วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8629 ข่าวสดรายวัน

อ๋อยขอเปิดพื้นที่ ระดมสมองปฏิรูป โพลเชื่อมั่นคสช.

      ป.ป.ช.เร่งสอบบัญชีทรัพย์ สิน 'ปู'กับ 4 อดีตรมต. กรณีโครงการจำนำข้าว เตรียมชี้มูลรวยผิดปกติแจ้งบัญชีเท็จ สวนดุสิตโพลสำรวจคนให้กำลังใจ คสช. มั่นใจคืนความสุข-ปฏิรูปประเทศ จุดเด่นทำงานเร็ว จริงจัง นิด้าโพลพบประชาชนเห็นด้วยเปลี่ยนระบบเลือกตั้ง จำกัดวาระส.ส.แค่ 2 สมัย ไม่มีรัฐบาลรักษาการ 'จาตุรนต์'โพสต์เฟซบุ๊กแนะคสช. สรุปต้นตอปัญหาก่อนปฏิรูป 'นพดล'ยัน 'ทักษิณ'เป่าเค้กวันเกิด ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร 

ป.ป.ช.สอบบัญชีอดีต 5 รมต.ไม่ช้า

      วันที่ 13 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นาย วรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึง ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 5 ราย ในเชิงลึก ประกอบด้วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรมว.พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อดีตรมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ ว่า ตอนนี้อยู่ระหว่าง ป.ป.ช. ประสานขอข้อมูลไปยังธนาคาร ส่วนราชการที่เกี่ยว ข้อง กำลังมีการทยอยส่งข้อมูลเข้ามา ยังไม่ครบถ้วน อย่างไรก็ตามเป็นการตรวจสอบในเชิงลึกทั้ง 5 รัฐมนตรี ไม่ได้ตรวจเฉพาะใครคนใดคนหนึ่ง

      นายวรวิทย์ กล่าวว่า ป.ป.ช.ขอข้อมูลไปก่อนแล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ว่าจากข้อมูลที่เราได้มานั้นต้องไปอย่างไรต่อ ตอนนี้ธนาคารที่ไม่พบข้อมูล สิ่งผิดปกติก็ตอบมาแล้วเพราะง่ายหน่อย ส่วนที่ช้าคือหากเขาเป็นลูกค้าธนาคารนั้นๆ แล้วมีข้อมูลที่ขอไป ก็ทยอยส่งเอกสารมาให้ป.ป.ช. ทั้งนี้การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินธรรมดาก็ดูตัวเลขที่เปรียบเทียบธรรมดาๆ แต่ตรวจเชิงลึกคือต้องนำตัวเลขทั้งหมดมาเปรียบเทียบ ตรวจความเคลื่อนไหวทั้งหมดตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง พ้นตำแหน่ง ทุกรายการ รายการไหนที่เราสงสัยก็จะเจาะเข้าไปว่าจุดนั้นมีความเป็นมาอย่างไร ดูหมดไปถึงคนรอบข้างที่ถูกตรวจสอบตามกฎหมายอยู่แล้ว เช่น คู่สมรส บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และถ้าพยานหลักฐานมีความเชื่อมโยงไปถึงใครที่มีความเกี่ยวข้องก็สามารถตรวจสอบได้ หรือถ้าเรามีข้อมูลว่ามีใครเป็นนอมินีในเรื่องนี้เรื่องนั้นก็ตรวจสอบลงไปได้

เตรียมชี้รวยผิดปกติ-ปกปิดบัญชี

      เมื่อถามว่าตอนนี้ตรวจพบความผิดปกติในส่วนใด ของใครบ้าง นายวรวิทย์กล่าวว่า ตนเองยังไม่มีข้อมูลเพราะคณะทำงานเพิ่มเริ่มดำเนินการ คณะอนุกรรมการประชุมไปแล้วประมาณสองครั้ง เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะตรวจสอบได้เร็วหรือไม่ นายวรวิทย์ กล่าวว่า จะเร็วหรือช้าก็คงอยู่ที่ข้อมูลที่ขอไป หากธนาคาร ส่วนราชการส่งข้อมูลมาให้โดยเร็วก็สามารถดำเนินการได้เร็ว เราก็เร่งรัดอยู่แล้ว ได้รับความร่วมมือด้วยดีคงไม่ช้า เพราะเป็นการตรวจสอบเพียง 5 รายเท่านั้น จำนวนไม่มาก 

       นายวรวิทย์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานอนุกรรมการมอบนโยบายอยู่แล้วว่าอย่างน้อยประชุมกันเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อประมวลข้อมูลว่าถึงไหน อย่างไร ติดตามความคืบหน้าการทำงานกัน เป็นการเร่งรัดการทำงานของประธานอนุกรรมการอยู่แล้ว จากนั้นเมื่อคณะอนุกรรมการรวบรวมข้อมูลได้ก็ต้องนำเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.เพื่อพิจารณา หากพบทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ หรือพบว่าร่ำรวยผิดปกติก็ต้อง ส่งอัยการยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ขณะเดียวกัน จะมีเรื่องของการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดบัญชีทรัพย์สินฯ อันนี้ป.ป.ช.ยื่นฟ้องร้องเองต่อศาลฎีกาได้

ข้าวหายสูญนับพันล้าน 

       นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่ทหารลงพื้นที่ตรวจโกดังข้าวว่า จากการตรวจสอบโกดังข้าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีทั้งข้าวเน่า ข้าวเสื่อมสภาพ ข้าวเหลือง ข้าวป่น มีการยัดไส้ นอกจากนำปลายข้าวมายัดไส้ใส่ข้าว 5% แล้ว ยังพบข้าวสารเจ้าปนข้าวเหนียว ข้าวสารปนข้าวหอมมะลิ ที่เลวร้ายยังพบนั่งร้านยัดไส้กลางกองข้าว และที่สำคัญคือข้าวหาย ซึ่งเกิดขึ้นทุกพื้นที่และทุกภาคทั่วประเทศ มีข้อน่าสังเกตคือไซโลเคทีบี จ.พิจิตร นอกจากข้าวที่อยู่ในไซโลจะเสื่อมสภาพ เป็นข้าวเหลือง สิ่งที่เลวร้ายคือปริมาณข้าวที่หายในช่วงตรวจรวม 12 ไซโล มีปริมาณข้าวที่ขาดหายไม่ตรงกับบัญชีที่แจ้งไว้ จำนวน 44,849 ตัน หรือ 448,490 กระสอบ รวมแล้วตอนนี้หายไป 4 แสนกว่ากระสอบ ยังขาดอีก 5 ไซโลจะต้องตรวจ เฉพาะข้าวหายคิดเป็นความเสียหายตามต้นทุนนับพันล้านบาท ยังไม่รวมข้าว เสื่อม ค่าเช่าที่แพงกว่าปกติ และสิ่งที่ตรวจไม่ได้อีกมาก

แฉบริษัทข้าวแปลงร่าง 

       นพ.วรงค์ กล่าวว่า คำถามคือทำไมเคทีบีไซโล จึงมีทั้งข้าวเสื่อมและข้าวหายมาก เพราะเคทีบีก็คือบริษัทเพรซิเดนท์อกริ เก่านั่นเอง ที่เป็นของ ?เสี่ยเปี๋ยง? ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกธนาคารยึด แต่มีคนแจ้งว่าสงสัยมีการ ซื้อคืนไปแล้ว ผู้ที่เป็นคู่สัญญากับรัฐคือ เสี่ยเปี๊ยก จากลพบุรี คนใกล้ชิดเสี่ยเปี๋ยงคนที่ซื้อข้าวจากรัฐบาล 5,700 บาทต่อตันและไปขายราคา 12,000 บาทต่อตัน และเป็นผู้มีส่วนทำข้าวถุงขายคนจนสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่หาข้าวถุงไม่ค่อยเจอ สรุปแล้วเป็นพวกขาใหญ่ที่ใกล้ชิดนายใหญ่และเจ๊ ด ภายใต้หลักทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

      นพ.วรงค์ กล่าวว่า ต้องจับตาดูให้ดี เฉพาะที่เคทีบีไซโลแห่งเดียวตรวจแล้วจะมีข้าวหาย ข้าวเสื่อมรวมทั้งหมดเท่าไร โดยส่วนนี้เป็นขั้นตอนเก็บข้าว เป็นทุจริตกลางน้ำไม่เกี่ยวกับขั้นตอนระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ซึ่งเป็นการระบายข้าว เป็นทุจริตปลายน้ำ เท่ากับโกงทั้งกลางน้ำและปลายน้ำ งานนี้ถ้า คสช.เอาจริงเอาจังการตรวจโกดังข้าวทั่วประเทศ รับรองคุกไม่พอใส่คนโกงแน่นอน

จี้ไซโลต้องได้มาตรฐาน

      ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ได้เดินทางไปตรวจโกดังข้าวที่ จ.อุดรธานี จากการสำรวจตรวจตราโกดังข้าวในหลายจังหวัด ได้บทสรุปสำคัญว่าเมื่อเหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านพ้นโกดังและไซโลทุกแห่งทั่วประเทศต้องกำหนดเป็น Code of Conduct (แนวทางอันพึงปฏิบัติ) อย่างเคร่งครัด ทุกโกดัง ไซโลต้องมีมาตรฐานเดียวกันในการดูแลรักษาคุณภาพข้าว ตนหวังเห็นสิ่งซึ่งเรียกว่าเป็นมาตรฐานในระดับสูง (High Standard) ทั้งเรื่องการดูแลรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของโกดัง/ไซโล การจัดวางกองข้าวในโกดังตามข้อกำหนดของกระทรวงพาณิชย์ การดูแลเรื่องความสะอาดอย่างครบวงจร ไม่มีขี้นก ตัวมอด หยากไย่ กลิ่นสกปรก น้ำฝนรั่ว การรมยาชนิดที่มีคุณภาพตามกำหนดวาระที่ชัดเจนและต่อเนื่อง การตรวจนับปริมาณข้าวที่ต้องแม่นยำไม่คลาดเคลื่อน สภาพของโกดังมีมาตรฐานไม่เก่าทรุดโทรม กระสอบข้าวสารที่ไม่เน่าเปื่อย บัญชีหน้าโกดังกับปริมาณข้าวภายในโกดังต้องสอดคล้องกัน ไม่มีข้าวต่างชนิดปลอมปน และรหัสข้าวต้องมีความชัดเจน ไม่เลอะเลือน

      ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ตนมองในมุมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและกระบวนการสร้างเสริมประสิทธิภาพประสิทธิผลต่อทิศทางการพัฒนาข้าวไทยให้ปรากฏเกียรติคุณที่ยั่งยืนสู่ตลาดโลก เหตุการณ์ครั้งนี้อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากปัญหาโครงการรับจำนำข้าว น่าจะนำมาซึ่งแนวทางการปรับปรุงแก้ไขครั้งสำคัญเป็นครั้งแรกต่อกระบวนวิธีการดูแลรักษาคุณภาพข้าว และการนำออกสู่การจำหน่ายเป็นรายได้และชื่อเสียงของประเทศไทยอย่างครบวงจร

คสช.ไม่ตอบแถลงร่างรธน.

       ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศความเคลื่อน ไหวที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 11.30 น. มี เจ้าหน้าที่เข้ามาปรับแต่งภูมิทัศน์และทำความสะอาดบริเวณสนามหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า รวมถึงจัดเก้าอี้ เตรียมสถานที่ในการจัดพิธีบวงสรวงสักการะบูชาท้าวมหาพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบในวันที่ 14 ก.ค. เวลา 10.00 น. ซึ่งคาดว่า ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ประธานในพิธี

       พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีม.ล.ปนัดดาเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคสช. มาเป็นประธานในพิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ต้องดูว่าวันที่ 14 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ ติดภารกิจอะไรหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้ตอบรับว่าจะเดินทางไปเป็นประธาน ทั้งนี้ งานในส่วนของทำเนียบรัฐบาลต้องไปถามพล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. ฝ่ายกิจการพิเศษที่ดูแลจัดการงานในส่วนทำเนียบรัฐบาลเอง

      เมื่อถามว่าในวันที่ 15 ก.ค.จะมีการแถลงข่าวเรื่องธรรมนูญชั่วคราวหรือไม่ พ.อ.วินธัยปฏิเสธว่าขณะนี้ทีมโฆษกคสช.ยังไม่ได้รับการประสานข้อมูลดังกล่าวมาแต่อย่างใด

โพลมั่นใจคสช.ทำงาน 

       สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศ 1,410 คน ระหว่างวันที่ 8-12 ก.ค. ที่ผ่านมา กรณีความมั่นใจในการปฏิบัติหน้าที่ของ คสช.พบว่า เรื่องที่ประชาชนมั่นใจมากที่สุดเป็นอันดับ 1 หรือร้อยละ 85.63 คือ การปฏิรูปประเทศ คืนความสุขให้ประชาชน เพราะมีแผนการทำงานที่ชัดเจน มุ่งมั่น ตั้งใจ และหลายฝ่ายให้ความร่วมมืออย่างดี รองลงมาคือการจัดระเบียบสังคม เช่น อบายมุข ยาเสพติด ผู้มีอิทธิพล ร้อยละ 74.90 เพราะมีผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรม ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แก้ปัญหาได้เด็ดขาด ไม่เกรงกลัวอิทธิพล สุดท้ายร้อยละ 72.22 การแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น คสช.ตรวจสอบและ แก้ปัญหาการทุจริตในหลายโครงการได้ อย่างเต็มที่

       จุดเด่นของ คสช.ที่ประชาชนชื่นชอบ ร้อยละ 86.04 เห็นว่าทำงานรวดเร็ว จริงจัง เช่น การแก้ปัญหาจำนำข้าว วินรถตู้ คอร์รัปชั่น เป็นต้น ส่วนปัญหาที่ประชาชนอยากให้ คสช.จัดการโดยเร่งด่วน ร้อยละ 90.96 ระบุ ต้องการการบริหารประเทศที่มีเสถียรภาพ สร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนและต่างชาติ เป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ร้อยละ 88.46 อยากให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องและค่าครองชีพ ร้อยละ 87.50 แก้ปัญหาอาชญากรรม ภัยสังคม โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน

       ความในใจที่ประชาชนอยากบอก คสช. ร้อยละ 43.30 เป็นกำลังใจให้ ขอให้ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ยุติธรรม รองลงมาอยากให้แก้ปัญหาทุกอย่างโดยเร็ว เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะเศรษฐกิจและปากท้อง

หนุนจำกัดวาระส.ส. 

      ศูนย์สำรวจความคิดเห็น นิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจเรื่อง ?ข้อเสนอของ กกต.ต่อการปฏิรูประบบการเลือกตั้ง และที่มาของ ส.ส. และส.ว.? สำรวจจากประชาชน 1,247 หน่วยตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 9-10 ก.ค.2557 กรณีเสนอให้เปลี่ยนระบบการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จากระบบเขตเดียวเบอร์เดียวเป็นระบบเขตใหญ่หลายเบอร์ ร้อยละ 60.79 เห็นด้วย ร้อยละ 26.70 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 12.51 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ข้อเสนอให้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ มาจากกลุ่มสาขาอาชีพที่หลากหลาย ร้อยละ 84.60 เห็นด้วย ร้อยละ 12.11 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 3.21 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ร้อยละ 0.08 ระบุว่าควรยกเลิก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 

ถามถึงข้อเสนอให้ ส.ส.มีวาระดำรงตำแหน่งไม่เกิน 2 วาระ หรือ 8 ปี ร้อยละ 71.69 เห็นด้วย ร้อยละ 24.14 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 3.77 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ขณะที่ร้อยละ 0.40 ระบุว่าควรกำหนดให้น้อยกว่านี้หรือไม่เกิน 1 วาระ ส่วนที่เสนอห้ามมิให้ บุพการี บุตรบุญธรรม คู่สมรสตามกฎหมาย หรืออดีตคู่สมรส ลงรับสมัครเลือกตั้งเป็น ส.ส. หรือ ส.ว. ในคราวหรือวาระเดียวกัน ร้อยละ 60.71 เห็นด้วย ร้อยละ 34.48 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 4.65 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ ขณะที่ร้อยละ 0.16 ระบุว่า ควรเน้นการพิจารณาประวัติของผู้สมัครเบื้องต้น และควรกำหนดให้ครอบครัวละไม่เกิน 2 คน

ข้อเสนอหากยุบสภาให้ปลัดกระทรวง ทบวง กรม รักษาการแทนคณะรัฐมนตรี ร้อยละ 66.00 เห็นด้วย ร้อยละ 25.10 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 8.90 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ/ไม่สนใจ 

เสรีไทยเข้าพบรมต.ฝรั่งเศส

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย ฐานะเลขาธิการองค์การเสรีไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค. นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ตัวแทนองค์การเสรีไทยในยุโรป ยื่นหนังสือของเลขาธิการเสรีไทยถึง นายโลรองต์ ฟาบิอุส รมว.ต่างประเทศของฝรั่งเศส เพื่อยื่นจดหมายขอเข้าพบรายงานสถานการณ์ทางการเมืองและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทย รวมทั้งหารือยุทธศาสตร์ต่อต้านเผด็จการ และเมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายจรัลได้เข้าพบนายฟาบิอุส ตามที่ร้องขอ นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การเสรีไทยได้ ยื่นหนังสือถึงประธานสหภาพยุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมแล้ว เนื้อหาทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการเจรจาซึ่งจะเปิดเผยให้ทราบต่อไป

นายจารุพงศ์โพสต์เนื้อหาของจดหมาย มีใจความสรุปว่า หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อระบบการปกครองของไทย ประกาศเรียกบุคคลและจับกุมคุมตัวผู้บริสุทธิ์ ทั้งบุคคลธรรมดา นักวิชาการ นักข่าว นักการเมือง นักเคลื่อนไหว อีกทั้งการรัฐประหารครั้งนี้ทำให้เกิดการคว่ำบาตรและทำให้ไทยได้รับการประณามจากสหรัฐ สหภาพยุโรปและออสเตรเลีย ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและอดีต รมว.มหาดไทยของไทยที่มาจากการเลือกตั้ง ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดกับนักคิดเสรีไทยและพันธมิตรต่างชาติได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะร่วมกันทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันการกลับมามีอำนาจของกลุ่มต่อต้านประชาธิปไตยในไทย รวมทั้งปกป้องเสรีภาพทุกแขนง และเรียกร้องเคารพสิทธิมนุษยชนทุกรูปแบบ เพื่อวางรากฐานประชาธิปไตยที่ยั่งยืน

พท.ชี้"แม้ว"เป่าเค้กไม่มีนัยยะ

นายนพดล ปัทมะ คณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์กรณีอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ ระบุ พ.ต.ท.ทักษิณจัดงานวันเกิดที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อส่งสัญญาณในเชิงสัญลักษณ์ว่า เท่าที่ทราบไม่ได้จัดงานอะไร พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคนหนึ่งที่เห็นว่าวันเกิดเป็นวันที่ต่างจากวันทั่วไปแต่ไม่ได้จัดงานอะไรเป็นพิเศษ พ.ต.ท.ทักษิณประสงค์จะใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ไม่ต้องการจัดอะไรเอิกเกริก ไม่ต้องการให้มีนัยยะทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เพราะปัจจุบันบ้านเมืองอยู่ในช่วงที่ทุกคนต้องการสร้างความปรองดอง ไม่ต้องการให้เป็นประเด็นใดๆ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่อย่างสงบนิ่ง ดังนั้นอยากให้พรรคประชาธิปัตย์พูดอะไรให้ตรงไปตรงมา อย่าวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เพราะทางเราก็พยายามที่จะไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้บ้านเมืองไปสู่ความปรองดอง

นายนพดลกล่าวว่า เท่าที่สังเกตมีแต่พรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ประเด็นทางการเมือง เป็นสิทธิที่จะทำแต่โปรดอย่ามาพาดพิงพ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนที่สมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ให้สัมภาษณ์เรื่องต่างๆ เป็นสิทธิส่วนตัวที่แต่ละคนคงอยากแสดงความคิดเห็นในเรื่องของบ้านเมืองด้วยเจตนาที่ดี แต่ไม่ใช่ความเห็นของพรรค เพราะขณะนี้พรรคไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ได้ พรรคเพื่อไทยอยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยดีจึงไม่ประสงค์ที่จะให้สัมภาษณ์ทางการเมืองที่ไปพาดพิงถึงใคร

ไม่พูดเรื่องร่างรธน.ชั่วคราว 

นายนพดลกล่าวกรณี คสช.มีความเห็นที่จะให้ทุกภาคส่วนเข้าร่วมสภาปฏิรูปว่า พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้เพราะไม่สามารถชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนได้ อีกทั้งไม่ให้พรรคทำกิจกรรมทางการเมืองจึงยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่โดยพื้นฐานพรรคเพื่อไทยพร้อมทำงานเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสันติสุข ปรองดองและเดินหน้าไปได้ และไม่ขอแสดงความเห็นการบริหารประเทศแบบถ่วงดุลระหว่างคสช.และรัฐบาล เนื่อง จากไม่อยากให้เป็นประเด็นทางการเมือง

จาตุรนต์ไม่พูดอำนาจคสช.-รบ. 

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุ ธรรมนูญการปกครองจะออกมาอย่างไรกำลังเป็นที่สนใจกันอยู่ ประเด็นที่สนใจกันมากที่สุดดูเหมือนเป็นเรื่อง คสช.กับรัฐบาล องค์กรไหนจะมีอำนาจมากน้อยอย่างไร หัวหน้าคสช.จะควบตำแหน่งอื่นหรือไม่ ประเด็นนี้ตนคงไม่ออกความเห็นตอนนี้เพราะเห็นว่ามีประเด็นอื่นที่สนใจมากกว่า

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ที่คิดว่าน่าแสดงความคิดเห็นตอนนี้คือเรื่องที่คสช.และองค์กรต่างๆ ภายใต้การกำกับของคสช.กำลังจะทำกันต่อไป ดูเหมือนหลายๆ ฝ่ายต่างก็สนใจและพยายามผลักดันเรื่องที่ตนเองเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งนับวันก็ดูจะมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องที่ทำกันอยู่หรือมีคนอยากให้ทำมีตั้งแต่เรื่องใกล้ตัวไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ ระดับประเทศ มีทั้งการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปจนถึงการปฏิรูปบางด้าน หรือบางวงการไปจนกระทั่งปฏิรูปประเทศทั้งประเทศ

ถามปฏิรูปก่อน-หลังเลือกตั้ง 

นายจาตุรนต์กล่าวว่า คำถามจึงมีอยู่ว่าก่อนจะส่งมอบอำนาจคืนให้ประชาชน คสช.และองค์กรต่างๆ ภายใต้การกำกับของคสช.ที่กำลังจะเกิดขึ้นตามบทบัญญัติของธรรมนูญการปกครองที่กำลังยกร่างกันอยู่นั้นควรทำอะไรแค่ไหนกันแน่ ควรจะพยายามแก้ปัญหาเร่งด่วนจำเป็นมากๆ เท่านั้น หรือควรพยายามแก้ปัญหาให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การจะแก้ปัญหาสารพัดในระยะเวลาเพียงปีเศษๆ จะเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด 

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ควรจะปฏิรูปเรื่องสำคัญๆ ของประเทศนี้ให้สำเร็จเสียก่อนจึงให้มีการเลือกตั้ง หรือควรจะเน้นไปที่การกำหนดกฎกติกาเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ดี แล้วให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมาดำเนินการเรื่องต่างๆ โดยผ่านฉันทามติของประชาชน 

เสนอเปิดพื้นที่ระดมสมอง

นายจาตุรนต์กล่าวว่า ขณะนี้มีการเสนอความเห็นเกี่ยวกับการแก้ปัญหาต่างๆ บ้าง การปฏิรูปด้านต่างๆ บ้าง ตามแต่ใครจะคิดอะไรได้ แต่ก็ยังจำกัดอยู่ในวงแคบๆ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปิดโอกาสให้มีการเสนอความคิดเห็นให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น

นายจาตุรนต์กล่าวว่า คำถามสุดท้ายสำหรับช่วงนี้ก็คือก่อนจะมีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างจริงจังว่าจะเดินหน้าจัดการกับปัญหาต่างๆ อย่างไรต่อไปนั้น จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะส่งเสริมให้มีการหาข้อสรุปร่วมกันเสียก่อนว่าปัญหาของสังคมไทยที่สะสมมาในช่วงหลายปีมานี้มีปัญหาอะไรบ้าง ต้นเหตุของปัญหาคืออะไร เมื่อเห็นต้นเหตุของปัญหาตรงกันพอสมควรแล้ว การจะหาทางแก้ปัญหาหรือจะปฏิรูปอะไรกันต่อไปก็ตามย่อมน่าจะง่ายและอาจจะมีทางที่จะเกิดผลได้มากขึ้น

บุญจงชี้ที่มาสนช.-สภาปฏิรูป

นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีต รมช.มหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งในสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกสภาปฏิรูปว่า ส่วนตัวเห็นว่าหากจะจัดการปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศขณะนี้ เบื้องต้นต้องไม่มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องหรือนั่งในตำแหน่งดังกล่าว เพราะเมื่อนักการเมืองเข้าไปเมื่อใดก็จะมีเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ ผูกพันมากมาย อีกประการที่สำคัญมากคือไม่ควรให้ข้าราชการเข้าไปนั่งควบ 2 ตำแหน่ง เนื่องจากจะไม่มีเวลาในการทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะทหารที่มีกระแสข่าวว่าจะเข้าไปร่วมทำงานในสนช. และสภาปฏิรูปจำนวนมาก อยากให้เสียสละและถอยออกมา หากต้องการเข้าร่วมงานจริงก็ควรจะลาออกจากข้าราชการเสียก่อน รวมทั้งนักวิชาการ อธิการบดีต่างๆ ก็ควรกระทำเช่นกันเพื่อแก้ปัญหาของประเทศอย่างจริงจัง 

นายบุญจงกล่าวว่า เราต้องการแก้ปัญหา ทุจริตคอร์รัปชั่น แต่หากให้ข้าราชการเข้าไปเท่ากับเริ่มต้นก็ทุจริตคอร์รัปชั่นเวลาราชการไปแล้ว และยังรับเงินเดือน 2 ที่ด้วย โดยเฉพาะตำแหน่ง สนช. หรือสภาปฏิรูป มีเงินเดือนเป็นหลักแสนบาท หากเป็นเช่นนี้จะตอบคำถามสังคมอย่างไรที่หวังว่าจะเข้ามา แก้เรื่องการโกงในประเทศ เพราะเริ่มต้นก็ทำเองแล้ว

ตั้งเงื่อนไขเว้นวรรค 10 ปี 

เมื่อถามว่า กปปส.และนปช. เข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าวได้หรือไม่ อดีตรมช.มหาดไทยกล่าวว่า หากไม่ใช่นักการเมืองก็เข้ามาได้เพราะถือเป็นคนไทยคนหนึ่ง แต่หากใครเข้าทำงานเรื่องนี้ควรมีบทเฉพาะกาลควบคุมคือ ไม่ควรให้กลับมาเล่นการเมืองหรือเกี่ยวข้องเป็นเวลา 10 ปี เพราะป้องกันการเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ เนื่องจากมีส่วนได้เสีย 

นายบุญจงกล่าวถึงข้อเสนอแนวทางการปฏิรูปนักการเมืองของ กกต.ว่า ข้อเสนอเรื่องจำกัดสิทธิและพรรคการเมืองห้ามหาเสียงประชานิยมนั้น ส่วนตัวไม่อยากโต้เถียงกับกกต. แต่ควรให้กกต.ไปดูเรื่องเกี่ยวกับการซื้อสิทธิ์ ขายเสียงดีกว่า เพราะที่ผ่านมา กกต.ไม่เคยจับคนซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้เลย ทั้งที่เป็นหน้าที่สำคัญสุดที่ควรจะทำ รวมทั้งการออกกฎหมายเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงให้มีความรุนแรงสูงสุด เช่น หากพรรคการเมืองปล่อยให้สมาชิกซื้อเสียง หากถูกจับได้ต้องยุบพรรคการเมือง และกรรมการบริหารพรรคก็ควรถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ขณะที่นักการเมืองที่เป็นตัวการกระทำผิด นอกจากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตแล้ว ควรมีโทษทางอาญา อาทิ จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต ประชาชนหากยอมให้ขายเสียงก็มีความผิดทางอาญา มีโทษหนัก จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิตด้วยเช่นกัน เพื่อแก้ปัญหาซื้อสิทธิ์ขายเสียงให้หมดไปจากประเทศ

นายบุญจงกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังเสนอให้กกต.จัดให้มีอาสาสมัครกกต.ประจำหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 15-20 คน ขึ้นมาช่วยสอดส่องเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงในช่วงเลือกตั้ง เพราะที่ผ่านมา กกต.จังหวัดไม่มีทางทราบเรื่องเพราะรอแต่ให้มีการรายงานเข้ามา รวมทั้งกกต.จังหวัดบางคนตกอยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเมืองด้วย อยากฝากกกต.เข้าไปดูแล โดยนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ควรพิจารณาอย่างเร่งด่วน 

ตร.จ่อจับมือบึ้มบิ๊กซี 

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. (มค.) กล่าวว่าจากการจับกุมผู้ต้องหาหลายคดีที่ผ่านมา รวมทั้งล่าสุดที่ตรวจยึดเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 2 จำนวน 1 กระบอก ลูกจรวดอาร์พีจี 2 พร้อมดินส่ง 3 ลูก ลูกระเบิดสังหารชนิดอาร์ จีดี ไฟว์ 13 ลูก พร้อมชุดเรือนชนวน 15 ชุด ปืนอาก้า จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 3 ซอง ลูกกระสุนยิง 40 มิลลิเมตร จำนวน 11 ลูก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 7.62 มิลลิเมตร 127 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 11 มิลลิเมตร จำนวน 18 นัด และเสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว โดยตรวจยึดได้ที่ห้องเช่าเลขที่ 402/24 ชั้น 2 อาคาร 14 ศรีไทยคอนโด ภายในซอยประชาอุทิศ 33 แยก 6 เขตทุ่งครุ รวมทั้งการจับกุมนายณรงศักดิ์ หรือ ตุ้ย พลายอร่าม อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุ ยิงระเบิดเอ็ม 79 แล้วสารภาพว่าได้ก่อเหตุหลายจุดนั้น

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขณะนี้กำชับเร่งรัดให้ชุดสืบสวนขยายผลทั้ง 2 กรณีว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ตอนนี้ทราบตัวผู้นำอาวุธสงครามทั้งหมดมาซุกซ่อนไว้แล้ว มีผู้ต้องสงสัยหลายคน สั่งให้พนักงานสอบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขอออกหมายจับเพิ่มเติม พร้อมสั่งกำชับให้ชุดสืบสวนตามแกะรอยประกบเตรียมจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพิ่มอีก คาดจะได้ตัวหลายคนภายในสัปดาห์นี้ โดยผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้มีความคาบเกี่ยวกับการก่อเหตุหลายจุดหลายเหตุการณ์ รวมถึงจุดบิ๊กซี ที่ทำให้เด็กผู้หญิงเสียชีวิตและการก่อเหตุในจุดอื่นๆ

จับได้ 7 หลบหนี 9

รองผบ.ตร. กล่าวว่า อาวุธเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุรุนแรงในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ในช่วงที่ผ่านมาด้วย ส่วนจะเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ก่อที่เหตุสำนักพิมพ์เดลินิวส์หรือไม่นั้น วันนี้สั่งให้ชุดสืบสวนสอบเค้นนายณรงค์ศักดิ์ อีกรอบเพื่อต้องการพิสูจน์ทราบให้ได้ข้อเท็จจริง โดยการสอบสวนครั้งแรกยังไม่ยอมรับว่าได้ก่อเหตุที่จุดดังกล่าว

พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า สำหรับคดีด้านความมั่นคงที่เกี่ยวกับอาวุธปืน อาวุธสงครามและวัตุระเบิด ตามคำสั่ง ตร.ที่ 321/2557ลงวันที่ 20 มิ.ย.2557 นั้นมีผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คน จับได้ขณะเกิดเหตุ 8 คน จับได้ตามหมายจับ 7 คน หลบหนีอยู่ 9 คน สำหรับผู้ต้องหาที่หลบหนีหมายจับนั้นมี 1.นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ 2.นายชัยวัตน์ ผลโพธิ์ 3.นายจักรภพ เพ็ญแข 4.นายจักรินทร์ เรืองศักดิ์วิชิต 5.นาย กฤษณะ ทัพไทย 6.นายชัยวัตน์ ผลโพธิ์ (มี 2 หมาย) 7.นายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร 8.นายสำราญ สายชนะ 9. ร.ต.เถกิงศักดิ์ สังฆมณี