ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 9.35 จุด กังวลเฟดแต่แรงซื้อกลับ Fund Flow พยุงยืนเหนือ 1,600
SET ปิดเช้าที่ระดับ 1,610.98 จุด ลดลง 9.35 จุด (-0.58%) มูลค่าการซื้อขายราว 33,630 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงหลุด 1,600 จุดอีกครั้ง แต่มีแรงซื้อหนุนดัชนีกลับมาได้บ้าง โดยปัจจัยลบที่ยังปกคลุมตลาดมาจากความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐพุ่งกระทบภาคธุรกิจกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย แนวโน้มช่วงบ่ายจับตาตลาดหุ้นยุโรป-ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส พร้อมลุ้น SET ปิดเหนือ 1,600 จุด ให้แนวรับ 1,600 และ 1,592 จุด แนวต้านแรก 1,610 จุด ถัดไป 1,615 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,610.98 จุด ลดลง 9.35 จุด (-0.58%) มูลค่าการซื้อขายราว 33,630 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดร่วงลงและจากนั้นลดช่วงลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,611.67 จุด และระดับต่ำสุด 1,592.10 จุด
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดมาร่วงรงไปแรงหลุดระดับ 1,600 จุด โดยลงไปต่ำสุดที่ 1,592 จุด แต่ต่อมาเริ่มมีแรงซื้อกลับทำให้ดัชนีกลับมายืนเหนือ 1,600 จุดได้
ทั้งนี้ ปัจจัยลบหลัก ๆ มาจากความกังวลเงินเฟ้อพุ่งสูงที่กระทบกลุ่มค้าปลีก และการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งเป็นปัจจัยลบปกคลุมตลาดมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดก็ออกมายืนยันว่าเฟดไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นในอาเซียนเริ่มรีบาวด์กลับ โดยตลาดหุ้นอินโดนีเซียพลิกมาเป็นบวก แต่ตลาดหุ้นเอเชียเหนือยังติดลบมากกว่า 2% เพราะมีหุ้นเทคโนโลยีอยู่มาก ขณะที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สกลับมาบวก ส่วนดัชนี SET ยืนเหนือระดับ 1,600 จุดก็เห็นแรงซื้อตาม (Follow buy) โดยคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มนักลงทุนต่างชาติหลังจากวันที่ 17-18 พ.ค.ซื้อสุทธิกว่า 3 พันล้านบาท/วัน และเงินบาทเข้านี้แข็งค่าขึ้น รวมทั้ง การเพิ่มน้ำหนักการลงทุนตลาดหุ้นไทยของ MSCI ที่จะมีผล 30 พ.ค.นี้จะมีการซื้อสุทธิ 25 ล้านเหรียญ ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาเป็นแรงหนุนอีกทาง
แนวโน้มตลาดในช่วงบ่าย นายกิติชาญ กล่าวว่า ต้องรอดูตลาดยุโรปเป็นบวกหรือไม่ และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สยังบวกต่อไปได้หรือไม่ โดยลุ้นดัชนี SET วันนี้น่าจะลดช่วงลบ และยืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้
ให้แนวรับไว้ที่ 1,600 และ 1,592 จุด แนวต้านแรกให้ไว้ที่ 1,610 จุด ถัดไปที่ 1,615 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
FTI มูลค่าการซื้อขาย 2,268.76 ล้านบาท ปิดที่ 4.34 บาท เพิ่มขึ้น 1.84 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,023.76 ล้านบาท ปิดที่ 156.00 บาท ลดลง 2.50 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 969.07 ล้านบาท ปิดที่ 11.80 บาท ลดลง 0.10 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 953.55 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 921.63 ล้านบาท ปิดที่ 46.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
--อินโฟเควสท์
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามภูมิภาค กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง-ทำ QT ฉุดสภาพคล่อง
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย โดยถูกกดดันจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เฟดไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่าที่จำเป็นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมนโยบายการเงินอีก 2 ครั้ง ทั้งในเดือนมิ.ย. และก.ค.
ขณะเดียวกันเฟดเตรียมปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งเฟดจะลดขนาดงบดุลในวงเงิน 4.75 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และหลังจากนั้น 3 เดือน เฟดจะเพิ่มการลดขนาดงบดุลเป็น 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ซึ่งการทำ QT ครั้งนี้ ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ให้แนวรับ 1,590 จุด และแนวต้าน 1,622 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (18 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,490.07 จุด ร่วงลง 1,164.52 จุด หรือ -3.57%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,923.68 จุด ลดลง 165.17 จุด หรือ -4.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,418.15 จุด ลดลง 566.37 จุด หรือ -4.73%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,435.32 จุด ร่วงลง 475.88 จุด หรือ -1.77% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,146.96 จุด ร่วงลง 497.32 จุด หรือ -2.40% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,046.71 จุด ลดลง 39.27 จุด หรือ -1.27%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 พ.ค.) ที่ระดับ 1,620.33 จุด เพิ่มขึ้น 5.84 จุด, +0.36%
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,398.51 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 พ.ค.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(18 พ.ค.)ลดลง 2.81 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 109.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 พ.ค.) อยู่ที่ 19.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 34.63/68 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 34.55-34.75 ตลาดจับตาข้อมูลศก.สหรัฐ
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ว่า อยู่ที่ระดับ 86.2 ปรับตัวลดลงจากระดับ 89.2 ในเดือน มี.ค. และเป็นค่าดัชนีฯ ต่ำสุดในรอบ 5 เดือนนับตั้งแต่ ธ.ค.2564 โดยองค์ประกอบดัชนีฯ ปรับตัวลดลงทุกองค์ประกอบ ได้แก่ คำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ โดยปัจจัยที่ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ ได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งจากราคาวัตถุดิบ ราคาพลังงานรวมถึงค่าขนส่ง ขณะที่กำลังซื้อในประเทศชะลอตัวจากปัญหาเงินเฟ้อและหนี้ครัวเรือน ส่งผลให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่ายและอุปสงค์ในประเทศชะลอตัวลง
รัฐเร่งดันดิจิทัลอินฟราสตรัคเจอร์ติดปีกเศรษฐกิจไทย "ชัยวุฒิ" ลั่นดัน "ดิจิทัล ไอดี-ดิจิทัล แพลตฟอร์ม" ปลดล็อกขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ชี้ดิจิทัลอินฟราฯไทยอยู่ในเกณฑ์ดี ติดอันดับโลกหลายด้าน อันดับ 1 โมบายแบงกิ้ง อันดับ 2 โมบายเพย์เม้นท์ และอันดับ 3 อีคอมเมิร์ซ คาดปี 73 เศรษฐกิจดิจิทัลไทยมีสัดส่วน 30% ของจีดีพี ด้าน "หัวเว่ย" ชี้เศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตเร็วในหลายมิติ แรงขับเคลื่อนสำคัญหลังยุคโควิด-19
ศูนย์ข้อมูล ธอส.ปรับลดตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ โต 9.1% เหตุยังเจอปัจจัยลบ คาดปี'67 ฟื้น ตลาดคอนโดกลับมารอบใหม่หลังสต๊อกลดลง เผยต่างชาติยังช้อปอสังหาฯไทย เศรษฐีกัมพูชามาแรง ทุ่มซื้อ 400 ล้าน แพงสุดยูนิตละ 130 ล้าน อนันดาลุย 7 โครงการใหม่ รับเปิดประเทศ
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า สำนักสำรวจและออก แบบได้ดำเนินโครงการสำรวจและออกแบบ ทางหลวงหมาย เลข 4 (ถนนเพชรเกษม) สาย อ.กะเปอร์-อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ระยะทาง 25.8 กม. งบประมาณ 1,930 ล้านบาท เพื่อขยายเส้นทางดังกล่าว จากเดิมมีขนาด 2 ช่องจราจร ให้มีขนาด 4 ช่องจราจร โดยคาดว่าเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2568 แล้วเสร็จในปี 2571 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี
*หุ้นเด่นวันนี้
CKP (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 6.50 บาท ทยอยซื้อก่อนเข้าสู่ High Season ในช่วงฤดูฝนขณะที่ราคายังอยู่ในโซนล่าง นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวกจาการเซ็นสัญญาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าหลวงพระบาง 1,400MW จะเป็น Upside ให้กับ CKP
BEM (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 11.62 บาท ตัวเลขผู้ใช้บริการทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าค่อยๆฟื้นตัวขึ้นโดยเดือน เม.ย. +16% YoY และ 21% YoY ตามลำดับ ผสานการเปิดเทอมแบบ onsite การกลับมาทำงานที่ Office มากขึ้น รวมทั้งยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สูงขึ้นจะเป็นแรงหนุนเพิ่มเติม อีกทั้งจะมีเงินปันผลรับช่วงไตรมาส 2/65 และความคาดหวังรถไฟสายสีส้มเป็น upside เพิ่มเติม
ADVANC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 233 บาท ปัจจัยหนุนราคาดคือ 1) การใช้ประโยชน์จากทรัพย์สิน 2) การควบรวมตลาดเน็ตบ้านที่อาจเกิดขึ้น และ 3) สภาพแวดล้อมการแข่งขันมือถือที่ดีขึ้นจากการควบรวม ระหว่าง DTAC และ TRUE ทั้งนี้เรายังคงประมาณการกำไรปกติในปี 2565-2567 ตามเดิมเนื่องจากเราคาดว่า โมเมนตัมของเศรษฐกิจจะดีขี้นและสภาพแวดล้อมของการแข่งขันจะผ่อนคลายในไตรมาสต่อๆไป ในเชิงราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ของ ADVANC -5% ยัง laggard เทียบกับ DTAC -3% , TRUE -5% และ SET index -2.2% โดยราคาหุ้นซื้อขายที่ EV/EBITDA ปี 2565 ที่ 8.89 เท่า ซึ่งอยู่ที่ค่าเฉลี่ยในอดีต 5 ปี
--อินโฟเควสท์
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อตามตลาดภูมิภาค รับจีนคลายล็อกดาวน์หนุนศก.ฟื้น
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์-รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามดัชนีตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค โดยได้รับปัจจัยหนุนจากทางการจีนเตรียมคลายล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ จะเข้ามาช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
แต่อย่างไรก็ตามมองว่าการปรับตัวขึ้นไปอาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาหลังผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาเติบโต 4% ซึ่งต่ำกว่าคาดที่ 6% ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง 1.6% หลังมีรายงานว่าสหรัฐเตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนแก่รัฐบาลเวเนซุเอลา
นอกจากนี้ความไม่แน่นอนด้านการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของหลายๆประเทศ สงครามระหว่างรัสเซีย และ ยูเครน รวมถึงการใช้มาตรการล็อกดาวน์หลายๆเมืองในประเทศจีน
พร้อมให้แนวรับที่ 1,605 จุด และ 1,600 จุด แนวต้านที่ 1,620-1,625 จุด
ด้านบล.เคทีบีเอสที คาดดัชนีฯ มีโอกาส Rebound ต่อ นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นหลังราคาลงมามาก และเริ่มมีข่าวในเชิงบวกเข้ามา ขณะที่ ยูเครน-รัสเซีย ยังไม่มีอะไรใหม่ ๆ ขณะที่อียูเตรียมบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย โดยจะมีการจัดประชุมเพื่อพิจารณาในวันที่ 30-31 พ.ค. คาดว่าสถานการณ์นี้ยังกระทบต่อราคาพลังงานอย่างต่อเนื่อง แต่นักลงทุนเริ่มชิน
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวในงานสัมมนาคืนที่ผ่านมา(17 พ.ค.) ว่าจะเดินหน้าใช้นโยบายเข้มงวดทางการเงินต่อไป จนมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัว เรามองว่าตลาดเห็นความชัดเจนมากขึ้น(เรื่องดอกเบี้ย) ทำให้นักลงทุนมีการขาย Bond (สินทรัพย์เสี่ยงต่ำ) และหันกลับมาซื้อหุ้นแทน
จีนเริ่มมีการพูดถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะ Internet หากสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับเรามองว่าปัจจัยนี้จะเป็นตัวช่วยหนุนตลาดหุ้นไทยด้วย เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยอิงอยู่กับเศรษฐกิจจีน หุ้นที่บวกจากข่าวนี้ คือ Logistics เดินเรือ และส่งออก
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,654.59 จุด เพิ่มขึ้น 431.17 จุด หรือ +1.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,088.85 จุด เพิ่มขึ้น 80.84 จุด หรือ +2.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,984.52 จุด เพิ่มขึ้น 321.73 จุด หรือ +2.76%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 26,826.82 จุด เพิ่มขึ้น 167.07 จุด หรือ +0.63% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,674.23 จุด เพิ่มขึ้น 71.71 จุด หรือ +0.35% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,095.89 จุด เพิ่มขึ้น 2.19 จุด หรือ +0.07%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 พ.ค.) ที่ระดับ 1,614.49 จุด เพิ่มขึ้น 30.11 จุด, +1.90%
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,556.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 พ.ค.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(17 พ.ค.)ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 112.40 ดอลลาร์/บาร์เรล
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 พ.ค.) อยู่ที่ 18.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 34.51 แข็งค่าจากวานนี้เล็กน้อยตามทิศทางตลาด หลังดอลลาร์อ่อนค่า
สศช.หั่นจีดีพีปี 65 จาก 3.5-4.5% เหลือ 2.5-3.5% ชี้ปัจจัยภายนอกกดดันทั้งซีโร่โควิดของจีน ผลจากสงคราม น้ำมันแพง เงินเฟ้อพุ่ง ชี้ไทยต้องพึ่ง "ส่งออก-ท่องเที่ยว-บริโภคในประเทศ" ด้านกรุงไทยคอมพาส หวังท่องเที่ยวหนุน เศรษฐกิจโต 3% ห่วงส่งออกเริ่มชะลอ "ทีทีบี" หวั่น "ต้นทุนพุ่ง-เงินบาทอ่อน" กดดันเศรษฐกิจโตต่ำ 3% ธปท.ยืนยันฐานะแบงก์ไทยยังมีความแข็งแกร่ง
ครม.เคาะลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาท/ลิตร เริ่ม 21 พ.ค.-20 ก.ค. "บิ๊กตู่" ย้ำดูแลค่าครองชีพประชาชน "คลัง" เผยกระทบรายได้หาย 2 หมื่นล้านบาท แต่จำเป็น มั่นใจไม่กระทบเป้าจัดเก็บรายได้ทั้งปี ก.พลังงานกางสภาพฯ กองทุนน้ำมันฯ บักโกรกติดลบทะลุ 7.2 หมื่นล้านบาท จับตาประชุม กบน.วันนี้ (18 พ.ค.) ลุ้นตรึงดีเซล 32 บาท/ลิตรต่อ กบง.เบรกถกแผนลดผสมไบโอดีเซลจาก B5 เป็น B3 ส่อไม่ได้ไปต่อหลังถูกคัดค้าน
ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 วงเงิน 3,185,000 ล้าน มีรายจ่ายงบกลางสูงถึง 590,470.0 ล้าน ขณะที่รายจ่ายเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ 306,618.0 ล้าน ด้าน บิ๊กตู่' ลั่นกลางวง ครม.ไม่เอาไว้แน่ ถ้ารู้ ส.ส.ของบปี 66 ทำโครงการ
เอกชนท่องเที่ยวโอด แผนเปิดประเทศไม่เข้าเป้า ยกเลิก Test & Go ตัวเลขนักท่องเที่ยวไม่ปัง เดือน พ.ค.เข้าประเทศเพียง 1.4-1.5 หมื่นคนต่อวัน นักท่องเที่ยวอังกฤษเดินทางเข้าสูงสุดอันดับ 1 ขณะที่ "อินเดีย" มาแรงแซง "เยอรมัน-รัสเซีย-สหรัฐ" ททท.ยังมั่นใจทั้งปีดึงต่างชาติ 7-10 ล้านคนตามเป้าหมาย สร้างรายได้ 1.3-1.5 ล้านล้านบาท สทท.แนะเร่งฟื้นฟู-อัดแคมเปญแบบฮาร์ดเซลหนุน
*หุ้นเด่นวันนี้
CKP (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 6.50 บาท ทยอยซื้อก่อนเข้าสู่ High Season ในช่วงฤดูฝนขณะที่ราคายังอยู่ในโซนล่าง นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวกจาการเซ็นสัญญาเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไฟฟ้าหลวงพระบาง 1,400MW จะเป็น Upside ให้กับ CKP ในระยะกลางถึงยาว
BAFS (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 35.00 บาท BAFS เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแผนการเปิดประเทศและความหวังจากกิจกรรมทางด้านการบินที่ทยอยฟื้นตัว หลังมาตรการผ่อนคลายเดินทางเข้าไทย โดยในปี 65 ผู้บริหารคาดว่าปริมาณเติมน้ำมันอากาศยานเติบโต +119%YoY อยู่ที่ 3.6 พันล้านลิตร ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งงบลงทุนยาว 5 ปีไว้ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยจะลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค (Utilities & Power) และกลุ่มบริการ (Business Services) เพื่อผลักดันให้มีรายได้ส่วนนี้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ 50% ขณะที่รายได้จากธุรกิจปัจจุบันจะปรับลงเหลือ 50%
AAV (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.6 บาท แนวโน้มการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ขานรับการผ่อนปรนมาตรการเข้าประเทศ โดยล่าสุดสภาพัฒน์ปรับเพิ่มคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติเขาไทยในปีนี้ขึ้นสู่ระดับ 7 ล้านคน จาก 5.5 ล้านคน คาดว่าเป็นบวกต่อุตสาหกรรมการบิน
--อินโฟเควสท์
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าร่วง 25.55 จุด หลุดระดับ 1,600 จุดอีกครั้งรับกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,587.79 จุด ลดลง 25.55 จุด (-1.58%) มูลค่าการซื้อขายราว 47,926 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลง โดยทำระดับสูงสุด 1,607.88 จุด และระดับต่ำสุด 1,585.68 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก ปัจจัยหลักมาจากต่างประเทศที่ตลาดกังวลธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐปรับตัวขึ้นมามากกว่าที่คาด ฉุดตลาดหุ้นสหรัฐแย่ลง ส่งตลาดภูมิภาคเอเชียเช้านี้แรับแรงกดดัน สินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้น คริปโทฯ ถูกเทขาย ขณะที่ Dollar Index หุ้นกู้ พันธบัตร ทองคำ ดีดตัวขึ้นเพราะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย ตลาดน่าจะถูกเทขายต่อเนื่อง โดยตลาดยุโรปเปิดตลาดบ่ายนี้น่าจะเป็นลบ กังวลราคาพลังงานสูงขึ้นหลังยูเครนปิดท่อส่งก๊าซจากรัสเซียไปยุโรป
"จะเห็นว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงแทบทุกกลุ่มเป็นการย่อตัวแรงและหลุดระดับ 1,600 จุดอีกครั้งหลังจากช่วงต้นสัปดาห์นี้ก็หลุดระดับ 1,600 จุดแต่ก็เด้งกลับขึ้นมาได้ โดยต้องติดตามวันนี้ดัชนี SET จะขึ้นมายืนเหนือ 1,600 จุดหรือไม่ ขณะที่กลุ่มโรงพยบาล และกลุ่มสื่อสารเป็นบวก"
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 2,552.92 ล้านบาท ปิดที่ 45.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
JMT มูลค่าการซื้อขาย 2,329.21 ล้านบาท ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง 5.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,456.33 ล้านบาท ปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
CRC มูลค่าการซื้อขาย 1,320.90 ล้านบาท ปิดที่ 36.00 บาท ลดลง 2.75 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,233.41 ล้านบาท ปิดที่ 36.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
--อินโฟเควสท์
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวนอิงทางลงตามตปท.หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวผันผวนอิงทางลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังเมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐได้มีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 8.3% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.1% แต่ต่ำกว่าระดับ 8.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2524 ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.5% ในเดือนมิ.ย.และก.ค. เปลี่ยนเป็น 3 ครั้ง โดยเพิ่มเดือนก.ย.เข้ามา
ทั้งนี้จากตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นกว่าคาดส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดยล่าสุดทะลุ 34.6 บาท/ดอลลาร์ ไปแล้ว ซึ่งอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปี แต่อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยน่าจะลงไปไม่มาก เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดีดกลับขึ้นไป 6% จากยูเครนระงับการขนส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรป ซึ่งน่าจะหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมันบ้านเราให้ปรับตัวขึ้นได้ และช่วยประคองตลาดเอาไว้
ให้แนวรับไว้ที่ 1,590-1,600 จุด และแนวต้าน 1,625-1,630 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (11 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,834.11 จุด ร่วงลง 326.63 จุด หรือ -1.02%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,935.18 จุด ลดลง 65.87 จุด หรือ -1.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,364.24 จุด ร่วงลง 373.44 จุด หรือ -3.18%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 25,945.04 จุด ลดลง 268.6 จุด หรือ -1.02% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,556.89 จุด ลดลง 267.68 จุด หรือ -1.35% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,044.80 จุด ลดลง 13.9 จุด หรือ -0.45%
ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 พ.ค.) ที่ระดับ 1,613.34 จุด ลดลง 9.44 จุด, -0.58%
นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,186.01 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 พ.ค.65
ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย.(11 พ.ค.) พุ่งขึ้น 5.95 ดอลลาร์ หรือ 6% ปิดที่ 105.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 พ.ค.) อยู่ที่ 21.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
เงินบาทเปิด 34.71 อ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาดกังวลเฟดเร่งขึ้นดบ.หลังเงินเฟ้อสหรัฐสูงกว่าคาด
คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเตรียมแผนมาตรการป้องกันควบคุมโควิด-19 เข้าสู่ "โรคประจำถิ่น" จ่อยกเลิก Thailand Pass เพิ่มมาตรการสอบสวนโรคอย่างละเอียดกรณีกลุ่มฉีดวัคซีนครบ 3 โดสแต่เสียชีวิตจากโควิด อย.อนุมัติวัคซีนโควิด 2 ตัวใช้ในอายุ 12-17 ปี และ 6-11 ปี ขณะที่ อภ.ผลิตโมลนูพิราเวียร์ได้เองทำให้มีต้นทุนต่ำลง
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย ส.อ.ท. หอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย ประจำเดือน พ.ค. ว่า กกร.ได้สรุป 9 มาตรการที่ต้องการเสนอรัฐบาลเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อดูแลเศรษฐกิจ และประคองเศรษฐกิจ รักษาขีดความสามารถในแข่งขันของเอสเอ็มอี และดูแลประชาชน เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีปัจจัยเสี่ยงรอบด้านส่งผลต่อต้นทุนปรับเพิ่มขึ้น เงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงสุดในรอบ 10 ปี
"แอร์บัส" มั่นใจไทยเปิดประเทศจะช่วยให้การท่องเที่ยว-อุตสาหกรรมการบินฟื้นตัว ช่วยรองรับตำแหน่งงานถึง 4.3 ล้านตำแหน่ง ลั่นแผนร่วมทุน MRO ระงับชั่วคราว
"บิ๊กป้อม" การันตี "บิ๊กตู่" ไม่สะดุดปมนั่งนายกฯ 8 ปี เผยยื่นบัญชีทรัพย์สิน หลัง รธน.ใหม่กำหนดแล้ว ยันไม่ได้ครอบงำ สั่ง'ธรรมนัส' ห้ามดินเนอร์ พท. "โจ้" ยันยังไม่ยกเลิก ซัด "ลุงป้อม" เกี่ยวอะไรกับพรรคเศรษฐกิจไทย ระวังเจอร้องยุบ พปชร. แต่ถ้าอยากมาร่วมโต๊ะด้วยก็ยินดี ด้าน พปชร. หวด "พิเชษฐ" ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อพรรค รวมหัวฝ่ายค้าน-ทักษิณ ซักฟอกรัฐบาล สั่งตัดสิทธินั่ง กมธ.-ดีดพ้นไลน์กลุ่ม-ห้ามใช้โลโกพรรค-ห้องประชุมพรรค 6 เดือน
*หุ้นเด่นวันนี้
KCE (เอเชียเวลท์) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 80 บาท มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/65-ไตรมาส 3/65 จากประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรดีขึ้น สงครามรัสเซีย-ยูเครนและการล็อกดาวน์ในจีนส่งผลกระทบต่อ KCE จำกัด คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 เติบโต 15%YoY กำไรสุทธิไตรมาส 1/65 เติบโต 17%YoY แต่ลดลง 16%QoQ
TOP (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 63 บาท ประกาศงบไตรมาส 1/65 In line กับที่เราคาดไว้มีกำไรสุทธิ 7.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 43%qoq และ 114%yoy ล่าสุดมีข่าวดีหลังกลุ่มผู้ขายน้ำมันในตะวันออกกลางนำโดยซาอุฯ ประกาศลดราคาขายน้ำมัน (Crude premium) เดือน มิ.ย. ลง 4.9-5.5$/bbl เป็นบวกกับกลุ่มโรงกลั่น
CPN (โกลเบล็ก)"ซื้อเมื่ออ่อนตัว" Bloomberg Consensus 66.25 บาท ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกจากการเปิด
โครงการต่อเนื่องหนุนรายได้มีศักยภาพเติบโตเนื่องปี 65 เปิดบริการสาขาจันทบุรี (26 พ.ค.) ปี 66 เปิดบริการใหม่สาขาราชพฤกษ์ คาดผลการดำเนินงานในช่วง 2H65 ฟื้นตัวดีชัดเจน Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 8,888 ล้านบาท +24%YoY ราคาปัจจุบันเหลือ upside ไม่มาก ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายที่ P/E 39 เท่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 22 เท่า
--อินโฟเควสท์
******************************************
กด Like - Share เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด