วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8582 ข่าวสดรายวัน


ประยุทธ์ตั้งบิ๊กป้อม ทีมปรึกษา 'ป๊อก-ดาว์พงษ์'ร่วม 
สมคิด-อุ๋ย-วิษณุก็มา 'บิ๊กจิน'เล็งปรับใหญ่ รื้อบอร์ดรัฐวิสาหกิจ

     
รับเงิน - ชาวนาจังหวัดปทุมธานีแห่ไปรับเงินโครงการจำนำข้าวที่ธ.ก.ส.กันอย่างคับคั่ง ตลอดทั้งวัน โดยมีทหารยืนถืออาวุธครบมือ คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยเกือบทุกสาขา เมื่อวันที่ 27 พ.ค.

      'บิ๊กตู่' ตั้งคณะที่ปรึกษา'คสช.' ให้ 'บิ๊กป้อม'เป็นประธาน ตามด้วย บิ๊กป๊อก ดาว์พงษ์หม่อมอุ๋ย สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ วิษณุ เครืองาม ณรงค์ชัย อัครเศรณี ขณะที่ 'บิ๊กจิน' นัดถกผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ เล็งรื้อ 'บอร์ด' ครั้งใหญ่ สั่งให้ ก.คลังแจงรายละเอียดที่มาของกรรมการแต่ละคน ถูกแต่งตั้งจากรัฐบาลชุดไหน 'บิ๊กเข้' เรียกประชุม 7 กระทรวงด้านสังคมจิตวิทยา เร่งสร้างสมานฉันท์ ยอมรับนักท่องเที่ยวลด 20 เปอร์เซ็นต์ ด้าน 7 องค์กรภาคเอกชน เสนอ 7 แนวทาง พัฒนาเศรษฐกิจระยะยาว ชาวนาทั่วประเทศเฮ แห่รับเงินจำนำข้าว ชูป้ายขอบคุณ'บิ๊กตู่' ที่ช่วยเหลือ 

 

'บิ๊กเข้'ถกเร่งสร้างสมานฉันท์ 

      เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่สโมสรทหารบก พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้อง 7 กระทรวง อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้บริหารระดับสูงประชุม เพื่อชี้แจงและหารือแนวทางการทำงานของฝ่ายสังคม ใช้เวลาพูดคุยนานกว่า 2 ชั่วโมง 

     พล.ร.อ.ณรงค์ แถลงว่า ที่ประชุมรับฟังและมอบแนวทางดำเนินงานให้แต่ละกระทรวงกลับไปพิจารณาว่าจะทำอะไรต่อไป เรื่องหลักคือให้ทุกกระทรวงผลักดันโครงการเร่งด่วนของตัวเองให้ลุล่วงโดยเร็ว และทันต่อกรอบการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 คสช.ฝ่ายสังคมและจิตวิทยาจะช่วยดูโครงการสำคัญ ว่าที่ผ่านมาโครงการใดเหมาะสม และมีแผนงานรองรับเพียงพอหรือไม่ จึงให้ปลัดทุกกระทรวงสะท้อนปัญหาการทำงานให้ทราบเพื่อช่วยกันดำเนินการ รวมทั้งร่างพ.ร.บ.ต่างๆ ที่เสนอค้างไว้จะต้องพิจารณาต่อไป นอกจากนี้ ยังพูดถึงปัญหาช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาว่ามาจากคนในสังคม ดังนั้น ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้สังคมสงบสุข สมานฉันท์กลมเกลียวกัน ถือเป็นงานที่ท้าทาย

 

ยอดนักท่องเที่ยวลดลง 20% 

      รองหัวหน้าคสช.กล่าวต่อว่า ยอมรับว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตกใจ และนักท่องเที่ยวลดลง 20 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าสถานการณ์ในบ้านเราไม่รุนแรงอย่างที่คิด ความเป็นจริงเหตุการณ์เป็นปกติมากกว่าตอนประกาศกฎอัยการศึกด้วยซ้ำ ส่วนการยกเลิกเคอร์ฟิว นั้น ขึ้นอยู่กับหัวหน้าคสช.จะพิจารณา หากสถานการณ์สงบเรียบร้อยก็อาจยกเลิกได้ในเร็วๆ นี้

     ด้านนายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นักท่องเที่ยวลดลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณหลายหมื่นคน หลังประกาศกฎอัยการศึก และได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดสำคัญ อาทิ พัทยา ภูเก็ต ว่าหากเป็นไปได้ขอให้ผ่อนผันยืดหยุ่นการประกาศเคอร์ฟิวบ้าง แต่ในข้อจำกัดนั้นมีข้อดี คือพวกที่หลอกลวง เอาเปรียบนักท่องเที่ยวลดลง เพราะมีกฎอัยการศึกควบคุมดูแลอยู่ อาชญา กรรมและประทุษร้ายนักท่องเที่ยวก็ลดลงเช่นกัน นั่นคือข้อดี ดังนั้น กระทรวงต้องจัดการเรื่องมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล และเรื่องศาลท่องเที่ยวให้ดำเนินการได้อย่างเข้มงวดโดยเร็ว

 

7 องค์กรชง 7 กรอบให้'คสช.' 

      ที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ถนนสุขุมวิท มีการประชุมร่วมของ 7 องค์กรภาคเอกชน ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย และสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ในการพิจารณากรอบการปฏิรูป โครงสร้างเศรษฐกิจประเทศทั้งระยะสั้นและระยะยาว ก่อนนำเสนอให้คสช.พิจารณา

       นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่าการหารือของ 7 องค์กรภาคธุรกิจ เพื่อหาแนวทางว่าภาคธุรกิจจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างไร เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมองแนวทางการฟื้นฟูไว้ 7 ด้าน ได้แก่ 1.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 2.การปฏิรูปการลงทุนของภาครัฐและเอกชน 3.การยกระดับการศึกษาและนวัตกรรม 4.การ แก้ปัญหาสังคมและความเหลื่อมล้ำ 5.ธรรมา ภิบาลและแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น 6.การพัฒนาระเบียบต่างๆ ของภาครัฐ และ 7.การพัฒนาโครงสร้างใหม่ในระบบเศรษฐกิจไทย 

 

หอการค้าคาด'จีดีพี'โต 2% 

      ด้านนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่ามาตรการต่างๆ ที่ออกมาจะต้องสามารถดำเนินงานได้จริง เกิดประสิทธิภาพ และสร้างอนาคตประเทศไทยในระยะยาว 10-20 ปีข้างหน้า เป็นการฟื้นฟูความเชื่อมั่นสู่สังคมไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน รวมทั้งความเชื่อมั่นจากต่างชาติ นักลงทุน นักท่องเที่ยวต้องกลับคืนมา ส่วนประเด็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่ประชุม 7 องค์กรภาคเอกชนยังไม่มีการหารือ เพราะต้องการเน้นประเด็นเศรษฐกิจที่เป็นเรื่องเร่งด่วนในเวลานี้ก่อน

      นายอิสระกล่าวว่า สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันภายใต้การบริหารงานของ คสช. คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ (จีดีพี) น่าจะเติบโตประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีความคืบหน้าในการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ที่ ล่าสุดได้เร่งจ่ายเงินชาวนาในโครงการรับจำนำ ข้าวที่มีวงเงินค้างกว่า 9.2 หมื่นล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าวจะช่วยทำให้เกิดการใช้จ่ายการบริโภคเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัว รวมถึงการลงทุนของภาครัฐและเอกชนที่จะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการลงทุนจากภาคเอกชนหากมีการประชุมอนุมัติโคนงการต่างๆ ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) จะมีส่วนช่วยได้มากแน่นอน ส่วนภาวะเศรษฐกิขในระยะยาวยังไม่มีการประเมิน

 

แนะกระตุ้นท่องเที่ยวในประเทศ 

     ขณะที่นางปิยะมาน เตชะไพบูลย์ ประธานสทท. กล่าวว่า ในภาวะรัฐประหารย่อมกระทบต่อการท่องเที่ยวเป็นธรรมดา เนื่องจากไม่ได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันภัย ดังนั้น สทท.จึงปรับตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมด ลดลงจากเดิมที่ตั้งไว้ 28 ล้านคน เหลือ 26.8 ล้านคน แต่ก็สูงกว่าปี 2556 เล็กน้อยที่มียอดนักท่องเที่ยว 26.7 ล้านคน ส่วนมูลค่ารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่มียอดรวม 1.2 ล้านล้านบาท โดยประเทศที่ประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมี 50 ประเทศ แต่ประเทศที่ประกาศเตือนขั้นร้ายแรงมีอยู่ 3 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้ 

     นางปิยะมาน กล่าวว่า นอกจากนี้ การประการห้ามออกนอกเคหสถานในเวลา 22.00-05.00 น. ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวพอสมควร ดังนั้น หาก คสช.พิจารณาเห็นว่าในพื้นที่ใดมีความสงบปลอดภัยแล้ว ก็ควรจะขยายเวลาเคอร์ฟิวออกเป็น 24.00-05.00 น. จะช่วยภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้พอสมควร อีกทั้ง คสช.ควรออกมาตรการส่งเสริมให้คนไทยออกมาท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาคมากขึ้น นอกจากจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศแล้ว ยังช่วยลดความขัดแย้งระหว่างคนไทยในภูมิภาคต่างๆ เช่น การให้คนภาคใต้ไปเที่ยวภาคเหนือ คนภาคอีสานไปเที่ยวภาคใต้ เป็นต้น เนื่องจากการที่ได้ไปท่องเที่ยวต่างถิ่นก็จะเข้าใจวิถีชีวิตมุมมองความคิดของคนต่างถิ่นมากขึ้น 


รับเงิน - ชาวนา จ.กาฬสินธุ์ แสดงความดีใจโชว์เงินสดค่าจำนำข้าวที่ค้างจ่ายมาตั้งแต่ต้นปี โดยธ.ก.ส.โอนเข้าบัญชีให้เกษตรกรทุกคนให้เสร็จสิ้นภายใน 20 วัน และหลายจังหวัดชูป้ายขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาด้วย เมื่อวันที่ 27 พ.ค.

 

 

สรุป 2.6 ล้านล้านบาท-งบฯปี 58 

       ขณะเดียวกัน นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง ปฏิบัติหน้าที่ รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการหารือกับสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับการทำงบประมาณรายจ่ายปี 2558 จะมีวงเงิน 2.5-2.6 ล้านล้านบาท คาดว่าจะสรุปวงเงินงบประมาณสุดท้ายที่ 2.6 ล้านล้านบาท เพราะวงเงิน 2.5 ล้านล้านบาท จะทำให้งบลงทุนน้อยเกินไป โดยจะเป็นงบประมาณขาดดุลไม่เกิน 2 แสนล้านบาท ทำให้กระทรวงการคลังต้องเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2558 ให้ได้สุทธิได้ 2.4 ล้านล้านบาท จากปี 2557 ที่ 2.27 ล้านล้านบาท

      นายรังสรรค์ กล่าวว่า เชื่อว่าการเก็บรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะจากการประกาศโรดแม็ปเศรษฐกิจของ คสช. ทำให้การบริโภค การลงทุนฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ถึง 3 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และปีหน้าขยายตัวได้มากกว่า 3 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ทำให้การเก็บรายได้ของรัฐบาลได้เพิ่มมากขึ้นไปด้วย อีกทั้งคาดว่างบลงทุนของปีงบฯ 2558 จะอยู่ที่ประมาณ 4 แสนล้านบาท และจะมีงบลงทุนเหลื่อมปีอีกประมาณ 4 แสนล้านบาท จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปลายปีนี้และปีหน้า ซึ่ง คสช.สั่งการให้ดำเนินการงบประมาณปี 2558 ใช้ให้ทัน 1 ต.ค.2557 จากเดิมที่คาดว่าจะเริ่มใช้ได้เดือนมิ.ย.2558

 

เศรษฐกิจยังดี-ว่างงานน้อย 

      ปลัดกระทรวงการคลังกล่าวต่อว่า สำหรับการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 วงเงิน 2.52 ล้านล้านบาท ล่าสุดถึงวันที่ 16 พ.ค. 2557 เบิกจ่ายได้ 1.33 ล้านล้านบาท หรือ 63.60 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าเป้า 2.01 เปอร์เซ็นต์ แต่งบลงทุน 4.28 แสนล้านบาท เบิกจ่ายได้ 1.81 แสนล้านบาท หรือ 42.47 เปอร์เซ็นต์ของงบลงทุน ต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 9.78 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากที่ผ่านหน่วยรายการไม่กล้าเบิกจ่าย เพราะกลัวผิดกฎหมาย แต่ขณะนี้ทาง คสช.ให้หน่วยงานต่างที่มีความพร้อมเบิกจ่ายเสนอให้ คสช.อนุมัติเบิกจ่ายได้ทันที จะทำให้การเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2557 ในช่วง 4 เดือน ที่เหลือจะเบิกจ่ายได้รวดเร็วขึ้น

     นายรังสรรค์ กล่าวอีกว่า พื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยยังดี มีอัตราการว่างงานเพียง 0.7 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ประเทศสหรัฐมีอัตราการว่างงาน 6 เปอร์เซ็นต์ และยุโรปมีอัตราว่างงานถึง 12 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจโลกทั้งสหรัฐ ยุโรป จีน และญี่ปุ่น ขยายตัวได้ดี จะส่งผลดีกับเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้นักลงทุนไทยและต่างประเทศมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยมากขึ้น

 

คสช.เล็งโละบอร์ดรัฐวิสาหกิจ 

     ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยอีกว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. ให้นโยบายกระทรวงการคลังให้ปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจต่างๆ ให้มีความเหมาะสมมากขึ้น เพราะที่ผ่านมามีกรรมการของรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง เข้ามาเป็นกรรมการที่อาจจะยังไม่เหมาะสม หรือไม่มีสาเหตุ ในส่วนของการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลัก ทรัพย์แห่งประเทศไทย การปรับเปลี่ยนคณะกรรมการของบริษัท เป็นอำนาจของผู้ถือหุ้น แม้ว่ากระทรวงการคลังจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้น ในขณะนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณจากทาง คสช.ให้ปรับเปลี่ยนกรรมการ ปตท. ในขณะนี้

       นายรังสรรค์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 31 พ.ค. ที่ พล.อ.อ.ประจิน เรียกผู้บริหารรัฐวิสาหกิจไปหารือ ในฐานะปลัดคลังจะเข้าร่วมฟังนโยบายด้วยว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง รวมถึงให้ผู้บริหารคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ที่เป็นผู้ดูแลกำกับรัฐวิสาหกิจทั้งหมดเข้าร่วมประชุมด้วย

      รายงานข่าวกระทรวงการคลังแจ้งด้วยว่า คสช. สั่งให้กระทรวงการคลังทำรายละเอียดผู้ที่เป็นคณะกรรมการในรัฐวิสากิจทั้งหมดทุกแห่งให้คสช. โดยให้ระบุว่ากรรมการแต่ละคนเป็นใคร ถูกแต่งตั้งจากรัฐบาลไหน หรือใครเป็นผู้แต่งตั้งเข้าไปเป็นกรรมการ ล่าสุดทางกระทรวงการคลังส่งรายละเอียด ทั้งหมดให้คสช.แล้ว

 

ปธ.บอร์ดรฟท.พร้อมทำตาม 

      ด้านนายปานปรีย์ พหิทธานุกร ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในการประชุมหารือกับพล.อ.อ.ประจิน ในวันที่ 31 พ.ค. นี้ ฝ่ายบริหารจะต้องเตรียมนโยบายสำคัญที่ปตท.จะดำเนินการ ไปรายงานให้ที่ประชุมทราบ ส่วนกระแสข่าวที่จะพิจารณาปรับโยกย้ายผู้บริหารนั้น มองว่าเป็นเพียงกระแสข่าวลือ ที่หลายฝ่ายคาดว่า เมื่อมีการเรียกประชุมของฝ่าย คสช.กับรัฐวิสาหกิจ ก็จะต้องเป็นวาระปลดตำแหน่ง หรือโยกย้าย แต่ข้อเท็จจริงเป็นเพียงการหารือภาพรวมการทำงาน นโยบายที่จะขับเคลื่อนที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวมมากกว่า ตนก็ยังทำงานตามปกติ ไม่ได้หารือเรื่องนี้กับ คสช.แต่อย่างใด

      ขณะที่นายบุญสม เลิศหิรัญวงศ์ ประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่ายังไม่ทราบเรื่องที่ พล.อ.อ.ประจินจะเชิญตัวแทนหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งหมดเข้าหารือร่วมกันในวันที่ 31 พ.ค. ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าคสช.อาจจะปรับเปลี่ยนตัวประธานกรรมการรัฐวิสาหกิจใหม่ เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับแนวนโยบายการบริหารงานของคสช.นั้น หากคสช.ขอให้เปลี่ยนตัวประธานบอร์ดรฟท. ก็พร้อมที่จะทำตาม พร้อมรับความเปลี่ยน แปลง เพราะการทำงานที่ผ่านมาไม่เคยยึดติดอยู่กับตำแหน่งแต่งอย่างใด

 

'ทีโอที-กสท'ก็พร้อมสนอง 

      ส่วนนายยงยุทธ วัฒนสินธิ์ กรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยังไม่ได้รับแจ้งจากคสช.ที่จะเรียกบอร์ดเข้าพบแต่อย่างใด และทั้งบอร์ดก็ยังไม่ทราบเรื่องเลยในขณะนี้ หากคสช.มี คำสั่งใดๆ ออกมาทางบอร์ดพร้อมยอมรับ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริษัทด้วย และถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจริงก็สามารถจัดตั้งบอร์ดชุดใหม่ และก็พร้อมทำตามทุกอย่าง


ชาวนาเฮ - กลุ่มชาวนา จ.ภูเก็ต ชูป้ายข้อความขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. หลังได้รับเงินค่าจำนำข้าว พร้อมมอบดอกไม้ให้ทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่ ที่สนามชัย อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อ 27 พ.ค.

        นายกิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการและเลขานุการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่ายังไม่ทราบเรื่องเลย หากคสช.เรียกเข้าพบทางฝ่ายเลขานุการของบอร์ดต้องทราบเรื่องก่อน แต่ในขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้ง และถ้าคสช.เรียกบอร์ดบริษัทเข้าพบ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงกับบอร์ดบริษัท ก็พร้อมจะทำตามนโยบายที่ทางคสช.พิจารณา เพื่อให้องค์กรและการบริหารงานเดินหน้าต่อไป

 

คสช.ตรวจโครงการแท็บเล็ต 

      ที่กระทรวงศึกษาธิการ นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมฝ่ายกลุ่มงานฝ่ายสังคมและจิตวิทยา คสช. ว่าทั้ง 7 กระทรวงนำเสนอโครงการเร่งด่วน และโครงการที่ดำเนินการในปีงบประมาณ 2557 รวมถึงโครงการที่จะต้องเสนอของบฯ ดำเนินการในปี 2558 โดยเป็นเพียงการรายงานให้ทราบ ยังไม่มีการไฟเขียวต่อโครงการใดๆ ทั้งสิ้น ในส่วนของโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา หรือแท็บเล็ต ต่อ 1 นักเรียน ที่ยังเหลือการจัดซื้อตามปีงบฯ 56 อีก 1 โซน คือโซน 4 เนื่องจากมีการยกเลิกสัญญาต้องจัดประมูลใหม่นั้น พล.ร.อ. ณรงค์ยังไม่ได้ปฏิเสธ หรือตอบรับการให้ดำเนินการต่อ แต่ขอดูรายละเอียดก่อน

ชาวนาเฮ-แห่รับเงินจำนำข้าว

       สำหรับ การจ่ายเงินจำนำข้าวให้แก่ชาวนาในจังหวัดต่างๆ ภายหลังที่ พล.อ.ประยุทธ์ อนุมัติให้กระทรวงการคลังกู้เงิน และค้ำประกันเงินกู้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส. เพื่อให้ชาวนาที่ยังค้างจ่ายอีกประมาณ 92,000 ล้านบาทนั้น ที่ จ.กาญจนบุรี ชาวนาเดินทางมาเบิกเงินที่ ธ.ก.ส. สาขา อ.เมืองกาญจนบุรี โดยนายขจร เศรษฐยานนท์ ผอ.ธ.ก.ส.กาญจนบุรี เปิดเผยว่ายอดเงินที่ได้รับจำนวน 544 ล้านบาท กระจายไปตามสาขาต่างๆ ส่วนยอดเงินค้างจ่ายให้ชาวนาที่เหลืออีก 605.43 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะจ่ายให้ไม่เกินวันที่ 30 มิ.ย. 

      ที่ จ.เพชรบุรี ชาวนากว่า 200 คน เดินทางมามอบดอกกุหลาบขอบคุณทหาร และคสช. ที่เร่งรัดจ่ายเงินจำนำข้าวให้แก่ชาวนา สำหรับ จ.เพชรบุรี ได้รับเงินจัดสรรจำนวน 808 ล้านบาท เริ่มจ่ายไปตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา และจะจ่ายให้เสร็จภายใน 15 วัน จะมีชาวนาได้รับเงินกว่า 8,000 ราย แต่ก็ยังเหลืออีก 9,000 กว่าราย วงเงิน 1,200 ล้านบาท

      ส่วน จ.ราชบุรี นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผวจ.ราชบุรี และจังหวัดทหารบกราชบุรี ร่วมสังเกตการณ์การจ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนาที่ ธ.ก.ส.ราชบุรี บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สำหรับ จ.ราชบุรี มียอดเงินค้างจ่ายชาวนาจำนวน 1,200 ล้านบาท เงินงวดแรกที่ได้รับมาจำนวน 592 ล้านบาท จะจ่ายให้หมดภายในวันที่ 3 มิ.ย. ส่วนที่เหลือคาดว่าจ่ายได้ครบทั้งหมดภายในเดือนมิ.ย.นี้

ลพบุรี-ชัยนาท-อุทัยฯ ยิ้มถ้วนหน้า 

      ขณะที่ จ.ลพบุรี มีชาวนาทยอยมายื่นเอกสารรับเงินจำนำข้าวที่ ธ.ก.ส.ลพบุรี โดยนายพงศ์ทิวา ตีระแพทย์ ผอ.ธ.ก.ส.ลพบุรี เปิดเผยว่า จ่ายเงินจำนำข้าวเปลือกให้เกษตรกร 556 ราย เป็นเงิน 103 ล้านบาท และจะทยอยจ่ายให้ครบตามเงินที่ได้รับทั้งหมด 700 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 พ.ค. 

      จ.ชัยนาท นายปรีชา พวงน้อยปภา ผอ. ธ.ก.ส.ชัยนาท กล่าวว่า ได้รับโอนเงินมา 1,050 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้ชาวนา 15,758 ราย คิดเป็นร้อยละ 40 ของเงินที่ค้างจ่ายทั้งหมด 2,478 ล้านบาท โดยจะจ่ายตามลำดับใบประทวนที่ยื่นไว้กับธนาคาร ส่วนที่เหลืออีก 9,602 ราย เป็นเงิน 1,428 ล้านบาท เมื่อได้รับเงินมาแล้วจะจ่ายให้เสร็จภายในวันที่ 10 มิ.ย.

      ที่จ.อุทัยธานี นายจรัญ แก้วสารพัดนึก ผอ.ธ.ก.ส.อุทัยธานี เรียกประชุมผู้จัดการสาขาทั้งหมดของ จ.อุทัยธานี เพื่อซักซ้อมแนวทางการจ่ายเงินแก่ชาวนาตามลำดับใบประทวน โดย ธ.ก.ส.อุทัยธานี ได้รับเงิน 838 ล้านบาท สำหรับชาวนา 5,000 ราย คาดว่าจะจ่ายให้ชาวนาได้ภายใน 10 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.นี้เป็นต้นไป 

สระบุรีจ่ายให้วันละ 500 ราย 

     ขณะเดียวกัน จ.สระบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผวจ.สระบุรี เป็นประธานมอบเงินช่วยชาวนา โดยมีชาวนาจาก อ.เมืองสระบุรี และ อ.เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 200 ราย มารับเงินจำนำข้าวจำนวน 28 ล้านบาท สำหรับ จ.สระบุรี ยังมีชาวนารอรับเงินอีก 6,330 คน วงเงิน 962 ล้านบาท เงินชุดแรกที่ได้รับมา 400 ล้านบาท จ่ายให้ได้วันละ 500 ราย คาดว่าจะจ่ายให้ครบทั้งหมดภายใน 3 สัปดาห์

     ที่จ.ชลบุรี นายสุทธิ แตงเล็ก ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาพัทยา และสาขาย่อยสัตหีบ เปิดเผยว่า ยังเหลือชาวนาที่ อ.พนัสนิคม จะเริ่มจ่ายให้ในวันที่ 28 พ.ค. จำนวนกว่า 20 ล้านบาท ยืนยันว่าสภาพคล่องทางการเงินของธนาคารยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ทั้งเรื่องสินเชื่อและเงินฝาก 

      ส่วน จ.สมุทรสาคร ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต ผวจ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย นายสุภชัย งามสม ผอ.ธ.ก.ส.สมุทรสาคร และทหาร ร่วมกันมอบเงินจำนำข้าวให้แก่ชาวนา 131 ราย ที่ยังไม่ได้รับเงิน แบ่งเป็น อ.บ้านแพ้ว 88 ราย ยอดเงิน 14,920,454 บาท อ.กระทุ่มแบน 43 ราย ยอดเงิน 8,229,341 บาท รวมทั้งสิ้น 23,149,886 บาท 

อยุธยา-อ่างทองรับกันคึกคัก 

     ด้าน จ.สุพรรณบุรี มีชาวนาในพื้นที่ อ.เมือง จำนวนมากทยอยเดินทางมารับเงินจำนำข้าวที่ยังคงค้างจ่ายแก่ชาวนา โดย น.ส.อารีย์ บำรุงราษฎร์ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.สาขาสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ได้รับเงินจำนวนกว่า 100 ล้านบาท ทยอยจ่ายเงินวันละ 236 ราย จำนวน 35 ล้านบาท คาดว่าในที่ 28 พ.ค. จะจ่ายเงินครบทั้งหมด

      จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุชน ภัยธิราช นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายพรชัย งามสินจำรัส ผู้ช่วยผอ.ธ.ก.ส.จ. พระนครศรีอยุธยา และนางวัชรินทร์ อ่ำพันธ์ ผู้จัดการธ.ก.ส.สาขาอยุธยา ร่วมกันจ่ายเงินให้ชาวนาที่ยังค้างจ่ายจากโครงการรับจำนำข้าว ในพื้นที่ อ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.บางบาล จำนวน 278 ราย จำนวนเงิน 55 ล้านบาท

      ที่ จ.อ่างทอง บรรยากาศรับเงินจำนำข้าวที่ ธ.ก.ส.สาขาวิเศษชัยชาญ เป็นไปอย่างคึกคัก มีชาวนาแห่มาทำเรื่องรับจำนำข้าวกันตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนที่ธนาคารจะเปิดทำการเสียอีก นายประสาส์ สุทธิเสงี่ยม ผู้จัดการธ.ก.ส.สาขาวิเศษชัยชาญ กล่าวว่าได้รับการจัดสรรเงิน 320 ล้านบาท สาขาวิเศษชัยชาญได้ถึง 16 ล้านบาท มีชาวนา 200-300 ราย จาก 1,000 ราย แต่หากจัดงบฯ มาอีก 100 ล้าน ก็จะจ่ายเงินให้ครบทุกคน 

โคราชดีใจ-ขอนแก่นได้อีก 650 ล. 

      ส่วน จ.นครราชสีมา นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย พล.ต.วุฒิ แสงจักร ผบ.มทบ.21 และนายสมชาย คมพงษ์ปภา ผอ.ธ.ก.ส.นครราชสีมา ร่วมมอบเงินจำนำข้าวตามที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเงินกู้ครั้งที่ 26 รวมทั้งสิ้น 1,686,781 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้ชาวนาที่มีใบประทวน 704 ราย เป็นเงิน 56 ล้าน ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นและคึกคัก ชาวนาต่างดีใจที่ได้รับเงิน 

     จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ภัทรพล รักษนคร ผบ.มทบ.23 และนายธนู โตสัจจะ ผอ.ธ.ก.ส.ขอนแก่น ร่วมกันจ่ายเงินจำนำข้าวให้แก่ชาวนา สำหรับโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2556/57 จ.ขอนแก่น มีชาวนาเข้าร่วมโครงการ 58,615 ราย เป็นเงิน 2,680 ล้านบาท จ่ายแล้ว 28,428 ราย จำนวน 1,261 ล้านบาท คงเหลือ 30,187 ราย จำนวน 1,419 ล้านบาท และล่าสุดได้รับเงินจัดสรร 650 ล้านบาท ยังเหลืออีก 769 ล้านบาท คาดว่าจะจ่ายได้ทั้งหมดไม่เกินวันที่ 15 มิ.ย.

     ที่จ.ร้อยเอ็ด นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผวจ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยพล.ต.นคร สุขประ เสริฐ ผบ.จทบ.ร้อยเอ็ด และนายมงคล พรงาม ผู้จัดการ ธ.ก.ส.ร้อยเอ็ด ร่วมจ่ายเงินให้ชาวนา โดยในเบื้องต้นมี 240 ราย เป็นเงิน 17 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 2,358 ราย จำนวน 152,624,403 บาท ธ.ก.ส.ร้อยเอ็ดตั้งเป้าจ่ายให้แล้วเสร็จภายใน 12 วันทำการ เฉลี่ยวันละ 200-300 ราย เฉลี่ยวันละ 400 ล้านบาท 

ชาวนาสกลฯ ขอบคุณทหาร 

     ขณะที่ จ.สุรินทร์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผวจ.สุรินทร์ พร้อมด้วย พล.ต.นิรุทธ เกตุสิริ ผบ.จทบ.สุรินทร์ และพล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.สุรินทร์ ร่วมเป็นสักขีพยานจ่ายเงินจำนำข้าวให้แก่ชาวบ้าน 200 คน ที่เดินทางมารับเงินและชูป้ายให้กำลังใจคสช. โดยนายณรงค์ งามพริ้ง ผอ.ธ.ก.ส.สุรินทร์ กล่าวว่าได้รับเงิน 1,699 ล้านบาท คาดว่าจะจ่ายเสร็จภายในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ ส่วนที่เหลือน่าจะได้รับเพิ่มจนครบภายในอาทิตย์นี้ และจ่ายให้ครบทั้งหมดภายในวันที่ 15 มิ.ย. จ.สุรินทร์มีชาวนาเข้าร่วมโครงการจำนำข้าว 100,185 ราย วงเงิน 9,153 ล้านบาท จ่ายไปแล้ว 48,793 ราย 4,553 ล้านบาท ยังเหลือค้างจ่ายอีก 4,600 ล้านบาท

     ด้าน จ.อุบลราชธานี นายปริญญา เต็งประสพโชค หัวหน้าหน่วยธ.ก.ส. อ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวว่า ธ.ก.ส.สาขา อ.เมือง อุบลราชธานี มีเงินค้างจ่ายชาวนา 1,216 ราย จำนวน 84 ล้านบาท สาขาได้รับการจัดสรรเงินมาแล้วและจ่ายให้ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. คาดว่าจะจ่ายให้หมดภายในวันที่ 4 มิ.ย. 

      จ.สกลนคร ชาวบ้านจาก 18 อำเภอเข้าขอบคุณคณะคสช.ที่จังหวัดทหารบกสกลนคร ภายหลังอนุมัติจ่ายเงินจำนำข้าวที่ค้างให้แก่ชาวนา สำหรับจ.สกลนคร มีชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงิน 10,530 ราย วงเงิน 545 ล้านบาท คาดว่าจะสั่งจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 มิ.ย.

'พิษณุโลก'มารอกันแต่เช้าตรู่ 

     ส่วน จ.หนองคาย นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผวจ.หนองคาย พร้อมด้วย พล.ต.กฤษณะ เกิดทองคำ รองผอ.รมน.หนองคาย และนาย ยุทธพงศ์ ภัทรธรรม ผอ.ธ.ก.ส.หนองคาย ร่วมกันจ่ายเงินจำนำข้าวให้แก่ชาวนา ในส่วนจ.หนองคาย มีชาวนาเข้าร่วมโครงการ 4,403 ราย จำนวนเงิน 293 ล้านบาท มีเกษตรกรได้รับเงินไปแล้ว 3,398 ราย 240 ล้านบาท คงเหลืออีก 1,005 ราย จำนวนเงิน 52,214,911 บาท คาดว่าจะจ่ายให้หมดภายในวันที่ 30 พ.ค.นี้

     ที่ จ.ลำปาง ชาวนา 13 อำเภอ จำนวนกว่า 500 คน นำดอกกุหลาบพร้อมกับป้ายข้อความขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่าน พล.ต.อุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผบ.มทบ.32 สำหรับจ.ลำปาง มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวและยังไม่ได้รับเงิน 5,204 คน รวมเป็นเงิน 291.15 ล้านบาท ธ.ก.ส.ลำปางเริ่มจ่ายเงินให้ในวันที่ 28 พ.ค. 

      จ.พิษณุโลก มีชาวนาในอ.เมือง พิษณุโลก ประมาณ 200 คน มารอรับเงินจำนำข้าวที่สำนักงานธ.ก.ส.พิษณุโลก โดยบางคนมารอตั้งแต่เช้า ทันทีที่ธนาคารเปิดประตู กลุ่มชาวนาต่างกรูเข้าไปที่เคาน์เตอร์เพื่อจับบัตรคิวและรอเรียกชื่อตามลำดับ โดยในวันนี้ธนาคารได้รับเงินที่โอนมาแล้ว 50 ล้านบาท สำหรับจ่ายให้ชาวนา 500 ราย 

'พัทลุง'ยังเหลือค้างอีก 224 ราย 

      ด้าน จ.พัทลุง ชาวนาประมาณ 300 คน มอบช่อดอกไม้ขอบคุณ พล.ต.ยอดชัย ยั่งยืน ผบ.พัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล ผ่านไปยังพล.อ.ประยุทธ์ ที่ให้จ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ขณะที่นายสุชาติ ขาวเกื้อ ผู้ช่วยผอ.ธ.ก.ส. พัทลุง กล่าวว่าในฤดูกาลทำนาปี 2556/57 มีชาวนา จ.พัทลุง เข้าร่วมโครงการ 2,131 ราย จ่ายเงินให้ไปแล้ว 1,672 ราย 20,701,293 บาท คงเหลือ 224 ราย คาดว่าจะจ่ายให้ครบภายในวันที่ 28 พ.ค.นี้

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในหลายจังหวัดนอก จากชาวนาจะแห่มารับเงินจำนำข้าวที่ค้าง จ่ายแล้ว ยังชูป้ายให้กำลังใจและขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เร่งรัดจ่ายเงินให้แก่ชาวนา สำหรับความคืบหน้าการจ่ายเงินจำนำข้าวผ่านธ.ก.ส.ในฤดูกาลผลิตปี 2556/57 ยอด จ่ายเงิน ณ วันที่ 26 พ.ค.2557 จ่ายไปทั้งหมด 3,544 ราย คิดเป็นวงเงิน 311.94 ล้านบาท และวันที่ 27 พ.ค.2557 จ่ายไป 35,943 ราย คิดเป็นวงเงิน 4,000.21 ล้านบาท รวม ยอดจ่ายสะสม 39,487 ราย คิดเป็นวงเงิน 4,312.15 ล้านบาท 

ตั้ง'บิ๊กป้อม'ปธ.ที่ปรึกษา'คสช.'

      วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. ออกคำสั่งคสช.ฉบับที่ 42/2557 เรื่องแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาคสช. เพื่อให้การบริหารมีประสิทธิภาพ จึงแต่งคณะที่ปรึกษาคสช. ดังนี้ 1.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธาน 2.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รองประธาน 3.ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองประธาน 4.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา 5.นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ปรึกษา 6.นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา 7.นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ ที่ปรึกษา 8.พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ที่ปรึกษา 9.พล.อ.นภดล อินทปัญญา ที่ปรึกษา 10.พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ที่ปรึกษาและเลขานุการ 

      ให้คณะที่ปรึกษามีอำนาจ 1.ให้ข้อเสนอแนะต่อคสช. ตามเรื่องที่อยู่ในขอบเขตรับผิดชอบและตามที่ได้รับมอบหมายจากคสช. 2.ให้ความเห็นตามที่คสช.ขอคำปรึกษา 3.แต่งตั้งคณะบุคคลทำหน้าที่คณะอนุกรรมการ คณะทำงานและเจ้าหน้าที่ 4.การเสนอเรื่องใดๆ ต่อหัวหน้าคสช.ให้เสนอที่ปรึกษาคสช.ตรวจทาน ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.เป็นต้นไป

'ประยุทธ์'ตั้ง 10 กุนซือ ป้อมนั่งปธ. คุม'อ๋อย'คาวงสื่อนอก คสช.ส่งขึ้น'ศาลทหาร' 'เติ้ง-อุกฤษ'รายงานตัว ทบ.โชว์ภาพตู่-เต้น-วีระ แจง'กิน-นอน'สบายดี


คุม"อ๋อย" - นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการถูกทหารควบคุมตัวหลังแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ อาคารมณียา ย่านเพลินจิต เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม


แพร่ภาพ - สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้สัมภาษณ์ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก เพื่อชี้แจงถึงสภาพความเป็นอยู่ของแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. ซึ่งอยู่ระหว่างการถูกควบคุม โดยได้เผยแพร่ภาพนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อคืนวันที่ 27 พฤษภาคม

คสช.เตรียมส่ง'จาตุรนต์'ขึ้นศาลทหารฐานขัดกฎอัยการศึก พฤติกรรมไม่เหมาะสม

 

@ "ฐิติมา"เข้ารายงานตัวแล้ว

      กลุ่มบุคคลจำนวน 16 คน ที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งฉบับที่ 23/2557 เมื่อคืนวันที่ 26 พฤษภาคม ให้เข้ารายงานตัวในวันที่ 27 พฤษภาคม ที่หอประชุมกองทัพบก สโมสรทหารบก เทเวศร์ ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.55 น.

     น.ส.ฐิติมา ฉายแสง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินทางมารายงานตัว หลังจากที่ไม่ได้เข้ารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 3 ที่ให้มารายงานตัวในวันที่ 24 พฤษภาคม เนื่องจากป่วยเป็นลำไส้อักเสบ เดินทางมาด้วยรถตู้ยี่ห้อฮุนได ได้เปิดประตูรถตู้ทักทายผู้สื่อข่าวก่อนจะเข้าไปภายในหอประชุมกองทัพบก 

     เวลา 09.40 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนา เดินทางมาที่หอประชุมกองทัพบก ให้ปากคำเพิ่มเติม หลังถูกเรียกมารายงานตัวก่อนหน้านี้แล้ว 

 

@ "ชูวิทย์"ยินดีร่วมมือคสช.

     ต่อมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เดินทางมารายงานตัว โดยเดินมาจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งอยู่ใกล้สโมสรทหารบก 

     นายชูวิทย์ กล่าวว่า ที่ คสช.เรียกมาอาจเป็นการเรียกให้รายงานตัวเพื่อขอข้อมูล ซึ่งตนอาจมีข้อมูลบางอย่างที่จะช่วยได้ และยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง เชื่อมั่นว่าทหารหาทางออกและทำงานได้อยู่แล้ว อาจจะให้ข้อมูลด้านอบายมุข ซึ่งทุกคนต้องมาช่วยกัน หยุดทะเลาะ เลิก พอแล้วและกลับมาช่วยบ้านเมือง ตอนนี้ไม่ได้เป็น ส.ส.แล้ว แต่ในฐานะประชาชน พร้อมให้ข้อมูล ประเทศนี้เกิดขึ้นโดยทหาร เชื่อว่าทหารดูแลได้ 

    "ผมไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามา เพราะลูกก็เป็นทหารและไม่กังวลว่าจะถูกควบคุมตัวเพราะไม่รู้ว่าจะควบคุมตัวเรื่องอะไร เพราะไม่เคยขึ้นเวที การให้ความเห็นอยู่ในฐานะประชาชน และหัวหน้าพรรคเท่านั้น" นายชูวิทย์กล่าว 

     จากนั้นนายชูวิทย์ข้ามถนนเข้าไปยังหอประชุมกองทัพบก

 

@ "เติ้ง-อุกฤษ-ผดุง"รายงานตัว

     เวลา 10.10 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เดินทางมารายงานตัว โดยมีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ติดตามมาด้วย และเวลาไล่เลี่ยกับ นายอุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานวุฒิสภาและอดีตประธานรัฐสภา และนายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

     ต่อมาเวลา 11.15 น. นายบรรหารเดินทางกลับออกจากหอประชุมกองทัพบก ซึ่งนายบรรหารใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 10 นาที ก่อนเดินทางกลับพร้อมนายสมศักดิ์ 

 

@ "รังสิมา"ไม่หวั่นเพราะเชียร์บิ๊กตู่

     เวลา 10.40 น. นายทยากร ยศอุบล พ่อของเด็กถูกระเบิดเสียชีวิต บริเวณหน้าบิ๊กซีราชดำริ ระหว่าง กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ชุมนุม เดินทางเข้ารายงานตัว ในเวลาไล่เลี่ยกับนายอดิศร ผลลูกอินทร์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย 

      เวลา 10.50 น. น.ส.รังสิมา รอดรัศมี อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่ม กปปส. เดินทางมาพร้อมกับนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำกลุ่ม กปปส. โดย น.ส.รังสิมายื่นหน้าออกมาโบกมือทักทายผู้สื่อข่าว ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสก่อนรถจะเคลื่อนเข้าไปในสโมสรทหารบก 

     น.ส.รังสิมาให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัวว่า ไม่กลัวหรือกังวลอะไร และเตรียมเสื้อผ้าพร้อมของใช้ต่างๆ สำหรับ 5 วัน ที่ถูกเรียกก็ยังงงอยู่ เพราะไม่รู้ว่าโดนเรียกข้อหาอะไร ความจริงตนสนับสนุนการดำเนินการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เช่นกัน เพราะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนจริงจังในการแก้ปัญหาให้กับบ้านเมือง 

     นายวิทยา กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ต้องถูกเรียกตัวไป เพราะ กปปส.คนอื่นโดนเรียกไปหลายรายแล้ว ไม่ได้กังวลหรือกลัวอะไร เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้ว และเตรียมตัวพร้อมที่จะถูกกักตัวไว้แล้ว

 

@ "อิสสระ"งงไม่ถูกเรียกตัว 

      นายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส.กล่าวว่า ยังงงอยู่ว่า เพื่อนแกนนำ กปปส.ต่างถูก คสช.ให้ไปรายงานตัวกันหมดแล้ว คงเหลือแต่ตนที่ยังไม่มีรายชื่อ แต่เข้าใจว่า เป็นเพราะได้ไปรายงานตัวต่อกองพลทหารราบที่ 6 จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมแล้ว พร้อมกับอดีตนักการเมืองของพรรคต่างๆ และนักการเมืองท้องถิ่น 

     "กำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯเพื่อนัดหมายทนายความให้ประสานไปว่ามีใครอีกบ้างใน กปปส.ที่ถูกออกหมายจับในคดีต่างๆ ในช่วงที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขอเข้ามอบตัวพร้อมกันในที่ 28 พฤษภาคม" นายอิสสระกล่าว 

 

@ "อ๋อย"เปิดใจค้านรัฐประหาร

     เมื่อเวลา 14.00 น. นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนต่างประเทศและสื่อมวลชนไทย ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ อาคารมณียา ย่านราชประสงค์ กรุงเทพฯ 

     นายจาตุรนต์ กล่าวว่าการรัฐประหารไม่ใช่ทางออกหรือทางแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม หากมีแต่จะทำให้เกิดความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น ที่น่าเป็นห่วงคือ หากผู้มีอำนาจจัดการได้ไม่ดีอาจจะทำให้เกิดความรุนแรง และความสูญเสียมากยิ่งขึ้นด้วย

     ส่วนเหตุผลที่ไม่ได้ไปรายงานตัวต่อ คสช. นายจาตุรนต์กล่าวว่า ไม่ยอมรับการรัฐประหาร จึงไม่อาจไปรายงานตัวต่อคณะรัฐประหารได้และการประกาศใช้กฎอัยการศึกที่ได้ทำไปนั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและขัดต่อ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก เนื่องจากไม่ได้มีประกาศพระบรมราชโองการ

     ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การคุมตัวนายจาตุรนต์ดังกล่าว สำนักข่าวต่างประเทศได้นำเสนอข่าวนี้อย่างแพร่หลายไปทั่วโลก

 

@ จี้ปล่อยแกนนำพท.-นปช.

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายจาตุรนต์แถลงข่าวเสร็จ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนต่างประเทศ โดยอธิบายเหตุผลที่ใช้พื้นที่ของสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศเป็นที่แถลงข่าวเพราะห็นว่าสื่อมวลชนต่างประเทศจะให้ความสนใจเรื่องนี้และสามารถเผยแพร่ข่าวได้อย่างสบายใจกว่าสื่อมวลชนไทย ทั้งนี้ยืนยันว่าจะไม่ไปรายงานตัวกับ คสช. เพราะไม่ยอมรับการทำรัฐประหาร

       นายจาตุรนต์ กล่าวว่า หลังการยึดอำนาจไม่สามารถติดต่อแกนนำพรรคเพื่อไทยและกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขอเรียกร้องให้ คสช.ปล่อยตัวแกนนำของพรรคเพื่อไทย และ นปช.ทั้งหมด

       ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงมาที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ นายจาตุรนต์กล่าวว่า เพราะต้องการแถลงให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกัน และที่ไม่ได้เข้ารายงานตัวนั้น ขอยืนยันว่าจะไม่มอบตัวแน่นอน แต่ถ้าจะเข้ามาจับตัวตอนไหนก็ได้ที่มีความเหมาะสมแล้วแต่สถานการณ์ จะไม่ขัดขืน ถ้าถูกจับไปแล้วส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการฟ้องร้องคดีความใดๆ ที่ต้องใช้ศาลทหาร แต่ถ้าจำเป็นต้องขึ้นศาลอยากให้ตนได้มีสิทธิพูดหรือมีทนายคอยว่าความในศาลด้วย

 

@ เผยนาทีทหารบุกคุมอ๋อย

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังนายจาตุรนต์แถลงการณ์เสร็จ สื่อมวลชนไทยขอให้สัมภาษณ์ต่อ ซึ่งนายจาตุรนต์ตอบตกลง หลังจากนั่งตอบคำถามต่อสื่อมวลชนไทยได้ไม่นาน มีทหารพร้อมอาวุธปืนเดินเข้ามาในห้องแถลงข่าว 6-7 นาย พร้อมตำรวจอีก 3 นาย

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหารที่เดินเข้ามากล่าวเชิญตัวนายจาตุรนต์ไปรายงานตัวต่อ คสช. ซึ่งนายจาตุรนต์บอกว่า "ขออย่าทำร้ายนักข่าว เขามาเพื่อเก็บภาพผมเท่านั้น" ทางทหารบอกไม่ได้มาทำร้าย มาเพียงคุมตัวไปรายงานตัว นายจาตุรนต์ไม่ได้แสดงอาการขัดขืนแต่อย่างใด พร้อมอธิบายให้ทั้งทหาร นักข่าวทั้งไทยและต่างชาติเพื่อให้สถานการณ์สงบว่า พร้อมให้ทหารคุมตัว จะเดินไปอย่างช้าๆ หลังจากนั้นทหารยืนล้อมนายจาตุรนต์ คุมตัวเดินออกจากห้องแถลงข่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านักข่าวทั้งไทยและต่างชาติกว่า 70 คน รุมทำข่าวถ่ายภาพนายจาตุรนต์ถูกคุมตัว ก่อนทหารจะพานายจาตุรนต์เข้าลิฟต์ นายจาตุรนต์บอกลานักข่าวเป็นภาษาอังกฤษว่า I"m leaving now. ผมไปแล้วนะ จากนั้นทหารพานายจาตุรนต์ลงลิฟต์มาชั้นล่างและพาขึ้นรถตู้โตโยต้าสีขาว ขับออกจากอาคารมณียา

 

@ "จารุพงศ์"สื่อสารผ่านเฟซบุ๊ก 

        ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ" ซึ่งเป็นเพจที่ใช้ติดตามความเคลื่อนไหวของนายจารุพงศ์นับแต่ คสช.ประกาศยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยล่าสุดมีการโพสต์ข้อความว่า "เพจนี้เรามีไว้สื่อสารกับประชาชนรักประชาธิปไตยหัวใจเสรีไทยนะครับ สำหรับผู้เห็นต่างทีมงานขอแบน มันเป็นการรบครับ ไม่ใช่ห้องสัมมนา เมื่องานใหญ่เสร็จ เราพร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น" 

 

@ อดีตส.ส.พท.จี้"บิ๊กตู่"ปล่อยตัว

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ทำจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. เนื้อหาระบุว่า ถ้าอยากให้บ้านเมืองสงบจริงๆ ทำได้ไม่ยากเลย หยุดการใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม ปล่อยตัวนักการเมือง นักวิชาการที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด เพราะไม่ควรจำกัดสิทธิเขา รังแต่จะสร้างความเกลียดชังเปล่าๆ คณะยึดอำนาจจะอยู่ได้หรือไม่ได้ อยู่ที่การกระทำของตนเอง การยึดอำนาจแล้วเข้าครอบครองเองทุกเรื่อง นับถอยหลังได้เลย ประชาชนมองดูคุณอยู่หลายล้านสายตา โลกทุกวันนี้มันไปไกลเกินกว่าที่พวกคุณจะควบคุม อย่าคิดปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ

 

@ ปชป.เผยทหารถูกบีบให้ปว.

       นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้หารือเพื่อกำหนดท่าทีทางการเมือง เนื่องจากมีการสั่งห้ามประชุมทางการเมือง แต่โทรศัพท์พูดคุยกันบ้าง ซึ่งพรรคเข้าใจและโชคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค อยู่ร่วมในวงการเจรจาทั้ง 2 วันก่อนการประกาศยึดอำนาจของ คสช. จึงทำให้รู้ว่าก่อนวันดังกล่าวได้เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ถ้าไม่อยู่ในการเจรจาจะคิดไปอีกอย่างหนึ่ง 

       "ทั้งนี้ เมื่ออยู่ในวงเจรจาเข้าใจสถานการณ์ว่าไม่มีทางเลือกอย่างอื่น เพราะสถานการณ์บีบให้ทหารต้องทำเช่นนั้น จึงเข้าใจสถานการณ์ เรามั่นใจหากทุกคนให้ความร่วมมือทหารจะคืนอำนาจโดยเร็ว แต่ขึ้นอยู่ประชาชนให้ความร่วมมือทหารเข้าไปแก้ไขสถานการณ์มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น เพื่อให้บ้านเมืองเดินไปได้ และเมื่อสถานการณ์เดินมาถึงจุดนี้ คนทั้งประเทศก็ควรให้ความร่วมมือกับทหารในการดำเนินการแก้ไขปัญหา แต่หากแก้ไขไม่ได้ก็ว่ากันอีกครั้งหนึ่ง คิดว่าถ้าทุกคนให้ความร่วมมือทหารจะแก้ปัญหาได้" นายนิพิฏฐ์กล่าว

 

@ คุม"ฐิติมา-ผดุง"ขึ้นรถตู้

       ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศด้านหน้าหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ว่ามีประชาชนทยอยกันนำอาหารและเครื่องดื่มมามอบให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ด้านหน้าทางเข้า พร้อมมอบดอกกุหลาบและชูป้ายร่วมถ่ายรูปกับทหารเพื่อให้กำลังใจ

      เวลา 14.10 น. น.ส.ฐิติมา ถูกควบคุมตัวออกจากหอประชุมกองทัพบก โดยรถตู้สีขาว ไม่ทราบจุดหมาย และมีรถตู้ติดฟิล์มดำทยอยขับออกจากหอประชุมกองทัพบก และมีรถฮัมวี่ปิดทะเบียนขับนำออกมาเป็นระยะๆ ทั้งนี้ ในการเรียกรายงานตัวในวันที่ 27 พฤษภาคม จำนวน 16 คน นั้น มีผู้มารายงานตัว 15 คน โดย นายมาลัยรักษ์ ทองชัย หรือ "ศรรักษ์ มาลัยทอง" นักจัดรายการวิทยุ กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ไม่ได้มารายงานตัว

      เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรถตู้ 2 คัน ปิดผ้าม่าน ขับออกจากหอประชุมกองทัพบก นำโดยรถยนต์ของกองร้อยทหารสารวัตร ปิดป้ายทะเบียน ซึ่งเห็นผู้โดยสารบนรถตู้คือ นายผดุง 

 

@ เล็งนำ"อ๋อย"ฟ้องศาลทหาร

       เวลา 14.30 น. ที่อาคารกำลังเอก สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีนายจาตุรนต์ ซึ่งไม่ได้เข้ารายงานตัวตามประกาศของ คสช. แต่แถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศว่า กรณีของนายจาตุรนต์ได้เรียกรายงานตัว แต่ขัดขืน ไม่ปฏิบัติตามประกาศของ คสช.และเลยเวลาที่กำหนดถือว่าเป็นมีความผิด 

      "การดำเนินการใดๆ จะเป็นเรื่องขั้นตอนตามกฎหมาย เพราะว่าเนื้อหาที่นายจาตุรนต์เผยแพร่ก่อนหน้านี้มีส่วนในการสร้างปัญหานำมาสู่ความไม่สงบ ขัดนโยบายของ คสช.อย่างชัดเจน ทั้งนี้ มองว่าการแถลงข่าวดังกล่าวเป็นเพียงความต้องการช่วงชิงพื้นที่สื่อ แต่ทาง คสช.มั่นใจในเหตุผลความจำเป็น และมีข้อมูลที่เพียงพอในการความเข้าใจกับสื่อต่างประเทศว่าสิ่งที่ปฏิบัติเป็นเรื่องทางกฎหมาย" พ.อ.วินธัยกล่าว และว่า นายจาตุรนต์มีความผิดในการฝ่าฝืนประกาศ คสช. ซึ่งขัดต่อการประกาศกฎอัยการศึก รวมทั้งพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการควบคุม และนำตัวเข้าสู่กระบวนการ เพื่อส่งฟ้องต่อศาลทหาร

 

@ ชี้"ปู"ไปนอกต้องขออนุญาต

       พ.อ.วินธัยกล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับการปล่อยตัวแล้ว มีเงื่อนไขตามประกาศของ คสช. หากจะเดินทางออกนอกประเทศต้องขออนุญาตจากทาง คสช.ก่อน ทั้งนี้ การควบคุมตัวบุคคลระดับแกนนำนั้น โดยส่วนใหญ่คุมตัวไม่เกิน 3 วัน รายละเอียดของผู้ที่เข้ารายงานตัว และผู้ที่ถูกควบคุมตัวจะมีการชี้แจงในวันที่ 27 พฤษภาคมอีกครั้ง

      พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนในการทำความเข้าใจกับผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวว่าอย่าได้ตกเป็นเครื่องของคนบางกลุ่มที่ต้องการแสดงออกถึงความคิดของตนเอง ก็สามารถรับฟังได้เพียงแต่ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายเพราะอาจถูกโน้มน้าวและชักนำมา คนที่ชักชวนมาก็ไม่ได้มาปรากฏตัวซึ่งคนที่มาจะได้รับความเดือดร้อนเพราะจะเดินจับกุม ดังนั้นของความกรุณาอย่าตกเป็นเครื่องมือ

 

@ ปล่อยตัวพี่ชายน้องเกดแล้ว

       เมื่อเวลา 17.20 น. พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า คสช.ได้ปล่อยตัวนายณัฐภัทร อัคฮาด (น้องชาย น.ส.กมนเกด อัคฮาด ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม เหตุสลายการชุมนุมปี 2553) หนึ่งในผู้ชุมนุม นปช. ภายหลังจากได้เข้าควบคุมตัวในระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่ถนนอักษะ กทม. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมทั้งนี้ คสช.ได้ดูแลและชี้แจงต่อนายณัฐภัทรเพื่อสร้างกระบวนความเข้าใจและปรับทัศนคติที่ดี ซึ่งเจ้าตัวได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดย นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดานายณัฐภัทรได้มารับตัวกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว

 

@ สัปดาห์หน้าดีเอสไอทำงาน

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงการตรวจสอบอาคารดีเอสไอเพื่อเตรียมความพร้อมให้เจ้าหน้าที่กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ว่า ได้ประสานให้ผู้บัญชาการสำนักคดีต่างๆ ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบห้องทำงานของตัวเองตั้งแต่ชั้น 1-11 ซึ่งสภาพภายนอกไม่พบร่องรอยการงัดแงะ หรือบุกรุกเข้าไปภายในอาคารดีเอสไอ หลังจากนี้จะเร่งต่อระบบสาธารณูปโภค ทั้งไฟฟ้าและประปาเพื่อทดสอบระบบคอมพิวเตอร์และฐานข้อมูลต่างๆ ว่ามีส่วนใดได้รับความเสียหายจากการปิดทำการหรือการตัดกระแสไฟหรือไม่ คาดว่าสัปดาห์หน้าเจ้าหน้าที่เริ่มเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติ

 

@ "วิทยา-รังสิมา"มอบตัวคดีกบฏ

ที่ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ อาคารบี นายวิทยา แก้วภราดัย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี นายถนอม อ่อนเกตุพล และนายคมสัน ทองศิริ แกนนำ กปปส. เข้าพบพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอมอบตัวต่อสู้คดี ฐานกบฏและข้อหาอื่นรวม 8 ข้อหา มี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ เป็นผู้รับมอบตัว ซึ่งตามขั้นตอนจะแจ้งข้อกล่าวหา พิมพ์ลายนิ้วมือ และสอบปากคำเบื้องต้นก่อนให้ประกันตัวในวงเงินประกันคนละ 100,000 บาท ทั้งนี้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ ได้เข้ามาดูแลการเข้ารับมอบตัว 

พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนและให้ประกันเช่นเดียวกับแกนนำคนอื่น วันที่ 28 พฤษภาคม เวลา 09.00 น. ได้รับการติดต่อ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี และ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ แกนนำ กปปส.อีก 2 รายที่ถูกศาลออกหมายจับข้อหากบฏจะเดินทางเข้ามอบตัวด้วย

 

@ ทหาร-ตร.คุมเข้มบ้าน"ปู"

แหล่งข่าวจากชุดปฏิบัติการของกองบังคับการปราบปรามระบุว่า ได้รับคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จัดกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ชุด ชุดละ 6 นายเข้าเวรร่วมกับทหาร ผลัดเปลี่ยนกันไปดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ที่บ้านเลขที่ 38/9 ซอยโยธินพัฒนา 3 เป็นบ้านพักของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยแบ่งกำลังกันดูแล พร้อมตรวจตราภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบบ้านพัก

แหล่งข่าวระบุด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางกลับเข้าบ้านพักตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม หลังจากเข้ารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ขณะที่ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้ออกไปไหน มีเพียงวันที่ 24 พฤษภาคม ออกไปซ้อมฟุตบอลโดยมีรถตู้เป็นพาหนะรับส่ง

 

@ "วัชรพล"ลุยปฏิรูปตำรวจ

      พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจที่มีกระแสข่าวว่าจะปรับเป็นกระทรวงรักษาความปลอดภัยสาธารณะ และปรับกองบัญชาการ (บช.) เป็นกรมต่างๆ ในสังกัด ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในปัจจุบันบริหารแบบรวมศูนย์ เห็นข้อเรียกร้องของประชาชนในห้วงที่ผ่านมา อยากเห็นตำรวจกระจายอำนาจ ตร.องคาพยพใหญ่ มีคน 2 แสนกว่าคน มี 30 บช. จึงคิดว่าทำอย่างไรถึงจะกระจายอำนาจตามข้อเรียกร้องของประชาชน ให้หน่วยงานดูแลพื้นที่มีอำนาจบริหารจัดการได้เบ็ดเสร็จ มีความคิดว่าหากเป็นนิติบุคคลได้ จะสามารถตั้งงบประมาณได้ มีงบประมาณ คน เครื่องมือ และการบริหารจัดการเองได้ สามารถกำหนดตัวชี้วัดตามปัจจัยคุกคามในพื้นที่ได้เอง 

      พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า แนวคิดในอนาคตเมื่อ บช.เป็นนิติบุคคล ส่วนบังคับบัญชาของ ตร.ที่เป็นส่วนอำนวยการใหญ่ มี ผบ.ตร.อยู่ จะเป็นเพียงหน่วยสนับสนุนประสานงาน คิดเรื่องยุทธศาสตร์ วางแผนการสนับสนุนงบประมาณในภาพรวม ผบ.ตร.จะถูกลดอำนาจลง เล็กลง ผบ.ตร.จะไม่ใช้ ผบ.กองกำลัง จะเป็นการกระจายอำนาจให้หน่วยปฏิบัติมีอำนาจเบ็ดเสร็จ 

      ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงสร้างใหม่จะเป็นเหมือนกระทรวง ที่มีกรมต่างๆ ผบ.ตร.เป็นปลัดกระทรวงหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า โครงสร้างเป็นไปได้หลายแบบ มีโจทย์ว่าทำอย่างไรให้ บช.ต่างๆ เช่น บช.น. บช.ภ.1 มีอำนาจบริหารคนและงบประมาณได้เอง มีตัวชี้วัดของหน่วยเอง เพราะแต่ละหน่วยปัจจัยคุกคามต่างกัน มองว่าหากเป็นนิติบุคคลบริหารได้เอง จะดูแลประชาชนได้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ 

 

@ ปัดเดินตามแนวกปปส.

      ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดการปฏิรูปเหมือนที่ กปปส.พูดบนเวที อาจถูกมองว่าเป็นการรับลูก พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า จะเป็นแนวคิดของใครก็ตาม ขอแค่สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อยากเห็นการเมืองการปกครองที่ดี มีคุณธรรม ตำรวจต้องเป็นตำรวจของประชาชน เมื่อถามว่าที่ผ่านมาปฏิรูปตำรวจมาหลายครั้งแต่ยังมีปัญหาที่เกิดจากพฤติกรรมของตำรวจ โครงสร้างใหม่จะตอบโจทย์ได้หรือ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า การบริหารราชการเป็นเรื่องหนึ่ง ระบบวิธีการปฏิบัติงานเป็นเรื่องหนึ่ง ถ้าอยากให้ตำรวจทำงานด้วยความโปร่งใส รับผิดชอบ ต้องใช้กลไกหลายเรื่อง สมัยที่ทำงานกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ก็มีแนวคิดการพัฒนาคนด้วยการฝึกอบรมตลอดเวลา นำเทคโนโลยีไอทีเข้ามาทำงานเพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้ ใช้วิทยาการทำให้การอำนวยความยุติธรรมเป็นวิทยาศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างต้องทำเป็นองคาพยพ 

      "นี่ไม่ใช่การตอบโจทย์ กปปส.แน่นอน ผมว่าพี่น้องประชาชนอยากเห็นนักการเมือง ข้าราชการ รวมถึงตำรวจเป็นข้าราชการที่ดี ทำเพื่อประชาชน ข้าราชการทั้งตำรวจทหารอยากเห็นระบบที่มีคุณธรรม เชื่อมั่นได้ สิ่งเหล่านี้เราฝันอยู่แล้ว จะทำได้แค่ไหนต้องพยายาม" พล.ต.อ.วัชรพลกล่าว 

 

@ ลั่นตร.ละเลยหน้าที่เจอเด้ง

      พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจว่า ย้ำในที่ประชุมว่ายามนี้ต้องการความสามัคคี ต้องช่วยกันทำงาน ปัญหาความแตกต่างแก้ไขได้ระดับหนึ่งแล้ว ใครทำหน้าที่เต็มที่ยังสามารถปฏิบัติต่อได้ แต่หากละเลยต้องโยกย้ายสับเปลี่ยนไป 

      ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ รรท.ผบช.ภ.5 ออกคำสั่งให้ พล.ต.ต.กริช กิตติลือ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) เชียงใหม่ ช่วยราชการตามคำแนะนำของแม่ทัพภาคที่ 3 ก่อนมีการถอนคำสั่งในเวลาต่อมา พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า การได้ข้อมูลต้องตรวจสอบ ห้วงนี้ข้อมูลข่าวสารมากมาย จึงจำเป็นต้องตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรม หากไม่ชัดเจน ข้อมูลไม่ชัด สร้างความหวั่นไหว ตอนนี้ให้ทำหน้าที่ไป พล.ต.ต.กริชยังทำหน้าที่ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่อยู่ เรื่องนี้ไม่ต้องแจ้งแม่ทัพภาคที่ 3 เชื่อว่าเข้าใจ

 

@ เล็งตั้ง 10 ที่ปรึกษา"คสช."

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เตรียมที่จะแต่งตั้งที่ปรึกษาจำนวน 10 คน อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานที่ปรึกษา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก ดูแลด้านความมั่นคง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านต่างประเทศ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านเศรษฐกิจ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดูแลด้านเศรษฐกิจ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านกฎหมายยุติธรรม และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก เป็นต้น

 

@ 'จารุพงศ์'ปัดตั้งกลุ่มเสรีไทย

      เวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กชื่อ "จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ" ชี้แจงกรณีมีผู้แอบอ้างว่าได้ตั้งกลุ่มเสรีไทย และมีประเทศให้เลือกหลายประเทศพร้อมจะให้รัฐบาลพลัดถิ่นไทย 2557 ไปตั้งทำการ ว่า "เลวมาก สกปรก ขุดหลุมพราง อย่าหลงเชื่อมันจะตามหาเราจากอีเมล์ สู่เฟซบุ๊ก และหาตัวเราได้ไม่ยาก ขณะนี้มีการหารือกันอยู่ ทำงานกันเข้มแข็ง กำลังจะได้โมเดลที่เหมาะสมที่สุด เป็นห่วงพี่น้องหัวใจเสรีไทยทุกคน ช่วยกันสื่อสารนะครับ" 

 

@ 'นพดล'โพสต์ถูกปล่อยตัวแล้ว

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.20 น. นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคุมตัวตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม ตามคำสั่ง คสช.ที่ 2/2557 โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กระบุว่าได้รับการปล่อยตัวและกลับถึงบ้านปลอดภัยแล้ว "ถูกปล่อยตัวและถึงบ้านปลอดภัย ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ" 

 

@ "บิ๊กตู่"เรียก 2 ผู้สื่อข่าวหารือ

       ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ว่า เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์สั่งการให้ พล.ต.พลภัทร์ วรรณพักตร์ เลขานุการกองทัพบก (ลข.ทบ.) เชิญนายศุภฤกษ์ ธงไชยฤทธิ์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เข้าพบเพื่อแจ้งข้อความจาก พล.อ.ประยุทธ์ให้รับทราบ 

      พล.ต.พลภัทร์ กล่าวว่า ขอความร่วมมือกรณีการตั้งคำถามต่อ พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ถูกผู้สื่อข่าวถามรุกไล่ในเรื่องการตั้งนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และกำหนดการเลือกตั้ง โดย พล.อ.ประยุทธ์รู้สึกไม่ดีต่อการที่ต้องถูกตั้งคำถามในลักษณะรุกไล่ จนทำให้กระทบความเชื่อมั่นในตัวผู้นำ 

      "พล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ. ฝากมาบอกว่า ท่านไม่ได้เป็นแค่ ผบ.ทบ.เท่านั้นแล้ว แต่เป็นผู้นำในการบริหารประเทศ ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและบริหาร ดังนั้นการจะตอบคำถามอะไรออกไป จะต้องใคร่ครวญเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นขอความร่วมมือ อย่าถามในลักษณะการรุกไล่แบบนั้น" พล.ต.พลภัทร์กล่าว

 

@ จี้มท.-ตร.ห้ามปล่อยเล่นพนัน

       เวลา 20.45 น. คสช.มีคำสั่งเฉพาะที่ 24/2557 เรื่องห้ามไม่ให้มีการเล่นการพนันที่ผิดกฎหมาย เพื่อให้การบริหารของ คสช.ในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย รวมทั้งเพื่อให้เกิดความสงบสุขแก่สังคมโดยรวม จึงให้ดำเนินการ 1.ให้กองรักษาความสงบเรียบร้อย กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิ่มมาตรการและความเข้มข้นในการกำกับดูแลมิให้มีการเล่นการพนันที่ผิดกฎหมายทุกประเภทในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะบ่อนการพนัน ตู้ม้า สลากกินรวบ ฯลฯ 2.กรณีปล่อยปละละเลย และ/หรือมีข้าราชการผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบให้มีการเล่นการพนันผิดกฎหมายในพื้นที่รับผิดชอบ จะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและคดีอาญา 3.ให้กองรักษาความสงบเรียบร้อย กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการปฏิบัติงานประจำวันตามข้อ 1 ให้ คสช.ทราบอย่างต่อเนื่อง

 

@ คสช.เรียกรายงานตัวอีก 7 คน 

       ต่อมาเวลา 21.15 น. คสช.ออกคำสั่งที่ 25/2557 เรื่องให้บุคคลรายงานตัวเพิ่มเติม ในวันที่ 28 พฤษภาคม เวลา 10.00-11.00 น. จำนวน 7 คน ประกอบด้วย 1.จ.ส.ต.มานัส เติมธนะศักดิ์ 2.พ.ต.ท.สันทนะ ประยูรรัตน์ 3.นายสุวัฒน์ วุฒิศักดิ์ 4.นายวิชา พร้อมเพรียงชัย 5.นายธนิก มาสีพิทักษ์ 6.นายกฤษณะ มานะการ และ 7.นายอิทธิพล สุขแป้น

 

@ คสช.โชว์ภาพโต้พันธนาการตู่-นปช.

      เวลา 22.00 น. สถานีโทรทัศน์ กองทัพบกช่อง 5 เผยแพร่ภาพนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาฯนปช. สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว และนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ใส่เสื้อยืดลายทหาร นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ สวมเสื้อยืดสีขาว ขณะถูกควบคุมตัวในค่ายทหาร โดยมีการถ่ายภาพให้เห็นถึงความเป็นอยู่ และเครื่องอำนวยความสะดวก เช่น ทีวี พัดลม เครื่องซักผ้า ทั้งนี้ ภาพที่เผยแพร่นั้น นายจตุพรกำลังพูดคุยกับ พล.ต.พลาวุฒิ กลับเจริญ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มโดยไม่มีเครื่องพันธนาการใดๆ ขณะที่ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงว่า เนื่องจากในโลกโซเชียลมีเดียเผยแพร่และวิพากษ์วิจารณ์ถึงการควบคุมตัวในทางเสียหายว่า มีเครื่องพันธนาการ เป็นต้น ทาง คสช.จึงเข้าไปถ่ายทำภาพความเป็นอยู่มาเผยแพร่ ซึ่งบ้านพักที่ใช้ควบคุมตัวบุคคลต่างๆ นั้น อาจไม่หรูหรา แต่ก็มีอุปกรณ์ครบครัน

 

@ สั่งอายัดทรัพย์จ่าประสิทธิ์-สมบัติ

     เมื่อเวลา 22.55 น. วันเดียวกัน คำสั่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 26/2557 เรื่องห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินหรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลเท่าที่จำเป็น ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติให้มีคำสั่งที่ 3/2557 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 และคำสั่งที่ 5/2557 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติมนั้น เนื่องจากปรากฏว่าบุคคลที่มีรายชื่อต้องมารายงานตัวบางรายฝ่าฝืนไม่มารายงานตัว เพื่อป้องกันระงับมิให้บุคคลทั้งสองได้ทำการช่วยเหลือหรือสนับสนุนด้านการเงินแก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการหรือกระทำการที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมืองจึงออกคำสั่งดังนี้

      ข้อ 1 ห้ามไม่ให้สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินธนาคารตามที่ได้มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะบริษัทหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัย นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นิติบุคคล ที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด นิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้า ทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และห้ามมิให้บุคคลหรือนิติบุคคลใดรับซื้อหรือรับแลกเปลี่ยนเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือตราสารทางการเงินอื่นๆ ที่ได้สั่งจ่ายให้กับบุคคลดังต่อไปนี้

     1.นายสมบัติ บุญงามอนงค์ 2.จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ ไชยศรีษะ

     ข้อ 2 ให้สถาบันการเงินและนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจตามข้อ 1 แจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ได้จัดทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-27 พฤษภาคม 2557 ส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ภายใน 3 วันนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง

      ข้อ 3 การขอเพิกถอนคำสั่งทำนิติกรรมสัญญาหรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงินทางธุรกิจ หรือการดำเนินเกี่ยวกับเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคลทั้งสอง ข้อ 4 ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งในต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

     ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่งวันที่ 27 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557