ตร.ล็อกที่ดอนเมือง คุมวรเจตน์ ส่งตัวกองปราบวันนี้ เรียก 33 คนรายงานตัว บิ๊กจินปัดตอบข่าวบิ๊กตู่ ต่ออายุ-นั่งเก้าอี้นายก ทูตมะกันพอใจโรดแมป ลุยจัดแถววินจยย.-รถตู้

ปรองดอง - พ.ต.ศุภชัย อินทร์โฉมงาม วิทยากรศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ.21 กองทัพภาคที่ 2 และนายชูเกียรติ วิเศษเสนา ผู้อำนวยการ สพม.31 นครราชสีมา ร่วมจัดกิจกรรมปรองดองเพื่อการปฏิรูป มีนักเรียนกว่า 4.5 พันคน เข้าร่วม ที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน

มติชนออนไลน์ :

      คสช.เรียกรายงานตัวเพิ่มอีก 33 'บิ๊กจิน'ปลื้ม ปชช.พอใจผลงาน กั๊กตอบตั้งนายกฯ-รมต.-ต่ออายุ ผบ.เหล่าทัพ บัวแก้ว เผยทูตมะกันพอใจโรดแมป 3 ขั้นหวังเลือกตั้งโดยเร็ว

@ บิ๊กตู่หัวโต๊ะประชุมใหญ่คสช.

      พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เป็นประธานการประชุม คสช.ครั้งที่ 2/2557เพื่อติดตามสถานการณ์ภาพรวมและความคืบหน้าในการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกับ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายความมั่นคงและต่างประเทศ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ฝ่ายสังคมและจิตวิทยา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ฝ่ายเศรษฐกิจ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว หัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 17 มิถุนายน ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.)

       โดยที่ประชุมจะมีการประเมินสถานการณ์หลังมีการประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน หรือเคอร์ฟิว ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน และปัญหาแรงงานต่างด้าวที่แตกตื่นอพยพกลับประเทศจากมาตรการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวของ คสช. รวมถึงมาตรการช่วยชาวนา การบริหารจัดการน้ำ และความคืบหน้าการตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยใน บก.ทบ.เป็นไปอย่างเข้มงวด ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนปักหลักถ่ายภาพขบวนรถของ คสช.แต่อย่างใด โดยขอให้ไปอยู่ที่บริเวณเกาะกลางถนน หน้าสนามมวยราชดำเนิน

@ ขยายเวลาใช้ฉุกเฉิน3จว.ใต้ 

      รายงานข่าวจากที่ประชุม คสช.แจ้งว่า ที่ประชุมมีการพิจารณาขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะสิ้นสุดการบังคับใช้ในวันที่ 19 มิถุนายน ต่อไปอีก 3 เดือน พร้อมขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้เป็นค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือวัด ที่พักสงฆ์ ศูนย์ปฏิบัติธรรมของคณะสงฆ์ โรงเรียนพระปริยัติธรรม และพระภิกษุสามเณร ที่ประสบแผ่นดินไหว ที่ จ.เชียงราย

      รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมได้อนุมัติงบกลางช่วยเหลือเกษตรกร ผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรปี 2555-2557 ขออนุมัติงบประมาณการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบปี 2557 และการขออนุมัติกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงานประจำปี 2557 ของการรถไฟแห่งประเทศไทย

@ ตั้งสนง.ปรองดองและปฏิรูป 

      พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน). กล่าวว่า ตามคำสั่ง คสช.ที่ให้จัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) เพื่อให้เกิดความรักความสามัคคี และความปรองดองสมานฉันท์ระหว่างประชาชนทุกหมู่เหล่านั้น ปรากฏว่าทาง คสช.ได้เพิ่มเติมกลุ่มงานสร้างความปรองดองและการปฏิรูป ขึ้นมาและกำหนดให้จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการปรองดองและการปฏิรูป มีสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ

     "โดยบูรณาการผู้แทนของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาเป็นคณะกรรมการ มีหน้าที่รวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาจัดทำแผนการเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์และการปฏิรูปประเทศ" พ.อ.บรรพตกล่าว และว่า ได้จัดตั้งคณะทำงานเตรียมการปฏิรูปเพื่อคืนความสุขให้คนในชาติ เป็นหน่วยขึ้นตรงกับสำนักงานคณะกรรมการปรองดองและการปฏิรูป มีสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานรับผิดชอบเช่นกัน มีผู้แทนจากส่วนราชการ ทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร ผู้ทรงคุณวุฒิ และนักวิชาการเป็นคณะทำงาน ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลการปฏิรูปจากแนวความคิดของผู้ทรงคุณวุฒิ พรรคการเมือง นักวิชาการ สถาบันการศึกษาต่างๆ และประชาชน ตลอดจนการจัดการระดมความคิด การรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะในการปฏิรูปจากทุกภาคส่วน เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลนำเสนอให้สภาปฏิรูปใช้ประกอบในการพิจารณาต่อไป 

     พ.อ.บรรพต กล่าวอีกว่า ในส่วนของ ศปป. เดิมกำหนดให้ขึ้นตรงกับ คสช. ปัจจุบันได้กำหนดให้ขึ้นตรงกับสำนักงานคณะกรรมการปรองดองและการปฏิรูป และมีการปรับหน้าที่ความรับผิดชอบ โดยกำหนดแนวทางในการเสริมสร้างบรรยากาศความปรองดองสมานฉันท์ ให้หน่วยงาน/ส่วนราชการ และองค์กรที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการ รวบรวมข้อมูล และข้อเสนอแนะจากประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง

@ เผยแผนสร้างความปรองดอง 

    เวลา 15.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช. แถลงหลังประชุม คสช.คณะใหญ่ ว่าแผนการดำเนินการเกี่ยวกับการสร้างความปรองดอง ขณะนี้ได้ดำเนินการไปเกือบทั่วประเทศแล้ว มีศูนย์ใหญ่ 4 ศูนย์ มี กอ.รมน.และผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ ซึ่งทางกองทัพภาคได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น ข้อมูลที่ได้จะมารวมกันเพื่อรวบรวมข้อมูลส่งมายังคณะทำงานใหญ่ การเชิญมาพูดคุยจะไม่มีการตัดสินเป็นเพียงการสรุปผลและการรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเท่านั้น เพื่อนำไปสู่สภาปฏิรูปที่จะเกิดขึ้น 

@ ปัดใช้นโยบายประชานิยม

      พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ในที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์สอบถามในที่ประชุมในเรื่องของโครงการต่างๆ โดยถามว่าแต่ละโครงการสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนมากน้อยแค่ไหน มีความยั่งยืนเพียงใด จะต้องมีทั้งมาตรการระยะสั้นและระยะยาว ทั้งนี้ หัวหน้า คสช.ไม่ได้ติดใจในโครงการใดเป็นพิเศษ 

     "ในส่วนการตรวจสอบการทุจริต คสช.มี 2 ระบบ คือการตรวจสอบโดยระบบราชการ และการตรวจสอบโดย คตร. หากจะมีการอนุมัติโครงการใด ทั้ง 2 ภาคส่วนจะต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกัน หากพบข้อสงสัยการทุจริตก็จะมีระบบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เข้ามาดำเนินการ" พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าว และว่า ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่านโยบายส่วนใหญ่ของ คสช.เป็นนโยบายประชานิยมนั้น ไม่เป็นความจริง ลักษณะไม่ใช่ประชานิยมอยู่แล้ว เรื่องความจำเป็นเร่งด่วนทั้งสิ้น เช่น การช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งในระยะต่อไปก็จะช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ตอนนี้เรื่องข้าวก็ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จะประชุมคณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาให้มีความยั่งยืน เป็นการผสมผสานการทำงานของภาครัฐสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่ใช่เป็นการมอบให้อย่างเดียว คสช.ไม่ได้ต้องการให้ประชาชนไม่ช่วยเหลือตัวเอง

@ "บิ๊กจิน"ปลื้มปชช.พอใจผลงาน

     ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.อ.ประจินกล่าวถึงการประชุม คสช.ว่ามีการประเมินการทำงานของ คสช.ในแต่ละสัปดาห์อย่างไร ว่าเทียบเท่ากับการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีองค์ประกอบของ ครม.ครบถ้วน และมีการทราบผลงานในแต่ละด้าน ฝ่ายความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ และกฎหมาย รวมถึงงานที่ขึ้นตรงกับหัวหน้า คสช. เป็นการนำข้อมูลที่เป็นผลการทำงานแจ้งให้ทุกฝ่ายได้รับทราบเพื่อได้ดำเนินการต่อไป 

     เมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของ คสช.ในช่วงที่ผ่านมา พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ความพึงพอใจในหลายประเด็นอยู่ในเกณฑ์ที่สูงตั้งแต่ 90 เปอร์เซ็นต์ลงมาถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยุติปัญหาความขัดแย้ง การรักษาความสงบเรียบร้อย สามารถดำรงชีวิตประจำได้เป็นปกติ ซึ่งล้วนอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงาน

@ เผยยังไม่เคาะรายชื่อ"ครม." 

      พล.อ.อ.ประจินกล่าวถึงกรณีการวางตัวบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ทุกอย่างจะดำเนินการไปตามโรดแมปของหัวหน้า คสช.ที่ได้วางไว้ ทั้งนี้ ระยะที่หนึ่ง คือเรื่องการรักษาความสงบ คืนความสุขให้กับคน และระยะที่สอง คือการกำหนดธรรมนูญการปกครอง และการแต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปในรูปแบบของสภานิติบัญญัติ (สนช.) และจะตั้ง ครม.ตามมา และจะมีการปฏิรูปในด้านต่างๆ ให้เกิดความเรียบร้อยในแง่ของกฎหมาย เพื่อเข้าสู่เฟสที่สาม คือการเลือกตั้ง เพื่อให้เข้าสู่ระบบประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบ คนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ใน ครม.จะต้องมีการทำงานเข้าใจสอดคล้องกับงานที่เชื่อมต่อกับงานด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และกฎหมาย 

@ ตั้งนายกฯต้องฟังทุกภาคส่วน

      เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์จะต้องนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ทาง คสช.คงจะต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน รวมถึงสื่อมวลชนด้วย เมื่อถามว่า มองคนภายนอกไว้บ้างหรือไม่ พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า ยังไม่ได้มีการประชุมกัน แต่ถ้าถามความคิดเห็นส่วนตัวคนที่จะมาทำงานใน ครม.ต่อจากนี้ คงจะต้องทราบเกี่ยวกับงานที่ได้วางเอาไว้ คือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และกฎหมายเพื่อให้การปฏิรูปทั่วถึงทุกภาคส่วนเพื่อนำไปสู่ขั้นตอนที่สามคือการเลือกตั้ง 

     เมื่อถามว่า ช่วงเดือนตุลาคมนี้ ผบ.เหล่าทัพจะเกษียณอายุราชการทั้งหมด จำเป็นหรือไม่จะต้องมีตำแหน่งในคณะรัฐบาลเพื่อให้สานงานต่อ พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า คงจะต้องประชุมปรึกษากันอีกที ยังไม่ชัดเจน ส่วนความเป็นไปได้ที่ ผบ.เหล่าทัพจะต่ออายุราชการมีแนวทางเป็นไปได้หรือไม่นั้น ยังไม่แน่ว่าจะนำมาพิจารณาหรือเปล่า 

@ ตร.-ทหารถกจัดระเบียบจยย.

      วันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.จร. พ.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แสงแท้ รอง ผบ.พล.1 รอ. พร้อมรอง ผบก.น.1-9 ดูแลงานจราจร พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์รับจ้างในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรมในเดือนมิถุนายน

      พล.ต.ต.จิตติกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์มอบหมายให้ พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.พล.1 รอ. เป็นหัวหน้าการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์รับจ้างในกรุงเทพฯและปริมณฑล จึงจัดให้มีการประชุมร่วมระหว่างทหารและตำรวจ เพื่อจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์ จะแบ่งเป็น 3 ระยะ 

      "ระยะแรก เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชน ต้องทำให้เสร็จสิ้นใน 7 วัน ดังนี้ 1.การจัดทำป้ายจุดจอดรถจักรยานยนต์รับจ้างให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน กำหนดอัตราค่าโดยสารที่เป็นธรรมชัดเจน 2.จัดระเบียบการจอดรถจักรยานยนต์รับจ้างให้เป็นระเบียบไม่กีดขวางการจราจร 3.จัดอบรมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย 4.ขจัดผู้มีอิทธิพลที่แสวงหาผลประโยชน์จากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง 5.กวดขับจับกุมวินรถจักรยานยนต์รับจ้างที่ผิดกฎหมาย (วินเถื่อน) เพื่อจัดระเบียบใหม่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย 6.กำหนดให้มีสายด่วนเพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์ของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร" พล.ต.ต.จิตติกล่าว

@ เล็งจัดการมาเฟียคุมวินจยย.

      พล.ต.ต.จิตติ กล่าวว่า ระยะที่ 2 แก้ไขปัญหาภายใต้กรอบกฎหมาย โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ที่มีปัญหาในการกำหนดวินเพิ่มเติม หรือการเพิ่มจำนวนผู้ขับขี่รถในวินเพิ่มเติมตามความเหมาะสมของพื้นที่ และจดทะเบียนให้ถูกต้องต่อไป ระยะที่ 3 แก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน โดยจดทะเบียนให้ถูกต้องเรียบร้อยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่จอดรถ ผู้ขับขี่ และการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์สาธารณะ รวมถึงแก้ไขกฎระเบียบที่มีปัญหาในทางปฏิบัติ ทั้งนี้ การดำเนินการจะเป็นการปฏิบัติร่วมกันระหว่างทหาร ตำรวจ กรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานคร เพื่อดูว่าวินใดถูกต้อง วินใดไม่ถูกต้อง 

      ผู้สื่อข่าวถามจะปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่แสวงหาผลประโยชน์กับวินรถจักรยานยนต์จะทำอย่างไร พล.ต.ต.จิตติกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.ต.อภิรัชต์ ให้นโยบายชัดเจนว่าจะดำเนินการเด็ดขาดตามกฎหมาย จะไม่มีผู้มีสี ไม่ว่าทหารหรือตำรวจมาหาผลประโยชน์จากวินรถจักรยานยนต์ ส่วนมาตรการต่างๆ ว่าจะดำเนินการอย่างไรกำลังรวบรวมรายละเอียด รวบรวมชื่อ ขั้นต่อไปอาจเรียกตัวมาพบไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพล ผู้มีสีต่างๆ ไม่ว่าสีเขียว สีกากี มีข้อมูลในส่วนนี้บ้างแล้ว

@ 19 มิ.ย.ห้ามวินเถื่อนวิ่ง

      เมื่อถามว่า วินรถจักรยานยนต์ทั่วกรุงเทพฯมีประมาณเท่าใด พล.ต.ต.จิตติกล่าวว่า มีประมาณ 6,300 วิน ในส่วนที่จดทะเบียนถูกต้อง ส่วนวินที่ไม่ถูกต้อง ไม่ได้รับอนุญาตมีประมาณ 500 วิน ขอประชาสัมพันธ์เลยว่าจะต้องไม่วิ่งภายในวันที่ 19 มิถุนายน จะวิ่งได้เฉพาะวินที่ถูกต้อง โดยมีตำรวจที่จะสืบสวนทางลับอยู่แล้ว จากนี้การมาวิ่งวินแล้วเปลี่ยนเสื้อวินกันถือว่าผิดกฎหมาย ต่อไปทำไม่ได้แล้ว 

     "ต่อไปนี้ทุกวินต้องมีป้ายกำหนดอัตราค่าโดยสารให้ชัดเจนว่าจากที่ใดถึงที่ใด ราคาเท่าไร โดยกรมการขนส่งทางบก มีการกำหนดอยู่แล้วว่าระยะทางว่ากี่กิโลเมตรราคาเท่าใดบ้าง หากพูดแล้วไม่เชื่อฟังจะมีมาตรการขั้นเด็ดขาดต่อไป 

     ขณะนี้ทหารไปร่วมด้วย วันที่ 19 มิถุนายน พล.ต.อภิรัชต์จะลงพื้นที่ตรวจวินรถจักรยานยนต์รับจ้างด้วยตัวเอง ทุกอย่างต้องเรียบร้อยใน 7 วัน" พล.ต.ต.จิตติกล่าว

      รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการจัดระเบียบรถจักรยานยนต์ อาจพิจารณาผ่อนผันในบางพื้นที่ ในชั่วโมงเร่งด่วนที่จะให้จอดรถบนถนนหรือทางเท้าแค่ 2-3 คัน จากนั้นค่อยทยอยออกมาเพิ่มเติม 3 จุด ที่จะไปตรวจสอบในวันที่ 19 มิถุนายน เวลา 15.00 น. คือ วินวัดเทพลีลา รามคำแหง 39, วินลาดพร้าว 101 และวินซอยมหาดไทย

@ คุมเข้มรถตู้รอบ"อนุสาวรีย์ชัยฯ" 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ที่ สน.พญาไท พ.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) เป็นประธานในการประชุม ร่วมกับ พ.ต.ท.จุมพล คณา

นุรักษ์ รองผู้กำกับฝ่ายจราจร สน.พญาไท เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจและหาแนวทางร่วมกัน ในการจัดระเบียบวินรถตู้ และการปฏิบัติตามกฎหมาย ตามคำสั่งของ คสช. กับผู้ประกอบการวินรถตู้รับจ้าง พื้นที่บริเวณรอบวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีผู้แทนผู้ประกอบการรถตู้กว่า 20 คน เข้าร่วมประชุม 

พ.อ.เฉลิมพลกล่าวว่า การจัดระเบียบจราจรแบ่งเป็น 3 ระยะ คือระยะที่ 1 เริ่มทดลองปฏิบัติในวันที่ 23 มิถุนายน ระยะเวลา 5 วันก่อนปฏิบัติจริงซึ่งเน้นหนักจัดหาที่จอดรถใต้แอร์พอร์ตลิงก์ และพื้นที่สาธารณะ การปรับอัตราค่าโดยสารให้เป็นธรรม ไม่ให้จอดรถแช่เพื่อรอผู้โดยสารเด็ดขาด ระยะที่ 2 ซึ่งไม่มีกรอบกำหนดระยะเวลาให้หาสถานที่แห่งใหม่ให้เป็นจุดจอดรถที่ถาวร และจัดทำทะเบียนรถตู้ให้ถูกต้องตามกฎหมายหากรถที่ไม่มีทะเบียนสาธารณะให้มาจัดทำทะเบียนให้ถูกต้อง และระยะที่ 3 ให้แก้ไขกฎหมายให้สะดวกต่อการเดินรถ ปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ 

@ "ปนัดดา"จัดปรองดองชลบุรี

เมื่อเวลา 09.30 น.วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมชลบุรี ศาลากลางจังหวัดชลบุรี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมนายคมสัน เอกชัย 

ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ร่วมเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ แนวทางการปฏิบัติในการจัดตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชนตำบลนำร่อง จ.ชลบุรี มีตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น และกำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ จ.ชลบุรี เข้าร่วมสัมมนากว่า 200 คน 

ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า การปรองดองต้องยึดหลักธรรมาภิบาลโดยเคร่งครัด ทุกวันนี้สังคมแบ่งแยกกันมามากแล้ว แบ่งเป็นฝ่าย แบ่งเป็นสี หมดเวลาทะเลาะกันแล้ว ประเทศไทยจะเป็นเสาหลักของอาเชียน หากมีความขัดแย้งอยู่อย่างนี้จะตามประเทศเพื่อนบ้านไม่ทัน อยากให้ทุกคนนำพาประเทศไปสู่ความสงบสุข ลืมอดีตที่ไม่เป็นสุข ข้าราชการทุกคนควรทดแทนบุญคุณประชาชน ไม่ทุจริต คอร์รัปชั่น ไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อนำพาประเทศไปสู่การปรองดอง 

@ โคราชจัดปรองดองในร.ร.

วันเดียวกัน ที่หอประชุมใหญ่ โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จ.นครราชสีมา พ.ต.ศุภชัย อินทร์โฉมงาม วิทยากรศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) กองทัพภาคที่ 2 ตัวแทนคณะปฏิบัติงานศูนย์ปรองดอง พร้อมนายชูเกียรติ วิเศษเสนา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 นครราชสีมา (สพม.31) และนายอุทัย หวังอ้อมกลาง ผู้อำนวยการโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย ร่วมจัดกิจกรรมปรองดอง เพื่อการปฏิรูป "รู้รักสามัคคี เลิกแบ่งสีแบ่งฝ่าย เราทุกคนคือคนไทย ร่วมใจปรองดอง" มีบุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 (ม.1-ม.6) กว่า 4,500 คน ร่วมรับฟังการชี้แจงเจตนารมณ์ แนวคิด คสช. ที่เน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความปรองดองสมานฉันท์ 

@ มทภ.3นำชาวอุทัยปฏิญาณตน

ที่หน้าพระบรมรูปบูรพมหากษัตริย์รัชกาลต่างๆ แห่งราชวงศ์จักรี วัดจันทาราม หรือวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 3 ในฐานะผู้อำนวยการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานพิธีแสดงเจตนารมณ์สู่ความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง เป็นคนดีศรีอุทัยธานี มีตัวแทนจาก

ภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และตัวแทนทางการเมือง กว่า 2,000 คน ร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณตน เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบูรพมหากษัตริย์ต้นราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ และสำนึกในบุญคุณของบรรพบุรุษของชาติไทยที่เสียสละทุ่มเท กอบกู้ชาติบ้านเมืองมาจนเป็นปึกแผ่น

@ ภาค2เชิญแกนแดงถกปฏิรูป

ที่ห้องประชุม กองบัญชาการกองทัพน้อยที่ 2 ค่ายสุรนารี นครราชสีมา พล.ต.ไชยพร รัตนแพทย์ รองแม่ทัพน้อยที่ 2 ฐานะหัวหน้าคณะทำงานศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูป กอ.รมน.2 เชิญแกนนำคนเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีนายอนุวัฒน์ ทินราช อดีตประธาน นปช.โคราช, นายสมโภชน์ ประสาทไทย ผู้ประสานงานกลุ่มคนเสื้อแดง นายเขื่อนเพชร โพนรัมย์ แกนนำกลุ่มอีสานล้านนา และ บรรดาแกนนำพื้นที่ อ.แก้งสนามนาง อ.ขามสะแกแสง, อ.ปักธงชัย, อ.บัวใหญ่, อ.ด่านขุนทด และ อ.สีดา รวม 40 คน ร่วมกิจกรรมสัมมนาเชิงลึก พร้อมรับฟังการชี้แจงการคืนความสุขตามกรอบแนวคิดการพัฒนาประเทศ 10 ข้อ และเปิดโอกาสให้เสนอแนวทางการปฏิรูปประเทศอย่างเป็นเอกภาพ 

พล.ต.ไชยพรกล่าวว่า แนวทางปฏิรูปประเทศกำหนดให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางสานต่อแนวทาง พร้อมเสนอข้อคิดเห็นตามสภาพปัญหาปัจจุบันในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม จะรวบรวมข้อมูล ซึ่งถือเป็นฉันทามติโดยชอบ เสนอต่อ คสช. เพื่อพิจารณากำหนดนโยบายที่เหมาะสมต่อไป

นายอนุวัฒน์กล่าวว่า ข้อเสนอส่วนใหญ่ต้องการให้เร่งรัดแก้ปัญหาความยากจน เศรษฐกิจ การเกษตร เสริมศักยภาพนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค และขจัดสิ้นปัญหาสองมาตรฐาน

@ เผยทูตมะกันยินดีโรดแมป3ขั้น

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกระแสข่าวระบุว่านายจักรภพ เพ็ญแข แนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง และแกนนำกลุ่ม

ต้านรัฐประหาร อาศัยอยู่ในกัมพูชาว่า นางอีท โซเฟีย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ยืนยันว่านายจักรภพไม่ได้อยู่ในกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่ากัมพูชายึดหลักการที่ว่าจะไม่ให้ใครใช้ดินแดนของประเทศกระทำสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นตามหลักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เวลา 14.00 น. นางคริสตี เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เข้าพบหารือกับนายสีหศักดิ์ ทั้งนี้ หลังการหารือ

นายสีหศักดิ์เปิดเผยว่าหารือถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหรัฐ ตนถือโอกาสเล่าให้ทราบถึงพัฒนาการทางการเมืองของไทย และเอกอัครราชทูตสหรัฐยินดีกับแผนโรดแมป 3 ขั้น และหวังให้ไทยดำเนินการตามแผน เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็ว

@ หารือหน่วยมั่นคง-ตร.คดี"โรส"

นายสีหศักดิ์กล่าวถึงกรณีที่ศาลอนุมัติการออกหมายจับ น.ส.ฉัตรวดี อมรภัทร หรือโรส ผู้ต้องหาที่เข้าข่ายกระทำผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ขณะที่ น.ส.ฉัตรวดีอาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ และถือสัญชาติอังกฤษด้วย ว่า ทางกระทรวงต้องมีการประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่ามีช่องทางอย่างไร เช่นเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของสองประเทศ

@ อ.ปค.ไม่พบทุจริตข้าวกล่องอส. 

ที่กระทรวงมหาดไทย นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล อธิบดีกรมการปกครอง ชี้แจงกรณีกระแสข่าวทุจริตข้าวกล่องอาสารักษาดินแดน (อส.) ว่า เมื่อมีข่าวปรากฏก็สั่งการให้ตรวจสอบ พบว่าไม่มีการทุจริตค่าอาหารกล่องของ อส.ตามที่เป็นข่าว การตรวจสอบตามที่มีข่าวว่าเกิดเหตุการณ์ในจังหวัดใหญ่ทางภาคเหนือมีเพียง จ.เชียงใหม่ และเชียงราย จังหวัดเดียวที่ใช้กำลัง อส. คือ จ.เชียงใหม่ ที่เรียกใช้กำลัง อส. 2 ช่วงเวลา คือระหว่างเดือน พฤศจิกายน 2556-มกราคม 2557 ได้แก่ภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยศาลากลางจังหวัดที่คาดว่าผู้ชุมนุมจะปิดล้อม 

"ใช้กำลัง อส. 5 ครั้ง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน รวม 600 คน ใช้งบประมาณในการประกอบเลี้ยงจัดสรรจากงบพัฒนาจังหวัดและแผนงานรักษาความปลอดภัยบริเวณศูนย์ราชการจังหวัด มีการจ้างเหมาประกอบเลี้ยงแบบบุฟเฟต์ 3 มื้อ มื้อละ 80 บาทต่อคน การเบิกจ่ายงบประมาณได้ดำเนินการผ่านระบบโดยโอนเงินให้ผู้รับจ้างโดยตรงแล้ว" นายศิริพงษ์กล่าว 

@ เชื่อเหตุเกิดปมเข้าใจผิด

นายศิริพงษ์กล่าวว่า ช่วงที่ 2 วันที่ 30 พฤษภาคม-11 มิถุนายน 2557 ภารกิจรักษาความสงบสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 จัดให้ อส.ร่วมสนับสนุนภารกิจที่ศาลากลาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งทหารแจ้งว่าจะสนับสนุนงบประมาณให้ มีคำสั่งใช้กำลัง อส. 4 ครั้ง ครั้งละ 36 นาย งบประมาณประกอบเลี้ยงยังไม่ได้รับการสนับสนุนจึงได้สั่งข้าวกล่อง กล่องละ 30 บาท ขณะที่ จ.เชียงใหม่ เป็นหนี้ค่าอาหารประกอบเลี้ยงประมาณ 50,000 บาท ต้องสำรองจ่ายผู้ประกอบการไปก่อน 

"กรณีการร้องเรียนว่า อส.เบิกค่าอาหารมื้อละ

50,000 บาท แต่โดยหักหัวคิวไป 30 บาทต่อนาย น่าจะเป็นการเข้าใจผิดของสมาชิก อส.บางคน ที่เห็นว่าการเลี้ยงช่วงแรกเป็นบุฟเฟต์มีอาหาร 3 อย่าง ครั้งนั้นมีงบประมาณชัดเจน แตกต่างจากช่วงที่สองที่เป็นข้าวกล่องไม่มีงบประมาณสนับสนุน การร้องเรียนจึงน่าจะเกิดจากการไม่ประชาสัมพันธ์ให้ อส.รับทราบถึงแหล่งที่มาของงบประมาณมากกว่า" นายศิริพงษ์กล่าว 

ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ไม่อยากพูด ขอให้เป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทยดำเนินการดีกว่า เมื่อเรื่องถึงขั้นที่ต้องมีการพิจารณาว่าอะไรถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนของทางราชการที่มีการกำหนดไว้ชัดเจนแล้ว ฝากให้นายศิริพงษ์ช่วยพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร

@ ตร.คุมตัววรเจตน์ที่ดอนเมือง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหาฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ได้แล้วที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 16 มิถุนายน ก่อนประสานให้ทหารควบคุมตัวไปสอบสวนที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และคาดว่าทหารจะส่งตัวนายวรเจตน์ไปที่กองปราบปราม เพื่อขอฝากขังต่อศาลทหาร ในวันที่ 18 มิถุนายน

นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูล จึงไม่อาจตอบได้ว่าจะมีแนวปฏิบัติอย่างไร วันที่ 18 มิถุนายน ตนจะสอบถามฝ่ายที่ดูแลสถานการณ์ความเรียบร้อยและฝ่ายเสนาธิการอีกครั้ง

แหล่งข่าวใน มธ.กล่าวว่า ยังไม่รู้แนวว่าจะปฏิบัติอย่างไรกรณีนายวรเจตน์ถูกควบคุมตัวเพราะน่าจะเข้าข่ายถูกควบคุมตัวตามหมายจับ เนื่องจากที่ผ่านมาฝ่าฝืนโดยขัดคำสั่ง คสช.ไม่ไปรายงานตัว ฉะนั้น จึงไม่ใช่การกักตัวเหมือนที่ผ่านมา ที่กักตัวเพื่อไปทำความเข้าใจแล้วปล่อยตัว กรณีนายวรเจตน์เมื่อควบคุมตัวได้แล้วจึงยังไม่รู้ว่าฝ่ายที่ควบคุมตัวจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมาผู้บริหาร มธ.จะติดต่อกับฝ่ายที่ควบคุมตัวกรณีที่อาจารย์ไปรายงานตัวด้วยตัวเองหรือถูกเชิญให้ไปรายงานตัวภายหลังกลับมาจากต่างประเทศ แต่กรณีการควบคุมตัวนายวรเจตน์ เนื่องจากถูกหมายจับไม่เคยมีมาก่อน จึงยังไม่ทราบแนวปฏิบัติ