มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ ชวนซื้อกระเช้าของขวัญ ‘จากใจผู้ให้ ถึงใจผู้รับ’ หนุนผู้พิการและคนในชุมชนสร้างงาน - สร้างอาชีพ
ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ มูลนิธิพระมหาไถ่ฯ เชิญชวนเลือกซื้อกระเช้าของขวัญจากใจผู้ให้ ถึงใจผู้รับเพื่อสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ แก่ผู้พิการและคนในชุมชน ในช่วงเวลาพิเศษแทนคำขอบคุณสำหรับคนพิเศษ ในแคมเปญ “You like Farm For Mahatai Charity” สนับสนุนการซื้อกระเช้าเท่ากับมอบโอกาส แก่ผู้พิการและคนในชุมชน เผยขอเป็นส่วนหนึ่ง ในการส่งต่อความรู้สึกดีๆ ผ่าน “กระเช้าของขวัญ” จัดทำโดยผู้พิการและคนในชุมชน มีให้เลือก 6 แบบ 6 สไตล์ เพื่อมอบให้แก่คนพิเศษในช่วงเวลาสำคัญ สนใจสั่งซื้อและสอบถามได้ที่ โทร 093 992 6959, 086 414 7584 อีเมล์ [email protected] โดยสั่งจองล่วงหน้า 45 วัน เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ใบเสร็จรับเงินสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
นายมานพ เอี่ยมสอาด ผู้จัดการ บริษัท เรย์วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด หน่วยงานภายใต้มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ เปิดเผยว่า ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่เราคนไทยให้ความสำคัญ และเป็นเทศกาลส่งความสุขที่เรานิยมมอบของขวัญที่มีคุณค่าให้กับคนสำคัญแทนคำขอบคุณสำหรับคนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ คนในครอบครัว เจ้านาย ลูกค้า เพื่อน และคนสำคัญรอบๆ ตัว ในปีนี้มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ขอเชิญชวนทุกท่านเลือกซื้อกระเช้าของขวัญ จากใจผู้ให้ ถึงใจผู้รับ เพื่อสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพ แก่ผู้พิการและคนในชุมชน ในแคมเปญ “You like Farm For Mahatai Charity” สนับสนุนกระเช้าเท่ากับ “มอบโอกาสแก่ผู้พิการและคนในชุมชน” พวกเราขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อความรู้สึกดีๆ ผ่าน “กระเช้าของขวัญ” 6 แบบ 6 สไตล์ ให้ท่านเลือกอย่างหลากหลายเพื่อมอบให้แก่คนพิเศษในช่วงเวลาสำคัญนี้
“นับเป็นความภูมิใจของผู้พิการที่อยู่ในความดูแลของ มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ พวกเขามีความภูมิใจ มีความตั้งใจจริง ในความพยามยามที่จะสร้างสรรค์ออกมาเป็นกระเช้าของขวัญเพื่อจัดจำหน่ายในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน นับเป็นโอกาสสำคัญอีกช่วงเวลาหนึ่งที่พวกเขาตั้งใจ ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จากผู้ขอ ผู้รอรับ สู่การร่วมแรง ร่วมใจ เพื่อลงมือทำ จึงอยากขอโอกาสจากทุกท่านได้ร่วมสนับสนุนก้าวแรกในการเริ่มต้นของพวกเขาเพื่อนำไปสู่ก้าวต่อไป ที่มั่นคง และยั่งยืนยิ่งขึ้น ทุกการสนับสนุนของท่านคือกำลังใจที่ส่งตรงสู่หัวใจของผู้พิการ เสมือนเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาศักยภาพ มุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อตอบแทนการสนับสนุนของทุกท่าน แทนคำขอบคุณ ที่เห็นคุณค่าและความพยายามของผู้พิการ ที่ทุกท่านเลือกซื้อกระเช้าของขวัญ จากใจผู้ให้ ถึงใจผู้รับ เพื่อสนับสนุนการสร้างงาน สร้างอาชีพ แก่ผู้พิการและคนในชุมชน “ขอบคุณจากใจ” ผู้จัดการฯ กล่าว
สำหรับกระเช้าไม้มีให้เลือก 6 แบบ 6 สไตล์ คือ (1) กระเช้า A ขนาด 8x12x6" ราคา 1,479 บาท ประกอบด้วย ต้นโคโลคาเซีย (สุ่มสายพันธุ์) คุกกี้ คอร์นเฟลกส์ธัญพืช ทองม้วน ขนุนทอดกรอบ พวงกุญแจลูกปัด น้ำพริกตาแดง น้ำพริกสวรรค์ (2) กระเช้า B ขนาด 8x12x6" ราคา 1,479 บาท ประกอบด้วย คุกกี้คอร์นเฟลกส์ธัญพืช ขนุนทอดกรอบทองม้วน พวงกุญแจลูกปัด น้ำพริกตาแดง น้ำพริกสวรรค์ และชาลูกฟิก (3) กระเช้า C ขนาด 8x8x6" ราคา 899 บาท ประกอบด้วย คุกกี้ คอร์นเฟลกส์ธัญพืช ขนุนทอดกรอบ ชาลูกฟิก พวงกุญแจลูกปัด (4) กระเช้า d ขนาด8x12x6" ราคา 1,799 บาท ประกอบด้วย ต้นกล้วยแดงสยาม (สุ่มลาย) คุกกี้ คอร์นเฟลกส์ธัญพืช ทองม้วน ขนุนทอดกรอบ พวงกุญแจลูกปัด น้ำ พริกตาแดงน้ำ พริกสวรรค์ (5) กระเช้า E ราคา 499 ประกอบด้วย ต้นโคโลคาเซีย (สุ่มสายพันธุ์)ห่อด้วยป่านอะบาค่าผูกริบบิ้นป่าน และ (6) กระเช้า F ขนาด 8x8x6" ราคา 899 ประกอบด้วย ต้นโคโลคาเซีย (สุ่มสายพันธุ์) เลือกสีดอกไม้ประดับได้ เป็นต้น
สามารถสั่งซื้อหรือสอบถามรายละเอียดกระเช้าของขวัญได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปโทร 093 992 6959, 086 414 7584, 0882291111, 092 929 1404 อีเมล์ [email protected] โดยสั่งจองล่วงหน้า 45 วัน สั่งซื้อง่ายๆ เพียง เลือกแบบ ระบุจำนวนและวันที่ต้องการใช้ แจ้งเพื่อขอใบเสร็จรับเงินในนามนิติบุคคล หรือหนังสือแสดงความขอบคุณจากมูลนิธิฯ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้...
A10928
‘แอสเซทไวส์’ จัดงานวิ่งการกุศลเพื่อสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ‘AssetWise BEAUTY RUN 2022’ ชวนมาวิ่งในสวนสวยกลางเมืองกับ Miss Universe Thailand 2022
“แอสเซทไวส์” ชวนสายเฮลท์ตี้ ร่วมวิ่งในสวนสวย เพื่อการกุศล ในงาน “AssetWise BEAUTY RUN 2022” ชวนเหล่านักวิ่ง แฟนนางงาม และคนที่รักสุขภาพ ร่วมวิ่งเพื่อการกุศลไปกับ Miss Universe Thailand 2022 ท่ามกลางปอดขนาดใหญ่ที่สวยงาม และร่มรื่นใจกลางกรุงเทพมหานคร ในระยะทาง 5 และ 10 กิโลเมตร เพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพดีด้วยการออกกำลังกาย และส่งต่อโอกาสที่ดีให้กับสังคม โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้ มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ในการรักษาและช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในวันที่ 18 ธันวาคม ศกนี้ ณ สวนป่าเบญจกิติ กรุงเทพมหานคร
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” กล่าวว่า แอสเซทไวส์ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ และสร้างสรรค์กิจกรรมที่ตอบรับกับวิถีชีวิตของคนยุคปัจจุบัน ตามกลยุทธ์ในการเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่หยุดยั้ง ในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น หนึ่งในนั้นคือการให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกายควบคู่กับการมีสุขอนามัยที่ดี โดยกิจกรรมวิ่ง นับเป็นกีฬาที่นิยมตลอดกาลของผู้รักการออกกำลังกาย และเพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพดี แอสเซทไวส์จึงได้จัดกิจกรรม “AssetWise BEAUTY RUN 2022” งานวิ่งการกุศลเพื่อร่วมส่งต่อโอกาสดีๆ ให้แก่สังคม
“บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล จำกัด, กรุงเทพมหานคร, สถาบันมะเร็งแห่งชาติ, กองประกวด Mister International Thailand 2022 และแอนนา เสืองามเอี่ยม Miss Universe Thailand 2022 เพื่อร่วมส่งต่อโอกาสที่ดีให้กับสังคมไปพร้อมกัน อีกทั้งยังเป็นการเชิญชวนให้ผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายให้ได้เข้ามาร่วมสัมผัสบรรยากาศสวยงามของสวนสาธารณะ ใจกลางเมืองหลวงที่มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และเหล่าแฟนนางงาม รวมถึงประชาชนทั่วไปให้หันมาใส่ใจการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดี และยังได้ออกกำลังกายไปพร้อมกับ Miss Universe Thailand 2022 ซึ่งรายได้ทั้งหมดหลังจากหักค่าใช้จ่าย จะนำมาบริจาคให้กับมูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ขาดทุนทรัพย์ในการรักษาต่อไป
นอกจากนี้ภายในงาน แอสเซทไวส์ยังได้เตรียมความพิเศษมามอบให้กับนักวิ่ง Fancy ที่มาร่วมกิจกรรมกับเราในครั้งนี้ ด้วยการมอบรางวัลพิเศษ Fancy สวยสมมงฯ ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม สามารถร่วมวิ่งในชุดสุดเลิศ สุดปัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สวยสมมงฯ” ซึ่งรางวัลนี้จะตัดสินโดยคณะกรรมการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ประหนึ่งคุณคือหนึ่งในนางงาม ที่จะเป็นตัวแทนสู่จักรวาล ไปพร้อมๆ กับ Miss Universe Thailand 2022 อีกด้วย” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
สำหรับงาน “AssetWise BEAUTY RUN 2022” จะจัดขึ้นในวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ท่ามกลางปอดขนาดใหญ่ที่สวย และร่มรื่นใจกลางกรุงเทพมหานคร อย่าง สวนป่าเบญจกิติ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. เป็นต้นไป ภายใต้มาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยของนักวิ่งทุกคน โดยจะมีหน่วยพยาบาลเคลื่อนที่ และระบบรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่ตลอดเส้นทางแข่งขัน โดยระยะทางการแข่งขัน แบ่งออกเป็น
1. ระยะทาง 5 กิโลเมตร (Fun Run) เปิดจำหน่ายบัตรราคาพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ - 30 ตุลาคม 2565 ในราคา 500 บาท (จากราคาปกติ 550 บาท) และบัตร VIP ในราคา 1,500 บาท (จากราคาปกติ 2,000 บาท) โดย 50 อันดับแรกจะได้รับของที่ระลึกจากการจัดกิจกรรม ซึ่งจะไม่แบ่งชาย และหญิง
2. ระยะทาง 10 กิโลเมตร (Mini Marathon) เปิดจำหน่ายบัตรราคาพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ - 30 ตุลาคม 2565 ในราคา 650 บาท (จากราคาปกติ 750 บาท) และบัตร VIP ในราคา 1,500 บาท (จากราคาปกติ 2,000 บาท) โดยรางวัลชนะเลิศ จะได้รับถ้วยพร้อมเงินรางวัล จำนวน 5,000 บาท, รองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับถ้วยพร้อมเงินรางวัล จำนวน 3,000 บาท และ รองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับถ้วยพร้อมเงินรางวัล จำนวน 2,000 บาท ซึ่งรางวัลในแต่ละประเภทจะมีผู้ที่ได้รับทั้งชายและหญิง โดย 50 อันดับแรกจะได้รับของที่ระลึกจากการจัดกิจกรรม ซึ่งจะไม่แบ่งชาย และหญิง
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรม “AssetWise BEAUTY RUN 2022” ได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2565 ที่ https://www.runlah.com/events/awbr2022 และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ Facebook Page : Beauty Run BY AssetWise
A10918
ทีเอ็มบีธนชาต รวมพลังอาสาสมัครทีทีบี ปลูกฝังการเป็น ‘ผู้ให้’ ผ่านโครงการ ‘อาสา..ช่วยกันทำ’ เปลี่ยนเพื่อให้ชุมชนดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เดินหน้าสานต่อพลัง เปลี่ยน...ชุมชนเพื่อความยั่งยืน ด้วยกิจกรรมด้านการจุดประกายชุมชน กิจกรรมดีๆ ผ่านการ “ให้” จากพลังอาสาสมัครทีทีบีทั่วประเทศ ล่าสุดในปี 2565 นี้ได้ปรับเพิ่มรูปแบบโดยเปิดโอกาสให้พนักงานของธนาคารเข้าร่วมเป็นอาสาสมัครในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น โดยจัดกิจกรรมในโครงการ “อาสา...ช่วยกันทำ” เพื่อปลูกฝังการเป็น “ผู้ให้” ให้กับพนักงาน ด้วยการให้อาสาสมัครทีทีบี (ttb volunteer) ใช้เวลาส่วนตัวมาสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคมตามกำลังความสามารถและความถนัดของตน และใช้ฝีมือในการสร้างชิ้นงานเพื่อสร้างสิ่งดีๆ กลับคืนสู่สังคม ด้วยกิจกรรมที่ทำง่ายๆ ใช้เวลาน้อย อยู่ที่ไหนก็ทำได้ เช่น สมุดทำมือ, บอลบีบเพื่อสุขภาพ, ปลอกคอเพื่อเพื่อนสี่ขา และถุงใส่ยารักษ์โลก เพื่อส่งมอบให้แก่มูลนิธิ โรงพยาบาล โรงเรียน และหน่วยงานต่างๆ ที่มีความต้องการทั่วประเทศ โดยในปีนี้ตั้งเป้าการสร้างชิ้นงานรวมกว่า 20,000 ชิ้น เพื่อนำไปมอบให้แก่หน่วยงานที่ต้องการความช่วยเหลือ ได้แก่
1. สมุดทำมือเพื่อน้องๆ นักเรียนในช่วงระดับชั้น ป.1 – ป.6 จาก 20 กว่าโรงเรียนในต่างจังหวัดที่ยังขาดแคลนอุปกรณ์การเรียน แม้แต่สมุดที่ใช้จดการบ้าน ทดเลข วาดภาพตามจินตนาการ บางครั้งสมุด 1 เล่ม แบ่งกันใช้ทั้งห้องเรียน อาสาสมัครทีทีบี จึงได้ “เปลี่ยน” กระดาษที่ใช้แล้ว เป็นสมุดทำมือ เพื่อจุดประกายการเรียนรู้ ส่งต่ออุปกรณ์การเรียนที่ขาดแคลนให้กับน้องๆ ที่กำลังรอคอย “สมุดทำมือ” จำนวนกว่า 7,000 เล่ม
2. บอลบีบเพื่อสุขภาพ อาสาสมัครทีทีบีร่วมกัน “เปลี่ยน” ถุงเท้าและถั่วเขียว เป็น “บอลบีบเพื่อสุขภาพ” เพื่อช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมือ บรรเทาความเจ็บปวดจากการเป็นนิ้วล็อค นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง ลดอัตราเสี่ยงจากการเป็นอัลไซเมอร์ได้ โดยส่งต่อบอลบีบเพื่อสุขภาพ จำนวนกว่า 1,200 ลูก ให้แก่ “สถานพยาบาลชินเขต” สถานพยาบาลที่ดูแลผู้สูงอายุรวมกว่า 30 เตียง และ สถานพยาบาลอีก 7 แห่ง เพื่อให้ผู้สูงอายุใช้บอลบีบเพื่อบริหารกล้ามเนื้อมือต่อไป
3. ปลอกคอเพื่อเพื่อนสี่ขา อาสาสมัครทีทีบีได้มีส่วนสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยสุนัขและแมวฟื้นฟูสุขภาพ ร่วมกัน “เปลี่ยน” แผ่นโฟมเป็นปลอกคอจำนวนทั้งสิ้น 1,500 ชิ้น เพื่อให้เพื่อนสี่ขาดำรงชีพในยามป่วยได้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม โดยได้ส่งมอบให้ แก่ “ป้าจุ๊ บ้านพักสี่ขาเพื่อหมาจร” ที่ดูแลน้องหมาแมวกว่า 3,330 ชีวิต ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และมีความต้องการความช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน รวมถึง ปลอกคอกันเลีย และยังได้กระจายให้อีก 8 สถานสงเคราะห์ที่กำลังช่วยสุนัขและแมว
4. ถุงใส่ยารักษ์โลก เพื่อสนับสนุนในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า อาสาสมัครทีทีบีจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนด้านอุปกรณ์การจ่ายยา โดย “เปลี่ยน” กระดาษใช้แล้วให้เป็นถุงใส่ยา และนำไปมอบให้แก่โรงพยาบาลต่างๆ 9 แห่งทั่วประเทศ เพื่อช่วยลดการใช้ทรัพยากรให้น้อยลง โดยส่งต่อถุงใส่ยารักษ์โลกจำนวนทั้งสิ้น 10,120 ใบ
โครงการ “อาสา....ช่วยกันทำ” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืนจากโครงการไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี ด้านการจุดประกายชุมชน ที่ตั้งใจเดินหน้าเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจ และความสำเร็จของเหล่าอาสาสมัครทีทีบีในปีนี้ ที่ร่วมด้วยช่วยกันทำโครงการที่คืนประโยชน์ให้กับชุมชนและสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ปรัชญา Make REAL Change สามารถติดตามกิจกรรมดีๆ เกี่ยวกับกิจกรรมสังคมเพื่อความยั่งยืนโดยทีทีบี ได้ที่ www.ttbfoundation.org
A10907
ชวนนักวิ่งร่วมสร้างพลังสีเขียวในงาน ‘Empire Tower We Run 2022’
กลับมาอีกครั้งกับงานวิ่งการกุศลครั้งยิ่งใหญ่ใจกลางย่านสาทรในคอนเซ็ปต์ ‘One Run One Green’ 1 คนวิ่ง 1 คนปลูก ร่วมสร้างพื้นที่สีเขียวให้กรุงเทพฯ และแบ่งปันสิ่งดีๆ กลับสู่สังคม
มูลนิธิ แอสเสท เวิรด์ เพื่อการกุศล หรือ AWFC ภายใต้ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) รวมพลังกับ กรุงเทพมหานคร และพันธมิตร เดินหน้าจัดกิจกรรม “Empire Tower We Run 2022” ต้อนรับการกลับมาของงานวิ่งการกุศลใจกลางย่านสาทร ภายใต้คอนเซ็ปต์รักษ์โลกเพื่อร่วมสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองสีเขียวภายใต้แนวคิด “One Run One Green” 1 คนวิ่ง 1 คนปลูก ทุกการจำหน่าย Running Pack โครงการจะบริจาคต้นไม้ 1 ต้นให้กรุงเทพมหานคร พร้อมร่วมสนับสนุนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและไม่สร้างขยะตลอดเส้นทางวิ่งใจกลางกรุงเทพฯ โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีขึ้นวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2565 นี้ ระหว่างเวลา 04.00 – 07.00 น. ณ จุดปล่อยตัว อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์
“Empire Tower We Run 2022” เป็นงานวิ่งการกุศลที่จัดขึ้นเพื่อร่วมรณรงค์ให้ประชาชนในกรุงเทพฯ ตระหนักถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศตลอดเส้นทางการวิ่ง ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและไม่สร้างขยะเพิ่มเติม พร้อมสนับสนุนการใช้แก้วน้ำรูปใบไม้เพียงแก้วเดียวตลอดการวิ่ง โดยเปิดรับผู้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้จำนวน 3,000 คน และแบ่งการแข่งขันออกเป็นทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ “Fun Run” ระยะทาง 4.2 กิโลเมตร ราคา 500 บาท “Mini Marathon” ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร ราคา 600 บาท และ “Half Marathon” ระยะทาง 21 กิโลเมตร ราคา 700 บาท กับเส้นทางวิ่งในแบบ City Run ผ่านใจกลางเมืองรับบรรยากาศของลมหนาวยามเช้าในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พร้อมด้วยไฮไลท์สำคัญในเส้นทางวิ่ง อาทิ อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ อาคารสำนักงานที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ สวนสาธารณะคลองช่องนนทรี ถนนสาทร ก่อนลัดเลาะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านสะพานตากสิน และจุดกลับตัวที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่)
นอกจากนี้ นักวิ่งทุกท่านจะได้รับ Runner Pack เป็นไอเท็มสุดเก๋ควรค่าแก่การสะสมไม่ว่าจะเป็น หมายเลขแข่งขันประจำตัว (BIB) เสื้อที่ระลึกตามระยะทาง เหรียญรางวัลเมื่อเข้าเส้นชัย กระเป๋าคาดเอว แก้วน้ำรูปใบไม้ ประกันอุบัติเหตุ และซุ้มอาหารเช้าหลังเข้าเส้นชัยมากมายภายในงาน
กิจกรรมวิ่งการกุศล “Empire Tower We Run 2022” ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “Give Green CBD Synergy Power” ของ AWFC ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 เพื่อรณรงค์ให้เกิดการมีส่วนร่วมในการทำประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากทุก 1 นักวิ่ง จะถูกนำไปสนับสนุนกรุงเทพมหานครในการซื้อกล้าไม้ 1 ต้น จำนวน 3,000 ต้น เพื่อนำไปปลูกเป็นพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ และสบทบทุนในโครงการ “ปันฝัน” เพื่อมอบให้แก่เด็กและเยาวชนที่ขาดแคลนต่อไป
ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมร่วมสมัครเข้าร่วมงานวิ่งการกุศล “Empire Tower We Run 2022” ผ่านทางออนไลน์ได้ที่ www.empiretowerwerun2022.com ตั้งแต่วันนี้ – 10 พฤศจิกายน 2565 หรือสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการที่ Empire Tower We Run
A10903
บ้านปู เปิดค่ายเพาเวอร์กรีน ครั้งที่ 17 ‘Climate Change, We Must Change – เริ่มเพื่อโลก’
จับมือคณะสิ่งแวดล้อมฯ มหิดล พา 50 เยาวชนหัวใจสีเขียว ลงพื้นที่เรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ร่วมกับ คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เดินหน้าสานต่อค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ‘เพาเวอร์กรีน’ ครั้งที่ 17 ภายใต้หัวข้อ “Climate Change, We Must Change – เริ่มเพื่อโลก” เปิดโอกาสให้เยาวชน ได้เรียนรู้ประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ทั้งภาคทฤษฎีแบบเข้มข้น และภาคปฏิบัติด้วยการลงพื้นที่เพื่อเรียนรู้ปัญหาเชิงลึก รวมถึงการพัฒนาโครงงานวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนนำองค์ความรู้ไปประยุกต์เพื่อพัฒนาทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในระดับชุมชน สังคม และประเทศชาติ ซึ่งจะเป็นรากฐานนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนในอนาคต
โครงการค่าย “เพาเวอร์กรีน” ในปีนี้ มีเยาวชนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ทั่วประเทศ ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนทั้งสิ้น 285 คน จาก 177 โรงเรียน 65 จังหวัด โดยผู้สมัครได้จัดทำคลิปวิดีโอเสนอแนวคิดและความเข้าใจเรื่องผลกระทบของ Climate Change ต่อชุมชนที่อาศัยและแนวทางการแก้ไขปัญหา ก่อนคัดเลือก 50 เยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
สำหรับกิจกรรมในปีนี้ เริ่มตั้งแต่การปูพื้นฐาน เรียนรู้ปัญหา เข้าใจสาเหตุ และผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านช่องทางออนไลน์ เมื่อวันที่ 15-16 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนเข้าสู่กิจกรรมการเรียนรู้ภาคสนามระหว่างวันที่ 18-25 ตุลาคม 2565 ภายใต้แนวคิดของค่ายฯ “วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม – เรียนรู้สู่การปฏิบัติ” โดยเยาวชนได้ลงพื้นที่จริง เพื่อศึกษาถึงปัญหา และผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ก่อนระดมความคิดสร้างสรรค์โครงงานวิทยาศาตร์สิ่งแวดล้อม ซึ่งสถานที่แรกของการลงพื้นที่จริงคือ ชุมชนบ้านขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการ ที่จะได้เรียนรู้ถึงปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งซึ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี รวมถึงเรียนรู้วิธีการปรับตัวของชาวชุมชนที่ต้องต่อสู้เพื่ออยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดยกิจกรรมในครั้งนี้นอกจากน้องๆ เยาวชนทั้ง 50 คน ยังมีพนักงานบ้านปูมาร่วมเรียนรู้เรื่องปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปด้วยกัน
นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส - สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตลอด 17 ปี ของค่ายเพาเวอร์กรีน เราได้เห็นแล้วว่ามีเยาวชนจำนวนมากที่มีความมุ่งมั่น และต้องการเข้ามามีส่วนช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในชุมชนที่ตัวเองอยู่อย่างจริงจัง บ้านปูรู้สึกยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมพลังความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ให้กับน้องๆ เพื่อนำไปต่อยอดและพัฒนาสภาพแวดล้อมในชุมชนของตัวเองในอนาคต เราภูมิใจที่ได้เห็นเยาวชนค่ายเพาเวอร์กรีนในรุ่นต่างๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเลือกดำเนินชีวิตอย่างเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติรอบตัว และที่น่าปลื้มใจคือเครือข่ายเยาวชนของค่ายฯ เราพร้อมที่จะกลับมาร่วมส่งต่อองค์ความรู้ให้แก่น้องๆ รุ่นใหม่อยู่เสมอ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมุ่งสานต่อการทำค่ายเยาวชนเพาเวอร์กรีนทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป เพื่อสร้างเยาวชนคุณภาพออกไปเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของประเทศ ที่สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบ้านปูในการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อมตามหลักการ ESG ที่บริษัทฯ ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจมาตลอด 40 ปี”
ด้าน ดร.ธัญภัทร ศาสตระบุรุษ อาจารย์ประจำคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานโครงการค่ายเพาเวอร์กรีน ครั้งที่ 17 กล่าวว่า “ปัญหาโลกร้อนและความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นสิ่งที่วงการวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนภาครัฐและภาคเอกชนทั่วโลก ได้ตระหนักถึงความสำคัญและเข้ามาร่วมแรงร่วมใจบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม การจะแก้ปัญหานี้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมยังต้องอาศัยทั้งเวลาและความร่วมมือจากทุกคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ในนามของคณะสิ่งแวดล้อมฯ มหาวิทยาลัยมหิดล เรามีความยินดีที่ได้สานต่อความร่วมมือกับทางบ้านปูมาตลอด 17 ปี เรามุ่งหวังว่าเยาวชนที่ได้มาเข้าค่ายจะเติบโตขึ้นเป็นกลุ่มผู้นำและเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวัน และส่งต่อความรู้ไปยังครอบครัว คนใกล้ชิด โรงเรียน ชุมชน และสังคม ให้ได้รับทราบถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และการอยู่อาศัยร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนตลอดไป”
นอกจากการลงพื้นที่ศึกษาปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ณ บ้านขุนสมุทรจีน จังหวัดสมุทรปราการแล้ว เยาวชนทั้ง 50 คน ยังได้ร่วมเดินทางเพื่อศึกษาถึงปัญหาความเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งและความหลากหลายทางชีวภาพที่ อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ก่อนร่วมทำกิจกรรมอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน ณ ศูนย์อนุรักษ์และศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน โรงเรียนบางตะบูนวิทยาคม จังหวัดเพชรบุรี ศึกษาผลกระทบของปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่ส่งผลต่อโครงสร้างทางธรณีวิทยาและลักษณะภายนอกของภูเขาหินปูน ณ อุทยานหินเขางู จังหวัดราชบุรี และศึกษาความเปลี่ยนแปลงของความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่า จังหวัดกาญจนบุรี ปิดท้ายด้วยการประกวดโครงงานกลุ่มวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม โดยมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยมหิดลให้คำแนะนำ
สามารถติดตามภาพบรรยากาศการเรียนรู้ของทั้ง 50 เยาวชนค่าย “เพาเวอร์กรีน” รุ่นที่ 17 ได้ที่
เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/powergreencamp
เว็บไซต์: www.powergreencamp.com
A10846
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด