วันที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8680 ข่าวสดรายวัน

จ่อเลิกอัยการศึก ใน 22 จว. ชิงสปช. 6,729 คน ผอ.ร.ร.นายกฯก็สมัคร ถกครม.นัดแรก 9 กย. ปนัดดาเคลียร์อปท.จบ ลุ้นศาลชี้คดี'ขุมพันธุ์'ถ้าตกเก้าอี้-ต้องแต่งตั้ง

ร.ร.บิ๊กตู่ - นายประเสริฐ ผุดผ่อง ผอ.โรงเรียนวัดนวลนรดิศ ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยเรียนในระดับมัธยม เข้ายื่นเอกสารเข้ารับการสรรหาเป็น สปช.ด้านการศึกษา ที่สำนักงาน กกต. เมื่อวันที่ 2 ก.ย.

        ปิดรับสปช. สมัครทะลุเป้า 6,729 คน ผอ.โรงเรียนเก่า"บิ๊กตู่"ก็สมัครด้วย นายกฯตู่จ่อเลิกอัยการศึก ชี้ภารกิจสำคัญรัฐบาล ต้องสร้างความเชื่อมั่นกับตปท. ลั่นไม่กำหนดกรอบเวลาทำงาน โต้ดูฮวงจุ้ย โฆษกคสช.เผยนายกฯสั่งเร่งซ่อมห้องประชุมครม. คาดนัดแรกเริ่มถก 9 ก.ย.นี้ รายงานระบุถก เลิกอัยการศึก 22 จว.ท่องเที่ยวเลย ทำเนียบ คึกคัก สื่อรอถ่ายหมู่ครม. ปนัดดาคุยอปท. อ้างโพสต์ว่าหน่วยอื่น ด้านอปท.ยอมหย่าศึก เผยยอมเจ็บให้จบ เพื่อความปรองดอง 

บิ๊กตู่ถกคสช.-วางแนวทางทำงาน

       เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมใหญ่ คสช.ครั้งที่ 13/2557 โดยรอง คสช. ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ในฐานะรองหัวหน้า คสช. พล.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ในฐานะ รองหัวหน้าคสช. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้า คสช. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะ เลขาธิการ คสช. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในที่ประชุมว่า ทุกส่วนงานต้องขับเคลื่อนเรื่องที่เร่งด่วนให้แล้วเสร็จก่อนจะมีการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ โดยหน้าที่ของคสช.จะลดระดับลง ในส่วนของการรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความมั่นคงภายใน การดูแลทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ตนจะชี้แจงกรอบการทำงานของ คสช.กับทาง ครม.อีกครั้ง ส่วนเรื่องของกฎอัยการศึกจะมีการพิจารณาเพื่อปรับลดหรือผ่อนคลายลง แต่ยังไม่ใช่ในขณะนี้

สั่งเร่งสร้างเชื่อมั่นกับต่างชาติ

      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ภายหลังการโปรดเกล้าฯ ครม. มีแนวคิดว่า คสช.จะดำเนินงานที่เร่งด่วน เพราะเป็นการทำงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครั้งที่ 1-13 และครั้งนี้ก็ต้องดำเนินการตาม คสช.ต่อไป พร้อมจะ ส่งมอบงานต่างๆ ให้ ครม.ชุดใหม่เมื่อมีการแถลงนโยบาย ได้คิดแนวทางการทำงานไว้แล้ว โดยมอบให้ 5 รองนายกฯ ขับเคลื่อนงานในทุกๆ ด้าน ที่ได้มีการจัดสรรใน 19 กระทรวง ในส่วนของ คสช.ยังคงมีคณะทำงาน 5 คณะเช่นเดิม มีการประชุมพร้อมนำข้อสรุปเสนอ ครม.พิจารณาอีกครั้ง โดย คสช.จะไม่เข้าไปก้าวก่าย และ คสช.จะขับเคลื่อนเรื่องเร่งด่วนในเรื่องของการดูแลรักษาความมั่นคงภายใน ดูแลการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ แต่ในส่วนการประกาศใช้กฎอัยการศึกจะมีการปรับลดและผ่อนคลายลง แต่ไม่ใช่ในช่วงนี้

       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ คือเรื่องการทำความเชื่อมั่นกับต่างชาตินั้น ในกลุ่มประเทศอาเซียนมีความเข้าใจและเชื่อมั่นประเทศไทยเป็นอย่างมาก เรากำลังเร่งสร้างความเชื่อมั่นและทำความเข้าใจกับกลุ่มประเทศยุโรปว่าเรากำลังร่วมกันพัฒนาประเทศเพื่อเตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ส่วนกรณีที่ประเทศสหรัฐจัดอันดับการค้ามนุษย์ของประเทศไทยอยู่ที่ เทียร์ 3 คสช.จะขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม โดยการมอบหมายให้กระทรวงต่างประเทศไปชี้แจงกับต่างประเทศต่อไป

จ่อเลิกกฎอัยการศึก

       พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับด้านเศรษฐกิจ คสช.จะขับเคลื่อนให้มีเงินหมุนเวียนเข้ามาในประเทศ โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. จะต้องวางแผนการพัฒนาประเทศ เพื่อที่จะต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย ส่วนโครงการใหญ่ๆ ก็ต้องทยอยดำเนินการ พร้อมให้กำชับทุกกระทรวงให้ทำตาม นโยบาย นอกจากนี้งานด้านเศรษฐกิจต้องนำระบบวันสต็อปเซอร์วิสเข้าไปอยู่ในกิจการธุรกิจทุกด้าน และต้องเชื่อมกับระบบราชการให้ได้ โดยทำแบบบูรณาการข้อมูลกับทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้อง 

       "ส่วนการทำงานของครม.ต่อจากนี้ จะไม่มีการกำหนดระยะเวลาการทำงาน เพราะไม่ต้องการให้เงื่อนไขของเวลามาเป็นอุปสรรคหรือสร้างความกดดันให้กับครม. เพราะที่ผ่านมามักจะมีการถามถึงระยะเวลาในการทำงาน ซึ่งตรงนี้ผมไม่กำหนด แต่การทำงานของครม.ต้องมีผลงาน โดยหลักการทำงานของผมมี 4 คำ ทำก่อน ทำจริง มีผลสัมฤทธิ์ปี"58 และยั่งยืน มีคนขอเบอร์โทร. วันเดือนปีเกิดของผม บอกว่าจะเอาไปดู ฮวงจุ้ย โหงวเฮ้งที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ผมไม่ได้นึกถึงฮวงจุ้ย แต่ยึดความดีมากกว่าว่าความดีจะต้องชนะความไม่ดี และจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

       รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการยกเลิกประกาศใช้ กฎอัยการศึก โดยจะเริ่มใน 22 จังหวัด ท่องเที่ยวก่อน ซึ่งน่าจะนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมครม.ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ จากนั้นจะทยอยพิจารณายกเลิกประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศอีกครั้งต่อไป 

ยันงานคสช.ไม่ซ้ำซ้อนรัฐบาล

        ที่หอประชุม ทบ. เทเวศร์ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษก คสช. แถลงผลประชุมคสช.ว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวก่อนเริ่มประชุมว่า จัดทำแผนบริหารราชการแผ่นดินไว้แล้ว และย้ำการทำงานของส่วนราชการโดยมีรองนายกฯ ทั้ง 5 คน กำกับดูแลงานในแต่ละฝ่าย ส่วนการประชุมและเชื่อมโยงข้อมูลการทำงานระหว่างคสช.กับรัฐบาลยังคงมีต่อไป คสช.อาจมีข้อเสนอแนะต่างๆ มาถึงรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนงานเร่งด่วน เช่น การรักษาความสงบเรียบร้อย งานความมั่นคง และการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ แต่จะไม่ก้าวก่ายหรือทำงานซ้ำซ้อนกัน 

        พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ภาพรวมการทำงานเรื่องต่างๆ ดีขึ้นมากทั้งเรื่องการค้า สังคม และการดูแลความปลอดภัยประเทศ คนส่วนใหญ่สนับสนุนการทำงานของคสช. ส่วนเรื่องประชาธิปไตยที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยแต่ก็มีความคืบหน้า เพราะมีการบริหารงานผ่านระบบสภาคือ สนช. และกำลังจะมีสภาปฏิรูป รวมถึงมีรัฐบาลและครม. พล.อ. ประยุทธ์ยังฝากฝ่ายสังคมและจิตวิทยาให้ปลูกฝังค่านิยมเป็นไทย 12 ประการกับข้าราชการด้วย 

คาดประชุมครม.นัดแรก 9 กย.

       พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า ในที่ประชุมคสช. พล.อ.ประยุทธ์สั่งเร่งปรับปรุงห้องประชุมครม. 501 ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ให้เสร็จทันประชุมครม.นัดแรกที่คาดว่าวันที่ 9 ก.ย. และให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการ (สศช.) เร่งจัดทำร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อสนช.ให้เสร็จโดยเร็ว หัวข้อเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการบริหารงานของรองนายกฯ ทั้ง 5 ด้าน เน้นเรื่องเศรษฐกิจ ความกินดีอยู่ดี และคุณภาพชีวิตของประชาชนภายใต้สโลแกน "ทำก่อน ทำจริง เกิดผลสัมฤทธิ์ในปี"58 และยั่งยืน" การแถลงนโยบายจะเน้นถ้อยคำสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจง่ายและตรงประเด็น ทั้งนี้หลังจากพล.อ.ประยุทธ์นำครม.ใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน จะเริ่มต้นทำงานในฐานะนายกฯ ทันที

       น.ส.ปัฐมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษก คสช. แถลงว่า ที่ประชุมคสช.มีมติอนุมัติงบปี 2557 ในส่วนของงบกลาง 180 ล้านบาท เพื่อชดเชยเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการทหารชั้นผู้น้อยของกองบัญชาการกองทัพไทย ที่บรรจุเข้าเป็นทหารก่อน 1 ม.ค.2556 เพื่อให้สอดคล้องกับบัญชีเงินเดือนใหม่ของข้าราชการพลเรือนตามมติครม.เมื่อ 10 เม.ย.2555 การปรับเงินเดือนย้อนหลังครั้งนี้มีข้าราชการทหารที่ได้รับการปรับเงินเดือนแรกบรรจุ 9,231 คน แบ่งเป็นชั้นสัญญาบัตร 1,586 คน และระดับชั้นประทวน 7,645 คน 

บิ๊กตู่ครวญเพลง"รักเธอเสมอ"

      น.ส.ปัฐมาภรณ์กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมเห็นชอบผ่านร่างกฎหมาย 2 ฉบับ เพื่อเสนอ สนช. คือ 1.ร่างพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับที่ พ.ศ... ที่จะปรับปรุงเนื้อหาป้องกันการฮั้วข้อมูลเพื่อหาประโยชน์ โดยห้ามบุคคลภายในเข้าไปเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่เกี่ยวข้องกับตลาดหลักทรัพย์เพื่อตนเองหรือบุคคลอื่น รวมถึงการเปิดเผยข้อมูล พร้อมกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งไว้ด้วย จะทำให้การซื้อขายหลักทรัพย์สุจริตและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และ 2.ร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ฉบับที่ พ.ศ.. โดยกำหนดบทบัญญัติองค์ประกอบของคณะตุลาการศาลปกครองให้ชัดเจนมากขึ้น ทั้งคุณคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม วิธีการเลือกและวาระการดำรงตำแหน่งและ การพ้นจากตำแหน่ง 

       รายงานข่าวแจ้งว่า หลังการประชุมพล.อ.ประยุทธ์เชิญทุกคนร่วมรับประทานอาหารกลางวันบนชั้น 6 ตึกกองบัญชาการกองทัพบกตามปกติ บรรยากาศเป็นกันเอง ครั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นไปร้องเพลง "รักเธอเสมอ" ของอัสนี-วสันต์ โชติกุล บนเวทีเพื่อผ่อนคลายอิริยาบถ ต่างจากทุกครั้งที่มีเพียงรับประทานอาหารร่วมกันเท่านั้น ขณะที่ ผู้บัญชาการเหล่าทัพก็ขึ้นเวทีร้องเพลงมาร์ช "สามัคคี 4 เหล่า" ผ่อนคลายบรรยากาศ เช่นกัน 

เคลียร์ใจ - ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และปลัดสำนักนายกฯ หารือปรับความเข้าใจกับตัวแทนสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย ระบุว่าไม่ได้โจมตีเหมารวมผู้นำอปท.ทั่วประเทศว่าทำตัวฟุ่มเฟือย ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 2 ก.ย.

ทำเนียบคึก-รอถ่ายหมู่ครม.

      ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. กล่าวว่า ได้รับการประสานเป็นการภายในจากรัฐบาลว่า หลังนำครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่แล้ว พร้อมที่จะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสนช.ทันที แต่ในส่วนของสนช.จะจัดสรรเวลาให้ยืดหยุ่นพอสมควร เพราะต้องแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า 2-3 วัน เพื่อเตรียมตัวเสนอแนะรัฐบาล ขณะนี้มีสมาชิกหลายคนเริ่มทำการบ้านแล้ว 

       ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า บรรยากาศคึกคักตลอดทั้งวัน สื่อไทยและต่างประเทศจำนวนมากมาสังเกตความเคลื่อนไหว หลังมีข่าวพล.อ.ประยุทธ์จะนำ ครม.มาถ่ายรูปหมู่ โดยเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ต่างๆ มาเตรียมพร้อมถ่ายรูปติดบัตรให้กับรัฐมนตรีใหม่ ทั้งนี้ทุกหน่วยงานระบุว่า เตรียมพร้อมต้อนรับนายกฯ และครม.ชุดใหม่ แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาที่เป็นทางการ

      บ่ายวันเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมฯ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ คสช. และ พล.อ.สกล ชื่นตระกูล ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ กองทัพบก หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า คสช. (สปก.คสช.) สำรวจความพร้อมการปรับปรุงซ่อมแซมตึกบัญชาการ 1 โดยเฉพาะห้องประชุม ครม.ชั้น 5 โดยเจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการทหารบกและฝ่ายช่างยืนยันว่า ห้องประชุมครม.จะเสร็จทันประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า 

มท.ติดป้ายชื่อรัฐมนตรีแล้ว

       ที่กระทรวงมหาดไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่เตรียมการต้อนรับการเข้าปฏิบัติหน้าที่ของพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดยนำป้ายชื่อมาติดที่หน้าห้องรัฐมนตรีแล้ว พร้อมทำความสะอาดและจัดห้องสำหรับรัฐมนตรีและคณะทำงาน ส่วนห้องทำงานของนายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย อยู่ตรงข้ามห้องรมว.มหาดไทย เบื้องต้นมีรายงานว่าช่วงเช้าวันเดียวกันนี้นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางเข้าพบ พล.อ. อนุพงษ์ที่บ้านพัก คาดว่าจะหารือถึงการเข้าปฏิบัติหน้าที่ คาดว่าทั้งพล.อ.อนุพงษ์และ นายสุธีจะยังไม่เข้ากระทรวงจนกว่ารัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อ สนช. 

      รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย เผยความเคลื่อนไหวการวางตัวบุคคลมา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา เลขาฯ และผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทยว่า เบื้องต้นน่าจะมีชื่อนายประชา เตรัตน์ อดีตรองปลัดมหาดไทย และนายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี อดีตผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา โดยคนหนึ่งเป็นเลขาฯ และอีกคนเป็นที่ปรึกษา นอกจากนี้ยังวางตัวนายจาดุร อภิชาตบุตร อดีตหัวหน้าผู้ตรวจราชการมหาดไทย เป็นที่ปรึกษานายสุธี และผลักดันนายศิวะ แสงมณี อดีตอธิบดีกรมการปกครอง มาเป็นคณะทำงานด้วย แต่คสช. ไม่เห็นด้วย เนื่องจากนายศิวะเคยขึ้นเวที กปปส. อาจถูกมองว่าไม่เป็นกลาง ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกวางตำแหน่งคณะทำงานทั้งหมดล้วนจบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ หรือสิงห์ดำ 

ปนัดดาคุยอปท.-อ้างว่าหน่วยอื่น

       ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ และปลัดสำนัก นายกฯ ต้อนรับคณะสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย หารือแนวทางความร่วมมือในการทำงาน โดยม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ดีใจที่มีโอกาสพบและทำความเข้าใจ ตนไม่เคยคิดแบ่งแยกความเป็นข้าราชการ ส่วนกลาง ภูมิภาค ท้องถิ่น นายกฯ ก็ปรารถนาดีต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อยากเห็นการปรับปรุงพัฒนาทุกด้านเพื่อความยั่งยืนของ อปท. อย่าคิดเป็นอย่างอื่นตามคำร่ำลือโดยเฉพาะเรื่องยุบอปท. ในฐานะปลัดสำนักนายกฯ จะขอทำงานร่วมกับทุกคน ดูแลงานกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามแนวทางของนายกฯ สำหรับตนคิดและทำอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันว่าข้อคิดต่างๆ ในเฟซบุ๊กส่วนตัวไม่ได้คิดมุ่งร้ายกับใคร สิ่งที่พูดไม่เคยเหมารวม และไม่คิดเป็นอย่างอื่นนอกจากอยากให้ อปท.ยั่งยืน 

      "ที่ผ่านมามีการเขียนเล่าให้ฟังว่ามีองค์กรหนึ่งไปกินเหล้าบนเครื่องบิน แอร์โฮสเตสไม่ขายให้ก็เข้าไปเองในครัว เปิดลิ้นชักเอาวิสกี้ขวดเล็กออกมาแล้วก็ไป เล่นไพ่กันอย่างสนุกมากที่หน้าห้องน้ำบนเครื่อง 747 จนเป็นที่ตกใจของคนในเครื่องบิน อันนี้ไม่ได้พูดถึงอปท. แต่เป็นเรื่องหน่วยงานหนึ่ง สุดท้ายกัปตันต้องเอากุญแจมือใส่ ผมก็พยายามถ่ายทอดเรื่องนี้ให้ฟัง แต่อะไรที่พูดไปแล้วก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ต้องขออภัย จากนี้เรามาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ผมไม่เคยหลงอำนาจ ลุแก่อำนาจ ผมกวาดบ้านตนเองเสมอ" ม.ล.ปนัดดากล่าว

อปท.ยอมเจ็บเพื่อปรองดอง

       ด้านนายชัยมงคล ไชยรบ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย และนายกอบจ.สกลนคร กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของม.ล.ปนัดดาแม้เกิดจากความจริงใจ แต่ส่งผลกระทบรุนแรงต่ออปท. พวกตนจึงต้องการเสนอข้อมูลอีกมุม ซึ่งม.ล.ปนัดดาสามารถเอาไปพูดโดยไม่ต้องกลัวการติดคุก ยืนยันว่าพวกตนสำนึกในความเป็นคนของประชาชน กลัวการถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลว ดังนั้นจะทำความดีต่อประชาชนเพื่อให้เกิดศรัทธา เชื่อมั่นว่าการกระจายอำนาจคือต้นน้ำของประชาธิปไตย การคืนความสุขให้ประชาชนคือการกระจาย อำนาจ ท้องถิ่นรู้ปัญหาพื้นที่ดีกว่าส่วนกลาง มากกว่าข้าราชการประจำด้วยซ้ำเพราะเราเกาะพื้นที่ตลอด 

       นายชัยมงคล กล่าวว่า อปท.แม้ได้รับความเสียหายจากผลกระทบ ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริง แต่เรายอมจบและยอมเจ็บ วันนี้ประเทศต้องการความปรองดอง ส่วนปัญหาที่ม.ล.ปนัดดานำเสนอต่อสื่อมวลชนควรนำเข้าสู่สภาปฏิรูป เชื่อว่าการทุจริตน่าจะเป็นหัวข้อต้นๆ ในการพิจารณา พวกตนน้อมรับเส้นทางประชาธิปไตย และเชื่อว่าปลัดสปน.มีความจริงใจต่อแผ่นดินและประชาชนไม่ต่างจากพวกเรา การทุจริตเป็นสิ่งไม่ดี แต่แทนที่จะไปชี้หน้าว่าคนโน้นเลว คนนี้โกง เรามาร่วมมือกันสร้างกฎกติกาควบคุมคน ไม่ดี ไม่ให้เข้ามาบริหารบ้านเมืองจะดีกว่า

รมว.คลังเร่งงานโยกย้ายขรก.

       นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เผยว่า หลัง พล.อ.ประยุทธ์แถลงนโยบายกับสนช. จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่รมว.คลัง โดยจะพิจารณาโยกย้ายผู้บริหารกระทรวงการคลังตามฤดูกาล ที่จะมีผู้เกษียณอายุทำให้ตำแหน่งว่างลง ส่วนการโยกย้ายผู้บริหารกระทรวงการคลังบางตำแหน่งที่สำคัญก็ต้องปรึกษากับ ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ ที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ให้ช่วยพิจารณาตัดสินใจเพื่อให้ได้คนที่เหมาะสมมากกับตำแหน่ง

       สำหรับตำแหน่งผู้บริหารกระทรวงการคลังที่ว่างอยู่ขณะนี้มีรองปลัดกระทรวง 2 ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง 2 ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ที่ น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร เป็นอยู่ว่าง อีก 1 ตำแหน่ง เนื่องจากเกษียณอายุราชการ อย่างไรก็ตาม ในตำแหน่งของผู้ตรวจฯ ยังไม่นิ่ง เพราะอาจมีการโยก นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อดีตอธิบดีกรมศุลกากร และนายสุทธิชัย สังขมณี อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ที่นั่งในตำแหน่งผู้ตรวจฯคลังที่เป็นตำแหน่งเฉพาะตัว จากคำสั่งคสช.ให้เข้ามาเป็นผู้ตรวจตำแหน่งปกติที่ว่างอยู่

คาดวาง"จักรกฤศฏิ์"ตามสางหนี้

       รายงานข่าวแจ้งว่า นายสมหมายได้หารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เพื่อปรับโยกย้าย ผู้บริหารกระทรวงการคลัง ในส่วนอธิบดีกรมภาษีคาดว่าจะไม่มีการโยกย้าย เนื่องจากเพิ่งโยกเมื่อตอนคสช.เข้ามา ตำแหน่งที่คาดว่าจะมีการโยกย้ายคือ นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ ที่อาจจะถูกโยกมาเป็น ผู้ตรวจหรือรองปลัด และโยกนายอำนวย ปรีมนวงศ์ ผู้ตรวจ ลูกหม้อของกรมธนารักษ์ให้ไปนั่งตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์ หลังจากนั่งในตำแหน่งผู้ตรวจคลังมาแล้ว 5 ปี

       ขณะที่ตำแหน่งผู้อำนวยการ สบน. จะแต่งตั้งคนใน สบน. ขึ้นเป็นผู้อำนวยการแทน หรืออาจให้นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองปลัดกระทรวงการคลัง กลับไปนั่งในตำแหน่งผู้อำนวยการ สบน.อีกครั้ง เนื่องจากมีภารกิจสำคัญทั้งการกู้เพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การกู้เพื่อแก้ไขฐานะของบริษัทการบินไทย และการสะสางเงินกู้จำนำข้าวที่ยังค้างอยู่กว่า 5 แสนล้านบาท

"อุ๋ย"เล็งวางตัวผู้บริหารแบงก์รัฐ

       รายงานข่าวกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธรยังให้ความสำคัญกับการ แต่งตั้งผู้บริหารแบงก์รัฐให้มีความเหมาะสม โดยเฉพาะตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ที่ยังว่างอยู่ให้เร่งดำเนินการสรรหา แต่ในส่วนของเอสเอ็มอีแบงก์ยังต้องรอดูนโยบายของ ม.ร.ว.ปริดียาธร ว่าจะให้มีการควบรวมกับธนาคารออมสินหรือไม่ ซึ่งอาจจะไม่จำเป็นต้องสรรหากรรมการผู้จัดการคนใหม่

ห้ามแถลง - พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี ขอให้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยุติการแถลงข่าวเรื่องความยุติธรรมที่ปิดปรับปรุง โดยระบุว่าขัดกับกฎอัยการศึกที่ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ อาคารมณียา เมื่อวันที่ 2 ก.ย.

       ส่วนตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย และ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ ยังไม่มีความชัดเจนจากฝ่ายนโยบายของกระทรวงการคลังว่าจะให้มีการเปลี่ยนตัวหรือจะให้อยู่จนครบวาระ

สมยศลั่นตร.พร้อมร่วมงานครม.

       ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. ดูแลงานด้านความมั่นคง ว่าที่ ผบ.ตร. กล่าวถึงรัฐมนตรีที่จะเข้ามากำกับดูแลตร.ว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกับทางครม.หรือบุคคล ที่จะเข้ามากำกับดูแลตร. และยังไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมอบหมายงานให้ใครมาดูแลด้วย แต่เชื่อว่าไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้ดูแลงานของตร. หรือแม้แต่พล.อ.ประยุทธ์จะลงมาดูเองนั้น ตนและข้าราชการตำรวจทุกคนก็พร้อมจะทำงานร่วมกับทุกคน และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน

        พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เชื่อว่าหลังมี ครม.ซึ่งเป็นไปตามโรดแม็ปที่ คสช.วางไว้ ประชาชนเองก็จะเฝ้าจับตามองโรดแม็ปการทำงานต่อไปว่าจะเป็นไปในแนวใด เชื่อว่าประชาชนจะให้การสนับสนุนการทำหน้าที่ของคสช.และครม.ต่อไป เพราะจากผลโพลหลายสำนักก็เป็นไปในทิศทางที่ดี กลุ่ม ผู้ชุมนุมหรือผู้ที่จะแสดงกิจกรรมในเชิงต่อต้านคงจะไม่เกิดขึ้น ที่อาจมีบ้างก็เป็น ผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องเรื่องปากท้องและความเป็นธรรมต่างๆ ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ถือเป็นการชุมนุมทางการเมือง ต้องแยกแยะว่าการชุมนุมใดคือการชุมนุมทางการเมือง หรือเป็นการชุมนุมเพื่อสิทธิของประชาชน 

เตือนศึกษากม.ก่อนชุมนุม

        รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ฝากไปถึงประชาชนว่า จะทำการใดๆ ก็แล้วแต่ขอให้ศึกษากฎหมายให้ถ่องแท้และชัดเจน เพราะบางครั้งการกระทำที่เกิดขึ้นอาจไม่ผิดกฎหมายข้อหนึ่งแต่กลับไปผิดอีกข้อหนึ่ง เหมือนเหตุการณ์ที่มีกลุ่มบุคคลนำใบปลิวที่มีหัวข้อ "คำฟ้องของศาลประชาชน" มาโปรยบริเวณลานจอดรถสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หมอชิต เมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา เรื่องดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่หนักใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องกำกับดูแลและทำทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย ทั้งที่รู้ว่าผู้ที่ออกมา กระทำการไม่ได้มีเจตนาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ด้วยความที่ไม่เข้าใจข้อกฎหมายอย่างถ่องแท้ 

       "ทุกครั้งที่มีการพูดถึงเรื่องการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมหรือผู้ที่จะทำกิจกรรมทางการเมืองนั้นก็ขอให้ศึกษากฎหมายให้ชัดเจน โดยเฉพาะนิสิตนักศึกษาที่บางครั้งอาจทำไปด้วยความสนุก หรือเพราะเพื่อนชวนเพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีแนวความคิดที่แตกต่าง ขอร้องว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ขอให้ทำความเข้าใจและศึกษากฎหมายให้ชัดเจนเสียก่อน" 

"ถั่วแระ"รับเสนอร่วมสภาปฏิรูปฯ

      ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวหลังตรวจความเรียบร้อยการเปิดรับการเสนอรายชื่อเป็นสมาชิก สปช. ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ว่า ภาพรวมถือว่าเป็นที่น่าพอใจกับตัวเลขผู้ที่มาเสนอรายชื่อทั้งในส่วนองค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงกำไร ที่เสนอชื่อเป็นสปช. 11 ด้าน และการเสนอชื่อในส่วนของจังหวัด หลังจากนี้จะเป็นกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติ โดยจะเป็นไปอย่างเข้มงวด เบื้องต้นยังไม่พบผู้ที่ขาดคุณสมบัติ ส่วนการประชุมของของคณะกรรมการสรรหาครั้งแรกวันที่ 4 ก.ย. นี้ และจะประชุมต่อไปอีกไม่เกิน 3 ครั้ง เชื่อว่าวันที่ 2 ต.ค. จะได้รายชื่อสปช.ครบ 

     ด้านนายศรสุทธา กลั่นมาลี หรือถั่วแระ เชิญยิ้ม นายกสมาคมศิลปินตลกฯ กล่าวภายหลังเข้าเสนอชื่อเป็นสปช.ในด้านอื่นๆ ว่า ส่วนตัวมีถวามถนัดด้านกีฬา ก่อนหน้านี้ได้มีการรณรงค์เกี่ยวกับกีฬาและร่วมเชียร์นักกีฬาไทยมาโดยตลอด จึงอยากเห็นการกีฬา ของไทยก้าวไปไกลให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะ หากได้เข้ามาปฏิรูปก็อยากจะเน้นเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา 

ผอ.โรงเรียน"บิ๊กตู่"ก็สมัครสปช.

      เวลา 10.30 น. นายประเสริฐ ผุดผ่อง ผอ.โรงเรียนวัดนวลนรดิศ โรงเรียนที่พล.อ.ประยุทธ์ ศึกษาในระดับมัธยมฯ ได้ เข้ามายื่นเอกสารเสนอชื่อเป็นสปช.ในด้านการศึกษา พร้อมแจกเอกสารระบุข้อความว่า ผอ.โรงเรียนนายกรัฐมนตรีขอร่วมสภา ปฏิรูปฯ หากมีโอกาสได้รับการสรรหาเข้าสู่สภาปฏิรูปฯ ก็หวังจะปฏิรูปการศึกษาให้เป็นรูปธรรม โดยมีแนวคิดที่ต้องการให้การเมืองมีผลต่อการศึกษาน้อยที่สุด และต้องปฏิรูปการศึกษาที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องมีกฎหมายให้อำนาจสภาการศึกษาให้เป็นอิสระ ปลอดการเมือง ให้มีงบประมาณที่เพียงพอ

       นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เผยว่าตามที่สื่อหลายสำนักรายงานข่าวว่า สมาคมสโมสรพนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทย เสนอชื่อ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมนั้น สมาคมสโมสรพนักงาน กทพ. มีสถานะเป็นนิติบุคคลต่างหากจาก กทพ.จึงไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานของ กทพ. เป็นการดำเนินการของทางสมาคมสโมสรแต่เพียงฝ่ายเดียว

"ธาริต"เมินถูกโจมตี

        นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ที่ปรึกษาสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า กรณีมีการโจมตีการส่งรายชื่อตนจากสมาคมสโมสรพนักงานการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเข้ารับการสรรหาเป็นสมาชิก สปช. ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมนั้น เป็นเรื่องที่ไม่เกินความคาดหมายที่กลุ่มคนบางกลุ่มซึ่งเป็นคู่กรณีหรือพวกที่ถูกตนเคยดำเนินคดี จะออกมาคัดค้าน แต่ตนไม่ให้ความสำคัญหรือใส่ใจคนเหล่านั้น 

       นายธาริต กล่าวว่า สมาคมสโมสรพนักงานการทางพิเศษฯ พิจารณาเสนอชื่อตนก็เพื่อความหลากหลาย และเห็นว่าที่ผ่านมาเป็นคนในกระบวนการยุติธรรม เป็นข้าราชการคนหนึ่งที่มีประสบการณ์ด้านกระบวนการยุติธรรม เป็นทั้งอัยการ อดีตเลขาธิการป.ป.ท. อดีตอธิบดีดีเอสไอ และอาจารย์กฎหมาย ความรู้ความสามารถที่พอมีอยู่น่าจะนำไปใช้ในการปฏิรูป แต่จะได้รับคัดเลือกหรือไม่ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการ ส่วนเรื่องคุณสมบัติผู้รับสมัครได้ตรวจสอบทั้งข้อกฎหมายและระเบียบตามประกาศคสช.แล้ว เบื้องต้นไม่ขัดหรือขาดคุณสมบัติแต่อย่างใด 

สรุปสมัคร"สปช."รวม 6,729 คน

      เวลา 17.00 น. ที่กกต. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. แถลงสรุปยอดเปิดรับการเสนอชื่อสมาชิก สปช. ระหว่างวันที่ 14 ส.ค. - 2 ก.ย. โดยวันสุดท้ายของการเปิดรับการเสนอชื่อ มีองค์กรนิติบุคคลที่ไม่แสวงหา ผลกำไรยื่นเสนอรายชื่อใน 11 ด้านมายื่นที่สำนักงานกกต. 579 คน และยื่นที่คณะกรรมการสรรหาระดับจังหวัด 342 คน รวมยอดวันนี้ 921 คน และเมื่อรวมตลอด 20 วันของการเปิดรับการเสนอชื่อ มีองค์กรนิติกรบุคคลไม่แสวงหากำไรยื่นเสนอรายชื่อผู้ที่เหมาะสมเข้ารับการสรรหาเป็น สปช. ใน 11 ด้าน 3,959 คน โดยแยกเป็นด้านการศึกษา 619 คน ด้านอื่น 575 ด้านสังคม 567 คน ด้านปกครองท้องถิ่น 383 คน ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 342 คน ด้านเศรษฐกิจ 304 คน ด้านพลังงาน 262 คน ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 258 คน ด้านการเมือง 246 คน ด้านบริหารราชการแผ่นดิน 232 คน และด้านสื่อสารมวลชน 171 คน 

        ส่วนในระดับจังหวัดมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อ 2,770 คน โดยจังหวัดที่มีผู้เข้าเสนอชื่อมากสุด คือ กทม. 113 คน กาฬสินธุ์ 79 คน อุบลราชธานี 71 คน สงขลา 66 คน มหาสารคาม 63 คน ส่วนจังหวัดที่มีผู้เข้าเสนอชื่อน้อยที่สุดคือ ระยอง 13 คน พิจิตร 15 คน ตาก 17 คน สุราษฎร์ธานี 17 คน และชัยนาท 18 คน รวมมีผู้เข้ารับการเสนอชื่อ ทั่วประเทศทั้งสิ้น 6,729 คน แต่ทั้งนี้ตัวเลข ผู้เข้ารับการเสนอชื่อยังคงต้องรอการเสนอชื่อมาทางไปรษณีย์ คาดว่า กกต.จะสามารถรวบรวมรายชื่อทั้งหมดอย่างเป็นทางการไม่เกินวันที่ 4 ก.ย.

มาร์คห่วงปฏิรูปพลังงานวุ่น

        เวลา 10.10 น. เครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน ที่เดินเท้ารณรงค์เผยแพร่ข้อเสนอแนวทางปฏิรูปพลังงานต่อหัวหน้า คสช. จาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. ล่าสุดถูกทหารจากค่ายวิภาวดีเข้าควบคุมตัว ขณะเดินเท้าเข้ามาในพื้นที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าเข้าสู่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี โดยพาขึ้นรถตู้เข้าไปในค่ายวิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี รวม 8 คน ประกอบด้วย นายโอภาส ตันติฐากูล อดีตอาจารย์ ม.วลัยลักษณ์, นายอุดม สีนวล, นายประวีณ จุลภักดี อาจารย์ มรภ.สุราษฎร์ธานี, นายศรเดช คำแก้ว, นายนพดล ยาจิตร์, นายวิชชุนัย วิวัฒน์, นายอนุวัติ พ่วงเกิด และนายบุญธรรม ฉวาง 

       นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงครม.ใหม่ว่า โจทย์ที่ทุกคนตั้งไว้คือ 1.ปฏิรูปประเทศ และ 2.มาตรฐานเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น พล.อ. ประยุทธ์จะต้องรับผิดชอบและพิสูจน์ตัวเอง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประชาชนพึงพอใจการยึดอำนาจ เพราะคสช.แก้ปัญหาหลายเรื่อง เช่น จ่ายเงินเกษตรกร ชาวนา จัดการกับอิทธิพลเถื่อนต่างๆ แต่หลังจากนี้งานจะยากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปที่พอเริ่มแตะบางเรื่อง เช่น พลังงาน ก็มีความเห็นไม่ตรงกัน ยากลำบากสำหรับรัฐบาลหรือคสช.พอสมควร และยังมีเรื่องเศรษฐกิจ ความผันผวนของเหตุการณ์ในต่างประเทศ รวมถึงข้อจำกัดเรื่องงบฯ ปี 2558 คือเอาไปจ่ายหนี้จากนโยบายเก่าโดยไม่สามารถสร้างประโยชน์อะไรได้ จึงเป็นสิ่งท้าทายการบริหารงานของรัฐบาล 

ติงครม.ใส่หมวก 2 ใบ

         นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ครม.ชุดใหม่นั้นเชื่อมั่นว่านายกฯ จะสามารถควบคุมขับเคลื่อนทิศทางไปข้างหน้าได้ ในส่วนของรัฐมนตรีจากภาคเอกชน ทุกคนคงยอมรับความสามารถ แต่ตนเป็นห่วงในส่วนของภาคราชการที่รับตำแหน่ง เพราะหากเป็นการขับเคลื่อนงานตามปกติ เชื่อว่าทำได้ดีอยู่แล้ว แต่งานราชการกับงานนโยบายจะแตกต่างกัน ส่วนที่หลายคนมองว่าการรับตำแหน่งของส่วนราชการเป็นการสวมหมวก 2 ใบนั้น ต้องดูว่าภาระงานมากน้อยแค่ไหน แม้แต่ สนช. การประชุมแต่ละครั้งจะมีข้าราชการเข้าไปเยอะมาก คงกระทบกับงานประจำ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ ทางเลือกมีไม่มาก ต้องพึ่งคนในวงราชการเป็นหลัก 

ปึ้งชี้รัฐบาลมีแต่ผู้อาวุโส

        นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงรมว.ต่างประเทศ คนใหม่ พล.อ.ธนะศักดิ์มีภารกิจต้องชี้แจงต่อนานาประเทศ สื่อต่างชาติส่วนใหญ่เป็นห่วงว่าครม.ชุดนี้มีนายทหารถึง 1 ใน 3 ซึ่งเดือนนี้จะมีการประชุมสหประชาชาติ เป็นโอกาสดีที่รมว.ต่างประเทศจะใช้เวทีนี้ชี้แจง ถ้าสังคมประชาธิปไตยเข้าใจก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าไม่เข้าใจ รัฐบาลจะต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป แต่เชื่อว่ารมว.ต่างประเทศและรมช.ต่างประเทศจะชี้แจงได้ สำคัญที่สุดคือนายกฯ จะต้องดำเนินการต่างๆ ด้วยความโปร่งใส ซื่อตรง สอดคล้องกับความต้องการประชาชน ตนเอาใจช่วยและสนับสนุนรัฐบาลเต็มที่ ไม่ต้องห่วง พวกตนเป็นนักการเมือง ตอนนี้หยุดดำเนินงานทางการเมืองแล้ว สิ่งไหนที่รัฐบาลทำไม่ได้ รัฐมนตรีคนไหนทำไม่ถูกต้อง จะช่วยตรวจสอบให้อีกแรง ให้ประเทศปลอดการทุจริตคอร์รัปชั่น

       "รัฐบาลชุดนี้ที่ส่วนใหญ่มีแต่ผู้อาวุโส อายุน้อยสุดก็ 53 สูงสุด 70 ถือเป็นรัฐบาลที่ค่อนข้างอายุมาก ประสบการณ์น่าจะมาก ควรจะทำงานให้ได้มากๆ แต่อย่าทำงานแล้วเหนื่อยหรือเจ็บไข้ได้ป่วยก่อน" นายสุรพงษ์กล่าว

จารุพงศ์จี้"บิ๊กตู่"เคารพสิทธิ์

        นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เผยว่า วันนี้ตนได้ทำหนังสือส่งทางอีเอ็มเอสถึงพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ตรวจสอบกฎอัยการศึกที่ใช้อยู่ทั้ง 2 ฉบับว่าซ้ำซ้อนกันหรือไม่ และขอให้ตรวจสอบคำสั่ง คสช. ตั้งแต่คำสั่งที่ 120/2557 ถึง 171/2557 มีอยู่หรือไม่ มีการกระโดดข้าม คำสั่งหรือกันเลขที่คำสั่งไว้หรือไม่ สืบเนื่องจากพบความจริงว่า คสช.ออกคำสั่งที่ 108/2557 ซึ่งอ้างถึงกฎอัยการศึกวันที่ 20 พ.ค. ทำให้สับสนว่า คสช.ใช้กฎอัยการศึกฉบับไหนกันแน่ ตรวจเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาพบใช้กฎอัยการศึกอยู่ถึงสองฉบับด้วยกัน นอกจากนั้นยังพบว่าคำสั่ง คสช.กระโดดข้ามอย่างมากอีกหลายคำสั่ง จึงทำหนังสือถามนายกฯ ว่า ทำไมใช้กฎอัยการศึก 2 ฉบับและควรยกเลิกฉบับใดหรือไม่ หรือควรยกเลิกทั้ง 2 ฉบับ 

        นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีต รมว.มหาดไทย ฐานะเลขาธิการองค์การเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัววิพากษ์วิจารณ์ คสช.อีกครั้ง เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์เคารพสิทธิมนุษยชนด้วยการทำให้ระบอบการปกครองของไทยเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับว่ามีสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อีกทั้งหากใครจะขึ้นมา ปกครองบริหารประเทศจะต้องได้รับฉันทานุมัติจากคนในสังคมนั้นๆ ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของคนในประเทศ 

ยันมีผู้บริหารกทม.-แม้ไร้ผู้ว่าฯ

       รายงานข่าวจากศาลาว่าการ กทม. แจ้งว่า ความคืบหน้าการต่อสู้คดีกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาจัดการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากการหาเสียงของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ไม่สุจริต โดยศาลอุทธรณ์ได้นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 5 ก.ย.นี้ โดยแนวทางการตัดสินจะมี 2 ทาง คือ ให้มีเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใหม่ตามคำร้องของ กกต. หรือยกคำร้อง หากให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใหม่ ก็จะทำให้ตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.และผู้บริหารฝ่ายการเมือง ที่ประกอบด้วย รองผู้ว่าฯ กทม. ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. เลขานุการผู้ว่าฯ กทม. และโฆษก สิ้นสุดลงทันที 

        รายงานข่าวระบุด้วยว่า พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ตามมาตรา 54 กำหนดให้ผู้ว่าฯ กทม.ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 52 (1) คือ ถึงคราวออกตามวาระ ก็ให้คงอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งได้รับเลือกตั้งใหม่เข้ารับหน้าที่ แต่ในกรณีพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอื่นใดนอกจากการออกตามวาระ ให้ปลัด กทม.เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ถ้าไม่มีปลัด กทม.หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รมว.มหาดไทยแต่งตั้งรองปลัด กทม.หรือข้าราชการ กทม. ผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.

ร่างถอดถอนจ่อเข้าสนช.11กย.นี้

       เมื่อวันที่ 2 ก.ย. นายตวง อันทะไชย โฆษกกรรมาธิการสามัญยกร่างข้อบังคับการประชุม สนช. กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุม สนช.ปี 2557 ว่า ขณะนี้ กรรมาธิการฯ ยกร่างข้อบังคับการประชุมเสร็จแล้ว จะนำเข้าสู่ที่ประชุม สนช.ในวันที่ 11 ก.ย. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ 

      นายตวงกล่าวว่า เนื้อหาในร่างข้อบังคับการประชุมระบุถึงการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามกรอบมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 แต่ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุม สนช.จะพิจารณาว่า เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจของ สนช.หรือไม่ ซึ่งต้องดูเป็นกรณีไป ถ้าเป็นเรื่องการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ถือว่าอยู่ในอำนาจการพิจารณา แต่ถ้าเป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงต้องนำมาหารือในที่ประชุม สนช.ก่อนว่า อยู่ในอำนาจวินิจฉัยหรือไม่

       ด้านพล.ท.ชาตอุดม ติตถะสิริ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2558 เผยว่า การพิจารณารายละเอียดการเสนอของบประมาณ ยึดตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ส่วนการทำข้อสังเกตของ กมธ.เน้นการใช้งบให้คุ้มค่า สอดคล้องนโยบายหัวหน้า คสช. โครงการที่เป็นของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั้นได้พิจารณาสานต่อหากเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน แต่หากเป็นนโยบายที่เน้นประชานิยม เช่น โครงการรับจำนำข้าวก็ไม่ได้ดำเนินงานต่อแต่อย่างใด โดยจะนำเข้าที่ประชุม สนช. วันที่ 17 ก.ย.นี้ ใช้ระยะเวลาพิจารณา 1 วัน หากไม่เสร็จสามารถขยายวันพิจารณาออกไปได้

"สื่อตปท."โวยโดนขวางเสวนา

       วันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ อาคารมณียา เซ็นเตอร์ ว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ส่งหมายเชิญสื่อมวลชนร่วมทำข่าวเวทีเผยแพร่รายการสถานการณ์สิทธิมนุษยชนและเสวนา "ความยุติธรรมที่ปิดปรับปรุง" ในเวลา 14.30-17.30 น. โดยมีตัวแทนจากศูนย์ฯ กลุ่มคณะกรรมาธิการนิติศาสตร์ระหว่างประเทศ หรือไอซีเจ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ซีอาร์ซีเอฟ และกลุ่มอภิปรายทางอินเตอร์เน็ตว่าด้วยการปฏิรูปกฎหมาย หรือไอลอว์ เข้าร่วมในหัวข้อเสวนา เรื่อง "สถานการณ์สิทธิมนุษยชน 100 วันหลังการรัฐประหาร"

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานดังกล่าวต้องยุติลงเนื่องจากหน่วยงานรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ปทุมวัน มีหนังสือขอความร่วมมือให้งดแถลงข่าวตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ว่าหากกลุ่มจัดงานมีเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ประสบปัญหาการเข้าถึงสิทธิ์ในกระบวนการยุติธรรม และการใช้เสรีภาพแสดงความคิดเห็น ให้เสนอผ่านศูนย์ดำรงธรรม สำนักตรวจราชการและ เรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงมหาดไทย และวันเดียวกันเวลา 14.00 น. มีเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าตรวจสอบด้วย