วันที่ 02 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8617 ข่าวสดรายวัน

เขมรปล่อย'วีระ'บัวแก้วรับกลับ ศาลให้ประกัน'ลายจุด'พ้นคุก


พบฮุนเซน - นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบสมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งการเดินทางไปเยือนครั้งนี้ ทางกัมพูชาให้อภัยโทษนายวีระ สมความคิด ตามคำร้องขอของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย เมื่อวันที่ 1 ก.ค.

       "วิษณุ"ส่งรธน.ชั่วคราวให้คสช.แล้ว รอ"บิ๊กตู่" พิจารณาแก้ไข ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม เผยมี 45 มาตรา ส่วนสนช.มี 200 คน สภาปฏิรูป 250 คน น.ศ.กินแซนด์วิชหน้าสถานทูตสหรัฐ เลียนแบบฝ่ายหนุนคสช. ตร.ถ่ายรูปเก็บ จ่อเรียกตัวปรับทัศนคติ ยันคัดค้านมีความผิด ป.ป.ช.ยังไม่ชี้ชัด กรณีคดีทุจริตไม่มีอายุความ ชี้ต้องยึดหลักสากล แต่มีความเป็นไปได้จะยืดอายุความออกไป ให้รอส่ง "สนช." พิจารณา จารุพงศ์โพสต์เฟซบุ๊กโวยคสช.ตั้งข้อหาข่มขู่ 

วิษณุส่งรธน.ชั่วคราวให้คสช.แล้ว
      เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา คสช.ฝ่ายกฎหมาย ในฐานะหัวหน้าทีมร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว กล่าวว่า ขณะนี้การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยอยู่ระหว่างรอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาในรายละเอียดในวันที่ 2 ก.ค.นี้ หากที่ประชุมไม่มีข้อแก้ไข พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคสช.จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนก.ค.นี้
      นายวิษณุ กล่าวว่า เบื้องต้นร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวจะมีทั้งหมด 45 มาตรา โดยมีการร่างมาตราอื่นๆ ไว้สำรองด้วยส่วนหนึ่งไม่เกิน 50 มาตรา แต่หาก คสช.เห็นว่าไม่จำเป็นก็สามารถ ตัดทอนออกได้ ส่วนจำนวนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นไปตามที่มีกระแสข่าวคือมีจำนวน 200 คน และสภาปฏิรูป 250 คน ส่วนรายละเอียดร่างรัฐธรรมนูญ ชั่วคราว คสช.จะเป็นผู้ชี้แจงเองทั้งหมด

ไพบูลย์ เรียกถกแก้กม.
     พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมร่วมกับนายวิษณุ พร้อมทีมกฎหมายว่า ได้พูดถึงความคืบหน้าในการพิจารณากฎหมาย ระเบียบที่หน่วยงานต่างๆ เสนอมาเพื่อสนับสนุนการทำงานและขจัดอุปสรรคในการแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งนี้คณะทำงานจะหารือว่าประเด็นใดที่เร่งด่วนและควรออกเป็นประกาศ คสช.หรือ ส่วนใดควรเสนอเข้าสนช.เพื่อเห็นชอบต่อไป 
      พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ในที่ประชุมไม่ได้หารือเรื่องรัฐธรรมนูญชั่วคราว เพราะเป็นคน ละส่วนงานกัน ซึ่งนายวิษณุ มาประชุมเพราะตนขอให้มาช่วยดูเรื่องกฎหมายที่ค้างอยู่ ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นส่วนของทีมที่ปรึกษา คสช. ซึ่งนายวิษณุดูร่วมกับคณะทำงานร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์รอคณะทำ งานส่งมาเหมือนกัน เพราะจะได้ทราบว่ามีกี่มาตรา และมีข้อห่วงใยประการใด จะต้องปรับใหม่หรือไม่ ที่ผ่านมาคุยกันภายในคร่าวๆ ว่าถึงขั้นตอนไหนเท่านั้น คาดว่าเมื่อดำเนินการ เสร็จสิ้นแล้ว จะเสนอให้คสช.ดูในเร็วๆ นี้

บิ๊กตู่ ย้ำโยกย้ายไม่ได้รังแกขรก.
     ที่บก.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. เป็นประธานประชุมคณะกรรมการ นโยบายและการบริหารจัดการข้าว หรือ นบข. ครั้งที่ 1/2557 โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนเริ่มการประชุม นบข. ว่า การปรับย้ายข้าราชการระดับสูงที่เกิดขึ้นเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อความเหมาะสมเช่นเดียวกับการโยกย้ายในรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ไม่ใช่การรังแกข้าราชการหรือหน่วยงานใด จึงขอความร่วมมือทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกัน พร้อมร่วมกันทำงานเพื่อประเทศต่อไป นับจากวันนี้ คสช.ขอยืนยันว่าจะไม่มีการทุจริตหรือเรียกร้องผลประโยชน์แม้แต่บาทเดียว หากใครพบหรือถูกเรียกรับใดๆ ให้แจ้งมาจะตรวจสอบและลงโทษทันที 
      หัวหน้าคสช. กล่าวว่า สำหรับงานด้านเศรษฐกิจ คณะกรรมการนบข.ที่ตั้งขึ้นจะช่วยดูแลเพื่อลดต้นทุนการผลิตให้ชาวนาและพิจารณาในมิติทั้งในและต่างประเทศด้วย หากพบข้อจำกัดใดทางกฎหมาย คสช.จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ได้ก่อนมีรัฐบาล แต่หากเป็นกฎหมายใหญ่ ต้องให้พิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ส่วนเรื่องที่จะต้องกระทบกับคนส่วนมากของประเทศ ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาปฏิรูปต่อไป

'อรรถพล'พอใจได้กลับอสส.
     ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ที่ปรึกษาสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวภายหลังเดินทางเข้ามาสักการะศาลพระภูมิ เจ้าที่และศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบ กรณี คสช. มีคำสั่งล่าสุดให้เป็นที่ปรึกษาสำนักงาน อสส.ว่า มาไหว้ขอบคุณพระภูมิ เพราะมีคำสั่งย้ายตนให้กลับไปเป็นที่ปรึกษาสำนักงานอสส. ก่อนหน้านี้ตนสักการะพระภูมิและขอให้กลับไปทำงานที่ อสส.อีกครั้ง เมื่อคำสั่งล่าสุดให้กลับไปจึงมาไหว้ขอบคุณ
     เมื่อถามถึงการออกหมายจับบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ 6 คน อาทิ นายจักรภพ เพ็ญแข นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ นายอรรถพลกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถาม อสส.หรือโฆษก เมื่อถามว่ามีโอกาสจะใช้ช่องทางใดดำเนินการ นายอรรถพลกล่าวว่า ขอไม่ออกความเห็น คนเป็นที่ปรึกษาต้องรอให้หัวหน้าหน่วยงานสำนัก งานที่ปรึกษามอบหมายงานก่อนถึงจะแสดงความเห็นได้ ส่วนห้องทำงานคงใช้ห้องเดิมสมัยป็นรองอสส. ซึ่งเสนอขอไปแล้ว ในห้องมีเจ้าหน้าที่ธุรการและนักการอย่างละ 1 คน ตนพอใจเพราะเงินเดือนและสิทธิ์ทุกอย่างได้รับเหมือนเดิม ถือเป็นเรื่องดีที่เปิดตำแหน่งดังกล่าวขึ้น อนาคตถ้าจะเปิดตำแหน่งนี้อย่างถาวรจะได้มีคนเข้ามาช่วยกันทำงาน
      "ยืนยันไม่ได้เครียด ดูหน้าผมสดใสขึ้นกว่า เดิม เราเป็นข้าราชการอยู่ที่ไหนทำงานได้ ยิ่งได้กลับบ้าน เหมือนเราดูละครสมัยก่อนที่มีตุ๊กตาแล้วจะร้องว่าหนูอยากกลับบ้าน วันนี้ผม ได้กลับบ้านแล้วก็ดีใจมาก" นายอรรถพลกล่าว 

สีหศักดิ์เยือนกัมพูชา
     วันเดียวกันนี้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รมว.ต่างประเทศ ที่อยู่ระหว่างการเยือนกัมพูชา อย่างเป็นทางการ วันที่ 1-2 ก.ค. ได้เดินทางไปกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา และเข้าหารือกับนายฮอร์ นัมฮง รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศกัมพูชา เพื่อชี้แจงพัฒนา การทางการเมืองของไทย การขับเคลื่อนนโยบายต่างประเทศ รวมทั้งการพัฒนาพื้นที่ชายแดนของสองประเทศ และการจัดระเบียบแรงงาน ใช้เวลาหารือ 1 ชั่วโมง
     จากนั้นนายสีหศักดิ์ และนายนัมฮง แถลงร่วมกัน โดยนายสีหศักดิ์กล่าวว่า ได้ชี้แจงสถานการณ์ในไทยโดยเล่าถึงพัฒนาการทาง การเมืองไทยขณะนี้มีความสงบ และเดินไปตามโรดแม็ปที่คสช.กำหนดไว้ ทั้งเรื่องปรองดอง ปฏิรูป และการจัดการเลือกตั้ง ล่าสุดหัวหน้าคสช. แถลงย้ำว่าจะเดินตามแนวทางเพื่อให้มีประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ความชัดเจนทั้งหมดจะเกิดขึ้นในเดือนต.ค.2558 นอกจากนี้ยังย้ำว่าระหว่างนี้เศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศยังต้องขับเคลื่อนต่อไป โดยเฉพาะข้อตกลงที่ไทยมีต่อกัมพูชายังเดินหน้าต่อ 

แจงจำเป็นจัดระเบียบแรงงาน
      นายสีหศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว เพราะไทยเห็นความสำคัญของแรงงานชาวกัมพูชา พม่าและลาว จึงเห็นว่าควรจัดระเบียบให้ถูกต้องให้แรงงานได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายหน้า ป้องกันการค้ามนุษย์ แต่เป็นห่วงเรื่องการเสนอข่าวที่อาจคลาดเคลื่อน สรุปบางเหตุการณ์ซึ่งไม่ใช่แนวนโยบายของรัฐบาลไทย อย่างไรก็ตามขณะนี้อยากให้เน้นถึงความร่วมมือระหว่างกันในเรื่องแรงงาน เพื่อให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสองประเทศต่อไปจะดีกว่า
      ด้านนายนัมฮง กล่าวว่า เข้าใจสถานการณ์การเมืองไทย โดยสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา ได้ยืนยันว่ากัมพูชายังคงยึดหลักไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศใด ส่วนที่แรงงานกัมพูชาในไทยเดินทางกลับประเทศนั้น กัมพูชาเข้าใจต่อเหตุการณ์โดยจะส่งแรงงานกัมพูชากลับเข้าไปทำงานในไทยและจะทำให้ถูกกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาส่งหนังสือรับรองเพื่อขอยื่นวีซ่าแรงงานจากกรุงพนมเปญกว่า 1 หมื่นคน ซึ่งได้กลับไปทำงานในไทยแล้วจำนวนมาก พร้อมกันนี้ได้ฝากให้ไทยช่วยติดตามกรณีชาวกัมพูชา 14 คน ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาใช้ตราประทับปลอมเข้าทำงานในไทย ซึ่งเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ส่วนปัญหาที่ชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาตัดไม้ในไทยนั้น ตนให้ย้ำว่าหากฝ่ายไทยจับกุมได้ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที


ทำกิจกรรม - กลุ่มนักศึกษาหลายคนจากศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย หรือศนปท. ร่วมกันทำกิจกรรมกินแซนด์วิชและอ่านหนังสือ บริเวณหน้าสถานทูตสหรัฐประจําประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 ก.ค.

      จากนั้นนายสีหศักดิ์เดินทางไปยังอาคารพีซ พาเลซ เพื่อเยี่ยมคารวะสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา

อภัยโทษ'วีระ สมความคิด'แล้ว
       นายสีหศักดิ์ เผยว่า นายกฯ กัมพูชาแสดงความเข้าใจต่อสถานการณ์ของไทย พร้อมย้ำว่าปัญหาการเมืองต้องแก้ไขด้วยคนในประเทศนั้นๆ ซึ่งกัมพูชาไม่แทรกแซงและจะไม่สนับสนุนกลุ่มหรือองค์กรใดที่จะต่อต้านรัฐบาลไทย และยังหารือถึงประเด็นแรงงาน และแสดงความเป็นห่วงกรณีชาวกัมพูชา 14 คนที่ถูกเจ้าหน้าที่ไทยจับกุม จึงขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาปล่อยตัว ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้หารือกับคสช.ต่อไป นอกจากนั้นตนยังหยิบยกการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด ที่ยังคงรับโทษคุมขังอยู่ในเรือนจำเปรยซอว์ ขึ้นมาหารือ ซึ่ง นายกฯกัมพูชารับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาอย่างจริงจัง
      รายงานข่าวแจ้งว่า นายวีระได้รับพระราช ทานอภัยโทษแล้ว โดยสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา เปิดเผยว่า เป็นการพระราชทานอภัย โทษเนื่องในโอกาสครบ 1 ปี การสวรรคต ของสมเด็จสีหนุในวันที่ 7 ก.ค.นี้ และเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีของไทยและกัมพูชา โดยนายวีระจะกลับไทย วันที่ 2 ก.ค. เวลา 11.00 น. ด้านพล.อ.ประยุทธ์ได้ทำหนังสือขอบคุณไปยังประเทศกัมพูชาที่ปล่อยตัวนายวีระ ซึ่งแสดงถึงการมีไมตรีจิตให้กัน โดยคดีนายวีระ ทางการไทยได้ติดต่อประสานกันมาตลอด

'ม.ล.ปนัดดา'ลามหาดไทยแล้ว
      ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดมหาดไทย เป็นประธานประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ม.ล. ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกฯ อดีตรองปลัดมหาดไทย เข้าประชุมเพื่ออำลาข้าราช การก่อนไปปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกฯ ตามคำสั่ง คสช.โดยนายวิบูลย์มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีกับม.ล.ปนัดดา และนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. 
     ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ขอทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทยอย่างเต็มที่ โดยหวังว่าปลัดมหาดไทยและผู้บริหารจะช่วยชี้แนะการทำงานของสำนักนายกฯ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ขอบคุณผู้บริหารกระทรวงที่มีส่วนร่วมทำงานด้วยกันเป็นอย่างดี ขอกราบลาทุกท่านเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย จากนั้น ม.ล.ปนัดดามอบพวงมาลัยแสดง ความขอบคุณต่อปลัดและรองปลัดมหาดไทย 

ปลัดมท.กำชับยึดนโยบายคสช.
     จากนั้นนายวิบูลย์ กล่าวว่า การทำงานของกระทรวงขอให้เน้นหนักในนโยบายของคสช. โดยเฉพาะนโยบายที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว การป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด การสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติ มิชอบการดำเนินการตามโรดแม็ป 
    ทั้งนี้ การประชุม พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหาร ในฐานะประธานอนุกรรมการ จัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ได้ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับคณะผู้บริหารด้วย พล.อ.ศิริชัยขอรับทราบผลการดำเนินการของศูนย์บริการแรงต่างด้าวทั้ง 5 จุด คือ จ.สุรินทร์ สระแก้ว ตราด จันทบุรี และสมุทรสาคร และขอให้ที่ประชุมช่วยกันกำหนดแนวทางจัดตั้งกลไกจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ตั้งศูนย์ทั้ง 5 แห่ง ได้รายงานความคืบหน้า โดยแจ้งว่าการดำเนินการยังคงมีปัญหาและอุปสรรคความล่าช้าบ้างแต่ได้เร่งแก้ไขปัญหา นอกจากการเร่งดำเนินการแล้วได้เชิญสื่อมวลชนจากประเทศกัมพูชามาทำความเข้าใจและติดตามการทำงานของศูนย์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ 

เสธ.ทหารจี้แก้'แรงงานต่างด้าว'
       ด้านนายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า การจัดทำทะเบียนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาข้อมูลล่าสุดคือวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้ขึ้นทะเบียนแล้ว 1,863 คน สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากความไม่มั่นใจเกี่ยวกับนโยบายทางด้านแรงงาน การจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวในอนาคตควรเน้นหนักที่การออกกฎหมาย 
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมกระทรวงมหาดไทย พล.อ.ศิริชัยฝากนโยบายกับที่ประชุมว่าขอให้มหาดไทยเร่งรัดงานทุกมิติตามนโยบายของ คสช.โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว การค้ามนุษยย์ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญ ฝากทุกจังหวัดเตรียมให้พร้อมสำหรับการเปิดศูนย์จดทะเบียนเบ็ดเสร็จโดยให้ใช้รูปแบบของจ.สมุทรสาคร เป็นต้นแบบ ขอให้ทุกจังหวัดที่มีด่านชายแดนเตรียมระบบอุปกรณ์บุคลากรเพื่อให้จัดตั้งได้ทัน รวมถึงให้สำรวจข้อมูลในพื้นที่เพื่อใช้ในการจดทะเบียนเพื่อให้การดำเนินการมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น และขอให้เร่งรัดการตรวจสอบการทำทะเบียนแรงงาน 

ให้ชะลอเลือกตั้งท้องถิ่นออกไป
     พล.อ.ศิริชัย กล่าวว่า ขอฝากสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นว่าให้ชะลอการเลือกตั้งออกไปก่อนตามนโยบายของหัวหน้า คสช. หากมีปัญหาในการบริหารงานให้กระทรวงแก้ไขปัญหาด้วยการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยให้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้สามารถบริหารงานได้ และสามารถปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับนโยบายของคสช. 
     ทั้งนี้ การประชุมกระทรวงมหาดไทยได้รายงานผลการปฏิบัติการตามแนวนโยบายของ คสช. ดังนี้ การสร้างความเข้าใจกับประ ชาชนอยู่ช่วงการทำความเข้าใจกับประชาชนถึงนโยบายของหัวหน้า คสช. ในการจัดตั้งสภาปฏิรูปการเมืองและการทำธรรมนูญปกครอง โดยมีการทำความเข้าใจกับประชาชน ไปแล้วไม่น้อยกว่า 50,000 ครั้ง สำหรับการตรวจสอบอาวุธสงครามมีการตรวจสอบพบ 693 กรณี การดำเนินการกวาดล้างเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน การเฝ้าระวังการสร้างสถาน การณ์โดยการจัดตั้งจุดตรวจตามจุดสำคัญต่างๆ ทั่วประเทศ การระงับการชุมนุมทาง การเมือง การตรวจสอบสถานีวิทยุที่ไม่ได้ใบอนุญาตดำเนินการที่ถูกต้องตามกฎหมาย การป้องกันการตัดไม้ทำลายป่า การกวาดล้างบ่อนการพนัน การติดตามการทวงหนี้ของชาวนา การกวาดล้างยาเสพติดกว่า 7,000 คดี และยังตรวจสอบสถานบริการกว่า 31,000 แห่ง รวมทั้งของการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ โดยเชิญบุคคลมาชี้แจงทำความเข้าใจ อีกทั้งได้รับมอบคืนอาวุธปืน จำนวน 458 กระบอก เครื่องกระสุนกว่า 20,000 นัด

สมชัยรับลูก-เลื่อนเลือกตั้ง
       นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวถึงกกต.ขยายเวลาการเลือกตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 180 ตำแหน่งใน 160 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกไปอีก 30 วันเพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของคสช. ฉบับ 7 ที่ห้ามการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งครบกำหนดวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมกกต.ยังไม่มีการหารือเรื่องนี้จึงยังไม่มีมติออกมา แต่หารือกันนอกรอบแล้ว คิดว่าน่าจะเลื่อนออกไปจนกว่าจะมีธรรมนูญการปกครอง และมีรัฐบาลเกิดขึ้นในช่วงเดือนต.ค.นี้ 


ปล่อยตัว - นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด ซึ่งถูกจับกุมในคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ได้รับการประกันตัวก่อนถูกอายัดไปดำเนินคดีมาตรา 112 ที่ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 1 ก.ค.

สหภาพยื่นปปช.สอบ'อสมท'
      ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. รับหนังสือจากนายสุวิทย์ มิ่งมล ประธาน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ พร้อมตัวแทนสหภาพ บมจ.อสมท และประชาคม MCOT ที่ยื่นหนังสือถึงป.ป.ช. พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบ รวมทั้งรายชื่อพนักงานที่สนับสนุน 500 คน เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการจัดซื้ออุปกรณ์และระบบโครงข่าย (บีเอ็นโอ) ของ บมจ.อสมท ในการให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิตอลโดยวิธีพิเศษของ บมจ.อสมท ที่มีมูลค่าทั้งโครงการเกือบ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากไม่โปร่งใส
      นายสุวิทย์ กล่าวว่า การมายื่นป.ป.ช.ครั้งนี้ เพื่อให้อสมท เป็นองค์กรนำร่องปราบปรามทุจริตขององค์กรรัฐวิสาหกิจ ธุรกิจสำคัญของ อสมท ขณะนี้มี 2 ส่วน คือ ทีวีดิจิตอล 2 ช่อง และการให้บริการโครงข่ายที่ อสมท ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. จากการตรวจสอบที่ผ่านมาพบกระบวนการหลายอย่างส่อไม่โปร่งใสหลายข้อ อาทิ ไม่เปิดโอกาสให้แข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมอาจเข้าข่าย พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หลีกเลี่ยงไม่ให้ใช้วิธีการประมูลโดยวิธีปกติ แต่ใช้วิธีการจัดซื้อพิเศษ เกิดกระบวนการดึงเรื่องไว้ให้ล่าช้า ทำให้ อสมท เกิดความเสียหายแล้วและอาจส่งผลต่อใบอนุญาตที่ กสทช.ให้ อสมท

ยังไม่ชัดอายุความคดีทุจริต
      ด้านนายสรรเสริญ กล่าวว่า จะดำเนินการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงโดยเร็ว และกรณีสหภาพ อสมท ต้องการให้บมจ.อสมท นำ ร่องปราบปรามการทุจริตนั้น สำนักงานป.ป.ช. มีความยินดีอย่างยิ่ง เพราะต้องการปราบปรามการทุจริตอยู่แล้ว
       นายสรรเสริญ กล่าวถึงกรณีเสนอคสช. แก้ไขพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2554 เพื่อให้งานของป.ป.ช. มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นว่า หลักของป.ป.ช.มีเรื่องสำคัญคือการแก้ไขกฎหมายให้เป็นไปตามอนุสัญญากับองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) โดยเฉพาะเรื่องอายุความในคดีทุจริต เรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐต่างประเทศร่วมกระทำความผิด เรื่องภาคเอกชนที่มีส่วนร่วมกระทำความผิด และการติดตามนำทรัพย์สินคืน แต่เดิมป.ป.ช.มีร่างกฎหมายอยู่แล้ว ดังนั้นในชั้นนี้ป.ป.ช.กับคณะฝ่ายกฎหมายประสานกันว่าจะปรับแก้ได้ในช่วงไหน อาจแก้ไขในชั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็ได้ ซึ่งกรณีอายุความของคดีทุจริตนั้นมีหลายมุมมอง อาจมองว่าคดีทุจริตไม่มีอายุความ หรืออายุความจำกัด 30 ปี เรื่องนี้เป็นรายละเอียดต้องดูว่าต่างประเทศถือมาตรฐานอย่างไร

รอชง'สนช.'พิจารณา
       ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่คดีทุจริตจะไม่มีอายุความ นายสรรเสริญกล่าวว่า ไม่ใช่ไม่มีอายุความ อาจมีอายุความที่ยาวขึ้น ซึ่งต้องดูในรายละเอียด ความจริงได้เตรียมร่างไว้เสร็จแล้ว และเบื้องต้นผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว แต่ติดขัดตรงที่ยังไม่นำเสนอต่อสภา ส่วนการติดตามนำทรัพย์สินคืนนั้น หลักการคือป.ป.ช. จะคำนวณตามมูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกทุจริตไป รวมถึงทรัพย์สินที่จะยึดได้ด้วย แต่จะไม่ใช่ทรัพย์สินที่เอามาจากการทุจริต ซึ่งเป็นเรื่องรายละเอียดที่ต้องพูดคุยกันอีกครั้ง
     "ช่วงนี้ถ้ามี สนช. เราอาจจะหยิบยกกฎหมาย ฉบับนี้ชงให้พิจารณา เพราะเป็นหน้าตาของประเทศ ความน่าเชื่อถือ ที่เรามองว่าอยากให้เกิดความโปร่งใส ดังนั้นถ้าเราไม่เป็นสากลเทียบเท่ากับประเทศอื่นก็ไม่มีใครยอมรับกฎหมายบ้านเมือง นี่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่เราต้องดำเนินการ" นายสรรเสริญกล่าว 

เรืองไกรโวยปปช.ยกคดีเทือก
      นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ตนร้องขอให้ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนเข้าและพ้นจากตำแหน่ง กรณีการกู้เงินจากธนาคารอิสลามแห่งประเทศ และการกู้เงินจากบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด ว่าจงใจไม่ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินหรือไม่นั้น ปรากฏว่า ป.ป.ช.มีมติยุติการตรวจสอบ เนื่องจากไม่พบว่านาย สุเทพปกปิดข้อเท็จจริงหรือจงใจยื่นบัญชีแสดง รายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จ
       นายเรืองไกร กล่าวว่า ในฐานะผู้ร้องไม่ รู้สึกแปลกใจเพราะมีหลายคำร้องที่เคยมีผล ออกมาเช่นนี้ แต่กรณีนี้มิอาจยอมรับได้ เนื่อง จากในหนังสือที่อ้างถึง ป.ป.ช.ระบุว่าได้ตรวจสอบทั้งด้านทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งตนเชื่อเช่นกันว่า นายสุเทพกู้เงินจากธนาคารอิสลามฯ และบริษัท ศรีสุบรรณฟาร์ม จำกัด จริงตามที่แสดงหนี้สินไว้ แต่หนี้สินทั้ง 2 รายการมีมูลค่ารวมกันมากกว่า 300 ล้านบาท ไม่ใช่ 30,000 บาท ที่จะหายไปได้ง่ายๆ ซึ่งตามหลักควรกู้ยืมมาเพื่อลงทุนในทรัพย์สินชนิดใดชนิดหนึ่งของนายสุเทพ เช่น สวนยาง สวนปาล์ม ซึ่งนายสุเทพแจ้งบัญชีว่ามีรายได้จากสวนยางหรือสวนปาล์มปีละหลายสิบล้านบาท แต่ไม่มีการแจ้งทรัพย์สินที่เป็นไม้ยืนต้นประเภทสวนยางหรือสวนปาล์ม ที่ควรก่อให้เกิดรายได้ไว้

จี้ทบทวนสอบทรัพย์สิน
     "กรณีนี้จึงมีเหตุสงสัยว่าไม่มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินที่มาจากการกู้ยืมเงินใช่หรือไม่ จึงขอทักท้วงให้ ป.ป.ช.พิจารณาทบทวนและตรวจสอบใหม่ หากไม่เข้าใจเรื่องการบัญชี ควรขอความเห็นจากผู้ที่มีความรู้ทางบัญชีมาอธิบาย" นายเรืองไกรกล่าว
     นายเรืองไกร กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นด้วยกับผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ไม่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับพ.ร.ฎ. เงินประจำตำแหน่งขององคมนตรีและรัฐบุรุษ พ.ศ. 2551 มาตรา 5 ว่ามีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 196 วรรคหนึ่ง ซึ่งการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่รับเรื่องดังกล่าว เนื่องจากคสช.ออกประกาศฉบับที่ 11/2557 เรื่องการสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญ ยกเว้นหมวด 2 จึงไม่มีประเด็นปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณาต่อไป

จารุพงศ์โวยคสช.ตั้งข้อหาข่มขู่
      เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 1 ก.ค. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์การเสรีไทย โพสต์ เฟซบุ๊กระบุข้อความโจมตีคสช. รวมถึงการออกหมายจับนายจักรภพ เพ็ญแข ในข้อหามีอาวุธสงครามทั้งที่ไม่มีหลักฐาน พร้อมเรียกร้องให้ผู้ร่วมอุดมการณ์เป็นตัวกลางกระจายข่าวสาร บอกเล่าความจริงที่เกิดขึ้น อย่ากลัวกับการตั้งข้อหาเพื่อข่มขู่ประชาชน ซึ่งในอนาคต องค์การเสรีไทยจะผลิตจดหมายข่าวเสรีไทย ขอให้กล้าไลก์และแชร์ส่งต่อความจริงออกไป ให้ความจริงทำหน้าที่ต่อสู้กับความเท็จของเผด็จการทหาร เพื่อพิทักษ์เสรีภาพและสิทธิมนุษยชนของคนไทย และเมื่อถึงเวลา เราจะร่วมเดินพร้อมกัน 

นศ.กินแซนด์วิชหน้าสถานทูต
      เมื่อเวลา 08.50 น. กลุ่มนักศึกษาศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศ ไทย (ศนปท.) กินแซนด์วิช อ่านหนังสือ 1984 ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจําประเทศไทย หลังจากทราบว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมามีคนมาทำกิจกรรมที่หน้าสถานทูตอเมริกาได้โดยไม่ถูกจับ ไม่มีความผิด
      โดยกลุ่มนักศึกษาเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มของพวกตนเคยไปทำกิจกรรมกินแซนด์ วิชที่สยามพารากอนกลับถูกจับกุม แต่เมื่อ วันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีคนเดินทางไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกาเพื่อยื่นหนังสือประท้วง ต่อการดำเนินนโยบายของสหรัฐอเมริกาที่ถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงการดำเนินกิจการภายในของไทย กลับไม่มีความผิด พวกตนเลยคิดว่าถ้ามาทำกิจกรรมที่หน้าสถานทูตฯ สามารถทำได้ไม่มีความผิด จึงเดินทางมาทำกิจกรรมกินแซนด์วิชอ่านหนังสือหน้าสถานทูตฯบ้าง
      ทั้งนี้ การทำกิจกรรมของนักศึกษามีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ลุมพินี 1 นาย มาคอยดูแลการจัดกิจกรรมของนักศึกษา โดยใช้เวลาจัดกิจกรรม 10 นาที จากนั้นได้แยกย้ายกันกลับไป 

ตร.ถกวุ่นรับมือกลุ่มต้าน
     ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ.ช่วยราชการ บช.น. ดูแลงานความมั่นคง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมประเมินผลการปฏิบัติการ และกำหนดนโยบายร่วมกันระหว่างตำรวจและทหาร โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง
      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวหลังประชุมว่า สิ่งแรกที่มีการพูดคุยกันนอกจากการกำหนดยุทธวิธีและการใช้กำลังปรับลดหรือไม่ ในส่วนของการชุมนุมพูดคุยกันว่าหากมีการชุมนุมแสดง ออกทางการเมืองหรือแสดงสัญลักษณ์ต่อต้าน คสช. ซึ่งเหตุการณ์หน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พล.ต.ต.อำนวยอยู่ในเหตุการณ์และประเมินว่าที่มีชายมายื่นหนังสือ หรือมาพูดในเชิงลักษณะต่อต้านการดำเนินการของสหรัฐอเมริกาไม่เข้าข่ายกิจกรรมทาง การเมือง เพราะไม่ได้แสดงกิจกรรมที่แสดงว่าต่อต้านรัฐ หรือ คสช. 

จ่อเรียก'นศ.กินแซนด์วิช'
     พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า แต่มีข่าวในโซเชี่ยล มีเดียว่า การกระทำของตำรวจนั้น 2 มาตรฐาน เพราะคนที่มาแสดงออกสนับสนุน คสช. และไม่เห็นด้วยกับสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก หากจำได้ก่อนหน้านี้มีผู้มาให้ดอกไม้และยื่นหนังสือไปที่สถานทูตออสเตร เลีย เนื่องจากประเทศออสเตรเลียออกมาไม่เห็นด้วยกับ คสช. วันนั้นตำรวจก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน วันนั้นมีคนมากกว่า 4-5 คน แต่เห็นว่าการมาแสดงออกไม่ได้มาคัดค้าน คสช.จึงไม่ใช่แสดงออกทางการเมือง หากวันข้างหน้า ที่บุคคลหรือกลุ่มคนมาแสดงสัญลักษณ์อีกก็จะพิจารณาว่าเข้าข่ายคัดค้านต่อต้านรัฐ หรือคสช.หรือไม่ แต่หากเป็นอย่างอื่นที่ไม่ขัด คสช.หรือกฎหมาย ก็จะไม่ดำเนินการ ที่บอกว่าตำรวจ-ทหารเลือกปฏิบัตินั้นไม่มี
      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ส่วนกรณี ศนปท.ทำกิจกรรมกินแซนด์วิช อ่านหนังสือ 1984 ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพไว้และส่งให้กับเจ้าหน้าที่ทหารดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป จะเป็นการเรียกตัวนักศึกษาที่ร่วมชุมนุมมาปรับทัศนคติต่อไป

เผยคสช.ย้ำหลีกเลี่ยงรุนแรง
     พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า อีกส่วนคือ นโยบายของหัวหน้า คสช.ที่เน้นและฝากทุกครั้งที่มีการประชุมเรื่องความมั่นคง คือ ให้ปฏิบัติกับผู้เห็นต่าง โดยให้หลีกเลี่ยงความรุนแรง หากเป็นไปได้ให้ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหารหญิงควบคุมตัวหรือจับกุม หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการชุมนุม ก่อนให้ควบคุมตัวมาทำความเข้าใจ ปรับทัศนคติ โดยย้ำว่าให้ตำรวจและทหารเร่งรัดบุคคลตามหมายจับที่มีการออกหมายจับไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ขัดคำสั่ง คสช. หรือมีการออกหมายจับในคดีอื่นๆ โดยให้ดำเนินคดีกับทุกคดี ทุกข้อหา ไม่ให้เลือกปฏิบัติกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน เพื่อให้เสมอภาคทางกฎหมาย
      เมื่อถามว่า กรณีนายจักรภพ เพ็ญแข จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า นายจักรภพมีหมายจับแรกคือหมายจับพื้นที่ สน.สามเสน เหตุเกิดเมื่อ 20 ก.ค. 2550 เหตุเกิดหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ พนักงานสอบสวนออกหมายจับและพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง ขั้นตอนต่อไปคือพนักงานสอบสวนจะรวบรวมส่งเรื่องให้กองการต่างประเทศเพื่อแปล จากนั้นกองการต่างประเทศจะส่งข้อมูลไปที่อัยการสูงสุด อัยการสูงสุดจะส่งต่อไปที่กองการต่างประเทศดำเนินการตามสนธิสัญญา ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ส่วนที่ตำรวจออกหมายจับนายจักรภพ เรื่องเกี่ยวข้องกับการมีอาวุธสงคราม หรือจัดหาอาวุธสงครามนั้น เป็นหน้าที่ ของพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อผ่านสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนเช่นเดียวกัน

ปัดไม่อยากเรียกกลุ่มต่อต้าน
       ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.ท.มนัส เปาริก อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 3 ถูกออกหมายจับ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ในส่วนของ พล.ท.มนัส มีการออกหมายจับแล้ว การสอบสวนก็ดำเนินการไป ส่วนจะเกี่ยวข้องหรือไม่คณะพนักงานสอบสวนจะดำเนินการต่อไป
       เมื่อถามว่าในส่วนของกลุ่มต่อต้านมีแนวโน้มอย่างไร พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ไม่อยากใช้คำว่ากลุ่มต่อต้าน ที่ผ่านมาหลายสัปดาห์การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เชื่อว่าอยากแสดงออกเพื่อให้ คสช.ทราบว่าเขารู้สึกอย่างไร ไม่อยากใช้คำว่ากลุ่มต่อต้าน แต่เป็น กลุ่มความคิดเห็นต่างที่ต้องการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ฝากว่าการแสดงออกนั้นหากผิดหรือขัดกฎหมายก็ต้องดำเนินการต่อไป ตนก็ยังรอรับรูปที่มีคนถ่ายภาพส่งมาให้อยู่ ภาพละ 500 บาท

โอนคดีมั่นคงให้'สมยศ'ดูแล
      ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รองผบก.ป. เผยว่า ศาลทหารกรุงเทพ ออกหมายจับ นายสมเจตน์ หรือสม คงวัฒนะ ข้อหากระทำความผิดฐาน ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 77/2557 และประกาศ คสช. ฉบับที่ 59/2557 แต่เดิมเป็นผู้ต้องหาถูกจับกุมคดีอาวุธสงครามที่ สภ.วังน้อย รับผิดชอบ แต่ภายหลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โอนให้คณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งที่ 320/ 2557 เรื่องการมอบหมายให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. ดูแลงานความมั่นคง รับผิดชอบดูแลงานสอบสวนคดีอาญาที่เกี่ยวกับความมั่นคง ซึ่งคดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงที่ พล.ต.อ.สมยศ รับผิดชอบอยู่นั้นมีทั้งหมด 28 คดี โดยสั่งการมอบคดีดังกล่าวให้คณะพนักงานสอบสวนประกอบด้วย บช.น. บช.ภ.1บช.ภ.2 บช.ภ.4 บก.ป. สอบสวน ผู้ต้องหาเพื่อหาความเชื่อมโยงว่ามีความเกี่ยว ข้องกับคดีอาวุธสงครามอื่นๆ ต่อไป

ตร.อายัด'ลายจุด'ส่งร้อยเอ็ด
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เย็นวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังทีมทนายความของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ยื่นขอประกันตัวและได้รับการประกันตัวแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ สน. ประชาชื่นได้ดำเนินการอายัดตัวไว้ตามหมายจับ จ.ร้อยเอ็ด ในคดีอาญามาตรา 112 จากนั้นนำตัวมาสน.ประชาชื่น เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก จ.ร้อยเอ็ดได้มานำตัวนายสมบัติ ไปยัง จ.ร้อยเอ็ดเพื่อไปขึ้นศาลตามหมายจับดังกล่าวต่อไป 
      นายวิญญัติ ชาติมนตรี กลุ่มนักกฎหมายเพื่อสิทธิมนุษยชน (กนส.) เผยว่า นายสมบัติได้รับการประกันตัวไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. แต่ต่อมามีเจ้าหน้าที่ขออายัดตัวไปดำเนินคดีที่ จ.ร้อยเอ็ด

พ้นคุกเขมรถึงไทยวันนี้ ปล่อยวีระ บิ๊กตู่ขอ'ฮุนเซน'ไฟเขียว ติด 3 ปี-สีหมุนีอภัยโทษ เข้าใจจัดแถวต่างด้าว จี้ช่วย14เหยื่อค้ามนุษย์ พณ.ตีปี๊บเงินเฟ้อฮวบ ผลคสช.ตรึงแก๊สหุงต้ม


จับเข่า"ฮุนเซน" - นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่ รมว.ต่างประเทศ เยี่ยมคารวะสมเด็จฯฮุน เซน นายกฯกัมพูชา ที่พีซ พาเลซ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม โดยผู้นำกัมพูชายืนยันว่าจะไม่ให้ใครใช้กัมพูชาเป็นฐานต่อต้านรัฐบาลไทย ขณะที่กษัตริย์กัมพูชาพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวนายวีระ สมความคิด หลังถูกคุมขังกว่า 3 ปี

 

      'สีหศักดิ์'หารือ'ฮอ นัมฮง'แจงจัดระเบียบแรงงานให้ถูก กม. ขณะที่เขมรเข้าใจเร่งส่งแรงงานกลับไทย ฝากติดตาม 14 ชาวกัมพูชา เหยื่อค้ามนุษย์ พณ.แถลงเงินเฟ้อ มิ.ย.ติดลบ 0.10%

@ พณ.แถลงเงินเฟ้อมิ.ย.วูบ

      เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม นางอัมพวัน พิชาลัย ที่ปรึกษาการพาณิชย์ กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือนมิถุนายน 2557 ว่า อยู่ในระดับ 107.79 เทียบกับเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ติดลบ 0.10% ถือว่าเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ผลจากมาตรการดูแลค่าครองชีพอย่างใกล้ชิด ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยตรึงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ภาคครัวเรือนและน้ำมันดีเซล และขอความร่วมมือผู้ประกอบการตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ทำให้แรงกดดันต่อเงินเฟ้อลดลง แต่หากเทียบเดือนมิถุนายน 2556 ถือว่าสูงขึ้น 2.35% ผลจากราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 4.14% แต่เป็นอัตราเงินเฟ้อขยายตัวลดลงครั้งแรกหลังเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา

@ 'สีหศักดิ์'หารือ'ฮอ นัมฮง'

      ขณะที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เริ่มต้นการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม โดยหลังเดินทางถึงกรุงพนมเปญ นายสีหศักดิ์ได้เดินทางไปยังกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา เพื่อพบหารือกับนายฮอ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ในเวลา 10.30 น. โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง

    จากนั้น นายสีหศักดิ์ได้แถลงข่าวร่วมกับนายฮอ นัมฮง โดยกล่าวว่า ได้ชี้แจงสถานการณ์ในไทยเป็นเรื่องแรก โดยได้เล่าให้ทราบถึงพัฒนาการทางการเมืองไทยของไทยที่ขณะนี้มีความสงบ และเดินไปตามโรดแมปที่ คสช.กำหนดไว้ ทั้งเรื่องการปรองดอง การปฏิรูป และการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งล่าสุดหัวหน้า คสช.เพิ่งได้แถลงย้ำว่าจะเดินไปตามแนวทางเพื่อให้มีประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ความชัดเจนทั้งหมดจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมปีหน้า นอกจากนี้ ยังย้ำว่าระหว่างนี้เศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศยังต้องขับเคลื่อนต่อไป โดยเฉพาะประเด็นข้อตกลงที่ไทยมีต่อกัมพูชาภายใต้กรอบพัฒนาความร่วมมือตามแนวชายแดนเพื่อให้มีผลเป็นรูปธรรม 

@ แจงจัดระเบียบให้ถูกกม. 

     นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวเป็นเพราะไทยเห็นความสำคัญของแรงงานชาวกัมพูชา พม่า และลาว ว่ามีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย จึงเห็นว่าควรจัดระเบียบให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้แรงงานได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายหน้า ป้องกันการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงเรื่องการนำเสนอข่าวที่อาจจะคลาดเคลื่อนโดยการสรุปเหตุการณ์บางเหตุการณ์ซึ่งไม่ใช่แนวนโยบายของรัฐบาลไทย ในขณะนี้อยากให้เน้นถึงความร่วมมือระหว่างกันในเรื่องแรงงาน เพื่อให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของสองประเทศต่อไปจะดีกว่า

@ เขมรเข้าใจ-เร่งส่งแรงงาน

     นายฮอ นัมฮง กล่าวว่า เข้าใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย โดยสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ยืนยันว่ากัมพูชายังคงยึดหลักที่จะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศใด ส่วนกรณีที่แรงงานกัมพูชาในไทยเดินทางกลับประเทศ กัมพูชาได้แสดงความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกัมพูชาจะส่งแรงงานกลับเข้าไปทำงานในไทยและจะทำให้ถูกกฎหมาย ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาได้ส่งหนังสือรับรองเพื่อขอยื่นวีซ่าแรงงานจากกรุงพนมเปญกว่า 1 หมื่นคน ได้กลับไปทำงานในไทยแล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งยังได้ฝากให้ไทยช่วยติดตามกรณีชาวกัมพูชา 14 คน ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาใช้ตราประทับปลอมในการเข้าทำงานในไทย เพราะบุคคลเหล่านี้ถือเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์

      นายฮอ นัมฮง กล่าวด้วยว่า ยังได้หารือถึงการพัฒนาตามแนวชายแดน อาทิ การสร้างสะพานรถไฟอรัญประเทศ-ปอยเปต ว่าจะหาช่องทางดำเนินการให้เร็วที่สุด และไม่กระทบต่อการจัดทำหลักเขตแดน เช่นเดียวกับเรื่องการเปิดด่านสตรึงบท-หนองเอี่ยน ส่วนปัญหาที่ชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาตัดไม้ในไทยนั้น ได้ย้ำไปว่าหากฝ่ายไทยจับกุมได้ก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที

@ เยี่ยมคารวะสมเด็จฯฮุน เซน

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการหารือทวิภาคีแล้ว นายฮอ นัมฮง ได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นายสีหศักดิ์พร้อมคณะ ที่โรงแรมโซฟิเทล พนมเปญ โพคีธรา ส่วนในช่วงบ่าย เวลา 16.00 น. นายสีหศักดิ์เดินทางไปยังอาคารพีซ พาเลซ เพื่อเยี่ยมคารวะสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

@ 'สมเด็จฯฮุน เซน'เข้าใจไทย

       ต่อมานายสีหศักดิ์กล่าวภายหลังหารือกับสมเด็จฯฮุน เซน ว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาแสดงความเข้าใจต่อประเด็นแรงงานที่เกิดขึ้น และขณะนี้เหตุการณ์ได้เข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันดี โดยจะร่วมมือเพื่อให้มีช่องทางนำแรงงานกัมพูชากลับเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะนี้ฝ่ายกัมพูชาได้ลดค่าธรรมเนียมทำหนังสือเดินทางจาก 200 เหรียญสหรัฐ เหลือเพียง 4 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ฝ่ายไทยได้เร่งขั้นตอนการออกวีซ่า จากเดิมที่ต้องใช้เวลา 3 วันเหลือเพียง 1 วัน นอกจากนี้ ประเด็นที่ฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความเป็นห่วงกรณี 14 ชาวกัมพูชาที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาใช้วีซ่าปลอมเดินทางเข้าประเทศไทย โดยสมเด็จฯฮุน เซน บอกว่าทั้งหมดไม่มีเจตนาจะละเมิดกฎหมายไทย เพียงแต่ถูกหลอกจึงขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาปล่อยตัว ซึ่งตนจะนำไปหารือกับ คสช.ต่อไป

@ มท.ถกแก้ปัญหาต่างด้าว 

      ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุมกระทรวงมหาดไทย ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) เพื่อวางกรอบการทำงานของแต่ละหน่วยงานที่สังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยวาระการประชุมว่าด้วยเรื่อง การดำเนินงานตามนโยบายของ คสช. การแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว การป้องกันและปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด การสร้างความปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ การดำเนินงานตามโรดแมปของกระทรวงมหาดไทย 

@ ลงทะเบียนวันแรก 1,863 ราย

     พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล เสนาธิการทหารบก ในฐานะประธานอนุกรรมนโยบายการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ (อกนร.) ซึ่งได้ร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้ขอรับทราบผลการดำเนินการของศูนย์บริการแรงงานต่างด้าว 5 จุด คือ สุรินทร์ สระแก้ว ตราด จันทบุรี และสมุทรสาคร พร้อมขอให้ที่ประชุมช่วยกันกำหนดแนวทางจัดตั้งกลไกจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้วย นอกจากนี้ ผู้ว่าฯทั้ง 5 จังหวัดได้รายงานที่ประชุมถึงการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว 

       นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า การจัดทำทะเบียนแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาข้อมูลล่าสุด 30 มิถุนายนที่ผ่านมา มีผู้ขึ้นทะเบียนแล้ว 1,863 ราย

@ แรงงานแห่ขึ้นทะเบียน

      นายสุวรรณ ดวงตา จัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร กรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวของศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (วันสต๊อปเซอร์วิส) ที่ จ.สมุทรสาคร ซึ่งเปิดให้รับจดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนเป็นวันแรกนั้น ในวันแรกมีนายจ้างพาแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายและผู้ติดตามมายื่นจดทะเบียนรวมทั้งหมด 1,990 คน แบ่งเป็นสัญชาติพม่า 1,142 คน กัมพูชา 536 คน และลาว 246 คน รวมทั้งผู้ติดตามซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า 66 คน ซึ่งปัญหาที่พบจากการเปิดรับจดทะเบียนต่างด้าวเป็นวันแรก คือ แรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่ยังมีปัญหาด้านการกรอกข้อมูลแล้วอ่านได้ยาก จึงต้องชี้แจงทำความเข้าใจในการกรอกข้อมูล 

@ เล็งขยายวันสต๊อปเซอร์วิส

     นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จะมีการขยายศูนย์บริการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวแบบเบ็ดเสร็จ (ศูนย์วันสต๊อปเซอร์วิส) เพิ่มเติมในอีก 21 จังหวัดติดชายทะเล เพื่อรับจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายเช่นเดียวกับที่ จ.สมุทรสาคร ที่เปิดเป็นแห่งแรก ซึ่งการตั้งศูนย์วันสต๊อปเซอร์วิสในแต่ละแห่งต้องใช้อุปกรณ์ เครื่องมือเป็นจำนวนมาก ทั้งรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ 5-6 คันต่อหนึ่งศูนย์ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์พิมพ์บัตร โดยต้องมีการเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์เหล่านี้ก่อนจะเริ่มทยอยเปิดศูนย์วันสต๊อปเซอร์วิสในแต่ละจังหวัดได้ ทั้งนี้ จะต้องประเมินผลการดำเนินการศูนย์วันสต๊อปเซอร์วิสที่จังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งศูนย์ประสานงานรับแรงงานเข้าทำงาน 4 ศูนย์ในจังหวัดสระแก้ว จันทบุรี ตราดและสุรินทร์ และไปหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ (กนร.) และรอนโยบายต่อไป

@ ส่งกลับ 2 รายโรคร้ายแรง

    นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.รับผิดชอบในส่วนของการตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวที่ขึ้นทะเบียนชั่วคราว ในจำนวนนี้ส่งกลับประเทศ 2 ราย สำหรับโรคต้องห้าม อาทิ โรคซิฟิลิสระยะที่ 3 วัณโรคระยะแพร่เชื้อ มีการใช้สารเสพติดและจิตฟั่นเฟือน 

     "ขณะนี้ได้กำชับให้จังหวัดอื่นที่จะมีการเปิดให้แรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนชั่วคราวต่อเตรียมสถานพยาบาลรองรับแล้ว เช่น จ.ตาก กรุงเทพฯ ชลบุรี นนทบุรี เชียงใหม่ เชียงราย ฯลฯ"

@ กำหนดค่าตรวจ 2 อัตรา 

     ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา สธ.ได้ออกประกาศเรื่องการตรวจสุขภาพและการประกันสุขภาพแก่แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ได้แก่ กัมพูชา พม่า ลาว และผู้ติดตาม โดยกำหนดอัตราค่าบริการ 2 อัตรา คือ อัตรา 1,000 บาทต่อคน ประกอบด้วย ค่าตรวจสุขภาพคนละ 500 บาท และค่าบัตรประกันสุขภาพ 500 บาท อายุคุ้มครอง 3 เดือน และอัตรา 1,400 บาท ประกอบด้วย ค่าตรวจสุขภาพ 500 บาท และค่าบัตรประกันสุขภาพราคา 900 บาท มีอายุคุ้มครอง 6 เดือน กรณีที่บัตรหมดอายุให้สามารถซื้อใหม่ได้ โดยใช้ใบรับรองแพทย์เดิมประกอบหลักฐานด้วย แต่ต้องไม่เกิน 1 ปี สำหรับในระยะต่อเนื่องหลังการผ่อนผัน และแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาตามการนำเข้าปกติ 3 สัญชาติ ในจังหวัดต่างๆ ของไทย สธ.จะให้บริการตรวจสุขภาพและออกบัตรประกันสุขภาพให้ในอัตรารายละ 2,100 บาท ประกอบด้วย ค่าตรวจสุขภาพ เช่น ตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด ตรวจหาเชื้อวัณโรค เป็นเงิน 500 บาท และบัตรประกันสุขภาพราคา 1,600 บาท มีอายุคุ้มครอง 1 ปี

@ 'ประสงค์'เร่งจัดเก็บภาษี 

      นายประสงค์ พูลธเนศ อธิบดีกรมสรรพากรคนใหม่ ให้สัมภาษณ์หลังเข้าทำงานที่กรมสรรพากรว่า เป้าหมายของการทำงานคือการเชื่อมโยงข้อมูลด้านภาษีกับกรมภาษีทั้ง 3 แห่ง คือ กรมสรรพากร สรรพสามิต ศุลกากร จะทำให้การจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการรั่วไหล ทำให้การจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นได้ โดยในส่วนของกรมที่รับดำเนินการเป้าหมายจัดเก็บในปีงบประมาณ 2558 ที่ 1.9 ล้านล้านบาท คิดว่าทำได้แน่ แต่เป้าหมายปีนี้ที่กำหนดไว้ 1.89 ล้านล้านบาท ยังไม่แน่ใจว่าจะทำได้แค่ไหน เพราะจากผลการประเมินของกรมคาดว่าปีนี้จะต่ำกว่าเป้าถึง 1 แสนล้านบาท และขณะนี้เหลือเวลาอีก 3 เดือนจะหมดปีงบประมาณแล้ว อย่างไรก็ตาม จะพยายามทำให้ได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายอย่างเต็มที่ 

      "สิ่งสำคัญในการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากรคือคุณภาพของการจัดเก็บ ไม่ใช่ไปบีบบังคับให้มีการมาเสียภาษี แต่ต้องเป็นการจัดเก็บแบบที่เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้เสียภาษีอยากมาเสียภาษีจริงๆ คงต้องดูว่าจะดำเนินการอย่างไร"นายประสงค์กล่าว

@ 'สร้อยทิพย์'งงนั่งปลัดคมนาคม 

      นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลัง คสช.แต่งตั้งดำรงตำแหน่งปลัด ว่า ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายการดำเนินงานที่เป็นทางการออกมาต้องรอหลังจากรายงานตัวต่อ คสช. ยืนยันว่าการทำงานคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะได้มีการวางแผนการทำงาน รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการไว้แล้ว 

      "ยังงงกับคำสั่งโยกย้ายในครั้งนี้ เพราะเกิดขึ้นรวดเร็วมาก แต่ในการทำงานพร้อมที่จะเดินหน้าและสานต่อโครงการที่สำคัญๆ สามารถที่จะทำงานได้ทันที และจะมีการนัดประชุมหารือกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมต่อไป" นางสร้อยทิพย์กล่าว

     แหล่งข่าวกระทรวงคมนาคมระบุว่า การที่นางสร้อยทิพย์ขึ้นมาเป็นปลัดกระทรวงคมนาคมทำให้สามารถสานงานต่อได้ทันทีเพราะที่ผ่านมาเคยเป็นผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) แล้ว รวมทั้งเคยทำงานสำนักเลขาฯรัฐมนตรีซึ่งมีหน้าที่คอยสรุปและประสานงานส่งไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำให้การทำงานต่างๆ สามารถเดินต่อได้ทันที และยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เป็นปลัดกระทรวงคมนาคม 

@ 'บิ๊กตู่'ตั้งบอร์ดกองสลาก 

       รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลใหม่ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยแต่งตั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายสมชัย สัจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานกรรมการสลากฯ พล.ต.สราวุธ กาพย์เดโช เป็นกรรมการ นายพรศักดิ์ ศรีณรงค์ เป็นกรรมการ และนายชัยพร ธรรมพีร เป็นกรรมการ ทั้งนี้ กรรมการสลากรวมประธานจะมีทั้งหมด 9 คน โดยที่เหลือจะเป็นผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ตามตำแหน่ง 4 คน คือจากกระทรวงมหาดไทย กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย และอีก 1 คน คือผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ ที่เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง

      ส่วนการสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่ จะประกาศสรรหาได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้บอร์ดสลากได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ที่มีนายจรินทร์ จักกะพาก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานสรรหาแล้ว คงใช้เวลาสรรหา 2-3 เดือน ทำให้ในช่วงนี้บอร์ดใหม่ไม่สามารถประชุมได้ จนกว่าจะมีผู้อำนวยการสลากฯคนใหม่เรียบร้อยแล้ว

@ กษัตริย์นโรดมพระราชทานอภัยโทษ'วีระ'

       เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้แสดงความเข้าใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ที่กำลังมีพัฒนาการเพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตย โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ย้ำว่า ปัญหาการเมืองต้องแก้ไขด้วยคนในประเทศนั้นๆ กัมพูชาไม่แทรกแซงและจะไม่สนับสนุนกลุ่มหรือองค์กรใดที่จะต่อต้านรัฐบาลไทย พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่าแนวทางที่ฝ่ายไทยกำลังดำเนินการกันอยู่จะสามารถนำประเทศกลับเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย และสร้างเสถียรภาพในอาเซียน ขณะที่ตนได้แจ้งให้ทราบเจตนารมณ์ของฝ่ายไทยที่จะเดินหน้าพัฒนาความสัมพันธ์ทุกด้าน และแม้ขณะนี้จะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่นโยบายต่างประเทศยังคงขับเคลื่อน เรื่องที่สานต่อต้องดำเนินการ พร้อมกับขยายความร่วมมือให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

      นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังหยิบยกกรณีการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด ที่ยังคงรับโทษคุมขังอยู่ในเรือนจำเปรยซอว์ ในกรุงพนมเปญ โดยตนได้ชี้แจงว่าประเด็นสำคัญคือ ไทยไม่ได้ประสงค์เข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา แต่นายวีระได้รับโทษมาพอสมควร ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ จึงขอให้กัมพูชาพิจารณาตามคำขอของฝ่ายไทย โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาก็ได้รับไว้พิจารณาอย่างจริงจัง

      วันเดียวกัน หนังสือพิมพ์แคมโบเดียเดลีของกัมพูชารายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายเอียง สุพะเล็ต ที่ปรึกษาของสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า กษัตริย์นโรดม สีหมุนี ของกัมพูชา ได้พระราชทานอภัยโทษให้กับนายวีระ สมความคิด ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำของกัมพูชาตั้งแต่ปี 2543 แล้ว หลังจากที่นายสีหศักดิ์ได้ร้องขอให้ฝ่ายกัมพูชาอภัยโทษให้กับนายวีระในนามของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้า คสช. 

     "สมเด็จฯฮุน เซน ได้แจ้งกับท่านสีหศักดิ์ว่าเนื่องจากคำขอของ พล.อ.ประยุทธ์ นายวีระจะได้รับการปล่อยตัวหลังกษัตริย์สีหมุนีทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานอภัยโทษให้กับนายวีระในวันเดียวกันนี้ โดยนายวีระจะเดินทางกลับประเทศไทยพร้อมกับคณะผู้แทนไทยในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้" นายสุพะเล็ตกล่าว

     ทั้งนี้ นายวีระถูกตัดสินจำคุก 8 ปีเมื่อเดือนธันวาคม 2553 ในข้อหาสอดแนมและเดินทางเข้ากัมพูชาโดยผิดกฎหมาย ทั้งยังเข้าไปในเขตพื้นที่หวงห้ามของทหารใน จ.บันเตียเมียนเจย นับจนถึงปัจจุบันนายวีระรับโทษมาแล้วราว 3 ปีครึ่ง

       ล่าสุด นายสีหศักดิ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ระหว่างหารือกับสมเด็จฮุนเซนได้หยิบยกกรณีนายวีระที่รับโทษมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วขึ้นมาหารือ ซึ่งตามกฎหมายของกัมพูชานายวีระจะต้องรับโทษ 5 ปี จึงจะมีสิทธิขออภัยโทษได้ อย่างไรก็ตามตนได้หารือตามแนวทางจาก พล.อ.ประยุทธ์ที่ขอให้ฝ่ายกัมพูชาพิจารณาปล่อยตัวนายวีระโดยคำนึงถึงข้อเท็จจริง หลักมนุษยธรรม รวมทั้งความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ พร้อมยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่ประสงค์จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา

      "หลังจากที่สมเด็จฮุนเซนได้รับฟังคำอธิบายก็ได้หยิบกระดาษขึ้นมาหนึ่งแผ่นคือ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้กับนายวีระ โดยลงวันที่ 1 กรกฎาคม พร้อมกับถามว่าจะรับตัวนายวีระวันใด คือวันนี้หรือพรุ่งนี้ (2 กรกฎาคม) จึงเรียนว่า พ.ร.ฎ.ลงวันที่ 1 กรกฎาคม จึงขอให้เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย เดินทางไปรับตัวนายวีระทันที โดยนายวีระจะเดินทางกลับพร้อมคณะทางการถึงไทยในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้" นายสีหศักดิ์กล่าว 

      ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายวีระจะเดินทางกลับไทยพร้อมกับคณะของนายสีหศักดิ์ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบิน พีจี 932 ออกเดินทางจากกรุงพนมเปญ 10.15 น. โดยมีกำหนดถึงไทยในเวลา 11.25 น. วันที่ 2 กรกฎาคม ขณะที่นายสีหศักดิ์มีกำหนดจะแถลงผลการเยือนกัมพูชาในเวลา 14.00 น. วันเดียวกันด้วย