'บิ๊กตู่'มีประกาศคสช.ที่ 121 ปฏิรูป ตั้งกรรมการสรรหา 11 คณะ 77 คน
แนวหน้า : ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มีประกาศฉบับที่ 121/2557 แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ตามมาตรา 30 ในรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว และมาตรา 5 ในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ประกอบด้วย
ด้านการเมือง ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา คสช. ,นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มธ. ,นายนรนิติ เศรษฐบุตร สมาชิก สนช. ,นายภุมรัตน์ ทักษาดิพงศ์ อดีต ผอ.ข่าวกรองแห่งชาติ ,นายสุจิต บุญบงการ อดีตประธานสภาพัฒนาการเมือง ,นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิก สนช.และนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดี มธ.
ด้านการบริหาร นายวิษณุ เครืองาม อดีตประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ,นายติน ปัชญพฤทธิ์ ศาสตราจารย์สาขารัฐประศาสนศาสตร์ ,นายทศพร สิริสัมพันธ์ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ,นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ .นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภา ,นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ นายสีมา สีมานันท์ สมาชิก สนช.
ด้านกฎหมายและกระบวนยุติธรรม นายพรเพชร วิชิตชลชัย สมาชิก สนช. และอดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน ,นายประสพสุข บุญเดช อดีตประธานวุฒิสภา และอดีตประธานศาลอุทธรณ์ ,นายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกสภาทนายความ ,พล.ต.วีระ โรจนวาศ ผอ.สนง.พระธรรมนูญทหารบก ,นายสมชัย วัฒนการุณ อดีตอัยการ ,นางสุวณา สุวรรณจูฑะ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล รอง ผบ.ตร.
ด้านการปกครองท้องถิ่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผ.ทบ. ,นายจาตุร อภิชาตบุตร อดีตรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ,นายธวัชชัย ฟักอังกูร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด ,นายมนุญช์ วัฒนโกเมร อดีตรองอธิบดรกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ,นายสมพร ใช้บางยาง อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายศิวะ แสงมณี อดีตอธิบดีกรมการปกครอง
ด้านการศึกษา นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีต รมว.วิทยาศาสตรฯ ,นายกฤษณพงศ์ กีรติกร อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ,คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา อดีตปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ,นายพรชัย มาตังคสมบัติ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ,นายวรากรณ์ สามโกเศศ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ,นายสมชอบ ไชยเวช อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และ คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ สมาชิก สนช.
ด้านเศรษฐกิจ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี สมาชิก สนช. ,นายจีรเดช อู่สวัสดิ์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ,นายโชคชัย อักษรนันท์ อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทสไทย ,นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทสไทย ,นายปราโมทย์ วิทยาสุข อดีตรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ,นายวิศาล บุปผเวส อดีตคณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ นิด้า และ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อดีตเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรประจำองค์การการค้าโลก
ด้านพลังงาน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีต ผู้ว่า ธปท. ,นายการุณ กิตติสถาพร อดีตปลัดกะรทรวงพาณิชย์ ,นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ,นายบรรพต หงส์ทอง อดีตปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ,นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ สมาชิก สนช. ,นายพละ สุขเวช อดีต ผู้ว่า ปตท. และ นายวิเศษ จูภิบาล อดีต รมว.พลังงาน
ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ สมาชิก สนช. ,นางกอบกุล รานะนาคร อนุกรรมการปฏิรูปกฎหมายด้านทรัพยากรน้ำ คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ,นายเจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช. ,นางนิศากร โฆษิตรัตน์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ,นางเรณู เวชรัชต์พิมล รองศาสตราจารย์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ,นายวิจารย์ สิมาฉายา อดีตอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และนายสมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ เลขาธิการมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุ
ด้านสื่อสารมวลชน พล.อ.นพดล อินทปัญญา สมาชิก สนช. ,นางจำนรรจ์ ศิริตัน นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ,นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ,นางพิรงรอง รามสูต อาจารย์คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ,นางวรรณี รัตนพล นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) ,นายสำเริง คำพะอุ นักหนังสือพิมพ์อาวุโส และ นายอรุณ งามดี อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์
ด้านสังคม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีต รมว.คลัง ,คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม อดีต กก.ผจญ. ธนาคารไทยพาณิชย์ ,นายพงษ์ศักดิ์ พยัฆวิเชียร อดีตบรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์มติชน,นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ รองอธิการบดี มธ.,นายมงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุข ,นายสมพล เกียรติไพบูลย์ สมาชิก สนช. และคุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ด้านอื่นๆ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีตรอง ผบ.ทบ. ,นางกอบกาญจน์ สุริยสัตย์ วัฒนวรางกูร สมาชิก สนช. ,นายบรรยงค์ สุวรรณผ่อง กรรมการจริยธรรม สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย , กรรมการจริยธรรม สมาคมนักข่าวนักหนังสื่อพิมพ์แห่งประเทศไทย ,ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รักษาราชการแทนปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี, ประธานมูลนิธิกรมสมเด็จฯ พระยาดำรงราชนุภาพ ,นายวารินทร์ ตัณฑศุภศิริ กรรมการและรองเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระราชินูปถัมภ์ ,นายเศรษฐา ศิระฉายา ประธานมูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส คณะกรรมการลิขสิทธิ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา และ นายอณัส อมาตยกุล กรรมการมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย
ประธานสนช.ยันจะเดินหน้าเร่งพิจารณา กม.สำคัญ ชี้เลือกนายกฯ อาจจะไม่ใช่ภารกิจแรก
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ว่าที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยภายหลังได้รับเลือกให้เป็นประธาน สนช.อย่างเป็นเอกฉันท์ ว่า ผลการเลือกในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความเป็นเอกภาพในการทำงาน ซึ่งจะมีประโยชน์ในการทำงานด้านกฎหมายที่มีเวลาจำกัด ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจที่ตรงกัน ส่วนจะกำหนดข้อบังคับการประชุมก่อนเลือกนายกรัฐมนตรีหรือไม่ มองว่าข้อบังคับเป็นเพียงการกำหนดวิธีให้ปฎิบัติเท่านั้น แต่กฎหมายรัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายที่เหนือกว่าข้อบังคับ
ทั้งนี้ หลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง ประธาน สนช.แล้ว การเลือกนายกรัฐมนตรีคงจะมีขึ้นในไม่ช้า โดยจะอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม และขึ้นอยู่กับความพร้อมของสมาชิก สนช. ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน แต่ก็ไม่รับปากว่าจะเป็นงานแรกของ สนช. เลยหรือไม่ เพราะอาจมีเรื่องที่เร่งด่วนที่ สนช.จำเป็นต้องพิจารณาก่อนได้ ซึ่งส่วนตัวก็มีชื่อนายกรัฐมนตรีในใจเหมือนประชาชนทั่วไป
สำหรับงานที่สำคัญ คือ การพิจารณาร่างกฎหมายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เร่งด่วนและสำคัญ รวมถึงร่างกฎหมายที่ ครม.จะเสนอเข้ามาอีกด้วย ซึ่งจะมีกรรมการกิจการสภาเป็นผู้พิจารณาลำดับความสำคัญ
ส่วนกรณีถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยเฉพาะกรณีรับจำนำข้าวที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ชี้มูลความผิดไปแล้วนั้น นายพรเพชร กล่าวว่า ยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดในเรื่องนี้ แต่ตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดให้ สนช. สามารถทำหน้าในบางเรื่องได้ เช่น การแต่งตั้งคณะกรรมการตุลาการ เป็นต้น
นอกจากนี้ นายพรเพชร ยังกล่าวถึงการดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน และสมาชิก สนช.ควบคู่กันว่า มีความเป็นไปได้ที่จำเป็นต้องเลือกการทำหน้าที่ในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง แต่ทั้งนี้ การทำหน้าที่ในปัจจุบันก็ไม่ได้ทับซ้อนกันและไม่ขัดต่อกฎหมาย แต่ะก็จะไม่ฝืนทำในสิ่งที่เป็นภาระหนัก และที่ผ่านมาตนเองได้ทำหลายหน้าที่มาโดยตลอด ส่วนตำแหน่งที่ปรึกษาส่วนตัวหัวหน้า คสช.ก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่เป็นทางการ เป็นเพียงการให้คำปรึกษาส่วนตัวเท่านั้น
อนึ่ง ประวัติของนายพรเพชร วิชิตชลชัย ปัจจุบันอายุ 65 ปี เคยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 4 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และเป็นอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นอกจากนี้ ยังเคยเป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมายในคณะนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยหลายแห่ง และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เป็นศาสตราจารย์พิเศษ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ต่อมาได้รับการสรรหาให้มาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินแทนนายประวิช รัตนเพียร ที่ลาออกไปดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้งยังเป็นนักกฎหมายคนแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้เชิญเข้าไปช่วยงานด้านกฎหมายให้แก่ คสช.
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
สนช.รายงานตัวแล้ว 197 ราย เหลือสม จาตุศรีพิทักษ์/เลือกนายกฯสัปดาห์หน้าไม่ทัน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันสุดท้ายในการรายงานตัวสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ว่า ตั้งแต่เวลา 08.30 น.ในวันนี้ เริ่มมีสมาชิกทยอยเดินทางเข้ารายงานที่อาคารรัฐสภา 2 แล้ว จำนวน 6 คน ได้แก่ พล.อ.สุรวัช บุตรวงษ์ หัวหน้าศูนย์ประสานงานประเทศเพื่อนบ้าน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก, นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา, นายณรงค์ชัย อัครเศรณี นักเศรษฐศาสตร์ อดีตรมว.พาณิชย์ ในสมัยรัฐบาลของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ปี 2539 อดีตสมาชิกวุฒิสภา ปี 2539 และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2549 และพล.อ. ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ, คุณพรทิพย์ จาละ อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และนายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เดินทางมารายงานตัวเป็นคนสุดท้าย ขณะที่นายสม จาตุศรีพิทักษ์ อดีต รมว.พาณิชย์ ได้แจ้งว่าจะมารายงานตัวในวันที่ 7 ส.ค.57
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี อดีตรมว.พาณิชย์ ในฐานะที่ปรึกษา คสช. กล่าวภายหลังรายงานตัว โดยยืนยันว่า จะไม่ลาออกจากที่ปรึกษา คสช.ด้านเศรษฐกิจ แต่จะทำงานควบคู่กันไป ทั้งนี้ไม่สามารถระบุได้ว่าบรรยากาศของ สนช.ปีนี้แตกต่างจากสนช.ที่ตนเคยเป็นสมาชิกปี 2549 หรือไม่ ขณะเดียวกันมองว่าปัญหาเศรษฐกิจที่อยู่ภายใต้การดูแลของคสช.ไม่น่าเป็นห่วง เพราะเรื่องที่เป็นปัญหาก็ได้รับการแก้ไขแล้ว
อย่างไรก็ดี นายณรงค์ชัย ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธที่จะนั่งในตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ตามกระแสข่าวโผคณะรัฐมนตรี และไม่ขอแสดงความเห็นว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เป็นนายกรัฐมนตรีจะเหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากทุกอย่างยังไม่มีความชัดเจน ควรรอให้มีการโปรดเกล้าฯ จึงจะวิพากษ์พิจารณ์ได้ ส่วนตำแหน่งประธานสนช. ก็ขอให้รอดูผลโหวตในวันศุกร์นี้
ด้านนางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สนช. สรุปภาพรวมการรายงานตัววันสุดท้ายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนนายสม จาตุศรีพิทักษ์ สมาชิกสนช.แจ้งมาว่าจะรายงานตัววันที่ 7 ส.ค. ขณะเดียวกันสำนักงานเลขาวุฒิสภาได้แจ้งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กรณีพล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ยื่นหนังสือลาออกจาก สนช. และนายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ได้ยื่นหนังสือไม่ขอรับตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะทำหนังสือแจ้งไปยังสมาชิกประชุมร่วมกัน เพื่อเลือกประธานและรองประธานสนช.ในวันที่ 8 ส.ค.นี้
สำหรับสมาชิก สนช.ที่ลาออก 2 คน ได้แจ้งไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) แล้ววันนี้ ซึ่งจะมีการมีเสนอรายชื่อเพิ่มเติมหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหัวหน้าคสช. ส่วนการเลือกนายกรัฐมนตรี ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นวันใด เพราะต้องรอให้มีการเลือกประธานสนช.ก่อน และจากนั้นประธานสนช.จะเป็นผู้พิจารณากำหนดวันเลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป อย่างไรก็ดี คิดว่าการประชุมสนช.เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรียังไม่สามารถกระทำได้ในสัปดาห์หน้า เนื่องจากต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งประธาน และรองประธาน สนช. ก่อน
นอกจากนี้ จะมีการเสนอข้อบังคับการประชุมฉบับใหม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์ จึงจะสามารถบังคับใช้ได้ แต่ในระหว่างนี้ให้ใช้ข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2549 ไปก่อน
นางนรรัตน์ กล่าวต่อว่า การยกร่างข้อบังคับการประชุมสนช. เบื้องต้นจะใช้ข้อบังคับการประชุม สนช.ปี 2549 โดยเมื่อเลือกประธานและรองประธาน สนช.แล้ว สนช.ก็จะตั้งคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับการประชุมใหม่ โดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ยกร่างไว้ให้แล้ว หากสมาชิกสนช.เห็นชอบก็นำไปใช้ได้ทันที คาดว่าน่าจะใช้ประชุมประมาณ 3 ครั้งก็แล้วเสร็จ
อินโฟเควสท์
'บิ๊กตู่'ทูลเกล้าฯ 200 รายชื่อ'สนช.' 'มีชัย'ตกสำรวจ-หึ่งท็อปบูทพรึ่บ!!
แนวหน้า : รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้นำรายชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งสมาชิกสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจำนวน 200 คน ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น สนช.เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง สนช. และรอโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฏีกาเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาตินัดแรกเพื่อเลือกประธานสนช.ต่อไป
รายงานระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นนายทหารระดับสูงในเหล่าทัพ ทั้งทบ. ,ทร. ,ทอ. ,บก.สส. ,กระทรวงกลาโหม ตั้งแต่ระดับคุมกำลังหลักเช่น แม่ทัพภาค จนถึงระดับฝ่ายเสนาธิการ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ และอดีตนายทหารระดับสูงที่เกษียณอายุราชการไปแล้วแต่มีความสัมพันธ์อันดีกับสาย คสช.รวมกันร่วมเฉียด 100 คน แต่ไม่มีบรรดานายทหารระดับสูงใน คสช. เข้ามานั่งในตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากต้องไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลในเดือนก.ย.
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ จะมีการตั้งข้าราชการระดับ 11 ไปเป็น สนช. แต่พบว่า โผรายชื่อสนช.ส่วนใหญ่ แทบไม่มีปลัดกระทรวงมากนัก แต่พบว่าจะมีสายนักวิชาการ อาทิ อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐ ที่พบว่า มีหลายแห่งมีชื่อเข้ามาเป็นสมาชิก สนช.ด้วย
ขณะเดียวกัน ปรากฏว่า ไม่มีชื่อของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานสนช. ปี 2549 และนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งในรายของนายบวรศักดิ์นั้น คาดว่าจะเป็นประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ส่วนกลุ่มอดีต ส.ว.ที่มีบทบาทช่วงหาทางออกให้ประเทศ อาทิ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย น่าจะได้การเสนอชื่อด้วย
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 บริษัท เพาเวอร์ ไทม์ มีเดีย จำกัด