เมืองไทยประกันภัย จัดพิธีบวงสรวง อัญเชิญพระครุฑพ่าห์ขึ้นประดิษฐานบนอาคารสำนักงานใหญ่
บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จัดพิธีบวงสรวงและอัญเชิญพระครุฑพ่าห์ ขึ้นประดิษฐานบนอาคารสำนักงานใหญ่ ในวาระครบรอบ 90 ปี ของการก่อตั้งบริษัทประกันวินาศภัยของคนไทย ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุด
วันที่ 28 ตุลาคม 2565 เวลา 16.09 น. ณ บริเวณอาคารสำนักงานใหญ่ เมืองไทยประกันภัย ถนนรัชดาภิเษก นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ ประธานกรรมการบริษัทฯ เป็นประธานในพิธีสงฆ์ และพิธีบวงสรวงเพื่ออัญเชิญพระครุฑพ่าห์ ขึ้นประดิษฐานเหนืออาคารที่ทำการ โดยมี นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย คณะกรรมการบริษัท, คณะผู้บริหาร และพนักงาน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานตราตั้ง แก่ บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้เป็นเครื่องหมายเชิดชูเกียรติสืบไป ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2565 โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ถือเป็นเป็นสิริมงคล เกียรติยศ และความภาคภูมิใจ ของบรรพบุรษผู้ก่อตั้ง ผู้บริหาร และพนักงานที่ได้ร่วมทำงานกันมากันตลอดระยะเวลา 90 ปี และยังเป็นแรงผลักดันให้ทุกคนมุ่งมั่น ตั้งใจดำเนินงานเพื่อความเจริญก้าวหน้ามั่นคงขององค์กร พร้อมปณิธานยึดมั่นในความดี ความรับผิดชอบต่อสังคม และถือหลักธรรมาภิบาลในการขับเคลื่อนองค์กร ให้เติบโตเคียงคู่สังคมอย่างยั่งยืน
“พระครุฑพ่าห์” ซึ่งประดิษฐานบนอาคารสำนักงานใหญ่นั้น มีขนาดกว้าง 2.85 เมตร สูง 2.50 เมตร อีกทั้ง หลังจากนี้ ยังจะมีการอัญเชิญพระครุฑพ่าห์ขึ้นประดิษฐานบนอาคารสำนักงานสาขาย่อยอีก 21 แห่งทั่วประเทศ
A101102
ซิกน่าประกันภัย ผุดฟีเจอร์ใหม่ ‘ซิกน่าประกันเดินทางต่างประเทศ’ อัปเดตทุกความเคลื่อนไหวเมื่อเที่ยวบินล่าช้า
ซิกน่าประกันภัย รู้ใจลูกค้าสายเที่ยว ผุดฟีเจอร์ใหม่ในแผนประกันเดินทางต่างประเทศซิกน่า อัปเดตทุกความเคลื่อนไหวเมื่อเที่ยวบินมีความล่าช้าโดยการแจ้งเตือนเที่ยวบินล่าช้าผ่าน SMS และอีเมลตลอดการเดินทางพร้อมสรุปยอดเคลมผ่าน SMS และอีเมล ไม่ต้องรอกลับจากต่างประเทศ พร้อมให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
สำหรับแผนประกันเดินทางต่างประเทศซิกน่าเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทางบริษัทฯ คิดขึ้นมาเพื่อมอบความคุ้มครองรอบด้านให้แก่ผู้ถือประกันได้ท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องที่ไม่คาดคิด รวมถึงเหตุการณ์เที่ยวบินล่าช้าที่ลูกค้าพบเจอกันบ่อยและสร้างความวิตกกังวลในเรื่องของการเคลมประกัน
คุณธีรวุฒิ สุธนะเสรีพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิกน่า ประกันภัย จำกัด เผยว่า “สำหรับลูกค้าซิกน่าที่ชื่นชอบการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ แผนซิกน่าประกันเดินทางต่างประเทศตอบโจทย์ความต้องการของนักเที่ยวตัวยงทั้งในเรื่องของความคุ้มครองที่มอบค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุและเจ็บป่วย สูงสุดถึง 6 ล้านบาท อีกทั้งยังมีบริการช่วยเหลือระหว่างการเดินทางตลอด 24 ชั่วโมง ช่วยให้ลูกค้าอุ่นใจเมื่อพบเจอเหตุไม่คาดคิดในต่างประเทศ”
“และแน่นอนว่าสิ่งที่ลูกค้าที่เดินทางเป็นประจำต้องเจอคือเหตุการณ์ ‘ไฟลท์บินดีเลย์’ ที่สร้างความวุ่นวายไม่น้อยสำหรับลูกค้าที่เตรียมตัวเตรียมการจองทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากลูกค้าทำประกันเดินทางไว้ก่อน นอกจากจะคุ้มครองความเสียหายด้านทรัพย์สินและชีวิตแล้ว ยังสามารถให้ความคุ้มครองในเรื่องของเครื่องบินดีเลย์ได้อีกด้วย โดยล่าสุดซิกน่าประกันภัยได้มีการอัปเดตแผนซิกน่าประกันเดินทางต่างประเทศให้แจ้งเตือนลูกค้าผ่าน SMS และ อีเมล เมื่อไฟลท์บินดีเลย์ ตลอดจนถึงการให้บริการสรุปยอดเคลมและเคลมออนไลน์”
และนอกจากการแจ้งเตือนและสรุปยอดเคลมผ่าน SMS และ อีเมลแล้ว การอัปเดตแผนซิกน่าประกันเดินทางต่างประเทศครั้งนี้ยังมาพร้อมสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น ลูกค้าสามารถอัปโหลดเอกสารผ่านช่องทางเคลมออนไลน์โดยที่ไม่ต้องรอกลับจากต่างประเทศ และสามารถใช้อีเมลที่ซิกน่าแจ้งเที่ยวบินล่าช้าทดแทนเอกสารจากสายการบินเพื่อเป็นการย่นระยะเวลาการทำเรื่อง โดที่ซิกน่าประกันภัยจะอนุมัติการเคลมออนไลน์ ภายใน 15 วันทำการ
เลือกซื้อซิกน่าประกันเดินทางต่างประเทศที่ พร้อมรับสิทธิพิเศษได้แล้ววันนี้ถึง 31 ธ.ค. 2565 ที่ https://bit.ly/3Rxr1Zl
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันเดินทางซิกน่าได้ที่ https://www.cigna.co.th/our-plans/travel-insurance/why-travel-insurance
สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับแผนประกันของซิกน่าได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าซิกน่า 1758 (วันจันทร์-ศุกร์ 8:00-20:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 8:30-17:30 น.)
A101094
รถจักรยานยนต์เก่าทำประกันภัยออนไลน์ได้ มีความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
เมื่อมีผู้ประสบอุบัติเหตุทางถนน แล้วรถคันที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุมีประกันภัย พ.ร.บ.ไม่ว่าจะเป็น “รถใหม่หรือรถเก่า” รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ผู้ประสบภัยจากรถทุกคนจะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ดังนั้นเจ้าของรถทุกคัน ไม่ว่าจะรถเก่าหรือรถใหม่ ต้องไม่ลืมทำประกันภัย พ.ร.บ. เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ประสบภัยจากรถทุกคนก็จะได้รับการคุ้มเครองทันที สำหรับรถเก่าโดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ในตอนนี้เจ้าของรถสามารถทำประกันภัย พ.ร.บ. ออนไลน์ง่ายๆ กับบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด ได้ด้วยตนเองได้ ผ่านไลน์แอด @iRVP หรือผ่านเวปไซต์บริษัทกลางฯ ที่ www.rvp.co.th
กรณีทำ พ.ร.บ.ผ่านไลน์ @iRVP อันดับแรกให้เจ้าของรถกดเพิ่มเพื่อนในไลน์แอดที่ @iRVP จากนั้นไปที่เมนู “ซื้อ พ.ร.บ.” เลือกประเภทและขนาดเครื่องยนต์ ดูรายละเอียดความคุ้มครองตามกรมธรรม์ แล้วกรอกข้อมูลเพื่อลงทะเบียน จากนั้นถ่ายภาพหน้าบัตรประชาชนและภาพของตนเองคู่กับบัตรประชาชน พร้อมกับกรอกข้อมูลส่วนบุคคล เสร็จแล้วกดรับทราบและใส่หมายเลขโทรศัพท์ รอรับรหัส OTP ยืนยันการลงทะเบียน
เมื่อลงทะเบียนแล้ว จากนั้นให้เลือกประเภทและขนาดเครื่องยนต์อีกครั้ง พร้อมใส่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถ(กรณีรถเก่าใส่เลขตัวถัง) ที่อยู่ และอีเมล์ ตรวจสอบความถูกต้อง แล้วจึงกดรับทราบเพื่อยืนยันข้อมูล และชำระเงิน ซึ่งเลือกได้ 2 วิธี คือชำระผ่าน QR Code สามารถชำระผ่านแอพพลิเคชั่นของทุกธนาคาร หรือชำระผ่านโมบายแบ็งก์กิ้งของธนาคารไทยพาณิชย์ หลังจากนั้นจะได้รับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเมนู พ.ร.บ.ของฉัน และทางอีเมล์ที่บันทึกไว้ เพื่อนำไปใช้ต่อภาษีรถประจำปี
ส่วนอีกช่องทาง ซื้อ พ.ร.บ.ผ่านเว็บไซต์บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัย จำกัด ที่ www.rvp.co.th จากนั้นเข้าไปที่เมนู “ซื้อ พ.ร.บ.ออนไลน์” ทำการลงทะเบียนยืนยันตัวตน / กรอกเลขตัวถังรถ จากนั้นสแกนคิวอาร์โค๊ดชำระค่าเบี้ย และรอรับกรมธรรม์ผ่านอีเมล์ จากนั้นจะได้ SMS แจ้งได้รับความคุ้มครองจากบริษัทกลางฯ รับกรมธรรม์ผ่านอีเมล์ และจะมีข้อความ SMS แจ้งได้รับความคุ้มครองจากบริษัทกลางฯ โดยกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้รับนั้น จะเป็นไฟล์ตารางกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ/ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีเต็มรูป
และที่สำคัญที่เจ้าของรถจักรยานยนต์ทุกคน ต้องไม่ลืม คือ รถต้องต่อภาษีประจำปีและทำประกันภัย พ.ร.บ.กันทุกปี
สอบถามการทำประกันภัย พ.ร.บ.และตรวจสอบการใช้สิทธิตามประกันภัย พ.ร.บ.ได้ที่ www.rvp.co.th หรือติดต่อ Call Center บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โทร 1791 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่ไลน์ @iRVP
A101086
คปภ. คัดเลือกเข้มข้นเพื่อเฟ้นหา 'ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประกันภัย'ชุดที่ 4 • ไกล่เกลี่ยสำเร็จ คิดเป็นร้อยละ 78.45
คปภ. คัดเลือกเข้มข้นเพื่อเฟ้นหา 'ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประกันภัย'ชุดที่ 4 • ไกล่เกลี่ยสำเร็จ คิดเป็นร้อยละ 78.45 เผยประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับประกันวินาศภัย’ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ’ มาเป็นอันดับ 1 ส่วนประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับประกันชีวิต’การบอกล้างสัญญาประกันชีวิต กรณีไม่แถลงข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์’ ขึ้นแท่นแชมป์
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรสำหรับผู้ประสงค์จะสมัครขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการ (บุคคลภายนอก) เพื่อทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยตามระเบียบสำนักงาน คปภ. ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย พ.ศ. 2559 เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว
เลขาธิการ คปภ. กล่าวตอนหนึ่งว่า กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยของสำนักงาน คปภ. ดำเนินการภายใต้ระเบียบสำนักงาน คปภ. ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย พ.ศ. 2559 ซึ่งกำหนดให้มีกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ชำนาญการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านการประกันภัย ให้ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยและเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการด้านสินไหมทดแทนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
และเป็นการเพิ่มทางเลือกอีกทางหนึ่งให้กับประชาชนที่จะระงับข้อพิพาทด้านการประกันภัยให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และเป็นการระงับข้อพิพาทที่เกิดจากความพึงพอใจของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย (win-win) โดยผู้ไกล่เกลี่ยชุดที่หนึ่ง ที่ตั้งตามระเบียบฯ ไกล่เกลี่ย มีจำนวน 40 คน ซึ่งครบอายุ 2 ปี
ไปเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2561 ชุดที่สอง จำนวน 50 คน ซึ่งครบอายุ 2 ปี เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2563 และมีการประกาศขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ไกล่เกลี่ย ชุดที่ 3 จำนวน 60 คน โดยครบอายุ 2 ปี ไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 โดยระเบียบไกล่เกลี่ยฯ ให้ถือว่า ผู้ขึ้นทะเบียนรายชื่อเดิมยังคงเป็นผู้ขึ้นทะเบียนรายชื่ออยู่จนกว่าทะเบียนรายชื่อใหม่จะแล้วเสร็จ
สำหรับ การคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ย ชุดที่สี่ ครั้งนี้ สำนักงาน คปภ.ได้ใช้แนวทางในการคัดเลือกเช่นเดียวกับการคัดเลือกผู้ไกล่เกลี่ย ชุดที่สาม โดยกำหนดให้มีการอบรมความรู้กฎหมายเกี่ยวกับการประกันภัยก่อน เพื่อปูพื้นความรู้ทางด้านประกันภัยให้กับผู้สมัครซึ่งมีทักษะทางด้านไกล่เกลี่ยอยู่แล้ว แต่อาจไม่มีความชำนาญด้านประกันภัย จากนั้นจึงจัดให้มีการสอบทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์
ก่อนที่จะมีการประกาศขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการต่อไป ในการดำเนินการดังกล่าวได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำหลักสูตรการอบรมสำหรับผู้ประสงค์จะยื่นคำขอขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการ (บุคคลภายนอก) เพื่อทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยตามระเบียบสำนักงาน คปภ. ว่าด้วยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทฯ โดยมีท่านอาจารย์โชติช่วง ทัพวงศ์ ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการไกล่เกลี่ยและเป็นอดีตผู้พิพากษาอาวุโส ศาลอุทธรณ์ ภาค 7 ได้ให้เกียรติเป็นกรรมการ
ในการคัดเลือกบุคคลภายนอกเพื่อขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยในครั้งนี้ ตนได้ให้นโยบายเพิ่มจำนวนผู้ไกล่เกลี่ยชุดใหม่ จากเดิม 60 คน เป็น 80 คน เพื่อเป็นการสำรองรายชื่อผู้ไกล่เกลี่ยในกรณีมีเหตุที่ทำให้จำนวนผู้ไกล่เกลี่ยลดลง เช่น การลาออก หรือเจ็บป่วยจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ที่ประสงค์จะเข้ามาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยของสำนักงาน คปภ. อีกด้วย
ทั้งนี้ หลักสูตรการจัดอบรมในครั้งนี้มีจำนวน 3 วัน ระหว่างวันที่ 28 - 30 ตุลาคม 2565 ประกอบด้วย หลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยและแนวทางการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย กฎหมายเกี่ยวกับการประกันภัย ประกาศ ระเบียบ และคำสั่งนายทะเบียนที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัย ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย และกฎ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง
ปัญหาข้อร้องเรียนด้านการประกันภัยที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและจริยธรรมพึงมีของผู้ทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และสาระสำคัญของพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 และการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเชิงพุทธ หลังจากอบรมเสร็จแล้วต้องมีการสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์เพื่อคัดเลือกจาก จำนวน 109 คน ให้เหลือ 80 คน เพื่อขึ้นทะเบียนรายชื่อผู้ชำนาญการ (บุคคลภายนอก) ในการทำหน้าที่ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยต่อไป
เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่เปิดศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัย เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2559 ซึ่งถือเป็นศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านการประกันภัยแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยโดยผู้ชำนาญการทั้งสิ้น 1,531 เรื่อง โดยไกล่เกลี่ยสำเร็จเป็นจำนวน 1,201 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 78.45 ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ดีพอสมควร และหวังว่าผู้ไกล่เกลี่ยชุดที่สี่จะทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จากการดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ชำนาญการที่ผ่านมา ประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับประกันวินาศภัยที่มีการร้องเรียนเข้ามามากที่สุด ได้แก่ ประเด็นเรื่องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ซึ่งคิดเป็นจำนวนมากกว่าร้อยละ 80ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมดที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย ลำดับต่อมา ได้แก่ ประเด็นเรื่องค่าซ่อมรถ และค่าสินไหมทดแทนกรณีบาดเจ็บ
สำหรับ ประเด็นข้อพิพาทเกี่ยวกับประกันชีวิตที่มีการร้องเรียนเข้ามามากที่สุด ได้แก่ ประเด็นการบอกล้างสัญญาประกันชีวิต กรณีไม่แถลงข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 ประเด็นการเรียกร้องเงินผลประโยชน์ตามเอกสารเสนอขาย ซึ่งแตกต่างจากเงื่อนไขตามกรมธรรม์ และประเด็นการเสนอขายโดยไม่ได้อธิบายเงื่อนไขและความคุ้มครองให้ชัดเจน ทำให้ผู้เอาประกันภัยหลงเชื่อหรือเข้าใจผิดในการทำสัญญาประกันชีวิต ตามลำดับ
สำหรับ การทำหน้าที่ของผู้ไกล่เกลี่ยของสำนักงาน คปภ. นั้น ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทแต่ละครั้ง อาจได้รับเรื่องร้องเรียนที่มีประเด็นข้อพิพาทที่ค่อนข้างซับซ้อน มีรายละเอียดค่อนข้างมาก และมีความเกี่ยวข้องกับประเด็นกฎหมาย ซึ่งผู้ไกล่เกลี่ยบางท่านไม่ใช่นักกฎหมาย จึงจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในแต่ละครั้งเพื่อดำเนินกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ไกล่เกลี่ยจำเป็นต้องพัฒนาความรู้ให้ทันต่อพัฒนาการต่างๆ ด้านประกันภัย ตลอดจนกติกาต่างๆ เกี่ยวกับประกันภัยที่มีการเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากการพัฒนาองค์ความรู้ให้ทันต่อพัฒนาการต่างๆ ด้านการประกันภัยแล้ว ผู้ไกล่เกลี่ยจะต้องพัฒนาตนเองให้มีความก้าวทันเทคโนโลยี เช่น ต้องสามารถดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์ผ่านช่องทางต่าง ๆ ตามแนวปฏิบัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์ของสำนักงาน คปภ. ได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับคู่กรณี อีกทั้งยังเป็นการรองรับข้อพิพาทที่ส่งมาจากสำนักงาน คปภ. ในส่วนภูมิภาค
รวมทั้งเพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วย อย่างไรก็ตาม สำนักงาน คปภ. พร้อมที่จะสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยทุกท่านที่อาจพบปัญหาและอุปสรรคบ้างในการดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์ เช่น สัญญาณอินเทอร์เน็ตขัดข้อง หรือผู้ไกล่เกลี่ยบางท่านอาจไม่มีอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ โดยในปี 2566 สำนักงาน คปภ. จะจัดทำห้องสำหรับไกล่เกลี่ยออนไลน์โดยเฉพาะ โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ไกล่เกลี่ยทุกท่าน
“สิ่งที่สำคัญสำหรับการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ย คือ การปฏิบัติตนให้เป็นกลาง มีความซื่อสัตย์สุจริตและให้ความเป็นธรรมแก่คู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะต้องไม่มีฝ่ายใดรู้สึกถึงความไม่เป็นกลางหรือเกิดความไม่พึงพอใจ และไม่ควรชี้นำหรือโน้มน้าวคู่กรณีให้เร่งรัดตัดสินใจเพื่อยุติข้อพิพาท โดยจะต้องเปิดโอกาสให้คู่กรณีได้เป็นผู้ตัดสินใจถึงผลของการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเอง
โดยให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเจรจาและพูดคุยเพื่อหาข้อยุติประเด็นพิพาทดังกล่าวร่วมกัน เพื่อให้ข้อพิพาทสามารถยุติลงได้ด้วยความพึงพอใจของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ทำให้กระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยผู้ชำนาญการ เกิดความเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง”เลขาธิการ คปภ. กล่าวในที่สุด
FWD ประกันชีวิต เปิดบ้าน ชวนคนรุ่นใหม่ร่วมขับเคลื่อนองค์กรดิจิทัล เพื่อร่วมเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิต
FWD ประกันชีวิต เตรียมจัดกิจกรรม “FWD Insurance Open House” เป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่องาน “Stepping forward toward the next in class - พร้อมก้าวสู่อนาคตในธุรกิจประกันกับ FWD ประกันชีวิต” ชวนคนรุ่นใหม่ทั้งนักศึกษา และบุคคลทั่วไป เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่สร้างพื้นที่ให้พนักงานได้แสดงออกถีงพลังสร้างสรรค์นวัตกรรมและไอเดียใหม่ๆ เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ ในการ “เปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิต” ณ สำนักงานใหญ่ FWD ประกันชีวิต ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 นี้เท่านั้น
นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“FWD ประกันชีวิต”) เปิดเผยว่า FWD ประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital by designed) โดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาขับเคลื่อนการทำงานในทุกส่วน เพื่อทำให้ประกันเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ซื้อง่าย เข้าถึงง่าย มีส่วนร่วมได้ง่าย ตอบรับยุคดิจิทัลที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราเล็งเห็นความสำคัญของการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่สร้างพื้นที่ให้พนักงานทุกคนได้แสดงออกถึงพลังสร้างสรรค์นวัตกรรมและไอเดียใหม่ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจและให้บริการแก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นในปีนี้เราจึงได้เตรียมจัดกิจกรรมเปิดบ้าน “FWD Insurance Open House” ขึ้น เป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่องาน “Stepping forward toward the next in class – พร้อมก้าวสู่อนาคตในธุรกิจประกันกับ FWD ประกันชีวิต” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2565 เวลา 13.00 -18.00 น. ณ สำนักงานใหญ่ FWD ประกันชีวิต เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมหาวิทยาลัย และบุคคลทั่วไป ที่ต้องการทำงานในสายเทคโนโลยีทุกแขนง ได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทประกันชีวิตที่แตกต่าง เพื่อก้าวไปสู่อีกระดับของนวัตกรรมประกันไปด้วยกัน และร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราในการเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิต”
ภายในกิจกรรมเปิดบ้าน “FWD Insurance Open House” จะได้โอกาสเรียนรู้จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาร่วมแบ่งปันความรู้และข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการทำงานใน FWD ประกันชีวิต ทั้งตำแหน่งงานที่น่าสนใจ การผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้กับพนักงาน โดยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยืดหยุ่น พร้อมสวัสดิการที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ และรับฟังเรื่องราว Insights เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจประกัน รวมถึง Career Talk เจาะ
เทรนด์ไอทีดิจิทัลและอนาคตของคนสายนี้ที่จะต้องรู้รวมถึงพูดคุย เรียนรู้ แลกเปลี่ยนเกี่ยวกับสายงานที่โดนใจ ตลอดจนพบปะพูดคุยกับทีมหัวหน้างาน และผู้บริหาร FWD ประกันชีวิต ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/FWDOH22_Info และลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ https://bit.ly/FWDOH22_FWD ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 มีจำนวนจำกัดเพียง 100 ที่นั่ง เท่านั้น
A101036
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด