สหภาพรสก.โต้ขาดทุน จวก'บอร์ด'ทำเจ๊ง-ปัดรับผิดชอบ ขอพนง.ร่วมทำแผนแก้ รฟท.ชู 5 ข้อฟื้นฟูกิจการ เปิดอีกข้อมูลงบเสพสุข รูด 3 ล.ซื้อเครื่องประดับ

 

      ปธ.สร.การบินไทยหนุนตัดสิทธิประโยชน์บอร์ด บางคนใช้'บาร์เทอร์การ์ด'ผิดหลักการ ซื้อเครื่องประดับสวมใส่สูงถึงเดือนละ 3 ล้าน ทั้งรถไฟ-รถเมล์แจงเป็นกิจการบริการประชาชนไม่ได้แสวงหากำไร สหภาพแบงก์รัฐวอนอย่าตัดโบนัสเพราะทำงานหนัก-เงินเดือนต่ำอยู่แล้ว

@ ปธ.สหภาพขสมก.แจง"ขาดทุน"

     เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม กรณีนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกลุ่มรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคมจำนวน 13 แห่ง ที่มีผลประกอบการขาดทุนจำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ขาดทุนสะสมรวมหนี้สินสูงถึงประมาณ 1 แสนล้านบาท 2.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ขาดทุนสะสมรวมหนี้สินประมาณ 8-9 หมื่นล้านบาท และ 3.บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ขาดทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยหน่วยงาน ร.ฟท. กับ ขสมก. มีแผนฟื้นฟูกิจการแต่ยังไม่ได้รับการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมนั้น 

    นายวีระพงศ์ วงแหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) กล่าวว่า ขสมก.เป็นองค์กรที่ขาดทุนมาตลอด เพราะวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อให้เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการให้บริการประชาชน ดังนั้น ขสมก.จึงไม่สามารถปรับขึ้นค่าโดยสารได้มากนัก เพราะต้องไม่ทำให้ประชาชนที่ใช้บริการเดือดร้อน เนื่องจากกลุ่มคนที่ยังขึ้นรถเมล์ ขสมก.ไม่ใช่กลุ่มคนที่มีรายได้ เป็นบุคคลที่มาจากต่างจังหวัด ต้องเก็บค่าโดยสารต่ำกว่าต้นทุน ตรงนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว

"ไม่ได้รู้สึกกังวลหรือหนักใจที่ถูกมองว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนมาโดยตลอด เพราะการขาดทุนมาจากนโยบายรัฐเอง ที่ผ่านมาเคยมีการทำแผนฟื้นฟู ขสมก.ให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้ หนึ่งในนั้นคือจัดหารถใหม่จำนวน 3,183 คัน มาทดแทนรถเดิมที่หมดสภาพแล้ว แต่ ขสมก.รอมา 4-5 รัฐบาลแล้วยังไม่ได้รับการอนุมัติ" นายวีระพงศ์กล่าว

@ เสนอคสช."ซื้อรถใหม่-เพิ่มอู่"

     นายวีระพงศ์ กล่าวว่า ได้ทำหนังสือไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านไปยัง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. เพื่อเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหา ขสมก.แล้วหลายแนวทาง ทั้งเรื่องจัดหารถใหม่ จัดหาอู่รถเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถติดตั้งสถานีเอ็นจีวีได้ด้วย และอยากให้ คสช.มอง ขสมก.เป็นองค์กรที่ให้บริการสังคมเป็นรัฐสวัสดิการ ถ้าเป็นอย่างนี้ต้องไม่แสวงหากำไร เห็นด้วยกับที่ คสช.ต้องการแก้ปัญหารัฐวิสาหกิจที่มีปัญหามาก และหนึ่งในนั้นมี ขสมก.ด้วย ในการแก้ปัญหาอยากให้เชิญตัวแทนพนักงาน หรือ สร.ขสมก.เข้าไปช่วยให้ข้อเสนอแนะด้วย 

      "พนักงาน ขสมก.กว่า 1.3 หมื่นคน ไม่เคยได้รับโบนัส เพราะเป็นองค์กรที่ขาดทุนมาตลอดตั้งแต่ตั้ง ขสมก.เมื่อปี 2519 แต่พนักงานหวังว่า คสช.จะเข้ามาช่วยปรับปรุงดูแล ขสมก.ให้ดีขึ้น ไม่ต้องถึงกับทำให้มีกำไรมากเหมือนกับที่อื่น แค่ให้เลี้ยงตัวได้พอแล้ว" นายวีระพงศ์กล่าว

@ สหภาพรถไฟชู5ข้อแก้ขาดทุน

       นายอำพน ทองรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า พนักงาน ร.ฟ.ท.ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษเหมือนรัฐวิสาหกิจอื่นๆ เพราะเป็นองค์กรที่มีผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นองค์กรที่ไม่ได้หวังผลกำไร ต้องช่วยเหลือประชาชนให้ผู้มีรายได้ต่ำให้สามารถเดินทางได้ ส่วนแนวทางที่ สร.ร.ฟ.ท.เห็นว่าจะแก้ไขปัญหาขาดทุนสะสมได้ มองว่ารัฐควรอนุมัติ หรือช่วยสนับสนุนมาตรการต่างๆ ตามที่ ร.ฟ.ท.ได้เคยเสนอ

       "แนวทางที่พอจะทำให้ผลประกอบการดีขึ้น คือ 1.รัฐต้องเข้ามาดูแลเกี่ยวกับโครงสร้าง ร.ฟ.ท.ทั้งหมด 2.ปรับเปลี่ยนระบบรางโดยเฉพาะหมอนรถไฟที่เดิมใช้ไม้ขนาด 80 ปอนด์ มาเป็นหมอนแบบคอนกรีต 100 ปอนด์ทั้งหมด เพื่อเพิ่มศักยภาพการเดินรถให้บรรทุกน้ำหนักได้มากขึ้น เช่นเดียวกับบำรุงสะพานให้รองรับน้ำหนักมากขึ้น 3.ให้รัฐพิจารณาฟื้นการจัดการรถพ่วงเพื่อพ่วงสินค้าเกษตร 4.อยากให้รัฐบาลยกเลิกมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2541 ว่าด้วยเรื่องการจำกัดพนักงานโดยรับพนักงานใหม่ได้ไม่เกิน 5% ของพนักงานที่เกษียณอายุราชการ เพราะมองว่าน้อยไป เมื่อเทียบกับงานที่มีอยู่ และ 5.บริหารจัดการที่ดินว่างเปล่าของ ร.ฟ.ท.ให้เกิดมูลค่ามากกว่าที่เป็นอยู่" นายอำพนกล่าว และว่า ยังไม่เห็นด้วยหากจะให้เอกชนเข้ามาร่วมบริหารรถไฟ เพราะมองว่ายังไม่เห็นจุดเด่นอะไร อีกทั้งหากเอกชนเข้ามาบริหาร ก็คงปรับขึ้นราคาตั๋วโดยสาร เท่ากับว่าภาระประชาชนก็จะเพิ่มมากขึ้น

@ สร.บินไทยแฉบอร์ดรูดแหลก

      นายดำรงค์ ไวยคณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย (สร.กบท.) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับการตัดสิทธิประโยชน์ของบอร์ดการบินไทย ปัจจุบันบอร์ดยังมีสิทธิใช้บาร์เทอร์การ์ดสำหรับเลี้ยงรับรองลูกค้าที่ผูกโยงกับห้างสรรพสินค้า ซึ่งในอดีตบอร์ดบางคนใช้การ์ดผิดวัตถุประสงค์ เช่น ซื้อเครื่องประดับไว้สวมใส่ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 3 ล้านบาทต่อเดือน แต่ในส่วนของพนักงานยังไม่เห็นว่ามีสิทธิประโยชน์ใดที่เกินสมควร แม้ว่าพนักงานจะได้สิทธิตั๋วฟรีปีละ 4 ใบ แต่ส่วนใหญ่มักไม่ใช้สิทธิ

      นายดำรงค์ กล่าวว่า ส่วนแผนล้างการขาดทุนสะสมของการบินไทย มองว่า คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร. หรือซุปเปอร์บอร์ด) ควรเปิดโอกาสให้พนักงานเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนหรือแสดงความคิดเห็น เพราะหากรับฟังความเห็นของคณะผู้บริหารฝ่ายเดียวการแก้ปัญหาอาจกลับมาจุดเดิม เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานขาดทุนเพราะการดำเนินงานของคณะผู้บริหาร จึงไม่มั่นใจว่าแผนที่ผู้บริหารเสนอจะเห็นต่อองค์กรหรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการหารือในสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์และได้ทำหนังสือยื่นต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เสนอเรื่องดังกล่าวแล้วแต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ

@ อัดบอร์ดการเมือง-ไม่รับผิดชอบ

      "การแก้ปัญหาขาดทุนของการบินไทยต้องแก้ที่โครงสร้างผู้บริหารและวิธีการเลือกบอร์ด เนื่องจากที่ผ่านมาบอร์ดมักมาจากการเมือง แสวงหาผลประโยชน์ในตำแหน่ง ไม่มีความรู้ความเข้าใจในบริษัท เมื่อบริหารงานผิดพลาดมักไม่แสดงความรับผิดชอบ ขณะที่ผู้บริหารมักมาจากเส้นสาย ไม่มีธรรมาภิบาล ไม่มีความรู้ ทำให้ต้องเสียงบประมาณเพื่อจ้างที่ปรึกษาจำนวนมาก และยังต้องรับใช้บอร์ดที่มาจากการเมือง ที่ผ่านมาแม้คณะกรรมการและบอร์ดบริหารทยอยลาออก แต่ส่วนตัวยังมองว่ายังมองไม่เห็นทางออกของการบินไทย เพราะบุคคลที่มีส่วนสร้างความเสียหายยังอยู่ในตำแหน่ง" นายดำรงค์กล่าว 

     ส่วนความเห็นของนักวิชาการที่เสนอให้การบินไทยเป็นเอกชนมากขึ้นนั้น เห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุดหากใช้วิธีการดังกล่าวภาครัฐจะเสียรายได้จำนวนมาก ปัจจุบันการบินไทยแข่งขันกับเอกชนไม่ได้เพราะการตัดสินใจทำได้ล่าช้า มีขั้นตอนทางราชการมาก ภาครัฐควรแก้กฎหมายให้การบินไทยตัดสินใจเบ็ดเสร็จได้ด้วยตัวเองโดยมีบอร์ดเป็นผู้ควบคุมการจัดซื้อจัดจ้าง คือเป็นรัฐวิสาหกิจที่ทำงานแบบเอกชนได้อย่างเต็มตัว ในส่วนของการตัดโบนัสนั้น ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะโบนัสเป็นรางวัลของพนักงานช่วยสร้างกำลังใจเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน

@ แบงก์รัฐโอดอย่าลดโบนัส

     รายงานข่าวจากสหภาพแรงงานแบงก์รัฐรายหนึ่ง ระบุว่า กรณีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กำลังพิจารณาปรับเกณฑ์ประเมินเกี่ยวกับโบนัสนั้น คงต้องรอดูก่อนว่าเกณฑ์ใหม่ที่จะออกมานั้นเป็นอย่างไร แต่ถ้าเทียบพนักงานแบงก์รัฐกับแบงก์พาณิชย์พบว่าแบงก์รัฐไม่ได้มีเงินเดือนสูง แบงก์รัฐเกือบทั้งหมดต้องดำเนินภารกิจที่สนองนโยบายรัฐบาลเป็นจำนวนมาก บางช่วงในวันเสาร์-อาทิตย์ ยังไม่ได้หยุดทำงาน 

    นอกจากภารกิจสนองรัฐแล้วยังต้องปล่อยสินเชื่อและดำเนินกิจการให้บริการลูกค้าทั่วไปเพื่อเป็นการสร้างกำไรให้กับธนาคาร ดังนั้นเมื่อมีผลกำไรควรจะแบ่งผลกำไรนั้นมาให้พนักงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน การจ่ายโบนัสให้พนักงานที่ผ่านมาเป็นไปตามเกณฑ์ที่ สคร.กำหนดไว้ 

        "พนักงานแบงก์รัฐมีเงินเดือนต่ำมาก สวัสดิการไม่ได้เหมือนข้าราชการที่เบิกได้หมด ดังนั้นถ้าถามจริงๆ ไม่อยากให้ไปปรับลดโบนัสลง กำไรที่ได้นั้นแบงก์รัฐส่งเงินเข้ารัฐปีละหลายหมื่นล้านบาท" รายงานข่าวระบุ 

ส่วนการตัดสวัสดิการที่ไม่จำเป็นคณะกรรมการแบงก์รัฐ อาทิ ค่าตีกอล์ฟ ค่าเลี้ยงรับรอง ที่บอร์ดบางคนถือบัตรเดบิต บัตรเครดิตวงเงินเดือนละ 1-3 แสนบาทนั้น พนักงานส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะบอร์ดบางคนไม่ใช่ผู้ที่เชี่ยวชาญทางด้านการเงินแต่มานั่งกินเงินเดือน กินสวัสดิการ บางครั้งทำให้ชื่อเสียงของแบงก์ได้รับความเสียหาย ด้วยการดึงแบงก์ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ถ้าตัดสวัสดิการตรงนั้นไปทำให้ประหยัดเงินปีละหลายพันล้านบาท

@ ร้องปปช.นครศรีฯสอบกฟภ.เขต2

     เมื่อเวลา 16.00 น. ที่สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ถนนพัฒนาการคูขวาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้มีตัวแทนกลุ่มแรงงานผู้ป้องกันการทุจริตในหน่วยงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 2 ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าพบสื่อมวลชนพร้อมเปิดเผยหนังสือร้องเรียน และเอกสารข้อมูลการทุจริตให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบนายทัศชัย พรรณพิพัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 2 ภาคใต้ จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมพวก 7 คน เนื่องจากมีการบริหารงานที่ไม่เหมาะสม กรณีที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จัดให้มีบริการใช้กระแสไฟฟ้าในพื้นที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2545 ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า พร้อมจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเท่ากับราคาค่ากระแสไฟฟ้าบนแผ่นดินใหญ่ รัฐต้องประสบภาวะขาดทุนปีละประมาณ 120 ล้านบาท ที่ผ่านมามีการขนถ่ายน้ำมันดีเซล จาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จาก จ.ชุมพร ระยะทาง 40 กิโลเมตร ค่าขนส่งอัตราลิตรละ 2.32 บาท รวมค่าขนส่งเป็นเงินปีละ 12 ล้านบาทเศษ แต่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงการขนถ่ายน้ำมันดีเซลจาก จ.ชุมพร เป็น จ.สุราษฎร์ธานี แทน ทำให้มีระยะทางไกลกว่าเดิมถึง 2 เท่า พร้อมกำหนดราคาค่าขนส่งลิตรละ 3.42 บาท อ้างว่าน้ำมันดีเซลที่ จ.ชุมพร ไม่มีคุณภาพ ทั้งที่เป็นน้ำมันของ ปตท.เหมือนกัน ทำให้ต้องเพิ่มต้นทุนที่สูงขึ้นลิตรละ 1.10 บาท และต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นถึง 24 ล้านบาทต่อปี จึงร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งกลุ่มผู้ร้องได้ส่งหนังสือร้องเรียนและเอกสารข้อมูลไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.ส่วนกลางแล้ว

@ คสช.ยันให้บำนาญทุกกระทรวง

     พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) และทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการประกาศแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ พ.ศ.2552 ฉบับที่ 13 ยังมีข้อสงสัยว่าเป็นการให้เฉพาะข้าราชการกระทรวงกลาโหมหรือไม่นั้น ว่า ในมาตรา 4 นว ระบุว่าผู้ที่ได้รับหรือมีสิทธิได้รับบำนาญปกติ บำนาญพิเศษ เพราะเหตุทุพพลภาพ บำนาญพิเศษหรือบำนาญตกทอด ในฐานะทายาทหรือผู้อุปการะ หรือผู้อยู่ในอุปการะ ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ไม่ได้ให้เฉพาะข้าราชการกระทรวงกลาโหม แต่ยังรวมไปถึงข้าราชการที่ได้รับเงินบำนาญต่ำกว่าเดือนละ 9,000 บาท ให้ได้รับเท่ากัน

@ ปชป.จี้คสช.เอาผิดคดีจำนำข้าว

      นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวกรณีปัญหาการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ที่มีความชัดเจนว่ามีกระบวนการโกงข้าว โกงเงินชาวนา มีอยู่จริง จากการตรวจสอบหลายพื้นที่พบว่า มีทั้งข้าวเสื่อมคุณภาพ ข้าวไม่ตรงกับรายการรับจำนำ รวมทั้งข้าวที่หายไปจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่าเป็นกระบวนการทำลายระบบเศรษฐกิจประเทศอย่างมาก เชื่อว่าหากปล่อยให้รัฐบาลที่แล้วมีอำนาจอยู่ จะไม่เห็นข้อเท็จจริง จึงขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจเอาจริง พร้อมทั้งเร่งเดินหน้าเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง 

@ "ปลัดชวลิต"เปิดงานสินค้าเกษตร

     เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สำนักชลประทาน 11 จังหวัดนนทบุรี นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขสู่ประชาชน" จัดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน เติมเต็มความสุขให้แก่ประชาชนผ่านการจำหน่ายสินค้าเกษตรและสินค้าบริโภคทั่วไปในราคาถูก นอกจากนี้ยังมี พ.อ.อนันต์กฤตย์ ดวงอัมพร รองผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รมน.จังหวัดนนทบุรี) มาชี้แจงแนวทางการปรองดองและการดำเนินงานของ คสช.ให้ผู้ร่วมงานทราบอีกด้วย

    นายชวลิตกล่าวว่า การจัดงานเกิดขึ้นจากความร่วมมือของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับส่วนราชการจังหวัดนนทบุรี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนนโยบายคืนความสุขให้ประเทศ ที่ต้องการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนผ่านการลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-13 กรกฎาคม ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ และมีแผนจัดขึ้นเดือนละครั้ง 

     นายชวลิตกล่าวว่า นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯยังมีนโยบายช่วยเหลือและส่งเสริมเกษตรกรอีกหลายทาง เช่น การลดต้นทุนปัจจัยการผลิตเพาะปลูกข้าวในฤดูกาล 2557 ทั้งการลดราคาปุ๋ย ลดราคาเมล็ดพันธุ์ข้าว นอกจากนี้ยังมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรนำงานวิจัยด้านการพัฒนาเกษตรของไทยมาเผยแพร่ให้ความรู้กับเกษตรกรไทยด้วย รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เกษตรกรอาสาสมัคร 60,000 คน จาก 814 อำเภอ ทั่วประเทศ ให้ความรู้เกษตรกรทั้งด้านการเพาะปลูก การผลิตปุ๋ยต่างๆ ตั้งเป้าช่วยเกษตรไทยไม่น้อยกว่า 1 ล้านราย

@ ส่งสารวัตรเกษตรดูแหล่งผลิต

     นายชวลิตกล่าวต่อว่า ความคืบหน้าการตรวจจับปุ๋ยปลอมและการลดราคาต้นทุนปัจจัยการผลิตนั้น เบื้องต้นทางกระทรวงเกษตรฯ สั่งการให้สารวัตรเกษตรของกรมวิชาการเกษตรออกตรวจพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลภายในรัศมี 200 กิโลเมตร เนื่องจากแหล่งการผลิตต้นทุนการผลิตส่วนใหญ่กว่า 90% อยู่ที่กรุงเทพฯ สารวัตรเกษตรจะตรวจดูราคาต้นทุนการผลิตให้ผู้ประกอบการไม่ขายแพงกว่าที่ทาง คสช.ได้ประกาศ เพื่อความเป็นธรรมกับเกษตรกร

     นายชวลิตกล่าวว่า ส่วนกรณีลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกร่วมกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. พบว่า ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งการลดราคาปุ๋ยและเมล็ดพันธุ์ข้าว พบว่ามีเพียงพอกับความต้องการของเกษตรกรที่ใช้ในการเพาะปลูก 

@ "เอก"ตรวจชายแดนป้องค้ามนุษย์

     เมื่อเวลา 10.45 น. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ด้านป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รับผิดชอบงานปราบปรามการค้ามนุษย์ ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ตรวจดูการป้องกันการลักลอบเข้าทำงานผิดกฎหมายของชาวกัมพูชา และมอบนโยบายป้องกันการค้ามนุษย์ โดยเข้าตรวจสอบช่องทางชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณจุดตรวจที่ 40 จุดผ่อนปรนแรงงานต่างด้าว บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง ติดบ้านโอเบือยเจือม อ.โอวจโลว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา มีกำลังตำรวจตระเวนชายแดนที่ 126 ประจำการ ซึ่งเป็นจุดที่แรงงานสามารถข้ามแดนมาทำงานได้ในรัศมี 10 กิโลเมตร แบบเช้าไปเย็นกลับ โดยรอง ผบ.ตร.กำชับการเพิ่มความเข้มตรวจสอบการเล็ดลอดแรงงานผิดกฎหมาย