ST44


สธ.นัดพรึบ-วันนี้ ทุกพื้นที่! รบ.โต้ยื้อสอบปลัด 
บิ๊กตู่ ปัดตอบล่าชื่ออยู่ต่อ เพื่อไทยท้วง-ส่อขัดม.44 ปูบุกปปช.แจงปมเยียวยา ตร.เลื่อน'ดาวดิน'มอบตัว

       เลขาฯ ป.ป.ท.เผย 152 รายชื่อขรก.ส่อทุจริต มีระดับปลัดกระทรวงด้วย 'บิ๊กตู่'เปิดงาน 'สร้างจิตสำนึกไทยไม่โกง'แช่งคนทุจริตให้มีอันเป็นไป ลั่นเป็นทหารมีเกียรติยศ อย่ามาเรียกเป็นไอ้นั่นไอ้นี่ ปัดตอบล่าชื่ออยู่ต่อ พท.ติงล่ารายชื่อทางการเมือง ส่อขัดม.44 คนสธ.ลั่น 9 มิ.ย. นัดชุมนุมใน ที่ตั้ง สภ.เมืองขอนแก่นยอมเลื่อน 7 วัน นัดกลุ่ม'ดาวดิน'มอบตัวใหม่ ป.ป.ช.รับฟังพยานเพิ่ม คดีถอดถอนมาร์คสลายม็อบ เป็น'สมชาย แสวงการ'ที่เสนอตัวมาเอง 'ปู'นำทีมกราบหลวงพ่อโสธร

 

วันที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8959 ข่าวสดรายวัน

 

ต้านโกง - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตสร้างจิตสำนึกไทยไม่โกง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยตั้งเป้าให้เยาวชนเป็นอนาคตในการต่อต้านทุจริต เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.

 

 

บิ๊กตู่เปิด'สร้างจิตสำนึกไม่โกง'

       เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประกาศเจตนารมณ์ 'ต่อต้านการทุจริตสร้างจิตสำนึกไทยไม่โกง' โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัญหาการทุจริตมีหลายรูปแบบ ไม่รู้ว่าแก้ไขได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ แต่เชื่อว่าเกิน 90 เปอร์เซ็นต์ทำได้แล้ว วันนี้ทุกอย่างดีขึ้น ฝากบอกคณะทูตานุทูตว่าอย่ากังวล ประเทศไทยไม่ได้เลวร้ายทั้งหมด และขณะนี้กำลังปรับปรุงให้สอดคล้องกับการค้าการลงทุน

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า 2 ปี ที่ผ่านมา ตัวเลขของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) พบว่ามีโครงการข้าวผิดพลาดขาดทุนกว่า 2 แสนล้านบาท ขายข้าวได้เพียง 1.5 แสนล้านบาท และประเมินว่าจะขายออกไปได้ แต่คงไม่มีรายได้มากกว่านี้ ส่วนเรื่องนี้ใครจะผิดหรือถูกก็ว่ากันตามกระบวนการ ประชาชนเข้าใจมากขึ้น วันนี้เรากำลังปรับโครงสร้างที่สำคัญทุกประเภท ไม่ใช่ใช้งบประมาณอย่างเดียวจนส่งผลกระทบต่อระบบการเงินการคลังของประเทศ

 

ยันคสช.ทำภาพลักษณ์ไทยดีขึ้น

       พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นประจำปี 2557 ได้คะแนน 38 จาก 100 อยู่ในอันดับที่ 85 จาก 175 ประเทศทั่วโลก เป็นอันดับที่ 12 จาก 28 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากปีก่อนหน้านี้ได้อันดับที่ 102 ของโลก และอันดับที่ 16 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แม้คะแนนประเทศจะสูงขึ้น แต่ยังไม่พอใจ ไม่อยากอวดว่าคสช.เข้ามาแล้วอันดับประเทศดีขึ้น เราจะได้ที่ 1 เมื่อใดก็ไม่รู้ ระวังโลกจะแตกก่อน แต่ต้องเอาให้ได้ในอาเซียน สิทธิเสรีภาพของทุกคนมีเท่าเทียมกัน หากละเมิดคนอื่นเมื่อไรถือว่าโกงเมื่อนั้น คิดว่าจะทำผิดก็คือโกง จะรอเวลาหมดโรดแม็ปแล้วกลับมาทำก็ไม่ได้ ยืนยันทุกอย่างเดินตามโรดแม็ปที่มีอยู่ ขอร้องว่าอย่ามองเรื่องเงินอย่างเดียว แค่คิดผิดก็ถือว่าโกงคนอื่นแล้ว 

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้รัฐบาลแก้ปัญหาทุจริตทั้งระบบ โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งหลายโครงการลดราคาลงได้ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเงินส่วนนี้ก่อนหน้านี้เป็นตัวเลขที่สูญเปล่าไปเฉยๆ และถูกนำไปใช้เชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทา วันนี้ธุรกิจสีเทาหายไปหมด ทำให้เศรษฐกิจไทยบางส่วนตกต่ำ แล้วยังมาโทษว่าตนทำให้เศรษฐกิจประเทศแย่ลง จะให้ตนทำอย่างไร ทำต่อหรือไม่ เพราะเงินเหล่านี้ผิดกฎหมายทั้งหมด

 

ลั่น'ผมเป็นคนกำหนดกติกา'

       "ผมจำเป็นต้องจัดการทั้งหมดและไม่ได้ต้องการคะแนนเสียง แต่ต้องการความพึงพอใจ ไม่ต้องการให้ต่อต้านหรือประท้วง เพราะประท้วงไม่ได้อยู่แล้ว อย่าคิดเตรียมการใดๆ ผมรู้ทั้งหมดว่าใครเตรียมการประท้วง ไม่งั้นจะเข้ามาทำไม ผมรู้ตัวอยู่ อย่าบอกว่าทำอะไรก็ได้ พูดอะไรก็ได้เพราะเป็นประชาธิปไตย เข้าใจอะไรผิดไปหรือไม่ วันนี้ผมเป็นคนกำหนดกติกา ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลหลายพวกทำไม่ได้ วันนี้ผมมาออกกติกา ก็ต้องทำให้ได้วันนี้ต้องไม่มีทุจริต" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากให้ทุกคนติดตามดูแลเรื่องการทุจริต การทำงานวันนี้ต้องชัดเจน ส่วนจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับกระบวน การยุติธรม หากผิดชัดเจนก็ต้องถูกดำเนินการ แต่ถ้าไม่ผิดก็กลับเข้ามาได้ หาตำแหน่งให้ได้อยู่แล้ว ส่วนที่วิจารณ์ว่าถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียวนั้นไม่ใช่ ทุกอย่างว่าตามกระบวนการ ยืนยันว่าไม่ใช่การแก้แค้นหรือทำลายล้างกัน

      "ผมยืนหยัดจะเดินหน้าด้วยความจริงใจ และการเข้ามาเป็นรัฐบาลวันนี้ต้องให้เกียรติกัน ไม่ใช่มาเรียกผมเป็นหมู เป็นหมา เป็นตัวไอ้นั้นไอ้นี่ ผมรับไม่ได้เพราะผมเป็นทหาร เกียรติยศยังอยู่กับผม ผมจะตายหรืออยู่ที่ไหนผมก็ยังเป็นทหาร เกียรติยศศักดิ์ศรีผมยังมีอยู่ ผมไม่ใช่นักการเมือง"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

 

แช่งคนโกงให้มีอันเป็นไป

     จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์และคณะรัฐมนตรี พร้อมผู้ร่วมงานได้ประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต สร้างจิตสำนึกไทยไม่โกง

โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวหลังประกาศเจตนารมณ์ว่า ถ้าทำได้ ขอให้มีความเจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าใครไม่ทำตามคำนี้ ขอให้มีอันเป็นไป ตนถวายสัตย์ฯมาก็อย่างนี้

      พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงปัญหาข้าราชการทุจริตคอร์รัปชั่นว่า วันนี้มีทุกภาค ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน อย่ามาโทษภาคราชการอย่างเดียว ฉะนั้นจะลงโทษทั้งคู่ ถือเป็นการสมยอม แต่จะโทษข้าราชการอย่างเดียวไม่ได้ ตนก็เป็นข้าราชการ คนดีๆ ก็มีอยู่ วันนี้ชอบพูดนักทหาร ตำรวจ ข้าราชการเลวทั้งหมดหรืออย่างไรเขียนให้ดีบ้าง

      เมื่อถามว่า 152 รายชื่อข้าราชการทุจริตถึงมือหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถึงนานแล้ว ทำไมจะให้ฆ่าทั้งหมด ทั้ง 100 กว่าคนเลยหรืออย่างไร กำลังดำเนินการอยู่ใครอยู่ในตำแหน่งหน้าที่หลักก็เอาออกมาและสอบสวนลงโทษ การดำเนินการตรวจสอบ 152 รายชื่อมีขั้นตอนในการทำงาน รัฐบาลที่แล้วทำไมไม่ไปไล่เขาทำบ้าง ทำไมเหลือมาถึงวันนี้

 

เผย 152 ขรก.มีปลัดกระทรวงด้วย

       ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงรายชื่อ 152 ข้าราชการส่อทุจริตล็อต 2 ว่า ขั้นตอนต่อไปคือจะมีกระบวนการตรวจสอบภายในเหมือนครั้งแรก ต้องแยกประเภทความผิด และการตรวจสอบต้องโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกคน อาจต้องใช้เวลาบ้าง ดังนั้นขอให้รอฟังประกาศพร้อมกันในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

      เมื่อถามว่าใน 152 ชื่อมีข้าราชการระดับปลัดกระทรวงอีกหรือไม่ เลขาฯป.ป.ท. กล่าวว่า "ก็มีอยู่ด้วย แต่ขออนุญาตไม่พูด ตอนนี้กำลังดำเนินการให้โปร่งใสตามกรอบวินัย หากผมไปพูดอะไรหรือก้าวก่าย ก็จะผิดวินัยเหมือนกัน"นายประยงค์กล่าว

 

ป.ป.ช.พร้อมรับข้อมูล'วิลาศ'

      ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีโครงการจัดซื้อจัดจ้างยาปราบศัตรูพืชกรณีเกิดภัยพิบัติในหลายจังหวัดว่า มีหลายคำร้องเข้ามา ตนยังไม่ได้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ ขอไปสอบถามรายละเอียดก่อน ส่วนที่นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่ามีสมาชิกสนช. 2 ราย เกี่ยวข้องในสมัยเป็นผวจ.นั้น หากจะส่งข้อมูลดังกล่าวมาที่ ป.ป.ช. เราก็ต้องรับไว้ เพื่อนำมาพิจารณาว่าจะใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีได้หรือไม่ เพราะการทำงานของ ป.ป.ช. หากมีหลักฐานแล้วก็จะไต่สวนไปตามประเด็นนั้นๆ ได้ ส่วนการถอดถอนนั้นต้องแล้วแต่รัฐบาล แต่ต้องเข้าใจว่า กรณีอาญากับกรณีถอดถอนนั้น ไม่เหมือนกัน เพราะการถอดถอนในกฎหมายระบุเพียงว่ามีพฤติการณ์ ส่อว่าทุจริต ส่อว่าประพฤติมิชอบ หรือร่ำรวยผิดปกติ 

       ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างยาปราบศัตรูพืชกรณีเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินว่า หากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบเสร็จแล้ว กระทรวงมหาดไทยสามารถพิจารณาทางวินัยได้เลย ส่วนที่นายวิลาศ ระบุยังมีสมาชิกสนช. 2 คนซึ่งเคยเป็นอดีต ผวจ.มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น เป็นเรื่องของป.ป.ช. จะไต่สวนชี้มูลความผิดลงโทษทางแพ่งและอาญาเนื่องจากเกษียณอายุราชการแล้ว อย่างไรก็ดีตั้งแต่ตนเข้ามาทำหน้าที่ พบว่ามีข้าราชการระดับท้องถิ่นส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งดำเนินการแล้ว แต่ในระดับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ยังไม่มีการตรวจสอบพบการทุจริต

 

ชาญวิทย์ จ่อส่งหนังสือแจงบิ๊กตู่

     นายชาญวิทย์ วสยางกูร สมาชิก สนช. กล่าวถึงกรณีนายวิลาศระบุมีส่วนเกี่ยวข้องกับความไม่โปร่งใสการจัดซื้อยาปราบศัตรูพืช กรณีการเกิดภัยพิบัติ สมัยเป็นผวจ.มุกดาหารว่า ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดอยู่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง รวมทั้งหารือกับผู้ใหญ่ว่าจะดำเนินอย่างไรต่อไป ขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มาก แต่ยืนยันว่ากระบวนการจัดซื้อยาปราบศัตรูในสมัยเป็นผวจ.มุกดาหารนั้น ดำเนินการอย่างถูกต้อง 

      นายชาญวิทย์ กล่าวว่า จากการหารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. ให้คำแนะนำว่าขอให้ไปทำรายละเอียดบันทึกข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแจ้งให้พล.อ.ประยุทธ์ทราบ จากนั้นค่อยดูว่า นายกฯจะว่าอย่างไรต่อไป

 

คนสธ.ลั่นนัดชุมนุมในที่ตั้ง

       วันเดียวกัน นพ.ธานินทร์ สีวราภรณ์สกุล ผู้อำนวยการ ร.พ.พระนครศรีอยุธยา และประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ.รพท.) กล่าวว่า กรณีกลุ่มประชาคมสาธารณสุขเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย นัดหมายชุมนุมใหญ่วันที่ 9 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ชี้แจงคำสั่งย้ายนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี บุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศจะแสดงออก ณ ที่ตั้งตามสถานพยาบาลของตัวเอง โดยจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เพียงแต่ต้องการส่งเสียงให้ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองรับทราบเท่านั้น ทั้งนี้การชุมนุมเป็นการแสดง ออกของชาวสาธารณสุข ที่มีข้อสงสัยร่วมกันไม่ได้นัดหมายหรือเตรียมการล่วงหน้าเพียงแต่เป็นอารมณ์ร่วมของคนสาธารณสุขที่เห็นร่วมกันเท่านั้น 

      แหล่งข่าวกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การชุมนุมดังกล่าวใช้วิธีการนัดหมายด้วยการบอกต่อๆ กัน พบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงพยายามขอร้องให้กลุ่มต่างๆ ยุติการเคลื่อน ไหวและบางส่วนไม่ให้เดินทางออกนอกพื้นที่ เหมือนครั้งที่ผ่านมาที่ขึ้นป้ายแสดงความไม่เป็นธรรมกรณีการโยกย้าย นพ.ณรงค์ ก็มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงขอให้ปลดป้ายในทันที แต่ครั้งนี้เบื้องต้นการเคลื่อนไหวจะยังคงมีอยู่ โดยจะแสดงออกทั้งในพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัด เช่น การชูป้าย ขึ้นป้าย ขอความเป็นธรรมกับรัฐบาล 


กำลังใจ - กลุ่มน.ศ.และชาวบ้านกลุ่มต่างๆ รวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อให้กำลังใจ 7 นักศึกษากลุ่มดาวดิน ที่ต้องเข้ารายงานตัวในคดีฝ่าฝืนคำสั่งคสช. โดยตำรวจได้ขยายเวลารายงานตัวออกไปอีก 7 วัน 

 

รบ.แจงวุ่นผลสอบปลัดสธ.อืด

        ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การสอบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นอำนาจของคณะกรรมการสอบสวนฯ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามีกำหนดการสอบสวนเสร็จในสัปดาห์หน้า ขณะนี้ขอให้ทุกฝ่ายให้เวลาคณะกรรมการ ในการทำงาน ทุกอย่างได้เดินหน้าไปตามกระบวนการอยู่ ส่วนผลการสอบสวนจะเสร็จทันก่อน นพ.ณรงค์ เกษียณอายุราชการหรือไม่นั้นเป็นอำนาจของคณะกรรมการสอบสวนฯ อย่างไรก็ตาม การแสดงออก ของบุคลากรสาธารณสุขนั้นก็ถือเป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้

      นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ กล่าวถึงผลการสอบนพ.ณรงค์ว่า ผลการสอบเรื่องการดำเนินนโยบายยังไม่ออกมา ต้องแล้วแต่คณะกรรมการที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน จะพิจารณาว่าอย่างไร และที่เสนอให้ตั้งคณะกรรมการเพราะมีประเด็นว่าปลัดไม่ทำตามนโยบาย ก็ต้องสืบสวนว่าทำไมถึงไม่ทำ ส่วนผลการสอบจะเสร็จก่อนนพ.ณรงค์เกษียณหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบเหมือนกัน สำหรับการนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 9 มิ.ย.นั้น จะเคลื่อนก็เคลื่อนไป รัฐบาลไม่มีมาตรการอะไรไปรองรับ ตอนนี้มีความสับสนโดยเอา 2 เรื่องมาปนกันคือการสอบสปสช. กับการสอบเรื่องนโยบายปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งการสอบปลัดอาจเป็นเพราะไม่ทำตามนโยบาย ส่วนการสอบ สปสช.คือเรื่องการใช้เงิน แต่ได้เร่งรัดให้พิจารณาการสอบสวนปลัด

 

นายกฯ ตู่เรียกถก'ส่งไม้ต่อ'

      ที่ทำเนียบ พล.อ.ประยุทธ์ได้เชิญรัฐมนตรีที่มาร่วมงานขึ้นไปประชุมด่วนอย่างไม่เป็นทางการ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดยพล.อ. วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ และโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยหลังการประชุมว่า เป็นการหารือเพื่อเตรียมการไว้เพื่อส่งต่องานให้กับผู้ที่จะมารับช่วงต่อ ซึ่งนายกฯ ได้ชี้แจงถึงการทำงานที่ผ่านมา เหมือนที่ได้ชี้แจงให้กับ สนช.และสปช.ฟัง พร้อมกันนี้ได้พูดคุยซักซ้อมถึงการเตรียมการส่งไม้ต่อหลังรัฐบาลสิ้นสุดในเดือน เม.ย.2559 ตามโรดแม็ป หรือกรณีหากทำประชามติจะต้องส่งไม้ต่อในเดือนก.ย.2559 แต่ยืนยันว่าไม่มีการพูดถึงการขยายเวลาของโรดแม็ปหรือข้อเสนอของ สปช.บางส่วน

      พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการค่าจ้างเตรียมพิจารณาโครงสร้างค่าจ้างใหม่ว่า ตอนนี้หาเงินจากตรงไหนได้ที่จะมาขึ้นค่าแรง เรียกร้องอะไรกันมาบ้าง ค่าแรง ค่ารักษาพยาบาล การศึกษา แล้วรายได้เรามีหรือไม่ มีเพิ่มขึ้นหรือยัง ต้องให้เวลาในการสร้างความเข้มแข็งตรงนี้ก่อน ตนบอกแล้วว่าใครอยากจะขึ้นค่าแรงต้องไปที่กระทรวงแรงงานไปทดสอบเรียนรู้ที่จะได้ค่าแรงตามคุณวุฒิ

 

โวยค่าแรง 300 มีแต่ต่างด้าวได้

      "ถ้าค่าแรงเหมาจ่ายทั้งหมดไปกันไม่ได้ เพราะ 1.ไม่มีเงิน 2.ไม่มีใครเขาจ้าง ตอนนี้ค่าแรง 300 บาทส่วนใหญ่ใครเป็นคนได้ แรงงานต่างด้าวใช่หรือไม่ เขาจะมามากขึ้นเพราะคนไทยไม่ทำ และค่าแรงขั้นต่ำที่บ้านเขาอยู่ที่เพียง 100-150 บาท ไม่เกิน 200 บาท"

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คิดแบบที่ตนคิดบ้าง ถ้ารวยเท่าไรตนก็ให้ได้ แต่อย่าปลุกระดมออกมา มันจนทุกคนไม่ใช่เฉพาะแรงงาน จะเอาอะไรนักหนา ก็รู้อยู่ว่าเรากำลังสร้างความเข้มแข็ง กำลังให้คนเข้ามาลงทุน แค่ 300 บาทก็หนักหนาสาหัสพออยู่แล้วที่เขาจะไม่ลงทุน ไม่ใช่ความผิดของตนหรือของใคร แต่ไปถามซิว่าใครทำมา ควรจะมาทีละขั้นตอนหรือไม่ แต่ถ้าจะก้าวกระโดดขึ้นไปอีกตนให้ไม่ได้เพราะไม่มีเงิน

 

ปัดตอบล่าชื่ออยู่ต่อ 2 ปี

      พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน กมธ.ยกร่างฯ เตรียมล่ารายชื่อประชาชน 5 หมื่นคน เพื่อส่งให้รัฐบาลสอบถามประชามติปฏิรูปประเทศ 2 ปีก่อนเลือกตั้งว่า ใครล่า ล่ามาทำอะไรตนไม่สนใจ เป็นเรื่องของโรดแม็ป จบ เลิกถามเรื่องนี้กับตน

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายกฯ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดทุกคำถาม และตอบเพียงสั้นๆ พร้อมตัดบทให้เป็นคำถามต่อไป

 

'โด่ง'ชี้โรดแม็ปปรับเปลี่ยนได้

       ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอให้นายกฯ บริหารประเทศต่ออีก 2 ปี ว่าเป็นความเห็นของประชาชน นายกฯคงรับฟังอยู่แล้ว ซึ่งน่ายินดี ส่วนที่มีข้อคิดเห็นว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้งนั้น มีกรอบกติกาที่ระบุอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวอยู่แล้ว และโรด แม็ป ซึ่งนายกฯคงพยายามเดินไปตามนั้น แต่หากประชาชนมีข้อเสนออะไรออกมา นายกฯคงรับฟัง พร้อมหารือกับส่วนที่เกี่ยวข้อง และดำเนินการต่อไป แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่ละช่วงว่ามีเรื่องเข้ามาปรับเปลี่ยนสถาน การณ์อย่างไรบ้าง ขอให้ทุกคนสบายใจ ในฐานะที่อยู่ในรัฐบาล เจตนารมณ์ของนายกฯหรือรัฐบาล ไม่ได้มุ่งหวังสืบทอดอำนาจตามที่หลายคนวิตกกังวล 

เมื่อถามว่าจะเหมือนพายเรือกลับไปที่เดิมหรือไม่ เพราะก่อนคสช.จะเข้ามาบริหารประเทศก็มีการตั้งโจทย์ให้ปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่าไม่สามารถตอบได้ แต่เรามีโรดแม็ปและรัฐธรรมนูญชั่วคราวอยู่แล้ว และรัฐบาลก็ตั้งใจทำงาน แต่เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร หรือประชาชนต้องการอะไร ก็ต้องรับฟัง

 

วอนเห็นต่างอย่านอกกรอบ

     พล.อ.อุดมเดชยังกล่าวถึงมาตรการดูแลช่วงรณรงค์ร่างรัฐธรรมนูญก่อนลงประชามติว่า อาจมีคนไม่เห็นด้วยบ้าง แต่เชื่อว่าขณะนี้เราอยู่ได้ด้วยคนส่วนใหญ่ที่เข้าใจรัฐบาลและคสช. เข้าใจว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี และขอวิงวอนให้ทุกคนเข้าใจและเราสามารถแสดงความคิดเห็นตามกรอบได้ เมื่อเรียบร้อยไปตามโรดแม็ปก็คงดำเนินการตามนั้น แต่ระยะเวลาในโรดแม็ปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย ถ้าราบรื่นดีก็เป็นไปตามที่วางไว้ แต่อาจปรับเวลายืดออกไปบ้าง ก็คงไม่มากนัก อยู่ที่ขั้นตอนต่างๆ แต่คงไม่ยาวนานเกินไปกว่าที่พวกเรารอคอย 

      พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า ส่วนผู้มีความเห็นต่างต่อร่างรัฐธรรมนูญและจะออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านนั้น เราพยายามทำความเข้าใจเป็นหลัก และให้เสนอเข้ามาตามกรอบ ไม่อยากให้เกิดปัญหา ทั้งนี้ให้กองกำลังรักษาความสงบ(กกล.รส.) ดูแลสถานการณ์ให้เรียบร้อยต่อไป ถ้าเราช่วยกันทำให้นิ่งได้ มันก็ไปได้ไม่สะดุด แต่ถ้ามาแสดงความเห็นต่างนอกกรอบทำให้สถานการณ์กระเพื่อมก็จะมีผลต่อส่วนรวม สำหรับข่าวลือเรื่องปฏิวัติซ้อนนั้น ไม่มีแน่นอน กองทัพยังยึดถือนโยบายรัฐบาลและตัวนายกฯ พร้อมช่วยรัฐบาลและนายกฯอย่างเต็มที่

 

ตร.ตรึงรับ'ดาวดิน'ส่งศาลทหาร

       ที่สภ.เมืองขอนแก่น พล.ต.ต.จิตรจรุญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นายปิยิน ตลับนาค นายอำเภอเมืองขอนแก่น พ.ท.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้ากองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่ขอนแก่น นำกำลังร่วม 3 ฝ่าย ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ตรึงกำลังเข้มโดยรอบ สภ.เมืองขอนแก่น ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด โดยตรวจสอบรถที่ผ่านเข้า-ออกทุกคัน รวมทั้งจัดพื้นที่ไว้สำหรับการชุมนุมของกลุ่มมวลชนต่างๆ เนื่องจากครบกำหนดการยื่นขอประกันตัวของกลุ่มนักศึกษาดาวดินทั้ง 7 คน ซึ่งผิดตามกฎหมายฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 3/58 หลังรวมตัวกันแสดงสัญลักษณ์และแสดงออกทางการเมือง เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งครบกำหนด 1 ปีรัฐประหาร 

      พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า เป็นการรับทราบข้อกล่าวหาและรายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งทันทีที่กลุ่มนักศึกษามาถึง จะลงชื่อเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา จากนั้นพนักงานสอบสวนจะส่งตัวขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อนำส่งต่ออัยการทหาร มทบ.23 และเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมายของศาลทหาร มบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น หากไม่มารายงานตัววันนี้ จะถูกจับกุมตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งนี้ในช่วงเช้ากลุ่มนักศึกษาทั้ง 7 คนยังไม่มีใครมารายงานตัว มีเพียงกลุ่มพลังมวลชนในกลุ่มต่างๆ มาให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่จึงต้องจัดพื้นที่ไว้ให้เพื่อความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกเต็มที่ และหลังเสร็จสิ้นการส่งฟ้องต่ออัยการและศาลทหารก็หมดหน้าที่ของตำรวจ ส่วนการให้ประกันตัวหรือพิพากษาใดๆ เป็นอำนาจของผู้พิพากษาศาลทหารในภาพรวม 

 

ชุมนุมค้านพรึบ-ทหารคุมเข้ม

     ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น มีกลุ่มผู้ชุมนุม จากพื้นที่จังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน ประกอบด้วย กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดูนสาด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น กลุ่มอนุรักษ์และต่อต้านเหมืองแร่ จ.เลย องค์กรภาคประชาชนในหลายจังหวัดรวมกว่า 100 คน รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ หลังพบว่าหลายหน่วยงานไม่สามารถแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้องให้กับประชาชนได้ โดยมีกลุ่มนักศึกษาดาวดินทั้ง 7 คน ทีมทนายความและนายประกัน ร่วมชุมนุมอยู่ด้วย

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างตึงเครียด มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกว่า 100 นาย คอยสังเกตการณ์และวางกำลังโดยรอบ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความรุนแรงอาจเกิดขึ้น ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ผ้าลายพรางสีเขียวคล้ายของสีทหาร ปิดทับอนุสาวรีย์ฯ โดยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารพยายามเข้าห้ามปรามและไม่ให้แสดง ออกเชิงสัญลักษณ์หรือล้อเลียนการเมือง แต่กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดได้รวมตัวกันตรึงแนวเป็นวงกว้างในลักษณะโล่มนุษย์ ป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาขัดขวางการแสดงออก จนเกิดการกระทบกระทั่งกันเป็นระยะ รวมทั้งยังคงแสดงละครล้อการเมืองในชื่อเรื่อง "เค้าให้ผมไปรายงานตัว" ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาและให้ทุกฝ่ายดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยกลุ่มผู้ชุมนุมใช้เวลาชุมนุมนานกว่า 3 ชั่วโมงก่อนจะแยกย้ายกันกลับ

 

แถลงการณ์จี้ยุติละเมิดสิทธิ

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้อ่านคำประกาศของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (Neo Democracy Movement) ว่า 1 ปีที่ผ่านมาวิกฤตสังคมไทยไม่ได้ลดลง แต่ยิ่งเลวร้าย กว่าเดิม มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่าง กว้างขวาง ทำลายความสงบสุขของชุมชน บริหารประเทศชาติล้มเหลวในทางเศรษฐกิจ ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งประกอบด้วยนักศึกษาและประชาชน ไม่อาจอดทนให้ประเทศชาติจมกับวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้อีก 

 


กราบพระ - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าสักการะหลวงพ่อโสธร ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีประชาชนแห่ให้กำลังใจกันอย่างคับคั่ง เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.

     

      เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง จึงมีข้อเสนอต่อประชาชนดังนี้ 1.ยกเลิกรัฐธรรมนูญชั่วคราว ยุติกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญเพื่อสืบทอดอำนาจและยกเลิกประกาศที่เป็นผลพวงของรัฐประหาร ยกเลิกกฎอัยการศึกและกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมตลอดทั่วราชอาณาจักร 2.ยุติการคุกคามและการดำเนินคดีกับประชาชน 3.คืนอำนาจให้ประชาชน และจัดให้มีการเลือกตั้งตามปกติโดยเร็ว 4.รัฐต้องหยุดละเมิดสิทธิชุมชน และต้องเคารพในสิทธิชุมชน การใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับชุมชนต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมพัฒนาและแก้ปัญหา

 

ตร.เลื่อนนัด'ดาวดิน'มอบตัว

      พ.ต.อ.นพดล กล่าวว่า กลุ่มนักศึกษาได้ส่งทนายและนายประกัน เข้าพบต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอเลื่อนระยะเวลาการมอบตัว โดยให้เหตุผลขอสอบพยานเพิ่มเติม ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ประชุมร่วมกับฝ่ายความมั่นคง พิจารณาอนุญาตเลื่อนวันมอบตัวของนักศึกษาออกไปอีก 7 วัน ถือเป็นนัดที่ 2 ตามกรอบกฎหมาย หากนัดที่ 2 ยังคงไม่มามอบตัวและรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่จะจับ กุมทันที

      พ.ต.อ.นพดล กล่าวว่า ข้อสรุปดังกล่าวเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายและไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย จึงได้ถอนกำลังโดยรอบ สภ.เมืองขอนแก่น และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น เจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพและจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้แล้ว หลังจากแยกย้ายการชุมนุมแล้ว ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศกิจได้เคลียร์พื้นที่ จัดเก็บป้ายต่างๆ หรือการแสดงออกทางสัญลักษณ์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งหมดแล้ว

 

'ไก่อู'ลั่นไม่ปล่อยชุมนุมต้าน

      ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีนักศึกษากลุ่มดาวดิน ที่จ.ขอนแก่น รวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่นว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติกับนักศึกษาอย่างยิ่ง จะไม่ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ไม่สามารถปล่อยปละละเลยได้ เพราะจะกลายเป็นตัวอย่างให้กับกลุ่มอื่นๆ ทำเป็นแบบอย่างได้ ซึ่งมาตรการของเจ้าหน้าที่จะเริ่มจากเบาไปหาหนัก จากการพูดคุยตักเตือนก่อนและกลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวก็เป็นผู้ที่มีการศึกษากันแล้ว ถ้ายังไม่เข้าใจก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะทุกคนต้องเคารพกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน

 

วิษณุชี้จะต้องแคร์ต่างชาติด้วย

       ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการชี้แจงคำข้อแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ส่วนใหญ่จะซักถามเหตุผลจากตน บรรยากาศเป็นไปด้วยดี คิดว่ากมธ.ยกร่างฯเข้าใจเหตุผลในการขอแก้ไข กรณีนายกฯคนนอก เราไม่ได้ท้วง ส่วนเรื่ององค์กรอิสระในรัฐธรรมนูญใหม่เกือบ 30 องค์กร ก็เสนอให้ตัดไปเหลือไม่ถึง 5 องค์กร ยกเว้นองค์กรเดิมที่เคยมีอยู่ ส่วนสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติไม่ได้เสนอให้ตัด แต่อยากให้เขียนให้ชัดเจนว่ามีที่มาแบบใด ทั้งนี้การปฏิรูปและปรองดองต้องการคนอีกประเภทหนึ่ง พวกเลือกตั้งที่โผล่เข้ามาถ้าจะมาให้คิดปรองดอง สังคมคงหวาดระแวงไม่ปรองดองด้วย จึงต้องมีคนอีกชุดหนึ่งเข้ามาดำเนินการ

      นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรม นูญฉบับชั่วคราวนั้น ทำไปแล้วกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เหลือเฉพาะแค่ส่วนที่ยากเท่านั้น ส่วนรูปแบบคำถามนั้น รัฐบาลไม่ใช่คนออกแบบแต่จะเป็นใครนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนที่มีบางส่วนเสนอให้ต่ออายุรัฐบาล 2 ปีเพื่อปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เป็นเรื่องที่คนอื่นจุดชนวนขึ้นมา ตนไม่เกี่ยวและรัฐบาลก็ไม่ได้รับรู้ ทั้งนี้ จึงต้องถามผู้เสนอว่าเขาคิดกันอย่างไร

     "การจะทำอะไร ต้องแคร์ต่างชาติด้วย นายกฯพูดเองว่าจะทำอะไร ต้องคิดถึงขนบ ธรรมเนียมประเพณี ประวัติศาสตร์ไทย แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับหลักสากล ถ้ายึดในแบบของเราแต่เขาไม่เชื่อถือเราก็อยู่ไม่ได้ แต่ถ้าเอาจากนอกทั้งหมดมาขัดกับของเราก็ไม่ได้ เพราะของนอกแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน"

 

กมธ.เผยผลฟังกลุ่ม'สมบัติ'

      ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ เชิญตัวแทนกลุ่มสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะผู้เสนอคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมาชี้แจงเป็นวันสุดท้าย วันนี้เป็นการชี้แจงของกมธ.ปฏิรูปการเมือง และกมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม

      นายปกรณ์ ปรียากร พร้อมด้วยพล.ท.นาวิน ดำริกาญจน์ โฆษกกมธ.ยกร่างฯ แถลงภายหลังรับฟังคำชี้แจงของกมธ.ทั้ง 2 คณะว่า ประเด็นที่เสนอขอแก้ไขมี 132 ประเด็น ซึ่งขอแก้ไขชื่อและให้แบ่งเป็นหมวดทั้งฉบับ 10 หมวด ทั้งนี้ผู้เสนอต้องการให้รัฐธรรมนูญมีลักษณะที่สั้น กระชับ และเอาส่วนที่ไม่จำเป็นไปไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ส่วนประเด็นการปฏิรูปการเมือง ในมาตรา 103 ให้มีส.ส. และส.ว. โดยให้ส.ส.มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขต 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน ไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม เพราะจะทำให้รัฐบาลไม่เข้มแข็ง และไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งระบบโอเพ่นลิสต์ ส่วนที่มาส.ว.ถ้าให้มีอำนาจมาก ควรมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดจังหวัดละ 2 คน แต่ถ้ามาจากการสรรหาทั้งหมดต้องลดอำนาจลง และไม่เอานายกฯที่มาจากคนนอก แต่ต้องมาจากประชาชน นอกจากนั้นในบทเฉพาะกาล ผู้เสนอเห็นว่าต้องมีการปฏิรูปให้สำเร็จก่อนเลือกตั้ง โดยขอให้กมธ.ยกร่างฯเป็นผู้จัดทำบัญชีรายละเอียดว่ามีกฎหมายอะไรบ้าง ใช้เวลา 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี 

พล.ท.นาวินกล่าวว่า ต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง เพราะข้อเสนอเรื่องการปฏิรูป ซึ่งระยะเวลาจะไม่ตรงกับที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่เรื่องดังกล่าวเป็นคนละเงื่อนไขกับข้อเสนอที่ให้มีการปฏิรูป 2 ปี ก่อนการเลือกตั้ง 

 

สมบัติชี้ต้องใช้กม.กำหนดปฏิรูป

       นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานกมธ.ปฏิรูปการเมือง พร้อมด้วยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม นายดิเรก ถึงฝั่ง รองประธานกมธ.ปฏิรูปการเมือง และนายนิรันดร์ พันทรกิจ กมธ.ปฏิรูปการเมือง ร่วมกันแถลงว่า กมธ.ทั้งสองคณะได้ร่วมกันเสนอให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง โดยให้เพิ่มมาตรา 304/1 ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้กมธ.ยกร่างฯ จัดทำบัญชีรายการกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่จำเป็น พร้อมหลักการและเหตุผล รวมถึงวัตถุประสงค์การให้มีกฎหมายดังกล่าว และส่งให้สปช.ยกร่างจัดทำกฎหมายดังกล่าว โดยให้จัดทำร่วมกับกมธ.ยกร่างฯให้เสร็จภายใน 6 เดือนแต่ไม่เกิน 1 ปี เพื่อให้การปฏิรูปประเทศให้เสร็จ จากนั้นส่งให้ คสช. ครม. และสนช. ดำเนินการจัดให้มีกฎหมายดังกล่าวต่อไป จากนั้นให้ครม.โดยความเห็นชอบของคสช.และกกต.กำหนดวันเลือกตั้งส.ส.และส.ว.ต่อไป

      นายสมบัติ กล่าวว่า คำขอแก้ไขดังกล่าวไม่ได้เป็นการทำประชามติเพื่อให้ประชาชนลงความเห็นว่าจะให้มีการปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งหรือไม่ แต่ให้ดำเนินการไว้ในบทเฉพาะกาล สาเหตุที่ต้องเสนอแนวทางนี้ไว้เพราะที่ผ่านมาเมื่อประกาศใช้รัฐธรรมนูญแล้ว รัฐบาลส่วนใหญ่มักไม่ออกกฎหมายตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จึงจำเป็นต้องกำหนดเรื่องนี้ไว้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกมธ.ยกร่างฯว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ 

 

ยันเขียนกม.ไม่เกิน 2 ปีเสร็จ

"เราจะมาทำนานเกินไปไม่ได้ เพราะเข้าใจดีว่าทุกคนต้องการการเลือกตั้ง คิดว่าการทำกฎหมายต่างๆ จะใช้เวลาไม่เกิน 2 ปี" 

ด้านนายเสรีกล่าวว่า ข้อเสนอนี้เกิดก่อนข้อเสนอให้ทำประชามติว่าจะเห็นด้วยกับการปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง 2 ปีของนายไพบูลย์ นิติตะวัน กมธ.ยกร่างฯ การใช้การออกกฎหมายเป็นตัวชี้วัดถึงการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งนั้น มีความชัดเจนในการวัดผลมากกว่า ส่วนการปฏิรูปประเทศจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ทั้งในด้านการพัฒนาหลายๆ ด้านก็เป็นเรื่องอนาคต หลังจากมีกฎหมายต่างๆ ออกมาแล้ว 

 

กปปส.โผล่หนุน"ไพบูลย์"

     วันเดียวกัน นายสมเกียรติ หอมละออ ตัวแทนชมรมนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย และอดีตแกนนำกลุ่มกปปส. เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายไพบูลย์ นิติตะวัน กมธ.ยกร่างฯเพื่อสนับสนุน การปฏิรูปให้สำเร็จก่อนเลือกตั้ง 

      นายไพบูลย์ กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปอีก 2 ปี ก่อนการเลือกตั้ง ว่า ไม่ว่าจะเป็นแนวทางของตน หรือแนวทางจากคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ของ กมธ.การเมือง และกมธ.กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ที่เสนอให้กำหนดในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญ ก็จะต้องจัดให้ออกเสียงประชามติอยู่ดี โดยแบ่งเป็น 2 แนวทาง คือ 1.มี 2 คำถามคือ จะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2558 หรือไม่ และเห็นชอบให้มีการปฏิรูปอีก 2 ปีก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ 2.มีคำถามเดียวว่า จะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับ 2558 หรือไม่ ซึ่งยังขึ้นอยู่กับกมธ.ยกร่างฯว่าจะเห็นเป็นอย่างไร ส่วนจะนำข้อเสนอเข้าที่ประชุมสปช.ก็ได้ แต่หมิ่นเหม่ถูกมองว่าขยายอำนาจ ดังนั้นฟังเสียงประชาชนแทนดีกว่าฟังเสียงสปช. เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยมีใครฟัง สปช. เท่าไร 

      "ถ้าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ประชาชนเพียงแค่เสียงเดียวรัฐบาลก็ต้องฟัง หากผลการจัดทำประชามติออกมาเห็นชอบให้ คสช.อยู่ทำหน้าที่ปฏิรูปต่อไป ข่าวนี้จะกระจายไปทั้งโลก จะไม่มีรัฐบาลไหนกล้าถามเรื่องการเลือกตั้งอีก หากยังถามแสดงว่าไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่เห็นว่าเราเป็นประชาธิปไตยแล้ว" นายไพบูลย์กล่าว

 

ศุภชัย ลั่น 2 ก.พ.ล่มไม่เกี่ยวกกต.

      ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. นายประวิช รัตนเพียร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง ร่วมแถลงข่าวครบรอบ 17 ปี วันสถาปนาสำนักงานกกต. ภายใต้วิสัยทัศน์ "การเลือกตั้งคุณภาพโดยพลเมืองคุณภาพ"

      นายศุภชัย กล่าวว่า กกต.มีข้อเสนอ 8 ประเด็นไปยังนายกฯและนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เพื่อแสดงความเห็นเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับกกต. ซึ่งกกต.หวังว่ากมธ.ยกร่างฯ จะนำข้อเสนอทั้ง 8 ประเด็น พิจารณาอย่างรอบคอบ ตอบโจทย์ให้ได้ว่าจะแก้ปัญหาทุจริตเลือกตั้งได้หรือไม่ เพราะเห็นว่าองค์กรที่ต้องถูกปรับปรุงคือองค์กรที่ทำหน้าที่บกพร่อง แต่กกต.ไม่มีความบกพร่อง ซึ่งการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 ก็ไม่ใช่ความผิดของกกต. แต่มาจากวิกฤตการเมือง อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญใหม่บัญญัติอย่างไร กกต.พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายทุกประการ ไม่ต้องกังวลว่าเราจะทำงานไม่ได้ 

นายสมชัยกล่าวถึงข้อเสนอให้ทำประชา มติเพื่อให้รัฐบาลควรอยู่บริหารประเทศต่ออีก 2 ปี ว่า ในเชิงเทคนิคไม่มีปัญหา แต่จะเหมาะสมหรือไม่ รัฐบาลต้องคิดเอง สิ่งที่กกต.ทำได้คือถ้าเห็นว่าคำถามนั้นไม่เป็นกลางหรือชี้นำ กกต.สามารถให้ข้อสังเกตหรือข้อปรับปรุงได้ แต่กกต.ไม่สามารถบอกได้ว่าถามได้หรือไม 

 

พท.ติงล่ารายชื่ออยู่ต่อขัดม.44

     วันเดียวกัน นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พุทธอิสระจะรวบรวมรายชื่อประชาชนที่สนับสนุนให้พล.อ.ประยุทธ์และคสช.อยู่ต่ออีก 2 ปี ว่ามาตรา 44 ห้ามชุมนุมหรือเคลื่อนไหวทางการเมือง ถ้าการล่ารายชื่อมีวัตถุประสงค์ทางการเมือง ถือว่าขัดกับมาตรา 44 เพราะเห็นชัดแน่นอนว่าเป็นเรื่องการเมือง ดังนั้นไม่ควรทำ เรื่องนี้จะเป็นแบบอย่างให้กลุ่มอื่นทำบ้าง และถ้ากลุ่มนี้ทำได้แต่กลุ่มอื่นทำไม่ได้จะกลายเป็นเลือกปฏิบัติอีก

      "ความจริงไม่ต้องทำประชามติหรือล่ารายชื่อหรอก ถ้าจะอยู่ต่อก็อยู่เลย จะแก้รัฐธรรมนูญให้อยู่ต่อก็สามารถทำได้อยู่แล้ว การรวบรวมรายชื่อเป็นการทำผิดมาตรา 44 การทำประชามติก็เสียเงินเสียทอง และผลไม่รู้ว่าจะออกมาอย่างไร ดังนั้น ถ้าอยากอยู่ต่อก็อยู่เลย สำคัญคืออยู่แล้วแก้ปัญหาของประชาชนได้หรือไม่ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นหรือไม่ ประชาชนอยู่ดีกินดีหรือไม่ ซึ่งก็อยากถามว่าที่จะให้อยู่ต่ออีก 2 ปีเพื่อปฏิรูปนั้น ปฏิรูปอะไร ทางที่ดีที่สุดคือทำทุกอย่างตามโรดแม็ปที่ได้สัญญาไว้ แล้วคืนอำนาจให้ประชาชนดูแลรับผิดชอบบ้านเมืองของเขาเอง" นายสามารถกล่าว

 

'ปู'นำทีมกราบหลวงพ่อโสธร

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมแกนนำและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯและอดีตรมว.พาณิชย์ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรมว.ไอซีที นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรค นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.นนทบุรี นายปรีชาพล พงษ์พานิช อดีตส.ส.ขอนแก่น น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ เดินทางไปอ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อไปพักผ่อน ออกรอบตีกอล์ฟ พร้อมรับประทานอาหารกลางวัน ก่อนแวะสักการะหลวงพ่อโสธร ที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวแปดริ้ว 

       รายงานข่าวแจ้งว่า การไปจ.ฉะเชิงเทราครั้งนี้ ไม่มีนัยทางการเมือง ไปไหว้พระสำคัญของบ้านเมืองเพื่อความสบายใจ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารตามติดอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 9 มิ.ย. ซึ่งป.ป.ช.นัดให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปรับทราบข้อกล่าวหากรณีจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง พ.ศ.2548-2553 โดยมิชอบนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์จะส่งทนายความไปรับทราบข้อกล่าวหาแทน

 

วิชาเพิ่มพยานคดีถอดมาร์ค

       รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า จากกรณีป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และครม.รวม 34 ราย กรณีจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง พ.ศ.2548 - 2553 โดยมิชอบ และผู้ถูกกล่าวหาทุกรายต้องมารับทราบข้อกล่าวหา และให้ถ้อยคำเบื้องต้นระหว่างวันที่ 9-30 มิ.ย.นี้ โดยคิวแรกในวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 09.00 น. จะเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์ จากนั้นเป็นนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกฯ และประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกฯ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯ และรมว.คลัง นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ และนางนลินี ทวีสิน อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ

      ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือพระสุเทพ ปภากโร อดีตรอง นายกฯและผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถาน การณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กรณีสั่งสลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี2553ว่า นายสมชาย แสวงการ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าทางคดีของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทางการเมือง ในกมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา จะเข้าให้ข้อมูลในฐานะพยานในวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 14.00 น. 

 

'สมชาย แสวงการ'เสนอมาเอง

      นายวิชากล่าวต่อว่า โดยนายสมชายเสนอตัวและระบุว่ามีข้อมูลและรายละเอียดจำนวนมากในสมัยเป็นประธานอนุกมธ. ซึ่งป.ป.ช. ก็ยินดี เพราะนายสมชาย เป็นผู้สอบสวนไว้ รู้เบื้องลึกอย่างดี อีกทั้งยังทำงานทางด้านสื่อด้วย คงมีข้อมูลดีๆ จำนวนมาก เชื่อว่านายสมชาย จะให้ข้อมูลและหลักฐานทั้งหมด หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการไต่สวนคดี ยิ่งได้ข้อมูลมากเท่าไรยิ่งดี จะได้ช่วยป.ป.ช. วิเคราะห์ไปในตัวด้วย 

นายวิชากล่าวว่า น่าจะจบได้เร็ว ถ้าข้อมูลเป็นไปอย่างที่นายสมชายว่าเอาไว้ เพราะบอกว่ามีข้อมูลมาก ในเรื่องใครเข้าใครออกทางไหนในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ อีกทั้งถึงขณะนี้ ป.ป.ช.มีพยานหลักฐานอยู่มากพอสมควรแล้ว แต่เมื่อใครก็ตามเห็นว่ามีข้อมูลมากกว่าที่ป.ป.ช.มีอยู่ แล้วจะช่วยเสริมให้ดีขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี ป.ป.ช.ยินดีอยู่แล้ว ส่วนจะไต่สวนเองหรือไม่ ขอดูก่อนว่าจะเสร็จจากการไปบรรยายที่สภาทนายความและมาทันหรือไม่ แต่มีทีมอนุกรรมการไต่สวนเป็นหลักอยู่แล้ว

 

ปปช.สรุปรุกป่าสิรินาถสิ้นมิ.ย.นี้

       เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะอนุกรรมการไต่สวนกรณีการบุกรุกที่ดินอุทยานแห่งชาติสิรินาถ จ.ภูเก็ต ให้สัมภาษณ์ว่า คณะอนุกรรมการเตรียมประชุมเพื่อสรุปข้อมูลในช่วงสิ้นเดือนนี้ พิจารณาถึงข้อเท็จจริงทั้งหมด เนื่องจากมีรายละเอียดมาก โดยเฉพาะระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ตนรอให้คณะทำงานรายงานการอ่านผลภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งดำเนินการมาหลายเดือนแล้ว ถือเป็นเรื่องด่วน เนื่องจากภาพถ่ายทางอากาศมีความสำคัญต่อการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยเฉพาะรายละเอียดการทำประโยชน์ในที่ดิน สภาพที่ดินที่เป็นอยู่ในช่วงเวลาต่างๆ และต้องใช้ภาพถ่ายทางอากาศหลายปีต่อเนื่อง นำมาประมวลพร้อมกันทั้งหมด ซึ่งภาพถ่ายทางอากาศถือเป็นหลักฐานที่สำคัญอันดับต้นๆ และเป็นสิ่งที่ศาลรับฟัง 

       เมื่อถามถึงนายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมให้ข้อมูลแก่ ป.ป.ช.เพิ่มเติม นายณรงค์ กล่าวว่า หากยื่นมา คณะอนุกรรมการต้องนำมาพิจารณาว่าเอกสารนั้นเกี่ยวข้องกับกรณีที่ดินแปลงที่ไต่สวนอยู่หรือไม่ หรือเกี่ยวข้องกับแปลงอื่นๆ ต้องลงลึกในรายละเอียดว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง เพราะปัญหาการบุกรุกสวนป่าในอุทยานแห่งชาติสิรินาถมีหลายแปลง ต้องดูเป็นกรณี และคงไม่สามารถใช้เอกสารที่นายสมัคร นำมาให้ในเรื่องนี้เพียงอย่างเดียวได้ ต้องดูด้วยว่าเกี่ยวข้องกับที่ดินแปลงใดบ้าง ดูก่อนว่าจะเป็นพยานหลักฐานในคดีได้หรือไม่ เพราะพยานหลักฐานนั้นต้องได้จากหน่วยงานราชการเป็นหลัก หากนายสมัครให้ข้อมูล จะนำมาเป็นแนวทางหนึ่งในการทำงาน

 

ยัน 11 มิย.ส่งมติถอดยศ'แม้ว'

      เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงการถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า วันนี้สอบถามไปยังพล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ10) เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการถอดยศ ถึงผลการดำเนินการสรุปรายงานมติคณะกรรมการตามที่มีหนังสือทวงถามไปนั้น จะส่งให้ได้เมื่อใด ซึ่งพล.ต.อ.ชัยยะขอเวลาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เพื่อตรวจสอบรายละเอียดความถูกต้องของข้อมูล จากเดิมคาดว่าจะเสนอให้ในวันนี้ โดยจะเสนอกลับมาได้ไม่เกินวันที่ 11 มิ.ย.นี้แน่นอน

       พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่าเรื่องการถอดยศอดีตนายกฯไม่มีการชี้นำ ไม่มีความขัดแย้ง หรือมีโผมีธงจากฝ่ายใดแน่นอน เพียงแต่อาจมีความแตกต่างกันในวิธีการทำงานเล็กๆ น้อยๆ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนและกฎหมาย

 

ทหารสกัด'ปากมูน'บุกพบ'ตู่'

      เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นายกฤษกร ศิลารักษ์ ผู้ประสานงานกลุ่มสมัชชาคนจน กรณีเขื่อนปากมูล กล่าวถึงกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในพื้นที่จ.อุบลราชธานี ติดตามตัวเพื่อพาเข้าพบนายทหารระดับสูงที่ มทบ.22 จ.อุบลราชธานี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เนื่องจากวันที่ 4 มิ.ย. ชาวบ้านปากมูนเข้าเจรจากับนายประทีป กีรติเรขา ผวจ.อุบลราชธานี และตัวแทนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และเจ้าหน้าที่กรมชลประทาน เพื่อขอเปิดประตูเขื่อนปากมูลโดยเร่งด่วน เพื่อเปิดเส้นทางน้ำให้ปลาเดินทางจากแม่น้ำโขงเข้าสู่ลุ่มน้ำสาขาในช่วงหน้าฝนปีนี้ซึ่งมาเร็วกว่าปกติ แต่การเจรจาไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากกฟผ.และกรมชลประทานไม่มีข้อมูลเพียงพอ ทั้งยังอ้างข้อมูลการเลี้ยงปลากระชังซึ่งเป็นข้อมูลเท็จ ชาวบ้านจึงหารือกันว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทวงถามคำตอบจากรัฐบาลด้วยตัวเอง

       นายกฤษกร กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไม่สบายใจ จึงติดตามตนเพื่อพูดคุย นำกำลังตำรวจและทหาร 3 คันรถบุกไปที่ทำงานรวมทั้งที่บ้านพักของญาติและคนใกล้ชิดเพื่อให้ได้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อตน จนสถานการณ์เริ่มตึงเครียด ต่อมาตนได้รับเอกสารยืนยันจากสำนักนายกฯว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการเพื่อไขปัญหาเขื่อนปากมูลแล้วเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนจึงหารือกับชาวบ้านว่าจะยกเลิกการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ และจะเข้าพบทหาร มทบ.22 ในวันที่ 9 มิ.ย.