ซัคเซสมอร์ ลั่นสิ้นปียอดขายพันล้าน กางแผนปีหน้ารุกหนักเจาะตลาดเพื่อนบ้าน

                บ้านเมือง : สุภพงษ์ เทียนสี/รายงาน

    'ซัคเซสมอร์' เผยวิกฤติการณ์ภายในประเทศไม่ส่งผลกระทบยอดขาย หยอดคำหวานการเมืองเริ่มนิ่งแล้ว ยันสิ้นปีนี้โกยยอดขายได้แน่พันล้าน พร้อมระบุกลยุทธ์ปีหน้าเตรียมขยายสาขาเจาะตลาดเพื่อนบ้าน ปลายปีนี้ตอกเสาเข็มเมืองเวียงจันทน์-เมียนมา และเป้าหมายบุกไปยังเวียดนามต่อในอนาคต

     น.พ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ ประธานผู้ก่อตั้ง และ นายนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด เปิดเผยว่า จากกลยุทธ์แผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้ถือว่าเราประสบความสำเร็จตามแบบแผนที่วางไว้ โดยในปีนี้เราตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 1,000 ล้านบาท โดยธุรกิจภายในประเทศไทย 80% และที่เมียนมา 20% จบไตรมาสที่ 3 ของปีเรามียอดขายรวมกว่า 700 ล้านบาท ต่อจากนี้มีเวลาอีก 3 เดือนที่เหลือ จากแผนยุทธศาสตร์การทำงานของเราคาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ทะลุเป้า 1,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน

     สำหรับ ยอดขายรวมที่ได้ตั้งเป้าไว้ 1,000 ล้าน ตอนนี้เราใช้คำว่ามันนอนมาแล้ว จากผลพวงยุทธศาสตร์ที่เราทำมาตลอด 3 ไตรมาส แล้วตอนนี้เรากำลังคิดกลยุทธ์ปีหน้า ซึ่งสิ่งที่เราทำก็คือวิเคราะห์ว่ามีเหตุการณ์ใหญ่ที่อาจจะพลิกผันจากที่เป็นอยู่ว่ามีความเสี่ยงอะไรบ้าง หรือมีปัจจัยอะไรที่มันควบคุมไม่ได้ ถ้าปัจจัยยังวิ่งตามเดิมต้องเรียกว่ายอดขายนอนมาทะลุเป้าแน่นอน

       ขณะเดียวกัน ปัจจัยของภายนอกในเรื่องของการเมือง ในเรื่องเศรษฐกิจอะไรต่างๆ ไม่ได้มีผลกระทบต่อเป้าหมายของเราเลย เพราะช่วงนี้ดูแล้วการเมืองมันคงไม่รุนแรงกว่าสมัยที่ผ่านมาแล้ว ตอนนี้การเมืองนิ่งกว่าในอดีตที่ผ่านมา โดยกลยุทธ์ความแข็งแรงของเราสามารถเอาชนะปัจจัยภายนอกได้ทำให้เราเติบโตมาถึงตรงนี้ได้ ดังนั้น ตนมั่นใจเป้าหมาย 1,000 ล้านปีนี้สามารถดำเนินการได้ตามเป้าได้แน่นอน โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ มีการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง การออกสินค้าตามแผนงานเดิม แล้วก็การดูแลในการอยู่ร่วมกันของนักธุรกิจซัคเซสมอร์ให้มีความเป็นหนึ่งเดียวตรงนี้ถือว่าเราเอาอยู่

    "เวลาเรามองการสร้างยอดธุรกิจในตลาดนั้น มันจะต้องแยกสองส่วนออกจากกัน หนึ่งก็คือเรื่องของสภาวะตลาด ความฝืดเคืองในตลาดทั้งหมดที่มีอยู่ เรื่องที่สองความต้องการเปลี่ยนชีวิตของคนที่มองธุรกิจเครือข่าย ซึ่งอันนี้ข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบันก็คือสภาพตลาดมันฝืดเคือง แต่ความต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยเครือข่ายยังคงมีอยู่ แล้วคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนในเครือข่ายนั้นมันมีอยู่สองกลุ่มใหญ่ กลุ่มหนึ่งก็คือกลุ่มคนที่เคยมีประสบการณ์กับเครือข่ายแล้ว แต่ยังเปลี่ยนชีวิตไม่ได้ อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มบริสุทธิ์ยังไม่เคยสัมผัสเครือข่ายมาก่อน แต่เขาพอรู้จักว่าเครือข่ายเปลี่ยนชีวิตเขาได้"

     ดังนั้น เมื่อรู้ข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้เราจะต้องมีปัจจัยบางอย่างที่เอาชนะความรู้สึก เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนเหล่านี้ คนที่เคยมีประสบการณ์เครือข่ายแน่นอนว่าผิดหวังมานับครั้งแล้วไม่สำเร็จ ไปบริษัทไหนก็เหมือนกันหมด ผู้บริหารก็คล้ายๆ กันหมด ที่นี่เราก็เลยเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ เป็นผู้บริหารแบบใหม่ หลักคิดแนวทางในการเดินธุรกิจเป็นแบบเน้นที่พัฒนาคน ทำให้คนมีภาวะผู้นำ ทำให้คนเข้าใจชีวิต เพื่อเอาพลังนี้ไปใช้กับเครื่องมือที่เตรียมไว้พร้อม แล้วพอเตรียมไว้พร้อมเอาไปใช้จริงสุดท้ายชีวิตเปลี่ยน ซัคเซสมอร์ไม่เหมือนใคร มีความต่างทั้งแนวคิด ทั้งวิธีดำเนินธุรกิจ ทำให้คนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง แล้วลองใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้วเกิดความสำเร็จเกิดขึ้นกับชีวิต แล้วมันก็เกิดกระแสบอกปากต่อปาก ในที่สุดก็ทำให้เราเติบโตไปพร้อมๆ กับผู้คนของเรา นี่คือความต่าง

        สำหรับ กลยุทธ์ของปีหน้านั้น บริษัทฯ จะเร่งดำเนินการขยายออกสู่ต่างประเทศ นอกจากเมียนมา แล้วก็จะไปที่ สปป.ลาว โดยช่วงปลายปีนี้จะเดินทางไปทำ สัญญาเช่าตึกที่เวียงจันทน์ หลังจากเช่าตึกก็ต้องมีการตกแต่ง ซึ่งก็น่าจะเริ่มต้นได้ในไตรมาสแรกของปีหน้าแน่นอนอยู่แล้ว โดยเราก็จะทำให้เป็นรูปแบบเดียวกันกับในประเทศไทย ซึ่งก็แน่นอนว่าจะทำให้พี่น้อง สปป.ลาว มีประสบการณ์ใหม่ๆ ในเรื่องของการที่เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทที่สามารถหยิบสินค้าลงใสตระกล้าได้ เพราะไม่เคยมีมาก่อนที่ สปป.ลาว แล้วเป้าหมายถัดไปก็คือไปที่ประเทศเวียดนาม

      เพราะฉะนั้นการจะบอกเป้าหมายของปีหน้ามันต้องเกี่ยวเนื่องกับเรื่องของกลยุทธ์ของเราในการที่จะไปต่างประเทศด้วย ว่าเข้าไปถูกต้อง มีระยะเวลายาวนานแค่ไหนกว่าจะได้ไลเซ้นทุกอย่าง แล้วพอเริ่มเปิดดำเนินการแล้วเราต้องเพิ่มระบบเข้าไป เราต้องเข้าไปเทรนนิ่งในการที่จะทำให้ยอดขายรวมในปีหน้านั้นมีการเติบโตเท่าไหร่ ซึ่งแผนงานในปีหน้าช่วงเดือนสองเดือนนี้เราต้องวางไว้แล้ว แล้วแต่ละประเทศที่เราไปเราต้องศึกษาเรื่องกฎกติกามารยาท วัฒนธรรมของคนแต่ละที่ กติกาการซื้อขายมีอะไรเป็นปัจจัยที่เคร่งครัดที่สุด เราก็จะต้องดูแลปัจจัยนั้นให้ได้ เพราะคนแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเราก็ดูแลแบบสุดชีวิตในประเด็นนั้นเลย

        ทั้งนี้ สาขาของบริษัทฯ ขณะนี้มีกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาค ซึ่งในปีนี้จะไม่มีการเปิดเพิ่มแล้วสำหรับในประเทศไทย แต่จะมีเปิดที่ สปป.ลาว ที่เวียงจันทน์ และ ที่เมียนมาอาจจะมีเพิ่มอีกหนึ่งสาขาในช่วงปลายปีนี้ ตอนนี้ในเมียนมาเรามีที่มัณฑะเลย์ และที่ย่างกุ้ง และจะเปิดสาขาที่ 3 ที่เมืองเทาจีในเมียนมา ซึ่งซัคเซสมอร์จะ มีเกณฑ์การเปิดสาขาที่ชัดเจน มีการวิเคราะห์ธุรกิจที่มั่นคง ต้องมีตัวผู้นำพื้นที่ที่เป็นผู้นำเข้าใจธุรกิจ เข้าใจระบบ สามารถพัฒนาคนได้ พวกนี้เป็นแนวทางในการที่จะเลือกที่จะเปิดในพื้นที่นั้นๆ เพราะว่าการจะเปิดในพื้นที่ไหนก็แล้วแต่ต้องป้องกันความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้น

      ปัจจุบันอัตราการเติบโตของแต่ละภูมิภาค อันดับที่ 1.กรุงเทพฯ และปริมณฑล อันดับที่ 2.ภาคตะวันออก อันดับที่ 3.ภาคใต้ อันดับที่ 4.ภาคอีสาน และอันดับที่ 5.ภาคเหนือ ซึ่งการมีผลประกอบการตามลำดับนี้มันมีความหมายต่อซัคเซสมอร์ตรงที่ว่าเราเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับจากกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล และยังได้รับการยอมรับจากพี่น้องที่อยู่ในแต่ละภูมิภาคด้วย มันก็ทำให้เราสามารถมีพื้นที่ปรกคลุมให้บริการทั่วประเทศเลย รวมไปถึงประเทศ AEC

       อย่างไรก็ตาม การตั้งเป้าหมายของบริษัทฯ ไม่ได้ตั้งแบบลอยๆ ต้องมีการวางแผน มีการประชุมทีมว่าจะตั้งเป้าหมายไปข้างหน้าว่าจะมียอดขายได้อย่างไร สมมุติปีหน้าเราต้องรู้ว่าเราต้องเพิ่มอะไรบ้าง สินค้าต้องเพิ่มกี่รายการ เดือนไหนต้องเพิ่มอะไร เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ เราก็จะได้ยอดธุรกิจใหม่ๆ ขณะเดียวกันก็ต้องรักษาฐานผู้บริโภคเดิมที่เข้ามาใช้สินค้าของเรา แล้วมีโปรแกรมอะไรที่ทำให้คนกลุ่มนี้กลับมาบริโภคซ้ำอย่างต่อเนื่องไม่เปลี่ยนใจปันใจไปใช้สินค้าของค่าย อื่น บริษัทอื่นๆ จากนั้นพอตั้งเป้าหมายแล้วเราก็ทำเต็มที่ใส่แบบเต็มร้อยในทุกๆ เรื่องที่เป็นกลยุทธ์ของเราที่กำหนดมาเป็นแบบแผน ซึ่งจะกำหนดว่าเราต้องมีเครื่องมืออะไรเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์นั้นๆ บางเรื่องจะต้องใช้เงิน ต้องใช้มากน้อยแค่ไหน ต้องวิเคราะห์กันอย่างไร อะไรที่มันมีความเสี่ยงบ้าง เราก็ต้องวิเคราะห์ไปด้วย ตั้งเป้านั้นต้องรู้ว่าปัจจุบันยืนอยู่ตรงไหน เป้าที่จะไปคืออนาคต แล้วเส้นทางที่ไปมีอุปสรรคอะไรรออยู่ ก็จะต้องเตรียมเครื่องมือต่างๆ ที่จะจัดการอุปสรรคปัญหา แล้วในที่สุดก็จะทะลุเป้าที่ตั้งไว้