อาทิตย์เอกเขนก: ประสิทธิ์ สืบชนะ..กับความมุ่งมั่นตั้งใจทำวันนี้ให้ดีที่สุด ประธาน(ธอส.)

            ไทยโพสต์ : อาทิตย์เอกเขนกสัปดาห์นี้มีโอกาสดีๆ ที่ได้พูดคุยกับ’ประสิทธิ์ สืบชนะ’ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

    'ประสิทธิ์'เล่าประวัติตัวเองอย่างย่อๆ เพื่อเป็นการทำความ รู้จักกันว่า "ผมเป็นคนจังหวัดสงขลา เป็นเด็กบ้านนอก ก็ใช้ชีวิตตามประสาคนต่างจังหวัด สมัยเด็กๆ ก็เดินเท้าเปล่าเลาะคันนาไปเรียนพร้อมเพื่อนๆ จนกระทั่งมีโอกาสได้เข้ามาเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่รามคำแหง คณะนิติศาสตร์ ด้วยความคิดที่ว่าสามารถต่อยอดเป็นทนายความหรือนักการเมืองต่อไปได้"

    พอเรียนจบก็ได้สอบบรรจุเพื่อเข้ารับราชการ ตอนนั้นยอมรับว่าเลือกสอบไปหลายแห่งมาก ทั้งกรมธนารักษ์, กระทรวงมหาดไทย และอื่นๆ ซึ่งสุดท้ายก็สอบติดหมด แต่ก็เลือกตัดสินใจที่จะบรรจุเป็นข้าราชการสังกัดกรมธนารักษ์ ประจำอยู่พื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยเริ่มทำงานครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2524 ด้วยเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ'2,385 บาท' ซึ่งเป็นสิ่งที่ภูมิใจมาก

    เล่าข้ามมาเมื่อครั้งได้รับทราบว่า หน่วยงานให้เข้ามารับตำแหน่ง'ประธาน ธอส.'ว่า เข้ามารับตำแหน่งนี้แทนนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม เลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ที่ได้ลาออกไป ก็มีวาระที่ต้องอยู่รับผิดชอบในตำแหน่งนี้ถึงปลายปี 2557

    "ซึ่งไม่ได้คิดอะไรมากกับการเข้ามาแทนคนเก่าด้วยระยะเวลาอันนั้น โดยคิดแค่ว่าเมื่อเข้ามาแล้วก็อยากจะทำวันนี้ให้ดีที่สุดเป็นพอ ส่วนเรื่องของวันพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที สิ่งไหนที่เรากำหนดไม่ได้ เราอย่าไปยุ่งกับมัน เราทำให้ดีตามสิ่งที่เรามีหน้าที่รับผิดชอบอยู่ก็พอ"

     'ประสิทธิ์'เล่าอีกว่า ช่วงที่เข้ามารับตำแหน่งนี้มีคนถามเยอะว่าหนักใจมั้ย ด้วยภาวะเศรษฐกิจและการเมืองในขณะนั้นค่อนข้างไม่เป็นใจเอาซะเลย ก็ตอบเค้าไปตรงๆ ว่า 'หนักใจ ในแง่ภาวะที่ไม่ปลอดโปร่งเหมือนปกติ'ดังนั้น เวลาเราทำอะไรก็ต้องระมัดระวังมากขึ้นเป็นพิเศษ

     "ตอนผมเข้ามารับตำแหน่ง สิ่งแรกที่ทำคือ ชวนพนักงานให้มาร่วมมือร่วมใจกันทำงานแบบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากสังเกตการทำงานขององค์กรที่มีความแตกแยก ไม่มีคำว่าทีมเดียวกัน องค์กรนั้นก็จะลำบาก ฉะนั้น ธอส.จะต้องไม่เป็นแบบนั้น แม้ว่าจริงๆ แล้วเราจะมีปัญหาขัดแย้งกันบ้าง ก็เป็นเรื่องของการทำงาน และเป็นปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งผมก็ไม่ละเลย และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ทุกอย่างใน ธอส.ยังลงตัว โดยเฉพาะโครงสร้างผู้บริหาร ที่ไม่จำเป็นต้องปรับแล้ว ส่วนตรงไหนที่มีปัญหาติดขัดหรือไม่ดี เราก็จะแก้ไขปรับปรุงกันไป"

     การทำงานของ'ประสิทธิ์'ส่วนใหญ่จะเป็นเชิงรุกมากกว่า โดยการเข้าไปพูดคุยกับฝ่ายบริหารและพนักงาน ชี้ชวนให้ร่วมใจกันทำงานอย่างจริงจัง เพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุด

     "ผมบอกพนักงานให้ทำงานหนัก เพราะปีนี้เราได้โบนัสมากกว่าคนอื่น คือ 7 เดือน แม้ว่าเราจะคนน้อย มีพนักงานรวมทั้งสิ้น 3 พันกว่าคน แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราท้อถอย เป้าหมายหรือนโยบายการทำงานที่ผมวางไว้ ไม่รู้ว่าดีที่สุดในกลุ่มธนาคารรัฐหรือเปล่า แต่ว่าเราก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะหน้าที่ของแต่ละธนาคารไม่เหมือนกัน อย่างของเรามุ่งเน้นไปที่เรื่องที่อยู่อาศัยสำหรับคนที่มีรายได้ปานกลางถึงรายได้น้อย เราก็ต้องทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เพราะเรามีงานหลักแค่งานเดียว เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดและเร็วที่สุด ตอบสนองลูกค้าให้ได้มากที่สุด" ประสิทธิ์กล่าว

      แนวทางหลักในการทำงานสำหรับบทบาทของประธาน ธอส. นั่นคือ การชักชวนพนักงานให้มาร่วมปรับปรุงกระบวนการบริหารให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ได้มอบหมายให้แต่ละฝ่ายไปคิดค้นมาว่าด้านไหนมีปัญหา ใช้ระยะเวลามาก ขั้นตอนเยอะ ต้นทุนสูง เราควรจะแก้ปัญหาเหล่านี้ต่อไปอย่างไรดี ให้เกิดความรวดเร็ว ประหยัด ใช้เวลาสั้นที่สุด เช่น เดิมเราใช้ระยะเวลาในการพิจารณาปล่อยกู้ กรณีเอกสารครบ ประมาณ 5 วัน ส่วนตัวมองว่ายังนานเกินไป ก็ให้การบ้านไปคิดมาว่าอยากได้เร็วกว่านี้ เป็นไปได้ในอนาคตควรจะเหลือแค่ 1 วัน แต่ระยะทางที่จะไปถึงปลายทางนั้น เราต้องตระเตรียมคลังข้อมูล ราคาประเมิน และฐานข้อมูลที่ใช้ประกอบทุกอย่าง ส่วนนี้ที่อาจต้องใช้ระยะเวลาในการสร้างนานกว่า

    "ผมมองว่า ธอส.มีงานแค่เรื่องการสนับสนุนให้ประชาชนผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อยเพียงงานเดียว เราจึงมีโอกาสมากที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ได้ และต้องดีที่สุด แม้ว่าปี 2557 จะเป็นปีที่ ธอส.รวมถึงทุกๆ ธนาคารจะต้องเหนื่อยกันมากเป็นพิเศษ แต่เราก็ต้องปรับตัวเพื่อให้ยังเดินหน้าต่อไปได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้"

     'ประสิทธิ์'ยังแอบบอกถึงแผนการใช้ชีวิตในอนาคตหลังเกษียณอีกว่า อยากจะไปเป็นชาวสวน ด้วยความที่เป็นคนชอบปลูกต้นไม้ และเคยทำสวนปาล์มและสวนยางตั้งแต่ยังหนุ่มๆ ก็เลยชอบด้านนี้เป็นพิเศษ ทำด้วยความชื่นชอบก็จะเกิดความสนุกในงานที่ทำด้วย

    "ปี 2560 ก็จะเกษียณแล้ว เวลาว่างที่มีก็คงเที่ยวเล่นบ้าง แต่อาจไม่มากมายนัก หลักๆ คงจะไปเป็นชาวสวนมากกว่า ผมชอบด้านนี้ ชอบปลูกต้นไม้ ในช่วงที่ผมได้บรรจุและรับราชการที่ภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, สตูล, พังงา, สงขลานั้น ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างมาเยอะเกี่ยวกับการทำงานในแวดวงราชการ มาถึงตรงนี้ก็อยากสนุกกับงานที่ชอบอีกเหมือนกัน" ประสิทธิ์ระบุ

    ที่ผ่านมาเคยลองทำมาหมดแล้ว ทั้งการติดตาต้นยาง ทาบกิ่ง เสียบยอด ปลูกต้นไม้ ทำเป็นหมดแล้ว ยืนยันว่าเป็นเรื่องที่สนุกจริงๆ

    'ประสิทธิ์' เล่าติดตลกว่า "ตอนอยู่บ้านว่างๆ มีต้นมะม่วงอยู่ก็ลองเอายอดมะม่วงต้นโน้น มะม่วงพันธุ์นี้มาเสียบยอด ต้นละ 4-5 ชนิด มะนาวและอื่นๆ ก็สามารถทำได้หมด บางทีปลูกกระท้อน ผมก็ใส่รากเติมเข้าไป เพื่อให้มันโตเร็ว ไม่ล้ม เป็นกิจกรรมที่สนุกและมีความสุข ทำให้สบายใจดี"