วันที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8591 ข่าวสดรายวัน


รวบได้แล้ว'สมบัติ'ลายจุด ล็อกตัวที่พานทอง 
คสช.จ่อยุบพรรค ส่อล้าง-โละหมด องค์กรอิสระด้วย นำตัว'จาตุรนต์'ขึ้นศาลทหารอีก


จับลายจุด - พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ที่ปรึกษาปลัดไอซีที นำกำลังจับกุมนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด ภาย ในบ้านพัก อ.พานทอง จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวไปควบคุมที่ค่ายทหาร ร.21 รอ. เมื่อ5 มิ.ย.

       จ่อรื้อใหญ่สร้างบาลานซ์ทุกขั้ว หลังเลิกใช้ รธน.2550 เผยคสช.เล็งยุบพรรคการเมืองทุกพรรค-โละทิ้งองค์กรอิสระทั้งศาลรธน.-ป.ป.ช.-กกต.พร้อมปิดถาวรทีวีขั้วการเมืองทั้งบลูสกาย-เอเชียอัพเดท-เอเอสทีวี รุกปรับใหญ่บอร์ดรัฐวิสาหกิจให้ปลอดกลุ่มผลประโยชน์ เผยร่างเสร็จแล้วธรรมนูญการปกครองฉบับชั่วคราว คาดต้นเดือนก.ค.ได้รัฐบาลใหม่ ส่วนนายกฯ ยังคงเป็น 'พล.อ.ประยุทธ์'นั่งเอง นำ 'จาตุรนต์'ขึ้นศาลทหารอีกวันนี้ สมาคมทนายความเตรียมยื่นประกันตัว

'บิ๊กตู่'นัดประชุม 7 องค์กรอิสระ
      เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 5 มิ.ย. ที่ บก.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบให้พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. เป็นประธานประชุม คสช.แทน เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการและผลสรุปการประชุมคณะต่างๆ เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. โดยเฉพาะผลการประชุมของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เกี่ยวกับความคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) รวมถึงความร่วมมือในการดำเนินงานต่างๆ จากหลายกระทรวงที่ขณะนี้เริ่มชัดเจนมากขึ้น พร้อมทั้งหารือเรื่องกิจกรรมต่างๆ ที่ทหารดำเนินการ โดยเฉพาะกิจกรรมคืนความสุขให้คนในชาติ 
       เมื่อเวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมใน 3 ส่วนงาน คือกลุ่มงานฝ่ายกิจการพิเศษ กลุ่มงานฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และส่วนงานขึ้นตรงหัวหน้า คสช.ซึ่งเกี่ยวกับงานด้านความมั่นคง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมครบ ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ขอให้ทุกหน่วยงาน รวมทั้งองค์กรอิสระเดินหน้าแก้ปัญหาเร่งด่วน เพื่อให้ประเทศขับเคลื่อนต่อไปได้ภายใต้ความชอบธรรมและโปร่งใส ซึ่ง คสช.จะให้การสนับสนุน ยึดมั่นตามหลักการที่ไม่ทำให้ประเทศชาติเสียหายมากไปกว่านี้
         หัวหน้า คสช.ระบุในที่ประชุมว่า ที่ คสช.ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบภายในการทำงานแต่ละส่วนงานนั้น เชื่อว่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชนโดยรวม พร้อมย้ำทุกส่วนราชการระมัดระวังในการดำเนินงาน และศึกษาด้วยว่าจะเกิดปัญหาในระยะยาวหรือไม่ นอกจากนี้ จะนัดประชุมองค์กรอิสระ 7 องค์กรเพื่อรับทราบผลกระทบต่างๆ เพื่อหาทางออกร่วมกันในวันที่ 6 มิ.ย.ด้วย

แจงอีกเรียกบุคคลรายงานตัว
        ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะคณะทำงานโฆษก คสช. กล่าวว่า การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ยังเข้มงวดเรื่องการจับกุมอาวุธสงครามและกวดขันเรื่องอบายมุข จึงขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการกระทำที่เข้าข่าย ส่วนการปฏิบัติต่อกลุ่มที่ต่อต้าน พ.อ.วินธัยกล่าว เราจะดำเนินการ 2 วิธีคือป้องกันเรื่องการติดต่อสื่อสาร และถ้ายังไม่เชื่อฟังจะดำเนินการ แต่ยืนยันว่ามีมาตรการจากเบาไปหาหนัก ให้ตำรวจเป็นผู้ปฏิบัติมากขึ้น เมื่อถามถึงการชู 3 นิ้วแสดงสัญลักษณ์นั้นมีความผิดหรือไม่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ต้องดูรายละเอียดและองค์ประกอบขณะนั้น เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เพราะหากมีนัยยะปลุกปั่นหรือรวมกลุ่มเกินกำหนดก็จะมีความผิด
      พ.อ.วินธัย กล่าวถึงการเรียกนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เข้ารายงานตัวว่า การเรียกบุคคลรายงานตัวช่วงหลังนี้เชิญมาทำความเข้าใจ ปรับทัศนคติ บางคนไม่ถูกควบคุมตัว และการเชิญรายงานตัวมีการปฏิบัติที่ไม่ใช่ผู้กระทำผิด ส่วนผู้ที่ไม่พร้อมหรือป่วยอยู่ สามารถยื่นเอกสารและหลักฐานมาแสดงได้ เจ้าหน้าที่ไม่ได้เร่งรัดให้เข้าพบ เพราะเป็นการปฏิบัติอย่างฉันมิตร ไม่ได้เป็นศัตรูต่อกัน
      ส่วนข้อมูลตัวเลขของผู้ที่ไม่มารายงานตัวตามคำสั่งนั้น พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนเพราะที่ไม่มารายงานตัวมีหลายสาเหตุ ทั้งเจ็บป่วย และความไม่พร้อมเนื่องจากอยู่ต่างประเทศ แต่เจ้าหน้าที่มีวิธีตรวจสอบได้อยู่แล้ว ส่วนบางคนที่ตั้งใจหลบหนีไปต่างประเทศ ก็จะใช้มาตรการกฎหมายกดดันเต็มที่เพราะถือว่าจงใจ จึงอยู่ในฐานะผู้หลบหนี ส่วนใครหนีไปที่ใดนั้น ข้อมูลอยู่กับผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง 

เผยยังมีอีก 44 คนไม่รายงานตัว
     ด้านพ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะรองโฆษก คสช. กล่าวว่า จำนวนผู้ที่ยังไม่มารายงานตัวกับ คสช.นั้น จากข้อมูลวันที่ 1 มิ.ย. พบว่ามี 44 คน ทั้งนี้ คสช.ได้ติดต่อญาติของคนเหล่านั้นเพื่อให้ผู้ที่ถูกเรียกเข้ามารายงานตัว ควบคู่กับการสั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวด้วย สำหรับคนที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศนั้น คสช.มอบให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบติดต่อกับประเทศนั้นๆ เพื่อให้ผู้ที่ยังหลบหนีมารายงานตัวกับ คสช. ส่วนผู้ที่กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ก็ถูกดำเนินการเช่นเดียวกับคนที่ทำผิดกฎหมายในกรณีอื่นๆ
      ผู้สื่อข่าวรายงานจากหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ว่า ตามที่มีคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 48/2557 ให้รายงานตัว ประกอบด้วย นายสมชาย สอนอุบล แกนนำเสื้อแดง จ.ปทุมธานี, นายนาวิน บุญเสรฐ อดีตเลขานุการ รมว.ต่างประเทศ สมัยรัฐบาลนายสมชาย วงสวัสดิ์ และนายธานินทร์ อังสุวรังษี อดีตผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยและคนสนิทพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
      เวลา 13.10 น. ภรรยาของนายนาวินเดินทางมาชี้แจงแทนว่า นายนาวินได้เข้ารายงานตัวที่ค่ายพ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาเวลา 13.40 น. นายธานินทร์ได้เดินทางมาด้วยตนเอง

คสช.จ่อยุบพรรค-องค์กรอิสระ
       รายงานข่าวจาก คสช.เปิดเผยว่า ขณะนี้ คสช.กำลังเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาในหลายๆ ด้าน โดยยึดหลักความเป็นกลางสำหรับทุกฝ่าย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นว่าเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งให้จบสิ้นจริงๆ สำหรับประเด็นที่กำลังเร่งลงมือขณะนี้ได้แก่ การพิจารณาปิดสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่เป็นขั้วการเมืองทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลืองหรือกลุ่มพันธมิตร เพื่อไม่ให้เป็นเครื่องมือสร้างกระแสอันนำไปสู่การแตกแยกทางความคิดอย่างสุดขั้วขึ้นอีก โดยสถานีที่อยู่ในข่ายพิจารณา เช่น สถานีโทรทัศน์บลูสกาย เอเอสทีวี และเอเชียอัพเดท นอกจากนี้ ภายใน 1-2 วันนี้จะประกาศแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจสำคัญๆ โดยผู้จะเข้ามาดำรงตำแหน่งในบอร์ดจะเฟ้นจากมืออาชีพ ผู้มีความรู้ ตัดคนที่มีเส้นสายเชิงผลประโยชน์ออกไป โดยเฉพาะบอร์ดของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่จะต้องเร่งลงมือก่อน ได้แก่ท่าอากาศยานไทย การท่าเรือแห่งประเทศไทย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.)
      รายงานข่าวเปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้คณะทำงานกำลังเร่งศึกษาข้อกฎหมายเพื่อดำเนินการยุบพรรคการเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ทั้งหมด พร้อมๆ กับจะยุบองค์กรอิสระบางส่วนด้วย เนื่องจากมีการยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ไปแล้ว โดยเฉพาะกกต. ศาลรัฐธรรมนูญ และป.ป.ช.เป็นต้น สำหรับมาตรการนี้จะทำให้ทุกฝ่ายรู้สึกในทางที่ดี เนื่องจากเป็นการตัดสินใจโดยไม่เอียงเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สำหรับธรรมนูญการปกครองชั่วคราวนั้นขณะนี้นายวิษณุ เครืองาม ได้ร่างแล้ว เตรียมส่งให้คณะที่ปรึกษา คสช.พิจารณา เพื่อเร่งประกาศใช้ คาดว่ารัฐบาลใหม่จะเกิดขึ้นในต้นเดือนก.ค. คนที่มาเป็นนายกฯ คาดว่าจะเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.

วิษณุ แจงขอบเขตกุนซือกฎหมาย
     ด้านนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช. ฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยว่า คสช.มอบให้ดำเนินการ 2 ส่วน คือ 1.กฎหมายที่ค้างอยู่ในสภา หลังยุบสภาไปแล้ว โดยให้พิจารณาว่ากฎหมายฉบับใดต้องเร่งรัดดำเนินการ หรือควรรอสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา รวมถึงกฎหมายที่ค้างอยู่ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย นอกจากนั้นยังมีกฎหมายที่กระทรวงและหน่วยงานต่างๆ อยากแก้ไขแต่ติดขัดบางประการ ซึ่งกฎหมายทั้งหมดถูกนำไปวางบนโต๊ะหัวหน้าคสช. 100-200 ฉบับ และ คสช.นำมาให้ตนดูแล้ว บางฉบับด่วนจริง บางฉบับรอให้มี สนช.ก่อนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องออกประกาศ คสช.ในทันที นอกจากนี้มีบางเรื่องเฉพาะเจาะจง เช่น ออกประกาศ คสช.ไปแล้วและมีหน่วยงานรายงานว่ามีข้อขัดข้องในทางปฏิบัติ ไม่สามารถทำได้ก็ต้องมาแก้ไขต่อไป
      'ตอนนี้ออกประกาศคสช. 50-60 ฉบับ มีหลายหน่วยงานโวยวายว่ามีข้อขัดข้อง หรือพบว่ามีช่องโหว่ ซึ่งต้องมาตามแก้ ผมไม่ได้เป็นผู้ออกประกาศ คสช.เหล่านั้น ส่วนใหญ่เชิญเขาเข้ามาดูว่าข้อขัดข้องคืออะไร ทำไมตอนนั้นไม่ยอมบอกเนื่องจากหน่วยงานที่มีปัญหาส่งรายละเอียดไปที่ คสช.'นายวิษณุกล่าว


ทำบุญ - ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกฯ นำข้าราชการในทำเนียบรัฐบาลตักบาตรทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมทั้ง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลด้วย เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.


ชี้ไม่รายงานตัว-ความผิดยังติดอยู่
      เมื่อถามถึงข่าว คสช.สั่งให้ร่างธรรมนูญปกครองชั่วคราว นายวิษณุกล่าวว่า ยังไม่ได้รับมอบหมายหรือแจ้งจาก คสช. แต่อาจมีใครทำหน้าที่ยกร่างขั้นต้นเสร็จแล้วเอามาให้ดูแต่ตนยังไม่รู้ คิดว่าหากทำเสร็จระดับหนึ่งแล้วอาจต้องมีคนขัดเกลา คนที่ดำเนินการจะเป็นคณะกรรมการกฤษฎีกา หรือหน่วยใดก็แล้วแต่ ส่วนที่บอกว่าให้ตนร่างนั้นไม่เป็นความจริง ตอนนี้มีกฎหมายที่วางไว้ที่โต๊ะจำนวนมาก 
       เมื่อถามว่า หากมีการยกเลิกกฎอัยการศึกผู้ไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช.จะไม่มีความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศ คสช. นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เมื่อประกาศใช้กฎอัยการศึกสามารถเรียกให้บุคคลนั้นมารายงานตัวได้อยู่แล้ว โดยให้อำนาจ 10 ประการ ซึ่ง 1 ใน 10 เป็นอำนาจในการเรียก ดังนั้น แม้ยกเลิกอัยการศึกคดีก็ไม่สิ้นสุด เมื่อเป็นคดีแล้วก็ต้องดำเนินการต่อไป อาจดำเนินการทางศาลทหารหรือศาลพลเรือนก็ได้แล้วแต่คำสั่ง ไม่ใช่ยกเลิกแล้วทำให้คดีสิ้นสุด เพราะความผิดสำเร็จไปแล้ว

'ฉลาด'ยันอดข้าวจนมีเลือกตั้ง
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณี ร.ต.ฉลาด วรฉัตร อดีตส.ส.ตราดและกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้ได้รับฉายาว่า จอมอด ปักหลักประท้วงหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยตัดสินให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. และยกระดับการประท้วงด้วยการอดอาหารเพื่อต่อต้านรัฐประหาร หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 22 พ.ค.นั้น ล่าสุด ร.ต.ฉลาดยังคงปักหลักประท้วงด้วยการอดอาหารอย่างต่อเนื่อง
      ร.ต.ฉลาด เผยว่า ตนอดอาหารเข้าสู่วันที่ 15 แล้ว ดื่มเพียงน้ำเปล่ากับน้ำผึ้งเท่านั้น โดยจะอดต่อไปเรื่อยๆ กระทั่งกำหนดให้มีการเลือกตั้งชัดเจนโดยสุจริตใจ ประชาชนได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ถือว่าหมดหน้าที่แล้ว คิดว่าประชาชนไม่มีทางยอมให้มีนายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งอีกต่อไป ทั้งนี้ ควรเลิกการสร้างความสมานฉันท์หรือการปฏิรูปประเทศ เพราะไม่มีประโยชน์ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องการเมืองไม่ใช่เรื่องทหาร ถ้าจะทำทหารต้องอยู่ถาวร หากตนถูก คสช.เรียกรายงานตัวหรือจับกุม ตนก็พร้อมให้จับ และจะฟ้องกลับทันทีว่าการยกเลิกรัฐธรรมนูญและใช้กฎอัยการศึกในการปกครองคือการกระทำผิดกฎหมาย เหมือนที่ตนเคยฟ้องคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) มาแล้ว 

นำ'จาตุรนต์'ขึ้นศาลทหารวันนี้
      วันเดียวกัน นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการควบคุมตัวนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งต้องขังคดีขัดคำสั่ง คสช.ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการควบคุมตัว ซึ่งการดูแลนายจาตุรนต์อยู่ในความรับผิดชอบของผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หากมีเรื่องจำเป็นที่อยู่นอกเหนืออำนาจการตัดสินใจจึงจะส่งเรื่องแจ้งมายังกรมราชทัณฑ์
      ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากญาติของนายจาตุรนต์ว่า ในวันที่ 6 มิ.ย. เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารจะนำตัวนายจาตุรนต์ ซึ่งอยู่ระหว่างถูกฝากขังครั้งที่ 1 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. โดยถูกตั้ง 2 ข้อหา 1.ไม่ได้มารายงานตัวตามคำสั่งของคสช. 2.กล่าวปาฐกถาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศมีเนื้อหาลักษณะปลุกปั่น ยั่วยุ ให้เกิดความไม่สงบ เข้าข่ายผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ไปขึ้นศาลทหารที่กรมพระธรรมนูญ ศาลทหาร ถ.มหาชัย กรุงเทพฯ ขณะเดียวกัน ทางสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยจะได้ยื่นขอประกันตัวนาย จาตุรนต์ ในเวลา 10.00 น. ด้วย

ปนัดดา-ขรก.ทำเนียบตักบาตร
       เมื่อเวลา 07.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัด สปน. นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์จากวัดมกุฏกษัตริยาราม 9 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจให้ข้าราชการในการกลับเข้ามาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากมีการชุมนุมรอบทำเนียบนานกว่า 7 เดือน ทำให้ข้าราชการต้องไปทำงานนอกสถานที่
       ม.ล.ปนัดดาให้สัมภาษณ์ว่า การทำบุญครั้งนี้ถือเป็นมงคลสำหรับข้าราชการทำเนียบที่กลับเข้าทำงานตามปกติ ส่วนการสร้างความปรองดองในชาตินั้นตนได้ประสานกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งปลัดกระทรวงมหาด ไทยสั่งการทุกจังหวัดให้เกิดศูนย์ปรองดองจังหวัดและอำเภอ 
      เมื่อถามว่า การปรองดองขณะนี้จะเกิดได้จริงหรือไม่เนื่องจากอีกฝ่ายถูกกดอยู่ ขณะที่อีกฝ่ายกำลังสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า การสร้างปรองดองถือเป็นจุดมุ่งหมายของคนทั้งประเทศ ฉะนั้นเราต้องหาสาเหตุความแตกแยกให้พบแล้วนำมาแก้ไขปัญหาทีละเปราะ และการสร้างความปรองดองไม่น่าจะเกิดจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จึงขอให้ข้าราชการทุกคนวางตัวเป็นแบบอย่างในความถูกต้องและโปร่งใส ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ทำงานให้กับคนไทยทุกฝ่าย ทั้งนี้ เราจะทำทุกอย่างให้ปรองดองสมาน ฉันท์สำเร็จ 

กรมประชาฯเด้งตีปี๊บปรองดอง
     ด้านนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า เราเน้นย้ำถึงสถานีวิทยุกระจายเสียงฯ และโทรทัศน์ทุกช่อง รวมถึงโซเชี่ยลมีเดีย ให้ระวังการนำเสนอข่าวและประกาศต่างๆ อย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งทางกรมได้จัดโครงการต่างๆเพื่อตอบโจทย์เรื่องปรองดองสมานฉันท์ ได้ตั้งศูนย์ประสานงานในการประชาสัมพันธ์ส่วนกลาง ที่กรมประชา สัมพันธ์ และส่วนภูมิภาค 8 เขต และประชาสัมพันธ์จังหวัดทุกจังหวัดก็พร้อมสนับสนุนนโยบาย ประสานกับจังหวัด กอ.รมน.จังหวัดทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนกรุงเทพฯ มีกิจกรรมดนตรีในสวนทุกวันพฤหัสบดี
      ต่อมาเวลา 10.30 น. ม.ล.ปนัดดาเป็นประธานประชุมซักซ้อมความเข้าใจการเสนอหนังสืองบประมาณของส่วนราชการทุกกระทรวงต่อหัวหน้าคสช. โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมพร้อมเพรียง ทั้งนี้ ม.ล.ปนัดดาเสนอ 8 มาตรการให้ข้าราชการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เพื่อนำไปสู่การปฏิรูประบบราชการเต็มรูปแบบ ประกอบด้วยการสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในการให้บริการประชาชน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง การพัฒนาองค์กรให้มีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย เน้นความเป็นมืออาชีพ คล่องตัว การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารทรัพยากรภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดความสิ้นเปลือง

'พล.อ.สกล'เข้าพบ"พล.ต.อ.อดุลย์"
      เวลา 10.30 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า พล.ท.อักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปงานการข่าวทั้งทหารและในส่วนของทำเนียบรัฐบาล 
      พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ซึ่ง คสช.มอบให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า คสช. (ศปก.คสช.) เพื่อประสานงานด้านการข่าว งานด้านบริการ เพื่อช่วยการทำงานของพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษนั้น ได้เดินทางเข้าพบพล.ต.อ.อดุลย์ ที่ห้องทำงาน ตึกบัญชาการ 2 ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเข้ามาดูแลงานด้านใดหรือเฉพาะงานด้านการข่าวอย่างเดียว พล.อ.สกลกล่าวสั้นๆ ว่า มาช่วยงานพล.ต.อ.อดุลย์
      ที่รัฐสภา นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยว่า จากกรณีสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภานำความขึ้นกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งว่าที่ประธานวุฒิสภาคนใหม่ หลังจากนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา เมื่อวันที่ 9 พ.ค.นั้น สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้รับเรื่องคืนจากสำนักราชเลขาธิการแล้ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่เป็นอำนาจหน้าที่ของวุฒิสภาที่ค้างอยู่คือการทูลเกล้าฯ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นกรรมการป.ป.ช. ตามที่วุฒิสภาให้ความเห็นชอบ รวมทั้งนายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นประธานศาลรัฐธรรมนูญ แทนนายจรูญ อินทจาร ที่ลาออกก่อนครบวาระ ซึ่งขณะนี้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาส่งทั้ง 2 เรื่องไปยัง คสช.แล้ว


ปิดวิทยุ - ทหารและ สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ตรวจยึดเครื่องส่งกระจายเสียงที่สถานีวิทยุชุมชน คลื่นเอฟเอ็ม 104.50 เมกะเฮิร์ตซ์ ตามประกาศ คสช.ที่ให้วิทยุชุมชนยุติออกอากาศกระจายเสียง โดยเข้าตรวจยึดทั้งหมด 17 สถานีใน อ.ท่าบ่อ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.


ดาราฮังเกอร์เกมส์หนุนไทยชู3นิ้ว
       วันเดียวกัน สกายนิวส์รายงานว่า นาตาลี ดอร์เมอร์ ดาราดังเป็นที่รู้จักในบทบาท 'แอนน์ โบลีย์น'จากซีรีส์ เดอะ ทิวดอร์ ล่าสุดรับบทมาเจอรี ไทเรลล์ ในซีรีส์ดัง 'เกม ออฟ โธรนส์' หนึ่งในนักแสดงที่ร่วมเล่นภาพยนตร์เรื่องเดอะ ฮังเกอร์เกมส์ สนับสนุนการชูสามนิ้วของกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารในประเทศไทย โดยระบุในงานประกาศรางวัลแกลมอร์ วีเมน ออฟ เดอะ เยียร์ อวอร์ดส ว่า เป็นเรื่องน่าทึ่งมาก ที่ผู้ประท้วงเลือกใช้สัญลักษณ์ในการต่อต้านรัฐประหาร 'สิ่งที่ประชาชนเลือกทำเพื่อต่อต้านผู้ที่กดขี่ ซึ่งแสดงออกในเชิงบวกนั้น ไม่สามารถนำมาวิจารณ์ได้ ถ้าสิ่งนั้นช่วยพวกเขาได้สิ่งนั้นถือเป็นสิ่งที่ดี'
      ด้านแซม คลาฟลิน นักแสดงอีกคนในเรื่องเดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ในบทฟินนิก โอแดร์ ระบุว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะลืมว่าภาพยนตร์มีความสำคัญเพียงใด และมีคนที่รับฟังสิ่งที่ภาพยนตร์พยายามสื่อมากเพียงใด โดยในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวสัญลักษณ์การชู 3 นิ้วเป็นสัญลักษณ์การต่อต้านการอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ
       ทั้งนี้ พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค คณะทำงานโฆษก คสช. ระบุว่า รัฐบาลกำลังจับตาดูสถานการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาล และจะดำเนินการจับกุมต่อเมื่อมีการแสดงท่าทางดังกล่าวเป็นหมู่มากเท่านั้น ดังนั้น คาดว่าผู้ที่โพสต์ภาพลงบนอินเตอร์เน็ตจะไม่ถูกจับ

 

โพลชี้ปรองดองได้-ต้องให้อภัย
       สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจในหัวข้อ ?สร้างความปรองดองอย่างไรจึงจะเกิดผล? จากกลุ่มตัวอย่าง 1,409 คนทั่วประเทศ วันที่ 2-5 มิ.ย. พบว่าร้อยละ 91.89 เห็นว่าต้องเริ่มจากการให้อภัย ลดทิฐิ ถอยคนละก้าว หยุดทะเลาะ และเห็นแก่ประโยชน์บ้านเมืองเป็นสำคัญ ร้อยละ 90.08 เห็นว่าต้องปลูกฝังสร้างจิตสำนึกให้คนไทยมีความรักสามัคคี น้อมนำพระราชดำรัสในหลวงมาใช้ดำเนินชีวิต ร้อยละ 84.64 เห็นว่าจัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์สร้างความสามัคคี เริ่มจากชุมชนหรือที่ทำงาน 
      ร้อยละ 83.13 เห็นว่าควรจัดให้มีการเลือกตั้งอย่างถูกต้องโปร่งใสตามระบอบประชาธิป ไตย ร้อยละ 81.92 เห็นว่าควรเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นจัดเวทีรับฟังความเห็นทั่วประเทศ เพื่อนำมาสรุปเป็นแนวทางทำงาน และร้อยละ 73.76 เห็นว่าอยากให้ คสช.ดูแลบ้านเมืองต่อไปจนกว่าบ้านเมืองจะสงบเรียบร้อยและได้แนวทางบริหารบ้านเมืองที่ชัดเจน

บัวแก้วถกเวียดนาม-กห.โร่หารือจีน
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมผู้แทนผบ.สส.และ ผบ.เหล่าทัพ จะเดินทางไปเยือนกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 11-13 มิ.ย.นี้ เพื่อสานต่อความร่วมมือด้านการทหาร การฝึก การศึกษาและการพัฒนาด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ 
      แหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า กระทรวงกลาโหมจีนยังพร้อมสานต่อความสัมพันธ์ทางด้านทหาร เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยทำหน้าที่ผู้ประสานในประเด็นข้อพิพาททะเลจีนใต้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ จีน แสดงท่าทีเข้าใจปัญหาการเมืองในไทยและมองว่าเป็นปัญหาภายในประเทศ จีนไม่เข้ามาแทรกแซง 
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หารือทวิภาคีกับนายฝ่าม บิงห์ มิงห์ รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศของเวียดนาม ที่กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยใช้เวลา 30 นาที
      นายสีหศักดิ์เปิดเผยหลังการหารือว่า ได้เล่าให้เวียดนามทราบถึงสถานการณ์ของไทยและชี้แจงสาเหตุที่ คสช.จำเป็นต้องเข้ามารักษาความสงบ และบริหารประเทศชั่วคราว เพื่อให้ประเทศไทยกลับเข้าสู่ความมั่นคงทางการเมือง ซึ่งเวียดนามห่วงใยและติดตามสถานการณ์ในไทยโดยยึดหลักไม่แทรกแซงกิจการภายใน ทั้งนี้ ได้ขอให้เวียดนามสนับสนุนไทยในเวทีต่างๆ อาทิ การประชุมอาเซียน-ยุโรป เนื่องจากมีบางประเทศกดดันไทยและลดระดับความสัมพันธ์ โดยขอให้คำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาวกับไทย มั่นใจว่าประเทศในอาเซียนจะเข้าใจประเทศ ไทย 

เตรียมบินพม่า-พูดคุยปธ.อาเซียน
      นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวเพื่อก่อตั้งองค์กรต่อต้านรัฐประหารของนายจักรภพ เพ็ญแข ในต่างประเทศว่า กระทรวงได้ทำความเข้าใจและประสานกับประเทศทั้งในและนอกอาเซียน โดยแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์ภายในและการดำเนินการภายใต้โรดแม็ป 3 ขั้นตามที่หัวหน้า คสช.ได้ประกาศไว้ พร้อมยืนยันว่าเป้าหมายของไทยคือการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งและประชาธิปไตย 
       เราหวังว่ามิตรประเทศจะเข้าใจและไม่เปิดให้ใครใช้ประเทศของเขาเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของไทย ซึ่งเท่าที่พูดคุยกับเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆ ในทุกภูมิภาค ได้รับคำตอบที่แสดงถึงความเข้าใจอันดีและจุดยืนที่จะไม่ให้ใครใช้ประเทศของเขาเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมืองเช่นกัน? นายเสขกล่าว
      นายเสข เปิดเผยว่า หลังจากเยือนเวียดนาม ปลัดกระทรวงการต่างประเทศจะไปพม่าในวันที่ 7-10 มิ.ย.นี้ เพื่อร่วมประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนและการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีผู้แทนจากประเทศคู่เจรจาของอาเซียนกว่า 20 ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน อินเดีย สหรัฐ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และรัสเซีย เข้าร่วมด้วย โดยจะใช้โอกาสนี้ชี้แจงถึงพัฒนาการเมืองไทย รวมถึงหารือกับเจ้าหน้าที่อาวุโสของประเทศต่างๆ ด้วย

ส่งศพคลองผดุงฯตรวจหาดีเอ็นเอ
      เมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.สมคิด สมบูรณ์ พงส.ผนพ.สน.นางเลิ้ง เปิดเผยความคืบหน้าหลังจากพบโครงกระดูกมนุษย์ ที่ถูกยัดใส่ผ้าใบไนลอนสีฟ้า ถูกทิ้งไว้ในคลองผดุงกรุงเกษมว่าหลังเกิดเหตุได้นำชิ้นโครงกระดูกของผู้เสียชีวิตที่พบส่งไปที่สถาบันนิติเวช เพื่อตรวจหาดีเอ็นเอ และตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิต หรือร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายว่ามีหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ตรวจสอบไปตามสน.ต่างๆ ว่ามีการแจ้งคนหายหรือไม่ ในส่วนพบบัตรพนักงานของธนาคารธ.ก.ส. ระบุชื่อ นายชาญศิริ ชาวนาใต้ ที่พบในน้ำบริเวณใกล้เคียงกับศพ จากการตรวจสอบทราบว่า นายชาญศิริ ยังมีชีวิตอยู่และทำงานอยู่ที่การประปานครหลวงขณะนี้ และก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความว่าตนถูกทุบกระจกรถ และถูกคนร้ายขโมยเอาทรัพย์สินไป เหตุเกิดในพื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ ซึ่งเป็นไปได้ว่าคนร้ายหลังจากที่ขโมยทรัพย์สินของนายชาญศิริไปแล้ว ได้นำบัตรต่างๆ ไปทิ้งไว้ที่คลองผดุงกรุงเกษม
       ด้านพ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สส.น.1 เผยว่า หลังเกิดเหตุได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สน.นางเลิ้ง ทำงานร่วมกันและให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดต่างๆ บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจหาความผิดปกติ ต้องมีการพิสูจน์ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใครก่อน และผู้ใดสงสัยว่าญาติของตนเองหายไปขอให้มาพบพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอและทำภาพเชิงซ้อน และสอบสวนว่าผู้ตายเป็นใครทำงานอะไรก่อน ถึงจะทราบว่าเหตุใดจึงเสียชีวิตอยู่บริเวณนี้ 

เผยพบอีกศพลักษณะเดียวกัน 
      ขณะเดียวกัน กำลังตรวจสอบเหตุที่มีลักษณะคล้ายกัน ก่อนหน้านี้ที่ สน.นางเลิ้ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา บริเวณใต้สะพานผ่านฟ้าฯที่พบศพถูกยัดใส่ถุงผ้าใบไนลอนสีฟ้าและมีการมัดด้วยเชือกไนลอน และใช้กระสอบทรายผูกถ่วง สภาพศพเป็นชายอายุประมาณ 40-45 ปี ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ชายโครงซ้าย 6 แผล สภาพศพขึ้นอืด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วัน ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการห่อหุ้มศพคล้ายกัน ขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร
       ด้านพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผช.ผบ.ตร. และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ. ช่วยราชการรอง ผบช.น. กำลังเร่งดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะได้ข้อสรุปว่าเป็นใคร เกี่ยวพันกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นหรือไม่
       ด้านพล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า ผู้ตายจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.บริเวณดังกล่าวหรือไม่นั้น เบื้องต้นต้องพิสูจน์ทราบก่อนว่าศพของผู้ตายเป็นใคร แต่ศพดังกล่าวค่อนข้างเน่า จึงต้องส่งให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบทั้งดีเอ็นเอ ถ่ายภาพเชิงซ้อน รวมถึงสถานที่เกิดเหตุอยู่ใกล้ที่ชุมนุม ซึ่งคนทำจะเป็นผู้ชุมนุมหรือกลุ่มที่ไม่ได้มาร่วมชุมนุมก็ต้องรอผลการตรวจสอบจากศพดังกล่าวก่อน โดยยังไม่พบวัตถุพยานหลักฐานอย่างนกหวีด จะต้องหาให้พบว่าผู้ตายเป็นใคร จึงหาต่อไปได้ว่าใครทำให้ตาย
       ด้านพล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.น. ดูแลงานสอบสวน กล่าวว่า ส่วนความเชื่อมโยงกับศพรายอื่นๆ ที่เสียชีวิตนั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบว่ามีการเชื่อมโยงกันหรือไม่ เพราะต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ก่อน ต้องพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นใคร เพื่อหาหลักฐานความเชื่อมโยงกรณีราย อื่นๆ ที่เสียชีวิตต่อไป

สั่งล่าตัว'ตั้ง อาชีวะ-โกตี๋-โรส'
     พล.ต.อ.เอกเผยกรณีคดีที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบันว่า พล.ต.อ.วัชรพลเน้นย้ำกำชับการปฏิบัติให้ฝ่ายสืบสวน ซึ่งคดีส่วนใหญ่คดีดังกล่าวได้ออกหมายจับไว้แล้ว อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่าผู้ต้องหาตามหมายจับอย่างนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ และนายเอกภพ เหลือรา หรือตั้ง อาชีวะ อยู่ในประเทศไทยหรืออยู่ต่างประเทศ ซึ่งหากอยู่ต่างประเทศก็ต้องดำเนินการโดยให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนจะต้องประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงเพื่อเร่งรัดจับกุม
     เมื่อถามว่า นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหารายอื่นๆ คดีหมิ่นสถาบัน โดยคสช.มีคำสั่งให้รายงานตัวเพิ่มอย่าง น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส มีความคืบหน้าอย่างไร พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ถ้ายืนยันได้แน่ชัดว่าอยู่ในพื้นที่แห่งไหนหรือประเทศใด เจ้าหน้าที่ตำรวจมีขั้นตอนการดำเนินการของการส่งผู้ร้ายข้ามแดน รวมถึงประสานความร่วมมือในการดำเนินคดีอาญากับตำรวจสากล ทั้งนี้ พล.ต.อ. วัชรพลได้สั่งการกำชับให้ใช้ทุกมาตรการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้

'รังสรรค์'ให้ปากคำคดีจำนำข้าว
      เมื่อเวลา 08.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะพยานโครงการจำนำข้าว ได้มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมประกอบสำนวนการดำเนินคดีอาญาต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กรณีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตโครงการดังกล่าวโดยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการตามที่มีอำนาจหน้าที่
      ปลัดกระทรวงการคลัง มาถึงก่อนเวลาที่ ป.ป.ช.นัดกว่า 1 ชั่วโมง และเลี่ยงใช้ประตูทางเข้าด้านหลังแทน ซึ่งบุคคลที่มีรายชื่อเป็นพยานในคดีเดียวกันที่เข้าให้ถ้อยคำต่อ ป.ป.ช.ก่อนหน้านี้ก็หลบเลี่ยงการให้สัมภาษณ์เช่นกัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า ป.ป.ช.ได้ขอความร่วมมือพยานทุกรายงดให้สัมภาษณ์ และข้อมูลแก่สื่อมวลชนในกรณีดังกล่าว
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรังสรรค์ ถือเป็นพยานปากที่ 3 ที่ป.ป.ช.มีมติให้ไต่สวนเพิ่มเติม และวันที่ 6 มิ.ย. ป.ป.ช.จะนัดไต่สวนพยานปากสุดท้าย คือผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จากนั้น ป.ป.ช.จะประชุมเพื่อกำหนดแนวทางการไต่สวนอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร ต่อไป

ปปช.ตั้งกก.สอบทรัพย์สินปู-5 รมต.
      เวลา 13.00 น. นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. แถลงว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จำนวน 5 รายคือ 1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ 2.นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ 3.นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ 4.นายยรรยง พวงราช อดีตรมช.พาณิชย์ และ 5.นายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ โดยมอบให้นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานอนุกรรมการ และให้ประสานข้อมูลจากคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
     เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินฯ ของคนใกล้ชิด 5 อดีตรัฐมนตรีด้วย นายวรวิทย์กล่าวว่า หากปรากฏว่ามีการเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกันก็ตรวจ สอบได้
      เมื่อถามว่า สำนักข่าวแห่งหนึ่งเสนอข่าวตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดนาฬิกาเรือนละ 2.5 ล้านบาทที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2556 จึงไม่ปรากฏในบัญชีทรัพย์สินฯ ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. นายวร วิทย์กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ให้สำนักงาน ป.ป.ช.ตรวจสอบและให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งชี้แจงครั้งสุดท้ายวันที่ 16 พ.ค. สำนักงาน ป.ป.ช.ได้สรุปพร้อมความเห็นแล้ว คาดว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะพิจารณาเรื่องนี้ในการประชุมวันที่ 19 มิ.ย.นี้

ไม่สอบทรัพย์สินคสช.-อ้างไม่มีกม.
        รองเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า ส่วนการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินฯ ของครม.ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีพ้นจากตำแหน่งวันที่ 7 พ.ค. และวันที่ 22 พ.ค. ซึ่งครบกำหนดวันยื่นบัญชีในวันที่ 5 มิ.ย. และวันที่ 20 มิ.ย.นั้น คาดว่าจะเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ต้นเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งปรากฏว่ามีรัฐมนตรี 3 คนที่พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 7 พ.ค. โดยยังไม่มายื่นแสดงบัญชีฯ ต่อ ป.ป.ช. ได้แก่ 1.นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ 2.นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกฯและรมว.คลัง 3.พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกฯ หากไม่ยื่นภายในวันที่ 5 มิ.ย. ต้องมีหนังสือชี้แจงป.ป.ช.ว่ามีเหตุผลจำเป็นอย่างไร และป.ป.ช.จะพิจารณาว่าเหตุผลสมควรหรือไม่ หรือจงใจปกปิดบัญชีทรัพย์สินฯหรือไม่
     นายวรวิทย์ กล่าวถึงกระแสข่าวในโซเชี่ยลมีเดียเรียกร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบทรัพย์สิน ของคสช.ว่า กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ คสช.ยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินฯ ต่อป.ป.ช. ดังนั้น ป.ป.ช.จึงไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะไม่ใช่อำนาจหน้าที่
    ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ที่ปรึกษาและเลขานุการ คสช. เข้าพบนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายวิชา มหาคุณ และนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป.ป.ช. เพื่อสอบถามข้อมูลโครงการรับจำนำข้าวและโครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ซึ่งสอดคล้องกับกรณีคสช. เตรียมตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการเข้าตรวจสอบสต๊อกข้าวทั่วประเทศ โดยการหารือใช้เวลานาน 1 ชั่วโมง

จักรทิพย์ให้3แสนตัดชุดอคฝ.หญิง
      เมื่อเวลา 16.00 น. ที่บช.น. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร. รรท.ผบช.น. พร้อมพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.ศ. ช่วยราชการบช.น. รองผบช.น. ประชุมมอบนโยบายให้ระดับผกก.-ผบก. สังกัดบช.น. โดยมอบเงิน 300,000 บาทให้กับ พล.ต.ต.ลือชัย สุดยอด ผบก.อคฝ. นำไปใช้ตัดชุดเครื่องแบบให้กองร้อย อคฝ.หญิง
      พล.ต.ท.จักรทิพย์ เผยว่า การประชุมวันนี้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมคือให้ทำงานร่วมกับทหารได้ตามสถานการณ์ ส่วนนโยบายความมั่นคงนั้นทุกอย่างมีการวางแผนไว้เป็นระบบอยู่แล้ว ต้องดูสถานการณ์ด้านการข่าวที่มีการชุมนุม ส่วนการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารในวันที่ 8 มิ.ย.นั้น ต้องดูสถานการณ์ จากการข่าวขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะชุมนุมบริเวณใด แต่ตรวจสอบพบว่ากลุ่มชุมนุมพยายามหาพื้นที่ใหม่ที่จะชุมนุมได้สะดวก โดยลงจากรถไฟฟ้าแล้วเดินเข้าห้างสรรพสินค้าได้ทันที ซึ่งง่ายต่อการเคลื่อนย้ายไปอีกจุดหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่บล็อกพื้นที่ชุมนุมไว้ก็จะใช้รถไฟฟ้าเคลื่อนที่ไปโดยใช้ห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก ทั้งนี้ จะประชุมความมั่นคงร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในวันที่ 6 มิ.ย. เวลา 10.30 น.

เผยบ.ก.ลายจุดโดนจับแล้ว
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กเมื่อช่วงค่ำวันเดียวกันว่า?ผมถูกจับ? ซึ่งมีแฟนเพจเข้าไปแสดงความเห็นกันมาก ต่อมามีรายงานข่าวสำหรับทีมที่เข้าจับกุมตัวนายสมบัติ ได้แก่พล.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ อดีตผบก.ปทอ. โดยจับกุมได้ที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี และนำตัวนำส่งร.21รอ. ค่ายนวมิน ทราชินี จ.ชลบุรี