ภาวะตลาดหุ้นไทย : ปิดร่วง 17.47 จุด หวั่นสูญญากาศหลังศาลนัดวินิจฉัยสถานภาพนายกฯ พรุ่งนี้
ตลาดหลักทรัพย์ ดัชนี ปิดบ่ายนี้ที่ 1,404.01 จุด ลดลง 17.47 จุด ซื้อขาย 27,011.60 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,426.52 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,403.95 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 172 หลักทรัพย์ ลดลง 609 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 122 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลงเป็นผลจาก Surprise ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยสถานภาพนายกรัฐมนตรีกรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ช่วงเที่ยงวันพรุ่งนี้(7 พ.ค.)ซึ่งเร็วกว่าคาดประมาณ 1 สัปดาห์
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างกังวลว่าจะเกิดภาวะสูญญากาศหากศาลฯสั่งให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี(ครม.)หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากขณะนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ยังไม่ได้เสนอร่าง พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ให้ครม.พิจารณา ซึ่งหากนายกรัฐมนตรีและครม.หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็จะไม่สามารถทูลเกล้าฯร่างพ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ ดังนั้น จึงต้องจับตาว่ากกต.จะเสนอเรื่องให้ครม.อนุมัติได้ทันหรือไม่ หากกกต.เสนอได้ทันก็สามารถที่จะนัดประชุมครม.นัดพิเศษเพื่อให้ความเห็นชอบก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยได้
สำหรับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ นักลงทุนบางส่วนยังเกรงว่าผลที่ออกมาอาจไม่ถูกใจคนบางกลุ่ม และอาจก่อให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงได้ แต่ก็เชื่อว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งต่างก็รอปัจจัยภายในของแต่ละประเทศ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ยูเครนด้วย
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(7 พ.ค.)นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาล
รัฐธรรมนูญเป็นหลัก และการเลือกตั้งใหม่จะมีขึ้นตามที่กำหนดไว้ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ได้หรือไม่ พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด แนวต้าน 1,420 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,033.07 ล้านบาท ปิดที่ 8.05 บาท ลดลง 0.40 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,151.94 ล้านบาท ปิดที่ 6.70 บาท ลดลง 0.30 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,045.15 ล้านบาท ปิดที่ 239.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
BGH มูลค่าการซื้อขาย 1,035.98 ล้านบาท ปิดที่ 15.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
ICHI มูลค่าการซื้อขาย 998.14 ล้านบาท ปิดที่ 19.30 บาท ลดลง 0.10 บาท
ภาวะตลาดหุ้นไทย : ปิดเช้าลบ 0.41 จุด ตลาดแกว่งแคบ-วอลุ่มเทรดบาง รอความชัดเจนการเมือง
ตลาดหลักทรัพย์ ดัชนี ปิดเช้านี้ที่ 1,421.07 จุด ลดลง 0.41 จุด ซื้อขาย 10,959.94 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,426.52 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,419.13 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนอยู่ระหว่างรอปัจจัยการเมืองที่คาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)
"เรามองว่านักลงทุนอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของการเมือง ที่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนมากขึ้นในสัปดาห์นี้ ส่วนปัจจัยที่ช่วยให้ตลาดหุ้นไทยยังทรงตัวได้ เราก็มองว่าเป็นผลมาจากเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามา แต่ก็ไม่ได้เข้ามาแบบมั่นใจมากยังอยู่ในรูปของการซื้อสลับขายอยู่"น.ส.ธีรดา กล่าว
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ดัชนีฯคงจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ต่อเนื่องจากช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมให้แนวรับ 1,410 จุด และแนวต้าน 1,427 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 757.79 ล้านบาท ปิดที่ 8.30 บาท ลดลง 0.15 บาท
ICHI มูลค่าการซื้อขาย 589.88 ล้านบาท ปิดที่ 19.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
BGH มูลค่าการซื้อขาย 545.48 ล้านบาท ปิดที่ 15.30 บาท ลดลง 0.20 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 516.04 ล้านบาท ปิดที่ 6.95 บาท ลดลง 0.05 บาท
LHBANK มูลค่าการซื้อขาย 284.83 ล้านบาท ปิดที่ 1.69 บาท ลดลง 0.13 บาท
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบรอปัจจัยชี้นำใหม่ๆ โดยเฉพาะการเมือง
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบรอปัจจัยชี้นำใหม่ ๆ โดยเฉพาะเรื่องการเมืองในประเทศ โดยวันนี้ติดตามศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาไต่สวนพยานตามคำร้องในคดีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ยื่นขอให้ศาลวินิจฉัยสถานภาพความเป็นนายกรัฐมนตรีของ"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"จากกรณีการโยกย้าย"ถวิล เปลี่ยนศรี"ออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)หลังจากนั้นก็ต้องรอดูคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ ตลาดฯน่าจะยังได้รับแรงหนุนจาก Flow ได้กลับมาไหลเข้าอีกครั้ง แต่วันนี้ Flow อาจจะชะลอบ้าง เนื่องตลาดญี่ปุ่น, เกาหลี และฮ่องกง ได้ปิดทำการวันนี้ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบที่มาก
พร้อมให้แนวรับ 1,415 จุด แนวต้าน 1,425-1,430 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(5 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดทรงตัวที่ 16,530.55 จุด เพิ่มขึ้น 17.66 จุด (+0.11%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,884.66 จุด เพิ่มขึ้น 3.52 จุด(+0.19%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,138.06 จุด เพิ่มขึ้น 14.16 จุด (+0.34%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 3.09 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 18.02 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.19 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.87 จุด
ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันวิสาขบูชา ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุดชดเชยวันพฤกษชาติ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(2 พ.ค.) ที่ 1,421.48 จุด เพิ่มขึ้น 6.54 จุด (+0.46%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,693.74 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 พ.ค.57
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(5 พ.ค.)ที่ 99.48 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 28 เซนต์หรือ 0.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(5 พ.ค.)ที่ 5.32 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.36/37 ทรงตัว มองกรอบวันนี้ 32.35-32.45
- นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมสรรพากรเร่งขยายฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล ในปีงบประมาณ 2558 ให้เพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 3 แสนราย เพื่อให้การเก็บภาษีเพิ่มขึ้น หลังจากที่ปีงบประมาณ 2557 คาดว่าการเก็บภาษีของ 3 กรมภาษี จะต่ำกว่าเป้าถึง 1.5 แสนล้านบาท
- รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า จากการสำรวจราคาสินค้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและดัชนีเศรษฐกิจการค้า พบว่า ราคาสินค้าอาหารและสินค้าที่เป็นต้นทุนของการผลิตอาหารยังคงปรับราคาสูงขึ้น โดยราคาเฉลี่ยเดือน เม.ย. 2557 เทียบกับเดือน เม.ย. 2556 พบว่า ก๊าซหุงต้ม (15 กก.) ได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ถังละ 367.30 บาท จาก 297.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น 23.42%
- สรรพากรเผยมีแผนจะเก็บภาษีการซื้อขายสินค้ามือสอง ผ่านระบบการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยนำร่องจากสินค้ารถยนต์เป็นอันดับแรก ขณะที่ผู้ประกอบการอ้างเศรษฐกิจซบขอให้ชะลอการจัดเก็บไปก่อน
- ส.อ.ท. เผยภาคเอกชนเกาะติดปัญหาการเมืองใกล้ชิด 1-2 สัปดาห์นี้ซึ่งถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะเป็นตัวแปรสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปีนี้ หวังทุกฝ่ายถอยคนละก้าวสู่โหมดยุติปัญหาแบบสงบรับไม่แน่ใจจะยุติหรือบานปลาย "กกร."นัดถกวันนี้ ส.อ.ท.เล็งถกช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่อง SMEs เร่งด่วน
- นางรุ่ง มัลลิกะมาส โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่สูงขณะนี้ ไม่ได้มาจากความสามารถในการส่งออก แต่เป็นเพราะมีการนำเข้าลดลงมาก เพราะเศรษฐกิจขยายตัวช้า บวกกับการลงทุนที่ซบเซาทำให้การนำเข้าน้อยลง ซึ่งการเกินดุลบัญชีในลักษณะนี้สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
*หุ้นเด่นวันนี้
- TUF(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 70 บาท คาดจะเป็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานที่ชัดเจนในปี 2557 โดยที่ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 4 พันล้านดอลลาร์ และอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 14% เป็นอย่างน้อย ซึ่งเรามองว่ามีความเป็นไปได้ หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นในสินค้าปลาทูน่า และกู้งตั้งแต่ใน 2H56 ที่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 13% และ 11% จาก 12% และ 5% ตามลำดับใน 1H56 ขณะที่ US Pet Nutrition คาดว่าจะจุดคุ้มทุนในช่วงกลางปี ประเมินกำไรสุทธิไว้ในปี 2557 ที่ 5.38 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% YoY
- TRUE(เคเคเทรด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 7.20 บาท มีความเป็นไปได้ที่ผลการดำเนินงานใน 1Q57 อาจดีกว่าที่ Consensus คาดว่าจะขาดทุนราว 2.5-3.0 พันล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นยังคงมีประเด็นเก็งกำไร ทั้งในส่วนของการเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นจากการบันทึกกำไรพิเศษส่งมอบเสาโทรคมนาคม 3 พันต้น ซึ่งทยอยส่งมอบใน 2Q57 และการที่บริษัทจะบันทึกเงินปันผลจากกองทุน TRUEIF ราว 500 ล้านบาทเข้ามาใน 2Q57 นอกจากนี้มองว่าราคาหุ้นยังตอบสนองต่อการประมูลคลื่น 1800 MHz น้อยเกินไป เมื่อเทียบกับ ADVANC และ DTAC
- PTT(เคทีบี)"ซื้อลงทุน"เป้า 420 บาท ราคาหุ้นปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องนับจากต้นปี สะท้อนการฟื้นตัวของกำไรสุทธิ โดยมุมมองต่อผลการดำเนินงานในปี 2557 ยังเป็นบวก โดยมีเป้าหมายว่า PTT จะสามารถพลิกฟื้นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1 แสนล้านบาทในปี 2557 อีกครั้ง พร้อมคาดกำไรสุทธิงวด 1Q57 ฟื้นตัวขึ้นมาก q-o-q โดยคาดการณ์กำไรสุทธิงวด 1Q57 ของ PTT ไว้ที่ระดับ 2.66 หมื่นล้านบาท(เทียบกับระดับ 1.54 หมื่นล้านบาทในงวด 4Q56 และ 3.61 หมื่นล้านบาทในงวด 1Q56 หรือ +72.7% q-o-q แต่ -26.3% y-o-y)
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่บวกขึ้นเช้านี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ
ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ขานรับรายงานที่ว่าดัชนีภาคบริการของสหรัฐยังคงขยายตัวได้ดีในเดือนเม.ย. โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.ขยายตัวที่ระดับ 55.2 สูงกว่าเดือนมี.ค.ที่ระดับ 53.1 และเป็นการขยายที่สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,024.26 จุด ลดลง 3.09 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,888.45 จุด เพิ่มขึ้น 18.02 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,249.13 จุด เพิ่มขึ้น 7.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,860.35 จุด ลดลง 0.19 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,767.33 จุด เพิ่มขึ้น 0.87 จุด
ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันวิสาขบูชา ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุดชดเชยวันพฤกษชาติ
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : วิตกสถานการณ์ยูเครน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน และการชะลอตัวลงของภาคการผลิตจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิดที่ 336.89 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,529.50 จุด ลดลง 26.52 จุด หรือ -0.28% อย่างไรก็ตาม ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,462.69 จุด เพิ่มขึ้น 4.52 จุด หรือ +0.10%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา หลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนเม.ย.ขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ 48.1 จากระดับ 48.0 ในเดือนมี.ค. แต่ลดลงจากการประเมินเบื้องต้นที่ 48.3 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนปรับตัวย่ำแย่เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์รุนแรงในยูเครน โดยเมื่อวานนี้นายอาร์เซนีย์ ยัตเซนยุค นายกรัฐมนตรีของยูเครน กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัสเซียควรเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ปะทะกันอย่างรุนแรง ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 รายในเมืองโอเดสซา ทางตอนใต้ของยูเครน
ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุปะทะกันรุนแรงระหว่างกลุ่มที่สนับสนุนและกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลในเมืองโอเดสซาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 43 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 170 ราย
หุ้นเครดิต สวิส ร่วงลง 2.3% หลังจากเจพีมอร์แกน คาดการณ์ว่ารายได้จากธุรกิจเทรดดิ้งของธนาคารจะปรับตัวลดลง 20% ในไตรมาสนี้ ขณะที่หุ้นโซซิเอเต เจนเนอราล (ซอคเจน) ดิ่งลง 1.1% และหุ้นดอยช์ แบงก์ ร่วงลง 1.1%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 17.66 จุด ขานรับภาคบริการสหรัฐสดใส
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐยังคงขยายตัวได้ดีในเดือนเม.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคบริการของจีน และผลประกอบการที่อ่อนแอของไฟเซอร์ ซึ่งบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,530.55 จุด เพิ่มขึ้น 17.66 จุด หรือ +0.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,138.06 จุด เพิ่มขึ้น 14.16 จุด หรือ +0.34% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,884.66 จุด เพิ่มขึ้น 3.52 จุด หรือ +0.19%
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากไฟเซอร์ บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐรายงานว่า รายได้ในไตรมาสแรกปีนี้ลดลง 9% สู่ระดับ 1.135 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาหุ้นไฟเซอร์ร่วงลง 2.57%
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันหลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนเม.ย.ขยับขึ้นเล็กน้อยแตะ 48.1 จากระดับ 48.0 ในเดือนมี.ค. แต่ลดลงจากการประเมินเบื้องต้นที่ 48.3 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนปรับตัวย่ำแย่เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมาและปิดที่แดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่ระบุว่า ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.ขยายตัวที่ระดับ 55.2 สูงกว่าเดือนมี.ค.ที่ระดับ 53.1 และเป็นการขยายที่สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
หุ้นแอปเปิลดีดตัวขึ้น 1.4% และปิดที่เหนือระดับ 600 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2555 ขานรับยอดขายไอโฟนที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ขณะที่หุ้นไบโอเทค และหุ้นจิเลียด ไซน์ส พุ่งขึ้นอย่างน้อย 2.7%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดตัวขึ้น 0.9% ขณะที่หุ้นเชฟรอน ปรับขึ้น 0.5%
ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลง โดยหุ้นโกลด์แมน แซค ดิ่งลง 1.6% และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 2%
หุ้นทาร์เก็ต คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 3.45% หลังจากบริษัทประกาศว่า นายเกร็ก สเตนฮาเฟล ประธานและซีอีโอของทาร์เก็ตได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว ภายหลังจากเกิดความผิดพลาดด้านข้อมูลในช่วงปี 2556
อินโฟเควสท์
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติแต่งตั้งนางเกศรา มัญชุศรี เป็นผู้จัดการคนที่ 12
คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมติแต่งตั้งนางเกศรา มัญชุศรี เป็นกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 12 เริ่มดำรงตำแหน่ง 1 มิถุนายน 2557 วาระ 4 ปี
ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้ (23 เมษายน 2557) มีมติให้แต่งตั้งนางเกศรา มัญชุศรี เป็นกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 12 โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2557-31 พฤษภาคม 2561 ต่อจากนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คนปัจจุบัน ที่มีกำหนดครบวาระในวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 โดยนางเกศรา มัญชุศรี เป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในด้านตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงตลาดอนุพันธ์ มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เติบโตในตลาดโลกอย่างยั่งยืน ตามนโยบายที่คณะกรรมการได้ให้แนวทางไว้ และยังมีทักษะด้านการบริหารที่ทำให้นโยบายที่กำหนดไว้เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ การเป็นผู้ที่ร่วมงานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ มาเป็นเวลานาน ทำให้มีประสบการณ์และความเข้าใจในระบบการทำงานในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เดินหน้าต่อไปได้ด้วยดี
สำหรับกลยุทธ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะ 3 ปีข้างหน้า จะมุ่งผลักดันตลาดทุนไทยให้เติบโตในตลาดโลกอย่างยั่งยืน โดยพัฒนาคุณภาพอย่างรอบด้าน ทั้งด้านบริษัทจดทะเบียน ผู้ลงทุน สินค้าและบริการ ตลอดจนสถาบันตัวกลาง พร้อมด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ
นางเกศรา มัญชุศรี ปัจจุบันอายุ 53 ปี จบการศึกษาปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ปริญญาโททางการเงิน จาก Golden Gate University, San Francisco ประเทศสหรัฐอเมริกา นางเกศราเข้าร่วมงานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่ปี 2546 โดยได้ดูแลรับผิดชอบหลายสายงาน ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการตลาด การขยายฐานผู้ลงทุน การตลาดระบบสารสนเทศ การพัฒนาตลาดตราสารอนุพันธ์ และการพัฒนาตลาดตราสารการเงิน โดยตำแหน่งล่าสุดในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ คือรองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์ฯ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กรรมการ บริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด และกรรมการ บริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำกัด
'เกศรา' เผย'ชนิตร' ยังอยู่ในแผนร่วมพัฒนาตลาดหุ้นไทย แต่อุบใครมาเป็นหัวเรือใหญ่ TFEX แทน
นางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ eFinanceThai.com หลังจากที่ทางคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ได้ลงมติแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ คนใหม่ว่า ยังคงมีรูปแบบการทำงานเช่นเดียวกับ นายจรัมพร โชติกเสถียร ผู้จัดการตลาดฯ คนปัจจุบัน แต่อาจจะมีการเพิ่มบุคลากรเข้ามาเพื่อร่วมพัฒนาตลาดหุ้นมากขึ้น ซึ่งหลังจากที่ได้ทราบมติจากที่ประชุม ก็ได้เริ่มทาบทามบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถให้พิจรณาเข้ามาร่วมงานทันที
สำหรับ กรณีของนายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ก่อนหน้านี้มีหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจะได้เป็นผู้จัดการตลาดฯคนต่อไปนั้น นางเกศราได้กล่าวว่ายังมีความสัมพันธ์อันดีกับ นายชนิตร เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ร่วมงานกันมา ซึ่งตอนนี้ได้โทรไปทาบทามให้นายชนิตรมาร่วมงานเพื่อร่วมกันพัฒนาตลาดหุ้นไทยด้วยกัน แต่จะให้มาอยู่ในตำแหน่งใดนั้นจะต้องพูดคุยกันอีกครั้ง
ส่วนประเด็นเรื่องการหาผู้มารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) (TFEX) แทนนั้น ได้ทาบทามผู้มีความรู้ความสามารถในวงการตลาด TFEX มาแทนตำแหน่งไว้หลายคน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีใครบ้าง ซึ่งจะต้องรอการตอบรับจากบุคคลที่ทาบทามก่อนว่าจะเป็นอย่างไร
"เรามีความสัมพันธ์อันดีกับคุณชนิตร เรายังเป็นเพื่อนกัน พอรู้มติที่ประชุม ก็ติดต่อคุณชนิตรทันที เพื่อดึงให้คุณชนิตรอยู่ร่วมงานกับตลาดก่อน ส่วนเก้าอี้ในตลาด TFEX ที่ว่างลง ตอนนี้ทาบทามคนมาแทนอยู่หลายคน แต่ยังบอกไม่ได้ว่ามีใครบ้าง ต้องรอให้เค้าตกลงก่อนจึงจะเปิดเผยได้"นางเกศรากล่าว
อนึ่งในวันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) มีมติเลือกนางเกศรา มัญชุศรี รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนที่ 12 แทน นายจรัมพร โชติกเสถียร ที่จะหมดวาระในวันที่ 31 พ.ค. 2557 จากผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่ง 3 คน ประกอบด้วย นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน และนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด