพื่อชาติ ดังนั้น ตั้งแต่เวลา 09.09 น. จะเริ่มบำเพ็ญเพียรครั้งสุดท้าย จะไปสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ เพื่อให้เลิกนำเสนอข่าวของพวกทรราชอีกต่อไป เพราะบิดเบือนความจริง สถานีโทรทัศน์ทุกช่องยังคงดำเนินรายการได้ตามปกติ แต่จะขอความร่วมมือกับทุกช่องมาเกี่ยวสัญญาณ ครั้งนี้ไม่ใช่การเผด็จศึกแต่เป็นการบำเพ็ญเพียรขั้นแรกเท่านั้น ขอความกรุณาคนกรุงเทพฯ ว่าหากเห็นรถตำรวจที่ไหนให้ล้อมไว้ อย่าให้ไปปราบปรามประชาชนได้ แต่อย่าทำร้ายตำรวจเด็ดขาด 

      "เรายังไม่เผด็จศึก จึงยังไม่มีการบุกสถานที่ใดๆ เพียงแต่ปักหลักรอมวลชนจากต่างจังหวัด วันนี้หากเราต้องนอนกินกลางถนนก็ต้องทำ เพื่อเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อาทิ ประธานศาลฎีกา ให้หารือกันเพื่อขจัดระบอบทักษิณ และมีรัฐบาลใหม่อย่างราบรื่นภายใน 3 วัน หากทำโดยราบรื่นไม่ได้ ประชาชนจะใช้วิธีของประชาชน และหากใครพบนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ให้เชิญตัวมาพบผมที่ทำเนียบรัฐบาล ผมจะคุยกับเขาเพื่อขอให้เลิกสวมหัวโขนคณะรัฐมนตรีหลอกๆ ได้แล้ว" เลขาฯ กปปส.กล่าว

 

'จำลอง-แซมดิน'บุกช่อง 5 

      จากนั้นเวลา 09.09 น. นายสุเทพประกาศเริ่มปฏิบัติการ ท่ามกลางเสียงผู้ชุมนุมต่างโห่ร้องดีใจ และเป่านกหวีดดัง สนั่น ก่อนจะเคลื่อนขบวนต่างๆ ในเวลา 09.15 น. ขณะที่ขบวนของพุทธอิสระจากถนนแจ้งวัฒนะ เคลื่อนไปยังกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ภายในสโมสรตำรวจ สถานที่ตั้งของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) 

      ต่อมาเวลา 10.00 น. กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ และพล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ นำมวลชนจำนวนมากเดินทางไปถึงสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 โดยใช้รถบรรทุก 6 ล้อติดเครื่องขยายเสียงตั้งเป็นเวทีปราศรัยด้านหน้าททบ.5 พร้อมทั้งปิดการจราจรถนนพหล โยธินขาเข้าทุกช่องทาง ตั้งแต่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สนามเป้า 

 

ปักหลักค้างสนามเป้า 3 คืน 

       ขณะที่รถฝั่งถนนพหลโยธินฝั่งขาออกวิ่งได้ 1 ช่องทางเท่านั้น ทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวติดขัดเป็นอย่างมาก โดยแกนนำปราศรัยบนรถว่าต้องการเรียกร้องให้ททบ.5 หยุดเป็นกระบอกเสียงให้กับรัฐบาล และขอให้เชื่อมต่อสัญญาณออกอากาศร่วมกับช่อง บลูสกาย ในเบื้องต้นจะปักหลักชุมนุมค้างคืน 3 วัน จากนั้น พล.ต.จำลอง และพล.อ.ปรีชา เข้าไปเจรจากับผู้บริหารททบ.5 

       ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.จำลอง และพล.อ.ปรีชา เดินออกจากททบ.5 พร้อมเปิดเผยว่า การเจรจากับผู้บริหารททบ.5 เป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนใหญ่เป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันในวงการทหาร ทางกปท.ไม่ได้เรียกร้องอะไร เพียงแต่ต้องการมาปกป้องสื่อไม่ให้ถูกโจมตีภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกฯ และครม.พ้นสภาพ ไม่ได้มีเจตนาก่อความวุ่นวายใดๆ และยืนยันว่าจะไม่บุกเข้าไปข้างใน โดยมวลชนจะอยู่แต่ภายนอกเท่านั้น ในเบื้องต้นอาจอยู่ปักหลักค้างคืน 3 วัน แต่ต้องประเมินสถานการณ์และปรึกษากันอีกครั้ง 

 

'ถาวร'ไปช่อง 11'อิสสระ'ช่อง 7 

      ขณะเดียวกัน นายถาวร เสนเนียม นำมวลชนถึงสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศ ไทย กรมประชาสัมพันธ์ หรือช่อง 11 ถนนวิภาวดีรังสิต โดยผู้ชุมนุมเข้าไปภายในบริเวณช่อง 11 เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเจ้าหน้าที่ เปิดประตูให้บรรดามวลชนหาที่ปักหลักกัน ตามใต้โคนต้นไม้ 

ขณะที่มวลชนอีกกลุ่มจำนวนกว่า 1,000 คน ภายใต้การนำของนายอิสสระ สมชัย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ และนายสกลธี ภัททิยกุล แกนนำกปปส. เดินทางมาปิดล้อมช่อง 7 โดยนำรถเครื่องขยายเสียง และขึ้นปราศรัยบริเวณประตูทางเข้าด้านหน้า พร้อมทั้งขอเจรจากับผู้บริหารของช่อง 7 เรื่องสัญญาณการถ่ายทอดสด กรณีที่นายสุเทพอ่านแถลงการณ์

จากนั้นนายอิสสระกล่าวภายหลังเข้าเจรจาว่า ผู้บริหารช่อง 7 รับปากเรื่องสัญญาณถ่ายทอดสด หากกปปส.มีการแถลงข่าวพิเศษทุกครั้ง พร้อมทั้งขอพื้นที่บริเวณช่อง 7 ตั้งเต็นท์พักแรมค้างคืนชั่วคราว

 

'ลูกหมี'ลุยยึดช่อง 9 อสมท

      ด้านสถานการณ์ที่ช่อง 11 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ นายวิทยา แก้วภราดัย ก็นำมวลชนประมาณ 2,000 คน เดินทางมาถึง และปักหลักอยู่ด้านนอกอาคาร โดยนายวิทยาประกาศว่าตั้งใจจะมาค้างคืนที่นี่ 4-5 วัน อย่างไรก็ตาม ทางผู้บริหารช่อง 11 ไม่ได้อยู่ภายในอาคาร และมีกำลังทหารจำนวนหนึ่งรักษาความปลอดภัย

ส่วนที่ช่อง 9 อสมท โมเดิร์นไนน์ นายชุมพล จุลใส นำมวลชนเดินทางมาถึง และก่อนจะเข้าไปเจรจากับผู้บริหาร ต่อมานายชุมพลกล่าวว่า เข้าไปเจรจากับผู้บริหาร อสมท เพื่อขอดูแลพื้นที่ภายในอาคาร อสมท แทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมขอให้ อสมท นำเสนอข่าวของกปปส. ทาง อสมท แจ้งว่ายินดี ส่วนข้อสุดท้าย คือขอให้ อสมท งดเว้นการเสนอข่าวของรัฐบาล ทางเจ้าหน้าอสมท ยังไม่ตกลง ส่วนมวลชนกปปส.เข้าไปอยู่ในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างเจรจาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนออกไป 

 

'ณัฏฐพล-ทยา'ไปกดดันช่อง 3 

      ขณะที่ช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ นายณัฏฐพล และนางทยา ทีปสุวรรณ นำมวลชนมา ปิดล้อม ก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าไปเจรจากับผู้บริหาร ช่อง 3 ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ต่อมานางทยาขึ้นกล่าวบนรถปราศรัยถึงผลการเจรจาว่า ผู้บริหารช่อง 3 ตอบรับข้อเสนอทั้ง 4 ข้อทันที คือ 1.ขอให้ช่อง 3 นำเสนอข่าวอย่างเป็นกลางไม่บิดเบือน ไม่รับใช้ระบบนายทุน รวมถึงรัฐบาลที่หมดอำนาจ และความชอบธรรมแล้ว 2.ขอให้ต่อจากนี้เป็นต้นไปตั้งแต่ช่วงเย็นวันนี้ หากมีแถลงการณ์ใดๆ จากนายสุเทพ ขอให้ช่อง 3 เกี่ยวสัญญาณถ่ายทอดสดทุกครั้งที่แถลงการณ์จากนายสุเทพ 

      นางทยา กล่าวต่อว่า 3.ขอให้งดการถ่ายทอดสดแถลงการณ์จาก ศอ.รส. และแถลงการณ์ต่างๆ จากรัฐบาล เนื่องจากทั้ง 2 หน่วยหมดความชอบธรรมและอำนาจ และ 4.ขอให้จัดเจ้าหน้าที่ประสานงานดูแลและจัดการความเรียบร้อยเรื่องสถานที่เพื่อรองรับผู้ชุมนุมที่จะปักหลักค้างคืนจนกว่าจะได้รับชัยชนะ โดยขอความร่วมมือเรื่องอำนวยความสะดวกสถานที่ รวมถึงให้ผู้ชุมนุมเข้าใช้ห้องน้ำในอาคารด้วย และจะมีทหารประมาณ 100 นายมาช่วยดูแลความเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศล่าสุดที่ด้านหน้าอาคารมาลีนนท์ ผู้ชุมนุมต่างจับจองพื้นที่รอบอาคารพักผ่อนตามอัธยาศัย นั่งพักหลบแดด รอฟังการปราศรัยและรอคำสั่งจากนายสุเทพและแกนนำ ว่าจะให้ปฏิบัติภารกิจอย่างไรต่อไป

 

คปท.ผนึกฮือยึดทำเนียบ 

      ส่วนความเคลื่อนไหวของนายสุเทพนั้น ในเวลา 11.00 น. นายสุเทพนำมวลชนเดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล สมทบกับม็อบคปท.ที่นำโดยนายอุทัย ยอดมณี และนายนิติธร ล้ำเหลือ จากนั้นนายสุเทพปราศรัยว่าพวกเรากำลังบำเพ็ญเพียรเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พวกเราจะชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล และค้างคืนที่นี่ และจะเดินไปรัฐสภา ที่ทางวุฒิสภาจะเลือกประธานวุฒิสภา ขอเรียกร้องให้คนที่มีหน้าที่ในบ้านเมืองมาร่วมกับพวกเราจัดการกับระบอบซากเดนทักษิณที่เหลืออยู่ให้ออกไปให้พ้นหูพ้นตา ช่วยให้มีรัฐบาลของประชาชน มีสภานิติ บัญญัติของประชาชนขึ้นมาให้ได้โดยเร็ว 


สกัดม็อบ - ตำรวจฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตาใส่ "พุทธอิสระ" และม็อบกปปส.แจ้งวัฒนะ ที่พยายามรื้อเครื่องกีดขวางบุกเข้าพื้นที่ ศอ.รส. ในสโมสรตำรวจ ถ.วิภาวดีรังสิต สุดท้ายต้องถอยกลับที่ตั้ง เมื่อ 9 พ.ค.

       นายสุเทพ กล่าวว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ที่หมายถึง คือ ประธาน ศาลฎีกา ประมุขฝ่ายตุลาการ เป็นอำนาจอธิปไตยหนึ่งของประเทศไทยที่ยังเหลืออยู่ ประธานศาลฎีกาและประธานวุฒิ สภาที่กำลังจะเลือกขึ้นมา ต้องร่วมมือกันแก้ไขสถานการณ์นี้โดยทันที จัดตั้งรัฐบาลใหม่ มีสภานิติบัญญัติโดยสมบูรณ์แบบ หากประธานวุฒิสภาคนใหม่ไม่ใช่คนของระบอบทักษิณ ก็หวังว่าประธานวุฒิสภาและประธานศาลฎีกาจะพูดคุยว่าจะร่วมมือกับมวลมหาประชาชนอย่างไร แต่หากเมื่อใดเห็นว่าคนที่มีอำนาจหน้าที่เหล่านี้ทำไม่สำเร็จ พวกเราจะตัดสินใจทำด้วยตัวของประชาชนเอง และ วันนี้จะชุมนุมโดยรอบพื้นที่ทำเนียบ นอนค้างที่นี่ 

 

เทือกไปสภา-ถกลับ"สุรชัย" 

     ต่อมาเวลา 14.00 น. นายสุเทพนำมวลชนเดินทางจากทำเนียบ ไปยังรัฐสภา เมื่อไปถึงทางตำรวจรัฐสภาปิดประตูทางเข้าด้านหน้าอาคารรัฐสภา จากนั้นเวลา 15.00 น. นายวิเชียร รุจิธำรงกุล เลขานุการนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา มาเจรจากับนายสุเทพ โดยนายสุเทพเสนอว่าขอเข้าไปภายในรัฐสภา พร้อมแกนนำกปปส. 5 คน เพื่อยื่นหนังสือถึงนายสุรชัย เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญจึงต้องยื่นกับตัว หลังจากเจรจาระยะเวลาหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็ยอมให้นายสุเทพ และแกนนำกปปส. เข้าไปภายในห้องรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชั้น 1 อาคารรัฐสภา รอนายสุรชัย ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมวุฒิสภา โดยมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา และกลุ่ม 40 ส.ว. ออกมาต้อนรับ

      ถัดมาเวลา 15.30 น. นายสุรชัยสั่งพักการประชุมวุฒิสภา และออกมารับหนังสือจากนายสุเทพ โดยเนื้อหาในหนังสือมีใจความว่าขอเรียกร้องให้ประธานวุฒิสภา และส.ว. ใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติร่วมกับองค์กรอื่นแสวงหาทางออกให้ประเทศ และขอให้กำหนดให้มีรัฐบาลชั่วคราว เพื่อปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ภายหลังยื่นหนังสือเสร็จ นาย สุเทพและนายสุรชัยเข้าหารือเป็นการลับภายในห้องรับรองอาคารรัฐสภา

 

"พุทธอิสระ"นำตะลุย"ศอ.รส." 

สำหรับความเคลื่อนไหวของม็อบกปปส. ภายใต้การนำของนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือพุทธอิสระ นั้น นำมวลชนจากเวทีแจ้งวัฒนะเดินทางมาถึงบริเวณด้านหน้าสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ที่ตั้งศอ.รส. เพื่อลงบันทึกเเจ้งความดำเนินคดีติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษเกี่ยวกับคดีโกงโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล คดียิงเอ็ม 79 ใส่เวทีเเจ้งวัฒนะ เเละคดียิงเอ็ม 79 ใส่ร.พ.จุฬาภรณ์ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่มาถึง พุทธอิสระขึ้นปราศรัยบนรถขยายเสียง เรียกร้องให้ตำรวจที่อยู่ภายในศอ.รส. ออกมารับเรื่องลงบันทึกคดี ต่อมา พล.ต.ต.ภาคภูมิ สัจจพันธ์ รองผบช.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนัก งานตำรวจแห่งชาติ ออกมาเจรจากับพุทธอิสระ โดยยืนยันจะรับเรื่องไว้ เเต่การทำเอกสารบันทึกประจำวันต้องเข้าไปทำภายในศอ.รส. เบื้องต้นจะลงบันทึกด้วยวาจาไปก่อน จากนั้น พล.ต.ต.ภาคภูมิ กลับเข้าไปในศอ.รส.ทันที ปล่อยให้พุทธอิสระเเละมวลชนรออยู่บริเวณด้านหน้า ไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในอย่างเด็ดขาด ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด

 

ตร.ยิงแก๊สน้ำตา-หลวงปู่เจ็บ 

ต่อมาเวลา 12.30 น. การ์ดของพุทธอิสระรื้อลวดหนามด้านหน้าสโมสรตำรวจ พุทธอิสระประกาศให้เวลา 5 นาที เพื่อให้ศอ.รส.ส่งตัวแทนออกมาเจรจาอีกครั้ง เมื่อครบเวลาเเล้วปรากฏว่ายังไม่มีใครออกมาเจรจา พุทธอิสระนำมวลชนเดินบุกเข้าไปภายในสโมสรตำรวจทันที เเม้ทางตำรวจจะประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง เตือนไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกเข้ามา มิเช่นนั้นจะดำเนินการเพื่อรักษาทรัพย์สินของทางราชการ จากนั้นเจ้าหน้าที่เปิดฉากฉีดน้ำใส่พุทธอิสระและยิงแก๊สน้ำตา 2 ลูก ทำให้ผู้ชุมนุมถอยร่นออกมา เนื่องจากพิษแก๊ส น้ำตา การ์ดนำตัวพุทธอิสระออกมาปฐม พยาบาลเบื้องต้น ภายในเต็นท์ด้านหน้าใกล้รถปราศรัย นอกจากนี้ ยังมีแก๊สน้ำตาอีก 1-2 ลูก ตกลงใกล้รถขยายเสียงอีกด้วย 

จากเหตุการณ์ดังกล่าวในเบื้องต้นมีผู้บาดเจ็บ 5 คน เป็นผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 2 คน เข้ารับการรักษาที่ร.พ.วิภาวดี 4 คน ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจปิดการจราจรบนถนนวิภาวดี รังสิต ช่วงหน้าสโมสรตำรวจทั้ง 2 ฝั่ง รวมถึงบนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ทั้ง 2 ฝั่ง ห้ามรถผ่านเนื่องจากมีเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่บริเวณหน้าสโมสรตำรวจ 

 

กวป.ตลบหลัง-รีบกลับแจ้งวัฒนะ 

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ภายหลังเหตุการณ์สงบลง พุทธอิสระที่ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เนื่องจากถูกแก๊สน้ำตาได้รับบาดเจ็บไปด้วย ก็ขึ้นปราศรัยกล่าวประณามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงเเก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมทั้งประกาศเเจ้งความข้อหาละเมิดในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เเละข้อหาพยายามฆ่า โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สน.ทุ่งสองห้อง มาตั้งโต๊ะรับเเจ้งความในเต็นท์หน้าสโมสรตำรวจ โดยมีมวลชนกปปส.ต่อเเถวเเจ้งความกันเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลาดังกล่าว มีราย งานเเจ้งว่ากลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชา ธิปไตย (กวป.) ของนายศรรักษ์ มาลัยทอง พร้อมด้วยมวลชนประมาณ 200 คน รวมตัวกันที่วงเวียนอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ หรือวงเวียนหลักสี่ ประกาศว่าจะบุกยึดคืนเวทีแจ้งวัฒนะ พลันที่พุทธอิสระรู้ข่าวดังกล่าว จึงประกาศยกเลิกภารกิจที่หน้าสโมสรตำรวจ นำมวลชนเคลื่อนกลับฐานที่มั่นเวทีแจ้งวัฒนะในเวลา 14.30 น. เพื่อวางกำลังป้องกันการบุกของกลุ่มกวป. สถานการณ์หน้าสโมสรตำรวจจึงกลับสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มกวป.สมุทรปราการเผาโลงที่ถนนสุขุมวิท บริเวณแยกบางนา ก่อนจะสลายตัว

 

ลูกหมีลั่นปักหลักยาวที่ช่อง 9 

ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ช่อง 9 นายชุมพล แกนนำกปปส. ประกาศว่าการเจรจากับผู้บริหารช่อง 9 บรรลุทั้ง 3 ข้อ คือ 1.ช่อง 9 เกี่ยวสัญญาณถ่ายทอดข่าวกปปส. 2.งดนำเสนอข่าวศอ.รส. และพรรคเพื่อไทย และ 3.งดนำเสนอข่าวนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ โดยหลังจากนี้ การ์ดกปปส.จะร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัยภายในช่อง 9 และจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเคลื่อนย้ายออกไปตอน 18.00 น. โดยไม่ห่วงว่าจะมีมือที่สามก่อเหตุ เพราะมีการ์ดกปปส.คอยดูแลอยู่ และจะปักหลักที่ช่อง 9 ไม่ต่ำกว่า 5 วัน หรือจนกว่าได้รับชัยชนะ

อย่างไรก็ตาม เกิดปัญหาขึ้นเมื่อโมเดิร์นไนน์นำเสนอข่าวแถลงการณ์ของ ศอ.รส. ทำให้นายชุมพลไม่พอใจ กล่าวหาว่าทางสถานี ละเมิดข้อตกลง ทำให้ผู้บริหารกับแกนนำ กปปส.เจรจากันอีกรอบ จนได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าจะไม่นำเสนอข่าว ศอ.รส.อีก และจะไม่ลิงก์ถ่ายทอดสดข่าวของทั้ง กปปส.และรัฐบาล โดยเปลี่ยนไปใช้วิธีเป็นรายงานข่าวแทน เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน

 

ศอ.รส.แถลงประณาม"กปปส." 

ด้านความเคลื่อนไหวของ ศอ.รส. เกี่ยวกับมาตรการควบคุมสถานการณ์ดาวกระจายของม็อบกปปส.นั้น เมื่อเวลา 13.30 น. ศอ.รส.ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 เรื่องประณามการกระทำผิดของ กปปส. และขอเรียกร้องประชาชนอย่าเข้าร่วมกระทำผิด มีใจความว่า ศอ.รส.จัดตั้งขึ้นตามพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวในเขตพื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยศอ.รส.มีภารกิจสำคัญในการสนธิกำลังทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่ออำนวยการและปฏิบัติการให้เกิดความเรียบร้อยในทุกมิติ ทั้งในเขตพื้นที่รับผิดชอบและสังคมในภาพรวม

แถลงการณ์ระบุว่า แน่ชัดแล้วว่านาย สุเทพกับแกนนำ กปปส. ร่วมกันกระทำความผิดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และสร้างความ เสียหายกับประเทศชาติบ้านเมืองตลอดมา กระทั่งเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา อัยการมีคำสั่งฟ้องแกนนำ 51 คน ในข้อหาอุกฉกรรจ์ 9 ข้อหา อาทิ ร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย และขัดขวางการเลือกตั้ง ตลอดเวลาที่ผ่านมานายสุเทพกับพวก มีข้อเรียกร้องต่างๆ รัฐบาลก็ผ่อนปรนความประสงค์ และรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตย ได้แก่ การยุบสภา ผู้แทนราษฎรเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่นายสุเทพกับพวกก็ขัดขวางการเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเป็นเหตุให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศได้


แดงพร้อม - กลุ่มนปช.ซักซ้อมทำความเข้าใจกับทีมการ์ด เพื่อเตรียมตัวปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับคนเสื้อแดง ที่จะมาเข้าร่วมชุมนุมใหญ่วันปราบกบฏ บริเวณถนน อักษะ เมื่อวันที่ 9 พ.ค.

 

ลั่นดำเนินคดีทุกคน-ไม่ละเว้น 

    ศอ.รส.แถลงต่อว่า ดังนั้น ข้อเรียกร้องของ กลุ่ม กปปส.ในเรื่องสำคัญ จึงได้รับการตอบสนอง รวมถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ รวมถึงรัฐมนตรี ที่มีส่วนร่วมและมีมติเห็นชอบการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี สิ้นสุดลง และป.ป.ช.ได้ชี้มูลนายกฯ กรณีโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นไปตามข้อเรียกร้องของ กปปส. ที่ต้องการให้นายกฯ ออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม แม้ข้อเรียกร้องของ กปปส.ได้รับการตอบสนองแล้ว กปปส.ก็มิได้หยุดชุมนุม แต่กลับกระทำการรุนแรงต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก 

     แถลงการณ์ระบุอีกว่า โดยเฉพาะในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ได้ระดมมวลชนเข้าบุกยึดสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ รวมถึงสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง ศอ.รส.จึงขอประณามการ กระทำของนายสุเทพกับพวก และขอเรียกร้อง ให้ประชาชนงดเว้นการเข้าร่วมกระทำความผิด มิฉะนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกคนไปโดยไม่ละเว้น ส่วนแกนนำทุกคนจะต้องรับผิดทั้งทางอาญา และทางแพ่งจนถึงที่สุด ในการนี้ ศอ.รส.ขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ รวมถึงความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง ที่อาจเกิดจากการกระทำของท่านที่ได้เข้าร่วมในการกระทำผิดดังกล่าว ศอ.รส.จึงเห็นสมควรแถลงการณ์มาเพื่อประชาชนได้รับทราบ โดยที่แถลงการณ์ฉบับนี้เป็นความเห็นของฝ่ายบริหาร ศอ.รส. มิได้ขอให้ฝ่ายทหารร่วมแถลง หรือแสดงความเห็นด้วย

 

สั่งห้ามทีวีถ่ายสัญญาณม็อบ 

      ถัดมาเวลา 16.00 น. ศอ.รส.ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 5 เรื่องห้ามการถ่ายทอดสัญญาณ หรือให้ความช่วยเหลือแก่แกนนำ กปปส. มีใจความว่ากรณีแกนนำ กปปส.เข้าเจรจา และขู่บังคับผู้บริหารช่อง 3, 5, 7, 9 และช่องเอ็นบีที ไม่ให้ถ่ายทอดสัญญาณเกี่ยวกับแถลงการณ์ หรือเสนอข่าวอย่างหนึ่งอย่างใดของรัฐบาล และศอ.รส. แต่ให้ถ่ายทอดสัญญาณการแถลงการณ์ หรือเสนอข่าวการชุมนุมของ กปปส.นั้น ศอ.รส.พิจารณาแล้วจึงเห็นควรออกคำสั่งห้ามผู้บริหาร ผอ. และเจ้าหน้าที่ของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทุกสถานี ถ่ายทอดสัญญาณ หรือให้ความช่วยเหลืออย่างหนึ่งอย่างใดกับแกนนำ กปปส. เว้นแต่การเสนอข่าวสารตามปกติ เพื่อไม่ให้เป็นการสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดฐานกบฏ หรือก่อการร้ายดังกล่าว ศอ.รส.จึงแถลงการณ์มาเพื่อสั่งการให้ผู้บริหารสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทุกแห่ง งดเว้นหรือยุติการให้การสนับสนุนตามที่ กปปส. เรียกร้องโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นจะต้องรับผิดทางอาญาและทางแพ่ง

      แถลงการณ์ระบุต่อว่า สืบเนื่องจากอัยการสั่งฟ้องนายสุเทพกับพวก ในข้อหาก่อการร้ายเพิ่มเติม อันเป็นความผิดมูลฐานของความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ศอ.รส.จึงสั่งการให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ดำเนินคดีฐานฟอกเงิน อันนำไปสู่การยึดทรัพย์สินของนายสุเทพกับพวก เพิ่มเติมอีกด้วย จึงขอเตือนผู้ที่จะเข้าร่วมกระทำความผิดกับ กปปส. ให้ตระหนักถึงโทษที่จะได้รับ และควรงดเว้นการเข้าร่วมในทุกๆ กรณี นอกจากนี้ ศอ.รส.มีข้อมูลว่าในคืนวันที่ 9 พ.ค. จะมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้าก่อเหตุร้ายกับกลุ่มผู้เข้าร่วมชุมนุมตามจุดต่างๆ ที่ได้ดาวกระจายไป จึงขอเตือนประชาชนให้ใช้วิจารณญาณงดเว้นการเข้าร่วมชุมนุม หรือเข้าใกล้เคียงการชุมนุม เพื่อความปลอดภัย

 

แดงโคราชฮือต้านศาลรธน. 

     ขณะเดียวกัน ในจังหวัดต่างๆ มีกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีผลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ้นสภาพนายกรัฐมนตรี รวมทั้งรัฐมนตรีอีก 9 คน โดยที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายเสนอ นันทน์ธนกุล ประธานอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) สาขานครราชสีมา พร้อมด้วยสมาชิก อพปช. และคนเสื้อแดง 150 คน จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และแสดงพลังต่อต้านการชุมนุมของนายสุเทพและพวก 

      ส่วน จ.บุรีรัมย์ อพปช.บุรีรัมย์ กว่า 200 คน รวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ก่อนเคลื่อนขบวนรถติดเครื่องขยายเสียงแห่ไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ โดยนายสุรศักดิ์ เพชรสว่าง ประธาน อพปช.บุรีรัมย์ ประกาศเรียกร้องให้กลุ่มอพปช.และประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั่วประเทศ ร่วมกันแต่งชุดดำไว้ทุกข์ให้กับหลักนิติรัฐ นิติธรรม และประชาธิปไตยของประเทศไทย ที่ถูกทำลายจากองค์กรอิสระ พร้อมยืนยันว่าอพปช.จะร่วมกันปกป้องประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ 

 

ขอนแก่นแต่งดำชูป้ายไล่ 

     ขณะที่ จ.อำนาจเจริญ อพปช.อำนาจเจริญ รวมตัวกันที่บริเวณหอนาฬิกา อ.เมืองอำนาจเจริญ ร่วมแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และป.ป.ช. จากนั้นนำพริกเกลือ พวงหรีด และโลงศพ เขียนชื่อองค์กรอิสระ แกนนำกปปส. พรรคประชาธิปัตย์ และดารานักแสดงที่ไปขึ้นเวทีร่วมชุมนุมกับม็อบกปปส. ใส่โลงและเผาสาปแช่ง ก่อนจะแห่โลงไปรอบหอนาฬิกา และแยกย้ายสลายตัว

     จ.ขอนแก่น ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชา ธิปไตย ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง นายพุทธิพงษ์ คำแหงพล หรือบ่าววี ราษฎร์ประสงค์ ประธาน อพปช.ขอนแก่น นำมวลชน 100 คน แต่งชุดดำ ชูป้ายไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้งประกาศไม่ยอมรับอำนาจนอกระบบ พร้อมต่อสู้ทุกรูปแบบ ทางออกของประเทศไทยคือการเลือกตั้งเท่านั้น องค์กรอิสระอย่าขัดขวาง ก่อนจะสลายการชุมนุม และเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มาชุมนุมที่ถนนอักษะ

 

นปช.อุบลฯขนเสบียงเข้ากรุง 

     สำหรับ กลุ่มเสื้อแดง จ.อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำเสื้อแดงนำรถบรรทุกสิบล้อขนเสบียงอาหาร อาทิ มะละกอ ปลาร้า ข้าวเหนียว และเครื่องครัวจำนวนมาก เพื่อเตรียมเดินทางไปตั้งโรงครัวร่วมชุมนุมแสดงพลังที่ถนนอักษะ ในวันที่ 10 พ.ค. พร้อมทั้งทำสติ๊กเกอร์บอกกลุ่มแจกให้มวลชนใช้ติดรถ เพื่อป้องกันการสับสนจำกลุ่มผิด เนื่องจากจะมีมวลชนจากหลายพื้นที่ไปรวมตัวชุมนุมจำนวนมาก

      ส่วนนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร แกนนำเสื้อแดงอีสาน เปิดเผยว่า กิจกรรม อพปช.ที่เผาโลงศพองค์กรอิสระ เป็นการแสดงออกของคนรากหญ้า มันออกมาจากใจของพวกเขาที่เห็นความอยุติธรรมเกิดขึ้นในบ้านเมือง ชมรมคนรักอุดรจัดรถทัวร์ไว้ 10 คัน และรถกระบะอีกหลายสิบคัน นำคนเสื้อแดงอุดรธานีมาร่วมประชุมที่ถนนอักษะ

 

"น่าน"แห่โลงเผาประท้วง 

      ด้าน จ.กำแพงเพชร นายบุญช่วย ศิริสาร อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกำแพงเพชร ในฐานะประธานอพปช.กำแพงเพชร นำมวลชนเสื้อแดงรวมตัวกันที่หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองกำแพงเพชร เปิดปราศรัยแสดงพลังไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นายบุญช่วยระบุด้วยว่า จะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่ถนนอักษะ พุทธมณฑลด้วย เพื่อต่อต้านรัฐประหาร การยึดอำนาจรัฐทุกรูปแบบ และแสดงพลังให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ 

      ส่วน จ.น่าน ร.ต.ต.สมศักดิ์ แพทย์สมาน แกนนำ นปช.น่าน พร้อมด้วยคนเสื้อแดงรวมกันแห่โลงไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองน่าน โดย ร.ต.ต.สมศักดิ์ อ่านแถลงการณ์ว่าไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีตัดสินให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยรัฐมนตรีอีก 9 คนพ้นจากตำแหน่ง กรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. และจากผลวินิจฉัยดังกล่าวมีส่วนสร้างความแตกแยกในสังคมไทย จากนั้นร่วมกันเผาโลงและสลายการชุมนุม 

 

"เชียงใหม่-เชียงราย"โชว์พลัง 

เช่นเดียวกับที่ จ.เชียงใหม่ กลุ่ม อพปช.เชียงใหม่ นำโดยนายเสริมศิลป์ อ้ายมา รวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัด แห่โลงและแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ประท้วงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกันคนเสื้อแดงแต่ละกลุ่มใน จ.เชียงใหม่ ต่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ร่วมชุมนุมกับ นปช.กลางที่ถนนอักษะ พุทธมณฑล ในวันที่ 10 พ.ค. 

จ.เชียงราย นายสมควร สุตะวงศ์ ประธาน อพปช.เชียงราย นำมวลชน 100 คน ชุมนุมกันที่หน้าศาลากลางจังหวัด อ่านแถลงการณ์ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และหลังจากอ่านแถลงการณ์แล้ว อพปช.เชียงรายเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ห้าแยกพ่อขุน อ.เมือง จากนั้นเคลื่อนขบวนต่อไปยังหน้าประตูค่ายเม็งรายมหาราช เพื่อแสดงพลังเรียกร้องไม่ให้ทหารออกมาปฏิวัติรัฐประหาร ก่อนเดินทางกลับไปยังศาลากลางจังหวัด และสลายตัวเดินทางมาชุมนุมที่ถนนอักษะ 

 

เสื้อแดงภาคกลางก็ฮือด้วย 

        ด้าน จ.สระแก้ว นางมณีรัตน์ โกทันย์ อพปช.สระแก้ว นำมวลชนเสื้อแดงร่วมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัด ชุมนุมไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนจะร่วมกันเผาโลง โดยนางมณีรัตน์ระบุว่าเป็นการแสดงพลังของชาวสระแก้ว ที่เห็นว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากนี้จะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่ถนนอักษะ 

      จ.อ่างทอง กลุ่ม อพปช.อ่างทอง นำโดยนายอำพร อินไทย และนายตนัยฉัตร์ แซ่ตั้ง ชุมนุมกันที่หน้าศาลากลางจังหวัด แห่โลงศพขององค์กรอิสระ แกนนำกปปส. และกลุ่มดารานักแสดงที่ร่วมชุมนุมกับม็อบนายสุเทพ พร้อมทั้งอ่านแถลงประณามการกระทำที่จงใจล้มการปกครองตามระบอบประชาธิป ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และสัญญาว่าจะปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอย่างเต็มที่ เต็มกำลังทุกรูปแบบ

       จ.สิงห์บุรี ที่บริเวณแยกศาลหลักเมือง กลุ่มอพปช.นำโดย จ.ส.อ.ทวี สุชล นำมวลชนชุมนุมไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยอ่านแถลงการณ์ วางดอกไม้จันทน์ จุดไฟเผาโลง ก่อนจะสลาย ตัวไป โดยประกาศว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ร่วมชุมนุมกับแกนนำ นปช.ที่ถนนอักษะ ในวันที่ 10 พ.ค. 

 

ร้องถูกการ์ดกปปส.ทำร้าย 

     นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางอาวรณ์ พรมมารินทร์ อายุ 55 ปี ว่านายสรศักดิ์ โสวัฒนางกูร อายุ 26 ปี ลูกชาย ถูกการ์ด กปปส.ทำร้ายบนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ โดยก่อนเกิดเหตุนายสรศักดิ์ ขับรถเก๋งมีเพื่อนสาวนั่งข้างจะไปสนามบินดอนเมือง ระหว่างนั้นการ์ด กปปส.จำนวนหนึ่งเดินเข้ามาขอให้ลดกระจกลง แต่ลูกชายปฏิเสธ และบอกว่ามาทำธุระเท่านั้น ทำให้การ์ดคนหนึ่งใช้ปืนทุบกระจก และรุมทำร้ายลูกชายจนคิ้วและปากแตก 

      นางอาวรณ์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าวเพื่อนสาวของลูกชายโทรศัพท์มาบอกจึงรีบนำตัวส่งร.พ.วิภาวดี เพื่อให้แพทย์ทำแผลและตรวจร่างกาย จากนั้นแจ้งความ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อตรวจสอบหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และเพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย เนื่องจากครอบครัวไม่เคยเข้าร่วมชุมนุมการเมืองแต่อย่างใด

 

ปิดการจราจร 7 เส้นทางม็อบ 

     ด้านศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร หรือ บก.02 แจ้งว่าผู้ชุมนุมได้ปักหลักตั้งเวที เพื่อค้างคืนอยู่ด้านหน้าสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ส่งผลกระทบทำให้มีการปิดการจราจร 7 จุดดังนี้ 1.ด้านหน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ปิดการจราจรถนนพระราม 4 ขาออกทุกช่องทาง รถไม่สามารถผ่านได้ด้านขาเข้าเปิดการจราจร 1 ช่องเท่านั้น 2.สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ถนนพหลโยธินปิดการจราจร ตั้งแต่จุดกลับรถใต้สถานีรถไฟฟ้าสนามเป้าจนถึงหน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 เจ้าหน้าที่เปิดการจราจรช่องพิเศษขาเข้า 1 ช่องจราจรที่จะมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ด้านขาออกสามารถใช้การได้ปกติ 

     3.สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ถนนพระราม 9 ผู้ชุมนุมเข้าไปปักหลักด้านในสถานี จึงไม่ได้ปิดถนน 4.บริเวณสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ผู้ชุมนุมปิดการจราจรช่องคู่ขนานทุกช่องทาง ด้านช่องทางด่วนใช้การได้ปกติ 5.ถนนเพชรบุรีปิดการจราจรถนนกำแพงเพชร 7 ตั้งแต่แยกเพชรอุทัย-อาร์ซีเอ ทุกช่องทาง 6.สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ปิดการจราจรถนนพหลโยธินขาเข้าตั้งแต่ธนาคารทหารไทยถึงซอยเฉยพ่วง 7.ทำเนียบรัฐบาล ผู้ชุมนุมตั้งเวทีบริเวณประตู 5 ด้านกระทรวงศึกษาธิการ และ กปปส.เดินทางไปยังอาคารรัฐสภาถนนอู่ทองใน ทำให้ต้องปิดการจราจร

     รายงานจากตำรวจระบุว่ายอดผู้ชุมนุม กปปส.ทั้งหมดในวันนี้ประมาณ 15,000 คน

 

เทือก บี้วุฒิสภาเสนอชื่อนายกฯ 

     จนกระทั่งเวลา 20.35 น. ที่สวนลุมพินี นายสุเทพขึ้นเวทีปราศรัยว่า วันนี้เข้าไปดูที่ทางในทำเนียบไว้เรียบร้อย หากถึงเวลาที่จะตั้งกองบัญชาการขึ้น ก็จะตั้งที่ทำเนียบ โดยมวลชนล้อมอยู่รอบทำเนียบทุกด้าน เชื่อมกับมวลชนของคปท.เป็นเนื้อเดียวกันแล้ว วันนี้ประเทศไทยไม่มีรัฐบาล ไม่อยู่ในสภาพที่จะเป็นรัฐบาลได้ เพราะเป็นผีหัวขาด ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ สิ้นสุดสภาพนายกฯ ไม่สามารถรักษาการต่อไปได้ แต่ฝ่ายนั้นยังโมเมตั้งนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็นนายกฯ นั้น เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ผิดกฎหมาย 

      นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร จึงขอเรียนกับพี่น้องว่ายังมีวุฒิสภาที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อไม่มีสภาผู้แทนฯ ก็สมควรที่วุฒิสภาจะเลือกนายกฯ ตนไปยื่นหนังสือต่อรองประธานวุฒิสภา รักษาการประธานวุฒิสภา ให้ทั้งประธานและส.ว.รีบแก้ไขหาทางออกให้ประเทศ ที่ไม่มีนายกฯ อยู่ในขณะนี้ ปรากฏว่าข่าวด่วนมาแล้วว่า นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ได้เป็นประธานวุฒิสภาคนใหม่ จึงขอเรียกร้องประธานวุฒิสภาคนใหม่ว่าให้ลงมือทำงานตั้งแต่วันนี้ อย่ารอช้า ปรึกษากับบรรดาส.ว.ทั้งหลาย เพื่อเร่งทูลเกล้าฯ เสนอชื่อนายกฯ คนใหม่ จะปล่อยให้ประเทศอยู่แบบไม่มีอนาคตไม่ได้ 

 

ลั่นต้องจบภายในวันจันทร์นี้ 

     เลขาฯ กปปส.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ขอเรียกร้องประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานกกต. พรุ่งนี้วันเสาร์ ท่านต้องทำงาน ไม่ต้องพักผ่อน รีบมาปรึกษากัน และดำเนินการให้เป็นไปตามนี้ และขอเรียกร้องประชา ชนให้มาเพิ่มมากกว่าวันนี้อีก เพื่อแสดงให้เห็นว่ามวลมหาประชาชนมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะตั้งรัฐบาลของประชาชน 

    "ขอกราบเรียนผู้หลักผู้ใหญ่ว่า ให้เลือกคนที่ซื่อสัตย์ สุจริต จงรักภักดีต่อแผ่นดิน อย่าเอาคนของพรรคการเมืองใดมาเป็นนายกฯ เด็ดขาด เพราะมวลมหาประชาชนไม่เอา หากท่านสามารถเลือกคนดี ที่ไม่ใช่นอมินี หรือตัวแทนของพรรคการเมืองแล้ว มวลมหาประชาชนจะสนับสนุนเพื่อให้รัฐบาลนั้นได้แก้ปัญหาของชาวนา แก้ปัญหาของประเทศ ไทย และปฏิรูปประเทศทันที ขอความกรุณาอย่าได้คิดว่าผมบังอาจไปยื่นคำขาด คำเกินอะไรทั้งสิ้น ผมกราบเรียนว่ามวลมหาประชาชนสู้มา 6 เดือนเศษแล้ว คราวนี้ไม่สามารถอดรนทนต่อไปได้ เรื่องนี้ต้องจบภายในวันจันทร์ หากท่านไม่ทำ หรือทำไม่ได้ อย่ามาโกรธผมนะ เพราะเราจะทำด้วยมือของประชาชนเอง" นายสุเทพกล่าว 

 

"ตู่"ให้ดูประชาชนของจริง 10 พ.ค.

     ค่ำวันเดียวกัน ที่ห้างอิมพีเรียลฯ ลาดพร้าว นายจตุพร ประธานนปช.กล่าวว่า ที่นายสุเทพหวังว่าประธานวุฒิสภาจะเสนอชื่อนายกฯ คนใหม่นั้น วุฒิสภาไม่มีอำนาจนี้ตามรัฐธรรม นูญ และไม่มีวันแต่งตั้งได้ เพราะรัฐบาลรักษาการยังอยู่ สันติบาลรายงานคนที่ร่วมกับนายสุเทพวันนี้มีไม่ถึง 20,000 คน และนาย สุเทพจะได้รู้ในวันที่ 10 พ.ค. คำว่าประชาชนจริงๆ เป็นอย่างไร สำหรับคนเสื้อแดง ใครโพสต์ข้อความที่สุ่มเสี่ยง ขอให้รู้ว่าอีกฝ่ายจะนำไปเป็นเงื่อนไขและความชอบธรรม ความเดือดร้อนจะตกแก่ประชาชนทั่วไป จึงร้องขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะเราต้องการชัยชนะทางการเมือง ไม่ใช่ความสะใจ 

     นายจตุพร กล่าวต่อว่า ความหวังของนาย สุเทพมีปลายทางคือรัฐประหาร ถ้าเกิดขึ้นคนเสื้อแดงก็เตรียมใจไว้แล้วว่าจะต่อสู้ ปลายทางจะเป็นอย่างไรไม่มีปัญหาสำหรับคนเสื้อแดง ยืนยันว่ายึดแนวทางประชาธิปไตย และต้องการรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่สนใจว่าเราจะได้อะไร แต่สนใจว่าต้องชนะแล้วบ้านเมืองเปลี่ยนแปลง ศึกครั้งนี้เป็นโชคชะตาประเทศไทย ก่อนหน้านี้ถึงแม้ได้เลือกตั้งแล้วชนะ ก็ยังต้องเจอองค์กรอิสระพวกนี้อยู่ดี แต่ตอนนี้จากการกระทำขององค์กรอิสระ ทำให้ประชาชนเห็นแล้วว่าจะมีองค์กรเหล่านี้ไปทำไม ประชาชนก็เหมือนสปริงที่ถูกกดมาก ก็ยิ่งดีดแรง

 

19 พ.ค.วาระสุดท้ายเทพเทือก 

      ขณะที่นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ที่นายสุเทพประกาศว่าคนจะมาเยอะ แต่กลับมีแค่ 4,000-5,000 คนเท่านั้น และหากการยึดสถานีโทรทัศน์แล้วถือว่ายึดอำนาจอธิปไตย ต่อไปนี้ประเทศก็จะไม่มีเว้นว่าง ยึดอำนาจกันไปมา กรรมแบบนี้คนไทยจะเผชิญกันไม่นาน คนพวกนั้นจะต้องชดใช้กรรม ถ้าวันที่ 10 พ.ค. คนเสื้อแดงมากันเยอะและอยู่ยาว อาจถึงวาระสุดท้ายของนายสุเทพในวันที่ 19 พ.ค. หมากเกมมีเท่านี้ ไม่มีประตูอื่น และตราบใดที่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่มีทางได้นายกฯ ตามวิถีทางที่กปปส.อ้าง พวกเขาเองก็รู้ว่าหากอยากได้ตามที่ต้องการ ก็ต้องรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ไม่มีอะไรต่อต้านรัฐประหารได้เท่ากับพลังของประชาชน 

      "ยกที่ 1 ขอนับเป็นวันที่ 10-19 พ.ค. วันประวัติศาสตร์ หากถึงวันนั้นสถานการณ์ดึงมาจนถึงวันที่ประชาชนได้ชัยชนะเหนือการเคลื่อนไหวของกปปส. ที่ถูกอุ้มชูโดยระบอบอำมาตย์ เราจะได้ทำบุญและระลึก ถึงเพื่อนที่สูญเสียอย่างทรงพลัง และมีความหมาย เสร็จศึกนี้ได้เจอกันแน่ๆ ระหว่างองค์กรอิสระกับประชาชน เวทีที่ถนนอักษะไม่ใช่เวทีของนปช. หรือคนเสื้อแดง แต่เป็นของคนไทยที่รักประชาธิปไตยทุกคน ใคร รักประชาธิปไตย เกลียดเผด็จการ ไม่เอา นายกฯ เถื่อน เกลียดนายสุเทพ ไม่ยอมรับการกระทำของกลุ่มกปปส. รักความยุติธรรม เกลียดสองมาตรฐาน ให้ไปรวมตัวกันที่ ถนนอักษะ ถนนสายประชาธิปไตยของเรา" เลขาฯ นปช.กล่าว