วันที่ 07 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8592 ข่าวสดรายวัน


หัวหิน-ชะอำเฮ พ้นเคอร์ฟิว 'กระบี่-พังงา'ก็เลิกด้วย 3 ห้างคุมราคาจานด่วน บี้เขียงหมู-ขายโลละ 159


ถกธุรกิจ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ร่วมหารือกับนักธุรกิจชาวจีน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการค้าการลงทุน พร้อมยืนยันจะมีการจัดตั้งรัฐบาลภายใน 3 เดือน ที่บก.ทบ. เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.

       กรมการค้าภายในคุมเขียงหมู เนื้อแดง ห้ามเกินโลละ 159 บาท ด้าน 3 ห้างดังโอเค ร่วมคุมราคาจานด่วน อยู่ที่ 35-40 บาท ทั้งข้าวแกง-ผัดกะเพรา-ก๋วยเตี๋ยว ส่วนสินค้าจำเป็นก็พร้อมตรึงราคา 6 เดือน "บิ๊กตู่" พบนักธุรกิจจีน ยันสามารถลงทุน-ท่องเที่ยวได้ตามปกติ คตร.เผยแผนเร่งด่วนพิจารณางบฯ จัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน และแท็บเล็ต ส่วนปฏิรูปภาษีทั้งระบบ คลังชงเก็บภาษีเป็นธรรม ใครใช้ทรัพยากรมากต้องจ่ายมาก

บิ๊กตู่พบนักธุรกิจจีน

      เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบเเห่งชาติ (คสช.) เปิดโอกาสให้นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานหอการค้าไทย นำกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนจากภาคการเงินการธนาคารและอุตสาหกรรม เข้าพบเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นการลงทุนให้เเก่กลุ่มธุรกิจของจีนในต่างประเทศและประเทศไทย

     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับนักธุรกิจจีนว่า ช่วยประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์ในไทยสามารถลงทุนและมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ แต่ต้องทบทวนการลงทุนที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากให้ชะลอไปก่อน แต่โครงการที่ทำอยู่แล้วให้ดำเนินการได้ต่อเนื่อง แต่มีนโยบายที่เน้นการปราบปรามการทุจริต ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่ง คสช.จะไม่เรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ และจะเร่งแก้ปัญหาในระยะ 2 หลังจากนี้จะเข้าสู่ระยะที่ 3 จะจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่เกิน 3 เดือน ขณะเดียวกันจะติดตามรัฐบาลให้อยู่ในกรอบที่ไม่ทุจริต การลงทุนของ 2 ประเทศ คำนึงถึงผลประโยชน์ของ 2 ฝ่าย ซึ่งการลงทุนของจีนในไทยที่จะตั้งโรงงานอุตสาหกรรมต้องคำนึงถึงผลกระทบของสภาพแวดล้อมและคิดที่จะนำพลังงานทดแทนมาใช้ ขณะเดียวกันต้องสร้างความเข้มแข็งด้านอุตสาหกรรม ด้วยการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและกำลังพิจารณายกเลิกเคอร์ฟิวให้เร็วที่สุดในพื้นที่ที่ยังไม่ยกเลิก

แจงปมปฏิวัติต่ออาเซียนที่พม่า

       ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในระหว่าง 7-10 มิ.ย.นี้ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะเดินทางไปพม่า เพื่อร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนและการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เออาร์เอฟ และความร่วมมือเอเชียตะวันออก หรืออีเอเอส ซึ่งจะมีผู้แทนจากประเทศคู่เจรจาของอาเซียนอีกกว่า 20 ประเทศร่วมประชุม อาทิ ญี่ปุ่น จีน อินเดีย สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป หรืออียู ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และรัสเซีย ทั้งนี้ จะใช้โอกาสดังกล่าวชี้แจงถึงพัฒนาการการเมืองไทยต่อที่ประชุมด้วย

คตร.วางกรอบทำงานแล้ว

      ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ คณะทำงานทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงความคืบหน้าการทำงานของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ว่า เช้าวันที่ 6 มิ.ย. คตร.ประชุมครั้งที่ 2 มีปลัดบัญชีทหารบก เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีตัวแทนจากกระทรวงการคลัง สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงบประมาณ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกรมบัญชีกลางเข้าร่วมประชุมด้วย โดยพิจารณาเรื่องจริยธรรมของ คตร.ว่าจะมีข้อกำหนดอย่างไร 

      ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า สำหรับกรอบการทำงานของคตร. ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 4 คณะ ประกอบด้วย 1.การดำเนินการด้านแผนงานและงบประมาณ 2.ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง และการเบิกจ่าย 3.ด้านการเงิน การบัญชี และ 4.ด้านตรวจพิเศษ สำหรับด้านแผนงานและงบประมาณเป็นการวิเคราะห์ความเหมาะสมของแผนงานและโครงการต่างๆ ที่รอการอนุมัติ เนื่องจากบางโครงการยังมีรายละเอียดที่ไม่ชัดเจน คณะอนุกรรมการจึงจะวิเคราะห์ความไม่ชัดเจนว่ามีอะไรบ้าง และถ้า คตร.เห็นว่าโครงการใดในปีงบประมาณ 57 ไม่เหมาะสมก็ปรับเปลี่ยนโครงการ หรือยุบโครงการได้ทันที ส่วนโครงการที่ยังดำเนินการอยู่จะมีคณะกรรมการในส่วนอื่นเข้าไปตรวจสอบ 

เร่งถกจัดการน้ำ-แท็บเล็ต

     ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวต่อว่า ส่วนแผนที่จะดำเนินการในช่วงเดือนมิ.ย.นี้เป็นแผนงานเร่งด่วนจะพิจารณาเป็นแผนของโครงสร้างพื้นฐานในเรื่องโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท รวมถึงโครงการแท็บเล็ตพีซีของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง โดยจะประชุมในวันที่ 11 มิ.ย. หลังประชุมจะเริ่มเดินหน้าทันที 

      "คตร.จัดตั้งขึ้นเปรียบเสมือนหน่วยจู่โจมพิเศษ หากโครงการไหนน่าสงสัยอนุกรรมการจะเข้าตรวจสอบเป็นพิเศษทันที และหากประชาชนมีเบาะแส เคลือบแคลงสงสัยในเรื่องของความโปร่งใสของโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ในปี"57 ติดต่อแจ้งเบาะแสได้ที่ คตร.เบอร์โทรศัพท์ 0-2297-7880 หรือ 0-2280-2468" ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าว

       ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าวอีกว่า วันที่ 9 มิ.ย.นี้จะหารือกันว่าโครงการใดคุ้มค่าและเหมาะสม ก่อนเชิญหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการมาชี้แจงในวันที่ 11 มิ.ย. ทั้งนี้ คตร.จะดูแลการเบิกจ่ายงบประมาณซึ่งมีอำนาจเช่นเดียวกับคณะกรรมการกลั่นกรองในช่วงปกติ แต่ไม่ใช่ทุกโครงการที่จะต้องเข้าคณะกรรมการชุดนี้ โดยจะดูโครงการที่มีความเคลือบแคลงสงสัย ไม่สอดคล้องกับแนวทางของ สศช.เข้ามาพิจารณา 

สั่งรวมงบฯ-รับมืออุทกภัย

       นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชล ประทาน เปิดเผยว่า คสช.สั่งให้กรมชล ประทานทำแผนรับมือน้ำท่วมในปี 2557 เพื่อรับมือและป้องกันปัญหาอุทกภัยในช่วงฤดูฝน โดยให้กรมชลฯ ปรับปรุงงบประมาณที่ได้รับจัดสรรในปี 2557 แต่ยังไม่ได้เบิกจ่าย หรืองบฯ ค้างท่อประมาณ 1,300 ล้านบาท มาปรับใช้กับโครงการป้องกันและรับมืออุทกภัย เพิ่มจากงบฯปกติที่ได้รับจัดสรรประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท ส่งผลให้งบฯ สำหรับการรับมืออุทกภัยในฤดูฝนที่จะถึงนี้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. เตรียมให้หน่วยงานที่บริหารจัดการน้ำทั่วประเทศปรับปรุง งบฯ ในแต่ละองค์กร เพื่อนำงบประมาณมารวมกันว่าจะสามารถดำเนินโครงการอะไรได้บ้าง หรือจะเสนอโครงการที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ หรือโครงการเร่งด่วนเพื่อป้องกันอุทกภัยของทั้งประเทศ


เจออีก - ตำรวจและทหารโชว์ระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ อาวุธปืน และกระสุนจำนวนมาก ที่พบระหว่างการขุดลอกคลองเปรมประชากร หน้าทำเนียบรัฐบาล ใกล้จุดที่เคยมีม็อบมาปักหลักชุมนุมก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.

    นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ปีนี้น้ำท่วมคงไม่รุนแรง แต่พื้นที่ท่วมซ้ำซากยังต้องท่วมตามปกติ ทั้งนี้ กรมชลฯ ไม่ได้กังวลปัญหาอุทกภัยมากนัก แต่กังวลในเรื่องของปัญหาน้ำแล้ง หากฝนยังไม่ตกตั้งแต่ช่วงเดือนมิ.ย.จนถึงช่วงเดือนส.ค. น้ำในเขื่อนสำหรับการปลูกพืชในภาคกลางนั้นจะสามารถใช้ได้เพียง 30 วัน หากฝนยังทิ้งช่วงจนเป็น 0% กรมชลประทานต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการเพาะปลูกว่าจะรับมือกับปัญหาภัยแล้งอย่างไร

คลังชงเก็บธุรกิจรายใหญ่เพิ่ม

    นายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยผลการประชุมปฏิรูปภาษีทั้งระบบ เพื่อเสนอ คสช.ว่า การปฏิรูปภาษีทั้งระบบประกอบด้วย การให้ความเป็นธรรมในการเสียภาษีมากขึ้น ผู้ประกอบการรายใหญ่ต้องรับภาระมากขึ้นหากใช้ทรัพยากรมากกว่าคนจน ต้องมีความชัดเจนในการแก้ไขปัญหาในอดีต สร้างรายได้ที่เพียงพอในอนาคต รวมทั้งไม่ส่งผล กระทบต่อผู้มีรายได้น้อย และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เนื่องจากสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ที่เน้นการบริโภคกับความมั่งคั่งมากขึ้น 

    รายงานข่าวกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การปฏิรูปโครงสร้างภาษี จะเน้นไปที่ความยั่งยืนมากขึ้น เนื่องจากทุกรัฐบาลไม่กล้าดำเนินการเพราะกลัวผลกระทบต่อประชาชน ดังนั้นการปรับขึ้นภาษีบางรายการจึงมีความจำเป็น โดยเฉพาะการหารายได้มาให้เพียงพอต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งนี้จะเสนอทบทวนภาษีสำคัญ เช่น การปรับลดการให้สิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมการลงทุนในบางโครงการ การทยอยปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตดีเซล ชดเชยรายได้ที่หายไปเฉลี่ยปีละ 1 แสนล้านบาท การปรับ ปรุงอัตราภาษีป้าย โดยเฉพาะการเสนอร่างพ.ร.บ.ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าที่กระทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องดื่มที่มีความหวานสูง และน้ำมันหล่อลื่น ให้มีการเสนอร่างพ.ร.บ. ภาษีมลพิษทางน้ำ เป็นต้น

ชงแผนพลังงานให้คสช.ชี้

      แหล่งข่าวพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์การบริหารพลังงานประเทศอย่างเร่งด่วนเพื่อเสนอต่อ คสช. ภายในวันที่ 7-8 มิ.ย. เพื่อให้เลือกแนวทางการวางกรอบยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นได้จัดข้อมูลปัญหาด้านพลังงานเกี่ยวกับปัญหาราคาพลังงานเกือบทุกชนิด อาทิ ราคาน้ำมัน ราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) พร้อมทั้งแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสมหลากหลายแนวทาง เพื่อให้ คสช.เลือกใช้เป็นยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศต่อไป ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะทำข้อเสนอไว้หลายแนวทาง

     แหล่งข่าวระบุอีกว่า ที่ผ่านมา คสช.สั่งให้ตรึงราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนไว้ที่ 22.63 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากเห็นว่าข้อมูลด้านพลังงานด้านราคายังไม่มีความชัดเจน จึงสั่งให้ชะลอการปรับขึ้นราคาออกไปก่อน จากเดิมต้องปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม ไปจนกว่าจะครบ 24.83 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้จัดทำยุทธศาสตร์ปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาแอลพีจีให้ คสช.พิจารณาไว้แล้ว ส่วนกระแสการเรียกร้องให้ยกเลิกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น ยอมรับว่าหากใช้ข้อกฎหมายมาพิจารณาก็สามารถดำเนินการได้ แต่หากยกเลิกจะมีผลกระทบต่อราคาพลังงาน อาทิ แอลพีจี น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และดีเซล เนื่องจากปัจจุบันใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ มาพยุงราคาเอาไว้ ซึ่งต้องรอการตัดสินใจของ คสช.สัปดาห์หน้า

พาณิชย์ถกตรึงราคาสินค้าจำเป็น

      ที่กระทรวงพาณิชย์ นางศรีรัตน์ รัฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้ผลิต และผู้ประกอบการในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กว่า 70 ราย ว่า ที่ประชุมได้ขอความร่วมมือตรึงราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และของใช้ในชีวิตประจำวันในราคาเดิมในช่วงนี้ไว้ก่อน โดยกำหนดให้มีการตรึงราคาสินค้าอุปโภค บริโภคโดยเน้นสินค้า 205 รายการ ซึ่งเป็นสินค้าในชีวิตประจำวัน ที่กระทรวงพาณิชย์ติดตามดูแล เช่น อาหารปรุงสำเร็จ ข้าวสารบรรจุถุง นมผง ผงซักฟอก ปูนซีเมนต์ และปุ๋ย ระยะเวลา 6 เดือนคือมิ.ย.-พ.ย. ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการชั่วคราว หากมีต้นทุนในการผลิตสินค้าประเภทใดปรับขึ้นราคา ก็จะมีการพิจารณาเป็นรายกรณี 

       "จากการหารือกับเอกชนทุกรายก็พบว่า 99% ของสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันนั้นจะไม่ปรับขึ้นราคา ก็ขอให้ประชาชนเบาใจได้ และหลังจากพ้น 6 เดือนไปแล้วจะหารือกันอีกครั้ง โดยจะไม่แทรกแซงราคาปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดให้มากที่สุด" นางศรีรัตน์กล่าว

3 ห้างดังร่วมคุมราคาฟู้ดคอร์ต

      นางศรีรัตน์ ยังกล่าวถึงการประชุมร่วมกับห้างค้าปลีกสมัยใหม่ที่มีศูนย์อาหารและมีสาขาจำนวนมากทั่วประเทศ ว่า ได้ประชุมเพื่อขอความร่วมมือให้จำหน่าย อาหารปรุงสำเร็จตามราคาแนะนำ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนตามนโยบายของ คสช. โดยห้างค้าปลีกสมัยใหม่รายใหญ่ 3 ราย ได้แก่ ห้างเทสโก้โลตัส ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และห้างท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีสาขาที่มีศูนย์อาหารรวมทั้งสิ้น 306 สาขาทั่วประเทศ พร้อมให้ความร่วมมือในการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน

    โดยได้ลดราคาเมนูพิเศษในฟู้ดคอร์ต 10 รายการ ในราคาจาน/ชามละ 35-40 บาท ได้แก่ ข้าวไข่เจียว ข้าวราดแกง 1 อย่าง ข้าวราดแกง 2 อย่าง ข้าวกะเพราหมู/ไก่ ข้าวผัดหมู/ไก่ ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวหมู/ไก่/ลูกชิ้นปลา ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ผัดซีอิ๊ว ขนมจีนน้ำยา/แกงไก่ และไข่ดาวฟองละ 7-8 บาท 

    รวมทั้งไม่ขึ้นราคาอาหารจานเดียวเป็นระยะเวลา 6 เดือน จนถึงสิ้นเดือนพ.ย. ส่วนรายการอาหารจานพิเศษธงฟ้าในฟู้ดคอร์ต จานละ 30 บาท โดยบิ๊กซี เริ่ม 31 พ.ค.-30 มิ.ย. มี 26 เมนู นอกเหนือจาก 10 รายการ ส่วนเทสโก้ และท็อปส์ เริ่มดำเนินการเดือนก.ค. นอกจากนี้จะให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรมจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ และช่วยดูแลราคาเป็นอย่างดี

จ่อลดราคาค่าเช่าพื้นที่ด้วย

    นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.) กล่าวว่า ทางห้างต้องมีมาตรการออกมาเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือในการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เช่น การให้คูปองกับผู้ประกอบการเพื่อซื้อวัตถุดิบในการประกอบการอาหารในราคาพิเศษ รวมทั้งการต้องมีมาตรการอื่นๆ เช่น การลดค่าเช่าพื้นที่ให้ผู้ประกอบการ เป็นต้น 

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตัวแทนห้างทั้ง 3 รายมีความเห็นตรงกันว่าจากนี้ไปแต่ละห้างก็จะหารือกันเป็นการภายในเพื่อออกมาตรการในการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือในการลดค่าครองชีพ เช่น การลดค่าเช่าพื้นที่ เป็นต้น เพื่อไม่ให้มาตรการลดค่าครองชีพกลายเป็นการโยนภาระให้กับ ผู้ประกอบการ

เอกชนขานรับไม่ขึ้นราคา

     นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากสถานการณ์ในขณะนี้ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่มีแผนในการปรับขึ้นราคาสินค้าและพร้อมให้ความร่วมมือ หากสิ้นสุดระยะเวลาการขอความร่วมมือก็จะยังไม่ปรับขึ้นราคาสินค้าแม้ว่าจะมีต้นทุนการผลิตบางอย่างราคาขึ้น แต่หากอยู่ในวิสัยที่เอกชนสามารถควบคุมหรือแบกรับได้ก็จะไม่ขอให้ปรับขึ้นราคาสินค้า 

     นายพันธ์ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าต้นทุนการผลิตสินค้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้นพร้อมจะให้ความร่วมมือในการตรึงราคาสินค้าตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือมา

บี้ผู้เลี้ยงหมูหั่นราคา 

     นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกร ว่า จะขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการในการปรับลดราคาหมูหน้าฟาร์มลง จากปัจจุบันพบว่าราคาสูงขึ้นเนื่องจากอากาศร้อน และมีเกิดโรคระบาดทำให้มีเนื้อหมูที่ออกสู่ตลาดมีปริมาณลดลง โดยจะติดตามสถานการณ์และราคาสุกรอย่างใกล้ชิด และขอให้ผู้จำหน่ายปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ผู้บริโภคเห็นอย่างชัดเจน 

      อย่างไรก็ตาม ล่าสุดกรมการค้าภายในประกาศราคาแนะนำรับซื้อและจำหน่ายสุกร มีผลระหว่างวันวันที่ 6 - 11 มิ.ย. โดยกำหนดราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม กรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตก ราคากิโลกรัมละ 79 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ราคากิโลกรัมละ 80 บาท ภาคตะวันออก ราคากิโลกรัมละ 81 บาท ภาคใต้ ราคากิโลกรัมละ 78 บาท และภาคเหนือราคากิโลกรัมละ 80 บาท 

เนื้อแดงห้ามเกิน 147 บาท

     ราคาจำหน่ายส่งหมูชำแหละ (หมูซีก) กรุงเทพฯ ภาคกลางและภาคตะวันตก ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 93 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 94 บาท ภาคตะวันออก ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 95 บาท ภาคใต้ ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 92 บาท และภาคเหนือ ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 94 บาท 

     ราคาจำหน่ายส่งชิ้นส่วนหมูเนื้อแดง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) กรุงเทพฯภาคกลาง และภาคตะวันตกไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 128 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 129 บาท ภาคตะวันออก ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 131 บาท ภาคใต้ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 127 บาท และภาคเหนือ ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 129 บาท 

     ราคาจำหน่ายปลีกหมูเนื้อแดงไม่ตัดแต่ง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) กรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตกไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 144 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 145 บาท ภาคตะวันออก ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 147 บาท ภาคใต้ ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 143 บาท และภาคเหนือไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 145 บาท ยกเว้นเนื้อสุกรชนิดที่มีคุณภาพพิเศษ เช่น เนื้อสุกรอนามัย เนื้อสุกรไร้สาร ที่มีการรับรองจากหน่วยงานราชการ 

ส่วนเนื้อแดงตัดแต่งโลละ 159

       ราคาจำหน่ายปลีกหมูเนื้อแดงตัดแต่ง (เนื้อสะโพก เนื้อไหล่) กรุงเทพฯ ภาคกลาง และภาคตะวันตก ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 156 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 157 บาท ภาคตะวันออก ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 159 บาท ภาคใต้ ไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 154 บาท และภาคเหนือไม่สูงกว่าราคากิโลกรัมละ 157 บาท ยกเว้นเนื้อสุกรชนิดที่มีคุณภาพพิเศษ เช่น เนื้อสุกรอนามัย เนื้อสุกรไร้สาร ที่มีการรับรองจากหน่วยงานราชการ 

       ด้านนายสุรชัย สิทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า ยินดีให้ความร่วมมือในการปรับลดราคาหมูหน้าฟาร์มไม่เกินกิโลกรัมละ 85 บาท ซึ่งเป็นราคาใกล้เคียงกับราคาแนะนำ แต่ปัจจุบันส่วนใหญ่จะขายเกินราคา 85 บาทต่อกิโลกรัม โดยในภาพรวมตนเห็นด้วย และได้บอกกับสมาชิกสมาคมให้ความร่วมมือและหากพบว่าจำหน่ายเกินก็ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที อย่างไรก็ตามราคาหมูที่สูงขึ้นเนื่องจากเกิดปัญหาโรคระบาด ทำให้มีผลผลิตลดลง

ออกเงื่อนไขกู้จำนำข้าวรอบ 2 

น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. สบน.ได้ออกหนังสือเชิญสถาบันการเงินของรัฐและเอกชน 32 แห่ง เข้าร่วมประมูลเงินกู้โครงการรับจำนำข้าววงเงินที่เหลืออีก 4 หมื่นล้านบาท อายุเงินกู้ 3 ปี ให้ใช้อัตราดอกเบี้ย BIBOR 6 เดือน เป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการประมูล โดยสถาบันการเงินให้ยื่นซองได้วันที่ 12 มิ.ย. และส่งมอบเงินที่ประมูลได้ในวันที่ 19 มิ.ย. คาดว่าจะมีสถาบันการเงินสนใจเข้าร่วมประมูลเหมือนการประมูลเงินกู้รอบแรก 5 หมื่นล้านบาท 

      "การกู้เงินรอบใหม่จะทำให้การจ่ายเงินของชาวนาทำได้ต่อเนื่องรวดเร็ว เพื่อให้การจ่ายเงินชาวนาทั้งหมด 9 หมื่นล้านบาท ดำเนินการเสร็จภายในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน และยังส่งผลดีกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น" น.ส. จุฬารัตน์กล่าว

ธ.ก.ส.คาดจ่ายได้ครบก่อนกำหนด

     นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการดำเนินการจ่ายเงินให้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 ว่า ธนาคารได้ทยอยจ่ายเงินให้ชาวนาไปแล้วทั้งสิ้น 4.69 แสนราย คิดเป็นวงเงิน 4.78 หมื่นล้านบาท โดยประเมินว่าธนาคารจะสามารถจ่ายเงินคืนให้กับชาวนาที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวที่ค้างอยู่ทั้งหมดกว่า 8.3 แสนราย คิดเป็นวงเงิน 9.24 หมื่นล้านบาท ได้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ ซึ่งเร็วกว่าคาดการณ์เดิมคือวันที่ 22 มิ.ย. เนื่องจากเร่งดำเนินการจ่ายเงินให้เต็มที่ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน

ทหารตรวจโกดังข้าวอยู่ในสภาพดี

      ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก พล.ต.ทรงพล ทองจีน ผบ.กองพลทหารพัฒนาที่ 3 เป็นประธานประชุมร่วม 3 ฝ่าย ระหว่างทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองจังหวัดพิษณุโลก เพื่อหารือการตรวจสต๊อกข้าว หลัง คสช.เตรียมจัดตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบสต๊อกข้าว โดยพล.ต.ทรงพลกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ต้องการดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เป็นระบบ โดยเฉพาะเรื่องโกดังข้าว โรงสี เป็นแนวทางที่ต้องเร่งแก้ไขเพื่อระบายข้าวออก ดูเรื่องการป้องกันการทุจริต และการเก็บรักษา ก่อนมีแนวทางดำเนินการตามนโยบายของ คสช. 

       ที่โกดังคลังสินค้า บริษัทอีสเทิร์นไรซ์มิลล์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผบ.กองพลทหารม้าที่ 3 พล.ต.ต. มนธน ทิพย์จันทร์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยกำลังทหาร ตำรวจ เข้าตรวจสอบโกดังเก็บข้าวสาร ของคลังสินค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีนายจีระศักดิ์ ศรีเพชร การค้าภายใน จ.กาฬสินธุ์ และน.ส.ณัทน์รามิล บุญประเสริฐมี หัวหน้าคลังสินค้ากลาง จ.กาฬสินธุ์ รายงานปริมาณข้าว 

      พล.ต.นิตินัย กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบเป็นการป้องกันปัญหาข้าวหาย ซึ่งผลปรากฏว่าข้าวสารที่เก็บไว้ยังอยู่ในสภาพที่ดี พร้อมจะจัดส่งหากมีการประมูล

'พะงัน'คึกคักจัดฟูลมูน

      นางวรรณี ไทยพาณิชย์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวถึงกรณีจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานีไม่ห้ามจัดงานฟูลมูนปาร์ตี้ระหว่าง 9-13 มิ.ย.นี้ว่า สมาคมท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมและชมรมผู้ประกอบการหาดริ้น ต้องขอบคุณและดีใจมากที่ฝ่ายความมั่นคงเห็นความสำคัญการท่องเที่ยวและอนุญาตให้จัดงานได้ต่อไปตามปกติทุกเดือน เป็นการยืนยันที่ชัดเจนให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจำนวนมากที่รอคำตอบได้ว่าจะมีงานฟูลมูนปาร์ตี้ต่อไปอย่างแน่นอนแล้ว ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องถึงผู้ประกอบการเรือโดยสารข้ามฟาก เครื่องบิน ร้านอาหาร ผับ บาร์ เป็นรายได้ที่กระจายทั่วถึงทั้งเกาะสมุยและเกาะพะงัน 

      นายประภาส อินทนปสาธน์ ผอ.ททท.สำนักงานสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การจัดงาน ฟูลมูนปาร์ตี้ถือเป็นข่าวดีของวงการท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคักทั้งเกาะสมุยและเกาะพะงัน เนื่องจากงานแต่ละครั้งยอดนักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 20,000 คน และนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศจำนวนมากจะเดินทางมาพักผ่อนก่อนถึงการจัดงานและหลังงานจะเดินทางไปท่องเที่ยวต่อในสถานที่ต่างๆ 

ปชป.จี้'คสช.'โชว์งบฯลงทุน

      ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค ปชป. แถลงว่า ในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 ขอเรียกร้องให้คสช.เปิดเผยรายละเอียดของโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการก่อสร้างในโครงการพื้นฐานของประเทศ เกี่ยวกับตัวเลขการลงทุน การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยขอให้คงรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญ คสช.ควรจัดงบ ลงทุนก่อสร้างโครงการรถไฟรางคู่ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เคยเสนอโครงการไว้แต่ถูกรัฐบาลพรรคเพื่อไทยยกเลิก

บอร์ดทอท.ทยอยลาออก

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. แจ้งการลาออกจากตำแหน่งกรรมการทอท. และทุกตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากทอท. โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 2557 เป็นต้นไป ได้แก่ น.ต.ศิธา ทิวารี, พล.ต.อ.กฤษณะ ผลอนันต์, พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล และนายวัฒนา เตียงกูล โดยพล.ต.ท.ภาณุให้เหตุผลการลาออกเพราะต้องการให้จัดระเบียบใหม่ 

       ด้านนายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ กรรมการบอร์ด ทอท. กล่าวว่า ทราบข่าว น.ต.ศิธา และกรรมการบอร์ดบางคนลาออกแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน แต่ตนไม่ได้ลาออก เพราะไม่มีปัญหาอะไร

เลิกเคอร์ฟิว'ชะอำ-หัวหิน'

      เมื่อเวลา 21.45 น. ประกาศคสช. ที่ 54/2557 เรื่องยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน ในพื้นที่อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี อ.หัว หิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.กระบี่ จ.พังงา ส่วนพื้นที่อื่นๆ ให้ปฏิบัติตามประกาศฉบับที่ 3/2557 และฉบับที่ 42/2557 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป