สำนักงาน กสทช. สั่งย้ำโอเปอเรเตอร์ทุกค่ายให้ดูแลคุณภาพสัญญาณ
และเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 12-15 เม.ย. 64
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. สั่งย้ำผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนทุกรายเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ พร้อมทั้งให้เพิ่มความระมัดระวัง ในการดูแลบำรุงรักษา ซ่อมแซม และแก้ไขปรับปรุงโครงข่ายโทรคมนาคม เครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนในสงกรานต์ 12-15 เม.ย. 2564 นี้ และให้ครอบคลุมช่วงเวลาก่อนและหลังสงกรานต์ที่ปีนี้ประชาชนอาจหยุดงานเพิ่มเติมเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาไปอยู่กับครอบครัวนานขึ้น
ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือช่วงเทศกาลปีใหม่ไทย เป็นอีกเทศกาลหนึ่งที่มีสถิติการใช้โทรศัพท์กันมาก ประชาชนนิยมติดต่อสื่อสารและส่งข้อความอวยพรกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค และแอปพลิเคชัน ผ่านบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ทุกคนในครอบครัวมารวมกัน สำนักงาน กสทช. เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้ใช้บริการในการติดต่อสื่อสารผ่านบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ และเพื่อป้องกันมิให้คุณภาพและมาตรฐานในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในช่วงเวลาดังกล่าวลดลง สำนักงานฯ จึงได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายให้เพิ่มขีดความสามารถและความระมัดระวังในการดูแลบำรุงรักษา ซ่อมแซม และแก้ไขปรับปรุงโครงข่ายโทรคมนาคม เครื่องโทรคมนาคมและอุปกรณ์ ที่นำมาใช้ในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดระยะเวลาช่วงเทศกาลสงกรานต์
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า สำนักงานฯ ยังได้สั่งการให้รถตรวจสอบคุณภาพสัญญาณของสำนักงาน กสทช. ออกวิ่งตรวจสอบคุณภาพสัญญาณการให้บริการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมทั้งให้ศูนย์สายลม และเครือข่ายนักวิทยุสมัครเล่น ประสานงานกับจิตอาสาเพื่อช่วยกันดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ด้วย ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดของสำนักงาน กสทช. ก็เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับให้ประชาชนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และไม่มีปัญหาในการใช้งานในช่วงวันหยุดสงกรานต์
“เทศกาลสงกรานต์อย่าลืมดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด ขับรถไม่โทร ไม่แชท ดูแลสุขภาพ ใส่แมส ล้างมือบ่อยๆ ระหว่างเดินทาง หรือตอนแวะเข้าห้องน้ำ เดินทางปลอดภัย ถึงบ้านเว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ เราจะผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกันครับ” นายไตรรัตน์ กล่าว
A4311
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
กสทช. เปิดเวทีสัมมนาวิชาการ
ชูแนวคิด ‘Virtue สื่อสร้างสรรค์เริ่มธรรมที่ตัวคุณ’
สำนักงาน กสทช. ชูแนวคิด Virtue สื่อสร้างสรรค์เริ่มธรรมที่ตัวคุณ ร่วมผลิตสื่อน้ำดีผ่านการจัดงานสัมมนาวิชาการ กสทช. ประจำปี 2563 เพื่อให้มีเวทีในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ในการสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ ตระหนักรู้ถึงคุณธรรม และจริยธรรมในการนำเสนอข่าว ในวันพุธที่ 31 มีนาคม 2564 ณ อาคารหอประชุม ชั้น 2 สำนักงาน กสทช.
โดยภายในงานมีการบรรยายพิเศษใน 4 หัวข้อได้แก่ 1) “หลักนิติธรรมและการขับเคลื่อนแนวนโยบายสาธารณะ กรณีกิจการโทรทัศน์และรายการโทรทัศน์สำคัญที่ให้บริการเป็นการทั่วไป” โดยพันเอก ดร.นที ศุกลรัตน์ 2) “ปัญหาความขัดแย้งทางสังคมอันเนื่องมาจากการใช้สื่อ” โดยพลโท ดร. พีระพงษ์ มานะกิจ 3) “Big Data กับการต่อต้านการทุจริต: กรณีศึกษาข้อมูลการใช้งานโทรศัพท์มือถือ” โดยพลอากาศโท ดร. ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการภูมิภาค และ 4) “การกำกับดูแลกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ในสภาวการณ์ฉุกเฉิน: กรณีศึกษาของหน่วยกำกับดูแลต่างประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย ผศ. ดร. ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการ กสทช. สายงานกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์
อนึ่ง นอกจากการจัดงานสัมมนาวิชาการ กสทช. ที่มุ่งหวังให้เกิดการผนึกกำลังความร่วมมือในการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาสังคมในทุกองคาพยพแล้ว สำนักงาน กสทช. ยังได้จัดทำวารสารวิชาการ กสทช. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเทศไทยมีศูนย์กลางในการรวบรวมและเผยแพร่องค์ความรู้ ตลอดจนงานวิจัย และผลงานทางวิชาการด้านการบริหารคลื่นความถี่ การกำกับดูแลกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม กิจการวิทยุคมนาคม และกิจการดาวเทียมสื่อสาร ซึ่งในขณะนี้ วารสารวิชาการ กสทช. ได้ผ่านการประเมินคุณภาพทางวิชาการและได้รับคัดเลือกให้อยู่ในฐานข้อมูลของศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (Thai Journal Citation Index Center) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจส่งบทความเพื่อลงตีพิมพ์ในวารสารดังกล่าว โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.tci-thaijo.org/index.php/NBTC_Journal
A4090
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
สำนักงาน กสทช. เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม เพื่อให้ได้หลักเกณฑ์ที่สมบูรณ์ พร้อมสำหรับการประมูลดาวเทียมครั้งแรกของประเทศไทย
พล.อ.ท. ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า วันนี้ (22 มีนาคม 2564) สำนักงาน กสทช. ได้จัดให้มีการรับฟังความเห็นสาธารณะ ต่อ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้เคยเปิดรับฟังมาแล้วเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 เพื่อให้ร่างประกาศฯ มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวในประเด็นสำคัญๆ หลายประเด็น
พล.อ.ท. ดร.ธนพันธุ์ กล่าวว่า สาระสำคัญของร่างหลักเกณฑ์ที่มีการปรับปรุง คือ การปรับคุณสมบัติของผู้ขอรับอนุญาต โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีความพร้อมสามารถเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขัน และการปรับลดราคาขั้นต่ำลงให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจจริง ส่งผลให้มีการปรับลดราคาขั้นต่ำของการประมูลลงบางชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 ซึ่งประกอบด้วย วงโคจร 50.5E (ข่ายงาน C1, N1 และ P1R) และ วงโคจร 51E (ข่ายงาน 51) ปรับราคาขั้นต่ำจาก 728.20 ล้านบาท เป็น 676.92 ล้านบาท และชุดที่ 3 ที่ประกอบด้วย วงโคจร 119.5E (ข่ายงาน IP1, P3 และ LSX3R) และ วงโคจร 120E (ข่ายงาน 120E) จาก ปรับราคาขั้นต่ำจาก 745.57 ล้านบาท เป็น 392.95 ล้านบาท สำหรับชุดที่ 2 และชุดที่ 4 ไม่มีการปรับราคาขั้นต่ำ โดยชุดที่ 2 ประกอบด้วย วงโคจร 78.5E (ข่ายงาน A2B และ LSX2R) ราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 366.49 ล้านบาท และชุดที่ 4 ที่ประกอบด้วย วงโคจร 126E (ข่ายงาน 126E) และ วงโคจร 142E (ข่ายงาน G3K และ N5) ราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 364.69 ล้านบาท
ในส่วนของค่าธรรมเนียมการอนุญาตให้ใช้สิทธิรายปี จำนวน 0.25 % ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย รวมทั้งค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ไม่เกิน 1.5 % และ ค่าธรรมเนียม USO จำนวน 2.5% นั้นยังคงเป็นอัตราเดิมตามร่างประกาศ
รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า สำหรับวิธีการคัดเลือกนั้น ยังคงกำหนดวิธีการคัดเลือกเป็น 2 ขั้นตอน โดยขั้นตอนที่ 1. พิจารณาข้อเสนอด้านประสบการณ์และความสามารถในการดำเนินการ ขั้นตอนที่ 2. การพิจารณาข้อเสนอด้านราคา โดยมีการปรับจากเดิมที่กำหนดให้เป็นรูปแบบของการยื่นข้อเสนอด้านราคาในรูปแบบผลประโยชน์ส่วนเพิ่มสูงสุดทีละรอบของแต่ละชุดข่ายงานดาวเทียม (Sealed Bid) เป็นการยื่นข้อเสนอการประมูลในชุดข่ายงานดาวเทียมพร้อมกันทั้ง 4 ชุด (Simultaneous Auction) เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันได้ในทุกชุด และป้องกันการการสมยอมในการเสนอราคา (ฮั้วประมูล)
นอกจากนั้น ยังมีการปรับระยะเวลาและเงื่อนไขในการอนุญาตให้มีความชัดเจน โดยเฉพาะในชุดที่ 2 ข่ายงาน A2B ที่เป็นของดาวเทียมไทยคม 5 เดิม โดยที่ผู้ประกอบการรายใหม่จะต้องไม่ส่งผลกระทบหรือรอนสิทธิข่ายงานที่ดาวเทียมไทยคม 6 และ 8 ใช้อยู่เนื่องจากอยู่ในวงโคจร (Slot) 78.5E เดียวกัน และเงื่อนไขระยะเวลาที่จะได้รับสิทธิในชุดที่ 3 ข่ายงาน IP1 จะได้รับหลังจากอายุวิศวกรรมของดาวเทียมไทยคม 4 (IP Star) สิ้นสุด เพื่อไม่ให้ผู้ชนะในการประมูลครั้งนี้โดนรอนสิทธิหรือมีปัญหาสัญญาทางปกครองเช่นเดียวกับทีวีดิจิทัลที่ผ่านมา โดยมุ่งหวังที่ให้สามารถมีผู้ได้รับการอนุญาตทั้ง 4 ชุด เพื่อที่จะได้รักษาไว้ซึ่งสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรของประเทศไทย
“หลังจากการรับฟังความคิดเห็นในวันนี้แล้ว สำนักงานฯ จะนำความคิดเห็นที่ได้รับมาปรับปรุงร่างประกาศเพื่อให้มีความสมบูรณ์ และจะเสนอ กสทช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในปลายเดือน เม.ย. นี้ หาก กสทช. เห็นชอบก็จะสามารถนำไปประกาศลงในราชกิจจาฯ ได้ภายในเดือน พ.ค. จากนั้นจะเปิดให้ผู้สนใจมายื่นขอรับอนุญาตได้ในเดือน มิ.ย. และหลังจากผ่านการพิจารณาประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านเกณฑ์ประสบการณ์แล้ว คาดว่าจะสามารถเข้ามายื่นข้อเสนอด้านราคาหรือประมูลได้ภายในปลายเดือน มิ.ย. หรือ ต้นเดือน ก.ค. ซึ่งนั่นจะทำให้เราสามารถเปลี่ยนผ่านธุรกิจดาวเทียมจากระบบสัมปทานมาสู่ระบบใบอนุญาตได้อย่างเป็นรูปธรรม ได้ก่อนที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในวันที่ 10 ก.ย. 2564 นี้” พล.อ.ท. ดร.ธนพันธุ์ฯ กล่าว
A3768
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
สำนักงาน กสทช. ร่วมกับ ศปอส.ตร. ตรวจค้นจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคม ยึดของกลางเป็นเครื่องวิทยุสื่อสาร โดรน แอนดรอยด์ บ็อกซ์ ได้กว่า 2,515 ชิ้น
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) ร่วมกับ พล.ต.ท. ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวผลการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคม
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2564 สำนักงาน กสทช. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร.) ดำเนินการตรวจสอบการจำหน่ายเครื่องวิทยุคมนาคมของร้านค้าออนไลน์ หรือร้านค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ พบว่า ร้าน toyworld ได้มีการจำหน่ายเครื่องวิทยุคมนาคมหลากหลายประเภทที่เข้าข่ายผิดกฎหมายวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบ ตรวจค้น และจับกุมจริง ณ สถานที่ตามหมายค้นของศาลอาญา ตรวจสอบพบเครื่องวิทยุคมนาคม ดังนี้ 1.เครื่องวิทยุคมนาคม ประเภทวิทยุสื่อสาร ตราอักษร BAOFENG รุ่นต่างๆ 2.เครื่องวิทยุคมนาคม ประเภทอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) 3.เครื่องวิทยุคมนาคม ประเภทเครื่องรบกวนหรือตัดสัญญาณ (Jammer) 4.เครื่องวิทยุคมนาคม ประเภท GPS Tracker 5.เครื่องวิทยุคมนาคม ประเภท 4G WiFi ชนิดใส่ซิมการ์ด รวมจำนวน 2,515 ชิ้น โดยทั้งหมดเป็นเครื่องฯ ที่ไม่ได้รับใบอนุญาตจาก เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
นายไตรรัตน์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายเครื่องวิทยุคมนาคมดังกล่าวของร้าน toyworld. เป็นการกระทำความผิด ในข้อหา มี นำเข้า และค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตาม ม. 6 และต้องได้รับโทษตาม ม. 23 โดยระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือทั้งปรับทั้งจำ ตาม พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
จากการตรวจค้นจับกุม ณ สถานที่ตามหมายค้นของศาลอาญาดังกล่าว ปรากฏของกลางจำนวนทั้งหมด 23 รายการ รวมจำนวน 2,515 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางเป็นเงิน 4,827,120 บาท ซึ่งสำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการส่งคดีตามขั้นตอนของกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมและกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องแล้ว
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้ดำเนินการกำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการโทรคมนาคมและวิทยุคมนาคมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการตรวจสอบทุกรูปแบบ แต่ก็ยังคงมีประชาชนหรือบุคคลทั่วไป ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งผู้จำหน่ายและผู้ใช้งานเครื่องวิทยุคมนาคม ที่ขาดความรู้ความเข้าใจว่า อะไรเป็นเครื่องวิทยุคมนาคมที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องได้รับใบอนุญาต หรืออะไรเป็นเครื่องวิทยุคมนาคมที่ต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจำหน่ายหรือใช้งาน ตามที่กฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมกำหนดไว้ ซึ่งประชาชนผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงาน กสทช. คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 1200 (ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย) เนื่องจากสำนักงานฯ เห็นว่าหากประชาชนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ก็จะได้ไม่ต้องกระความทำผิดตามกฎหมายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งถือเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด
“ปี พ.ศ. 2564 สำนักงานฯ จะดำเนินมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในเรื่องของการจำหน่ายเครื่องวิทยุคมนาคมผ่านออนไลน์ หรือร้านค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ที่ไม่ถูกกฎหมาย” นายไตรรัตน์ กล่าว
A3418
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
กสทช. เรียกช่อง New 18 และ JKN หารือถึงกรณีการเช่าช่วงเวลาออกอากาศ
พลโท ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ได้เชิญบริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด และบริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด เกี่ยวกับกรณีที่บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด จะดำเนินการเช่าช่วงเวลาออกอากาศของช่อง นิว 18 (NEW 18) โดยเช่าช่วงเวลาออกอากาศตลอดทั้งวัน
พลโท ดร.พีระพงษ์ กล่าวว่า ผลของการหารือพบว่า บริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ ได้ให้บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด เช่าเวลาเพื่อดำเนินรายการร้อยละ 40 และการร่วมผลิตรายการ ซึ่งเป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การแบ่งเวลาให้ผู้อื่นดำเนินรายการ พ.ศ. 2556 โดยที่ผ่านมา ช่อง NEW 18 เป็นช่องรายการที่มีเนื้อหารายการสร้างสรรค์สังคม และปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการสำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2556 จึงได้กำชับให้ ช่อง NEW 18) คำนึงถึงการคัดสรรผู้ร่วมผลิตรายการที่ยึดมั่นในจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชน และดำรงตนให้เป็นสื่อที่มีจริยธรรมอย่างเคร่งครัด และตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อผู้ชมเป็นหลัก
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด