ประกาศผล 10 ชุมชน แนวร่วมแก้จุดเสี่ยงลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โครงการ ‘พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย ปี 3’
ธนชาตประกันภัย และ ศปถ. พร้อมเครือข่ายรณรงค์สร้างถนนปลอดภัย ร่วมประกาศรายชื่อ 10 ชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย ปี 3 และรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อแก้ปัญหาจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนน ชุมชนละ 200,000 บาท พร้อมโอกาสยกระดับปัญหาเข้าสู่กลไกของภาครัฐทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ
บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) ขอแสดงความยินดีกับ 10 พื้นที่ ที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย ปี 3” ประกอบด้วย ภาคเหนือ จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ 1. องค์การบริหารส่วนตำบลป่าก่อดำ ตำบลป่าก่อดำ อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย 2. เทศบาลตำบลเด่นชัย ตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ 3. เทศบาลเมืองลำพูน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน 4. องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อทอง ตำบลบ่อทอง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ 5. เทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ ตำบลสระคู อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด 6. เทศบาลตำบลไฮหย่อง ตำบลไฮหย่อง อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร 7. เทศบาลตำบลศรีธาตุ ตำบลศรีธาตุ อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี และ ภาคกลาง จำนวน 3 จังหวัด ได้แก่ 8. เทศบาลตำบลคลองลานพัฒนา ตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร 9. องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านยาง ตำบลบ้านยาง อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก 10. องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านพราน ตำบลบ้านพราน อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง
ทั้งนี้ 10 ชุมชนได้นำเสนอแผนงาน พิกัดจุดเสี่ยง ภาพถ่ายที่สะท้อนปัญหาได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญสามารถวิเคราะห์ความเสี่ยงของถนนในพื้นที่ได้อย่างถูกต้องว่าเป็นลักษณะความเสี่ยงทางกายภาพ เช่น สภาพถนน ลักษณะถนนทางแยก ทางโค้ง หรือความเสี่ยงที่เกิดจากพฤติกรรมทางสังคม เช่น ขับรถเร็ว ไม่เคารพกฎจราจร หรือมาจากทั้ง 2 ลักษณะ และสามารถสรุปแนวทางการแก้ปัญหาที่เหมาะสมและตรงจุด โดยจะได้รับงบประมาณสนับสนุนชุมชนละ 200,000 บาท ซึ่งทางโครงการฯ จะลงพื้นที่เพื่อร่วมแก้ปัญหาจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนถนน ตามความพร้อมของแต่ละชุมชนภายในปีนี้ต่อเนื่องจนถึงปี 2556
โครงการพลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย ปี 3 ปีนี้มีแนวร่วมที่สมัครเข้าร่วมโครงการรวม 331 ชุมชน จาก 69 จังหวัด ครอบคลุมทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยภาคเหนือมีชุมชนสมัครเข้าร่วมโครงการ 52 ชุมชน ภาคตะวันตก 7 ชุมชน ภาคกลาง 61 ชุมชน ภาคใต้ 60 ชุมชน ภาคตะวันออก 16 ชุมชน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 135 ชุมชน โดยในจำนวนนี้มีรวม 60 พื้นที่ที่ดำเนินการในขั้นตอนการสมัครครบในทุกขั้นตอน เป็นการตอบรับที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจากปีที่ผ่านมา และตอกย้ำความพร้อมของชุมชนส่วนใหญ่ที่ต้องการโอกาสในการจัดการความเสี่ยงอุบัติเหตุบนถนนของชุมชน ในฐานะเจ้าของพื้นที่ที่เห็นสภาพปัญหา และได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการวิเคราะห์หาสาเหตุที่ชัดเจนของการเกิดอุบัติเหตุจากทางโครงการฯ ที่สำคัญยังสะท้อนถึงความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างการจัดการความปลอดภัยบนถนน และขั้นตอนการนำปัญหาเข้าสู่กลไกการทำงานของภาครัฐทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ โดยธนชาตประกันภัยและภาคีเครือข่ายพร้อมให้การสนับสนุนบทบาทของทุกชุมชนเพื่อร่วมกันลดอุบัติเหตุบนถนน
ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมของโครงการฯ ได้ที่ เว็บไซต์และเฟซบุ๊ก "พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย"
A10785
'แอร์มาเวล' มอบน้ำดื่มช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมผ่านกองทัพไทย
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 กองบัญชาการกองทัพไทย โดย พลโท ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร รับมอบสิ่งของบริจาคจากบริษัท มาเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประกอบด้วย น้ำดื่มยี่ห้อมาเวล ขนาด 350 มิลลิลิตร จำนวน 2,000 ขวด และปลากระป๋อง จำนวน 1,000 กระป๋อง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยมีคุณปริญญา มานวงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มาเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้มอบ
ทั้งนี้ ในห้วงที่ผ่านมากองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย รวมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพที่ได้รับการสนับสนุนมาจากภาคส่วนต่าง ๆ ให้แก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ความเดือดร้อน พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นการเร่งด่วน และจะยังคงดำรงความต่อเนื่องในการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
#มาเวลคอร์ปอเรชั่น #แอร์มาเวล #กองบัญชาการกองทัพไทย #กรมกิจการพลเรือนทหาร #มอบสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
A10756
ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับโล่การบริหารจัดการน้ำเสีย ‘ระดับทอง’ ประจำปี 2565 จากกรมควบคุมมลพิษ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รับโล่ประกาศเกียรติคุณการบริหารจัดการน้ำเสีย “ระดับทอง” ประจำปี 2565 จากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยประเมินครอบคลุมทุกมิติการบริหารจัดการน้ำเสีย การดูแลควบคุมการปล่อยน้ำเสียเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สะท้อนถึงการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม
นายกีรติ โกสีย์เจริญ ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานบัญชีและการเงิน และหัวหน้ากลุ่มงานบริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และ บรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance: ESG) ภายใต้วิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดทุนเพื่อทุกภาคส่วน “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone” โดยล่าสุด อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณแหล่งกำเนิดมลพิษที่ผ่านเกณฑ์ประเมินการบริหารจัดการน้ำเสีย “ระดับทอง” ประจำปี 2565 จากกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐานการประเมินที่ครอบคลุมทุกมิติการบริหารจัดการน้ำเสีย
“ปี 2565 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เข้าร่วมการประเมินการจัดการน้ำเสียของแหล่งกำเนิดมลพิษตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเป็นครั้งแรก ซึ่งมีภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมประเมินจำนวน 655 แห่งและผ่านการประเมินในระดับทอง 52 แห่ง การได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ “ระดับทอง” ในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการให้ความสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการปฏิบัติงานในอาคาร และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สอดคล้องกับการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศเจตนารมณ์เข้าร่วม UN Sustainable Stock Exchanges Initiative (UN SSE Initiative) เมื่อปี 2557 โดยเดินหน้าตามกรอบการพัฒนาความยั่งยืน 5 ด้าน ได้แก่ การสร้างคุณค่าตลาดทุน การบริหารองค์กรอย่างยั่งยืน การพัฒนาและดูแลพนักงาน การพัฒนาและดูแลสังคม และการจัดการสิ่งแวดล้อม” นายกีรติกล่าว
การประเมินการบริหารจัดการน้ำเสียของแหล่งกำเนิดมลพิษ ครอบคลุมมิติต่างๆ ดังนี้ 1) การจัดการองค์กร สิ่งแวดล้อมและทรัพยากร โดยพิจารณาถึงนโยบายขององค์กร การกำกับดูแล ศักยภาพของเจ้าหน้าที่ ความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลและการรับฟังความเห็นจากประชาชน 2) การทำงานของระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ดำเนินงานตามมาตรฐาน ควบคุมดูแลระบบอย่างต่อเนื่อง มีแผนปรับปรุงอย่างเป็นระบบ และ 3) การควบคุมคุณภาพน้ำทิ้ง มีการตรวจวิเคราะห์น้ำทิ้งให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด มีการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วมาใช้ประโยชน์
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เคยได้รับรางวัลสำนักงานสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Office) ระดับดีเยี่ยม (Gold Level) จากกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม รางวัล Thailand energy award ประเภทอาคารที่ใช้พลังงานเป็นศูนย์ Zero energy building จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน และรางวัล ASEAN Energy Award จาก ASEAN Center of Energy (ACE) และยังได้รับการรับรองอาคารเพื่อสิ่งแวดล้อมมาตรฐานสากล LEED Platinum : Operation and Maintenance (O+M) ระดับสูงสุด จาก U.S. Green Building Council (USGBC) อีกด้วย
A10713
แม็คโคร ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ผนึกภาครัฐ – หน่วยงานบรรเทาสาธารณภัย ลงพื้นที่มอบสิ่งของจำเป็นต่อเนื่อง
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำนโยบายการดำเนินธุรกิจเคียงข้างชุมชน ระดมพนักงานทั่วประเทศ ร่วมแรงร่วมใจให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมนำน้ำดื่ม สิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพส่งมอบแทนความห่วงใย
“แม็คโคร” ทุกสาขาต่างให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัย ยึดมั่นกับจุดยืนคนไทยไม่ทิ้งกัน เคียงข้างในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะสาขาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้รวบรวมทีมพนักงานจิตอาสา ทยอยลงพื้นที่มอบสิ่งของจำเป็นอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์น้ำท่วมยังคงสร้างผลกระทบและความเดือดร้อนให้กับประชาชนในหลายจังหวัด โดย กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ สรุปพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ (16 ต.ค.65) จำนวน 59 จังหวัด มีประชาขน 425,287 ครัวเรือนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว
พร้อมกันนั้น ยังร่วมมือกับกรมการค้าภายใน จัดเตรียมสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และกระจายสินค้าอย่างทั่วถึงโดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัย ไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลน รวมถึงการดูแลลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย โชห่วย และร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ ให้ฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
A10712
ยูโอบี ประเทศไทยนำทีมพนักงาน ลูกค้า พร้อมด้วยพันธมิตรธุรกิจ กว่า 1,500 คน ส่งต่อความดีในกิจกรรม 2022 UOB Global Heartbeat Run/Walk
ร่วมระดมทุน 3 ล้านบาท เพื่อโอกาสทางการศึกษาด้านดิจิทัลและโภชนาการที่ดีแก่เยาวชนที่ขาดโอกาส
ผู้บริหาร พนักงานธนาคารยูโอบี ประเทศไทย พร้อมครอบครัวทั่วประเทศ รวมถึงลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจกว่า 1,500 คน เข้าร่วมกิจกรรม “เดิน-วิ่ง ประจำปี UOB Heartbeat Run/Walk” ระดมทุนได้ 3 ล้านบาท เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเยาวชนที่ขาดโอกาส กิจกรรม เดิน-วิ่ง UOB Global Heartbeat Run/Walk เป็นกิจกรรมอาสาเพื่อสังคมที่กลุ่มธนาคารยูโอบีจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีโดยในปีนี้จัดขึ้นใน 18 ประเทศทั่วโลก และเพื่อให้เป็นไปตามคำมั่นสัญญาของธนาคารที่ยืนหยัดเคียงข้างชุมชน เงินบริจาคที่ระดมทุนได้ในประเทศไทยจะนำไปสนับสนุนโครงการร้อยพลังการศึกษา โครงการ ฟู้ด ฟอร์ กู๊ด และมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีเเนนซ์ เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับเยาวชนที่ขาดโอกาส ให้สามารถเข้าถึงการเรียนรู้ด้านดิจิทัลมากขึ้น พร้อมทั้งมีโภชนาการที่ดี รวมถึงให้การสนับสนุนชุมชนที่ขาดแคลน
นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ร่วมวิ่งในระยะทาง 3 กิโลเมตร กล่าวว่า “งานเดิน-วิ่ง UOB Global Heartbeat Run/Walk แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของธนาคารที่ยืนหยัดเคียงข้างชุมชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น โดยในทุกๆ ปี พนักงานธนาคารยูโอบีจะร่วมแสดงพลังของการให้ ผ่านกิจกรรมระดมทุนและกิจกรรมอาสาต่างๆ นอกจากนี้ ยังนับเป็นโอกาสดีที่จะได้เชิญชวนครอบครัว เพื่อน และพันธมิตรทางธุรกิจมาร่วมส่งต่อสิ่งดีๆ ร่วมกัน ผมเชื่อว่าเงินบริจาคที่ระดมทุนได้จากกิจกรรมนี้จะสร้างความเเตกต่างให้กับคุณภาพชีวิตของผู้ได้รับบริจาคอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยการสนับสนุนสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และเสริมทักษะต่างๆ เพื่อเติมเต็มความต้องการของอนาคตยุคดิจิทัล”
งานเดิน-วิ่ง UOB Global Heartbeat Run/Walk กลับมาจัดกิจกรรมในรูปแบบปกติแล้ว
งานเดิน-วิ่ง UOB Global Heartbeat Run/Walk ประจำปี 2565 กลับมาจัดกิจกรรม ณ สวนจตุจักร ในรูปแบบปกติดังที่เคยจัดเป็นประจำทุกปี ซึ่งนอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมีธนาคารยูโอบีใน 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ที่จัดกิจกรรมในวันเดียวกันอีกด้วย
ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ยังได้ดำเนินการตามความมุ่งมั่นของธนาคารในเรื่องการดูแลรักษาสิ่งเเวดล้อมในโดยการลดปริมาณรอยเท้านิเวศ (Ecological Footprint) ที่เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรม UOB Global Heartbeat Run/Walk ในปีนี้ โดยการผลิตเหรียญรางวัลที่สามารถนำมาใช้เป็นที่รองแก้วได้ การเปิดให้ลงทะเบียนและรับ BIB ผ่านช่องทางดิจิทัลเพื่อลดการใช้กระดาษ การจัดเตรียมถังขยะรีไซเคิลสำหรับรวบรวมขวดพลาสติก และการส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนใช้ขวดน้ำที่นำมาเอง รวมถึงจัดตั้งจุดคัดแยกขยะ 2 แห่ง สำหรับเก็บขยะทุกรูปแบบเพื่อนำไปรีไซเคิล โดยธนาคารร่วมกับ GEPP Sa-Ard ดิจิทัลแพลตฟอร์มและโซลูชันจัดการขยะ เพื่อคัดแยกขยะภายในงานและนำไปรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น นำเศษอาหารไปทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ เป็นต้น
งานเดิน-วิ่ง UOB Global Heartbeat Run/Walk เป็นส่วนหนึ่งของ ยูโอบี ฮาร์ทบีท (UOB Heartbeat CSR Programme) โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มธนาคารยูโอบี ที่มุ่งส่งต่อสิ่งดีๆ คืนสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ความเชื่อมโยงกับพันธมิตรทางธุรกิจ และการมีส่วนร่วมของพนักงาน ด้วยการดำเนินการตามค่านิยมของธนาคารได้แก่ คุณธรรม สร้างสรรค์ เป็นหนึ่งเดียว และมุ่งมั่น ธนาคารจึงได้รวมแรงร่วมใจกับเพื่อนพนักงาน ลูกค้า และพันธมิตรทางธุรกิจ แบ่งปันเพื่อความแตกต่างที่ดีขึ้นสำหรับชุมชน
A10673
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด