วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8584 ข่าวสดรายวัน

'ชัชชาติ'กลับบ้าน ปล่อยตัว นิวัฒน์ 5 รมต.ด้วย 
ปึ้ง-ปุ้ม-ภูมิธรรม-ปลอด แรมโบ้โฮซบแม่-ล้างมือ เรียกพบอีกอื้อ-โคทมด้วย ปิดถนนสกัดม็อบสาวรีย์


ลานโพธิ์ - ศนปท.จัดกิจกรรมทวงคืนลานโพธิ์ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านการรัฐประหาร โดยมีนิสิต นักศึกษาและประชาชนจำนวนมากเข้าร่วม ที่ลานโพธิ์ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 

        ตร.-ทหารตรึงอนุสาวรีย์ชัยฯปิดทางม็อบ ปรากฏว่าไร้เงาไม่มีผู้มาชุมนุมตามที่คาดไว้ ขณะเดียวกันนิสิตนักศึกษาก็ยึดลานโพธิ์ธรรมศาสตร์ต้านรัฐประหารเจอผู้บริหารมหาวิทยาลัยสั่งห้ามกลุ่มสันติวิธีนัดรวมตัวสกายวอล์กช่องนนทรีอ่านหนังสือ 1984 ต้านคสช. ปล่อยตัวแล้วอดีตรัฐมนตรี-นักการเมืองแกนนำพรรคเพื่อไทยที่เรียกไปควบคุมตัว ทั้ง"นิวัฒน์ธำรง-สุรพงษ์-ชัยเกษม-ชัชชาติ-สุรนันทน์-เด็จพี่-ภูมิธรรม" ขณะเดียวกันก็เรียกรายงานตัวเพิ่มอีก 17 คน ส่วนใหญ่เป็นแกนนำเสื้อแดงในต่างจังหวัดและผู้นำมวลชนพรรคประชาธิปัตย์ ตร.นำจ่าประสิทธิ์ฝากขังคดีมาตรา 112 ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ด้านจาตุรนต์อยู่ในแดนแรกรับ เรือนจำส่ง "เจ๋ง ดอกจิก" มาคอยดูแลเป็นเพื่อน 

บิ๊กตู่ประชุมติดตามสถานการณ์

     เมื่อวันที่ 29 พ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ร่วมกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก เพื่อสรุปและติดตามสถานการณ์ประจำวัน พร้อมทั้งเป็นประธานประชุม คสช.เป็นครั้งแรกภายในบก.ทบ. มีหัวหน้าส่วนราชการและคณะที่ปรึกษาบางรายเข้าร่วมการประชุมด้วย 
      ส่วนการประชุมคณะที่ปรึกษา คสช.ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน เพื่อจัดส่วนงานกำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบการบริหารงานนั้น ได้ยกเลิกกะทันหัน เนื่องจากที่ปรึกษาบางคนติดภารกิจ อาทิ พล.อ.ประวิตรติดภารกิจเดินทางไป จ.สระแก้ว เพื่อมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในพื้นที่ตามโครงการมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด นายวิษณุ เครืองาม ติดประชุม
       สำหรับภารกิจของรองหัวหน้า คสช.นั้น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. จากเดิมที่มีกำหนดไปมอบนโยบายให้ข้าราชการที่กระทรวงการต่างประเทศนั้น ได้ยกเลิกเนื่องจากติดภารกิจที่กองทัพไทย ขณะที่พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ประชุมการปฏิรูประบบการศึกษาที่กระทรวงศึกษา ธิการ ด้านพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. มอบนโยบายให้ข้าราชการที่กระทรวงพาณิชย์ ส่วนพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อประชุมคณะกิจการพิเศษ 

'วีรพัฒน์'แถลงรายงานตัวไม่ได้
       ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คสช.ได้ย้ายศูนย์ประสานงานสื่อมวลชน จากเดิมตั้งอยู่ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดีรังสิต มายังหอประชุมกองทัพบกเทเวศร์ เป็นวันแรก และในวันนี้ คสช.มีคำสั่งให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติมคือ นาย วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระด้านกฎหมาย เข้ารายงานตัวตั้งแต่เวลา 10.00-10.30 น. แต่คืนวันที่ 28 พ.ค.นายวีรพัฒน์แถลงข่าวผ่านโซเชี่ยลมีเดียว่าขณะนี้อยู่ประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อนมีการยึดอำนาจ มีคนร้ายยิงใส่บ้านพักจึงเกรงเรื่องความไม่ปลอดภัยของตนและครอบครัว รวมถึงมีภารกิจบรรยายตามมหา วิทยาลัยต่างๆ ในอังกฤษ ทำให้ไม่สามารถมารายงานตัวได้ 
      เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะหัวฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ได้เรียกอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย นักการเมือง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จำนวน 36 คน ที่ถูกทหารควบคุมตัวตามประกาศ คำสั่งเรียก และบุคคลที่ปล่อยให้กลับบ้านไปแล้วมาให้ข้อมูลเพิ่มต่อคสช. และปรับทัศนคติทำความเข้าใจร่วมกันก่อนปล่อยตัวกลับบ้าน 

เผยรายชื่ออดีตรมต.ถูกปล่อยตัว
      สำหรับบุคคลดังกล่าว ประกอบด้วย นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายโภคิน พลกุล นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายประชา ประสพดี นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นาย สุรชาติ ลายน้ำเงิน และนายวรชัย เหมะ 
      นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกูล นายสาโรจน์ หงษ์ชูเวช นายวรพงษ์ ตันติเวชยานนท์ นายอดิสร ผลลูกอินทร์ นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ นายจิรายุส ทรงยศ นายทยากร ยศอุบล นายสมศักดิ์ เกียรติพันชัย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจุรีพร สินธุไพร นายอดิศร เพียงเกษ นายสำเริง ประจำเรือ นายภูมิ สาระผล นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย นายศักดา คงเพชร นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ นายปลอดประสพ สุรัสวดี นาย จิรายุ ห่วงทรัพย์ และน.ส.ขัตติยา สวัสดิผล

'ภูมิธรรม'กลับถึงบ้าน-โพสต์แจง
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.50 น. นายภูมิธรรมโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวภายหลัง คสช.ปล่อยตัวว่า "ผมถูกปล่อยตัวกลับถึงบ้านเรียบร้อย ได้รับการปฏิบัติด้วยดีตามอัตภาพ ขอบคุณทุกความห่วงใย จากนี้ต้องใช้ชีวิตตามเงื่อนไข คสช.เช่นทุกคน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศจะเดินไปข้างหน้า นำพาความสงบสุขกลับมาสู่สังคมไทยโดยเร็ว"
       ต่อมาเวลา 14.45 น. นายภูมิธรรมโพสต์ข้อความอีกครั้งหลังจากมีประชาชนจำนวนมากทวีตถามถึงชีวิตความเป็นอยู่ตามอัตภาพนั้นหมายความว่าอย่างไรว่า ไม่มีอะไรต้องตีความ ตรงไปตรงมา ช่วยกันวาดหวัง ช่วยกันให้สังคมไทยสงบสุข ประเทศเดินหน้าโดยเร็ว
      จากนั้นนายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์ด้วยน้ำเสียงแจ่มใสและสดชื่นว่า เพิ่งได้รับการปล่อยตัว ตอนนี้ต้องทำตามเงื่อนไขของ คสช.คือห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และงดเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้ คสช.ทำงานกันไป ช่วงที่ถูกควบคุมตัวนั้นเข้าใจว่าอยู่ที่บ้านพักทหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ไม่รู้ว่าคือที่ไหน มีนายทหารระดับนายพันเป็นผู้ดูแล ซึ่งดูแลอย่างดี เจ้าหน้าที่น่ารักและสุภาพไม่ได้คุกคามหรือทำร้ายร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่จัดอาหารมาให้ครบทุกมื้อ แต่รับประทานไม่ค่อยลง และยังอนุญาตให้ครอบ ครัวนำยาที่ต้องใช้มาให้ด้วย ภายในบ้านพัก มีเพียงโทรทัศน์ 1 เครื่อง และไม่มีเครื่องมือสื่อสารใดๆ 
       เมื่อเวลา 21.00 น. กองทัพภาคที่ 2 ได้ปล่อยตัว'แรมโบ้อีสาน'นายสุภรณ์ อัตถาวงษ์ อดีตรองเลขาธิการนายกฯ แล้ว ที่บริเวณประตูทางเข้ากองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าตัวโผกอดแม่ที่มารอรับด้วยน้ำตาซึม ประกาศยุบอพปช. ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย และเลิกเล่นการเมืองตลอดชีวิต เผยต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข ขอไปเลี้ยงแม่ที่ชราภาพอยู่ที่บ้านอย่างคนทั่วไป

อดุลย์ใช้ทำเนียบเป็นที่ทำงาน
      ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ช่วงเช้า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ เรียกประชุมหน่วยงานในความรับผิดชอบ 20 หน่วยงาน ที่ทำเนียบฯ เป็นครั้งแรก หลังปิดร้างมานาน 7 เดือน จากนั้นเวลา 16.00 น. เดินทางกลับเข้ามาประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 
      พล.ต.อ.อดุลย์ เผยว่า ตนจะใช้ทำเนียบรัฐบาลเป็นสถานที่ทำงาน เพราะสะดวกและต่อไปคณะที่ปรึกษาต่างๆ คงทยอยกันเข้ามาทำหน้าที่ คาดว่าจะใช้ห้องทำงานที่ทำเนียบ ส่วนจะมีใครเข้ามาบ้างตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ จากนี้ตนจะเข้าทำงานที่นี่ทุกวัน
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดเตรียมสถานที่ได้มีเจ้าหน้าทหารทยอยเข้ามาดูสถานที่ที่ตึกบัญชาการ คาดว่าเตรียมห้องทำงานให้กับคณะที่ปรึกษาคสช.

'ปุ้ม-นิวัฒน์ฯ-เด็จพี่'ได้อิสรภาพ
      เมื่อเวลา 15.20 น. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางออกมาจากห้องประชุมจามจุรี โดยสวมเสื้อของกองทัพบก พร้อมโบกมือ ยิ้มทักทาย 
      ต่อมาเวลา 15.50 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้ปล่อยตัวนายประชา นายสุรนันทน์ นาย นิวัฒน์ธำรง นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตร และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ
      ทั้งนี้ บุคคลที่ถูกปล่อยตัวทหารได้นำตัวออกไปโดยไม่ได้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ท่าม กลางการรักษาความปลอดภัยของทหารอย่างเข้มงวด ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้นำตัวกลับไปส่งที่บ้านพักแล้วเมื่อเวลา 12.00 น. หลังจากควบคุมตัวครบ 7 วัน ตามพ.ร.บ. กฎอัยการศึก โดยไม่ได้นำตัวมาที่หอประชุมกองทัพบกเทเวศร์
      รายงานข่าวแจ้งว่านายพร้อมพงศ์ถูกกักตัวอยู่ในค่ายทหารแห่งหนึ่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารดูแล มีอาหารและผลไม้รับประทานครบทุกมื้อ ภายในบ้านพักมีทั้งโทรทัศน์และหนังสือธรรมะไว้ให้อ่าน รวมทั้งมีเครื่องออกกำลังกายไว้ให้ใช้ด้วย 
      รายงานข่าวแจ้งว่าบรรดารัฐมนตรีที่ถูกควบคุมไว้นั้น คสช.ได้ปล่อยตัวออกมาหมดแล้ว โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม ถูกคุมตัวในค่ายทหารในจ.ปราจีนบุรี ปล่อยตัวเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 28 พ.ค. ส่วนนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรมว.ยุติธรรม ถูกปล่อยตัวในวันเดียวกันนี้

คสช.สั่งรายงานตัวเพิ่ม-โคทมก็โดน
      วันเดียวกัน คสช.มีคำสั่ง ฉบับที่ 30/2557 เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ที่ห้องจามจุรี หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 30 พ.ค. เวลา 10.00-12.00 น. รวม 9 คน ได้แก่ 1.น.ส.อภิรดี สุพรรณ 2.นายประเสริฐ ทองนุ่น 3.นายสุนทร ลิ้มภิกุล 4.นายประวิทย์ ใจห้าว 5.นายอาน่า วิภูสมิทธ์ 6.นายณรงค์ แก้วพรพงศ์ 7.พ.ต.อ.พินิจ ไชยเสนีย์ 8.นายชัยมงคล เสน่หา 9.นายอนุศักดิ์ อนุการ


ออกตรวจ - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. และพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รรท.ผบช.น. ตรวจความเรียบร้อยกำลังทหารและตำรวจที่มาปิดล้อมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ป้องกันม็อบชุมนุมต้านรัฐประหาร เมื่อวันที่ 29 พ.ค.

      คำสั่ง ฉบับที่ 31/2557 ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติมวันที่ 30 พ.ค. เวลา 10.00-11.00 น. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ รวม 8 คน 1.นายสุวิชา พานิชผล 2.น.ส.สายลม กาบบัวแดง 3.นายโยธิน ศรีจันทร์เทพ 4.นพ.สง่า คุณยศยิ่ง 5.นางมณีรัตน์ โกทันต์ 6.ร.อ.ทองยศ มากสาคร 7.นพ.เชิดชัย ตันนิศิรินทร์ และ 8.นายปิยบุตร พรหมลักขโณ 
      นอกจากนี้ ในค่ำวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ยังเซ็นคำสั่งให้บุคคลรายงานตัวเพิ่มเติม เช่น นายโคทม อารียา นายอำนวย คลังผา นายสมนึก ธนเดชากุล นายนิติภูมิ นวรัตน์ เป็นต้น

ล้วนแกนแดง-ผู้นำมวลชนปชป.
      สำหรับผู้ถูกเรียกตัวตามคำสั่งที่ 30 และ 31 นั้น นายประเสริฐเป็นส.ก.เขตบางกะปิ นายประวิทย์ ใจห้าว ที่ปรึกษาชมรมทักษิณสัมพันธ์ นายอาน่า วิภูสมิธ กรรมการสมาคมชาวปักษ์ใต้ 6.นายณรงค์ แก้วพรพงษ์ กรรมการสมาคมชาวปักษ์ใต้ พ.ต.อ.(พิเศษ) พินิจ ไชยเสนีย์ กรรมการสมาคมชาวปักษ์ใต้ นายชัยมงคล เสน่หา นายกสมาคมศิษย์เก่ารามคำแหง เคยขึ้นเวที คปท. นายอนุศักดิ์ อนุการ กรรมการสมาคมศิษย์เก่ารามคำแหง
      นายสุวิชา พานิชผล กรรมการผู้จัดการ บ.พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) นพ.สง่า คุณยศยิ่ง เป็น นปช.ปราจีนบุรี ร.อ.ทองทศ มากสาคร อบจ.สระแก้ว แกนนำ นปช.สระแก้ว นางมณีรัตน์ โกธันต์ ประธาน นปช.สระแก้ว นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายปิยะบุตร พรหมลักขโณ อดีตรองนายก อบจ. จ.ขอนแก่น/ดีเจ. จัดรายการวิทยุชุมชนขอนแก่น
      รายงานข่าวเผยว่า รายชื่อบุคคลที่ คสช. มีคำสั่งเรียกรายงานตัวของ คสช.ฉบับ 30 และ 31 นั้นเป็นระดับแกนนำท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งซีกของเสื้อแดง และกปปส. ที่มีการนำมวลชนเคลื่อนไหวทางการเมือง 

ให้ทหารเป็นเจ้าหน้าที่กฎอัยการศึก
       คำสั่ง ฉบับที่ 32/2557 เรื่องแต่งตั้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก พ.ศ.2557 กำหนดเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารผู้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้บัญชาการสูงสุด เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึกทั่วราชาอาณาจักร กองทัพบก ผบ.ทบ.เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร แม่ทัพภาคหรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากแม่ทัพภาค เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึกตามเขตกองทัพภาค กองทัพเรือ ผบ.ทร.เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึกในเขตรับผิดชอบของกองทัพเรือ ผบ.กองเรือยุทธการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผบ.กองเรือยุทธการ เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึกในทะเล อาณาเขตที่รับผิดชอบ และ ผบ.กองเรือภาค หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก ผบ.กองเรือภาค เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึกในทะเลอาณาเขตที่รับผิดชอบ กองทัพอากาศ ผบ.ทอ.หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผบ.ทอ. เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึกในเขตที่รับผิดชอบของกองทัพอากาศ
       ประกาศ คสช. ฉบับที่ 33/2557 แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินหรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล หรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม ทั้งนี้ ได้แต่งตั้งคณะทำงาน ดังนี้ 1.อธิบดีกรมสรรพากร 2.เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด 3.เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 4.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยคณะทำงานมีอำนาจแต่งตั้งและมอบหมายเจ้าหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความเหมาะสม 

เตือนห้ามโพสต์ภาพพฤติกรรมทหาร
      เมื่อเวลา 12.00 น. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ พ.อ.วินธัย สุวารี พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง และ พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมกันแถลงถึงการประชุมคสช.กรณีที่มีกลุ่มต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อไป ซึ่งมีการทำลายทรัพย์สินทางราชการและฝ่าฝืนประกาศ คสช. ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ทั้งหมดต้องถูกดำเนินคดี เจ้าหน้าที่มีหลักฐานหมดแล้ว อยากฝากถึงประชาชนที่ไม่เข้าใจ เราอยู่ในช่วงเวลาไม่ปกติ จำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ให้สงบเรียบร้อย เพื่อให้งานอื่นๆ ได้ขับเคลื่อนต่อไปได้ 
      ทีมโฆษก คสช.กล่าวว่า ขณะนี้มีมาตรการที่เข้มข้นกว่าในช่วงสถานการณ์ปกติ การเข้าถึงผู้กระทำความผิดนั้นทำได้ง่ายและกำหนดโทษไว้อยู่แล้ว อยากฝากประชาชนให้ห้ามปรามญาติพี่น้องไม่ให้ทำผิดกฎหมาย ซึ่งการแสดงออกในช่วงนี้ไม่ว่าด้วยเจตนาใดๆ ข้อกำหนดคือไม่ให้ชุมนุมเกิน 5 คน ขอให้คำนึงถึงกฎระเบียบด้วย ส่วนการใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิร์กแพร่ภาพการกระทำใดๆ หรือการ กระทำต่อเจ้าหน้าที่ทหาร แม้จะเป็นภาพในอดีต แต่ถ้านำมาเผยแพร่ตอนนี้อาจเกิดความสับสนหรือกระทบความรู้สึกของคนใดคนหนึ่ง ตอนนี้อยู่ในช่วงสมานฉันท์ ไม่อยากให้ข่าวกระทบกับบุคคลอื่น จึงขอฝากไว้ด้วย

จับตาสื่อมีนัยยะแอบแฝงหรือไม่
      ทีมงานโฆษก คสช.กล่าวว่า กรณีเฟซบุ๊ก ล่มนั้น คสช.มีการดำเนินการเฉพาะเจาะจงเว็บไซต์สื่อสังคมที่ปลุกปั่นยุยงทำให้เกิดความขัดแย้ง ล่วงละเมิดสถาบันเท่านั้น เราดำเนินการอย่างต่อเนื่องและไม่มีแนวความคิดหรือนโยบายตัดระบบไม่ว่าเฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรมที่ประชาชนใช้สื่อสาร หากจำเป็นจะดำเนินการเฉพาะเว็บไซต์และเว็บเพจเท่านั้น ทั้งนี้ คสช.ได้ย้ำเตือนและมอบให้ส่วนราชการไปดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก หากจะดำเนินการอะไรจะแจ้งให้ประชาชนทราบทันที 
      ทีมงานโฆษกคสช. กล่าวว่า ส่วนที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยตัวแกนนำนปช.ที่บางสื่อไม่ได้นำเสนอตามสื่อส่วนใหญ่นั้น คสช.มองว่ามีนัยยะแอบแฝง และคสช.จะติดตามการทำงานของสื่อ เพื่อป้องกันความสับสนและคลาดเคลื่อน ส่วนศูนย์ปรองดองสมานฉันท์นั้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เป็นผู้ดำเนินการ

ย้ำไล่ล่าจับตัว'จารุพงศ์-หนูหริ่ง'
      เมื่อถามถึงบุคคลที่ยังไม่เข้ามารายงานตัวทั้งนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรมว.มหาดไทย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด จะดำเนินการอย่างไร ทีมโฆษกคสช. กล่าวว่า สิ่งแรกคือระงับธุรกรรมการเงิน และเจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวเนื่องจากผิดประกาศคำสั่ง ส่วนนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการนั้น ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการดำเนินคดี พนักงานอัยการกำลังทำสำนวนการฟ้องศาล อาจต้องใช้เวลาจึงต้องขออนุมัติฝากขังไปก่อน ในความผิดคดีอาญามาตรา 116 และฝ่าฝืนคำสั่งของประกาศ คสช. ผู้ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ กำลังประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระนั้น ขณะนี้ติดต่อมาแล้ว ระบุว่ามารายงานตัวไม่ทันเนื่องจากอยู่ต่างประเทศ ซึ่งคสช.เสนอไปว่าให้ทำหนังสือชี้แจงเพื่อให้ญาติมายื่นในรายละเอียดก่อน 
      พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า หัวหน้า คสช.มีแนวคิดจะสื่อสารและรายงานสถานการณ์และการทำงานของคสช.ให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งอยู่ระหว่างการกำหนดรูปแบบ ถือเป็นความตั้งใจของหัวหน้า คสช.ในฐานะเข้ามาบริหารประเทศ 
      ผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดการปัญหาทางการเมือง โดยเฉพาะกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไรเพราะยังมีความสำคัญทางการเมืองอยู่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า หัวหน้า คสช.ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ 

ทหารแจงสื่อตปท.สาเหตุปฏิวัติ
      ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย พล.ท. ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รองเสนาธิการทหารบก ชี้แจงต่อสื่อมวลชนต่างประเทศกรณีกองทัพไทยเข้ายึดอำนาจการปกครอง
      พล.ท.ฉัตรเฉลิม กล่าวว่า กองทัพไทยทราบดีว่าการยึดอำนาจและการบริหารแทนรัฐบาลนั้น เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ถูกตั้งข้อหากบฏได้ แต่กองทัพพิจารณาถี่ถ้วนแล้ว เพราะทนไม่ได้ที่จะเห็นความขัดแย้งทางการเมืองส่งผลกระทบด้านต่างๆ กองทัพจึงเสียสละออกมาทำเรื่องนี้ ยืนยันว่ากองทัพไม่ได้ทะเยอทะยานจะยึดอำนาจเพราะเรามีภารกิจต้องทำอีกมาก แต่เราจำเป็นต้องยุติสถาน การณ์ มิฉะนั้นประเทศจะย่ำแย่ ไม่ปลอดภัย คนไม่เคารพกฎหมายและออกมาทำร้ายตำรวจ ไม่เชื่อรัฐบาล สิ่งที่กองทัพทำจะช่วยยุติปัญหาและทำให้ประเทศก้าวหน้าไปได้ ยืนยันว่าจะมีการเลือกตั้งขึ้นแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเมื่อใด
        ผู้สื่อข่าวต่างชาติถามว่าไทยจะกลับมาใช้รัฐธรรมนูญได้เมื่อใดและจะมีโรดแม็ปแก้ปัญหาอย่างไร พล.ท.ฉัตรเฉลิมกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ เคยแถลงถึงแผนงานและการดำเนินการเรื่องนี้แล้ว แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะใช้เวลาเท่าใด เพราะไทยมีความขัดแย้งเกือบ 10 ปี และการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. เป็นโมฆะ เพราะฝ่ายที่ต่อต้านออกมาขัดขวาง ดังนั้น จะจัดเลือกตั้งได้อย่างไรถ้าประชาชนยังขัดแย้งกัน มีบางคนเสนอให้เลือกตั้งขณะที่ยังใช้กฎอัยการศึก แต่ขอถามว่าต่างประเทศยอมรับการเลือกตั้งท่ามกลางการใช้กฎอัยการศึกว่าเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมได้หรือไม่ ดังนั้น ในระยะแรก กองทัพต้องทำให้ประเทศสงบ และประชาชนมองเห็นถึงผลประโยชน์ของชาติแล้วจึงมีการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนเลือกฝ่ายที่ตัวเองสนับสนุน เป็นการเลือกตั้งที่ประชาคมโลกยอมรับ


วืดประกัน - จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีตส.ส.สุรินทร์ โอบกอดภรรยาและลูกสาว ระหว่างพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย นำตัวมาฝากขังศาลในคดีม. 112 ที่ศาลอาญา รัชดาฯ โดยศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว เมื่อ 29 พ.ค.


ยันไม่มีนโยบายเปิดเว็บ-เฟซ-ไลน์
      ผู้สื่อข่าวถามถึงกรอบเวลาดำเนินการของกองทัพตามโรดแม็ปที่จะนำประเทศกลับคืนสู่ความเป็นประชาธิปไตยได้จริง พล.ท. ฉัตรเฉลิมกล่าวว่า ต้องพิจารณาตามสถาน การณ์ ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น กองทัพยืนยันว่าโรดแม็ปที่จัดทำขึ้นเพื่อจัดการปัญหา ให้ประเทศสงบ
      หลังการชี้แจง นายเสข แถลงว่าคสช. ไม่มีนโยบายปิดเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และไลน์ นอกจากนี้ ยังทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเชิญบุคคลเข้ารายงานตัว ไม่มีใครถูกควบคุมตัวในบ้านพักเกิน 5 วัน กรณีของน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เดินทางกลับในวันที่ 23 พ.ค. ซึ่งเป็นวันที่ไปรายงานตัว 
      เมื่อถามถึงคสช.มอบให้กระทรวงการ ต่างประเทศไปดำเนินคดีกับนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความชาวต่างชาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้น นายเสขกล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานจากกองทัพ 
     นายเสข กล่าวถึงนานาประเทศออกคำเตือนหรือคำแนะนำการเดินทางมาไทยว่า ขณะนี้มี 50 ประเทศออกคำแนะนำเดินทางมายังไทย ซึ่งในจำนวนนี้ มี 39 ประเทศออกแถลงการณ์เป็นห่วงสถานการณ์ในไทย และมี 17 ประเทศ ประกาศเตือนให้หลีกเลี่ยงการมาไทย มีสหรัฐประเทศเดียวที่ออกมาตรการตอบโต้ทางการทหาร

ไอซีทีบินถกผู้บริหารเฟซบุ๊ก-ไลน์
       ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที)พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงไอซีที และรองหัวหน้าคณะทำงานกำกับดูแลการใช้อินเตอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ เปิดเผยว่าในสัปดาห์หน้า กระทรวงไอซีทีจะส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปยังสิงคโปร์ เพื่อขอพบผู้ให้บริการเฟซบุ๊ก และ กูเกิ้ล รวมทั้งเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อพบผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นแชตไลน์ (Line) ขอความร่วมในการตรวจสอบผู้ใช้บริการที่มีพฤติกรรมในการเผยแพร่ข้อความในเนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมายใน 2 ประเด็นหลัก คือ การหมิ่นสถาบัน และยั่วยุทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง ตลอดจนชี้แจงเหตุผลในการขอความร่วมมือ หากต้องระงับการใช้เฟซบุ๊กและไลน์เป็นรายบุคคล 
      พล.ต.ต.พิสิษฐ์กล่าวว่ากระทรวงไอซีทีจำเป็นต้องมอนิเตอร์และตรวจสอบการใช้งานเฟซบุ๊ก และไลน์ รวมถึงสื่อออนไลน์เป็นรายบุคคล โดยเฉพาะบุคคลที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษตามคำสั่งของ คสช.หากพบว่าหน้าเพจใด หรือไลน์กรุ๊ปใด มีเนื้อหาหมิ่นเบื้องสูง การยุยงปลุกปั่นเพื่อให้แตกความสามัคคีของคนในประเทศจะระงับการใช้ทันที ที่ผ่านมาไอซีทีได้ปิดแอ๊กเคาต์เฟซบุ๊กไปแล้วเป็นจำนวนตัวเลข 2 หลัก และเพจต่างๆ ที่มีเนื้อหาขัดต่อคำสั่งคสช. อีกกว่า 100 เพจ ซึ่งต่อจากนี้จะตรวจสอบการใช้งานไลน์ โดยเฉพาะที่มีการตั้งเป็นกลุ่มๆ ให้มากขึ้น เพราะเป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้เกิดการชุมนุมต่อต้านการทำงานของคสช. 
      วันเดียวกันนี้ ยังได้เชิญผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ไอเอสพี) มาหารือ เพื่อสร้างความเข้าใจจากกรณีที่ผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กในไทยไม่สามารถใช้งานเฟซบุ๊กทั่วประเทศได้ในช่วงเวลาประมาณ 15.00-17.00 น.ของวันที่ 28 พ.ค. ส่งผลให้ผู้ให้บริการเว็บไซต์ไทยเข้าใจผิดว่าเป็นคำสั่งของคสช. จึงขึ้นข้อความหน้าเพจเฟซบุ๊กว่าปิดชั่วคราวตามคำสั่งของ คสช. ทั้งนี้ทางไอซีทียืนยันว่าไม่ได้มีการ สั่งระงับ แต่พบว่ามีการใช้งานมากกว่าปกติ ทำให้การเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศมีปัญหา

เรือนจำส่ง'เจ๋ง ดอกจิก'ดูแล'อ๋อย'
      วันเดียวกัน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการควบคุมตัวนายจาตุรนต์ว่านายจาตุรนต์ถูกส่งตัวเข้าแดนแรกรับของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ การควบคุมตัวจะดำเนินการตามระเบียบปกติของเรือนจำ ไม่ได้สั่งการให้ดูแลเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องอาหารการกินและการเข้าเยี่ยม ส่วนการย้ายไปควบคุมที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ยังไม่มีประเด็นให้พิจารณา เนื่องจากเรือนจำชั่วคราวหลักสี่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าเป็นสถานที่สำหรับควบคุมผู้ต้องขังคดีการเมือง แต่นายจาตุรนต์ถูกส่งเข้าเรือนจำฐานขัดคำสั่งคสช.
      ด้านนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กำกับงานด้านพัฒนาพฤตินิสัย กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการย้ายนายจาตุรนต์ไปควบคุมที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ว่ายังไม่มีประเด็นที่ต้องหารือไปยังคสช. เพราะเป็นการควบคุมตัวในชั้นสอบสวน 
      ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางจิราภรณ์ ฉายแสง ภรรยานายจาตุรนต์ ติดต่อว่าจะขอเข้าเยี่ยม แต่ขอเลื่อนเป็นวันที่ 30 พ.ค. ขณะนี้นายจาตุรนต์ถูกคุมขังอยู่ในแดนแรกรับ โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดให้อยู่แยกกับผู้ต้องขังรายอื่นก่อนเพื่อความปลอดภัย โดยนายจาตุรนต์มีสภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ และสภาพจิตใจดี ไม่มีอาการเครียด และไม่ได้ร้องขอเรื่องใดเป็นพิเศษ 
      รายงานข่าวระบุว่าเรือนจำจะจัดให้นาย ยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ผู้ต้องขังคดีหมิ่นเบื้องสูง มาคุมขังในแดนเดียวกับกับนายจาตุรนต์คอยช่วยดูแลเป็นเพื่อน เบื้องต้นคาดว่าหากต้องย้ายจากแดนแรกรับ นายจาตุรนต์อาจถูกแยกไปอยู่ในแดนการศึกษา เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับงานด้านการศึกษามาก่อน

'จ่าประสิทธิ์'ไม่ได้ประกันตัวคดี 112
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย เข้ามารายงานตัวที่ จทบ.ส.ร./กกล.รส.ประจำพื้นที่ จ.สุรินทร์ ตั้งแต่ 24 พ.ค. และต่อมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ส่งตัวให้ พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดี ตามหมายจับ สน.โชคชัย ที่ 912/2557 ลงวันที่ 26 พ.ค.2557 หลังจากที่มีผู้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีในความผิดฐานหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 กรณีมีการปราศรัย ในรายการ หยุดล้มล้างประชาธิปไตย ที่ห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 
       จ.ส.ต.ประสิทธิ์เปิดเผยว่า หลังจากที่มีรายชื่อให้เข้ารายงานตัว ตนจึงตัดสินใจเข้ารายงานตัวกับทหารที่จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. จากนั้นจึงถูกส่งตัวมาควบคุมที่ค่ายทหารในจ.นครราชสีมา เป็นเวลา 3 วัน ก่อนจะถูกส่งตัวไปควบคุมต่อที่ จ.สุรินทร์ ต่อมาถูกควบคุมตัวเพื่อมาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีตามที่มีหมายจับอยู่ ขอยืนยันว่า ส่วนตัวไม่มีความคิดหมิ่นสถาบัน เเต่อย่างใด เนื่องจากตนรับราชการตำรวจมากว่า 20 ปี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 
      หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่รับตัว จ.ส.ต. ประสิทธิ์มาแล้ว พนักงานสอบสวนได้นำตัวพิมพ์ลายนิ้วมือ ทำประวัติ และสอบปากคำ และนำตัวขึ้นรถตู้ไปฝากขังยังศาลอาญา 
      ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้ ซึ่งนางนิภาพร เมืองมูล ภรรยาของจ.ส.ตประสิทธิ์ได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 600,000 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว 

ผวจ.นครปฐม-ผบก.พบพุทธอิสระ
      ที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.นครปฐม พ.อ.เชื้อชาย ขันธุปัฏน์ รอง ผอ.กอ.รมน. นายอำเภอนครชัยศรี นายอำเภอกำแพงแสน พร้อมด้วย ผกก.สภ.กำแพงแสน และป้องกันจังหวัดนครปฐม เดินทางเข้าพบพุทธอิสระ เพื่อขอรับแนวทางในการสลายสีเพื่อปรองดองและปฏิรูป
      ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการทำงานของ คสช.ว่า คสช.ต้องระวัง 2 เรื่องที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น คือการนิรโทษกรรมและการคอร์รัปชั่น สิ่งที่ได้ดำเนินการในบางเรื่องเป็นการตอบโจทย์เหตุการณ์เฉพาะหน้า เช่น เร่งจ่ายเงินให้ชาวนา แต่การควบคุมสถานการณ์น่าจะผ่อนคลายลงโดยลำดับ เพราะตามสภาพสังคมคงยากที่จะใช้อำนาจนี้ไปได้ยาวนาน เพราะจะทำให้ความอึดอัดสะสม ปัญหาที่มีมากขณะนี้เป็นเรื่องของสื่อมวลชนและความเหลื่อมล้ำในการรับข้อมูลข่าวสาร ซึ่งดูท่าทีที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของผู้นำมวลชนหลังถูกปล่อยตัวก็ดูสงบเรียบร้อย ดังนั้น การควบคุมสถานการณ์น่าจะคลี่คลายลงได้
      นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องจับตาดูการตั้งศูนย์ปรองดอง ถ้าตั้งโจทย์การปรองดองเพื่อต่อรองผลประโยชน์ของทุกฝ่ายจะเป็นการตั้งโจทย์ผิด เพราะที่ผ่านมามีการนำคำว่าปรองดองไปใช้และนำไปสู่การนิรโทษกรรม ทำให้เกิดความขัดแย้งมากขึ้น หวังว่าจะไม่นำไปสู่การนิรโทษกรรม 

ตร.ปิดจราจรรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ
       ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารประมาณ 9 กองร้อย พร้อมรถยีเอ็มซี 10 คัน และรถบัสทหารได้มาประจำจุดต่างๆ โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยฯ โดยเฉพาะทางแยกพญาไท ราชวิถี พหลโยธิน และดินแดง รวมทั้งบนสกายวอล์กและบริเวณบีทีเอส และนำป้ายไวนิลพิมพ์ข้อความว่าบ้านเมืองต้องการความสามัคคี ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งดีเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาติดโดยรอบ ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ชุดปราบจลาจล จากบก.น.5 และบก.น.7 รวม 2 กองร้อย มาตั้งอยู่ใต้ทางเดินสกายวอล์กฝั่งศูนย์การค้าเซนเตอร์วัน และตำรวจจราจร สน.พญาไท ดูแลการจราจรรอบวงเวียน 
      ต่อมาเวลา 15.40 น. เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจปิดการจราจรที่เข้าสู่อนุสาวรีย์ชัยฯ ทั้งหมด เพื่อป้องกันการชุมนุมของกลุ่มต้านรัฐประหารที่ชุมนุมติดต่อกันหลายวัน แต่ยังไม่พบกลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวกันแต่อย่างใด
      ต่อมาเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายสืบสวนได้เดินตรวจโดยรอบพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ โดยตรวจค้นประชาชนที่นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ป้ายรถเมล์ต่างๆ พร้อมขอความร่วมมือให้ออกจากพื้นที่ 

'สมยศ'ถกควบคุมม็อบชุมนุม
       ที่ สน.พญาไท พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. ผู้กำกับดูแลความมั่นคง พร้อมด้วยพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท และเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมเข้าประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงถึงกรณีผู้ชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ กระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่
       พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า การประชุมร่วมกับทุกฝ่ายในครั้งนี้ได้ข้อสรุปคือ ต้องมีมาตรการดูแลผู้ชุมนุมอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่าอาจส่งผลให้เกิดการปะทะ จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่าการชุมนุมในครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติด้วยความบริสุทธิ์ใจ และยังมีผู้นำอยู่เบื้องหลังแต่ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ 
      "ขอยืนยันว่า หากมีการกระทำความผิดเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจังไม่มีการละเว้น ส่วนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมบริเวณดังกล่าวสามารถเดินทางเข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีได้ที่ สน. พญาไท ตลอด 24 ช.ม." พล.ต.อ.สมยศกล่าว

จับชาวเบลเยียมชูป้าย'พีซ พลีส'
      ต่อมาเวลา 18.05 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายแวงซองต์ (ไม่ทราบนามสกุล) ชาวเบลเยียม พูดภาษาไทยได้เล็กน้อย ที่ซื้อเสื้อสีขาวพิมพ์คำว่า Peace Please จากบริเวณอนุสาวรีย์มายืนโชว์พร้อมไม้แขวน และให้สัมภาษณ์สื่อไทยและต่างชาติกลางวงเวียนอนุสาวรีย์ ขึ้นรถกระบะของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีฯ 
     ต่อมาไล่เลี่ยกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวหญิงวัยกลางคน ไม่ทราบชื่อ 2 คน หลังชูป้าย 'No Coup''No Fascism' ในพื้นที่ ขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหาออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว
      ต่อมาเวลา 18.20 น. เจ้าหน้าที่ทหาร สห. และตำรวจทั้งหมด ถอนกำลังออกจากรอบอนุสาวรีย์ และเปิดการจราจรทุกช่องทางให้รถสัญจรได้ตามปกติ สำหรับพื้นที่รอบอนุสาวรีย์ในช่วงบ่ายถึงเย็นมีกลุ่มคนต้านรัฐประหารมายืนจับกลุ่มวิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของทหารและตำรวจตามจุดต่างๆ แต่ไม่ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่แต่อย่างใด 

นัดอ่านหนังสือต้านรัฐประหาร
       ส่วนที่ลานสกายวอล์ก สถานีบีทีเอสช่องนนทรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. มีนักกิจกรรมด้านสันติวิธีทั้งชายและหญิงประมาณ 10 คน ชวนกันมาอ่านหนังสือต้านรัฐประหาร โดยน.ส.พิมพ์สิริ (สงวนนามสกุล) นักกิจกรรมรายหนึ่ง เปิดเผยว่า เป็นการแสดงถึงอารยะขัดขืน ไม่ยอมรับการยึดอำนาจของคสช. ที่ทำลายระบอบประชาธิปไตย กิจกรรมเน้นแสดงออกอย่างสงบ ไม่ตะโกน ไม่ชูป้าย หลีกเลี่ยงการปะทะ ส่วนหนังสือที่เลือกนำมาอ่านได้แก่ หนังสือประเภทสังคมการเมืองและวรรณกรรมที่กล่าวถึงการครอบงำทางความคิดและเผด็จการ เช่น หนังสือ 1984 ของจอร์จ ออร์เวลล์ ทางกลุ่มนัดทำกิจกรรมทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ซึ่งก่อนหน้านี้จัดที่หอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพฯ แยกปทุมวัน และจะจัดต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่าผู้มีอำนาจและผู้สนับสนุนเผด็จการจะไม่คุกคามข่มขู่ผู้ที่ทำกิจกรรมดังกล่าว เพราะขณะนี้กรุงเทพฯ ได้ฉายาว่าเมืองหนังสือโลก มีความจำเป็นต้องปกป้องและสนับสนุนสิทธิและเสรีภาพมากกว่าสนับสนุนเผด็จการ 
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างกิจกรรมมีประชาชนทั่วไปเดินสัญจรไปมาและถ่ายรูปไว้ด้วยความแปลกใจ ทั้งนี้ การอ่านหนังสือต้านรัฐประหารใช้เวลา 1 ช.ม. จึงแยกย้ายโดยไม่มีเหตุรุนแรง และได้นัดอ่านต้านรัฐประหารอีกครั้งในเวลา 17.00 น.วันที่ 30 พ.ค.

นิสิตนักศึกษายึดลานโพธิ์ต้านคสช.
      เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาเพื่อประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย (ศนปท.) จัดกิจกรรม "หนุ่มสาวเอย เจ้าเคยแล้วหรือยัง" เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านการรัฐประหาร โดยมีตัวแทนนิสิตและนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มศว ประสานมิตร เกษตรศาสตร์ เทคโนโลยีพระจอมเกล้า 3 สถาบัน เชียงใหม่ ขอนแก่น และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นับร้อยคน พร้อมประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับ คสช.เข้าร่วมกิจกรรม
       ทั้งนี้ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุญาตให้นักศึกษาใช้เครื่องขยายเสียง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมาณ 10 คน รักษาความปลอดภัย โดยกลุ่มนักศึกษานำป้ายหลายภาษาแสดงถึงการต่อต้านรัฐประหาร ลิดรอนเสรีภาพประชาชน จากนั้นทำกิจกรรมต่อต้านรัฐประหาร เริ่มจากการเล่าข่าว การให้ความรู้ถึงผลร้ายจากการทำรัฐประหาร และอ่านแถลงการณ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เรียกร้องให้ คสช.ยุติบทบาท รัฐบาลกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญปี 2550 รัฐบาลต้องยกเลิกกฎอัยการศึกและนำรัฐธรรมนูญปี 2550 กลับมาใช้ รวมทั้งร่วมมือกับ กกต.จัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด บุคคล ที่ถูก คสช.ควบคุมตัวไว้จะต้องถูกปล่อยตัวทันที และการรัฐประหารครั้งนี้ต้องเป็นโมฆะ ประกาศต่างๆ ของ คสช.ต้องไม่มีผลใดๆ ในทางกฎหมาย 

มธ.ไล่ไปชุมนุมนอกมหาวิทยาลัย
     จากนั้นนักศึกษาพร้อมประชาชนได้ออกมาทำกิจกรรมด้านหน้ามหาวิทยาลัย บริเวณประตูท่าพระจันทร์ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยจึงรีบปิดประตูดังกล่าวและปิดประตูศูนย์หนังสือ มธ. ทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่พอใจ เกิดการผลักดันจนเจ้าหน้าที่ต้องยอมเปิดประตูให้ โดยนักศึกษาบางส่วนพยายามกลับมาชุมนุมที่ลานโพธิ์ ก่อนที่แกนนำจะเจรจากับอาจารย์มหาวิทยาลัยและตำรวจ ยอมกลับไปชุมนุมที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย โดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ
      ตัวแทน ศนปท.กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านรัฐประหาร ไม่มีเจตนายั่วยุปลุกปั่นให้เกิดเหตุรุนแรง ขอเรียกร้องให้ คสช.คืนอำนาจให้ประชาชนโดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดเลือกตั้งเมื่อใด หลังจากนี้หากมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้นจะจัดกิจกรรมที่สนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัย และนำกลุ่มนักศึกษาไปร่วมกิจกรรมกับกลุ่มที่ต่อต้านรัฐประหารกลุ่มอื่นๆ ด้วย
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นักศึกษากำลังพูดให้ความรู้อยู่นั้น มีชายอายุประมาณ 50 ปี ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณที่จัดกิจกรรม พร้อมเป่านกหวีดและด่าทอนักศึกษา ทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมบางส่วนไม่พอใจและกรูเข้าไปหาชายคนดังกล่าว ตำรวจและกลุ่มนักศึกษาต้องเข้ามาห้ามปราม ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไป จากนั้นเวลา 17.00 น. กลุ่มนักศึกษาประกาศยุติกิจกรรมและยืนส่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมให้เดินทางกลับโดยปลอดภัย
      เมื่อเวลา 17.00 น. ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร มีเจ้าหน้าที่ทหาร 2 กองร้อย รถฮัมวี่ 1 คัน และรถควบคุมผู้ต้องหา 2 คัน กระจายกำลังนำรั้วมาปิดล้อมลานหน้าทางเข้าหอศิลป์ฯ ทั้งยังเข้าควบคุมพื้นที่ตลอดบริเวณจนถึงทางเดินลอยฟ้า เพื่อปิดพื้นที่ฝ่ายต่อต้านรัฐประหารตามที่มีรายงานว่าอาจรวมตัวกันบริเวณนี้ หลังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิทหารได้เข้าคุมพื้นที่เรียบร้อยแล้ว

ตร.รื้อธงแดงวัดเสื้อแดงเชียงใหม่
       ที่วัดศรีบุญเรือง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิงเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.อ.สมศักดิ์ จินาภักดิ์ ผกก.สภ.แม่ปิงเชียงใหม่ พร้อมกำลังส่วนหนึ่ง ได้เดินทางไปพบพระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสเพื่อแจ้งให้ทราบว่าทางฝ่ายทหาร ได้แจ้งมายังตำรวจรื้อธงสัญลักษณ์สีแดงที่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำมาติดไว้รอบกำแพงวัดและดำเนินการทาสีกำแพงวัดเป็นสีแดงทั้งหมด โดยพระครูสุเทพสิทธิคุณก็ได้อนุญาตและยืนดูการรื้อออกไปทั้งหมด
       พระครูสุเทพสิทธิคุณ เปิดเผยว่าธงแดงที่นำมาติดรอบกำแพงวัดนั้นเป็นเรื่องของศรัทธาและลูกศิษย์ดำเนินการ แม้แต่กำแพงวัด ก็ทาสีแดงทั้งหมด ก็เป็นการกระทำของศิษย์และศรัทธา เมื่อทางฝ่ายทหารได้มาขอร้องให้ตำรวจมาขอรื้อออกก็ยินดี เมื่อมีการรื้อธงดังกล่าวออกไปแล้ว ต่อไปก็คงจะหาธงสัญาลักษณ์อื่นมาติดแทน หรืออาจจะมีเซอร์ไพรส์ ก็ได้ 
      "ที่ทหารไม่กล้าที่จะมารื้อเองและไปขอตำรวจมานั้นเพราะทหารเข้าใจว่ากลัวปะทะกับมวลชนชาวบ้านในละแวกนี้ ไม่ต้องกลัว อาตมา สั่งไว้แล้ว หากมาดีมาคุยมาพูดกันดีๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เอาประเทศชาติให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว อาตมาก็ยินดี"พระครู สุเทพสิทธิคุณกล่าว

บันได 3 ขั้นสู่'เลือกตั้ง''คสช.'โชว์ ตั้งทีมลุยตรวจธุรกรรมปล่อยนิวัฒน์-ชัยเกษม 'ชัชชาติ'ก็ได้กลับบ้าน ทภ. 2 แฉขอนแก่นโมเดล แผนก่อวินาศกรรมศก.

มติชนออนไลน์ :

       'บิ๊กตู่'ลั่นผูกเชือกรองเท้าแล้วเดินหน้า ไม่หันกลับมองข้างหลัง คสช.วาง 3 ระยะบริหารประเทศ ออกมาตรการขับเคลื่อนงาน ตั้งสภาปฏิรูป-สนช. ก่อนเดินหน้าเลือกตั้ง


คสช.แจงแนวบริหาร 3 ระยะ
      เมื่อเวลา 12.20 น. วันที่ 29 พฤษภาคม ที่สโมสรทหารบก เทเวศร์ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก พร้อม พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมแถลงข่าว โดย พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวถึงการทำงานของ คสช.ในด้านบริหารราชการแผ่นดินว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับหน่วยงานราชการในภาคส่วนต่างๆ และขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยให้ปัญหาคลี่คลาย เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 
      พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า แนวทางการบริหารราชการแผ่นดินจะแบ่งเป็น 3 ระยะคือ ระยะแรก ดำเนินมาตรการใช้อำนาจการบริหารตามปกติขับเคลื่อนงานต่างๆ ระยะสอง สร้างสภาวะแวดล้อมที่ดี เพื่อนำไปสู่สภาปฏิรูป และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่วนระยะสุดท้าย การนำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยโดยการเลือกตั้ง 

จัดงบทั่วถึง-ไม่สร้างหนี้
       พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ได้มีการกำชับประเด็นต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยเฉพาะการบริหารจัดการงบประมาณ คงต้องมีกลไกเข้ามาบริหารจัดการงบประมาณ โดยให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ต้องทั่วถึงและเร่งด่วน ไม่สร้างหนี้ผูกพันและเกิดหนี้สาธารณะเกินกว่ากรอบที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ต้องรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบและนึกถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ส่วนกระบวนการยุติธรรมได้มอบแนวทาง โดยคงหลักการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มแข็งและสร้างความเชื่อมั่นให้ทุกภาคส่วน
      พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวว่า ขอความร่วมมือสื่อมวลชนรายงานตัวเลขการปล่อยตัวหรือนำเสนอข่าวให้ตรงกัน เพราะหากไม่ตรงจะสร้างความขัดแย้งให้สังคม ทั้งนี้ทาง คสช.ได้ติดตามทุกภาคส่วน นอกจากนี้ เรื่องการจัดการโครงสร้างศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เป็นความรับผิดชอบของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.)

ตั้งศูนย์รับแจ้งเบาะแสขัดแย้ง
       "นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระ ที่ยังไม่มารายงานตัวนั้น ล่าสุดได้มีการติดต่อเข้ามายัง คสช.แล้ว โดยระบุว่าติดภารกิจที่ต่างประเทศ จึงไม่สามารถเดินทางมารายงานตัวได้ทันตามที่ คสช.กำหนด ทาง คสช.แจ้งตอบกลับไปว่า หากไม่สามารถเดินทางมาได้ให้ทำหนังสือชี้แจงและมอบหมายบุคคลมาแจ้งให้ทาง คสช.ทราบ ทั้งนี้ นายวีรพัฒน์ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่มีการประสานงานยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีข่าวว่า นายจารุพงศ์หนีไปยังต่างประเทศ ส่วนบุคคลที่ถูกเรียกตัวและอยู่นอกราชอาณาจักรจะมีมาตรการอย่างอื่นต่อไป" พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าว และว่า คสช.ได้ตั้งศูนย์ร้องเรียน เพื่อให้ประชาชนได้แจ้งเบาะแสต่างๆ รวมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมือง โดยสามารถแจ้งได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 09-4128-6273-9 

'บิ๊กตู่'ลั่นเดินหน้าไม่มองหลัง
      พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์มีแนวคิดที่จะสื่อสารและรายงานสถานการณ์การทำงานของ คสช.ให้ประชาชนได้รับทราบ ถือเป็นความตั้งใจของหัวหน้า คสช.ในฐานะที่เข้ามาบริหารประเทศ แต่ในเวลานี้อยู่ระหว่างการกำหนดรูปแบบ 
       ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดการปัญหาทางการเมือง โดยเฉพาะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้ "ท่านต้องการทำทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องอดีต และงานทุกอย่างเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ท่านเคยพูดต่อวงประชุมต่างๆ ว่า เมื่อผมผูกเชือกรองเท้า ผมเดินทันที ไม่หันไปมองข้างหลัง" พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าว

คสช.ปัดยิงใส่บ้าน'วีรพัฒน์'
        พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก คสช. ชี้แจงกรณี คสช.เรียกตัวนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการอิสระ ให้มารายงานตัว ว่าเนื่องจากเป็นนักวิชาการที่มักจะพูดหรือแสดงความคิดเห็นเรื่องการเมืองในช่วงที่ผ่านมา คสช. จึงเชิญให้มารายงานตัว มาปรับความเข้าใจ และขอความร่วมมือในการสร้างความปรองดองในชาติ แต่เมื่อนายวีรพัฒน์ติดภารกิจอยู่ในต่างประเทศ แล้วได้ติดต่อมาเพื่อชี้แจงว่า ไม่สามารถมารายงานตัวตามกำหนดได้นั้น คสช.จะต้องพิจารณาดูตามเหตุผลความจำเป็น ว่าจะสามารถผ่อนผันได้หรือไม่อย่างไร 
       พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ส่วนการที่มีการพาดพิง กล่าวหา ในลักษณะที่ทำให้เข้าใจว่า ฝ่ายทหารอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิงใส่บ้านของนายวีรพัฒน์นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ฝ่ายทหารไม่เคยใช้วิธีการนอกกฎหมาย สังเกตได้จากการทำหน้าที่ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีการใช้ความรุนแรงใดๆ จากทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร

เรียกคุยก่อนปล่อยตัว 31 คน
     ผู้สื่อข่าวรายงานจากสโมสรทหารบก เทเวศร์ ว่าเมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วย ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. ได้เรียกอดีตรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นักการเมือง กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จำนวน 31 คน ที่ถูกทหารควบคุมตัวตามประกาศคำสั่งเรียกก่อนหน้านี้ และบุคคลที่ได้ปล่อยให้กลับบ้านไปแล้วมาให้ข้อมูลเพิ่มต่อ คสช. เพื่อปรับทัศนคติทำความเข้าใจร่วมกันจากนั้นปล่อยตัวกลับบ้าน
       ทั้งนี้ บุคคลที่ได้รับการปล่อยตัว อาทิ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล นายโภคิน พลกุล นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายประชา ประสพดี นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายวิชาญ มีนชัยนันท์ นายวรชัย เหมะ นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ นายอดิศร เพียงเกษ น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายปลอดประสพ สุรัสวดี น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล ฯลฯ
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 28 พฤษภาคม ได้ปล่อยตัว นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม จากค่ายทหาร จ.ปราจีนบุรี จากนั้นเวลา 23.00 น. ได้ปล่อยตัวนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม

'เสี่ยอ้วน'งดเคลื่อนไหวการเมือง
       ต่อมานายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ชื่อ "@phumtham" ว่า "ผมถูกปล่อยตัวกลับถึงบ้านเรียบร้อยวันนี้..ได้รับการปฏิบัติด้วยดีตามอัตภาพ ขอขอบคุณทุกความห่วงใย จากนี้ต้องใช้ชีวิตตามเงื่อนไข คสช.เช่นทุกคน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศจะเดินไปข้างหน้า นำพาความสงบสุขกลับมาสู่สังคมไทยโดยเร็ว"
      ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังนายภูมิธรรม โดยนายภูมิธรรมกล่าวว่า ได้รับการปล่อยตัวเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 พฤษภาคม ตอนนี้ต้องทำตามเงื่อนไขของ คสช.คือห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และงดเคลื่อนไหวทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คงให้ คสช.ทำงานกันไป ส่วนคนอื่นๆ ได้รับการปล่อยหรือไม่นั้น ไม่ทราบ อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ คงงดให้สัมภาษณ์ไปสักระยะ

เรียกรายงานตัวเพิ่มอีก 17
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มีคำสั่งให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มอีก 2 คำสั่ง รวม 17 คน โดยคำสั่งที่ 30/2557 ให้มารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00-12.00 น. ได้แก่ 1.น.ส.อภิรดี สุพรรณ 2.นายประเสริฐ ทองนุ่ม 3.นายสุนทร ลิ้มพิกุล 4.นายประวิทย์ ใจห้าว 5.นายอาน่า วิภูสมิธ 6.นายณรงค์ แก้วพรพงษ์ 7.พ.ต.อ. (พิเศษ) พินิจ ไชยเสนีย์ 8.นายชัยมงคล เสน่หา 9.นายอนุศักดิ์ อนุการ 
      คำสั่งที่ 31/2557 ให้เข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00-11.00 น. ได้แก่ 1.นายสุวิชา พานิชผล 2.น.ส.สายลม กาบบัวแดง 3.นายโยธิน ศรีจันทร์เทพ 4.นพ.สง่า คุณยศยิ่ง 5.ร.อ.ทองทศ มากสาคร 6.นางมณีรัตน์ โกธันต์ 7.นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ 8.นายปิยะบุตร พรหมลักขโณ

ประกาศ 3 คำสั่งเรียกอีก 28 คน
      ต่อมาเวลา 22.20 น. มีประกาศคำสั่ง คสช.ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มอีก 3 คำสั่ง ได้แก่ คำสั่งที่ 34/2557 ให้เข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00-12.00 น. ดังนี้ 1.น.ส.จิรนันท์ จันทวงษ์ 2.นายณัฐชัย อินทราย 3.นายเมธี หรือนิติธาดา เมธาสุข 4.นายเจริญ ปัญญาวงศ์ 5.นายมหวรรณ กะวัง 6.น.ส.อุบลกาญจน์ อมรสิน 7.นายไพรัช สร้างถิ่น 8.นายชัชวาล กาญจนะหุต 9.นายเฉลิมพล เจษฎางกูล ณ อยุธยา หรือผาสุข 10.นายสมชาติ นาคบรรจง 11.นายชาญ ไชยะ 12.นายวุฒินันท์ ปราบนอก 13.น.ส.สกุล บางระมาด 14.นายไพรวรรณ สีน้ำอ้อม 15.นายประเทือง ภิญโญ 16.นายพงศ์พิศิษฐ์ คงเสนา 17.นายอำนวย คลังผา
       คำสั่งที่ 35/2557 ให้เข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 13.00-15.00 น. ดังนี้ 1.นายวิรัช รัตนเศรษฐ 2.นางทัศนียา รัตนเศรษฐ 3.พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ 4.นายโกศล ปัทมะ 5.นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ 
      คำสั่งที่ 36/2557 ให้เข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ เวลา 10.00-12.00 น. ดังนี้ 1.นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรี นครนนทบุรี 2.นายสมบูรณ์ สิมะแสงยาภรณ์ 3.นายโคทม อารียา 4.นายนิติภูมิ นวรัตน์ 5.นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ 6.นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม 

มอบบึ้ม-อาวุธสงครามไม่ผิด
      คำสั่งที่ 37/2557 เรื่องผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามนำส่งมอบ มีข้อความว่า ด้วยปรากฏว่า มีบุคคลจำนวนหนึ่งมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในครอบครอง อันเป็นความผิดตามกฎหมาย คสช.จึงมีคำสั่งให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดังกล่าวนำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2557 ให้ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ไม่ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนให้มีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี

ปราย พันแสง ถูกเรียกรายงานตัว
       ขณะที่ น.ส.ปราณี โมรัษเฐียร หรือ "ปราย พันแสง โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า ในวันเดียวกันนี้ มีทหาร 2 นายมาถามหาที่ร้านใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อแสดงตัวว่าเป็น "ปราย พันแสง จึงได้รับคำสั่งอย่างสุภาพว่า วันที่ 30 พฤษภาคม ต้องไปรายงานตัวที่ค่ายทหาร : กรมทหารราบที่ 7 กองพันทหารราบที่ 5 ค่ายโสณบัณฑิตย์ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ในช่วงเช้า โดยแต่งกายสุภาพ
      "ตกลงจะผลักให้ข้าพเจ้าสังกัดเสื้อแดงกับเขาด้วยจริงๆ ใช่ไหม คนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหาร และต้องการให้กำหนดวันเลือกตั้งเสียทีนั้น ไม่จำเป็นต้องเชียร์ทักษิณ หรือต้องเป็นเสื้อแดงกันหมดหรอกนะ" "ปราย พันแสง โพสต์ และระบุตอนหนึ่งด้วยว่า วันนี้ได้โพสต์และแท็กหลายคน เผื่อว่าไม่ได้กลับบ้านอีก หรือสั่งไม่ให้ใช้เฟซบุ๊กแล้ว จะได้ไม่ต้องเดาว่าหายไปไหน 

ตั้งกก.ตรวจธุรกรรมการเงิน
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังลงนามในคำสั่งที่ 33/2557 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล หรือนิติบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม โดยมีคณะทำงาน 4 คน คือ อธิบดีกรมสรรพากร เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นอกจากนี้ยังมีคำสั่งที่ 33/2557 ให้คณะทำงานดังกล่าว มีอำนาจแต่งตั้งและมอบหมายเจ้าหน้าที่ ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความเหมาะสม

'หมอพรทิพย์'ปัดข่าวนั่งรมต.
      พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธถึงกระแสข่าวได้รับการทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่า ไม่เป็นความจริง กรณีดังกล่าวมีผู้สื่อข่าวโทรศัพท์มาถาม เนื่องจากมีคนโพสต์ลงในออนไลน์ว่า มีการทาบทามเป็นรัฐมนตรี จึงได้ปฏิเสธไป จากนั้นมีการถามว่า หากถูกทาบทามให้เป็นรัฐมนตรีจะรับหรือไม่ จึงตอบไปว่า ไม่ว่าอยู่ในตำแหน่งอะไรก็ยินดี แม้ไม่ได้ถูกทาบทามก็จะทำหน้าที่ของตัวเองตามปกติ 
      "กรณีที่มีการระบุว่า ถูกทาบทามเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น ก็มโนกันไปเอง เพราะหากถูกทาบทามจริงน่าจะอยู่ในกระทรวงยุติธรรม" พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าว

'มาร์ค'เตือนคสช.ระวัง 2 เรื่อง
     นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการทำงานของ คสช.ว่า คสช.ต้องระวัง 2 เรื่องที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น คือการนิรโทษกรรมและการคอร์รัปชั่น โดยปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ควรเป็นสิ่งแรกในการปฏิรูปให้เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ คสช.ควรสร้างระบบการเมืองที่ดีกว่าและทำให้พรรคการเมืองและนักการเมืองมีพฤติกรรมที่ดีขึ้น นอกจากนี้ต้องจับตาดูเรื่องการตั้งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ ถ้าตั้งโจทย์การปรองดองเป็นเรื่องการต่อรองผลประโยชน์ของทุกข์ฝ่ายจะเป็นการตั้งโจทย์ผิด เพราะที่ผ่านมามีการนำคำว่า ปรองดองไปใช้ และนำไปสู่การนิรโทษกรรม
      นายอภิสิทธิ์ ยังแสดงความไม่เห็นด้วยกับการเสนอตั้งกระทรวงตำรวจ โดยระบุว่าจะยิ่งทำให้การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น หลักการปฏิรูปคือ ทำให้ตำรวจใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น ไม่ใช่ทำให้องค์กรใหญ่หรือรวมศูนย์อำนาจมากขึ้น และแนวทางการปฏิรูปตำรวจของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด คสช.ควรหยิบแนวทางนี้ขึ้นมาดำเนินการ 

เรือนจำดูแล'จาตุรนต์'ปกติ
       พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการควบคุมตัวนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าเมื่อคืนวันที่ 28 พฤษภาคม นายจาตุรนต์ถูกส่งตัวเข้าแดนแรกรับของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯการควบคุมตัวจะดำเนินการตามระเบียบปกติของเรือนจำ ไม่ได้สั่งการให้ดูแลเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องอาหารการกินและการเข้าเยี่ยม ส่วนการย้ายไปควบคุมที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ยังไม่มีประเด็นให้พิจารณา เนื่องจากเรือนจำชั่วคราวหลักสี่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่า เป็นสถานที่สำหรับควบคุมผู้ต้องขังคดีการเมือง แต่นายจาตุรนต์ถูกส่งเข้าเรือนจำฐานขัดคำสั่ง คสช.
      ด้านนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรมกำกับงานด้านพัฒนาพฤตินิสัย กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการย้ายนายจาตุรนต์ไปควบคุมที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่ว่า ยังไม่มีประเด็นที่ต้องหารือไปยัง คสช.เพราะเป็นการควบคุมตัวในชั้นสอบสวน จัดเป็นผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดี ตามระเบียบระบุชัดเจนว่า ต้องถูกส่งตัวเข้าไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเท่านั้น 

ส่ง"เจ๋ง ดอกจิก"นอนเป็นเพื่อน
      ข่าวแจ้งว่านายสรสิทธิ์ จงเจริญ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้เข้าพูดคุยกับนายจาตุรนต์ พร้อมชี้แจงการใช้ชีวิตในเรือนจำ และนายจาตุรนต์ไม่ได้ร้องขอเรื่องใดเป็นพิเศษ ทั้งนี้ จากการตรวจสุขภาพของแพทย์และทำประวัติผู้ต้องขังตามระเบียบ พบว่านายจาตุรนต์มีสภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ และสภาพจิตใจดี ไม่มีอาการเครียด 
       ข่าวแจ้งอีกว่า ทางเรือนจำจะจัดให้นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำคนเสื้อแดง ผู้ต้องขังคดีหมิ่นเบื้องสูง มาคุมขังแดนเดียวกับนายจาตุรนต์ เพื่อคอยช่วยดูแลและเป็นเพื่อน เบื้องต้นคาดว่าหากต้องย้ายจากแดนแรกรับ นายจาตุรนต์อาจถูกแยกไปอยู่แดนการศึกษาสัปดาห์หน้า เนื่องจากเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับด้านการศึกษามาก่อน

'ธิดา'บอกถึงเวลาพักผ่อน
      นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังถูกปล่อยตัวจากค่ายทหาร ว่า ประเทศนี้มีหลายภาคส่วน ประชาชนมีหลายภาคส่วน เมื่อ นปช.มีขีดจำกัดในการขับเคลื่อน ประชาชนในภาคอื่นก็สามารถขับเคลื่อนได้ อย่าลืมว่าการรัฐประหารเป็นเรื่องของสิทธิเสรีภาพ 
      "ตอนที่ทหารเชิญไปอยู่ในค่ายทหาร ชีวิตประจำวันก็อ่านหนังสือ บางคนเข้าใจผิด อ่านหนังสือธรรมะก็สนุกได้ ออกกำลังบ้าง แต่ไม่ได้มากมายอะไร แกนนำที่ถูกเชิญไปไม่ได้เจอกันเลย ต่างคนต่างอยู่ ไม่มีใครรู้ใครอยู่ที่ไหน จำกัดพื้นที่ และได้รับความสะดวกสบาย มีโทรทัศน์ดู จากนี้ไปเป็นเวลาที่จะได้พักผ่อน มีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้นและจะมีประชาชนแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนกัน ในสถานการณ์แบบนี้ทุกคนต้องรู้สถานการณ์ว่าทุกคนจะต้องทำอะไร" นางธิดากล่าว 

ทัพภาค 2 แจง'ขอนแก่นโมเดล'
        ที่กองกำลังรักษาความสงบ กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสีหราชเดโชไชย จ.ขอนแก่น พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง รอง ผบ.กกล.รส.ทภ.2 พล.ต.ศักดา เปรุนาวิน ผบ.กกล.รส.พล.ร.3 พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.ผบช.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงโครงสร้างขอนแก่นโมเดล และการจับกุมกลุ่มขบวนการขอนแก่นโมเดลเพิ่มอีก 6 ราย ว่าโครงสร้างขอนแก่นโมเดล เริ่มต้นจากผู้บงการใหญ่อยู่ในต่างประเทศที่เป็นเจ้าของโครงสร้าง และมีเจ้าของโครงการอยู่ในประเทศ 2 คน ผู้ร่วมสนับสนุน 7 คน ให้มีผู้ปฏิบัติที่เป็นแกนนำระดับจังหวัดออกปฏิบัติ ซึ่งจะสนับสนุน จัดหามวลชน จัดตั้ง อพปช. จัดตั้งกองทัพปราบกบฏ โดยคัดเลือกเข้ารับการฝึก พร้อมจัดหาอาวุธให้ปฏิบัติตามแผน "ขอนแก่นโมเดล" ในพื้นที่กำหนด คือ จ.ขอนแก่น
      พล.ต.ธวัชกล่าวว่า กกล.รส.ทภ.2 จับกุมกลุ่มขบวนการขอนแก่นโมเดล เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา จากนั้นจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 6 ราย นำมาขยายผลซักถาม พบว่าส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ และสุรินทร์ รวมทั้งตรวจยึดหลักฐานเอกสารที่สำคัญอีกหลายรายการ 

พบแผนการก่อวินาศกรรม
      "ที่สำคัญพบกลุ่มบุคคลจะดำเนินการในลักษณะก่อวินาศกรรมต่อเป้าหมายทางเศรษฐกิจ และการเงิน รวมทั้งเชื่อมโยงสนับสนุนงบประมาณจากนักการเมือง 5 ล้านบาท เพื่อใช้จัดประชุมนัดหมายดำเนินการ นอกจากนี้มีตรวจพบอาวุธสงคราม วางแผนขั้นตอน และข้อมูลการเตรียมการจัดหาอาวุธสงครามเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก" พล.ต.ธวัชกล่าว
       พล.ต.ธวัช กล่าวว่า เจ้าของโครงการขอนแก่นโมเดลที่อยู่ในประเทศนั้นไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลที่แท้จริงได้ แต่ได้รับโครงการมาจากผู้บงการที่อยู่ในต่างประเทศนำมาปฏิบัติในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ขณะนี้จับกุมผู้ปฏิบัติการได้รวม 27 ราย เป็นชายทั้งหมด พร้อมเอกสารในการก่อวินาศกรรมใน จ.ขอนแก่น และอาวุธปืน 1 กระบอก ทั้งหมดอยู่ในความควบคุมของทหาร และวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ จะครบ 7 วัน ต้องส่งฟ้องศาลทหาร 

ทหารเชิญ'แดง-เหลือง'คุยกัน
     ที่ จ.เชียงใหม่ พล.ต.ศรายุธ รังสี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) จ.เชียงใหม่ เชิญแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่รวม 5 คน นำโดยนายกฤษณพงษ์ พรมบึงรำ แกนนำเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ด.ต.พิชิต ตามูล และนายศรีวรรณ จันทร์ผง แกนนำกลุ่ม นปช.แดงเชียงใหม่ เข้าร่วมหารือกับนายเอกชัย วิไลวรรณ แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือตัวแทนกลุ่มทหารเสือพระราชา (วิหคเรดิโอ) ที่ห้องประชุมสโมสรค่ายกาวิละ มทบ.33
     พล.ต.ศรายุธ กล่าวว่า เชิญทั้งสองกลุ่มมาหารือ ร่วมสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน เพื่อสลายความแตกแยก โดยหวังว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ของการเดินหน้าประเทศไทย หลังเผชิญสถานการณ์ความขัดแย้งมาอย่างยาวนาน และรับปากจะส่งความคิดเห็นที่ได้จากการหารือร่วมกันของทุกฝ่ายไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อเดินหน้าประเทศต่อไป

'แรมโบ้'ถูกปล่อย-ลั่นวางมือ
      เมื่อเวลา 20.45 น. เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 นำตัวนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ "แรมโบ้อีสาน" ประธานกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.) นั่งรถตู้จาก จ.ขอนแก่น มาปล่อยตัวบริเวณประตูทางเข้าหน้าค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา หลังจากนายสุภรณ์ได้ถูกเชิญเข้ารายงานตัวกับทางกองทัพภาคที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา และถูกควบคุมตัวอยู่ภายในค่ายทหารแห่งหนึ่ง 
       ทั้งนี้ นางสุ้น อัตถาวงศ์ อายุ 82 ปี มารดานายสุภรณ์พร้อมนายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์ น้องชาย และญาติพี่น้องมารอรับ โดยนายสุภรณ์ได้ก้มลงกราบเท้าและหอมแก้มนางสุ้น จากนั้นนายสุภรณ์ให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกดีใจมากที่ได้รับการปล่อยตัว ขณะนี้บ้านเมืองเกิดวิกฤต ต้องให้ความร่วมมือ และขอยุติบทบาทการเป็นประธาน อพปช. และขอยุบ อพชป. ที่เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมาทั้งหมด 
      "ขณะนี้อายุ 50 ปีแล้ว ขอยุติบทบาททางการเมือง จะขอใช้เวลาที่เหลือไปดูแลครอบครัว ดูแลแม่ที่อายุ 82 ปีแล้ว รวมทั้งผมจะลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยด้วย" นายสุภรณ์กล่าว